Movie Guide: คุยกับ 3 นักแสดงนำจากภาพยนตร์เรื่อง “Shin Godzilla”
Shin Godzilla (ชิน ก็อดซิลล่า) เป็นหนังภาคล่าสุดของเฟรนไชส์ก็อดซิลล่า โดยอสูรกายขนาดยักษ์ที่สูงถึง 118.5 เมตร สูงสุดเท่าที่เคยมีมา พร้อมได้ 3 ซูเปอร์สตาร์มากฝีมือที่มาร่วมถ่ายทอดบทบาทสำคัญในเรื่อง อย่าง "ฮิโรกิ ฮาเซกาว่า" หลายคนอาจคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะคอภาพยนตร์และซี่รี่ส์ญี่ปุ่น เพราะฮิโรกิเพิ่งมี Attack of the Titans (แอดแทรค ออฟ ดิ ไตตัน) ภาค1และ2 นอกจากนี้ยังคว้ารางวัล Best Supporting Actor (เบสท์ ซัพพอร์ทติ้ง แอคเตอร์) จากภาพยนตร์ซีรี่ส์ I'm Mita , Your Housekeeper (แอม มิตา, ยัวส์ เฮ้าส์คีพเปอร์) ในการประกาศรางวัลTelevision Drama (เทเลวิชั่น ดราม่า) ครั้งที่ 71 โดยใน Shin Godzilla (ชิน ก็อดซิลล่า) ฮิโรกิรับบทเป็น รันโด้ ยางูจิ รองหัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
"ซาโตมิ อิชิฮาระ" นางแบบนักแสดงซูเปอร์สตาร์สาวที่มีความสามารถด้านการแสดงโดดเด่น มีผลงานมากมายทั้งภาพยนตร์และซี่รีส์ทางโทรทัศน์ ไม่ว่าจะเป็น My Granpa (มาย แกรนป้า) ที่เธอแสดงสามารถกวาดรางวัลจากสถาบันต่างๆมากมายถึง 6 สถาบัน, Teru Teru Kazoku, H2 ที่สร้างจากการ์ตูนวัยรุ่นระดับเบสท์เซลเลอร์ ของอาดาจิ มิซึรุ รวมไปถึงผลงานภาพยนตร์ที่เคยเข้ามาฉายในเมืองไทยอย่าง The Bandage Club (ดิ แบรนเอจ คลับ) และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผลงานล่าสุดที่เปลี่ยนลุคสวมแว่นกลายเป็นนักวิทยาศาสตร์สุดเนิร์ดบ้าพลังในภาพยนตร์สุดฮิตอย่าง Attack On Titan (แอดแทรค ออฟ ดิ ไตตัน)ฯลฯ สำหรับใน SHIN GODZILLA (ชิน ก็อดซิลล่า) ซาโตมิ อิชิฮาระ รับบทเป็น เอเจนท์หรือเจ้าหน้าที่ทางการจากอเมริกา ที่เข้ามารับมือกับสถานการณ์ก็อดซิลล่าถล่มเมืองร่วมกับทีมเจ้าหน้าที่จากรัฐบาลญี่ปุ่น
และ "ยูทากะ ทาเคโนะอุจิ" นายแบบ ซูเปอร์สตาร์นักแสดงหนุ่มหล่อเซอร์ขวัญใจสาวๆจากผลงานที่ผ่านมาอย่าง "สื่อรักอินตอร์เนต (WithLove – วิท เลิฟ)", Beach boys และ ซี่รี่ส์แอค ชั่นดราม่าสุดเข้มข้นอย่าง ทีมล่าทรชน(boss-บอส) ที่ฉายทางไทยพีบีเอส โดยในภาพยนตร์เรื่อง SHIN GODZILLA (ชิน ก็อดซิลล่า) ยูทากะรับบทเป็น ฮิเดกิ อาคาซากะ ที่ปรึกษาพิเศษของนายกรัฐมนตรี
