FB on October 16, 2015, 03:54:29 PM
American Ultra
พยัคฆ์ร้ายสายซี๊ดดดด
เข้าฉาย:12  พฤศจิกายน 2558
ประเภท:    แอ็คชั่น
นักแสดง:   เจสซี ไอเซนเบิร์ก, คริสเตน สจ๊วต, โทเฟอร์ เกรซ, คอนนี่ บริตตัน, จอห์น เลกุยซาโม, และ บิล พูลแมน
ผู้กำกับ:   นิม่า นอริซาเดห์
บทภาพยนตร์:    แมกซ์ แลนดิส






   ไมค์ โฮเวลล์ (เจสซี ไอเซนเบิร์ก) ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนั่งเมายาอยู่หลังเคาน์เตอร์เก็บเงินของร้าน แคชแอนด์แครี่ และวาดการ์ตูนที่ไม่เคยได้ถูกตีพิมพ์เกี่ยวกับลิงซูเปอร์ฮีโร่ วันหนึ่งเขาอยากจะพา ฟีบี้ แฟนสาวผู้ที่คอยประกันตัวเขาออกจากคุกอยู่เสมอไปฮาวาย แต่เขากลับไม่สามารถเอาชนะอาการวิตกจริตที่จู่โจมเข้ามาทุกครั้งที่เขาพยายามจะออกจากเขตเมืองนี้

   สิ่งที่ตัวเขาเองไม่รู้ก็คือ จริงๆแล้วเขาคือสายลับที่ถูกสร้างขึ้นโดยซีไอเอ ที่กำลังจะถูกสั่งเก็บ ในขณะที่เหล่าสายลับระดับพระกาฬถูกส่งตัวไปยังเมืองที่เงียบเหงาของเขา แลสเซ็ทเตอร์ (คอนนี่ บริตตัน) เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลของไมค์ ได้ปลดล็อคระบบทักษะการต่อสู้ของเขา เปลี่ยนชายหนุ่มผู้เซื่องซึมให้กลายเป็นสุดยอดเครื่องจักรสังหารเหนือมนุษย์

   เมื่อชีวิตที่เคยเรียบง่ายของไมค์กลายเป็นการไล่ล่าที่ทำให้อะดรีนาลีนพุ่งพล่านไม่มีใครจะแปลกใจไปมากกว่าตัวเขาเองที่ค้นพบความสามารถอันสุดโต่งที่เปลี่ยนแค่ช้อนธรรมดาให้กลายเป็นอาวุธสังหารได้ จนเจ้าหน้าที่ผู้หมกมุ่นกับภารกิจนี้ (โทเฟอร์ เกรซ)นั่งไม่ติดเก้าอี้ พยัคฆ์ร้ายนักฆ่าฝีมือมหากาฬผู้เกิดใหม่คนนี้ได้ประทับร่างของเขาเพื่อป้องกันตัวเองและคนที่รักที่สุดในชีวิตจากภารกิจล่าถล่มเมืองนี้ให้ได้

   อเมริกัน อัลตร้า – พยัคฆ์ร้ายสายซี๊ดดดด นำแสดงโดย เจสซี ไอเซนเบิร์ก (เดอะ โซเชียล เน็ทเวิร์ค, ซอมบี้แลนด์), คริสเตน สจ๊วต (ทไวไลท์ ซาก้า, สโนไวท์ แอนด์ เดอะ ฮันท์สแมน), โทเฟอร์ เกรซ (อินเตอร์สเตลล่า, แดท เซเวนตี้ส์ โชว์), คอนนี่ บริตตัน (แนชวิลล์, ฟรายเดย์ ไนท์ ไลท์ส), วอลตัน ก๊อกกินส์ (จังโก้ อันเชนด์, เดอะ ชีลด์), จอห์น เลกุยซาโม (ไรด์อะลอง, เชฟ), และบิล พูลแมน (ดิ อีควอไลเซอร์, อินดิเพนเดนท์ เดย์)

กำกับภาพยนตร์โดย นิม่า นอริซาเดห์ (โปรเจคท์ เอ็กซ์, คาลิ) และบทภาพยนตร์โดย แม็กซ์ แลนดิส (โครนิเคิล, มี ฮิม เฮอ)

พบกับ ภาพยนตร์แอ็คชั่นซี๊ดระห่ำควันขโมง เมื่อวัยรุ่นขี้ยาต้องเข้าสู่โหมดพยัคฆ์ร้ายนักฆ่าแบบไม่รู้ตัว 12 พฤศจิกายน นี้ ในโรงภาพยนตร์
« Last Edit: October 16, 2015, 04:03:44 PM by FB »

FB on October 16, 2015, 04:04:26 PM
American Ultra
Release date: 12,11, 2015
Genre:    Action
Cast:    Jesse Eisenberg, Kristen Stewart, Topher Grace, Connie Britton, John Leguizamo, and Bill Pullman
Director: NimaNourizadeh
Written by: Max Landis






Mike Howell [Jesse Eisenberg] spends most of his time getting stoned, sitting behind the register of the Cash & Carry and writing a never-to-be-published graphic novel about a superhero monkey. Someday he’d like to take his bail-bondsman girlfriend, Phoebe [Kristen Stewart], to Hawaii—if he can ever overcome the inexplicable panic attacks he experiences whenever he tries to leave the city limits. 

Unbeknownst to Mike, he is actually a sleeper agent created by the CIA, which has just targeted him for termination. As some of the agency’s deadliest assets are unleashed upon his sleepy town, Mike’s sympathetic former handler, Lasseter [Connie Britton], activates his latent skills, turning the mild-mannered slacker into a superhuman killing machine.

As Mike’s once-simple life becomes an adrenaline-fueled chase, no one is more surprised than he is to discover his uncanny ability to turn even an ordinary spoon into a weapon of mass destruction. With an obsessed agent [Topher Grace] hot on his heels, the newly reborn super-assassin summons his inner action-hero to try and save himself and the love of his life from complete destruction.

American Ultra stars Jesse Eisenberg [The Social Network, Zombieland], Kristen Stewart [The Twilight Saga franchise, Snow White and the Huntsman], Topher Grace [Interstellar, That ’70s Show], Connie Britton [Nashville, Friday Night Lights], Walton Goggins [Django Unchained, The Shield], John Leguizamo [Ridealong, Chef], Bill Pullman [The Equalizer, Independence Day], Tony Hale [Veep, Arrested Development], Lavell Crawford, and Stuart Greer.

The film is directed by NimaNourizadeh [Project X, Cali] and written by Max Landis [Chronicle, Me Him Her].

Lionsgate presents / Palmstar Media Capital and Kevin Frakes present in association with FilmNation Entertainment, a Likely Story / PalmStar Entertainment / Circle of Confusion production in association with Merced Media Partners / Tadmore Entertainment / The Bridge Finance Company AG, a NimaNourizadeh film, American Ultra.

FB on October 16, 2015, 04:05:15 PM


























« Last Edit: October 16, 2015, 05:46:35 PM by FB »

FB on October 16, 2015, 04:05:28 PM


























« Last Edit: October 16, 2015, 05:56:44 PM by FB »

FB on October 19, 2015, 04:53:29 PM
American Ultra
พยัคฆ์ร้ายสายซี๊ดดดด
เข้าฉาย: 12 พฤศจิกายน 2558
ประเภท: แอ็คชั่น
นักแสดง: เจสซี ไอเซนเบิร์ก, คริสเตน สจ๊วต, โทเฟอร์ เกรซ, คอนนี่ บริตตัน, จอห์น เลกุยซาโม, และ บิล พูลแมน
ผู้กำกับ: นิม่า นอริซาเดห์
บทภาพยนตร์: แมกซ์ แลนดิส

























ไมค์ โฮเวลล์ (เจสซี ไอเซนเบิร์ก) ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนั่งเมายาอยู่หลังเคาน์เตอร์เก็บเงินของร้าน แคชแอนด์แครี่ และวาดการ์ตูนที่ไม่เคยได้ถูกตีพิมพ์เกี่ยวกับลิงซูเปอร์ฮีโร่ วันหนึ่งเขาอยากจะพา ฟีบี้ แฟนสาวผู้ที่คอยประกันตัวเขาออกจากคุกอยู่เสมอไปฮาวาย แต่เขากลับไม่สามารถเอาชนะอาการวิตกจริตที่จู่โจมเข้ามาทุกครั้งที่เขาพยายามจะออกจากเขตเมืองนี้

สิ่งที่ตัวเขาเองไม่รู้ก็คือ จริงๆแล้วเขาคือสายลับที่ถูกสร้างขึ้นโดยซีไอเอ ที่กำลังจะถูกสั่งเก็บ ในขณะที่เหล่าสายลับระดับพระกาฬถูกส่งตัวไปยังเมืองที่เงียบเหงาของเขา แลสเซ็ทเตอร์ (คอนนี่ บริตตัน) เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลของไมค์ ได้ปลดล็อคระบบทักษะการต่อสู้ของเขา เปลี่ยนชายหนุ่มผู้เซื่องซึมให้กลายเป็นสุดยอดเครื่องจักรสังหารเหนือมนุษย์

เมื่อชีวิตที่เคยเรียบง่ายของไมค์กลายเป็นการไล่ล่าที่ทำให้อะดรีนาลีนพุ่งพล่าน ไม่มีใครจะแปลกใจไปมากกว่าตัวเขาเองที่ค้นพบความสามารถอันสุดโต่งที่เปลี่ยนแค่ช้อนธรรมดาให้กลายเป็นอาวุธสังหารได้ จนเจ้าหน้าที่ผู้หมกมุ่นกับภารกิจนี้ (โทเฟอร์ เกรซ)นั่งไม่ติดเก้าอี้ พยัคฆ์ร้ายนักฆ่าฝีมือมหากาฬผู้เกิดใหม่คนนี้ได้ประทับร่างของเขาเพื่อป้องกันตัวเองและคนที่รักที่สุดในชีวิตจากภารกิจล่าถล่มเมืองนี้ให้ได้

อเมริกัน อัลตร้า – พยัคฆ์ร้ายสายซี๊ดดดด นำแสดงโดย เจสซี ไอเซนเบิร์ก (เดอะ โซเชียล เน็ทเวิร์ค, ซอมบี้แลนด์), คริสเตน สจ๊วต (ทไวไลท์ ซาก้า, สโนไวท์ แอนด์ เดอะ ฮันท์สแมน), โทเฟอร์ เกรซ (อินเตอร์สเตลล่า, แดท เซเวนตี้ส์ โชว์), คอนนี่ บริตตัน (แนชวิลล์, ฟรายเดย์ ไนท์ ไลท์ส), วอลตัน ก๊อกกินส์ (จังโก้ อันเชนด์, เดอะ ชีลด์), จอห์น เลกุยซาโม (ไรด์อะลอง, เชฟ), และบิล พูลแมน (ดิ อีควอไลเซอร์, อินดิเพนเดนท์ เดย์)

กำกับภาพยนตร์โดย นิม่า นอริซาเดห์ (โปรเจคท์ เอ็กซ์, คาลิ) และบทภาพยนตร์โดย แม็กซ์ แลนดิส (โครนิเคิล, มี ฮิม เฮอ)

พบกับ ภาพยนตร์แอ็คชั่นซี๊ดระห่ำควันขโมง
เมื่อวัยรุ่นขี้ยาต้องเข้าสู่โหมดพยัคฆ์ร้ายนักฆ่าแบบไม่รู้ตัว
12 พฤศจิกายนนี้ ในโรงภาพยนตร์
« Last Edit: October 19, 2015, 04:57:52 PM by FB »

FB on October 19, 2015, 04:54:12 PM
American Ultra
Release date: November 12, 2015
Genre:    Action
Cast:    Jesse Eisenberg, Kristen Stewart, Topher Grace, Connie Britton, John Leguizamo, and Bill Pullman
Director: Nima Nourizadeh
Written by: Max Landis

























Mike Howell [Jesse Eisenberg] spends most of his time getting stoned, sitting behind the register of the Cash & Carry and writing a never-to-be-published graphic novel about a superhero monkey.

Someday he’d like to take his bail-bondsman girlfriend, Phoebe [Kristen Stewart], to Hawaii—if he can ever overcome the inexplicable panic attacks he experiences whenever he tries to leave the city limits. 
Unbeknownst to Mike, he is actually a sleeper agent created by the CIA, which has just targeted him for termination. As some of the agency’s deadliest assets are unleashed upon his sleepy town, Mike’s sympathetic former handler, Lasseter [Connie Britton], activates his latent skills, turning the mild-mannered slacker into a superhuman killing machine.

As Mike’s once-simple life becomes an adrenaline-fueled chase, no one is more surprised than he is to discover his uncanny ability to turn even an ordinary spoon into a weapon of mass destruction. With an obsessed agent [Topher Grace] hot on his heels, the newly reborn super-assassin summons his inner action-hero to try and save himself and the love of his life from complete destruction.

