MSN on December 03, 2015, 08:34:30 AM
บางส่วนจากคำพิพากษาศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง คดีหมายเลขดำที่ อ.4368/2552  คดีหมายเลขแดงที่ อ. 162/2554


นายปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซีเอฟจี เซอร์วิส จำกัด หรือ เงินติดล้อ

“เห็นได้ว่า คำว่า “ศรีสวัสดิ์” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในเครื่องหมายบริการของโจทก์ และเป็นส่วนหนึ่งของชื่อที่โจทก์ใช้ในการประกอบกิจการค้าของโจทก์ กับคำว่า “ศรีสวัสดิ์” ที่จำเลยที่ 1 ใช้ในการประกอบกิจการของจำเลยที่ 1 โดยทำให้ปรากฏอยู่บนแผ่นป้ายหน้าสาขาต่างๆ ของจำเลยที่ 1 รวมทั้งสิ่งอื่นๆ เกี่ยวกับการประกอบกิจการของจำเลยที่ 1 เป็นคำเดียวกัน มีรูปแบบตัวอักษรแบบเดียวกัน  แม้เครื่องหมายบริการของโจทก์นอกจากคำว่า “ศรีสวัสดิ์” แล้ว ยังประกอบไปด้วยคำว่า “เงินติดล้อ” และภาพลายเส้นหน้าคน  แต่คำว่า “ศรีสวัสดิ์” ที่โจทก์ใช้ในการประกอบกิจการของโจทก์ก็เป็นภาคส่วนสำคัญในเครื่องหมายบริการของโจทก์และชื่อที่โจทก์ใช้ในการประกอบธุรกิจ  บุคคลทั่วไปเมื่อเห็นเครื่องหมายบริการหรือชื่อของโจทก์ย่อมเรียกขานกิจการของโจทก์ว่า “ศรีสวัสดิ์” หรือ “ศรีสวัสดิ์เงินติดล้อ”   ดังนั้นคำว่า “ศรีสวัสดิ์” จึงเป็นภาคส่วนสำคัญในเครื่องหมายบริการและชื่อในการประกอบกิจการค้าของโจทก์  การที่จำเลยที่ 1 นำคำว่า “ศรีสวัสดิ์” ไปใช้ทำให้ปรากฏที่แผ่นป้ายหน้าสาขาของจำเลยที่ 1 และสิ่งต่าง ๆ เกี่ยวกับการประกอบกิจการของจำเลยที่ 1  ทั้งยังใช้ตัวอักษรแบบเดียวกันจึงเป็นการเอาชื่อในการประกอบการค้าของโจทก์ไปใช้”

“การที่จำเลยที่ 1 เปลี่ยนชื่อบริษัทมาเป็นบริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ จำกัด รวมถึงเปลี่ยนแผ่นป้ายหน้าสาขาและสิ่งของต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการของจำเลยที่ 1 ก็เพื่อให้ลูกหนี้เดิมและบุคคลทั่วไปเข้าใจได้ว่า จำเลยที่ 1 มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัท ศรีสวัสดิ์ อินเตอร์เนชั่นแนล(1991) จำกัด หรือ ศรีสวัสดิ์เงินติดล้อ”

“การกระทำดังกล่าวจึงแสดงให้เห็นเจตนาของจำเลยที่ 1 ที่จะใช้คำว่า “ศรีสวัสดิ์” ซึ่งเป็นภาคส่วนสำคัญในเครื่องหมายบริการและชื่อทางการค้าของโจทก์เพื่อให้บุคคลทั่วไปเข้าใจว่ากิจการของจำเลยที่ 1 มีส่วนเกี่ยวข้องกับโจทก์”

“กรณีจึงฟังได้ว่า จำเลยที่ 1 ได้เอาชื่อ รูป รอยประดิษฐ์ในการประกอบการค้า เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นกิจการของโจทก์”

“การที่บริษัทจำเลยที่ 1 มีปรากฏเพียงชื่อของภรรยาและบุตรของจำเลยที่ 3 (นายฉัตรชัย แก้วบุตตา) เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยก็เพื่อหลีกเลี่ยงที่จะเป็นการปฏิบัติผิดสัญญากับโจทก์  กรณีจึงเชื่อว่า จำเลยที่ 3 (นายฉัตรชัย แก้วบุตตา) เป็นผู้หนึ่งในการดำเนินการบริหารงานของจำเลยที่ 1 และมีส่วนเกี่ยวข้องในการตัดสินใจเปลี่ยนชื่อบริษัทจำเลยที่ 1 จากบริษัท พาวเวอร์99 จำกัด มาเป็นบริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ จำกัด”

“กรณีจึงฟังได้ว่า จำเลยที่ 3 (นายฉัตรชัย แก้วบุตตา) ได้ร่วมกับจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ในการเอาชื่อ รูป รอยประดิษฐ์ในการประกอบการค้าของโจทก์มาใช้หรือทำให้ปรากฏบนแผ่นป้าย และสิ่งอื่นๆ ที่จำเลยที่ 1 ใช้ในการประกอบการค้า เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นกิจการของโจทก์”