ซึ่งนักแสดงทั้ง 3 ได้มาพูดคุยเกี่ยวกับการทำงาน และความรู้สึกหลังจากที่ภาพยนตร์เรื่อง Shin Godzilla กำลังจะเข้าฉายเมืองไทยในวันที่ 8 กันยายนนี้
: ช่วยเล่าความรู้สึกเมื่อภาพยนตร์ถ่ายทำอย่างเสร็จสมบูรณ์แล้ว
ทาเคโนะอุจิ : การที่ผมได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์ "ก็อดซิลล่า" ซึ่งกำกับโดยผู้กำกับยอดฝีมือขนาดนี้ คงจะเป็นความรู้สึกที่ผมจะจดจำไปชั่วชีวิต ผมคิดว่าคงไม่สามารถแสดงความประทับใจออกมาได้หมดในระยะเวลาอันสั้นนะครับ ผมคงพูดได้เพียงแค่ว่า มันเป็นหนังที่ดูแล้วเกิดความรู้สึกฮึกเหิมมาก ทั้งที่มันเป็นหนังที่เต็มไปด้วย CG แต่ผมกลับไม่รู้สึกว่ามันเป็นหนังไซไฟเลยแม้แต่นิดเดียว หนังนั้นเปลี่ยนรูปแบบไปตามกาลเวลาและยุคสมัย ซึ่งหนังสัตว์ประหลาดญี่ปุ่นในอดีต พูดได้เลยว่า มันก็ไม่ได้สมจริงสักเท่าไหร่ แต่เราก็ไม่ถือสาเพราะคิดว่ามันก็คือหนัง ตอนที่ผมได้อ่านบทหนังเรื่องนี้ บทหนามากครับ ตัวหนังสือเต็มพรืดไปหมด จนผมจินตนาการไม่ออกเลยว่ามันจะออกมาอย่างไร แม้กระทั่งตอนระหว่างถ่ายทำ แต่ทุกอย่างมันชัดเจนอยู่ในหัวผู้กำกับทั้งหมดเลย ผมเองก็ต้องปรับเพื่อให้เข้ากับความคิดผู้กำกับ ให้มันออกมาสมบูรณ์ที่สุด พอหนังเสร็จแล้ว ตอนได้ดู ก็รู้สึกภูมิใจมาก หลักๆ เพราะหนังมันสนุกน่ะครับ และดีใจมากที่ได้มีส่วนร่วมกับภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้
ฮาเซกาว่า : รู้สึกปลื้มสุดๆเลยครับ เพราะนี่เป็นภาพยนตร์ก็อดซิลล่าแนวใหม่ที่ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถเลียนแบบได้ แถมยังอัดแน่นด้วยความบันเทิง ผมเคยดูวีดิโอเมื่อตอนเด็กๆ ผมกลัวมันมากตอนนั้น แต่มันทำให้ผมรู้ว่าหนังญี่ปุ่นมันน่าทึ่งขนาดไหน และคิดว่าอยากจะให้ทุกคนๆได้รับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ไวๆครับ
อิชิฮาระ : ฉันว่าพวกเขาต้องกล้ามากที่ทำหนังแบบนี้ออกมาในตอนนั้น มันยอดมากที่เจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้ เป็นหนังเฟรนไชส์หนังที่ยาวนานมาถึง 60 ปี ซึ่งฉันเองก็เพิ่งจะได้ดูไปเมื่อวันก่อนนี้ค่ะ รู้สึกกลัวจนตัวสั่นเลย แม้ว่าญี่ปุ่นในตอนนี้จะไม่ได้ตกอยู่ในสถานการณ์การแพ้สงครามแล้วก็ตาม แต่ลึกๆ แล้วเราก็สามารถเข้าใจความรู้สึกนั้นได้เมื่อหลายวันก่อน ท่านประธานาธิบดีบารัก โอบามา ได้มาเยี่ยมเยียนพร้อมให้กำลังใจแก่ผู้ประสบภัยที่จังหวัดฮิโรชิม่า โดยมีการคำนึงถึงโทษของระเบิดระเบิดปรมาณู และสารกัมมันตรังสี ซึ่งฉันอยากจะให้ทุกคนได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้และไตร่ตรองดูกันนะคะ