American Ultra stars Jesse Eisenberg [The Social Network, Zombieland], Kristen Stewart [The Twilight Saga franchise, Snow White and the Huntsman], Topher Grace [Interstellar, That ’70s Show], Connie Britton [Nashville, Friday Night Lights], Walton Goggins [Django Unchained, The Shield], John Leguizamo [Ridealong, Chef], Bill Pullman [The Equalizer, Independence Day], Tony Hale [Veep, Arrested Development], Lavell Crawford, and Stuart Greer.

The film is directed by Nima Nourizadeh [Project X, Cali] and written by Max Landis [Chronicle, Me Him Her].

Lionsgate presents / Palmstar Media Capital and Kevin Frakes present in association with FilmNation Entertainment, a Likely Story / PalmStar Entertainment / Circle of Confusion production in association with Merced Media Partners / Tadmore Entertainment / The Bridge Finance Company AG, a Nima Nourizadeh film, American Ultra.

November 12, 2015
« Last Edit: October 19, 2015, 04:58:15 PM by FB »

FB on October 19, 2015, 04:59:02 PM
AMERICAN ULTRA
พยัคฆ์ร้ายสายซี๊ดดดด 12 พฤศจิกายน 2558


เกี่ยวกับงานสร้าง
   ในห้านาทีแรกของ American Ultra ผู้ชมอาจรู้สึกเหมือนว่ากำลังดูภาพยนตร์อินดี้ฟอร์มเล็กเกี่ยวกับตัวละครพิลึกสองคน ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ทีมผู้สร้างของเรื่องตั้งใจเอาไว้ ไมค์ โฮเวล ตัวละครเอกของเรื่อง เป็นคนขี้เกียจที่ไร้แรงจูงใจ แต่ก็ฉลาดกว่าคนทั่วไป เขาจมปลักอยู่ในเมืองเล็กๆ ทำงานในร้านสะดวกซื้อในท้องถิ่นและใช้ชีวิตที่แสนจะปกติธรรมดากับฟีบี้ แฟนสาวของเขา
   “ถ้าคุณกระเทาะเปลือกเรื่องราวนี้ให้เหลือแต่องค์ประกอบที่พื้นฐานที่สุด มันก็เป็นเรื่องของผู้ชายคนหนึ่งที่อยากจะขอแฟนสาวแต่งงานแต่ชีวิตเขาก็พลิกตารปัตร” ผู้กำกับนีมา นูริซาเดห์กล่าว “ไมค์มีเป้าหมายเพียงอย่างเดียวคือการขอฟีบี้แต่งงาน แต่แล้วภายในเวลาเพียงแค่คืนเดียว ทุกอย่างก็พลิกผันและมีอุปสรรคมากมายที่เขาต้องฝ่าฟันครับ”
   สำหรับตัวผู้กำกับ ผู้ได้รับการยกย่องในฮอลลีวูดจาก Project X ผลงานภาพยนตร์เปิดตัวของเขาในปี 2012 บทภาพยนตร์เรื่องนี้แตกต่างจากเรื่องอื่นๆ ในแนวแอ็กชันคอเมดี “มันมีองค์ประกอบมากมายที่ผสมผสานกันอย่างกลมกล่อมในแบบที่คุณไม่ค่อยจะได้เห็นบ่อยนักน่ะครับ” นูริซาเดห์กล่าว “มันมีเรื่องรัก มีแอ็กชัน มีคอเมดี ดังนั้น มันก็เลยเต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์ ที่จะนำพาคุณไปในที่ที่คุณคาดไม่ถึง มันเริ่มต้นจากโลกเล็กๆ ที่เกือบจะคับแคบ ที่ไมค์และฟีบี้อาศัยอยู่ แล้วทุกอย่างก็ยุ่งเหยิงขึ้นครับ”
   เมื่อจู่ๆ แอ็กชันก็เปลี่ยนสถานที่จากเมืองลีแมน รัฐเวสต์ เวอร์จิเนีย ไปเป็นสำนักงานใหญ่ซีไอเอ บางสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวกว่าเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ก็เริ่มก่อตัวขึ้น โครงการลับของรัฐบาลกำลังจะนำความน่าสยดสยองมาสู่เมืองเวสต์ เวอร์จิเนีย ที่กำลังหลับใหล เป้าหมายของการจู่โจมคือ...ไมค์ โฮเวล?
   “ตอนนั้นเองที่คุณจะรู้สึกได้ว่า American Ultra เป็นหนังแอ็กชัน ที่มีการบู๊สะบัด แต่ก็ล้อเลียนหนังแนวนี้ด้วย” แม็กซ์ แลนดิส มือเขียนบทของเรื่องกล่าว “มันเป็นแอ็กชันระดับสูงที่สมจริง แต่ไม่ว่าแอ็กชันจะมาแรงแค่ไหน องค์ประกอบความเป็นดราเมดี้อินดี้เกี่ยวกับคู่รักติดยาก็โต้กลับแรงเท่านั้น แน่นอนว่ามันไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ได้สร้างฉากต่อสู้สุดเจ๋งขึ้นมาด้วยน่ะครับ”
   หนึ่งในจุดขายสำคัญสำหรับนูริซาเดห์คือการรวมแนวคลาสสิกต่างๆ ที่ทะเยอทะยานของเรื่อง “มันผสมผสานสิ่งต่างๆ มากมายในแบบที่เป็นธรรมชาติและน่าสนใจ” เขาตั้งข้อสังเกต “ขนบหลายๆ อย่างจะเป็นสิ่งที่ผู้ชมคุ้นเคยดีอยู่แล้ว แต่มันก็จะถูกยำรวมกันนิดๆ ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง ผมชื่นชอบการนำเสนอสิ่งที่คนคิดว่ารู้แล้วให้ออกมาในรูปแบบใหม่ครับ”
   แรงบันดาลใจสำหรับแอ็กชัน/คอเมดีเรื่องนี้คือความพยายามจริงๆ ของซีไอเอที่จะสร้างสุดยอดนักรบ ที่ยาวนานสามทศวรรษ อดีตโครงการลับ ซึ่งเป็นที่รู้จักในนามของเอ็มเค อัลตร้า ถูกริเริ่มขึ้นในยุค 50s เพื่อเปลี่ยนคนธรรมดาให้กลายเป็นเจ้าหน้าที่ระดับซูเปอร์ฮีโร ด้วยการใช้ยาที่มีผลต่อจิตและประสาทเพื่อยกระดับสภาพทางจิตใจ หรือที่หลายคนเรียกว่าเป็นการทรมาน นักวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลได้มองสมองมนุษย์ว่าเป็นเหมือนคอมพิวเตอร์ และพยายามจะตั้งโปรแกรมให้กับหนูทดลองของพวกเขาเสียใหม่ให้เป็นบุคคลที่ทรงอานุภาพและอันตรายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
   ความพยายามที่จะผลิตกลุ่มสุดยอดมือสังหารที่เหมือนกับเจสัน บอร์นล้มเหลวไม่เป็นท่า “คุณสามารถล้างฮาร์ดไดรฟ์ได้ แต่เมื่อคุณล้างสมองมนุษย์ มันก็มักจะพังครับ” แลนดิสบอก “ผมเริ่มหมกมุ่นกับสิ่งที่ผมได้เรียนรู้ ผมได้แต่คิดว่า แล้วถ้าคนธรรมดาเข้าไปพัวพันกับเรื่องนี้ล่ะ เขาจะมีปฏิกิริยาอย่างไร และนั่นคือจุดกำเนิดของ American Ultra ครับ”
   “บทหนังเรื่องนี้ทั้งตลก น่ากลัว รุนแรงและอ่อนหวานครับ” ผู้อำนวยการสร้างแอนโธนี เบร็กแมนบอก “มันทำให้คุณมีอารมณ์ในหลายๆ ทิศทางมากๆ ซึ่งทำให้เกิดประสบการณ์การดูหนังที่ยอดเยี่ยม แม็กซ์รู้จักหนังแนวแอ็กชันเป็นอย่างดี ซึ่งทำให้เขาล้อเลียนมันพร้อมไปกับการทำตามขนบและความคาดหวังของหนังแนวนี้ด้วยครับ”
   อารมณ์ขันส่วนใหญ่เกิดจากความจริงที่ว่า ทีมผู้สร้างไม่เคยลืมไอเดียที่ว่าการได้ทักษะการต่อสู้ระดับพระกาฬมาไม่ได้เปลี่ยนแปลงตัวไมค์ไปเลย “ไมค์เป็นนักฝันนิดๆ และเขาก็ไม่เคยเปลี่ยนครับ” ผู้อำนวยการสร้างเดวิด อัลเพิร์ตกล่าว “แค่ว่าตอนนี้มีคนพยายามจะฆ่าเขาเท่านั้นเอง เราพยายามจะรักษาคอนเซ็ปต์ที่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าขี้ยาในเมืองคุณเกิดมีความสามารถพวกนี้ขึ้นมาน่ะครับ”
   นูริซาเดห์ ผู้ซึ่งผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของเขาทำให้เขาได้รับการยกย่องในฐานะผู้มีพรสวรรค์เจ้าของแนวคิดแปลกใหม่ในฮอลลีวูด ได้สร้างความประทับใจให้กับทีมผู้อำนวยการสร้างด้วยไอเดียของเขาในการขยายทั้งแอ็กชันและอารมณ์ขันในบทออกไปอีก “นีมาเป็นผู้มีวิสัยทัศน์น่าตื่นตะลึงในแง่ของลักษณะการมองฉากของเขา” แลนดิสเล่า “เขาไม่ได้เปลี่ยนแปลงบทซักเท่าไหร่ แต่สิ่งต่างๆ ที่เขาเสริมเข้าไปทำให้มันดียิ่งขึ้นไปอีก เขากำหนดโครงสร้างของจังหวะและท่วงทำนองในแบบที่ตลกและสนุกสนานจริงๆ ครับ”
   นูริซาเดห์ได้ใส่เอาอารมณ์ขันเฉียบคมรวมถึงความรู้สึกอันตรายจริงๆ และความตื่นเต้นด้านวิชวลมาสู่บทภาพยนตร์เรื่องนี้ เบร็กแมนกล่าวว่า “เขาเก่งกว่าทุกคนที่ผมนึกได้ในการสร้างบรรยากาศที่นิ่งและมั่นคงในหน้าจอที่สุดท้ายแล้วก็ระเบิดออกเป็นความวุ่นวายที่ออกแบบมาแล้ว การได้เห็นมันค่อยๆ ก่อตัวขึ้นและระเบิดตูมเป็นอะไรที่สนุกจริงๆ ครับ”
   ในความคิดของอัลเพิร์ต สายตาของผู้กำกับที่คอยสังเกตรายละเอียดได้ช่วยยกระดับบทภาพยนตร์ที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว “เมื่อพิจารณาถึงจำนวนแอ็กชันที่เกี่ยวข้อง การจัดองค์ประกอบของช็อตก็ยอดเยี่ยมอย่างไม่ธรรมดาเลยครับ” ผู้อำนวยการสร้างกล่าว “ก่อนหน้าการถ่ายทำจะเริ่มต้นขึ้น เขาได้เขียนหนังสือที่รวมทุกอย่างตั้งแต่คำอธิบายตัวละครไปจนถึงภาพเฉพาะเจาะจงที่เขาอยากจะรวมเข้าไปด้วย มันกลายเป็นคัมภีร์ไบเบิลสำหรับหนังเรื่องนี้ ที่มีองค์ประกอบเกี่ยวกับธีมต่างๆ หรือแม้กระทั่งข้อคิดแฝง มันเป็นพิมพ์เขียวหลักในการนำบทหนังเยี่ยมๆ มาทำให้กลายเป็นหนังเยี่ยมๆ เลยล่ะครับ”
   มือเขียนบทและผู้กำกับได้พบกันครั้งแรกในเดือนเมษายน ปี 2013 เพื่อแลกเปลี่ยนไอเดียเกี่ยวกับโปรเจ็กต์ในอนาคต แลนดิสเล่าให้นูริซาเดห์ฟังเกี่ยวกับ American Ultra บทภาพยนตร์ที่เขาเขียนขึ้นเอง และไม่มีใครนอกเหนือจากทีมงานของเขาได้อ่าน “บทหนังเรื่องนี้เกินกว่าความคาดหมายของผมจริงๆ” ผู้กำกับกล่าว “แม็กซ์เป็นนักเล่าเรื่องที่มีเสน่ห์น่าค้นหา เขาจะป้อนข้อมูลให้คุณทีละนิดๆ แล้วพอคุณรู้ตัวอีกที คุณก็จะอยู่ในที่ที่คาดไม่ถึงและเหลือเชื่อสุดๆ งานเขียนของเขาสร้างความเพลิดเพลินเสมอ แต่สิ่งที่สร้างความแตกต่างระหว่างหนังเรื่องนี้กับแอ็กชันคอเมดีเรื่องอื่นๆ ที่ผมเคยอ่านคือเขาถ่ายทอดความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครหลักออกมาได้อย่างตรงเป๊ะ มันเป็นโปรเจ็กต์เรื่องที่สองที่เพอร์เฟ็กต์สำหรับผม”
   ผู้อำนวยการสร้างเบร็กแมนและอัลเพิร์ตกล่าวเห็นพ้องต้องกันว่า “การจับคู่ระหว่างแม็กซ์และนีมาเป็นอะไรที่มีเสน่ห์เกินห้ามใจครับ” เบร็กแมนบอก “Chronicle บทหนังเรื่องแรกของแม็กซ์ เป็นเรื่องที่ผมชื่นชอบ มันถูกสร้างขึ้นด้วยทุนสร้างปานกลาง โดยมีภาพวิชวลที่น่าสนใจในแบบที่ทำให้มันดูยิ่งใหญ่กว่าที่เป็นอยู่ ในความคิดเห็นของผม Project X เป็นหนึ่งในหนังที่ดีที่สุดในรอบไม่กี่ปีที่ผ่านมา มันเป็นหนังฟอร์มเล็กอีกเรื่องที่ทำรายได้สูงจริงๆ ทั้งสองเรื่องทั้งสนุก เพลิดเพลิดและแปลกใหม่ แต่ในขณะเดียวกันก็นำเสนอประเด็นใหญ่ในแบบที่ละเอียดอ่อน มันเป็นหนังแบบที่ผมอยากจะดูครับ”
   “การจับคู่แม็กซ์กับนีมา แล้วเพิ่มเจสซี ไอเซนเบิร์กและคริสเตน สจวร์ตเข้าไปให้ความรู้สึกเหมือนเรากำลังมองเห็นทีมงานชั้นเยี่ยมรุ่นต่อไปของฮอลลีวูดครับ” อัลเพิร์ตกล่าวเสริม
   แม้ว่าการเรียก American Ultra ว่าเป็นคอเมดีล้วนๆ จะเป็นการประเมินสโคปของภาพยนตร์เรื่องนี้ต่ำไปหน่อย แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เต็มไปด้วยช่วงเวลาเรียกเสียงหัวเราะ “แล้วมันก็จะทำให้คุณนั่งไม่ติดเก้าอี้ด้วย” อัลเพิร์ตกล่าว “การนำอารมณ์ขันมาจับคู่กับความรุนแรงสุดโต่งทำให้หนังเรื่องนี้ให้ความรู้สึกสดใหม่และสมจริง คุณจะถามตัวเองอยู่เสมอว่าคุณจะทำอะไรภายใต้สถานการณ์เหล่านี้และนั่นเองคือสิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้พิเศษสุดเหลือเกินครับ”

