อรูบ้าเปิดตัวระบบเครือข่าย Mobile-First แบบล่าสุด
ผลักดันองค์กรมุ่งไปสู่การเป็น Digital Workplace ให้ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
ผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ล่าสุดนี้จะทำให้อุปกรณ์ IoT สามารถเชื่อมต่อเครือข่ายโดยอัตโนมัติได้อย่างปลอดภัย พร้อมช่วยประเมินสถานะการล่วงหน้าเกี่ยวกับประสิทธิภาพของระบบ Wi-Fi ที่อุปกรณ์พกพาเชื่อมต่ออยู่ ทำให้ลดอุปสรรคระหว่างไอทีและความสำคัญของธุรกิจอรูบ้า หนึ่งในบริษัทของฮิวเลตต์แพคการ์ดเอ็นเตอร์ไพรส์ (NYSE: HPE) ได้ประกาศเปิดตัวโซลูชั่นระบบซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ล่าสุดที่ทำให้องค์กรสามารถตอบโจทย์การสร้าง Digital Workplace สำหรับตอบรับความต้องการของพนักงานในยุค GenMobile ซึ่งเป็นเหล่าพนักงานที่ทำงานโดยใช้อุปกรณ์พกพาเป็นหลัก พร้อมรองรับความต้องการในการเชื่อมต่อของอุปกรณ์ Internet of Things (IoT) ให้ได้ไปพร้อมๆ กัน ผลิตภัณฑ์ใหม่เหล่านี้จะทำให้ทีม IT รับรู้ปัญหาในระบบเครือข่ายล่วงหน้าและแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที รวมถึงสามารถสร้างนโยบายรักษาความปลอดภัยสำหรับใช้งานภายใน Digital Workplace ที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ เพื่อให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอีกด้วยคุณ อาโมล มิตรา ผู้บริหาร อรูบ้า HPE ระบบเครือข่ายแบบเดิมๆ นั้นถูกสร้างขึ้นภายใต้แนวคิดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงบ่อย และเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้งานเข้ากับระบบเครือข่ายผ่านทางสาย LAN เพื่อสื่อสารกับเซิฟเวอร์จำนวนมากภายในองค์กร ซึ่งแนวคิดนี้ได้ล้าสมัยไปเรียบร้อยแล้วในการดำเนินธุรกิจของทุกวันนี้ การเติบโตอย่างรวดเร็วของอุปกรณ์พกพาและอุปกรณ์ IoT รวมถึงแอพพลิเคชั่นที่อยู่บน Cloud ได้ทำให้องค์กรต้องกลับมาทบทวนการเชื่อมต่อเครือข่ายแบบเดิมๆ ที่ใช้งานอยู่ กับความต้องการในการเชื่อมต่อเครือข่ายได้อย่างคล่องตัว เพื่อตอบรับต่อพฤติกรรมในการทำงานรูปแบบใหม่ ที่การสื่อสารและกำหนดการทำงานที่ไม่ตายตัวได้กลายมาเป็นมาตรฐานใหม่ในการทำงานไปแล้ว ผลลัพธ์ของการทบทวนครั้งนี้ก็คือ องค์กรต้องปรับแนวทางการดำเนินงานใหม่ ให้บริการต่างๆ ภายในองค์กรนั้นตอบสนองต่อความต้องการของพนักงานภายในองค์กรเป็นหลัก เพื่อดึงดูดพนักงานรุ่นใหม่ที่มีความสามารถให้มาร่วมงานด้วย และยังคงรักษาพนักงานที่ทำงานได้ดีภายในองค์กรให้ยังคงทำงานอยู่ต่อไป