: ช่วยเล่าบทบาทของแต่ละคน
คุณฮาเซกาว่า: บทบาทของผมคือเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เป็นบทที่ต้องเผชิญหน้ากับก็อดซิลล่าโดยตรง ยางูจิเป็นวีรบุรุษบูชิโดแบบดั้งเดิม ต้องฝึกให้ตัวเองฮึกเหิม ให้กลายเป็นผู้นำให้ได้ เขาแสดงความเป็นผู้นำภายในองค์กร และช่วยกระชับความสามัคคีความแข็งแกร่ง เป็นคนที่เป็นความหวังของอนาคตญี่ปุ่น โจทย์ของผมก็คือ ผมจะทำแบบไหนให้กลายเป็นนักการเมืองที่ทุกคนเชื่อ เป็นชายอายุ 30 กว่าๆ เป็น ได้เป็นเลขาฯ คณะรัฐมนตรี ผมพยายามเล่นให้มันดูมีตัวตนจริงๆ คิดว่าตัวละครต้องเจอปัญหาอะไรบ้าง มันก็มีปัญหามากมายเกิดขึ้น ทั้งในองค์กร ทั้งประเทศ อยากที่จะปกป้องพลเมืองในประเทศ และนั่นแหละพอคิดแบบนี้ ตัวละครมันก็ค่อยๆ พัฒนาขึ้นมาเอง ส่วนอื่นๆ ผมก็จะถามผู้กำกับอันโนะเอา เขาจะค่อยๆ เรียนรู้และเติบโตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครับ
ทาเคโนะอุจิ : ผมได้รับบทเป็นนักการเมืองครับ ผมไม่เคยเล่นบททำนองนี้มาก่อนเลย ปกติผมก็จะเห็นนักการเมืองจากในทีวี ครั้งนี้ต้องมาเล่นเอง มันตรงกันข้ามกับบุคลิกของผมเลย ผมไม่รู้จะแสดงยังไง พออยู่ในกองถ่าย พอไม่เข้าใจอะไรก็ถามผู้กำกับก่อน ก็ได้รับคำแนะนำอย่างดี ความคิดของผู้กำกับนั้นสุดยอดจริงๆ เขารู้ลึก รู้ไปหมด นี่คือสิ่งที่ผมประทับใจตอนถ่ายทำกับคุณอันโนะ บทของคุณฮาเซกาว่าเป็นนักการเมืองที่อ่อนหัด เขาจะตะโกนออกคำสั่งตลอดเวลาว่า "ยางุจิ อย่าทำแบบนั้น อันนั้นถูกแล้ว อันนั้นไม่ได้" เพื่อให้คุณฮาเซกาว่าเล่นได้เข้าบทบาท ซึ่งมันตรงกับบทบาทของผมเลย บทของผมตรงกันข้ามกับบท ยางุจิ มากๆ เลย ผมไม่รู้ว่า บุคลิก 2 แบบที่แตกต่างกันนี้ จะอยู่ในหัวของผู้กำกับคนเดียวได้อย่างไร
อิชิฮาระ : บทที่ฉันได้รับคือ คายาโกะ แอน แพตเตอร์สัน เป็นคนอเมริกันที่เป็นผู้ติดตามพิเศษของประธานาธิปดีสหรัฐ พ่อของเธอมีอำนาจมันทำให้เธอโตมาเป็นผู้หญิงที่มั่นใจในตัวเอง แต่คำพูดของยางูชิทำให้เธอได้นึกถึงรากเหง้าความเป็นญี่ปุ่นในตัวเธอ นอกจากเรื่องอสูรกายมันยังเป็นเรื่องราวการเติบโตของผู้หญิงคนหนึ่งด้วย ตอนนี้ฉันสวมบท มันมีบางช่วงที่ฉันรู้สึกเหมือนตอนที่ญี่ปุ่นถูกคลื่นซึนามิถล่มเมื่อปี 2011 "มันเป็นเรื่องที่พวกเราไม่สามารถมองข้าม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ระเบิดปรมาณู ฉันคิดว่าฉันต้องเรียนรู้ว่าควรศรัทธาในอะไร ถึงแม้ว่าจะมีความแคลงใจอยู่บ้าน ก็อดซิลล่าช่วยให้ฉันเติบโตขึ้นมาก
