MSN on February 19, 2016, 09:10:22 AM
ไนท์แฟรงค์ประเทศไทยเผยศักยภาพ "เตาปูน-บางซ่อน” กับโอกาสการเป็นย่านที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ของกรุงเทพมหานคร



ไนท์แฟรงค์ประเทศไทยเผย "เตาปูน-บางซ่อน” จะเพิ่มความสำคัญและโอกาสในการเป็นย่านที่อยู่อาศัยที่สำคัญแห่งใหม่ของกรุงเทพมหานคร" ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก "บางซื่อ” ซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับเตาปูน-บางซ่อนจะเป็นศูนย์กลางการคมนาคมและระบบขนส่งทางราง และศูนย์ธุรกิจแห่งใหม่ของประเทศและกรุงเทพมหานคร ขณะที่ตลาดการพัฒนาคอนโดมิเนียมในย่านเตาปูน ซึ่งครอบคลุมพื้นที่โดยรอบสถานีบางซื่อนั้นเติบโตขึ้นทั้งในด้านอุปทาน อุปสงค์ และราคาขาย

คุณพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าบางซื่อกำลังจะได้รับการพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางการคมนาคมและระบบขนส่งทางรางของประเทศและกรุงเทพฯ ตามแผนพัฒนาของรัฐบาลโดยการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งจะใช้สถานีกลางบางซื่อเป็นที่ตั้งของสถานีต้นทางของระบบรางของการรถไฟฯ อันประกอบด้วย โครงการรถไฟความเร็วสูงสายเหนือ (ไปยังเชียงใหม่) โครงการรถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพ-หัวหิน โครงการรถไฟทางคู่ขนาดมาตรฐาน (Standard Gauge รางขนาด 1.435 เมตร) สายกรุงเทพ-หนองคาย รถไฟขนาดราง 1 เมตร (Meter Gauge) ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นเส้นทางที่เชื่อมไปยังบริเวณต่างๆ ของประเทศ ทั้งสายเหนือ สายอีสาน และสายใต้ นอกจากนี้ สถานีกลางบางซื่อจะยังเป็นศูนย์รวมของระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในกรุงเทพมหานครอีกหลายเส้นทางอีกด้วย
 

ที่มา: ฝ่ายวิจัยและที่ปรึกษา บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด

คุณพนม กล่าวเพิ่มเติมว่าการรถไฟฯ ยังอยู่ในระหว่างการวางแผนพัฒนาที่ดินบริเวณโดยรอบสถานีกลางบางซื่อซึ่งครอบคลุมพื้นที่ที่มีศักยภาพในการพัฒนาเชิงธุรกิจถึง 305.5 ไร่ โดยย่านธุรกิจแห่งใหม่นี้จะประกอบด้วย 4 โซน ได้แก่ โซน เอ ขนาดที่ดินประมาณ 35 ไร่ ซึ่งมีแผนการพัฒนาเป็น “ศูนย์กลางธุรกิจครบวงจร” โดยจะเป็นแหล่งรวมอาคารสำนักงานที่ทันสมัย โรงแรม และศูนย์อาหารสำหรับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจ โซน บี ขนาดที่ดินประมาณ 78 ไร่ จะพัฒนาเป็น “ย่านพาณิชยกรรมแห่งใหม่” แหล่งค้าปลีก-ค้าส่งระดับอาเซียน โซน ซี ขนาดที่ดินประมาณ 105 ไร่ จะกลายเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย แหล่งทำงาน และแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ และโซน ดี ขนาดที่ดินประมาณ 87.5 ไร่ จะพัฒนาเป็น “จุดเปลี่ยนถ่ายและศูนย์กลางเชื่อมต่อการเดินทาง” ทำหน้าที่เชื่อมโยงระบบขนส่งมวลชนระบบหลัก ทั้งรถไฟฟ้า BTS และ MRT มายังสถานีกลางบางซื่อและพื้นที่พัฒนาโซนเอ บี ซี อีกด้วย

