NDR คว้าออเดอร์ล็อตใหม่จากอินเดียมูลค่ากว่า 50ลบ.ต่อปี เริ่มทยอยรับรู้รายได้ปีนี

NDR คว้าออเดอร์ล็อตใหม่จากอินเดียมูลค่ากว่า 50ลบ.ต่อปี เริ่มทยอยรับรู้รายได้ปีนี้ประมาณ 30% ดันยอดขายปี59 เข้าเป้าโต 25%



“ชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา” กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอ็น.ดี.รับเบอร์ (NDR) ผู้ผลิตและจำหน่ายยางรถจักรยานยนต์ภายใต้แบรนด์ ND RUBBER แจกข่าวดี!!! รับไตรมาส 2/59 คว้าออเดอร์ 2 โมเดลรุ่นใหม่จากอินเดียมูลค่า 50 ล้านบาทต่อปี ระบุอยู่ระหว่างรอแม่พิมพ์ที่กำลังจัดส่งมาจากลูกค้า คาดทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ราว 15 ล้านบาท ดันยอดขายเติบโตตามเป้า 25% ตามแผน เดินหน้าบุกตลาดทั้งในและต่างประเทศ ขณะที่สินค้าใหม่ “AIR LOCK”  ที่ใช้ทดแทนการใช้ยางใน กระแสตอบรับดีเกินคาด

นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี.รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) (NDR)  ผู้ผลิตและจำหน่ายยางรถจักรยานยนต์ภายใต้แบรนด์ ND RUBBER เปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัทฯได้รับออเดอร์โมเดล 2 รุ่นใหม่ของอินเดียแล้ว มูลค่า 50 ล้านบาทต่อปี โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างรอแม่พิมพ์ที่กำลังจัดส่งมาจากลูกค้า ซึ่งคาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้จากงานดังกล่าวในปีนี้ประมาณ 15 ล้านบาท

ขณะที่ผลิตภัณฑ์ใหม่ “AIR LOCK”  ที่ทดแทนการใช้ยางในได้ 100% หมดปัญหายางในแตก ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค จากประเด็นดังกล่าวทำให้บริษัทฯมั่นใจว่ายอดขายในปีนี้จะเติบโต 25% ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ จากปีก่อนที่มีรายได้ 797 ล้านบาท

“เราประเมินว่ากำลังซื้อตลาดในประเทศน่าจะค่อยๆดีขึ้น หลังจากที่ผ่านมาบริษัทฯได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “AIR LOCK” ออกสู่ตลาด ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ยังไม่เคยมีในท้องตลาด ทำให้สามารถช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคหันมาสนใจและอยากลองใช้มากขึ้น ขณะเดียวกันรุกตลาดต่างประเทศควบคู่ไปด้วย โดยตลาดในต่างประเทศที่อินเดียยังมีการเติบโตที่ดี ซึ่งล่าสุดเราได้ออเดอร์โมเดล 2 รุ่นใหม่ของอินเดียมาแล้ว คาดว่าจะสามารถส่งสินค้าให้อินเดียในไตรมาส 3 ปีนี้” นายชัยสิทธิ์กล่าว

กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี.รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) (NDR) กล่าวอีกว่า สำหรับโครงการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ (Solar Roof)  กำลังการผลิตประมาณ 1 เมกะวัตต์สำหรับใช้ภายในโรงงาน ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการติดตั้ง หลังจากได้รับอนุมัติจากทางสำนักงานคณะกรรมการการส่งเสริมการลงทุน (BOI) แล้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถดำเนินการผลิตไฟฟ้าได้ในครึ่งปีหลังตามแผนงานที่กำหนดไว้ โดยคาดว่าจะช่วยลดต้นทุนได้กว่า 10% ต่อปีของต้นทุนค่าไฟฟ้าหรือประมาณ 5 ล้านบาทต่อปี
 
สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 1/2559 มีรายได้อยู่ที่ 200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้ 174 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 4.74 ล้านบาท