MSN on June 01, 2016, 09:24:40 AM
“เจ พี กรุ๊ป” เล็งระดมทุนเข้าตลาดเอ็มเอไอปีหน้า



          "เจ พี กรุ๊ป" เล็งระดมทุนเข้าตลาดเอ็มเอไอปีหน้า หลังเปิดเกมรุกใหญ่ ธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้าน หลายประเภท พร้อมสร้างปรากฏการณ์เปิดตัวทาวเวอร์โฆษณาขนาดใหญ่ในสนามบินภูเก็ต และเตรียมสร้างสื่อโฆษณา LED ยาวสุดบริเวณริมแม่น้ำ 300 เมตรที่ "ยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ค" ด้าน มิสเตอร์พันล้าน ระบุ พร้อมดันรายได้โตก้าวกระโดด

          นายจักรพันธ์ ประจวบเหมาะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ พี กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและให้บริการสื่อโฆษณา เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมที่จะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ล่าสุดได้คัดเลือกที่ปรึกษาทางการเงินแล้วรอเซ็นสัญญาแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ พร้อมกันนี้ยังได้ว่าจ้างผู้ตรวจสอบบัญชี ที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อม

          ขั้นตอนต่อไปบริษัทจะดำเนินการจัดโครงสร้างการเงิน และโครงสร้างธุรกิจเพิ่มเติม เพื่อเตรียมแบบแสดงรายการข้อมูล (Filing) ยื่นขออนุญาตต่อ ก.ล.ต. ต่อไป คาดว่าจะสามารถเข้า ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ได้ในปีหน้า

          ทั้งนี้ บมจ.เจพี กรุ๊ป มุ่งเน้นการประกอบธุรกิจให้บริการและผลิตสื่อโฆษณาภายนอกที่อยู่อาศัย หลากหลายประเภท โดยล่าสุดได้ลงทุนในธุรกิจสื่อโฆษณารูปแบบใหม่ในสนามบิน เรียกว่า Social Life Tower เป็นทาวเวอร์โฆษณา 4 ด้านขนาดใหญ่ตอบโจทย์ผู้ซื้อโฆษณา เนื่องจาก สามารถดึงดูดความสนใจ และ ตอบโต้ผู้บริโภคในสนามบินได้ รวมไปถึงยังรองรับการใช้งาน โซเชียล มีเดีย " Social Life Tower จะตั้งใน สนามบินภูเก็ต เป็นที่แรก ก่อนที่จะขยายไปยังสนามบินอื่นๆต่อไป และเราเตรียมที่จะให้บริการสื่อโฆษณาในสนามบินต่างประเทศ อาทิ กัมพูชา บาหลี ด้วย" นายจักรพันธ์ กล่าว

          ขณะเดียวกัน บริษัทยังได้รับสิทธิ์ในการบริหารพื้นที่สื่อโฆษณาบริเวณ "สถานีรถไฟ" ทั้งหมด จำนวนถึง 150 สถานีทั่วประเทศ

          นอกจากนี้บริษัทยังดำเนินธุรกิจสื่อโฆษณาบริเวณห้างสรรพสินค้าและคอมมูนิตี้มอลล์ โดยเฉพาะ "ยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ค" ปากคลองตลาด ซึ่งเป็นสื่อโฆษณา LED Billboard ริมแม่น้ำขนาดยาวสุดถึง 300 เมตร รวมไปถึงสื่อโฆษณาในห้างอื่น เช่น สยามดิสคัฟเวอรี่ เกษรพลาซ่า ตลอดจน สื่อโฆษณาเคลื่อนที่บนรถสามล้อ สื่อโฆษณาบริเวณสนามฟุตบอล ป้าย LED Billboard ในหลายสถานที่

