MSN on August 19, 2016, 10:05:32 AM
รัฐมนตรีกระทรวงวิทย์ฯ  เปิดตัว 2 พรีเซ็นเตอร์ งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2559 “อาเล็ก ธีรเดช” และ “พรีม รณิดา” มั่นใจ คาดมีผู้เข้าชมงานมากกว่า 1.2 ล้านคน
 








18 สิงหาคม – นนทบุรี /  รัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ  เปิดตัว 2 พรีเซ็นเตอร์คู่ขวัญของงาน “อาเล็ก” ธีรเดช เมธาวรายุทธ และ “พรีม” รณิดา เตชสิทธิ์  พร้อมตรวจเยี่ยมชมการจัดงานมหก รรมวิทยาศาสตร์ฯ  ก่อนเริ่มงานจริงอย่างเป็นทางกา ร 19 สิงหาคม นี้ ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี  โดยรัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์ ฯ จะให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิ ดต่อไป พร้อมนำคณะผู้บริหาร คณะผู้จัดงาน และ 2 พรีเซ็นเตอร์ชื่อดังร่วมพิธีวาง พานพุ่มเทิดพระเกียรติพระบิดาแห่ งวิทยาศาสตร์ไทย เนื่องในวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ   พร้อมชมนิทรรศการ Highlight ภายในงาน รอบพิเศษ เฉพาะสื่อมวลชนอีกด้วย

ด้าน 2 พรีเซ็นเตอร์ของงาน “อาเล็ก” ธีรเดช และ “พรีม” รณิดา กล่าวว่า “ครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งแรกของ พวกตนที่ได้รับเกียรติให้มาเป็น พรีเซ็นเตอร์ในการจั ดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ ซึ่งมีความตื่นเต้นยินดีอย่างมา ก และยอมรับว่าไม่เคยชมงานวิทยาศา สตร์ที่มีหน่วยงานทั้งในและต่าง ประเทศพร้อมใจกันจัดงานวิทยาศาส ตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดระดับประเท ศและระดับทวีปเอเชียเช่นนี้มาก่ อน ทำให้รู้สึกภาคภูมิใจและอยากขอบ คุณแทนเยาวชนและประชาชนคนไทยทั้ งประเทศที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ พร้อมหน่วยงานร่วมจัด 9 กระทรวง รวมทั้ง หน่วยงานองค์กรภาครัฐและเอกชนทั้งในและต่างประเทศมากกว่า 100 องค์กร ช่วยกันจัดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ ฯ นี้ขึ้นมา เพื่อเยาวชนและคนไทยทุกคนได้เปิ ดโลกทัศน์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ได้อย่างเพลิดเพลินสนุกสนาน และช่วยให้การเรียนรู้วิทยาศาสต ร์เป็นเรื่องไม่น่าเบื่อ อีกทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจในการ เรียนรู้อย่างไม่สิ้นสุดต่อไป”

ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสต ร์และเทคโนโลยี กล่าวถึง การจัดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ ในครั้งนี้ว่า งาน “มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แห่งชาติ ประจำปี 2559” เป็นกิจกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่ งปี  ของประเทศและภูมิภาคเอเชีย  จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-28 สิงหาคม 2559 นี้ ณ อาคารเอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 2-8 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายใต้แนวคิด “จุดประกายความคิด พัฒนาชีวิตด้วยวิทยาศาสตร์ เสริมสร้างชาติด้วยเทคโนโลยี สู่วิถีแห่งนวัตกรรม” เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติพระบ าทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย” และ ”พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย” อีกทั้ง เพื่อร่วมฉลองวาระสำคัญทางวิทยา ศาสตร์ในโอกาสที่องค์การอาหารแล ะการเกษตรแห่งสหประชาชาติ หรือ FAO ได้ตั้งให้ปี 2559 เป็น “ปีสากลแห่งถั่วพัลส์” หรือ “2016 International year of PULSES”  โดยในปีนี้เน้นการจัดแสดงผลงาน ความก้าวหน้าและศักยภาพทางวิทยา ศาสตร์เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำนำสมั ย พร้อมด้วยศักยภาพของนักวิจัยและ นักวิทยาศาสตร์ของไทยและต่างประ เทศ ทั้งนี้ รูปแบบของการจัดกิจกรรมในงานคล้ ายกับเทศกาลวิทยาศาสตร์ (Science Festival) ในหลายประเทศ คือ ประกอบด้วยการจัดนิทรรศการด้านวิ ทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในรูปแบบนำ สมัยที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมมี ส่วนร่วม (Interactive Exhibition) โดยเน้นหัวข้อที่มีความสำคัญต่อ การพัฒนาขับเคลื่อนเศรษฐกิจของป ระเทศด้วย New S-curve มุ่งสู่ Thailand 4.0 รวมทั้งได้มีการนำแนวคิดเกี่ยวกั บเรื่องสะเต็มศึกษา (STEM Education) มาใช้ในการจัดกิจกรรมในรูปแบบ เล่น-เรียน-รู้ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ภายใต้กรอบแนวคิด “จุดประกายความคิด พัฒนาชีวิตด้วยวิทยาศาสตร์ เสริมสร้างชาติด้วยเทคโนโลยี สู่วิถีแห่งนวัตกรรม”

ที่สำคัญในปีนี้ได้มีการผนึกกำลั งร่วมกันกับ 9 กระทรวง 18 สถาบันการศึกษา รวมมากกว่า 100 หน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน และยังได้รับความร่วมมือจากหน่ว ยงานต่างประเทศเข้าร่วมงานอีก 8 ประเทศ มากกว่า 10 หน่วยงานเข้าร่วมจัดกิจกรรมแสดง ความก้าวหน้าและเทคโนโลยี อาทิ ประเทศญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา เยอรมัน เกาหลีใต้ แคนาดา ออสเตรเลีย และจีน เพื่อกระตุ้นความสนใจแก่นักวิจั ย นักวิทยาศาสตร์ และประชาชนทั่วไป

ดร.พิเชฐ ยังกล่าวอีกว่า “ส่วนของการจัดนิทรรศการหลักในง านได้มีการนำเสนอเนื้อหาที่สอดค ล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการขับ เคลื่อนเศรษฐกิจ (New Growth Engine) ของประเทศให้มีการเจริญเติบโตก้ าวไกลด้วยการลงทุนในกลุ่มอุตสาห กรรมใหม่ หรือ New S-curve อาทิ นิทรรศการยานยนต์แห่งอนาคตและกา รขนส่ง นิทรรศการนวัตกรรมหุ่นยนต์และระ บบอัตโนมัติ  นิทรรศการเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อ การแพทย์และสุขภาพ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการที่ให้ค วามรู้ความเข้าใจและสร้างความตร ะหนักให้เกิดขึ้นในสังคม และเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันทั้ งในปัจจุบันและอนาคต อาทิ นิทรรศการวิกฤติภูมิอากาศวิกฤติ ชีวิต นิทรรศการอนาคตเทคโนโลยีชีวภาพโ ลก นิทรรศการ Miracle of Science : มหัศจรรย์แห่งไข่จุดกำเนิดชีวิต ...จุดกำเนิดเรา นิทรรศการอยู่กับยุง รวมทั้ง กิจกรรมสำหรับเยาวชนและอื่นๆ อีกมากมาย