: การทำงานในกองถ่ายของคุณเป็นอย่างไรบ้าง
อิชิฮาระ : ในช่วงระหว่างถ่ายทำ ฉันปวดท้องเพราะโรคกระเพาะกำเริบทุกวันเลยค่ะ จึงทำให้รู้สึกเคว้งมาก ทั้งยังรู้สึกกดดันสูงมากด้วย ตอนเริ่มถ่ายซีนแรกๆฉันเครียดมาก ฉันไม่เข้าใจ เวลาถ่ายฉากที่ต้องมองก็อดซิลล่า (ต้องมองอากาศไปก่อนเพราะต้องไปทำ CG เพิ่มทีหลัง) ฉันต้องทำแบบไหนนะ ต้องมองยังไง ฉันเริ่มรู้สึกท้อแท้ ก็เลยบอกตัวเองซ้ำๆ ว่าอย่ายอมแพ้นะ ด้วยบทบาทในเรื่อง ฉันต้องเป็นคนที่ควบคุมอารมณ์เก่งเสียด้วยสิ แล้วพอถ่ายไปเรื่อยๆ เปลี่ยนซีนไปเรื่อยๆ ก็ค่อยๆ เล่นได้ ความรู้สึกเคว้งก็ค่อยๆ หายไป ค่อยๆ ปรับตัวได้
:ชินก็อดซิลล่ามีกำหนดฉายทั่วโลก 100 ประเทศ เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน รู้สึกอย่างไรที่ได้รับความสนใจขนาดนี้ แล้วนี่ก็ถือว่าเป็นภาพยนตร์หนังก็อดซิลล่าในบรรดาก็อดซิลล่าเรื่องอื่นๆ ที่ได้รับความสนใจมากขนาดนี้
ฮาเซกาว่า:เยี่ยมไปเลยครับ ก็อดซิลล่าถือเป็นคาแรคเตอร์สัตว์ประหลาดที่คนรู้จักและให้ความสนใจกันทั่วโลก ก็แน่นอนว่า ด้วยชื่อเสียงของคุณผู้กำกับอันโนะ ทำให้มันสร้างความคาดหวังให้กับผู้ชมขึ้นไปอีก แล้วก็ดีใจมากครับที่หนังได้ฉายในหลายๆ ประเทศ สมมติว่าเวลาผมไปทำงานในต่างประเทศ คนก็จะถามว่า คุณคือนักแสดงเรื่องก็อดซิลล่าใช่ไหม แล้วการที่ก็อดซิลล่าไปฉายในเมืองนอก อาจจะทำรายได้ของหนังเพิ่มขึ้นด้วย(หัวเราะ)ผมดีใจมากครับ"
ทาเคโนะอุจิ:ก็รู้สึกดีใจจริงๆ เพราะตอนแรกผมก็เหมือนกับคุณผู้กำกับอันโนะครับ ว่าเราจะรับงานนี้ดีไหมนะ แต่ว่าพอตอนนี้หนังมันเสร็จแล้ว ก็รู้สึกว่ามันเป็นหนังที่ดีมากๆ เลย ดูจบแล้วมีความฮึกเหิมสุดๆ และหนังยังมีความบันเทิงมากด้วย แถมก็อดซิลล่าในครั้งนี้ มันก็มีความใหญ่ตั้ง 118.5 เมตร ความใหญ่ของมัน ก็รู้สึกไม่ได้อยากให้แค่คนญี่ปุ่นได้เห็นน่ะครับ แต่ผมก็อยากให้คนทั่วโลกได้เห็นเหมือนๆ กัน ที่สำคัญ ผมก็อยากให้ทุกคนแสดงความคิดเห็นที่มีต่อหนัง และนั่นก็คือสิ่งที่รู้สึกดีใจ เวลาที่มีคนพูดถึงงานของเรา