          นายจักรพันธ์ ระบุว่า ภาพรวมของธุรกิจสื่อนอกบ้านมีการเติบโตเพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากผู้บริโภคใช้ชีวิตกับการเดินทางมากกว่าอาศัยในบ้าน ประกอบกับเทคโนโลยีต่างๆ อาทิ LED มีส่วนช่วยทำให้ สื่อนอกบ้านโดดเด่น โดยบริษัทพร้อมขยายงานอย่างก้าวกระโดด

          มีแผนเพิ่มพื้นที่โฆษณา อาทิ LED Billboard 30 ป้ายต่อปี และเตรียมเพิ่มสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยในรูปแบบใหม่ๆ หลายพื้นที่ ซึ่งจะทำให้รายได้ของบริษัทเติบโตอย่างมาก ตั้งเป้าปี 2559 มีรายได้ 150 ล้านบาท จาก 2558 ที่มีรายได้ 90 ล้านบาท และคาดว่าปีหน้าจะมีรายได้แตะ 300 ล้านบาท

MSN on June 06, 2016, 02:01:02 PM
Social Life Tower ... Land Mark สุดล้ำ สร้างมิติใหม่ให้ท่าอากาศยานไทยที่แรก...ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต







   นางสาวรัญจิรา คงสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท Next Cube จำกัด จับมือ นายจักรพันธ์  ประจวบเหมาะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท JP Group จำกัด (มหาชน) จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวสื่อนอกบ้านหรือ Out of Home รูปแบบใหม่กลางสนามบินที่จะสะกดทุกสายตา ด้วยขนาดความสูง 8 เมตร รูปทรงที่มองเห็นได้ทั้ง 4 ด้าน ด้านละ 4 เมตร  ที่เรียกว่า “Social Life Tower”  เชื่อมระหว่าง Lifestyle และ Social Network ผ่าน Interactive สุดล้ำ ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่ชอบ Like & Share หวังให้เป็น Land Mark ที่สร้างสีสันและภาพลักษณ์สุดไฮเทคให้ท่าอากาศยานไทย โดยเริ่มที่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตเป็นที่แรก และขยายไปยังท่าอากาศยานอื่นๆ เป็นลำดับต่อไป

   “บริษัท Next Cube ให้ความสำคัญกับอารมณ์ความรู้สึกของผู้คน ผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์ (Emotional+Creativity) เราจึงพยายามทำให้ทุกพื้นที่เป็นเสมือนสนามเด็กเล่น หรือ Play Ground เพื่อสื่อสารกับผู้คนด้วย Social Bridge เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคในทุกวันนี้ คือ การ Like & Share แต่ขณะเดียวกันสื่อที่เราสร้างสรรค์ขึ้นมาก็จะต้องตอบโจทย์ในเชิงธุรกิจได้ด้วย นี่คือคอนเซ็ปต์ในการสร้าง Social Life Tower และที่เลือกพื้นที่เป็นท่าอากาศยานหรือสนามบิน ก็เพราะสนามบินถือเป็นสถานที่ที่มีคนสัญจรตลอดเวลา มีกลุ่มเป้าหมายมากมาย และเป็นสถานที่แรกที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวและสถานที่สุดท้ายในการส่งนักท่องเที่ยวกลับประเทศ ถ้าเรามีสื่อที่สามารถสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวได้ ก็จะทำให้ท่าอากาศยานไทยได้รับการพูดถึงและนักท่องเที่ยวอยากมาเยือนเมืองไทยมากขึ้น Social Life Tower จึงเป็นเสมือนก้าวแรกที่จะสร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือนและเป็นก้าวสุดท้ายที่จะทำให้จดจำเราไปตลอด โดยเฉพาะที่ภูเก็ต ซึ่งถือว่าเป็นประตูสู่อันดามันหรือ Gateway to the Andaman” นางสาวรัญจิรา ผู้สร้างสรรค์ซอฟแวร์  Social Life Tower กล่าว

