MSN on February 29, 2016, 03:21:48 PM
SIRI ผลประกอบการปี 2558 เติบโตสูงสุด ทุบทุกสถิติ!! มียอดขายกว่า 28,512 ล้านบาท เติบโตขึ้นถึง 222%



           SIRI ผลประกอบการปี 2558 เติบโตสูงสุด ทุบทุกสถิติ!!  มียอดขายกว่า 28,512 ล้านบาท เติบโตขึ้นถึง 222%  รายได้รวมสูงถึง 38,500 ล้านบาทเติบโต 30% และเกินเป้าที่วางไว้ กำไรสุทธิสูงขึ้นจากปีก่อน พุ่งทะลุ 3,500 ล้านบาท

          แสนสิริสรุปผลการดำเนินงานปี 2558 มียอดขายกว่า 28,512 ล้านบาท เติบโตขึ้นถึง 222% จากปีก่อน รายได้พุ่งทะลุ 38,500 ล้านบาท เติบโตขึ้นถึง 30% และเกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้ นับเป็นรายได้สูงที่สุดที่แสนสิริเคยทำได้ ขณะที่สามารถลดสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายได้ลดลงตามแผนงาน EFG จาก 18.6% เป็น 16.8% ของรายได้ ส่งผลกำไรรวมทะลัก 3,500 ล้านบาทสูงขึ้นจากปีก่อนและสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จ่อคิวเปิดตัว Flagship Project คอนโดพร้อมอยู่บนถ.วิทยุ อย่างเป็นทางการต้นเดือนมีนาคมและเปิดการขายในเดือนตุลาคมนี้

          นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฎิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยถึงคาดการณ์ผลการดำเนินธุรกิจในปี 2558 ว่าบริษัทมียอดขาย(พรีเซล) ประมาณ 28,512 ล้านบาท เติบโตขึ้นถึง 222% จากปีก่อน ที่มียอดขาย 8,800 ล้านบาท จากความสำเร็จทั้งจากการร่วมทุนกับบีทีเอส (BTS) ตามแผนความร่วมมือในระยะ 5 ปีที่แสนสิริและกลุ่มบีทีเอสมีแผนพัฒนาคอนโดมิเนียมในแนวเส้นทางระบบขนส่งมวลชนภายใต้บริษัทร่วมทุนจำนวน 25 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1 แสนล้านในช่วง 5 ปีแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ 2 องค์กรที่มีความพร้อมและเสริมสร้างความแข็งแกร่งซึ่งกันและกัน ด้วยความสำเร็จจากการขายคอนโดมิเนียมหมดอย่างรวดเร็วในวันเดียวทุกโครงการที่เปิดในปีที่ผ่านมา ทั้งโครงการ เดอะ โมนูเมนต์ สนามเป้า และ โครงการภายใต้บริษัทร่วมทุนกับบีทีเอส (BTS) ในแบรนด์ "เดอะ ไลน์" ทั้ง 3 โครงการ ได้แก่ เดอะ ไลน์ จตุจักร-หมอชิต, เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 71 และ เดอะ ไลน์ ราชเทวี รวมทั้งการที่ลูกค้าให้การตอบรับโครงการที่อยู่อาศัยพร้อมอยู่ (Ready to Move in) เป็นอย่างดีต่อเนื่องทำให้รับรู้รายได้ทันทีในปีที่ผ่านมา

          ขณะที่บริษัทมีรายได้รวมในปี 2558 ประมาณ 38,500 ล้านบาท เกินจากเป้าหมายที่วางไว้ 37,000 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่แสนสิริเคยทำได้ โดยแบ่งเป็นรายได้จากการขายรวมกับการที่บริษัทเริ่มมีรายได้จากการบริหารโครงการภายใต้บริษัทร่วมทุนกับบีทีเอส ซึ่งนับเป็นปีที่ดีที่สุดของแสนสิริ ทั้งนี้รายได้ที่ดีในปีที่ผ่านมาเติบโตโดดเด่นจากการทยอยรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมที่ทยอยโอนทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวม 42 โครงการ แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 14 โครงการและต่างจังหวัด 28 โครงการ อาทิ โครงการเดอะ เบส พาร์คอีสต์ สุขุมวิท77, ดีคอนโด แคมปัส รีสอร์ท บางแสน, ดีคอนโด โคโค่ สุราษฎร์ธานี, เดอะ เดค ป่าตอง ภูเก็ต และบ้านไม้ขาว ภูเก็ต เป็นต้น รวมถึงความสำเร็จจากการขายและโอนโครงการแนวราบต่างๆ อาทิ โครงการเศรษฐสิริ จรัญฯ-ปิ่นเกล้า, เศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑาและฮาบิเทีย โมทีฟ เป็นต้น

          นอกจากนี้บริษัทยังมีกำไรสุทธิสูงถึง 3,500 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่มีกำไรสุทธิ 3,393 ล้านบาท ทั้งนี้กำไรจากผลการดำเนินงานได้สะท้อนถึงการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพภายใต้แผนงาน "Engineer For Growth" หรือ EFG โดยในปีนี้บริษัทยังสามารถลดสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายได้ลดลงจาก 18.6% เป็น 16.8% ของรายได้อีกด้วย รวมถึงการเพิ่มยอดโอนและเน้นการสร้างกำไรเพิ่มขึ้นได้ตามเป้าหมายที่ประกาศไว้ สำหรับการดำเนินธุรกิจในไตรมาสแรกหลังจากนี้ บริษัทได้เตรียมเปิดตัว Flagship Project ของแสนสิริบนถนนวิทยุ ซึ่งจะเป็นโครงการที่พรีเมี่ยมที่สุดและราคาต่อตารางเมตรสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยจะเป็นคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมอยู่ซึ่งเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคมและเปิดการขายในเดือนตุลาคมนี้
« Last Edit: February 29, 2016, 03:25:48 PM by MSN »