โซลูชั่นระบบเครือข่ายล่าสุดและแนวทางในการใช้ซอฟต์แวร์เป็นหลักของอรูบ้านี้ได้ทำให้อรูบ้าสามารถนำเสนอสิ่งที่ล้ำหน้ายิ่งกว่าโซลูชั่นระบบเครือข่ายที่ใช้ฮาร์ดแวร์เป็นหลักและขาดความหยืดหยุ่นได้ ผลิตภัณฑ์ระบบเครือข่ายแบบมีสายและไร้สายชุดใหม่นี้ที่ได้ผสานเข้ากับนวัตกรรมการบริหารจัดการระบบเครือข่ายและการรักษาความปลอดภัย จะช่วยทำให้องค์กรที่มีระบบ IT เป็นหลักสามารถออกแบบและขยายระบบเครือข่ายที่มีอยู่ ให้กลายเป็น Digital Workplace ได้อย่างสมบูรณ์HPE Aruba เข้ามาตอบโจทย์ Digital Workplace ได้อย่างไรคุณ อาโมล มิตรา ผู้บริหาร อรูบ้า HPE กล่าวถึงการทำ Digital workplace ซึ่งเป็นกระแสนิยมของคนยุคใหม่ ทำงานได้จากทุกที่ ทุกเวลากล่าวว่า การที่องค์กรจะทำ Digital workplace ให้พนักงาน จะต้องมีระบบ wifi ที่ดี นอกจากเรื่องความปลอดภัย ความเสถียร การสามารถทำงานได้ตลอดแล้ว ต้องมีคุณสมบัติทั้ง 4 อย่างที่ได้กล่าวต่อไปนี้ไป ระบบ Wi-Fi และเทคโนโลยีของ HPE Aruba เข้ามาตอบรับความต้องการได้ดังนี้1. Stable Air – HPE Aruba นำเสนอ AP มาตรฐาน 802.11ac Wave 2 ซึ่งมีความเร็วสูงสุด 1.7 Gbps ให้บริการหลายรุ่น ตอบรับความต้องการด้านประสิทธิภาพและความเสถียร นอกจากนี้ ด้วยฟีเจอร์ClientMatch ที่คอยเช็คข้อมูลการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ผู้ใช้และ AP ตลอดเวลา ช่วยให้อุปกรณ์สามารถเลือกเชื่อมต่อกับ AP ที่ให้สัญญาณและความเร็วที่ดีที่สุดเสมอ จากการทดสอบพบว่า ClientMatch ช่วยให้อุปกรณ์กว่า 94% ของระบบ Wi-Fi มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น
2. Secure Air – ฟีเจอร์ AppRF ช่วยบล็อกและฟิลเตอร์ทราฟฟิคตั้งแต่ AP ช่วยให้สามารถป้องกันทราฟฟิคต้องสงสัยได้ตั้งแต่ก่อนเชื่อมต่อกับระบบเครือข่าย รวมทั้งสามารถทำ Bandwidth Shaping (QoS) เพื่อให้สามารถใช้งานแอพพลิเคชันทางธุรกิจ, VoWi-Fi และ Video ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Role-based Access Control และ Web Content Filtering สำหรับกำหนดสิทธิ์และควบคุมการเข้าถึงระบบเครือข่ายและเว็บไซต์ของผู้ใช้แต่ละประเภทอีกด้วย
3. Simple Air – โซลูชัน ClearPass เข้ามาตอบโจทย์เรื่องบริหารจัดการอุปกรณ์ของพนักงานและผู้ใช้ชั่วคราว (Guest) ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นความสามารถด้าน Authentication, Authorization และ Accountability (AAA) ซึ่งช่วยให้สามารถ Onboard อุปกรณ์ของพนักงานได้โดยอัตโนมัติ โดยที่ผู้ใช้แทบไม่ต้องทำอะไรเลย ในขณะที่ผู้ใช้ชั่วคราวก็สามารถลงทะเบียนเพื่อขออนุญาตเชื่อมต่อระบบได้ด้วยตนเอง เหล่านี้เป็นการเพิ่ม User Experience และลดภาระงานของฝ่าย IT ลงได้อย่างมหาศาล
4. Smart Air – โซลูชัน AirWave ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถติดตามและเฝ้าระวังการใช้ระบบเครือข่ายไร้สายได้แบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดและประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อ แอพพลิเคชันที่ใช้ ตำแหน่งของอุปกรณ์บนผังอาคาร ทั้งหมดนี้แสดงผลในรูปกราฟิกสวยงาน นอกจากนี้ยังสามารถตรวจจับภัยคุกคามที่เกิดขึ้นบนระบบเครือข่าย และแจ้งเตือนผู้ดูแลระบบถึงสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