   สำหรับ Social Life Tower นั้น เป็นสื่อขนาดใหญ่ที่มีความสูง 8 เมตร และมีความกว้างด้านละ 4 เมตร มองเห็นได้ทั้ง 4 ด้าน ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนของสนามบินก็ตาม รวมทั้งยังเป็น Time Tower หรือ นาฬิกาสนามบินที่มีความเที่ยงตรงอีกด้วย สำหรับที่สนามบินนานาชาติแห่งใหม่ของภูเก็ตนั้นจะติดตั้งทั้งสิ้นจำนวน 2 Tower ครอบคลุมบริเวณพื้นที่ขาออก ผู้โดยสารที่กำลังเช็คอินจะมีเวลาเพียงพอต่อการรับชมและร่วมสนุกกับ WOW Media ตัวนี้อย่างแน่นอน 

   Social Life Tower ในแต่ละด้าน จะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน โดยพื้นที่ด้านบน จะเป็นจอ LED Screen ขนาดใหญ่ พื้นที่รวมทั้ง 4 ด้านเท่ากับ 96 ตารางเมตร ส่วนนี้เรียกว่า Social Life Thailand เป็นพื้นที่ของสื่อ Online และ Offline ที่จะบอกเล่าเรื่องราวและเสน่ห์ความเป็นไทยหรืออัตลักษณ์ของท้องถิ่นนั้นๆ เช่น ที่สนามบินภูเก็ต จะถูกเนรมิตให้เป็นเรื่องราวของ “The Pearl” ที่จะพานักท่องเที่ยวชมความงามของท้องทะเลไทยผ่านนางเงือก ที่ตามหาไข่มุกอันดามัน ดังสมญานามของจังหวัดภูเก็ต โดยตัดสลับกับพื้นที่โฆษณาในรูปแบบ Offline ที่นำเสนอเป็นภาพเคลื่อนไหวแบบช้าๆ หรือ Slow Motion ตอบโจทย์ทั้งกลุ่มผู้ใหญ่และวัยรุ่น ต่อมาพื้นที่ส่วนล่าง เรียกว่า “Social  Media” เป็น TVC จัดแสดงแบบ Offline  เป็นพื้นที่โฆษณาสลับกับภาพนักท่องเที่ยวที่มาเยือน ถือเป็น Land Mark ของทุกสนามบิน นอกจากนั้นบริเวณด้านข้างของ Social Life Tower ยังมี Social Booth จำนวน 4 เครื่อง พื้นที่ส่วนนี้เรียกว่า “Make Your Mark” เป็นพื้นที่ที่เรียกรอยยิ้มจากนักท่องเที่ยว ด้วยการถ่ายภาพ - Sign in -  Like & Share แบบ Real Time พร้อมจัดส่งภาพแห่งความประทับใจของนักท่องเที่ยวไปยังอีเมล์ของผู้ใช้งานและยังแสดงภาพที่ Social Booth ได้ตลอดเวลาอีกด้วย ถือเป็นแนวทางการตลาดแบบดิจิตอล (Digital) อีกรูปแบบหนึ่ง

        ด้านนายจักรพันธ์ ประจวบเหมาะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท JP Group จำกัด (มหาชน) ซึ่งเข้ามาร่วมธุรกิจกับบริษัท Next Cube ในฐานะหนึ่งในเจ้าของพื้นที่สื่อ Social Life Tower ที่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต กล่าวว่า “การได้เป็นเจ้าของพื้นที่สื่อที่มีศักยภาพอย่างมาก เช่นที่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ถือว่าเป็นการลงทุนที่ไม่มีทางสูญเปล่า เพราะแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวมาเยือนสนามบินภูเก็ตไม่น้อยกว่า 10 ล้านคน นอกจากนั้น Social Life Tower ยังเป็นสื่อที่ทันสมัย นำเสนอครบทั้งรูปแบบ Online และ Offline รับรองได้ว่าโดนใจทั้งเอเจนซี่และผู้บริโภคทุกช่วงอายุอย่างแน่นอน เป็น Best of the Best ของสื่อประเภท Out of  Home   ที่ทันสมัยที่สุดและตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่สุด ถือว่าเป็นการต่อยอดธุรกิจให้ JP Group ก้าวไปเป็นผู้นำด้านธุรกิจสื่ออย่างเต็มตัว”