อิชิฮาระ:เป็นเวลา 60 ปีแล้วที่โตโฮสร้างก็อดซิลล่ามาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นใคร เกิดในช่วงเวลาไหน ก็ต้องรู้จักก็อดซิลล่ากันหมด การได้ไปฉาย 100 ประเทศก็สุดยอดมากๆ เลย จนถึงตอนนี้ แม้จะอยู่มา 60 ปีแล้ว ก็อยากให้มันมีไปเรื่อยๆ อยากให้ทั่วโลกได้เห็น ก็ถือว่าสุดยอดมากค่ะ
: นักแสดง การถ่ายทำช่วงไหนที่คิดว่ายากที่สุด
ฮาเซกาว่า:ผมคิดว่าแสดงบทบาทการเมืองให้ดูสมจริงนั้น ค่อนข้างยากลำบาก บทบาทของผมก็จะเกี่ยวข้องกับนักการเมืองครับ ถ้าพูดถึงนักการเมืองละก็ ผมก็เห็นทั่วไปตามสื่อโทรทัศน์แค่นั้นครับ ไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบาง อย่างเช่น เมื่อมีสถานการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น ก็จะมีกล้องถ่ายล้อมรอบพร้อมกับการถูกรุมถาม เป็นสิ่งที่ทำได้ยากลำบากมากๆครับเพื่อให้ดูสมจริง แม้ว่าผมจะถามคนรู้จักที่ทำงานเกี่ยวข้องกับการเมือง แต่ท้ายที่สุดแล้วก็คงต้องลองสัมผัสดูเอาเองนะครับ ทุกครั้งที่เล่นก็ปรึกษาคุณผู้กำกับอันโนะไปด้วยครับ
ทาเคโนะอุจิ:ขณะถ่ายทำฉาก CG นั้นเนื่องจากข้างหลังเป็นฉากสีเขียว พอมองไปยังจอมอนิเตอร์ จึงทำได้เพียงจินตนาการภาพเอาเองครับ ซึ่งเมื่อก็อดซิลล่าปรากฏตัว ก็จำเป็นต้องแสดงท่าทางตกใจพร้อมกับพูดคำว่าว่า โอ้ว ซึ่งผมไม่อยากแสดงออกมาให้มันดูไม่สมจริง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องคิดว่าจะต้องแสดงในลักษณะไหนดี ซึ่งนั้นแหละครับเป็นสิ่งที่ยากสำหรับผม "Shin Godzilla" ที่สร้างมาเพื่อปรับเปลี่ยนเสน่ห์ก็อดซิลล่าในแบบเดิมๆ หนังจะให้ภาพการสร้างความเสียหายให้กับบ้านเมือง ซึ่งผมดูแล้วก็รู้สึกตื่นตะลึงตามไปด้วย บท ยางุจิ ซึ่งแสดงนำโดยคุณฮาเซกาว่านั้นสะท้อนให้เห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยสีหน้าที่แสดงออกมาในช่วงที่ถูกต้อนจนมุมในยามขับขันนั้นมันรู้สึกตราตรึงใจผมเป็นอย่างมากเลยครับ และนี่ก็เป็นครั้งแรกในบทบาทของนักการเมืองซึ่งผมก็อยากจะทำมันให้ออกมาดีที่สุด อีกทั้งยังได้รับคำแนะนำมากมายจากคุณผู้กำกับอันโนะ