FB on October 19, 2015, 04:59:43 PM
มือสังหารเมายาและลูกทีมของเขา

   ถ้าจะพูดถึงพระเอกนักบู๊แล้วล่ะก็ ไมค์ โฮเวลไม่น่าจะเข้ามามีเอี่ยวด้วยเลย เพราะเขาเป็นคนที่ต้องพึ่งแฟนสาวของเขาตลอด แถมทำอาหารทีไรไฟไหม้ทุกทีอีกต่างหาก เขาถูกจ้างและถูกไล่ออกจากร้านสะดวกซื้อซอมซ่อแห่งเดียวกันนี้นับครั้งไม่ถ้วน และเขาก็ถูกจับข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครองบ่อยเสียจนตำรวจจำชื่อเขาได้
   เจสซี ไอเซนเบิร์ก ผู้ซึ่งผลงานก่อนหน้านี้รวมถึง The Social Network, Adventureland และ Zombieland เป็นตัวเลือกแรกของทีมผู้สร้างสำหรับบทหนุ่มขี้ยาที่ผันตัวกลายเป็นสายลับ “เรารู้ว่าบทนี้จะต้องเป็นเจสซีครับ” อัลเพิร์ตกล่าว “คุณจะเชื่อว่าเขาเป็นหนุ่มขี้ยาที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ในเมืองเล็กๆ แอ็กชันเป็นสิ่งที่มาจากเขาโดยไม่คาดฝัน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องเหลือเชื่อ เจสซีทำให้ตัวละครตัวนี้มีความเฉลียวฉลาดด้านอารมณ์ที่สมจริง แม้ว่าจะมีแผนการลับของซีไอเอเกิดขึ้นในลีแมนเพื่อพยายามสังหารเขาก็ตามทีครับ”
   ไมค์เป็นชายหนุ่มสบายๆ ผู้รู้สึกงุนงงและสับสนเมื่อหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นพร้อมกันทีเดียว เขายินดีที่จะอยู่กับบ้าน ปุ๊นกัญชาบนเตียงและคลอเคลียกับแฟนสาวของเขา การปราบเหล่าร้ายที่ถูกส่งตัวมากำจัดเขาไม่ได้อยู่ในหัวเขาเลย บทนี้ทำให้ไอเซนเบิร์ก นักแสดงผู้มักได้รับบทคนที่ฉลาดที่สุดในห้อง ก้าวพ้นจากขอบเขตที่เขาคุ้นชิน
   “เจสซีเป็นนักแสดงที่ฉลาดแหลมคม แต่เขาก็สามารถทำให้ตัวเองโง่ลงมาสำหรับบทนี้ในแบบที่ทำให้เราแทบจำเขาไม่ได้” นูริซาเดห์กล่าว “เขาทำทุกอย่างที่ผมต้องการสำหรับหนังเรื่องนี้ได้ยอดเยี่ยมมาก บทไมค์ต้องอาศัยความอ่อนโยนและความละเอียดอ่อน เพื่อจะสามารถถ่ายทอดทั้งเรื่องคอเมดีและดรามได้ เขาแสดงได้อย่างน่าประทับใจในฉากที่สะเทือนอารมณ์ที่สุดของเรื่อง ก่อนที่เขาจะกระโจนเข้าใส่ฉากแอ็กชันสุดมันส์น่ะครับ”
   ไอเซนเบิร์กรีบเซ็นสัญญาหลังจากได้อ่านบทภาพยนตร์เรื่องนี้ “ผมไม่เคยอ่านอะไรแบบนี้มาก่อนเลย” เขากล่าว “ตัวละครให้ความรู้สึกสมจริงจริงๆ สถานการณ์ต่างๆ ก็น่าแปลกใจ และลักษณะที่เรารับมือกับมันก็ดูสมจริงมากๆ ไมค์และฟีบี้เป็นตัวละครที่เข้าถึงได้จริงๆ คนสามารถจินตนาการตัวเองแทนที่พวกเขาได้เลย นอกจากนี้ ไมค์ยังเป็นนักวาดภาพที่ได้เขียนการ์ตูนเกี่ยวกับลิงที่เขาตั้งชื่อว่า Apollo Ape ด้วย เมื่อเขากลายเป็นเป้าหมายของแผนการชั่วร้ายของรัฐบาล สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาก็เหมือนกับเรื่องราว Apollo Ape มันเป็นเรื่องจินตนาการของหนุ่มเมายาที่กลายเป็นความจริงน่ะครับ”
   นักแสดงหนุ่มกล่าวว่า บทภาพยนตร์ของแลนดิสทำให้อารมณ์ขันสมจริง “การนำชายคนนี้ที่เป็นพวกไม่นำพาต่ออะไรเลยมาอยู่ท่ามกลางโลกที่รุนแรงและจริงจังช่วยสร้างศักยภาพในการสร้างเสียงหัวเราะครับ ไมค์ถูกจับเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่เขาจะต้องปกป้องชีวิตของเขาและแฟนสาว ยิ่งการเผชิญหน้าซับซ้อนและน่าสะพรึงกลัวมากขึ้นเท่าไหร่ เขาก็กลายเป็นคนอันตรายมากขึ้น แต่เขาไม่รู้หรอกว่าเขาไปเรียนรู้วิธีทำสิ่งต่างๆ พวกนี้ได้ยังไงหรือเมื่อไหร่น่ะครับ”
   ฟีบี้ ลาร์สัน แฟนสาวของไมค์ ดูเหมือนจะไร้แรงจูงใจพอๆ กับเขา เช่นเดียวกับไมค์ เธอดูเหมือนไม่รีบร้อนที่จะทำอะไรเลย แต่ฟีบี้ ที่รับบทโดยคริสเตน สจวร์ต ก็มีแรงขับดันมากกว่าที่เธอแสดงออกม “เธอคุมสติได้มากกว่าเขาครับ” นูริซาเดห์กล่าว “เธอเป็นคนรับผิดชอบ และทำงานจริงๆ มากกว่าเขา ไมค์พึ่งพาเธอหลายครั้งมาก ไม่นานนักคุณก็จะเข้าใจว่าเธอดูแลเขาในทุกเรื่องครับ”
   สจวร์ตและไอเซนเบิร์ก ผู้นำแสดงในภาพยนตร์ปี 2009 เรื่อง Adventureland มีเคมีเข้ากันในทันที นูริซาเดห์กล่าวว่า “พวกเขาไม่ได้เจอหน้ากันมาหลายปีแล้ว แต่พวกเขาก็ต่อกันติดในทันที ตอนที่เราเริ่มต้นถ่ายทำ พวกเขารู้สึกสบายๆ เวลาอยู่ด้วยกันแม้ในช่วงจังหวะที่แนบแน่นที่สุด เราต้องการความรู้สึกแบบนั้นเพื่อให้คอเมดีมันเวิร์ค พวกเขาเป็นสองคนที่ผมอยากจะร่วมงานด้วยอีกครั้งจริงๆ ครับ”
   หลังจากพบทั้งคู่ด้วยกัน ทีมผู้สร้างก็มั่นใจว่าพวกเขาจะสามารถรับบทคู่รักที่ตั้งใจจะเมายาด้วยกันได้อย่างน่าเชื่อและมีเสน่ห์ “มีบางอย่างเกี่ยวกับเจสซีและคริสเตนที่มีเสน่ห์และเข้ากันได้อย่างเหมาะเจาะเหลือเกิน” อัลเพิร์ตกล่าว “ไอเดียในการจับคู่พวกเขาอีกครั้งเป็นเหมือนฝันที่เป็นจริง เธอมีเสน่ห์และน่าหลงใหลมากๆ บนหน้าจอ และเธอก็นำความลึกซึ้งน่าทึ่งมาสู่ตัวละครและความสัมพันธ์นี้ มันไม่ได้เป็นแค่บทแฟนสาวที่คอยสนับสนุนบทหลัก แต่เธอเป็นตัวละครที่สำคัญพอๆ กันครับ”
   แลนดิสตั้งข้อสังเกตว่า เช่นเดียวกับไอเซนเบิร์ก สจวร์ตเองก็รับบทที่แตกต่างออกไปสำหรับเธอเช่นกัน “เธอไม่ได้เป็นหญิงผู้เสียสละหรือเจ้าหญิงผู้ต้องกลายเป็นนักรบครับ” เขากล่าว “คริสเตนเคยรับบทมาแล้วสารพัดแบบ แต่ในหนังเรื่องนี้ เธอรับบทที่ใกล้เคียงกับตัวตนที่แท้จริงของเธอ เป็นเหมือนทอมบอยที่สบายๆ น่ะครับ”
   สจวร์ตยอมรับว่าเธอกระโจนเข้าใส่โอกาสในการได้ร่วมงานกับไอเซนเบิร์กอีกครั้งหนึ่ง “เราน่าจะสร้างหนังด้วยกันทุกๆ ห้าปีนะคะ” เธอบอก “การร่วมงานกับเขาทำให้ฉันสบายใจเหลือเกินค่ะ เขาเป็นคนตลกและฉลาดจนน่ากลัว บทหนังเรื่องนี้ก็แปลกใหม่มากๆ ลองจินตนาการดูสิคะว่าเพื่อนรักที่ติดยาของคุณเปลี่ยนกลายเป็นมือสังหารระดับพระกาฬของซีไอเอ และก็เกิดเรื่องโกลาหลตามมา มันเป็นหนังแอ็กชันที่รุนแรงสุดๆ แบบมีแอ็กชันเกิดขึ้นซึ่งๆ หน้า แต่มันก็เป็นเรื่องรักที่มีอารมณ์สมจริงและเป็นคอเมดีตลกโปกฮาด้วย ฉันอยากสำรวจเรื่องราวพวกนั้นไปกับเจสซีค่ะ”
   เธอสัญญาว่า การดูไมค์กำราบเจ้าหน้าที่มือฉกาจของซีไอเอจะเป็นเรื่องสนุกอย่างไม่คาดฝัน “สองคนนี้เปลี่ยนเป็นสิ่งที่คุณไม่มีทางคาดคิดมาก่อน การได้เห็นเราทำลายล้างเมืองหรือกำจัดมือสังหารจอมโฉดเป็นเรื่องที่ตลกมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยความเห็นแบบไร้สติของไมค์ระหว่างที่เกิดเรื่องวุ่นๆ นี้ขึ้น ฉันไม่ได้สนุกกับการถ่ายทำหนังแบบนี้มาหลายปีแล้วค่ะ”
   ในการนั้น เธอได้ยกย่องนูริซาเดห์ว่า “เขาเป็นคนใส่ใจรายละเอียดอย่างเหลือเชื่อ” สจวร์ตกล่าว “เขาไม่ปล่อยให้อะไรหลุดรอดสายตาไปเลย เขาเป็นคนที่อ่อนไหวเหลือเกินจนเขาเป็นกังวลกับทุกเรื่อง รวมถึงสิ่งเล็กๆ น้อยๆ อย่างรอยสักที่เหมือนกันตรงเท้าของเราน่ะค่ะ”
   ในตอนที่ภาพยนตร์เรื่องนั้นเริ่มต้นขึ้น ไมค์กำลังจะค้นพบว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของการทดลองลับของรัฐบาล ในชื่อของ ไวส์ แมน โครงการนี้ ที่บริหารงานโดยวิคตอเรีย ลาสเซ็ทเตอร์ ถูกตัดสินว่าล้มเหลวและหนูทดลองของโครงการก็ถูกลบความทรงจำก่อนที่จะถูกนำตัวกลับสู่สังคม ความสำเร็จเพียงหนึ่งเดียวถูกซ่อนไว้ใน ลีแมน เมืองเล็กๆ ในรัฐเวสต์ เวอร์จิเนีย บัดนี้ เอเดรียน เยทส์ คู่แข่งที่เพิ่งได้รับการเลื่อนขั้นของลาสเซ็ทเตอร์ ตัดสินใจที่จะประกาศศักดาของตัวเองด้วยการลบหลักฐานทุกอย่างเกี่ยวกับไวส์ แมน รวมถึงไมค์ด้วย
   ลาสเซ็ทเตอร์ ผู้รับบทโดยคอนนี บริททัน สร้างที่ทางให้กับตัวเองในซีไอเอด้วยการมองการณ์ไกลกว่าคนอื่นๆ สองขั้น แต่เยทส์ก็ทำให้เธอไม่ทันตั้งตัว “ตอนแรก ลาสเซ็ทเตอร์ดูจะเป็นผู้หญิงที่เย็นชา และสนใจแต่เป้าหมาย เธอยึดถือกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดครับ” นูริซาเดห์กล่าว “แต่สัญชาตญาณความเป็นแม่ของเธอก็เริ่มทำงาน และเธอก็กลายเป็นตัวละครที่น่ารักและอบอุ่น ความแตกต่างกันนั้นเป็นสิ่งที่น่าสนใจ คุณจะเริ่มเอาใจช่วยเธอและหวังว่าเธอจะพบวิธีโค่นเยทส์ลงให้ได้น่ะครับ”
   “คอนนีแสดงได้อย่างน่าทึ่ง” อัลเพิร์ตกล่าว “ลาสเซ็ทเตอร์มองไมค์และฟีบี้ว่าเหมือนลูกๆ ของเธอ และเธอก็จะทำทุกอย่างเพื่อคุ้มครองพวกเขา เราทุกคนได้รับรู้ถึงแง่มุมที่อ่อนไหวของคอนนีจากงานก่อนหน้านี้ของเธอ แต่เธอก็ต้องเจอกับเรื่องแอ็กชันเยอะแยะ คุณอาจจะไม่คาดคิดว่าเธอจะมีกำลังทำอะไรแบบนั้นได้ แต่พอคุณได้เห็นเธอในหนังเรื่องนี้ คุณก็จะเชื่อครับ”
   บริททันตกหลุมรักการดำเนินเรื่องที่ผสมผสานแนวต่างๆ เข้าด้วยกัน รวมถึงไดอะล็อคที่ได้รับการขัดเกลาอย่างดีของบทภาพยนตร์เรื่องนี้ “ฉันมีความสุขมากที่ได้อ่านบทที่เขียนขึ้นมาได้อย่างงดงาม” เธอบอก “ภาษาในเรื่องทั้งเฉพาะเจาะจงและตลกมากจนคุณไม่ต้องทำอะไรเลยเพื่อให้มันตลก สำหรับฉัน การได้เจอกับตัวละครที่มีชีวิตชีวาและผลักดันให้เกิดแอ็กชันมากขนาดนี้เป็นเรื่องที่หาได้ยาก มันก็เลยเป็นโอกาสที่วิเศษสุดค่ะ”