   ในส่วนของตัวแทนบริษัทเอเจนซี่โฆษณาเอง ก็ได้แสดงความคิดเห็นว่า Social Life Tower เป็นสื่อที่น่าจับตามอง ตอบโจทย์ธุรกิจโฆษณาที่ต้องการความแปลกใหม่อยู่ตลอดเวลา เพราะสามารถตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคในโลกยุคออนไลน์ได้อย่างไร้ขีดจำกัด เนื่องจากขณะนี้เองพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป มักใช้ชีวิตอยู่นอกบ้านกับมือถือกับสื่อโซเชียลมากกว่าสื่อประเภทอื่นๆ ดังนั้นกระแสของสื่อ Out of Home จึงมาแรงสุดๆ การแข่งขันจึงขึ้นอยู่ว่า พื้นที่ในการติดตั้งสื่อนอกบ้านประเภทไหนจะมีศักยภาพและตรงกับกลุ่มเป้าหมายได้มากกว่ากัน

   อย่างไรก็ตาม  นางสาวรัญจิรา คงสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท Next Cube จำกัด กล่าวปิดท้ายว่า “นอกจาก 2 Tower ที่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตแล้ว Next Cube ยังมีแผนงานที่จะติดตั้ง Social Life Tower ในท่าอากาศยานอื่นๆ อีก ซึ่งเมื่อ Tower ทุกแห่ง ได้เกิดขึ้นพร้อมกันแล้ว Social Life Tower ก็จะทำหน้าที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน คุณก็จะสื่อสารผ่าน  Social Life Tower กับคนที่คุณต้องการทักทายได้อย่างง่ายดาย คุณอยู่สนามบินภูเก็ตก็สามารถทักทายเพื่อนที่อยู่ที่สนามบินแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ได้ เพราะ Social Life Tower คือ WOW MEDIA ที่นาทีนี้ห้ามกระพริบตานั่นเอง”
« Last Edit: June 06, 2016, 02:11:18 PM by MSN »

MSN on June 14, 2016, 08:50:05 AM
Social Life Tower … Land Markสุดล้ำ สร้างมิติใหม่ให้ท่าอากาศยานไทย ที่แรก…ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต









          นายบัญชา เธียรสุนทร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เน็คท์คิวบ์ จำกัด จับมือเซ็นต์สัญญากับนาย จักรพันธ์ ประจวบเหมาะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เจพี กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) พร้อมจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวสื่อนอกบ้านหรือ Out of Home รูปแบบใหม่กลางสนามบินที่จะสะกดทุกสายตาด้วยขนาดความสูง 8 เมตร รูปทรงที่มองเห็นได้ทั้ง4 ด้าน ด้านละ 4 เมตรที่เรียกว่า "Social Life Tower" เชื่อมระหว่าง Lifestyle และ Social Network ผ่าน Interactive สุดล้ำ ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่ชอบ Like& Share หวังให้เป็น Land Mark ที่สร้างสีสันและภาพลักษณ์สุดไฮเทคให้ท่าอากาศยานไทย โดยเริ่มที่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตเป็นที่แรกและขยายไปยังท่าอากาศยานอื่นๆ เป็นลำดับต่อไป

