MSN on April 22, 2016, 09:10:33 AM
กระทรวงวิทย์ เจ้าภาพหลักงาน “Startup Thailand 2016” แถลงข่าวความพร้อมและความเชื่อมั่นStartup ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย









กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับ 11 หน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน ประกอบด้วย กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เครือข่ายประชารัฐ และประชาคมสตาร์ทอัพไทย จัดงานแถลงข่าวงาน “Startup Thailand 2016” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 เมษายน – 1 พฤษภาคม 2559 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมี ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ร่วมเป็นประธานเปิดงาน

ซึ่งงาน “Startup Thailand 2016”นับว่าเป็นมหกรรมยิ่งใหญ่แห่งปีครั้งแรกในประเทศไทยเป็นเวทีเปิดตัวธุรกิจStartup กว่า 180ราย เพื่อสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับธุรกิจ Startup ให้เกิดการขยายธุรกิจและการสร้างตลาดใหม่ทั้งในและต่างประเทศนำไปสู่การเติบโตแบบก้าวกระโดดและสามารถผลักดันให้เศรษฐกิจด้านวิทยาศาสตร์ นวัตกรรมและเทคโนโลยีของประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของอาเซียน นอกจากจะเป็นการระดมผู้ประกอบการ Startup และนักลงทุนให้มีโอกาสมาพบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์และสร้างเครือข่ายให้เข้มแข็งแล้ว ยังเป็นการสร้างความตื่นตัว มอบองค์ความรู้ และสร้างแรงบันดาลใจในวงกว้างของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ไม่ว่าจะเป็น นักเรียน นักศึกษา อาชีวะ ผู้ที่พึ่งเริ่มทำงาน เกษตรกรยุคใหม่ ผู้บริหารองค์กร รวมทั้งยังช่วยให้นักธุรกิจเอสเอ็มอี ได้เข้าใจและรู้จักStartup สามารถนำไปต่อยอดธุรกิจได้นอกจากนี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นและสร้างแรงบันดาลใจให้กับ Startup รุ่นใหม่ จึงได้จัดให้มีการแข่งขัน Pitching Challengeให้เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของงานนี้ โดยจะประกาศผล Startup ที่ผ่านการคัดเลือก 10 ทีมสุดท้าย และจะตัดสินรอบชิงชนะเลิศด้วยการให้ Startup แต่ละทีมนำเสนอแผนของตนเองเป็นภาษาอังกฤษ ทีมละ 5 นาที ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่า 520,000 บาท ในวันที่ 30 เมษายน 2559 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกล่าวว่า “ในการประชุมครั้งที่ 1/2559 เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2559 ของคณะกรรมการพัฒนาระบบนวัตกรรมของประเทศ (คพน.) ซึ่งมี พลเอกประยุทธ์จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีเป็นประธานมีมติมอบหมายกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นตัวแทนรัฐบาลและเจ้าภาพหลักในการจัดงาน “Startup Thailand 2016” ร่วมกับ 11 หน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน ประกอบด้วย กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เครือข่ายประชารัฐ และประชาคมสตาร์ทอัพไทยเพื่อขับเคลื่อนและมุ่งมั่นที่จะนำประเทศไทยก้าวไปสู่การเป็นประเทศเศรษฐกิจฐานนวัตกรรมศูนย์กลางของอาเซียน ปัจจุบันจำนวนนักธุรกิจStartup ในประเทศไทยมีประมาณ 1,000 – 2,500 ราย และในปีนี้รัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้เกิดธุรกิจStartupให้มากขึ้น เพื่อให้เกิดการขยายฐานเศรษฐกิจและการกระจายตัวให้มากที่สุด โดยธุรกิจ Startup เหล่านี้จะไม่รวมตัวกันเฉพาะในกรุงเทพฯ เท่านั้นเพราะรัฐบาลมีนโยบายและวางแผนจะทำเขต Startup หรือ Startup Districtให้กระจายอยู่ทั่วประเทศสำหรับการจัดงาน “Startup Thailand 2016” ครั้งนี้จะจัดขึ้นภายใต้แนวคิด“Unite to Rise”ซึ่งเป็นการรวบรวม Startup และหน่วยงานที่มีความเกี่ยวข้องกับ Startup ทุกภาคส่วนเป็นครั้งแรกของประเทศไทยโดยเน้นการใช้สินค้าและบริการของ Startup นับเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่ได้เปิดเวทีให้ Startup ที่มีไอเดียดี มีความสามารถได้มารวมตัวกันเพื่อแสดงความคิดเห็นและความคิดสร้างสรรค์ พร้อมผลงานในการสร้างธุรกิจใหม่ ให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ใหม่ที่มีประโยชน์แก่นักธุรกิจStartupและนักลงทุน เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงและการร่วมทุน เพื่อส่งผลให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยที่สดใสในอนาคต”

ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) กล่าวว่า “นโยบายของกระทรวงไอซีที ชัดเจนในเรื่องของการสนับสนุนธุรกิจStartupเพื่อให้เกิดความสอดคล้องและนโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล(Digital Economy) ในฐานะเป็นหน่วยงานหลักด้านขับเคลื่อนเศรษฐกิจผนวกกับไอทีกระทรวงฯมีเป้าหมายในเชิงยุทธศาสตร์ด้วยการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการได้นำเทคโนโลยีใหม่ๆ ไปต่อยอดธุรกิจเพื่อยกระดับรายได้ และประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตนอกจากนี้ยังมีหน่วยงานภายใต้กระทรวงฯ ที่มีความแข็งแกร่งและพร้อมให้การสนับสนุนนักธุรกิจStartup ได้อย่างเต็มที่ อาทิ สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (SIPA) สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) และบริษัททีโอที จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมมือในการจัดงาน “Startup Thailand 2016”เพื่อเป็นการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศด้วยเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ พัฒนาคุณภาพชีวิตตามวิสัยทัศน์ประเทศไทยที่จะพัฒนาประเทศให้ "มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" ต่อไป

งาน  “Startup Thailand 2016” จะจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Unite to Rise” หรือ “รวมพลัง Startup เพื่อก้าวต่อไปของเศรษฐกิจไทย” นอกเหนือจากการรวมตัวกันของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนแล้ว ยังได้รับการสนับสนุนจากอีกหลายหน่วยงานมาร่วมกันค้นพบกับธุรกิจแนวใหม่และนวัตกรรมโมเดลธุรกิจที่ทำให้ธุรกิจเติบโตในเวลาอันรวดเร็วที่ไม่ควรพลาด ซึ่งงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 เมษายน – 1 พฤษภาคม 2559 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการจะจัดขึ้นในวันที่ 28 เมษายน 2559  พร้อมด้วยปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “วิสัยทัศน์และพลังสร้างชาติด้วย Startup Thailand” โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ “การขับเคลื่อน Startup Thailand : ฐานเศรษฐกิจใหม่ของไทย” โดย ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและ "Creative Economy : A Platform for Korean Startup Development"  โดย ฯพณฯ ชเวยางฮี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการวางแผนอนาคต ประเทศเกาหลีใต้ พร้อมกันนี้ยังเปิดเวทีสัมมนาโดยเชิญ Startup ที่มีเชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศกว่า 10 ประเทศ อาทิ หัวข้อ “Startup & New Investment Opportunities in Asia” โดย นายเดฟ แมคเคลอร์ ผู้ร่วมก่อตั้ง “500Startups”รวมถึงหัวข้ออื่นๆ ที่น่าสนใจและมีประโยชน์อีกมากมายตลอดภายในงานทั้ง 4 วัน ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 02-017-5555 call center : 1313 อีเมล์: contact@thailandstartup.orgเว็บไซต์: www.thailandstartup.orgหรือ Facebook: www.facebook.com/ThailandStartup
 
ที่มา Startup Thailand 2016 (สำหรับบรรณาธิการ)
“Startup Thailand 2016” เป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อรวมพลังของธุรกิจ Startup เพื่อก้าวต่อไปของเศรษฐกิจไทยโดยมีกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นเจ้าภาพหลัก พร้อมด้วยความร่วมมือกับ11 หน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน ประกอบด้วย กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เครือข่ายประชารัฐ และประชาคมสตาร์ทอัพไทย ร่วมกันจัดงานครั้งนี้ขึ้นภายใต้แนวคิด “Unite to Rise”สำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพได้แบ่งออกเป็น 8 ประเภทเพื่อให้สอดคล้องกับผู้ประกอบการในแต่ละด้านคือ ธุรกิจสตาร์ทอัพด้านการเกษตร (AgriTech) ธุรกิจสตาร์ทอัพด้านการส่งเสริมอุตสาหกรรม (IndustryTech) ธุรกิจสตาร์ทอัพด้านการสนับสนุนการทำงานของภาครัฐ (GovTech&EducationTech) ธุรกิจสตาร์ทอัพด้านอสังหาริมทรัพย์ (PropertyTech) ธุรกิจสตาร์ทอัพที่เกี่ยวกับการใช้ชีวิตประจำวัน (Lifestyle – Travel – Media) ธุรกิจสตาร์ทอัพด้านการเข้าถึงสินค้า (E-Commerce & Logistic) ธุรกิจสตาร์ทอัพด้านการเงิน (FinTech) ธุรกิจสตาร์ทอัพด้านการแพทย์และยารักษาโรค(MedTech& Healthcare)
« Last Edit: April 25, 2016, 08:37:44 AM by MSN »