   ลาสเซ็ทเตอร์ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ซีไอเอตามปกติ บริททันเล่า “แบ็คกราวน์ของเธอเกี่ยวกับเรื่องทางแพทย์มากกว่าสายลับค่ะ ความสนใจในการค้นคว้านำเธอมาสู่ซีไอเอ ที่ซึ่งเธอเริ่มทำการทดลองเพื่อเพิ่มศักยภาพพลกำลังและความอดทนของมนุษย์ เธอเข้าไปพัวพันกับสิ่งที่ไปไกลเกินกว่าที่เธอตั้งใจเอาไว้ ไอเดียเริ่มแรกคือการปล่อยให้นักโทษที่เคยรับโทษมาแล้วสามครั้งอาสาเข้ารับการทดลองที่ควรจะเพิ่มพลกำลัง ความเฉลียวฉลาด และปฏิกิริยาตอบสนองของพวกเขา แต่มันไม่เวิร์คเท่าไหร่ เธอก็เลยเลือกที่จะยุติโครงการนี้ค่ะ”
   ความนับถือที่บริททันมีต่อเพื่อนร่วมงานของเธอในเรื่องนี้ปรากฏชัดเจน “เจสซี ไอเซนเบิร์กเป็นคนเก่งเหลือเกินค่ะ” เธอกล่าว “การได้ร่วมงานกับเขาเป็นความสุขจริงๆ และฉันก็ประทับใจกับความสามารถที่เหลือเชื่อของคริสเตน ฉันไม่รู้ว่าถ้าสนใจรึเปล่า แต่เธอน่าจะเป็นผู้กำกับที่น่าทึ่งได้นะคะ แล้วเราก็มีนีมาคอยช่วยให้เราเข้าใจความซับซ้อนทั้งหมดของตัวละครเหล่านี้ เขามีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนว่าหนังเรื่องนี้ควรจะออกมาเป็นยังไงน่ะค่ะ”
   คู่ปรับของลาสเซ็ทเตอร์และศัตรูตัวฉกาจของไมค์คือเอเดรียน เยทส์ อดีตเจ้าหน้าที่ออฟฟิศของซีไอเอ เยทส์ ที่รับบทโดยโทเฟอร์ เกรซ ได้พัฒนาโครงการที่คล้ายคลึงกัน แต่น่าหวาดสะพรึงกว่า ที่เขาเรียกว่า ทัฟ กายขึ้นมา เขามองเห็นโอกาสในการเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานด้วยการแสดงให้เห็นว่าโครงการของเขาเหนือกว่า "โครงการของเขาร้ายกาจกว่าครับ” นูริซาเดห์กล่าว คนที่เขาเลือกไม่ได้เป็นเด็กๆ ที่โดนจับข้อหาจิ๊บจ๊อยอย่างเสพยาอย่างไมค์ แต่เขาฝึกฝนพวกอาชญากรโรคจิตที่นิยมความรุนแรงให้กลายเป็นเครื่องจักรสังหารจอมวายร้าย
   อัลเพิร์ตเห็นด้วยว่า หนูทดลองของเยทส์มีความอันตรายและไม่มั่นคงมากกว่าหนูทดลองของลาสเซ็ทเตอร์ “และเขาก็ส่งหนูทดลองของเขาไปฆ่าคนของเธอ สิ่งที่หนูทดลองของเขาต้องการคือยาและการบำบัด แต่สิ่งที่เยทส์ให้กับพวกเขาคือยาอีกประเภทและการฝึกฝนการต่อสู้ครับ”
   เกรซพูดถึง American Ultra ว่าเป็นภาพยนตร์แบบที่เขาอยากดูและอยากเป็นส่วนหนึ่งของมัน “มันมีแอ็กชันอย่างที่ผมโหยหา และมีบทเยี่ยมๆ ด้วย ผมได้ร่วมแสดงในหนังที่มีทีมนักแสดงชั้นเยี่ยมหลายเรื่องแล้ว แต่หนังเรื่องนี้มีทีมนักแสดงในฝันที่ทำให้ผมดูเหมือนเป็นนักแสดงที่เก่งกว่าเดิมเพียงเพราะผมได้เป็นส่วนหนึ่งของหนังเรื่องนี้ ผมอยากจะร่วมงานกับเจสซีมานานแล้ว และผมก็เป็นแฟนพันธุ์แท้ของคริสเตน ทุกคนต่างก็อุทิศตัวเองให้กับงานนี้ และนั่นก็คือเคล็ดลับความสำเร็จครับ”
   เกรซบอกว่า เกรซได้รับการเลื่อนขั้นไปไกลเกินกว่าความสามารถของตัวเขาเอง “เขาเป็นคนเลวที่กระหายอำนาจ และเขาก็มีลูกสมุนที่เขาเรียกว่าเป็นทรัพย์สินของเขา พวกเขาเป็นคนโรคจิตที่เขาฝึกฝนให้ฆ่าคนตามคำสั่งของเขาน่ะครับ”
   แม้ว่าหนูทดลองทุกคนของโครงการทัฟ กายจะน่ากลัว แต่มีคนหนึ่งที่น่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริง ลัฟเตอร์ ที่รับบทโดยวอลตัน ก็อกกินส์ เป็นวายร้ายผู้เผยตัวเองในรูปแบบที่น่าประหลาดใจ “เขามีเสียงหัวเราะบ้าคลั่ง ซึ่งหมายความว่าคุณมักจะได้ยินเสียงเขาก่อนที่คุณจะได้เห็นเขาครับ” นูริซาเดห์กล่าว “แม้ว่าเขาจะเป็นคนโรคจิต แต่คุณก็จะเห็นใจเขาเพราะวอลท์ใส่ความเป็นมนุษย์ให้กับบทนี้มากเหลือเกิน คุณจะกลัวลัฟเตอร์ แต่คุณก็จะลงเอยด้วยการชอบเขานิดๆ ด้วยครับ”
   อัลเพิร์ตเล่าว่านี่เป็นบทที่ทีมผู้สร้างกังวลมากที่สุดในการคัดเลือกนักแสดง “แต่วอลท์นำสิ่งที่น่าอัศจรรย์มาสู่บทนี้ พอเราเห็นว่าเขาสามารถทำอะไรได้บ้าง เราก็ขยายบทนี้ออกไปเพราะมันเป็นการแสดงที่ทรงพลังเหลือเกินครับ”
   ก็อกกินส์ ผู้ซึ่งความน่าเกรงขามของเขาทำให้เขาได้รับบทในภาพยนตร์หลายเรื่อง รวมถึง Django Unchained และ GI Joe: Retaliation กล่าวว่า ลัฟเตอร์มีมิติมากกว่าตัวละครส่วนใหญ่ที่เขาถูกขอให้เล่น “แน่นอนว่าลัฟเตอร์มีรูปร่างที่เป็นภัยคุกคาม แต่เขาก็มีความท้าทายด้านสติปัญญาบางอย่างที่ทำให้ผมสนุกกับการเล่นบทนี้” เขากล่าว “เขามีเสียงหัวเราะคิกคักเอกลักษณ์ที่เป็นสัญญาณการเริ่มต้นของความวุ่นวาย สิ่งที่น่าสนใจสำหรับผมคือลัฟเตอร์เองก็เป็นเหยื่อของสถานการณ์เช่นเดียวกับไมค์ เยทส์เป็นเหมือนตัวแทนพ่อของเขาและเขาก็อยากให้พ่อของเขาแฮปปี้น่ะครับ”
   “นีมา นูริซาเดห์และแม็กซ์ แลนดิสได้สร้างความแปลกใหม่ในหนังเรื่องนี้ครับ” ก็อกกินส์กล่าว “มันเป็นการนำแนวคลาสสิกมาแปลงโฉมใหม่ นีมาได้นำเสนอไอเดียออริจินอลมากมายในหนังเรื่องนี้ เขามีมือที่มั่นคงมากๆ และเขาก็มีความชื่นชมกับทั้งอารมณ์ขันและองค์ประกอบดรามาในเรื่อง ตามความคิดของผม เขาเป็นคนที่เพอร์เฟ็กต์สำหรับการกำกับหนังเรื่องนี้ครับ”
   เมื่อไมค์พบว่าชีวิตเขาตกอยู่ในอันตราย เขาก็หันไปพึ่งพา โรส เพื่อนของเขา ผู้เป็นพ่อค้ายา โรส ที่รับบทโดยจอห์น เลอกุยซาโม มีสิ่งที่เรียกว่า “ความเป็นอาชญากร” ในลีแมน “เขาไม่ใช่พ่อค้ายาตามแบบฉบับของคุณครับ” นูริซาเดห์กล่าว “เขาอาจจะอันตรายนิดๆ แต่ไม่เหมือนกับคนที่มาไล่ล่าไมค์หรอกครับ คุณจะเริ่มตระหนักว่าเขาและไมค์มีอะไรหลายอย่างที่เหมือนกัน พวกเขาต่างก็ชื่นชอบนิยายภาพและหนังสือการ์ตูนเหมือนกัน บ้านของโรสเต็มไปด้วยภาพวาดแอ็บสแตร็คที่สีสันฉูดฉาดมากๆ ครับ”
   อัลเพิร์ตกล่าวว่า เลอกุยซาโมได้นำพลังงานบ้าคลั่งตามแบบฉบับของเขามาสู่บทนี้ “เขาน่าทึ่งมาก คุณจะไม่รู้เลยครับว่าเขาจะไปไหนต่อ ซึ่งเพอร์เฟ็กต์มากสำหรับบทนี้”
   นักแสดงหนุ่มกล่าวว่า โรสไม่ใช่แค่พ่อค้ายาเท่านั้น “เขาเป็นนักธุรกิจ ผู้จัดหาทุกสิ่งตามที่คุณต้องการ เมื่อไหร่ก็ตามที่ไมค์ต้องการอะไร เขาก็จะมาหาโรส พวกเขาต่างก็เป็นคนเพี้ยนซะจนพวกเขากลายเป็นเพื่อนกัน แต่ซีไอเอก็ประกาศเรื่องราวเกี่ยวกับไมค์ที่ทำให้โรสตื่นตระหนก นีมาท้าทายผมให้ทำตัวเพี้ยนหลุดโลกและผมก็บอกว่า ‘นั่นแหละที่ผมอยากทำ พรรคพวก’ ผมอยากจะทำในสิ่งที่ไม่เคยมีใครเห็นผมทำมาก่อน”
   “ฉากที่ตลกที่สุดของผมกับคริสเตนคือฉากที่แสดงกับจอห์นครับ” ไอเซนเบิร์กเล่า “การแสดงกับเขาแทบเป็นไปไม่ได้เลย เขาจริงจังกับตัวละครของเขามากและเขาก็ไม่หลุดบทเลย แต่ผมหยุดหัวเราะไม่ได้เลย”
   ที่สำนักงานใหญ่ซีไอเอ ปีเทย์ ดักกลาส ผู้ช่วยจอมหักหลังของลาสเซ็ทเตอร์ แสดงอาการเหยียบเรือสองแคมด้วยการสนับสนุนลาสเซ็ทเตอร์ในภารกิจลับเพื่อช่วยเหลือไมค์ของเธอไปพร้อมๆ กับการช่วยเหลือเยทส์ “ผมเป็นคนทรยศ แต่ก็เป็นคนทรยศที่น่ารักครับ” โทนี เฮล นักแสดงหนุ่มผู้รับบทดักกลาสกล่าว “American Ultra เป็นหนังแอ็กชันสุดเจ๋งที่เต็มไปด้วยตัวละครเพี้ยนๆ เมื่อมองโดยผิวเผิน มันก็มีสูตรเหมือนหนังแอ็กชันทั่วๆ ไป คือหนุ่มสาวคู่หนึ่งอยู่ระหว่างการหลบหนี มีการสาดกระสุน รถพลิกคว่ำ แต่ตัวละครทำให้หนังเรื่องนี้แตกต่างออกไปครับ”
   นูริซาเดห์กล่าวว่า ปีเทย์อยากจะภักดีต่อลาสเซ็ทเตอร์ แต่สถานการณ์ก็บีบบังคับเขา “เขาพยายามจะทำในสิ่งที่ถูกต้องในโลกที่เต็มไปด้วยความชั่วร้าย โทนีนำองค์ประกอบคอเมดีเข้ามามากมาย แค่เสียงหัวเราะเขาก็ตลกแล้ว ทุกครั้งที่เราจับภาพไปที่เขาจะเป็นช่วงเวลาที่เพลิดเพลินสำหรับผู้ชมครับ”
   ผู้ที่อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหารซีไอเอของ American Ultra คือเรย์มอน ครูเกอร์ ที่รับบทโดยบิล พุลแมน “เราตื่นเต้นมากที่ได้บิล พุลแมนมาร่วมงานกับเรา” อัลเพิร์ตกล่าว “ครูเกอร์เป็นตัวแทนที่เป็นมนุษย์ของอำนาจรัฐ แต่เขาแสดงบทนี้ด้วยความอบอุ่นและความเป็นมนุษย์ในแบบที่คุณไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักในตัวละครแบบนั้นน่ะครับ”
   เช่นเดียวกับนักแสดงคนอื่นๆ พุลแมนรู้สึกหลงใหลในภาษาที่มีเอกลักษณ์และตัวละครที่แจ่มชัดของบทภาพยนตร์เรื่องนี้ “ตอนที่เราได้พบกับครูเกอร์ เราได้ยินเรื่องของเขามาก่อนแล้วครับ” พุลแมนกล่าว “มันมีความกลัวเกิดขึ้นในทุกครั้งที่ชื่อของเขาปรากฏขึ้น เขาเป็นผู้มีอำนาจมากในซีไอเอและเพื่อนร่วมงานก็กลัวเขามากๆ เขาเป็นคนที่มีประสิทธิภาพและเกลียดการทำอะไรโดยเปล่าประโยชน์ เมื่อเขารู้ว่ามีปฏิบัติการนอกลู่นอกทางสองโครงการ ซึ่งก็คือไวส์ แมนและทัฟ กาย ที่กำลังเผชิญหน้ากันอยู่ เขาก็ตัดสินใจเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยครับ”
   พุลแมนมองเรื่องราวของไมค์ว่าเป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับความกังวลที่จะต้องเติบโตขึ้น “เด็กทุกคนที่อยู่ในขั้นตอนนั้นของชีวิตกำลังพยายามค้นหาตัวเอง และสงสัยว่าเขาจะก้าวพ้นจากเมืองนี้ได้รึเปล่า” เขากล่าว “การที่ไมค์จู่ๆ ก็เปลี่ยนเป็นคนที่ไม่ธรรมดาเป็นการปลดความกังวลที่ว่าเขาจะไม่มีวันก้าวไปข้างหน้าได้อย่างวิเศษสุดครับ”

