พฤกษา โชว์กำไรไตรมาส 1/2552 สูงถึง 687 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 123% สวนกระแสเศรษฐกิจ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) แถลงผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2552 เติบโตอย่างมั่นคงสวนกระแสเศรษฐกิจ มีรายได้ 3,780 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 687 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 69% และ 123% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2551
นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) (PS) เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 1 ประจำปี 2552 ว่า “บริษัทฯ มีผลประกอบการที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้ 3,780 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 69% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2551 ที่มีรายได้ที่ 2,230 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิสูงถึง 687 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 123% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 308 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้มาจากโครงการทาวน์เฮาส์ 60% โครงการบ้านเดี่ยว 30% และโครงการคอนโดมิเนียมอีก 10%”
“จากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจและการเมืองในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ตลาดอสังหาฯ ตกต่ำลง ขณะเดียวกันก็มีการแข่งขันที่สูงขึ้น บริษัทฯ จึงมีการปรับแผนธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน มีการจัดโปรโมชั่นและกิจกรรมส่งเสริมการขายที่เหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการของตลาด โดยบริษัทฯ พยายามรักษาระดับความเป็นผู้นำในตลาดทาวน์เฮาส์ระดับกลาง-ล่าง ตลอดจนมีการพัฒนาเทคโนโลยีการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถส่งมอบบ้านให้ลูกค้าได้อย่างรวดเร็วตามกำหนด ซึ่งส่งผลให้บริษัทฯ รับรู้รายได้รวดเร็วขึ้นด้วย โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีรอบธุรกิจ 104 วัน ลดลงจากรอบธุรกิจเดิมที่ 111 วัน ประกอบกับบริษัทฯ มีการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี ทำให้สามารถรักษาระดับต้นทุนให้คงที่ จึงทำให้ในไตรมาสที่ 1 บริษัทฯ มีกำไรสูงถึง 123%” นายทองมา กล่าว
ด้าน นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงยอดขายไตรมาส 1 ปี 2552 ว่า “ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เปิดโครงการใหม่ทั้งหมด 6 โครงการ มูลค่ารวมทั้งสิ้น 3,521 ล้านบาท ประกอบด้วย ทาวน์เฮาส์ 4 โครงการ บ้านเดี่ยว 1 โครงการ และคอนโดมิเนียมอีก 1 โครงการ และแม้ว่าเศรษฐกิจจะถดถอย แต่บริษัทฯ สามารถทำยอดขายในไตรมาส 1 ปี 2552 สูงถึง 4,045 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับไตรมาสสุดท้ายของปี 2551 ที่ผ่านมา ที่มียอดขาย 2,886 ล้านบาท และมียอดโอนกรรมสิทธิ์สูงถึง 2,467 ยูนิต โดยเฉพาะยอดโอนในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาสูงถึง 1,393 ยูนิต ทำสถิติยอดโอนสูงสุดตั้งแต่ดำเนินธุรกิจมา ความสำเร็จที่เกิดขึ้นมาจากบริษัทฯ มีการปรับกลยุทธ์การเปิดตัวโครงการใหม่ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการเจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการที่อยู่อาศัยจริงๆ ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จในการขาย และมีลูกค้าตัดสินใจโอนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง”
“จากความสำเร็จของบริษัทฯ ที่สามารถทำยอดขายไตรมาส 1 ปี 2552 เติบโตมากขึ้น ทำให้บริษัทฯ ยังคงเป้ายอดขายเดิมคือ 18,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทฯ มียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ต่อเนื่องไปอีก 1-2 ปี มูลค่า 10,972 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าในปี 2552 นี้ จะรับรู้รายได้ประมาณ 7,974 ล้านบาท และจะทยอยรับรู้รายได้ในปี 2553 จำนวน 1,843 ล้านบาท และปี 2554 อีกจำนวน 1,155 ล้านบาท” นายประเสริฐ กล่าวเสริม