แสนสิริเปิดตัวคอนโดมิเนียมแบรนด์“เดอะ ไลน์”โครงการแรกของปี“เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา

แสนสิริเปิดตัวคอนโดมิเนียมแบรนด์ “เดอะ ไลน์” โครงการแรกของปี  “เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา” (THE LINE Asoke-Ratchada) มูลค่า2,800ลบ. ชูทำเลศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ (New CBD) ใกล้ MRT พระราม 9 เพียง 300 ม. มั่นใจปิดการขายในวันพรีเซลส์ 25-26 มิ.ย.นี้ ตามเป้าหมาย หลังประสบความสำเร็จคว้ายอดขายต่างชาติเกินเป้าโควต้าที่ตั้งไว้











แสนสิริเปิดตัวคอนโดมิเนียมแบรนด์ “เดอะ ไลน์” โครงการแรกของปี ในชื่อโครงการ “เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา” (THE LINE Asoke-Ratchada) มูลค่าโครงการ 2,800 ล้านบาท ชู   คอนเซ็ปต์ “Balance is Everything, Location is Everything” ตอบสนองการใช้ชีวิตที่สมดุลย์ให้กับคนเมือง บนทำเลศักยภาพศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ (New CBD) ใกล้ MRT พระราม 9 เพียง 300 เมตร นอกจากนี้ยังเป็นโครงการแรกของเดอะ ไลน์ที่นำ Home Automation ระบบสั่งการอัจฉริยะในบ้านมาใช้ ควบคุมการเปิด-ปิดแอร์ ไฟ  และกลอนประตูดิจิตอล(Digital door lock) ตอบสนองการอยู่อาศัยจริง เผยโครงการโดนใจลูกค้าต่างชาติ จนสามารถคว้ายอดขายต่างชาติทะลุไปแล้วกว่า 1,000 ล้านบาท เกินเป้าโควต้าผู้ซื้อต่างชาติที่วางไว้ เตรียมเปิดพรีเซลส์เจาะกลุ่มลูกค้าไทย 25 – 26 มิ.ย.นี้ ที่เดอะ ไลน์ อโศก – รัชดา เซลส์ แกลอรี่ มั่นใจได้รับการตอบรับดี คาดปิดการขายทันทีเช่นเดียวกับเดอะ ไลน์ 3 โครงการที่ผ่านมา

นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดตัวคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ “เดอะ ไลน์” โครงการแรกของปีนี้ ในชื่อโครงการ “เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา” (THE LINE Asoke-Ratchada) มูลค่าโครงการ 2,800 ล้านบาท อีกหนึ่งคอนโดมิเนียมภายใต้ความร่วมมือกับบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS สานต่อความสำเร็จหลังปิดการขายคอนโดมิเนียม  แบรนด์ เดอะ ไลน์ไปแล้วถึง 3 โครงการทันทีที่เปิดพรีเซลในปีที่ผ่านมา ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Balance is Everything, Location is Everything” ตอบสนองการใช้ชีวิตที่สมดุลย์ให้กับคนเมือง บนทำเลศักยภาพใกล้รถไฟใต้ดิน MRT สถานีพระราม 9 เพียง 300 เมตร ใน “ย่านศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ (New CBD)” ซึ่งเป็นพื้นที่รองรับการขยายตัวของเมืองต่อจาก Central Business District ศูนย์รวมทางด้านการคมนาคมที่สำคัญที่สุดแห่ง

หนึ่งของกรุงเทพฯ สามารถเชื่อมต่อโดยรอบจากการรายล้อมด้วยโครงข่ายโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ทั้ง ทางด่วนหลายเส้นทางและเป็นศูนย์รวมรถไฟฟ้าหลายสาย อาทิ ทางด่วนศรีรัช, รถไฟฟ้าสายสีเขียว (BTS), รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (MRT), Airport Link ใกล้สถานีมักกะสัน และโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มในอนาคต รวมถึงให้อัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า (Rental Yield) สูงถึง 6-7% ต่อปี

“เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดาเปิดให้เยี่ยมชมห้องตัวอย่างตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าต่อเนื่อง ลูกค้าชื่นชอบในการใส่ใจในรายละเอียดของการออกแบบฟังก์ชั่นที่ตรงกับความต้องการและไลฟ์สไตล์การอาศัยอยู่จริง ที่นำ Home Automation ระบบสั่งการอัจฉริยะในบ้านมาใช้ ซึ่งเป็นระบบที่ควบคุมการเปิด-ปิดไฟ แอร์ และกลอนประตูดิจิตอล(Digital door lock) เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต และอยู่ใกล้กับสวนมักกะสัน ซึ่งถือว่าเป็นปอดใจกลางกรุง ความโดดเด่นนี้ทำให้โครงการดึงดูดลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก ทั้งนี้โครงการเตรียมเปิดขายอย่างเป็นทางการในวันเสาร์และอาทิตย์ที่ 25 – 26 มิ.ย.นี้ ที่เดอะ ไลน์ อโศก – รัชดา เซลส์ แกลอรี่ คาดว่าจะสามารถปิดการขายได้เช่นเดียวกับเดอะ ไลน์ 3 โครงการที่ผ่านมา หลังจากที่ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากการไปโรดโชว์กลุ่มลูกค้าต่างชาติ ที่ประเทศ ฮ่องกง สิงคโปร์ ไต้หวันและจีน ซึ่งโกยยอดขายได้กว่า 1,000 ล้านบาท นับว่าเป็นมูลค่าสูงที่สุดที่แสนสิริเคยทำได้จากการสร้างยอดขายตลาดต่างชาติในขณะนี้ และเกินจากเป้าโควต้าขายตลาดต่างชาติที่วางไว้” นายอุทัย กล่าว

เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา ตอบสนองการใช้ชีวิตที่สมดุลย์ให้กับคนเมืองในแง่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสะดวกสบายในการเดินทาง ใกล้ MRT พระราม 9 เพียง 300 เมตร และ Airport Link มักกะสัน ตอบโจทย์ของชีวิตคนเมืองออกแบบให้เกิดความ BALANCE ในแง่ของดีไซน์โครงการกับคอนเซปต์ SEE AND BE SEEN การมองเห็นภายในและภายนอกโครงการอย่างมีชั้นเชิง  โดยออกแบบทางเข้าโครงการต่อเนื่องเข้าไปในพื้นที่ภายในโครงการที่เป็นพื้นที่สีเขียวได้อย่างกลมกลืน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ส่วนกลางต่อเนื่อง 3 ชั้น ประกอบด้วยพื้นที่สันทนาการกลางแจ้ง สระว่ายน้ำพร้อมจากุซซี่และสระเด็ก ห้องออกกำลังกาย สวนชั้นดาดฟ้า โดยเป็นอาคารพักอาศัยสูง 38 ชั้น 1 อาคาร และอาคารจอดรถสูง 9 ชั้น พร้อมชั้นใต้ดิน 1 ชั้น 1 อาคาร จำนวนทั้งสิ้น 473 ยูนิต ขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 27.50 – 50.25 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 3.99 ล้านบาท