FB on October 19, 2015, 05:00:28 PM
เสียงระเบิดในยามค่ำคืน

   ลีแมน รัฐเวอร์จิเนีย เมืองสมมติที่เป็นบ้านเกิดของไมค์ โฮเวลและฟีบี้ ลาร์สันใน American Ultra เป็นสถานที่ที่ห่างไกลจากวอชิงตัน ดี.ซี. ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ “ลีแมนห่างไกลจากทุกสิ่งครับ” เบร็กแมนกล่าว “มันไมได้เป็นเมืองแบบที่คุณอยากจะอาศัยอยู่ แต่เป็นเมืองแบบที่คุณจะจมปลักอยู่กับมัน สุดท้ายแล้วเราก็ลงเอยด้วยการถ่ายทำนอกนิวออร์ลีนส์ครับ”
   หลุยส์เซียนา ซึ่งได้ต้อนรับกองถ่ายมากขึ้นในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ได้ให้การสนับสนุนชั้นเลิศกับทีมผู้สร้างภายใต้สถานการณ์ที่บางครั้งก็ชวนให้เพลียใจ “เราต้องรับมือกับทุกอย่างตั้งแต่งู จระเข้ ไปจนถึงพายุฝน” อัลเพิร์ตกล่าว “ทีมงานน่าจะประท้วงกัน แต่พวกเขาเป็นเหมือนทหารเรือเลยครับ ถ้าเราบอกให้พวกเขายึดชายหาด พวกเขาก็จะยึดชายหาดครับ”
   ผู้ออกแบบงานสร้างริชาร์ด บริดจ์แลนด์ ได้เปลี่ยนชนบทของหลุยส์เซียนาให้กลายเป็นเมืองเล็กๆ ในเวสต์ เวอร์จิเนีย ด้วยการใช้สีแดงและสีอบอุ่นอื่นๆ ที่ตรงข้ามกับสีที่เป็นกลางและเย็นชาของสำนักงานใหญ่ซีไอเอ “ผมได้แรงบันดาลใจจากเมืองของพวกชนชั้นแรงงานในหนังอย่าง The Deer Hunter ครับ” บริดจ์แลนด์อธิบาย “การหาโลเกชันในนิวออร์ลีนส์ที่เหมือนกับเวสต์ เวอร์จิเนีย ที่เป็นรัฐอุตสาหกรรมเป็นเรื่องที่ท้าทายสุดๆ ตัวเลือกเราจำกัดมากๆ มันมีกระสุน ระเบิดและความโกลาหลในเกือบทุกฉาก ผมก็เลยต้องทำงานกับทีมสตันท์และสเปเชียล เอฟเฟ็กต์อย่างใกล้ชิดมากๆ เพื่อทำให้มันเกิดขึ้นได้ครับ”
   สำหรับ Project X ภาพยนตร์คัลท์ยอดนิยมที่เป็นผลงานแจ้งเกิดของเขา นูริซาเดห์ได้อาศัยกล้องแฮนด์เฮลด์ที่ใช้ในสารคดีและสไตล์ฟุตเตจที่ถูกค้นพบเป็นหลักแต่สำหรับ American Ultra เขาตัดสินใจใช้ลุคที่ดูดีกว่านั้น “American Ultra จะต้องลื่นไหลและสวยงามจริงๆ ครับ” ผู้กำกับกล่าว “มันมีสไตล์ทีเดียว หนังเรื่องนี้สวยจริงๆ ซึ่งก็ช่วยเสริมสร้างโทนที่ไม่ธรรมดายิ่งขึ้นไปอีก แต่แม้ว่ามันจะดูศิลป์แค่ไหน แต่มันก็ยังเป็นหนังแอ็กชันฮาร์ดคอร์ที่ทำให้คุณตกตะลึงและแปลกใจอยู่ดีครับ”
   เมื่อมีคู่มือที่พัฒนาขึ้นเพื่อภาพยนตร์เรื่องนี้พร้อมแล้ว นูริซาเดห์และผู้กำกับภาพ ไมเคิล บอนวิลเลน ก็พินิจพิเคราะห์แต่ละฉากในบทเพื่อออกแบบช็อตของพวกเขา “ผมชื่นชอบช็อตสไตล์กล้องวงจรปิดที่มองลงมายังเมืองลีแมน ที่ทำให้เกิดความรู้สึกเหมือนถูกจับตามองจากเบื้องบนเป็นพิเศษครับ” นูริซาเดห์กล่าว “มันช่วยยกระดับความหวาดระแวงที่ขยายตัวขึ้นในเรื่อง นอกจากนั้น เรายังเน้นไวด์ช็อตด้วย มันมีโคลสอัพบ้างก็จริง แต่เราก็มักปล่อยให้นักแสดงเคลื่อนไหวไปทั่วฉาก โดยมีกล้องสองตัววิ่งบันทึกภาพน่ะครับ”
   ความท้าทายชิ้นใหญ่ที่สุดที่ทีมผู้สร้างต้องเผชิญเกี่ยวกับการสร้างแอ็กชันมันส์ระห่ำตามจินตนาการของผู้กำกับและมือเขียนบท ด้วยการคำนึงถึงงบประมาณที่ค่อนข้างจะจำกัด “มันมีซีเควนซ์ใหญ่ๆ มากมายที่ต้องมีตัวประกอบหลายร้อยคน มีเฮลิคอปเตอร์ การระเบิดและฉากต่อสู้” เบร็กแมนเล่า “มันเป็นเรื่องท้าทายมากที่จะจับทั้งหมดนั่นอัดอยู่ในตารางการถ่ายทำ 43 วัน มันให้ความรู้สึกเหมือนเราถ่ายทำซีเควนซ์แอ็กชันกันทุกวันเลยครับ”
   โรเบิร์ต อลอนโซ ผู้ประสานงานฝ่ายสตันท์ ผู้ซึ่งผลงานรวมถึงภาพยนตร์แอ็กชันบล็อกบัสเตอร์เรื่อง Mission Impossible และ Oblivion ได้เลือกใช้แนวทางที่จริงจัง และไม่ประนีประนอม “สโคปที่เขาสามารถสร้างได้ในหนังขนาดนี้ไม่มีใครเทียบได้ครับ” อัลเพิร์ตกล่าว “เราทำให้รถพลิกคว่ำและเผาไหม้ เราต่อยจนคนฟันหลุดและยิงอะไรหลายๆ อย่าง มีเรื่องต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย และด้วยความช่วยเหลือของร็อบ เจสซีก็สามารถแสดงฉากสตันท์จำนวนมากได้ด้วยตัวเอง ผมมักนึกถึงเจสซีว่าเป็นคนช่างประชดประชัน เจ้าคารม แต่หนังเรื่องนี้แสดงให้เห็นเขาในมุมมองใหม่ ซึ่งส่วนมากแล้วเกิดขึ้นได้เพราะร็อบครับ”
   อลอนโซให้นักแสดงทุกคนเข้ารับการฝึกต่อสู้ “เราเตรียมทุกคนในหนังเรื่องนี้ให้พร้อมกับการต่อสู้จริงๆ เพื่อที่เราจะไม่ได้ยึดติดกับการออกแบบท่าในตอนที่เราอยู่ในกองถ่ายน่ะครับ” เขากล่าว “พวกเขาต่างก็มุ่งมั่นกับการเรียนรู้ ด้วยเหตุนั้นเองเราก็เลยสามารถปรับเปลี่ยนและปรับตัวไปเรื่อยๆ ระหว่างการถ่ายทำได้ ขึ้นอยู่กับว่านีมาต้องการอะไรน่ะครับ”
   คำสั่งเดียวที่นูริซาเดห์ให้กับอลอนโซคือการทำให้แน่ใจว่าผู้ชมเชื่อว่าไอเซนเบิร์กสามารถวาดลวดลายแอ็กชันได้ “ผมไม่อยากได้กังฟูหรือการเตะสูงสุดเวอร์” ผู้กำกับบอก “สำหรับผม มันจะต้องเป็นการต่อสู้ระยะประชิด แบบใช้มือเปล่า ที่อาศัยทักษะ เราต้องนำเสนอการต่อย ลักษณะที่เขาคว้าปืน และการที่เขาใช้น้ำหนักและสมดุลให้เป็นประโยชน์น่ะครับ”
   “ไมค์อาจจะเป็นคนที่ไม่เหมือนใครในโลกแอ็กชันฮีโรเพราะเขาไม่มีอาวุธอะไรเลย” ผู้กำกับกล่าวต่อ “เขาไม่พกปืนหรือมีด ในตอนที่เขาใช้อาวุธ มันก็เป็นเพราะเขาได้ปลดอาวุธคนที่มาโจมตีเขา ไมค์คุ้มครองตัวเองด้วยสิ่งที่หยิบฉวยได้ ทุกอย่างมันจะเฉพาะเจาะจงอยู่กับฉากและของที่มีอยู่ครับ”
   การเริ่มต้นด้วยบทภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยตัวละครพิลึกและจุดหักมุมที่คาดไม่ถึงทำให้อลอนโซมีโอกาสใช้ความคิดสร้างสรรค์สุดโต่งในการออกแบบฉากสตันท์ “ไอเดียของหนุ่มขี้ยาที่มีฝีมือของมือสังหารระดับโลกเป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างเหลือเชื่อสำหรับผม” เขากล่าว “เจสซีจะทำให้ผู้ชมประหลาดใจด้วยความสามารถของเขาในทุกเรื่องตั้งแต่ศิลปะการต่อสู้ของฟิลิปปินส์ไปจนถึงปัญจักสีลัตและมวยไทยครับ”
   เบร็กแมนกล่าวว่า ภายใต้การฝึกสอนของอลอนโซ ไอเซนเบิร์กได้กลายเป็นแอ็กชันฮีโรอย่างไม่น่าเชื่อ “การได้เห็นเจสซีเปลี่ยนจากการเป็นหนุ่มขี้ยาไปเป็นนักสู้ฝีมือเยี่ยมเป็นเรื่องน่าทึ่ง” เขากล่าวเสริม “ด้วยความช่วยเหลือจากร็อบ เขาก็สามารถนำเสนอมิติทั้งหมดของตัวละครตัวนั้นออกมาได้ครับ”