วันนี้ทางบริษัทมีการแถลงเรื่องสินค้าหลายตัวของ Aruba ซึ่งหนึ่งในนั้นจะตอบโจทย์ Digital Workplace ของคนรุ่นใหม่Sakchai Punyajaray General Manager HPE Aruba Thailand and Indonchina ทำนายถึงปัญหาการเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ล่วงหน้าก่อนที่ปัญหาจะเกิด ด้วย Aruba Clarityจากการที่อุปกรณ์จำนวนมากทำการเชื่อมต่อเข้ากับระบบเครือข่ายขององค์กร ฝ่าย IT จึงต้องการที่จะมองเห็นรายละเอียดเชิงลึกในระดับของการเชื่อมต่อเครือข่าย ซึ่งรวมถึงข้อมูลของผู้ใช้งาน, อุปกรณ์ และแอพพลิเคชั่น เพื่อให้การทำงานของทุกคนเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำให้ธุรกิจดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง Aruba Clarity ซอฟต์แวร์โมดูลล่าสุดในระบบบริหารจัดการเครือข่าย Aruba AirWave ได้นำเสนอข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ได้อย่างครบถ้วนและเข้าใจง่าย ทำให้ฝ่าย IT สามารถรับรู้ถึงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้ล่วงหน้าและแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อเครือข่ายได้อย่างรวดเร็วก่อนที่ผู้ใช้งานจะได้รับผลกระทบ แทนที่จะคอยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นไปแล้วอย่างแต่ก่อน และด้วย Aruba Clarity นี้ก็ทำให้ Aruba AirWave สามารถตรวจสอบค่าต่างๆ หลากหลายได้ล่วงหน้า เช่น เวลาที่อุปกรณ์พกพาใช้ในการเชื่อมต่อกับสัญญาณ Wi-Fi, เวลาที่ใช้ในการยืนยันตัวตนเข้ากับ RADIUS Server, เวลาที่ใช้ในการรับ IP Address จาก DHCP ไปจนถึงเวลาที่ใช้ในการ Resolve ชื่อใดๆ จาก DNS นอกจากนี้ Clarity ยังช่วยให้ทีมงานผู้ดูแลระบบเครือข่ายสามารถรวบรวมข้อมูลเหล่านี้ได้มากขึ้นกว่าข้อมูลการเชื่อมต่อและการโรมมิ่งของผู้ใช้งาน แต่ยังสามารถทำการจำลองการเชื่อมต่อเครือข่ายโดยการใช้ Aruba Access Point ได้ทันทีที่ต้องการหรือตามช่วงเวลาที่กำหนดไว้เพื่อทดสอบประสิทธิภาพของระบบฯได้
ยิ่งไปกว่านั้น Aruba AirWave รุ่น 8.2 ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ก็จะทำให้เหล่าผู้เชี่ยวชาญทางด้าน IT สามารถตรวจสอบเวลาที่ผู้ใช้งานใช้ในการเข้าถึงเนื้อหาเว็บไซต์ในหมวดหมู่ที่มีความสำคัญและความน่าเชื่อถือต่ำได้ ทำให้การจัดการปัญหานี้ในเชิงรุกสามารถเป็นจริงขึ้นมาได้และทำให้ประสิทธิภาพของ Wi-Fi ดีขึ้น ฟีเจอร์ใหม่ๆ ของ VisualRF ใน AirWave เองก็ทำให้การตรวจสอบพื้นที่ที่สัญญาณ Wi-Fi ครอบคลุมสามารถทำย้อนหลังได้ถึง 24 ชั่วโมง ซึ่งจะช่วยให้วิศวกรระบบเครือข่ายไร้สายสามารถประหยัดเวลาและลดภาระงานในการใช้วิศวกรตรวจสอบปัญหาความครอบคลุมของ Wi-Fi ลงไปได้เป็นอย่างมากรักษาความปลอดภัยของระบบเครือข่ายลงลึกถึงระดับอุปกรณ์ ด้วย Aruba ClearPass ที่ถูกปรับปรุงมาอย่างทรงพลังเพื่อตอบรับความท้าทายของ Digital Workplace โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรวมถึงการมาของอุปกรณ์ IoT ด้วยแล้ว องค์กรต่างๆ ก็ต้องสามารถปรับแต่งนโยบายรักษาความปลอดภัยได้อย่างรวดเร็วและบังคับเปลี่ยนแปลงระบบทั้งหมดที่เกี่ยวข้องได้ตามต้องการ และด้วยการเติบโตของการใช้งานอุปกรณ์และแอพพลิเคชั่นบนคลาวด์ที่เชื่อมต่อผ่านระบบเครือข่ายขององค์กรเหล่านั้น ฝ่าย IT ขององค์กรก็ต้องการนโยบายกลางเพื่อใช้ในการปกป้องทรัพยากรต่างๆ ในการดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าอุปกรณ์เหล่านั้นจะเป็นอุปกรณ์ประเภทใดหรือเชื่อมต่อระบบเครือข่ายด้วยวิธีการใดก็ตาม
