activity on March 09, 2016, 10:09:42 PM
“ZIC” (ซิค) ทุ่มงบกว่า 80 ล้านบาท สร้างแบรนด์ต่อเนื่อง ทั้งอะโบฟและบีโลว์เดอะไลน์หวังโตอีกเท่าตัว







K_Phuwadate




Phuwadate_Seksan



“ZIC” (ซิค) น้ำมันเครื่องระดับพรีเมียมจากเกาหลีใต้ เผยผลประกอบการปี 2558 โตสูงกว่า 5%  รุกหนักสร้างแบรนด์ต่อเนื่อง อัดงบ 80 ล้านบาท จัดเต็มกลยุทธ์ทั้งอะโบฟและบีโลว์เดอะไลน์ พร้อมดึง “ซิโก้” เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ หวังโตอีกเท่าตัวในตลาดเมืองไทย

นายเสกสรร ศรีศุภโอฬาร กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอราโนส จำกัด ในเครือ เค.เอ็ม. กรุ๊ป ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายน้ำมันเครื่อง ZIC (ซิค) จากกลุ่มบริษัท SK Group ยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ เปิดเผยว่าผลประกอบการของน้ำมันเครื่อง ZIC ในปี 2558 เป็นที่น่าพึงพอใจ โดยมีอัตราเติบโตกว่า 5% ซึ่งถือว่าเติบโตสูงกว่าตลาดโดยรวม หลังบริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการจัดกิจกรรมบีโลว์เดอะไลน์กับผู้แทนขาย (Dealers) ที่มีอยู่ทั่วประเทศอย่างต่อเนื่องทุกๆ เดือน รวมทั้งร่วมสนับสนุนรายการแข่งขันกีฬาประเภทต่างๆ อาทิ การแข่งขัน D1 Grand Prix Thailand, การแข่งขัน Big Bike รายการ ZIC Big Day การสนับสนุนทีมสโมสรฟุตบอลราชประชา เป็นต้น ทำให้น้ำมันเครื่อง ZIC เริ่มเป็นที่สนใจทดลองใช้ในกลุ่มผู้บริโภค ด้านยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านผู้แทนขายที่มีอยู่เกือบ 2,000 ร้านค้า มีอัตราเติบโตขึ้นอย่างชัดเจน โดย 15% ของผู้แทนขายขึ้นป้ายจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ZIC ในสัดส่วน 100%

สำหรับภาวะตลาดน้ำมันเครื่องของประเทศไทยในปีนี้มีแนวโน้มซบเซาต่อเนื่องตามสภาพเศรษฐกิจ ส่งผลให้ผู้เล่นหลักต่างโหมโฆษณาและอัดโปรโมชั่นเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดของตน รวมทั้งบริษัทโอราโนสในฐานะผู้แทนจำหน่ายน้ำมันเครื่อง ZIC ในเมืองไทย พร้อมทุ่มงบการตลาดราว 80 ล้านบาท เปิดเกมรุกสื่อสารการตลาดครบวงจร ทั้งอะโบฟเดอะไลน์ บีโลว์เดอะไลน์ และโซเชี่ยลมีเดีย เน้นสร้างแบรนด์ ZIC ให้เป็นที่รู้จักและใกล้ชิดกับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ศึกษาเรื่องยานยนต์และรักรถมากเป็นพิเศษ

“น้ำมันเครื่อง ZIC ผลิตจาก SK Lubricants โรงกลั่นน้ำมันใหญ่อันดับ 2 ของโลก ในเครือของ SK Group และมีจำหน่ายมากกว่า 43 ประเทศทั่วโลก เนื่องจากทาง SK Group เล็งเห็นว่าตลาดน้ำมันเครื่องในประเทศไทยมีศักยภาพในการเติบโตสูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในอาเซียน ดังนั้น ถือเป็นปีแรกที่บริษัทฯ ใช้งบการตลาดสูงสุดตั้งแต่นำผลิตภัณฑ์ ZIC เข้าสู่ตลาดน้ำมันเครื่องเมืองไทยเมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว และเป็นปีแรกที่ทำตลาดอะโบฟเดอะไลน์อย่างจริงจังในสัดส่วนสูงถึง 50% โดยช่วงเดือนมีนาคมเป็นต้นไป บริษัทฯ เตรียมส่งสปอตโฆษณาออกอากาศทางโทรทัศน์จำนวน 2 ชุด เพื่อสร้างความตระหนักในแบรนด์โดยสร้างความแตกต่างภายใต้แนวคิด ‘ทำไมต้องเลือกใช้น้ำมันเครื่อง ZIC’