อิชิฮาระ:ช่วงก่อนที่จะถ่ายทำค่อนข้างลำบากค่ะ ตอนที่ได้รับบทภาพยนตร์มานั้น มีแต่ตัวหนังสือเต็มไปหมดแถมยังเป็นคำที่เข้าใจยากอีกด้วย ศัพท์เกี่ยวกับข่าวอะไรทำนองนั้นค่ะซึ่งมันยากต่อการเข้าใจ มีส่วนที่ไม่เข้าใจเยอะมาก จึงจำเป็นที่จะต้องหาความหมายเพิ่มเติม และค่อยๆจดบันทึกค่ะ อารมณ์แบบอ่านไปด้วยบันทึกไปด้วย อ่านครั้งเดียวไม่เข้าใจค่ะ ต้องอ่านหลายๆรอบ พอยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้นกับบทบาทค่ะ เริ่มรู้สึกกลัวและกดดันที่ตัวเองต้องมาร่วมงานที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ มันเป็นบทภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ค่ะ ตอนอ่านฉันก็ไม่อยากให้มีเรื่องร้ายๆ เกิดขึ้น อ่านไปฉันจึงรู้สึกกลัวจนตัวสั่นไปด้วยตลอด
: อยากฝากอะไรทิ้งท้าย
อิชิฮาระ : ฉันได้ข้อคิดว่า ทุกการกระทำนั้นส่งผลต่อเนื่องอะไรบ้าง นั่นทำให้ฉันคิดว่าต่อไปนี้ ฉันก็จะใช้ชีวิตโดยการคำนึงถึงอนาคตเป็นหลัก ฉันรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้ร่วมแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่ว่าจะผ่านไปสักกี่ 10 ปีก็จะไม่มีวันลืมเลยค่ะ ฝากถึงท่านผู้ชมว่าถ้าชอบส่วนไหน มีความรู้สึกยังไง มีประสบการณ์ระหว่างชมอย่างไร ตอนดูจบก็ช่วยกันแสดงความคิดเห็นกันเยอะๆ นะคะ
ทาเคโนะอุจิ "Shin Godzilla" สร้างโดยจินตนาการของคุณอันโนะ (ผู้กำกับ) โดยทำให้ก็อดซิลล่ามีตัวตนในประเทศญี่ปุ่นขึ้นมาอีกครั้ง แต่ผมกลับคิดว่ามันไม่ใช่เฉพาะที่ประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น โดยอยากให้ทุกคนทั่วโลกได้รับชมและแสดงความคิดเห็นกันเยอะๆนะครับ
ฮาเซกาว่า: ในระหว่างการถ่ายทำนั้นเต็มไปด้วยความยากลำบาก ซึ่งผมก็ได้สัมผัสมันมาแล้ว ทั้งทำงานหามรุ่งหามค่ำ การต้องเสี่ยงอันตราย แต่ก็ดีใจที่ได้ร่วมชะตากรรมพร้อมกับทีมงานทั้งหมด 328 คน โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ยังแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่ "ญี่ปุ่นยังคงมีอยู่" พวกเราจะได้เห็นการทำงานเป็นทีมเวิร์คที่ดีตามวิถีของคนญี่ปุ่น การให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาร่วมกัน มันเป็นประเด็นที่ดีมากๆ นะครับ ผมจึงอยากเชิญชวนให้ทุกคนรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยนะครับ
เตรียมสัมผัสกับความหวาดสะพรึงที่น่าตื่นตาที่สุด และการทำงานของรัฐบาลที่ต้องทำทุกอย่างเพื่อปกป้องประเทศให้รอดพ้นจาก "ก็อดซิลล่า" ใน "SHIN GODZILLA (ชิน ก็อดซิลล่า)" 8 กันยายนนี้ ในโรงภาพยนตร์