Aruba ClearPass Policy Manager รุ่น 6.6 ซึ่งใหม่ล่าสุดนี้ จะทำให้ฝ่ายรักษาความปลอดภัยสามารถสร้างนโยบายที่ตอบรับต่อการเติบโตของ BYOD และความท้าทายใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้งาน IoT ภายในองค์กรได้ ClearPass 6.6 สามารถทำการกำหนดโปรไฟล์สำหรับอุปกรณ์ต่อเชื่อมได้ทุกประเภท รองรับการยืนยันตัวตนแบบ Multi-factor บนอุปกรณ์พกพาก่อนทำการเชื่อมต่อระบบเครือข่ายได้ และยังสามารถตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกถึงเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับความปลอดภัยเช่นการเปลี่ยนเวลาและสถานที่ในการเข้าถึงระบบฯอีกทั้งเมื่อนำ ClearPass ไปทำงานร่วมกับ Next-generation Firewall จาก Palo Alto Networks และพาร์ทเนอร์ทางด้านระบบยืนยันตัวตนแบบ Multi-factor อย่าง Duo Security หรือ ImageWare แล้ว ClearPass ก็จะสามารถปกป้องอุปกรณ์, ระบบเครือข่าย และแอพพลิเคชั่นจากภัยคุกคามต่างๆ ได้อย่างทันท่วงทีประสิทธิภาพสูงขึ้นด้วยเทคโนโลยี Multi-gigabit บนทั้งระบบเครือข่ายแบบมีสายและไร้สายใหม่อรูบ้า 802.11ac Wave 2 Access Point ซีรีส์ 330 ล่าสุดมาพร้อมกับเทคโนโลยี HPE Smart Rate และทำให้ผู้ใช้งานมีประสบการณ์ในการทำงานได้อย่างต่อเนื่องด้วยประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดสำหรับแอพพลิเคชั่นที่ต้องใช้แบนด์วิดธ์ปริมาณมหาศาล และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแอพพลิเคชั่นที่ต้องการความต่อเนื่อง เช่น Microsoft Skype for Business และการโทรศัพท์ผ่าน Wi-Fi เป็นต้น ด้วยเทคโนโลยี ClientMatch ที่เป็นเอกลักษณ์ของอรูบ้า จึงมั่นใจได้ว่า Access Point ซีรีส์ 330 นี้จะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์พกพาที่รองรับ 802.11ac Wave 2 ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการใช้มาตรฐาน Multi-user multi-input multi-output (MU-MIMO) รวมถึงใน Access Point รุ่นล่าสุดนี้ยังมาพร้อมกับ Bluetooth Low Energy (BLE) ด้วยภายในตัว ทำให้การบริหารจัดการ Aruba Beacons ที่ใช้พลังงานแบตเตอรี่ และการรองรับการเพิ่มขยายบริการข้อมูลตำแหน่งสถานที่ภายในอาคารเป็นไปได้อย่างง่ายดาย