ในด้านตลาดคอนโดมิเนียมบริเวณเตาปูน ซึ่งครอบคลุมพื้นที่บริเวณโดยรอบสถานีบางซื่อดังต่อไปนี้ คือ ถนนประชาราษฎร์สาย 1 ประชาราษฎร์สาย 2 ถนนประชาชื่น ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี จากซอย 1-39 และ 2-50 มีจำนวนอุปทานทั้งสิ้นประมาณ 10,878 หน่วย โดยการพัฒนาคอนโดมิเนียมบริเวณนี้เริ่มต้นเมื่อปี พ.ศ. 2554 โดยในปีดังกล่าวมีจำนวนคอนโดมิเนียมเปิดขายประมาณ 803 หน่วย และต่อมาปี พ.ศ. 2555 มีจำนวนคอนโดมิเนียมเปิดขายในบริเวณนี้อีก 1,257 หน่วยจาก 3 โครงการ ส่วนปี พ.ศ. 2556 มีจำนวนคอนโดมิเนียมเปิดขายเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 3,781 หน่วย และปีพ.ศ. 2557 พบว่ามีจำนวนคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่สูงที่สุด คือ ประมาณ 5,037 หน่วย คุณพนม กล่าว

คุณพนม อธิบายต่อว่าในส่วนของอุปสงค์คอนโดมิเนียมบริเวณนี้ค่อนข้างดี โดยมีจำนวนหน่วยที่ขายไปได้แล้วถึง 8,768 หน่วย จากที่เปิดขายถึง 10,878 หน่วย คิดเป็นอัตราการขายที่ร้อยละ 80.6 มีจำนวนหน่วยเหลือขายเพียง 2,110 หน่วย อัตราการขายคอนโดมิเนียมบริเวณนี้เฉลี่ยสูงถึงประมาณ 1,800 – 2,000 หน่วยต่อปี

ทั้งนี้ ระดับราคาขายคอนโดมิเนียมบริเวณนี้มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยปัจจุบันระดับราคาขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมบริเวณนี้อยู่ที่ประมาณ 88,000 บาท ต่อตารางเมตร ปรับเพิ่มจากปี 2554 ที่ราคา 66,360 บาท ต่อตารางเมตร และมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิน 100,000 บาท ต่อตารางเมตร ขณะที่หลายโครงการในย่านนี้ได้เปิดขายโครงการในราคาที่สูงกว่า 120,000 บาท ต่อตารางเมตรไปแล้ว คุณพนม กล่าว

นอกจากนี้ การปรับเพิ่มขึ้นของต้นทุนราคาที่ดินที่เพิ่มสูงถึงกว่า 350,000 บาทต่อตารางวา ในปัจจุบันย่อมส่งผลให้ระดับราคาขายคอนโดในอนาคตมีราคาขายเฉลี่ยสูงกว่า 100,000 บาทต่อตารางเมตร ขณะที่ความต้องการที่ดินที่จะนำไปพัฒนาโครงการของนักพัฒนายังคงมีอยู่ต่อเนื่อง เพราะศักยภาพในการพัฒนาโครงการที่มีอยู่สูงมากในอนาคต จากการพัฒนาของสถานีกลางบางซื่อและโครงการรถไฟฟ้าระบบรางต่างๆ ที่จะแล้วเสร็จในปี 2562 ย่อมส่งผลต่อความต้องการซื้อของคนที่น่าจะหลั่งไหลเข้ามาอยู่ในพื้นที่เตาปูน-บางซื่อ อันจะส่งผลให้ระดับราคาขายคอนโดมิเนียมขยายตัวเพิ่มขึ้นในระดับราคา 120,000 บาท ต่อตารางเมตร หรืออาจสูงถึง 150,000 บาท ต่อตารางเมตรในบางโครงการ

คุณพนม กล่าวสรุปว่าการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ซึ่งใกล้จะแล้วเสร็จและได้เปิดให้ประชาชนทดลองใช้ในเดือนพฤษภาคม 2559 และเปิดให้บริการจริงในเดือนสิงหาคม 2559 และการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสาย
สีน้ำเงิน ช่วงสถานีบางซื่อ-เตาปูนในเดือนสิงหาคม  2559  จะทำให้เกิดการเชื่อมต่อของรถไฟฟ้าสายสีม่วง กับระบบขนส่งมวลชนแบบรางระบบอื่นๆ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มศักยภาพและความสะดวกในการเดินทางของพื้นที่ย่านเตาปูนและความต้องการที่อยู่อาศัยย่านเตาปูนอย่างมาก

Knight Frank LLP is the leading independent global property consultancy. Headquartered in London, Knight Frank and its New York-based global partner, Newmark Knight Frank, operate from 417 offices, in 58 countries, across six continents. More than 13,000 professionals handle in excess of US$1.4 billion worth of commercial, agricultural and residential real estate annually, advising clients ranging from individual owners and buyers to major developers, investors and corporate tenants. For further information about the Company, please visit www.knightfrank.com.
« Last Edit: February 19, 2016, 02:03:43 PM by MSN »