   ไอเซนเบิร์กทำให้ตัวเองแปลกใจกับสิ่งที่เขาสามารถทำได้ “เขาฝึกให้เราสามารถทำทุกสิ่งที่ตัวละครของเราสามารถทำได้” นักแสดงหนุ่มกล่าว “วันซ้อมสองสามวันแรก เราได้เรียนรู้สิ่งที่เรารู้ว่าจะไม่อยู่ในหนัง ซึ่งเป็นเรื่องน่าหงุดหงิดนิดๆ แต่พอถึงสัปดาห์ที่สอง เราก็รู้สึกได้ว่ามันทำให้เราเรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างได้รวดเร็วขึ้นครับ”
   สจวร์ตกล่าวเห็นด้วยว่า “ในตอนที่เราเริ่มถ่ายทำ เราก็เป็นเครื่องจักรต่อสู้เต็มตัว ซึ่งช่วยทำให้ทุกอย่างดูเจ๋งจริงๆ ฉันได้เรียนรู้ถึงเหตุผลที่พวกเขาจ้างคนร่างใหญ่ให้รับบทแอ็กชันฮีโรก็เป็นเพราะมันยากแถมเจ็บอีกต่างหาก คุณจะต้องสามารถรับการถูกต่อยตีได้จริงๆ พวกการระเบิดและฉากสตันท์ทำให้ฉันกลัว และเจสซีเองก็เหมือนกัน มันไม่สำคัญหรอกว่าเราแสดงมันซักกี่ครั้ง เพราะเขาดูเหมือนว่ากำลังจะหัวใจวายเสมอ ซึ่งเพอร์เฟ็กต์เลยสำหรับตัวละครตัวนี้”
   เมื่อเรื่องราวเคลื่อนไหวข้างหน้า ซีเควนซ์แอ็กชันก็ยิ่งมีขนาดใหญ่ขึ้นและร้ายกาจขึ้น “มันเริ่มต้นขึ้นด้วยการเผชิญหน้าระหว่างไมค์และผู้ชายสองคนในลานจอดรถ และมันก็ทวีความตื่นเต้นไปสู่การเผชิญหน้ากับกลุ่มลูกสมุนจอมโฉดในร้านขายส่งครับ” แลนดิสกล่าว “ฉากนั้นเป็นอะไรที่เจ๋งมาก ผมเดินไปทั่ววอลมาร์ท เพื่อจดบันทึกว่ามีอะไรบ้างและคิดหาว่าจะใช้พวกมันยังไงดี ทั้งดินสอเขียนคิ้ว ผนังที่เต็มไปด้วยหลอดไฟ คุณลองพูดมาสิครับแล้วไมค์จะสามารถทำให้มันเป็นอาวุธได้ทั้งนั้น”
   ซีเควนซ์นั้นเป็นส่วนหนึ่งของตอนสุดท้ายที่น่าตื่นตาตื่นใจของเรื่อง “มันมีรถชนกัน” อลอนโซกล่าว “มีดอกไม้ไฟ มีการยิงปืน และแน่นอนว่ามีภาพของไมค์ที่ใช้วัตถุสิ่งของธรรมดากำจัดศัตรูของเขาอย่างมีประสิทธิภาพ มันมีองค์ประกอบต่างๆ มากมาย ซึ่งทำให้มันเป็นหนังที่สนุกจริงๆ คนจะอยากดูหนังเรื่องนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีกครับ”

FB on October 19, 2015, 05:01:01 PM
ประวัติทีมนักแสดง

   เจสซี ไอเซนเบิร์ก (ไมค์ โฮเวล) เป็นนักเขียนบทละครเวทีและนักแสดง ปัจจุบัน เขากำลังอยู่ระหว่างการแสดงละครเวทีเรื่องใหม่ของเขา The Spoils สำหรับเดอะ นิว กรุ๊ป ก่อนหน้านี้ เขาได้เขียนบทและแสดงร่วมกับวาเนสซา เรดเกรฟในละครเวทีของเขาเรื่อง The Revisionist และในปี 2011 เขาก็ได้เขียนบทและนำแสดงในละครเวทีเรื่อง Asuncion ที่โรงละครเชอร์รี เลน เธียเตอร์ (ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลดรามา ลีค อวอร์ด)
   ผลงานภาพยนตร์ของเขารวมถึง The Double, Night Moves, The Social Network (ได้รรับการเสนอชื่อชิงรางวัลอคาเดมี อวอร์ดสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม), Now You See Me, Zombieland, Adventureland, The Squid and the Whale และ Roger Dodger
   ผลงานภาพยนตร์หลังจากนี้ของเขารวมถึง The End of the Tour, Louder Than Bombs และ Batman v Superman: Dawn of Justice ในบทเล็กซ์ ลูเธอร์
   เขาเป็นนักเขียนประจำของนิตยสารเดอะ นิวยอร์กเกอร์และเป็นผู้เขียนหนังสือชุด Bream Gives Me Hiccups ที่กำลังจะตีพิมพ์โดยโกรฟ เพรสอีกด้วย

   คริสเตน สจวร์ต (ฟีบี้ ลาร์สัน) เป็นหนึ่งในนักแสดงหญิงที่งานชุมที่สุด มีพรสวรรค์และประสบความสำเร็จสูงสุดในฮอลลีวูด เมื่อเร็วๆ นี้ เธอกลายเป็นนักแสดงหญิงชาวอเมริกันคนแรกที่ได้รับรางวัลซีซาร์ อวอร์ดสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมจากการแสดงในภาพยนตร์โดยโอลิเวียร์ อาสซายาสเรื่อง Clouds of Sils Maria ซึ่งเธอได้แสดงประกบจูเลียต บินอช ปัจจุบัน เธอกำลังอยู่ระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์สองเรื่องคือโปรเจ็กต์โดยวู้ดดี้ อัลเลน ซึ่งเธอจะแสดงประกบบรูซ วิลลิสและเจสซี ไอเซนเบิร์กและภาพยนตร์โดยโอลิเวียร์ อาสซายาสเรื่อง Personal Shopper ล่าสุด เธอเพิ่งเสร็จจากการถ่ายทำภาพยนตร์โดยเคลลี ไรชาร์ดและภาพยนตร์โดยอัง ลีเรื่อง War/Drama, ภาพยนตร์โดยบิลลี ลินน์เรื่อง Long Halftime Walk หลังจากนี้ เธอจะแสดงในภาพยนตร์ที่กำกับโดยเดรค โดเรมัสเรื่อง Equals ที่จะนำแสดงโดยนิโคลัส โฮลท์ ล่าสุด เธอได้แสดงประกบจูลีแอนน์ มัวร์ นักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์ในภาพยนตร์เรื่อง Still Alice, ภาพยนตร์โดยทิม เบลค เนลสันเรื่อง Anesthesia ที่เปิดตัวในงานเทศกาลภาพยนตร์ไทรเบก้าปี 2015 และ Camp X-Ray
   เธอรับบท “เบลลา สวอน” ในแฟรนไชส์ยอดนิยมเรื่อง The Twilight Saga แฟรนไชส์นี้ทำรายได้ไปกว่า 3.3 พันล้านเหรียญทั่วโลกและประกอบไปด้วยภาพยนตร์ห้าเรื่อง นอกเหนือจากนั้น เธอยังได้แสดงในภาพยนตร์ที่ทำรายได้ถล่มทลายในบ็อกซ์ออฟฟิศเรื่อง Snow White and The Huntsman และในภาพยนตร์โดยวอลเตอร์ ซัลเลสที่ดัดแปลงจากเรื่อง On The Road โดยแจ็ค เคโรแอ็คอีกด้วย
   เส้นทางสู่ความโด่งดังของสจวร์ต ผู้เป็นที่รู้จักของผู้ชมครั้งแรกในปี 2002 จากการแสดงที่น่าติดตามของเธอประกบโจดี้ ฟอสเตอร์ในภาพยนตร์เรื่อง Panic Room ยังคงพุ่งทะยานอย่างต่อเนื่อง โดยเธอมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญในอาชีพนักแสดงของเธอเมื่อเธอครองอันดับหนึ่งในลิสต์นักแสดงหญิงที่ได้รับค่าตัวสูงสุดประจำปี 2012 ของนิตยสารฟอร์บส์ได้สำเร็จ ผลงานของเธอได้แสดงให้เห็นถึงการรับบทตัวละครที่ท้าทายมากมายในภาพยนตร์ต่างๆ รวมถึง Adventureland, Into the Wild สำหรับผู้กำกับฌอน เพนน์, บทโจน เจ็ทท์ในภาพยนตร์เรื่อง The Runaways, Welcome to the Rileys, The Cake Eaters สำหรับผู้กำกับแมรี สจวร์ต มาสเตอร์สัน, The Yellow Handkerchief ประกบวิลเลียม เฮิร์ท, What Just Happened, In The Land of Women, The Messengers, Zathura, Speak, Fierce People, Catch That Kid, Undertow, Cold Creek Manor และ The Safety of Objects เธอใช้ชีวิตอยู่ในลอสแองเจลิส

