ดีแทคประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.52 บาทต่อหุ้น สำหรับไตรมาส 4/2558
3 กุมภาพันธ์ 2559 – ดีแทครายงานผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 4/2558 โดยรายได้รวมอยู่ที่ 23.2 พันล้านบาท และกำไรสุทธิที่ 998 ล้านบาท จากผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2558 ดีแทคประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลในอัตรา 0.52 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 124% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี
สำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2558 ดีแทคมีรายได้รวมและกำไรสุทธิที่ 87.8 พันล้านบาท และ 5.9 พันล้านบาท ตามลำดับ รายได้จากการบริการข้อมูลสูงกว่ารายได้จากการให้บริการเสียงเป็นครั้งแรกในปี 2558 เหตุผลเนื่องมาจากพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป แม้ว่าความต้องการบริการข้อมูลจะมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แต่รายได้จากจุดนี้ได้ถูกหักล้างด้วยการลดลงของรายได้จากการให้บริการเสียง มีผลทำให้รายได้รวมจากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย (IC) ลดลง 3.0% เทียบกับผลการดำเนินการปีที่ผ่านมา
ในการที่จะเป็นผู้นำในการให้บริการ 4G ดีแทคได้เพิ่มการลงทุนในโครงข่ายเป็นจำนวน 20.2 พันล้านบาทในปี 2558 ซึ่งสามารถให้บริการ 4G บนโครงข่ายแบนด์วิธที่ 20MHz ซึ่งเป็นแบนด์วิธที่กว้างที่สุดในตลาดผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่ให้บริการทั้งในกรุงเทพฯและปริมณฑลและอีกกว่า 40 จังหวัดทั่วประเทศไทย นอกเหนือจากนี้ดีแทคยังได้วางแผนที่จะพัฒนาโครงข่ายในปี 2559 ด้วยค่าใช้จ่ายในการลงทุน (CAPEX) ที่ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาเพื่อขยายพื้นที่การครอบคลุมสัญญาณ 4G ไปยังทุกจังหวัดในประเทศ และขยายการครอบคลุมสัญญาณ 3G ให้ได้ 95% ของจำนวนประชากร
ในปี 2558 ดีแทคได้เพิ่มค่าใช้จ่ายด้านโครงข่ายรวมถึงการขยายโครงข่าย ค่าใช้จ่ายในการขายและการตลาด ค่าใช้จ่ายในการบริหาร และค่าใช้จ่ายด้านการอุดหนุนราคาเครื่องโทรศัพท์เพื่อรองรับกับระดับการแข่งขันอันรุนแรง นอกเหนือจากนี้ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของต้นทุนการให้บริการมีค่าสูงขึ้นเนื่องจากการลงทุนที่มากขึ้นในการพัฒนาโครงข่ายดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายได้ถูกหักล้างบางส่วนจากการลดลงของต้นทุนจากส่วนแบ่งรายได้ (Regulatory cost) ผลที่ตามมาคือกำไรสุทธิที่ลดลง 45% เทียบกับปีที่ผ่านมา
ดีแทคมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการเป็นผู้นำในการให้บริการด้านดิจิทัล และยังคงพัฒนาและขยายโครงข่ายอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีการครอบคลุมเป็นสถิติสูงสุดที่ 94% ของจำนวนประชากร นอกจากนี้ ดีแทคยังคงแคมเปญโครงข่ายทั่วประเทศซึ่งประกาศตัวครั้งแรกในไตรมาส 3/2558 เพื่อใช้ประโยชน์จากโครงข่ายที่ดีขึ้นและออกโปรโมชั่นรวมถึงแพ็กเกจสำหรับโทรศัพท์มือถือที่ดึงดูดสำหรับลูกค้าดีแทคคาดการณ์แนวโน้มผลการดำเนินงานของปี 2559 โดยพิจารณาจากความไม่แน่นอนของการแข่งขันในตลาดและการรอการเข้ามาของผู้ประกอบการรายใหม่อันเป็นผลมาจากการประมูลคลื่นความถี่ในเดือนธันวาคม ปี 2558 รวมถึงสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ยังไม่ฟื้นตัว การคาดการณ์ประกอบด้วย (1) การเพิ่มขึ้นเล็กน้อยหรือคงที่ของรายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่ายเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา (2) อัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ยจ่าย ภาษีนิติบุคคล ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA margin) อยู่ในช่วง 27% - 31% และ (3) CAPEX ที่ระดับใกล้เคียงกับปีทีผ่านมา
นายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า “ในขณะนี้บริษัทมุ่งไปที่การกลับมาเติบโตของรายได้ และการรักษาส่วนแบ่งทางการตลาด เราวางแผนที่จะเพิ่มการลงทุนในโครงข่าย 4G ทั้งบนคลื่นความถี่ 1,800 MHz และ 2,100 MHz เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทางด้านการใช้บริการข้อมูลบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่สูงมาก และลงทุนในโครงข่าย 3G ให้ครอบคลุม 95% ของจำนวนประชากร พร้อมทั้งนำเสนอโปรโมชั่นและราคาโทรศัพท์มือถือที่คุ้มค่าด้วย นอกเหนือจากนี้ เรายังวางแผนที่จะเปิดตัวแบรนด์แพลทฟอร์มเพื่อที่จะฟื้นฟูภาพลักษณ์ของแบรนด์ และปรับปรุงตำแหน่งทางการตลาด โดยแบรนด์แพลทฟอร์มใหม่นี้จะเป็นรากฐานที่มั่นคงสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการ และการเข้าถึงตลาดก่อนในการเตรียมการรับมือกับผู้เล่นรายใหม่ในตลาด”
