เมืองไทยประกันชีวิต เบี้ยรับรวม 4 เดือนแรก เติบโต 12% ปลื้มเบี้ยต่ออายุเติบโตสูง

เมืองไทยประกันชีวิต เบี้ยรับรวม 4 เดือนแรก เติบโต 12% ปลื้มเบี้ยต่ออายุเติบโตสูงกว่า 28% ชูคุณภาพการขายยอดเยี่ยม ย้ำนโยบาย “ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง”



นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในช่วง 4 เดือนแรก (ม.ค. – เม.ย.)  2559 ว่า บริษัทฯ มีเบี้ยประกันชีวิต     รับรวม 34,157 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 12% เทียบกับอุตสาหกรรมที่มีเบี้ยประกันชีวิตรับรวมประมาณ 6% การเติบโตที่ดีดังกล่าว ยังส่งผลให้เมืองไทยประกันชีวิตมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 18.6% ขยายตัวขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 17.6%

“การเติบโตที่น่าพอใจดังกล่าว เป็นผลมาจากการดำเนินนโยบาย “ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง” ที่สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางที่สะดวกและตรงกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าและส่งผลให้ผลงานการขายมีการเติบโตที่ดี เห็นได้จากอัตราเบี้ยประกันชีวิตรับปีต่ออายุที่สามารถเติบโตได้สูงกว่า 28% เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมโดยรวมที่เติบโตเพียง 8% ขณะเดียวกันเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่ เมืองไทยประกันชีวิตก็ยังสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 เช่นเดิม”

ท่ามกลางพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไปพร้อมกับสังคมดิจิตอลที่การเชื่อมต่อและติดต่อสื่อสารมีความสะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้นนั้น นายสาระ เห็นว่าปัจจัยดังกล่าวถือเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายอย่างยิ่งต่อการปรับตัวของธุรกิจประกันชีวิต ซึ่งที่ผ่านมา เมืองไทยประกันชีวิตได้เร่งปรับตัวในมิติต่างๆ เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการและเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การสื่อสารกับลูกค้าผ่านสังคมออนไลน์รูปแบบต่างๆ การเพิ่มช่องทางการชำระเงินผ่าน Line Pay การพัฒนาแอปพลิเคชั่นที่ให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบข้อมูลกรมธรรม์ของตนเองได้ตลอดเวลาเป็นต้น

เช่นเดียวกับในมิติการพัฒนาผลิตภัณฑ์ นายสาระ กล่าวว่า บริษัทฯ ได้นำเสนอแบบประกันชีวิตที่หลากหลาย สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม ทั้งความคุ้มครองชีวิตเพื่อเป็นหลักประกันที่มั่นคงให้แก่ครอบครัว การออมเงินระยะยาวที่สร้างวินัยทางการเงินที่ดี รวมถึงในภาวะปัจจุบันที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ เมืองไทยประกันชีวิตก็ได้พัฒนาแบบประกันชีวิตควบคู่การลงทุนออกมาเพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้เอาประกันที่มองหาโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงกว่ากรมธรรม์แบบสามัญทั่วไป เช่น เมืองไทยยูนิตลิงค์ 1  รวมถึงเมืองไทย ยูนิเวอร์แซลไลฟ์ 1และเมืองไทย ยูแอล 1 เป็นต้น

นายสาระ กล่าวอีกว่า เมืองไทยประกันชีวิตให้ความสำคัญการบริหารพอร์ตอย่างมืออาชีพเพื่อสร้างการเติบโตที่มั่นคงแข็งแกร่ง และเพื่อความยั่งยืนในระยะยาว ล่าสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2559 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 318,979 ล้านบาท เติบโตขึ้น 8% จากสิ้นปี 2558 โดยมีเงินกองทุน 87,067 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเงินกองทุนที่ต้องดำรงไว้ตามกฎหมายถึง 512% ทั้งนี้ จัดอยู่ในระดับที่สูงกว่าระดับเกณฑ์ขั้นต่ำที่ 140% อยู่มาก

นอกจากนี้ สถาบันจัดอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน “ฟิทช์ เรทติ้งส์” (Fitch Ratings) ได้ประกาศ(ณ วันที่16 ก.พ. 2559) คงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากล (International Insurer Financial Strength (IFS)) ที่ ‘A-‘ และอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศ (National IFS) ที่ ‘AAA(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพถือเป็นอันดับเครดิตที่สูงที่สุดภายในประเทศ สะท้อนถึงความมั่นคงแข็งแกร่งของบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี

“เมืองไทยประกันชีวิตยังคงเดินหน้ากลยุทธ์การเติบโตต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้บริษัทฯ เติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับความมั่นคง แข็งแกร่ง และยั่งยืน” นายสาระกล่าว

Muang Thai Life Assurance’s Total Premium in the first 4 months grew 12%; impressive RYP growth of over 28%; excellent sales quality emphasizing “Customer Centricity”



Mr. Sara Lamsam, President and CEO of Muang Thai Life Assurance Public Company Limited said of the Company’s first 4-month performance (Jan - Apr) of 2016 that the Company has collected 34,157 MB in Total Premiums, a 12% growth from the same period last year, outperforming the industry which grew around 6%. The high growth has also led to MTL gaining market share, now 18.6%, expanding 17.6% compared to the same period last year.

“The satisfactory growth is the result of the implementation of the “Customer Centricity” policy which has led to appropriate product offers through convenient channels, matching the lifestyles of our customers. We have earned customer trust, which has resulted in impressive growth. This can be seen in our RYP which has grown over 28%, outperforming the industry’s growth of only 8%. At the same time, MTL has maintained its top ranking for NBP.”

Amidst the ever-changing consumer behavior trend and the digital trend of connectivity and ease of communication, Mr. Sara is of the view that such factors present tremendous opportunities and challenges for life insurance companies to adjust. MTL has been expediting its adjustments in various dimensions to meet the needs of and reach out to consumers more effectively. For instance, the Company has enhanced its communication with its customers through various online social media channels, increasing payment channels through Line Pay, developing mobile applications to allow customers to review their insurance policy on their own at any time.

The Company has also been adjusting its product development process whereby it has offered a diverse range of life insurance plans to meet customer needs across all spectrums. The products provide both life coverage as security for families and a long-term savings plan promoting financial discipline. In addition, amidst a low interest rate environment, MTL has developed unit-linked life insurance to provide an alternative for the insured who are seeking higher returns than those offered in ordinary policies such as Muangthai UNIT-LINKED SINGLE PREMIUM, UNIT-LINKED REGULAR PREMIUM, UNIVERSAL LIFE REGULAR PREMIUM and UNIVERSAL LIFE SINGLE PREMIUM, etc.

Mr. Sara added that MTL has placed great importance on managing portfolios professionally to promote strong and sustainable growth in the long run. As of 31 March 2016, the Company has 318,979 MB in total assets, growing 8% from the end of 2015, with funds totally 87,067 MB, which is 512% much higher than legally required at 140%.

Moreover, Fitch Ratings had announced, as of 16 February 2016, to maintain the International Insurer Financial Strength (IFS) at ‘A-‘ and the National IFS at ‘AAA(tha)’. The trend of credit ratings is of the highest regard in the country, reflecting the Company’s strength. 

 “MTL continues to move forward with various growth strategies, driving the Company with consistent growth, stability, strength, and sustainability.” Mr. Sara said.