   โทเฟอร์ เกรซ (เอเดรียน เยทส์) ผู้ที่ผู้ชมอเมริกันได้เห็นเป็นประจำทุกสัปดาห์ในรายการคอเมดียอดนิยม That ‘70s Show ได้ก้าวจากจอแก้วสู่จอเงินอย่างไร้อุปสรรคใดๆ ในปี 2004 เขาได้รับรางวัลการแสดงแจ้งเกิดยอดเยี่ยมจากทั้งสมาพันธ์นักวิจารณ์แห่งชาติและสมาคมนักวิจารณ์ภาพยนตร์ออนไลน์นิวยอร์กจากการแสดงในภาพยนตร์โดยพอล ไวซ์เรื่อง In Good Company ประกบเดนนิส เควดและสการ์เล็ตต์ โยฮันสันและภาพยนตร์โดยดีแลน คิดด์เรื่อง P.S. ประกบลอรา ลินนีย์
   การแสดงที่ทำให้เขาแจ้งเกิดคือการแสดงเปิดตัวของเขาในภาพยนตร์ที่ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์โดยสตีเวน โซเดอร์เบิร์กห์เรื่อง Traffic ซึ่งหลังจากนั้น เขาก็ได้รับบทคามีโอที่น่าจดจำในภาพยนตร์โดยโซเดอร์เบิร์กห์เรื่อง Ocean’s Eleven และ Ocean’s Twelve ผลงานภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ของเขารวมถึง Spiderman 3, Valentine's Day, Predators, Mona Lisa’s Smile และ Win a Date with Tad Hamilton
   เมื่อเร็วๆ นี้ เกรซเพิ่งปิดกล้องภาพยนตร์เรื่อง Truth ที่เขาแสดงประกบเคท บลังเช็ตต์และโรเบิร์ต เรดฟอร์ด สำหรับมือเขียนบท/ผู้กำกับเจมส์ แวนเดอร์บิลท์ (Zodiac) ภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าเรื่องจริงเกี่ยวกับกลุ่มนักข่าวผู้เปิดโปงการสมคบคิดที่จะโค่นประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุชให้พ้นจากตำแหน่ง เกรซรับบทนักวิจัยและเพื่อนร่วมงานของเคท บลังเช็ตต์ ผู้ชื่นชมแนวคิดหัวขบถและการไม่จับนักโทษของเขา หลังจากนั้น เกรซก็ได้อำนวยการสร้างและนำแสดงในมิวสิคัล โรแมนติกคอเมดีเรื่อง Long Shot ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนโพสต์โปรดักชัน
   ล่าสุด เขาได้แสดงประกบแอนน์ ฮาธาเวย์, แมทธิว แม็คคอนนาเฮย์และเจสสิกา เชสเทนในภาพยนตร์ไซไฟยิ่งใหญ่โดยคริสโตเฟอร์ โนแลนเรื่อง Intersellar นอกเหนือจากนั้น เขายังได้แสดงใน Playing It Cool โรแมนติกคอเมดีออฟบีท ประกบคริส อีวานส์, มิเชลล์ โมนาแกนและออเบรย์ พลาซาอีกด้วย เมื่อเร็วๆ นี้ เขาเพิ่งปิดกล้องภาพยนตร์ทริลเลอร์เหนือธรรมชาติโดยยูนิเวอร์แซลเรื่อง Home สำหรับผู้อำนวยการสร้างลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ
   เมื่อปีที่แล้ว เขาเปิดตัวบนเวทีออฟบรอดเวย์ด้วยการแสดงในละครเวทีเรื่อง Lonely I’m Not โดยพอล ไวซ์ ประกบโอลิเวีย เธิร์ลบี้ และได้รับเสียงวิจารณ์ชื่นชมล้นหลาม

   คอนนี บริททัน (วิคตอเรีย ลาสเซ็ทเตอร์) ผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงสี่รางวัลเอ็มมี เป็นนักแสดงหญิงผู้ได้รับการยกย่องจากผลงานจอแก้วและจอเงินของเธออย่างต่อเนื่อง หลังจากบทบาทที่โดดเด่นในซีรีส์ต่างๆ เช่น Spin City, 24 และ The West Wing เธอก็ได้แสดงในซีรีส์เอ็นบีซีเรื่อง Friday Night Lights โดยปีเตอร์ เบิร์ก ซึ่งเป็นหนึ่งในซีรีส์ที่ได้รับเสียงวิจารณ์ดีที่สุดทางจอแก้ว และทำให้เธอได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลเอ็มมีในปี 2010 และ 2011
   บริททันหวนคืนจอแก้วอีกครั้งในฤดูใบไม้ร่วงปี 2012 ด้วยการนำแสดงในดรามาเอบีซีที่เป็นที่จับตามองอย่างสูงเรื่อง Nashville ซึ่งเธอรับบทเรย์นา เจมส์ ซูเปอร์สตาร์วงการเพลงคันทรีในตำนาน โดยบทนี้ทำให้เธอได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลลูกโลกทองคำครั้งแรกและรางวัลเอ็มมีครั้งที่สี่ เมื่อเร็วๆ นี้ เธอเพิ่งปิดกล้องซีซันสามของซีรีส์นี้และจะเริ่มต้นถ่ายทำซีซันที่สี่ในปลายปีนี้ นอกจากนี้ เธอยังได้รับบทนางเอกใน American Horror Story ซีรีส์สำหรับเอฟเอ็กซ์โดยไรอัน เมอร์ฟีย์และแบรด ฟัลชัค ที่ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลลูกโลกทองคำและรางวัลเอ็มมี และทำให้เธอได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลเอ็มมีครั้งที่สาม เธอจะร่วมมือกับเมอร์ฟีย์อีกครั้งในซัมเมอร์ปีนี้ใน American Crime Story: The People v. O.J. Simpson สำหรับเอฟเอ็กซ์
   เธอได้แสดงประกบไมเคิล เจ. ฟ็อกซ์ในซีรีส์คอเมดีที่ได้รับรางวัลของเอบีซีเรื่อง Spin City นานห้าซีซัน ผลงานจอแก้วเรื่องอื่นๆ ของเธอรวมถึงบทประจำในดรามาชื่อดังเรื่อง The West Wing และซีรีส์ยอดนิยมทางฟ็อกซ์เรื่อง 24 อีกด้วย
   ในเดือนเมษายน ปี 2014 บริททันได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทูตสันถวไมตรีของโครงการพัฒนาของสหประชาชาติ หน้าที่ของเธอสำหรับบทบาทนี้คือการรณรงค์ให้เกิดการรับรู้ถึงผลงานของโครงการในการขจัดความยากจนและการเพิ่มอำนาจให้กับสตรี ทั้งต่อชาวอเมริกันและทั่วโลก

   วอลตัน ก็อกกินส์ (ลัฟเตอร์) ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลเอ็มมีและสองรางวัลสมาพันธ์นักข่าวโทรทัศน์สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากการแสดงที่ตราตรึงใจของเขาในบท 'บอยด์ คราวเดอร์’ ในซีรีส์ดรามารางวัลพีบอดี้ทางเอฟเอ็กซ์เรื่อง Justified
   ในซีรีส์ Justified บอยด์ ตัวละครของก็อกกินส์ เป็นเพื่อนเก่าและคู่ปรับตัวฉกาจของเรย์แลนด์ กิฟเวนส์ ตำรวจศาล (ทิโมธี โอลายแฟนท์) เอลเมอร์ เลียวนาร์ด ผู้ควบคุมงานสร้างและผู้เขียนเรื่องสั้นเรื่อง Fire In The Hole ซึ่งเป็นต้นแบบของซีรีส์เรื่องนี้ พูดถึง “บอยด์” ว่า “ไม่มีผู้ร้ายที่อ่อนไหวกว่านี้ในจอแก้วอีกแล้วด้วยมุมมองที่เขามีต่อโลกใบนี้”
   ปัจจุบัน เขาอยู่ระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์โดยเควนติน ทารันติโนเรื่อง Hateful Eight เมื่อเร็วๆ นี้ เขาเพิ่งปิดกล้องภาพยนตร์โดยมือเขียนบท/ผู้กำกับวิลเลียม โมนาฮานเรื่อง Mojave ที่เขาแสดงประกบการ์เร็ตต์ เฮดลันด์และออสการ์ ไอแซ็คส์ ในบท “จิม” ทนายความบันเทิงที่ประสบกับวิกฤติการณ์ด้านตัวตนและภาพยนตร์ที่มือเขียนบท/ผู้กำกับดัดแปลงจากนิยายโดยเคร็ก คลีเวนเกอร์เรื่อง Dermaphoria ที่เขารับบท “ไอลาอาห์ บลังค์” เศรษฐีชาวนิวออร์ลีนส์ ผู้ซึ่งงานอดิเรกของเขารวมถึงการสนับสนุนด้านเงินทุนสำหรับผู้ผลิตยาเสพติด และบท “เอซรา” ใน Diablo ประกบแดนนี โกลเวอร์และสก็อต อีสต์วู้ด
   ในช่วงสองปีที่ผ่านมา วอลตันได้รับบทสำคัญในภาพยนตร์โดยผู้กำกับที่มีความสำคัญที่สุดต่อฮอลลีวูดสองคน นั่นคือเควนติน ทารันติโนใน Django Unchained และสตีเวน สปีลเบิร์กใน Lincoln นอกจากนี้ เขายังได้แสดงในภาพยนตร์ที่หลากหลายเช่น G.I. Joe: Rise of The Cobra, ภาพยนตร์โดยโรเบิร์ต โรดริเกซเรื่อง Predators และ Machete Kills, ภาพยนตร์โดยจอน แฟฟโรเรื่อง Cowboys & Aliens และภาพยนตร์โดยร็อด ลูรีย์เรื่อง Straw Dogs
   ก่อนหน้านี้ เขาโด่งดังจากการแสดงที่ซับซ้อนและอันตรายในบท ‘นักสืบเชน เวนเดรล’ ในซีรีส์ดรามาดิบทางเอฟเอ็กซ์เรื่อง The Shield ในปี 2009 เขาได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลสมาพันธ์นักวิจารณ์โทรทัศน์สาขาความสำเร็จส่วนบุคคลประเภทดรามา

   จอห์น เลอกุยซาโม (โรส) นักแสดงมากความสามารถเจ้าของรางวัลเอ็มมี อวอร์ด ได้สร้างอาชีพนักแสดงของตัวเองที่ไม่อาจจัดให้อยู่ประเภทใดประเภทหนึ่งได้ ด้วยความคิดสร้างสรรค์ที่ไร้ขอบเขต ผลงานของเขาในจอแก้ว จอเงินและละครเวทีและวรรณกรรมครอบคลุมแนวต่างๆ และยังคงมีแนวโน้มที่จะสร้างแนวใหม่ๆ ด้วยซ้ำไป
   ในเดือนมีนาคม เลอกุยซาโมได้เปิดตัวรายการเดี่ยวเรื่องที่ห้าทางเอชบีโอของเขา Ghetto Klown ที่ดัดแปลงจากละครเดี่ยวรางวัลดรามา เดสก์ อวอร์ด ชื่อเดียวกันของเขา เลอกุยซาโมจะดัดแปลง Ghetto Klown ให้เป็นนิยายภาพกับสำนักพิมพ์อับรามส์ บุ๊คส์และนักวาดภาพคริสตา คัสซาโน
   ล่าสุด เขาได้แสดงประกบไอซ์ คิวบ์และเควิน ฮาร์ทในคอเมดียอดนิยมโดยยูนิเวอร์แซลเรื่อง Ride Along เมื่อเร็วๆ นี้ เลอกุยซาโมได้แสดงในภาพยนตร์โดยโอเพน โร้ด ฟิล์มส์เรื่อง Chef ที่เขียนบทและกำกับโดยจอน แฟฟโร, Cymbeline ที่นำบทละครโดยวิลเลียม เชคสเปียร์มาปัดฝุ่นให้ทันสมัยขึ้น และเขาก็ได้แสดงประกบโรซี เปเรซและราดาห์ มิทเชลใน Fugly ซึ่งเขาเขียนบทและอำนวยการสร้างด้วย Fugly ติดตามเรื่องราวของตัวละครของเลอกุยซาโม ที่เป็นนักแสดงตลกชาวนิวยอร์ก ผู้ซึ่งประสบการณ์เฉียดตายของเขาบีบให้เขาต้องทำการตัดสินใจที่น่าหนักใจในชีวิต
   หลังจากนี้ เขาจะได้แสดงประกบแพทริค วิลสันและเอียน แม็คเชนในทริลเลอร์เรื่อง The Man On Carrion Road ได้แสดงใน Stealing Cars ที่นำแสดงโดยวิลเลียม เอช. เมซี, ทริลเลอร์เกี่ยวกับวอลล์สตรีทเรื่อง A Conspiracy On Jekyll Island, ภาพยนตร์อินดีเรื่อง 11:55 Holyoke, แสดงประกบโอลิเวีย ไวลด์และจูโน เทมเปิลใน Meadowland, Sisters ที่นำแสดงโดยทีนา เฟย์และเอมี โพห์เลอร์และได้พากย์เสียงในภาพยนตร์เรื่อง Animal Crackerz และ Ice Age 5