ในการเปลี่ยนแปลงธุรกิจไปยังรูปแบบของ Digital Workplace นี้ เหล่าพนักงานต่างก็มองการเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi เป็นหนทางหลักเหนือช่องทางอื่นๆ ทำให้องค์กรไม่ต้องมีพอร์ตสำหรับการเชื่อมต่อแบบมีสายโดยตรงเป็นจำนวนมากอีกต่อไป อย่างไรก็ดี การเติบโตอย่างรวดเร็วของอุปกรณ์ IoT นั้นก็ทำให้ระบบเครือข่ายการเชื่อมต่อแบบมีสายนั้นยังคงมีความสำคัญอยู่ Aruba 3810 Switch Series ล่าสุดที่ได้ผสานเทคโนโลยี HPE Smart Rate เข้ามานี้จะทำให้องค์กรสามารถเชื่อมต่อเครือข่ายด้วยความเร็ว 1/2.5/5/10Gbps ได้ และด้วยความสามารถในการเชื่อมต่อแบบ Multi-gigabit นี้เอง สวิตช์รุ่น 3810 นี้ก็จะช่วยสร้างความคุ้มค่าในการลงทุนระยะยาวให้แก่ฝ่าย IT ที่ต้องการระบบเครือข่ายที่ใช้งานได้ยืนยาวเพื่อรองรับเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายความเร็วสูงที่จะเกิดขึ้นมา และจะต้องการความเร็วสูงยิ่งกว่าระดับเพดาน 1Gbps ที่เป็นอยู่ในปัจจุบันขึ้นไปอีกมาก
Aruba 3810 Series ล่าสุดและสวิตช์สำหรับแคมปัสที่มีอยู่เดิมอย่าง Aruba 2530, 2920 และ 5400R นี้จะทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ ArubaOS-Switch รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการกลางที่ได้รวมเอาจุดเด่นและความสามารถที่ดีที่สุดจากระบบปฏิบัติการ ArubaOS และ HPE ProvisionOS เข้าด้วยกัน และด้วย Aruba Provision ASIC ที่ติดตั้งอยู่ภายใน เหล่าสวิตช์แห่งอนาคตนี้ก็ได้ทำให้การควบคุมอุปกรณ์เหล่านี้ด้วยการเขียนโปรแกรมแบบ Real-time เป็นจริงขึ้นมาได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการส่งข้อมูลทุกๆ Packet ที่ทำงานอยู่ในระดับ Line-rate ได้แต่อย่างใดลงมือทำได้อย่างรวดเร็วขึ้น ด้วยบริการจาก HPE Servicesในยุคที่ Digital ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงที่ทำงานอย่างในปัจจุบันนี้ องค์กรต่างๆ ก็ต้องเผชิญกับความต้องการที่จะนำเสนอประสบการณ์แบบผู้บริโภคให้ได้ในการทำงาน การจะเปลี่ยนแปลงสิ่งใดๆ ในระบบเครือข่ายและรูปแบบการสื่อสารในการทำงานภายในองค์กรขนาดใหญ่ไปพร้อมๆ กับการทำให้ธุรกิจยังคงดำเนินต่อไปได้นั้นอาจจะมีความท้าทายยิ่งกว่าที่คิด ด้วยความเชี่ยวชาญและประสพการณ์หลายสิบปีของ HPE Services ในการผสานรวมระบบจากผู้ผลิตที่หลากหลายและการติดต่อประสานงานภายในโครงการ จะช่วยลดความเสี่ยงและระยะเวลาที่ใช้ในการติดตั้งลงได้ บริการเหล่านี้จะนำเสนอตามความต้องการของผู้บริโภค, เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลจากอุปกรณ์ที่มีความสำคัญต่อธุรกิจซึ่งเชื่อมต่อเครือข่ายอยู่ บริการของ HPE จะช่วยให้การนำปัจจัยสำคัญในการมุ่งไปสู่การเป็น Digital Workplace อันได้แก่การกำหนดกลยุทธ์, การประเมิน, การออกแบบ, การติดตั้ง, การผสานระบบ, การบริหารจัดการ และการปรับแต่ง รวมไปจนถึงการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องให้แก่โซลูชั่นระบบเครือข่ายจากอรูบ้า
Read the HPE Services media advisory: http://www8.hp.com/us/en/hpe-news/press-release.html?id=2192492
อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับ HPE Services จากโฆษกของ HPE ได้ที่ http://www8.hp.com/us/en/hpe-news/press-release.html?id=2192492