dtac announced THB 0.52 per share dividend for Q415
February 3, 2016 – dtac reported total revenues and net profit for Q415 of THB23.2 billion and THB998 million, respectively. From operating results in Q415, dtac declared dividend of THB0.52 per share, a payout ratio of 124% and subject to the approval of the annual general meeting.
For the full year 2015, dtac generated total revenues and net profit of THB87.8 billion and THB5.9 billion, respectively. Revenue from data service surpassed that from voice service for the first time in 2015 due to the change in mobile phone usage behavior. Despite strong growth in demand for data service, its revenue growth was more than offset by the decline in voice revenue, resulting in the decline in total service revenue excluding IC of 3.0% from previous year.
In order to take a leading position in 4G service, dtac increased its investment in network to THB20.2 billion in 2015, rolling out 4G network on 20MHz bandwidth, highest among mobile operators in the market, in BMA and more than 40 cities throughout Thailand. Furthermore, it plans to further strengthen its network in 2016 by investing similar amount of CAPEX to expand 4G network coverage to reach every province in the country, and to extend 3G coverage to 95% of population.
In 2015, dtac increased spending on network expenses along with network expansion; and on selling, marketing, and general administrative expenses, and handset subsidy to address higher level of competition. Moreover, depreciation and amortization expenses went up due to higher level of investment in the networks as mentioned above. The increases were partly offset by the decline in regulatory cost. Consequently, net profit declined 45% from previous year.
dtac is fully committed to becoming the leading Digital Service provider and continues to improve and expand its networks, now reaching an all-time high of 94% population coverage. In addition, dtac continues nationwide network campaign, initially launched in late Q3-15, to capitalize on the improvement of its network and offers attractive price plans and handset bundle packages to customers.
We provide outlook for 2016 based on high uncertainty in the market from competition and pending entry of a new player following the conclusion of the auctions in Dec 2015, in addition to weak recovery of the overall economy. The outlook for 2016 comprises (1) flat/slight increase in service revenue excluding IC from last year, (2) EBITDA margin in the range of 27% - 31%, and (3) similar CAPEX level as last year.
Lars Norling, dtac’s Chief Executive Officer, said “Our immediate focus is on bringing revenue growth back and maintaining revenue market share. We plan to achieve it through additional investment in 4G network on both 1800MHz and 2.1GHz to serve the huge demand for mobile data services and in 3G network to reach 95% of population coverage, as well as value-for-money offerings on price plans and handset deals to customers. Furthermore, we plan to launch a new brand platform in order to refresh the brand image and improve our position in the market. The new platform will be a solid foundation for innovative products and services, and a preemptive move in order to prepare for the entry of a new player.”