ด้าน รศ.ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโน โลยี กล่าวเสริมถึงความยิ่งใหญ่ของงา นว่าในปีนี้มีหลากหลายโซน มากมายกิจกรรมและองค์ความรู้ให้ ทุกคนได้เข้าไปมีส่วนร่วม ตั้งแต่นิทรรศการเทิดพระเกียรติ นิทรรศการและกิจกรรมทางวิทยาศาส ตร์และเทคโนโลยี นิทรรศการเมืองแห่งถั่ว เพื่อฉลองปีสากลแห่งถั่วพัลส์ (UNESCO International Year of Pulses) แนวคิดตามนโยบาย Food Innopolis การประกวดและแข่งขันทางวิทยาศาส ตร์ การประชุมสัมมนา และการแสดงสินค้าทางด้านวิทยาศา สตร์และเทคโนโลยี พร้อมการนำเอาเทคโนโลยีและมัลติ มีเดียใหม่ๆ มาใช้ในการจัดแสดง เพื่อสร้างประสบการณ์ เปิดมุมมองการเรียนรู้ผ่านสื่อ Interactive กับ นิทรรศการรูปแบบ 4D Simulator ช่วยสร้างความสุข สนุกสนาน และเกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิ ทธิภาพ

ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีการผนวกรวมงานเทคโนโลยีและ นวัตกรรมของไทยประจำปี 2559 หรือ Techno Mart 2016 เข้าไว้ด้วยกันอีกด้วย เน้นการนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตก รรมเพื่อประชารัฐ ภายใต้โครงการยกระดับโอทอปด้วยวิ ทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (STI For OTOP Upgrade) เพื่อจัดแสดงเทคโนโลยีสิ่งประดิ ษฐ์และนวัตกรรมที่ผลิตโดยคนไทย รวมทั้ง นำผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมของหน่วยงา นในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ที่จะช่วยสร้างความตระหนักทางวิ ทยาศาสตร์ให้แก่เยาวชน รวมทั้งภาคเอกชนและประชาชนมาจัด แสดงในครั้งนี้อีกด้วย ซึ่งเป็นผลงานที่สามารถนำไปใช้ป ระโยชน์ได้ในเชิงพาณิชย์ ช่วยเพิ่มผลผลิตในภาคเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และเกษตรกรรมทั้งในระดับครัวเรื อน ระดับชุมชน และระดับประเทศ 

สำหรับงานในวันที่ 18 สิงหาคม 2559 ได้มีการเดินชมไฮไลท์ของงานรอบสื่ อมวลชน  ได้พบกับนิทรรศการนวัตกรรมเปลี่ ยนโลกอย่าง 3D Printer หรือ เทคโนโลยีการพิมพ์แบบสามมิติ ที่เปลี่ยนโลกของเราไปโดยสิ้นเชิ ง แถมยังประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย ไปได้อีกมาก เพียงแค่สั่งงานผ่าน Computer เราก็จะได้สิ่งของที่ต้องการด้ว ยเวลาอันสั้นและยังสามารถนำไปต่ อยอดเพื่อการค้าและธุรกิจได้อีก ด้วย ซึ่งมันน่าตื่นเต้นมากเพราะเมื่ อก่อนของสิ่งนี้เป็นเพียงจินตนา การที่อยู่ในหนัง Sci–Fi และการ์ตูนโดราเอมอนเท่านั้น จนมีกลุ่มนักประดิษฐ์นำมาต่อยอด แล้วเป็นเครื่องพิมพ์สามมิติที่ ใช้ได้จริง และยังถือว่าเป็นเทคโนโลยีการผลิ ตสื่อดิจิตอลรูปแบบใหม่อีกด้วย และกำลังแพร่หลายไปยังวงการอุตส าหกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมการผลิต อุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมอวกาศและการบิน เป็นต้น หรือแม้แต่ Stereoscopic 3D ที่วงการภาพยนตร์นำมาใช้เรียกกั นทั่วไปว่า หนัง 3 มิติ ที่ทำให้เรารู้สึกเสมือนวัตถุใน ฉากกำลังลอยออกมาใส่เราได้ ซึ่งสามารถชมได้ในนิทรรศการจากนักประดิษฐ์สู่นวัตกรรม หรือ Enjoy Makerspace Pavilion  นอกจากนี้ ภายในงานผมยังตื่นเต้นสนุกสนานไ ปกับประสบการณ์ 4D Simulator ในโรงภาพยนตร์ 4D “The Last Day” ที่อยู่ในโซนนิทรรศการวิกฤตภูมิ อากาศวิกฤตชีวิต (Climate Change & Biodiversity Pavilion) ที่ทุกคน   พลาดชมกันไม่ได้เลย ซึ่งมีการจัดแสดงในรูปแบบ 4D Effect สมจริง ที่ทุกคนรอคอย ตื่นเต้นไปกับเทคนิคต่างๆ กับจำลองสถานการณ์เสมือนจริง ท่ามกลางอุบัติภัยทางธรรมชาติ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่จะพาพวกเราทุกคนย้อนเวลากลับ ไปตั้งแต่จุดกำเนิดโลก และเรียนรู้เรื่องราวช่วงเวลาสำ คัญที่ผ่านมาของโลกจนถึงยุคปั จจุบันที่มนุษย์อาจต้องสูญสิ้ นทุกอย่าง