ที่สำคัญบริษัทฯ  ได้แต่งตั้ง ‘ซิโก้’ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนนักฟุตบอลทีมชาติไทยและอดีตนักเตะระดับตำนานขวัญใจมหาชน มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับน้ำมันเครื่อง ‘ZIC’ การที่ชื่อของคุณซิโก้สะกดด้วย ZICO สามารถเชื่อมโยงถึงแบรนด์ ZIC ได้เป็นอย่างดี ดังนั้น การสื่อสารแบรนด์ผ่านคุณซิโก้จะยิ่งทำให้ผู้บริโภคจดจำชื่อแบรนด์ได้ง่ายขึ้น และมั่นใจในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่อง ZIC มากขึ้นไปอีก”

นายภูวเดช เทียนวุฒิชัย   รองกรรมการผู้จัดการและผู้อำนวยการฝ่ายขาย กล่าวถึงจุดเด่นของน้ำมันเครื่อง ZIC ซึ่งได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในกลุ่มลูกค้าตลาดพรีเมียมว่าเป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรมนำเข้า 100% ที่มีความโดดเด่นด้านคุณภาพของวัตถุดิบพื้นฐานในน้ำมันเครื่อง คือ Base Oil Group 3 ลิขสิทธิ์เฉพาะของ SK Lubricants ที่มีคุณสมบัติดีเยี่ยมจนมียอดจำหน่ายติดอันดับ 1 ของโลก ความบริสุทธิ์และค่าความหนืดที่มีอยู่สูงในน้ำมัน ช่วยทำความสะอาดและปกป้องการสึกหรอของเครื่องยนต์ได้อย่างดีเยี่ยม เครื่องยนต์เดินเงียบขึ้นอย่างชัดเจน  นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้านการประหยัดเชื้อเพลิงและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สร้างความพึงพอใจให้กับผู้บริโภคตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ และตอบโจทย์ความคุ้มค่าในการใช้งานทุกบาททุกสตางค์

นอกจากนี้ น้ำมันเครื่อง ZIC ยังมีกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย สามารถใช้งานได้กับรถยนต์ทุกประเภท ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน ดีเซล และแก๊ส ตั้งแต่ไฮเปอร์คาร์, ซูเปอร์คาร์, สปอร์ต, อีโคคาร์, รถเอนกประสงค์, กระบะ รถตู้ไปจนถึงรถจักรยานยนต์ และบิ๊กไบค์ นับเป็นอีกจุดแข็งหนึ่งที่ทำให้น้ำมันเครื่อง ZIC มีการเติบโตตามการขยายตัวของตลาดยานยนต์ในประเทศไทยที่มีกว่า 30 ล้านคันในปัจจุบัน 

“ปีนี้เราจะเน้นทำกิจกรรมส่งเสริมการขายกับผู้บริโภคมากขึ้น อาทิ ซื้อน้ำมันเครื่อง ZIC แถมเสื้อคุณซิโก้ หรือซื้อน้ำมันเครื่องดีเซลแถมน้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซด์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่บริษัทฯ เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว รวมทั้งแคมเปญชิงโชคพาลูกค้าผู้โชคดีไปทำกิจกรรมคู่กับแบรนด์แอมบาสเดอร์ กิจกรรมการออกทรูปกับลูกค้าทั่วประเทศ เป็นต้น สำหรับปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าเพิ่มยอดขายประมาณเท่าหนึ่ง อีก 3 ปีข้างหน้าจะต้องครองส่วนแบ่งการตลาด 3% ของตลาดน้ำมันเครื่องโดยรวมในประเทศไทย สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง คือ กลุ่มอีโคคาร์ และกลุ่มบิ๊กไบค์ ซึ่งเติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจ โดยหวังว่าจะสามารถสร้างอัตราการเติบโตประมาณ 10% ในกลุ่มผู้ใช้น้ำมันเครื่องบิ๊กไบค์”
« Last Edit: March 09, 2016, 10:12:03 PM by activity »