          "บริษัท เน็คท์คิวบ์ ให้ความสำคัญกับอารมณ์ความรู้สึกของผู้คน ผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์ (Emotional+Creativity) เราจึงพยายามทำให้ทุกพื้นที่เป็นเสมือนสนามเด็กเล่น หรือ Play Groundเพื่อสื่อสารกับผู้คนด้วย Social Bridge เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคในทุกวันนี้ คือ การ Like& Share แต่ขณะเดียวกันสื่อที่เราสร้างสรรค์ขึ้นมาก็จะต้องตอบโจทย์ในเชิงธุรกิจได้ด้วย นี่คือคอนเซ็ปต์ในการสร้าง Social Life Tower และที่เลือกพื้นที่เป็นท่าอากาศยานหรือสนามบินก็เพราะสนามบินถือเป็นสถานที่ที่มีคนสัญจรตลอดเวลา มีกลุ่มเป้าหมายมากมาย และเป็นสถานที่แรกที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวและสถานที่สุดท้ายในการส่งนักท่องเที่ยวกลับประเทศ ถ้าเรามีสื่อที่สามารถสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวได้ ก็จะทำให้ท่าอากาศยานไทยได้รับการพูดถึงและนักท่องเที่ยวอยากมาเยือนเมืองไทยมากขึ้น Social Life Tower จึงเป็นเสมือนก้าวแรกที่จะสร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือนและเป็นก้าวสุดท้าย ที่จะทำให้จดจำเราไปตลอด โดยเฉพาะที่ภูเก็ต ซึ่งถือว่าเป็นประตูสู่อันดามันหรือGateway to the Andaman" นางสาวรัญจิรา คงสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็คท์คิวบ์ จำกัด ผู้สร้างสรรค์ซอฟแวร์Social Life Tower กล่าวให้ข้อมูลเบื้องต้น

          สำหรับ Social Life Tower นั้น เป็นสื่อขนาดใหญ่ที่มีความสูง 8 เมตร และมีความกว้างด้านละ 4 เมตร มองเห็นได้ทั้ง 4 ด้านไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนของสนามบินก็ตาม รวมทั้งยังเป็น Time Tower หรือนาฬิกาสนามบินที่มีความเที่ยงตรงอีกด้วยสำหรับที่สนามบินนานาชาติแห่งใหม่ของภูเก็ตนั้น จะติดตั้งทั้งสิ้นจำนวน 2 Tower ครอบคลุมบริเวณพื้นที่ขาออก ผู้โดยสารที่กำลังเช็คอินจะมีเวลาเพียงพอต่อการรับชมและร่วมสนุกกับ WOW Media ตัวนี้อย่างแน่นอน

          Social Life Tower ในแต่ละด้าน จะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2ส่วน โดยพื้นที่ด้านบน จะเป็นจอ LED Screen ขนาดใหญ่พื้นที่รวมทั้ง4 ด้านเท่ากับ96 ตารางเมตรส่วนนี้เรียกว่าSocial Life Thailand เป็นพื้นที่ของสื่อ Online และ Offline ที่จะบอกเล่าเรื่องราวและเสน่ห์ความเป็นไทยหรืออัตลักษณ์ของท้องถิ่นนั้นๆ เช่นที่สนามบินภูเก็ต จะถูกเนรมิตให้เป็นเรื่องราวของ "The Pearl"ที่จะพานักท่องเที่ยวชมความงามของท้องทะเลไทยผ่านนางเงือก ที่ตามหาไข่มุกอันดามันดังสมญานามของจังหวัดภูเก็ต โดยตัดสลับกับพื้นที่โฆษณาในรูปแบบ Offline ที่นำเสนอเป็นภาพเคลื่อนไหวแบบช้าๆหรือ Slow Motion ตอบโจทย์ทั้งกลุ่มผู้ใหญ่และวัยรุ่น ต่อมาพื้นที่ส่วนล่าง เรียกว่า"Social Media"เป็น TVC จัดแสดงแบบ Offline เป็นพื้นที่โฆษณาสลับกับภาพนักท่องเที่ยวที่มาเยือน ถือเป็น Land Mark ของทุกสนามบิน นอกจากนั้นบริเวณด้านข้างของ Social Life Tower ยังมี Social Booth จำนวน 4 เครื่อง พื้นที่ส่วนนี้เรียกว่า "Make Your Mark"เป็นพื้นที่ที่เรียกรอยยิ้มจากนักท่องเที่ยว ด้วยการถ่ายภาพ -Sign in -Like& Shareแบบ Real Time พร้อมจัดส่งภาพแห่งความประทับใจของนักท่องเที่ยวไปยังอีเมล์ของผู้ใช้งานและยังแสดงภาพที่ Social Booth ได้ตลอดเวลาอีกด้วยถือเป็นแนวทางการตลาดแบบดิจิตอล(Digital)อีกรูปแบบหนึ่ง