ถือเป็นศูนย์รวมแห่งองค์ความรู้ ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่ ที่สุดแห่งปีเช่นนี้ ทำให้เราได้เปิดโลกทัศน์มุมมองใ หม่ในโลกของวิทยาศาสตร์ ได้ทราบถึงผลงานวิจัย สิ่งประดิษฐ์ ความก้าวหน้าทันสมัยด้านวิทยาศา สตร์โดยคนไทยเอง ทำให้ยิ่งตอกย้ำว่าคนไทยไม่แพ้ช าติใดในโลก และที่ประทับใจอย่างยิ่งคือ ภายในงานมีนวัตกรรมลดโลกร้อน ที่เราอาจไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อ น อย่างเช่น Inno-Gen KMITL V1 และ V2 รถไฟฟ้าพลังงานไฮโดรเจน รถไฟฟ้าแบตเตอรี่ รถโฟม บรรจุภัณฑ์อาหารจากใบไม้สด ที่ใช้ทดแทนกล่องโฟม ลดปัญหาสิ่งแวดล้อม ลดสารก่อมะเร็ง Solar X นวัตกรรมกระจกประหยัดพลังงาน เฝือกอ่อนย่อยสลายได้ และสีเกล็ดมุก ศิลปะลดโลกร้อน ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถไปชมกันได้ ในโซนนิทรรศการวิกฤตภูมิอากาศวิ กฤตชีวิต (Climate Change & Biodiversity Pavilion) เช่นกัน และอยากชวนทุกคนให้มาชมงานมหกรร มวิทยาศาสตร์ฯ นี้กันให้ได้ เพราะปีนี้จัดเต็มยิ่งใหญ่กว่าทุ กปีที่ผ่านมา 

ภายหลังการตรวจเยี่ยมชมงาน ดร.พิเชฐ กล่าวอย่างมั่นใจว่า กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ และทุกหน่วยงานที่ร่วมจัด  กิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใ หญ่ที่สุดแห่งปีนี้  เตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้าน ตั้งแต่ด้านสถานที่ ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ระบบการจราจรภายใน การรักษาความปลอดภัย การปฐมพยาบาล การดูแลต้อนรับ ร้านค้า ร้านอาหาร และการจัดลำดับการเข้าชมงาน พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ที่มีประสบก ารณ์ในการดูแลนักเรียน เยาวชน และผู้เข้าเยี่ยมชมงานที่มาเป็น หมู่คณะ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าชม ตลอดระยะเวลาของการจัดงานอีกด้ว ย พร้อมกล่าวทิ้งท้ายเชิญชวนเยาวช นและประชาชนเข้าชมงานมหกรรมวิทย าศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติประ จำปี 2559 ตั้งแต่วันที่ 18-28 สิงหาคม 2559 เวลา 09.00-19.00 น. ณ อาคารเอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 2-8 อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

สำหรับโรงเรียนหรือสถาบันการศึก ษาที่ต้องการเข้าชมเป็นหมู่คณะ ติดต่อได้ที่โทร 02-577-9960 เวลาที่เหมาะสำหรับการเข้าชมสำห รับประชาชนทั่วไป วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.00-20.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-20.00 น.
« Last Edit: August 19, 2016, 10:10:34 AM by MSN »