MSN on May 26, 2016, 02:43:18 PM
TPCH แย้มข่าวดี ลุ้น!! “โรงไฟฟ้าช้างแรก” เปลี่ยนการอนุมัติขายไฟจากระบบ Adder เป็น ระบบ FiT ตอกย้ำความมั่นใจ! ปีนี้รายได้โต 150% Q1/59 นำร่องสวยกำไรพุ่งถึง 2,217%                                                                                                                                                



บมจ.ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง (TPCH) เผย ลุ้นข่าวดี “โรงไฟฟ้าช้างแรก” มีสิทธิได้รับเปลี่ยนการอนุมัติขายไฟจากระบบ ADDER เป็น ระบบ FiT ซึ่งส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 100% เปรียบเสมือนได้โรงไฟฟ้าใหม่เพิ่มอีกหนึ่งแห่ง พร้อมตอกย้ำความมั่นใจ!! ปีนี้รายได้โต 150% หลังไตรมาส 1/59 นำร่องสวย! กำไรพุ่ง 2,217% ด้านผู้บริหารหนุ่มไฟแรง  “เชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล” เผยแนวโน้มไตรมาส 2 ผลงานโตต่อเนื่อง ตามจำนวนโรงไฟฟ้าชีวมวลที่เดินเครื่องจ่ายไฟฟ้าได้เรียบร้อยแล้ว 3 แห่ง ประกอบด้วย “ช้างแรก ไบโอเพาเวอร์-แม่วงศ์ เอ็นเนอยี่ - มหาชัย กรีนเพาเวอร์”

นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH)  เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯ ยังคงคาดว่ารายได้จะเติบโต 150%  จากปี 2558 ที่ทำได้ 304.90  ล้านบาท หลังไตรมาส 1/2559 ผลประกอบการออกมาในทิศทางที่ดี โดยมีรายได้รวม 132.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73.39 ล้านบาท หรือ 124.85% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 58.78 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 31.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.94 ล้านบาท หรือ 2,217% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 1.35 ล้านบาท 

สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/2559 คาดว่าจะออกมาในทิศทางที่ดีต่อเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเช่นกัน  เพราะได้รับปัจจัยบวกจากโรงไฟฟ้าชีวมวล จำนวน 3 แห่ง ประกอบด้วย 1.โรงไฟฟ้าชีวมวลช้างแรก ไบโอเพาเวอร์ (CRB) กำลังการผลิตเสนอขายจำนวน 9.2 เมกะวัตต์  2.โรงไฟฟ้าชีวมวลแม่วงศ์ เอ็นเนอยี่ (MWE) กำลังการผลิตเสนอขาย 8 เมกะวัตต์ และ 3.โรงไฟฟ้าชีวมวลมหาชัย กรีน เพาเวอร์ (MGP) กำลังการผลิตเสนอขาย 8 เมกะวัตต์ ที่เดินเครื่องจ่ายไฟฟ้าได้เรียบร้อยแล้วรวมจำนวน 25.2 เมกะวัตต์

“ปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลอยู่จำนวน 7 แห่ง กำลังการผลิต 106 เมกะวัตต์ โดยแบ่งเป็นโครงการที่ขายไฟฟ้าแล้วจำนวน 30 เมกะวัตต์ โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง จำนวน 30 เมกะวัตต์ และโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา จำนวน 46 เมกะวัตต์  จึงมั่นใจว่าแผนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลให้ได้  200 เมกะวัตต์ ภายในปี 2563 หรือในอีก 5 ปีข้างหน้าจะทำได้ตามเป้าหมายอย่างแน่นอนและในช่วงที่เหลือของปีนี้คาดว่าจะมีโรงไฟฟ้าชีวมวลที่เดินเครื่องจ่ายไฟ (COD) ได้อีก 1 แห่ง คือ โรงไฟฟ้าชีวมวลทุ่งสัง กรีน” นายเชิดศักดิ์  กล่าวในที่สุด

อย่างไรก็ตาม หากนโยบายภาครัฐอนุมัติให้เปลี่ยนการรับซื้อไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าช้างแรก ไบโอเพาเวอร์ จากระบบ Adder เป็นระบบ Feed in Tariff (FiT)  จะส่งผลให้บริษัทฯ ได้ค่าไฟเพิ่มขึ้น หน่วยละประมาณ 1.34 บาท หรือส่งผลให้กำไรเพิ่มขึ้นกว่า 70 ล้านบาท และทำให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 100% เปรียบเสมือนได้โรงไฟฟ้าใหม่เพิ่มอีกหนึ่งแห่งอีกด้วย