          ด้านนายจักรพันธ์ ประจวบเหมาะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เจพี กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)ซึ่งเข้ามาร่วมธุรกิจกับบริษัท เน็คท์คิวบ์ในฐานะหนึ่งในเจ้าของพื้นที่สื่อ Social Life Tower ที่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต กล่าวว่า "การได้เป็นเจ้าของพื้นที่สื่อที่มีศักยภาพอย่างมาก เช่นที่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ถือว่าเป็นการลงทุนที่ไม่มีทางสูญเปล่า เพราะแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวมาเยือนสนามบินภูเก็ตไม่น้อยกว่า 10 ล้านคน นอกจากนั้น Social Life Tower ยังเป็นสื่อที่ทันสมัย นำเสนอครบทั้งรูปแบบ Online และ Offline รับรองได้ว่าโดนใจทั้งเอเจนซี่และผู้บริโภคทุกช่วงอายุอย่างแน่นอน เป็น Best of the Best ของสื่อประเภท Out of Home ที่ทันสมัยที่สุดและตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่สุดถือว่าเป็นการต่อยอดธุรกิจให้ เจพี กรุ๊ป ก้าวไปเป็นผู้นำด้านธุรกิจสื่ออย่างเต็มตัว"

          ในส่วนของตัวแทนบริษัทเอเจนซี่โฆษณาเอง ก็ได้แสดงความคิดเห็นว่า Social Life Tower เป็นสื่อที่น่าจับตามอง ตอบโจทย์ธุรกิจโฆษณาที่ต้องการความแปลกใหม่อยู่ตลอดเวลา เพราะสามารถตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคในโลกยุคออนไลน์ได้อย่างไร้ขีดจำกัด เนื่องจากขณะนี้เองพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป มักใช้ชีวิตอยู่นอกบ้านกับมือถือกับสื่อโซเชียลมากกว่าสื่อประเภทอื่นๆ ดังนั้นกระแสของสื่อ Out of Home จึงมาแรงสุดๆ การแข่งขันจึงขึ้นอยู่ว่า พื้นที่ในการติดตั้งสื่อนอกบ้านประเภทไหนจะมีศักยภาพและตรงกับกลุ่มเป้าหมายได้มากกว่ากัน

          อย่างไรก็ตาม นางสาวรัญจิรา คงสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท Next Cube จำกัด กล่าวปิดท้ายว่า "นอกจาก 2Tower ที่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตแล้ว Next Cube ยังมีแผนงานที่จะติดตั้ง Social Life Tower ในท่าอากาศยานอื่นๆ อีก ซึ่งเมื่อ Tower ทุกแห่ง ได้เกิดขึ้นพร้อมกันแล้ว Social Life Tower ก็จะทำหน้าที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างสมบูรณ์แบบไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน คุณก็จะสื่อสารผ่าน Social Life Tower กับคนที่คุณต้องการทักทายได้อย่างง่ายดาย คุณอยู่สนามบินภูเก็ตก็สามารถทักทายเพื่อนที่อยู่ที่สนามบินแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ได้ เพราะ Social Life Tower คือ WOW MEDIA ที่นาทีนี้ห้ามกระพริบตานั่นเอง"