MSN on December 03, 2015, 08:37:15 AM
เถ้าแก่น้อย (TKN) ได้ฤกษ์เข้าเทรด 3 ธ.ค. นี้ กำไรเติบโตสูง 128% รายได้ขยายตัว 35% นักลงทุนให้การตอบรับล้นหลาม บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN พร้อมเข้าเทรดวันที่ 3 ธันวาคมนี้ หลังปล่อยให้นักลงทุนรอซื้อมานานหลายเดือน 

นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง  หรือ TKN กล่าวว่า “หลังจากที่บริษัทฯได้เปิดให้จองซื้อหุ้น TKN เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา บริษัทฯ ต้องขอขอบคุณนักลงทุนที่ให้ความสนใจหุ้นไอพีโอของ TKN ส่วนตัวผมยอมรับว่าผลตอบรับดีกว่าที่คาดหมายไว้มาก โดยบริษัทฯ เตรียมนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายหุ้นไอพีโอไปเร่งสร้างโรงงานใหม่ที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ และสั่งซื้อเครื่องจักรใหม่ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตสาหร่ายให้เพียงพอต่อยอดการสั่งซื้อจากต่างประเทศ อีกทั้งเราจะเดินหน้าขยายตลาดต่างประเทศอย่างเต็มที่ โดยสิ้นปี 2558 ประเทศไทยก็จะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ทำให้มีช่องทางการกระจายสินค้ามีความสะดวกมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศจีนซึ่งมีมูลค่าตลาดสูงมาก”     

ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายของ บมจ. เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง กล่าวว่า “จำนวนหุ้นไอพีโอของ TKN ที่เสนอขายมีจำนวน 360 ล้านหุ้น ราคาพาร์ 0.25 บาท ราคาหุ้นไอพีโอ 4.00 บาท หลังจากที่เปิดให้จองซื้อวันแรกก็จำหน่ายหมด ทำให้บริษัทฯ ระดมเงินทุนได้ถึง 1,440 ล้านบาท โดยเงินจำนวนนี้จะใช้สร้างโรงงานใหม่ และจัดซื้อเครื่องจักร รวมถึงใช้เป็นทุนหมุนเวียนในบริษัทฯ  ต้องยอมรับว่าหุ้น TKN เป็นหุ้นที่นักลงทุนให้ความสนใจสูงมาก เนื่องจากเป็นแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักกันดี วันนี้ก็ได้ฤกษ์ดีที่จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ มั่นใจว่าหุ้น TKN จะเป็นหุ้นที่น่าจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดีมาก”

ทั้งนี้บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) มีผลการดำเนินงานที่เติบโตโดดเด่น โดยล่าสุดในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาตั้งแต่มกราคม - กันยายน 2558 TKN มีรายได้จากการจำหน่าย 2,519 ล้านบาท เติบโต 35% และมีกำไรสุทธิ 245 ล้านบาท เติบโตขึ้น 128% จากช่วง 9 เดือนแรกของปีก่อน ในขณะที่ปี 2557 มีรายได้จากการจำหน่ายรวม 2,695 ล้านบาท กำไรสุทธิ 199 ล้านบาท และปี 2556 มีรายได้จากการจำหน่ายรวม 2,716 ล้านบาท กำไรสุทธิ 128 ล้านบาท