   บิล พุลแมน (ครูเกอร์) เริ่มต้นอาชีพนักแสดงในนิวยอร์ก เธียเตอร์ในปี 1983 และไม่นานหลังจากนั้น เขาก็เริ่มต้นทำงานในแวดวงภาพยนตร์ ที่ปัจจุบันครอบคลุมผลงานภาพยนตร์เจ็ดสิบเรื่องและซีรีส์โทรทัศน์อีกหลายเรื่อง
   พุลแมนเป็นบุคคลที่ถูกกล่าวถึงในสารคดีเรื่อง The Fruit Hunters (ออกฉายในเดือนพฤษภาคม ปี 2013) ได้แสดงในละคโดยเบธ เฮนลีย์เรื่อง The Jacksonian (ประกบเอ็ด แฮร์ริส, เอมี เมดิแกน, เกลนน์ ฮีดลีย์) และได้แสดงในภาพยนตร์โดยเชอเรียน เดบิสเรื่อง May in the Summer (ถ่ายทำในจอร์แดน เปิดตัวในงานเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์ปี 2013)
   ผลงานละครเวทีเรื่องล่าสุดของพุลแมนคือละครบรอดเวย์เรื่อง The Other Place ที่ร่วมแสดงโดยลอรีย์ เมทคาล์ฟ และรอบปฐมทัศน์ของละครเวทีเรื่อง Healing Wars ที่อารีนา สเตจ, ละครโดยนิว กรุ๊ปเรื่อง Sticks and Bones และโปรดักชันสองภาษาของละครเรื่อง Othello ที่โรงละครเนชันแนล เธียเตอร์ในเมืองเบอร์เกน ประเทศนอร์เวย์
   ผลงานภาพยนตร์ของเขารวมถึงคอเมดีบล็อกบัสเตอร์ (Ruthless People, Spaceballs, Casper), ดรามา (The Serpent and the Rainbow, The Accidental Tourist, Igby Goes Down), โรแมนติกคอเมดี (Sleepless in Seattle, While You Were Sleeping), แอ็กชัน (Independence Day), ทริลเลอร์ (Malice), เวสเทิร์น (The Virginian, Wyatt Earp), ฟิล์มนัวร์ (The Last Seduction, Lost Highway, The Zero Effect), สยองขวัญ (The Grudge) และมินิซีรีส์สองเรื่อง (Revelations, Torchwood)
   พุลแมนได้กำกับและอำนวยการสร้างภาพยนตร์ทีเอ็นทีเรื่อง The Virginian (ได้รับรางวัลแรงก์เลอร์ อวอร์ดสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมปี 2000) เขาได้เขียนบทและกำกับ Expedition 6 ที่เปิดการแสดงที่เคนเนดี้ เซ็นเตอร์, บัลติมอร์ เธียเตอร์ โปรเจ็กต์และเมจิค เธียเตอร์/ซานฟรานซิสโก
   หลังจากนี้ เขาจะได้แสดงในภาพยนตร์เรื่อง Brother-in-laws และกำลังจะเริ่มถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Independence Day: Resurrection ในนิวเม็กซิโก

   นักแสดง/นักเขียน โทนี เฮล (ปีเตอร์ ดักกลาส) เป็นที่รู้จักดีที่สุดจากบท แกรี วอลช์ ผู้ช่วยผู้เอารัดเอาเปรียบของรองประธานาธิบดีเซลินา ไมเออร์ ที่รับบทโดยจูเลีย หลุยส์-ดรายฟัสในซีรีส์คอเมดีการเมืองที่ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลเอ็มมีของเอชบีโอเรื่อง Veep ในปี 2013 เฮลได้รับรางวัลเอ็มมีสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมในซีรีส์คอเมดีและได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลอีกครั้งในปี 2014 จากการแสดงของเขา
   ในปี 2013 เขาได้แสดงประกบแซนดรา บุลล็อคและเมลิสซา แม็คคาร์ธีย์ในภาพยนตร์แอ็กชันคอเมดีที่กำกับโดยพอล ฟิ้กเรื่อง The Heat ซึ่งทำรายได้ไปกว่า 229 ล้านเหรียญทั่วโลกสำหรับฟ็อกซ์ นอกจากนี้ เขายังจะได้แสดงประกบจอห์น มัลโควิชและโรดิรโก ซันโทโรในดรามาอินดีเรื่อง Dominion และเมื่อปีที่แล้ว เขาก็เพิ่งเสร็จจากการถ่ายทำภาพยนตร์โดยเควิน สมิธเรื่อง Yoga Hosers ประกบจอห์นนี เด็ปป์, จัสติน ลองและฮาลีย์ โจเอล ออสเมนท์ ในคริสต์มาสปีนี้ เขาจะรับบทผู้ร้ายในภาพยนตร์อนิเมชัน/ไลฟ์แอ็กชันโดยทเวนตี้ เซ็นจูรี ฟ็อกซ์เรื่อง Alvin and the Chipmunks: Road Chip ร่วมกับเจสัน ลี, จัสติน ลอง, แมทธิว เกรย์ กูเบลอร์และเจสซี แม็คคาร์ทนีย์
   เขาเติบโตขึ้นในเมืองทัลลาฮัสซี รัฐฟลอริดา ที่ซึ่งเขาได้เข้ารับการศึกษาในเดอะ ยัง แอ็กเตอร์ส เธียเตอร์ หลังจากนั้น เขาก็ได้ศึกษาด้านการแสดงที่เดอะ แบร์โรว์ กรุ๊ป เธียเตอร์ คัมปะนีในนิวยอร์ก เขาแจ้งเกิดสำเร็จในปี 1999 เมื่อเขาได้รับการจดจำจากการเต้นไปกับ “มิสเตอร์โรโบโต้” ในโฆษณาโทรทัศน์ยอดนิยมของโฟล์คสวาเกน (หลังจากนั้น โฆษณาชิ้นนี้ก็ถูกนำไปล้อเลียนในเอพิโซดของซีรีส์ Arrested Development) ปัจจุบัน เขาใช้ชีวิตอยู่ในลอสแองเจลิส

FB on October 19, 2015, 05:01:29 PM
ประวัติทีมผู้สร้าง

   นีมา นูริซาเดห์ (ผู้กำกับ) เป็นผู้กำกับมิวสิควิดีโอ โฆษณาและภาพยนตร์ชื่อดัง ตั้งแต่เริ่มแรก นูริซาเดห์ก็ชื่นชอบในดนตรีและศิลปะเสมอมา หลังจากสำเร็จการศึกษาจากเซ็นทรัล เซนต์มาร์ตินส์ คอลเลจ ออฟ อาร์ต แอนด์ ดีไซน์ เขาและเพื่อนบางคนก็รวมตัวกันในนามของเดอะ อิเมจินนารี เทนนิส คลับและก่อตั้งแกลเลอรีงานศิลปะในชื่อมิลเลอร์ส เทอร์เรซจากโกดังแห่งหนึ่งทางตะวันออกของกรุงลอนดอน พวกเขาได้ถ่ายทำวิดีโอหลายชิ้นให้กับศิลปินดาวรุ่งของอังกฤษ ประสบการณ์เหล่านี้ได้ช่วยปลุกความรักที่นูริซาเดห์มีต่อดนตรีและการถ่ายทำ และเป็นแรงบันดาลใจให้เขาทดลองงานกำกับเดี่ยวด้วยตัวเอง
   ในปี 2005 นูริซาเดห์ได้กำกับคลิปใหม่สำหรับซิงเกิลยอดนิยมของฮ็อต ชิป "Over and Over" ตามด้วยมิวสิคที่ได้รับรางวัลของศิลปินต่างๆ เช่นลิลลี อัลเลน, โครมีโอ, ไฟลท์ ออฟ เดอะ คองคอร์ด, ซานติโกลด์ และ ฯลฯ ในปี 2008 เขาได้รับรางวัลยูเค มิวสิค วิดีโอ อวอร์ดสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมและไม่นานหลังจากนั้น เขาก็สร้างชื่อในแวดวงโฆษณาด้วยสปอตสำหรับอาดิดาสในชื่อ "House Party" โฆษณาชิ้นนี้นำแสดงโดยนักกีฬา นักดนตรีและศิลปินชื่อดังมกมาย รวมถึงเดวิด เบคแฮม, เควิน การ์เร็ตต์, มิสซี เอเลียต, เคที เพอร์รี, มาร์ค กอนซาเลซและ ฯลฯ เพื่อเป็นเกียรติในโอกาสที่แบรนด์นี้มีอายุครบรอบ 60 ปี สปอตโฆษณานี้ได้รับเสียงวิจารณ์ชื่นชมอย่างล้นหลามและได้รับรางวัลมากมายรวมถึงรางวัลสิงโตเงินจากงานเทศกาลความคิดสร้างสรรค์นาชาติในเมืองคานส์
   ในปี 2010 เขาได้ร่วมมือกับผู้อำนวยการสร้างท็อดด์ ฟิลิปส์และโจเอล ซิลเวอร์ในการกำกับคอเมดีเกี่ยวกับปาร์ตี้ของดับบลิวบีเรื่อง Project X ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์เปิดตัวของเขาและสร้างชื่อให้กับเขาในฐานะผู้กำกับรุ่นใหม่ เจ้าของมุมมองสดใหม่ และมีพรสวรรค์อย่างไม่อาจปฏิเสธได้

   แม็กซ์ แลนดิส (มือเขียนบท) ผู้ติดอันดับหนึ่งในสามสิบบุคคลที่อายุต่ำกว่าสามสิบของนิตยสารฟอร์บส์ เป็นดาวรุ่งผู้กล้าพูดในแวดวงของการเขียนบท หลังจากที่ขายโปรเจ็กต์กว่าสิบห้าเรื่องในรอบห้าปีที่ผ่านมา ภาพยนตร์เรื่องแรกของเขา Chronicle ได้สร้างความแปลกใจในบ็อกซ์ออฟฟิศและนำไปสู่ยอดขายที่เพิ่มมากขึ้น ปัจจุบัน เขามีโปรเจ็กต์หลายเรื่องที่อยู่ในขั้นตอนต่างๆ ของช่วงโพสต์โปรดักชัน รวมถึง  Victor Frankenstein ที่นำแสดงโดยแดเนียล แรดคลิฟฟ์และเจมส์ แม็คอะวอย และกำกับโดยพอล แม็คกีแกน, Mr. Right ที่นำแสดงโดยแซม ร็อคเวลและแอนนา เคนดริคและภาพยนตร์ที่เขาเขียนบทและกำกับเอง Me Him Her ที่นำแสดงโดยฮาเลย์ โจเอล ออสเมนท์ และร่วมแสดงโดยจีนา เดวิสและสก็อต บากูลา ภาพยนตร์เรื่องนี้เปิดตัวในงานเทศกาลภาพยนตร์ซีแอตเติล
   ปัจจุบัน แลนดิสกำลังอยู่ระหว่างการก้าวสู่แวดวงจอแก้ว หลังจากที่ขายตอนไพล็อตซีรีส์ได้สองเรื่อง รวมถึงการขยับขยายเข้าสู่งานกำกับและอำนวยการสร้างมากขึ้นด้วย เมื่อเร็วๆ นี้ เขาเพิ่งขายบทเรื่อง Dirk Gently ที่ได้เค้าโครงจากนิยายภาพของดักกลาส อดัมส์ ให้กับบีบีซี อเมริกา ในฐานะผู้อำนวยการสร้าง เขาได้เป็นผู้ริเริ่ม Channel Zero แอนโธโลจีสยองขวัญ ที่ได้นิค แอนทอสก้า เขียนบท ให้กับไซไฟ แชนแนล
   แลนดิสประสบความสำเร็จทั้งในและนอกระบบสตูดิโอและเขาก็ประสบความสำเร็จอย่างสูงกับไอเดียออริจินอลในแบบที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก Barring Frankenstein เป็นผลงานการปัดฝุ่นที่เขาได้นำเสนอให้กับสตูดิโอมากกว่าจะเป็นงานที่เขาได้รับจ้างทำ โดยภาพยนตร์ทุกเรื่องของแลนดิสล้วนแล้วแต่มาจากไอเดียออริจินอลทั้งสิ้น

   ผลงานภาพยนตร์ของแอนโธนี เบร็กแมน (ผู้อำนวยการสร้าง) รวมถึงภาพยนตร์รางวัลอคาเดมี อวอร์ด Eternal Sunshine Of The Spotless Mind, Enough Said, Our Idiot Brother, Friends With Money, Synecdoche, New York, Please Give, The Tao Of Steve, Lovely & Amazing, Human Nature, The Extra Man, Thumbsucker, The Savages, The Ice Storm, The Brothers Mcmullen, Trick, Darling Companions, Lay The Favorite และ The Oranges
   ปัจจุบัน เขากำลังอยู่ระหว่างการเตรียมงานสร้างภาพยนตร์โดยเจมส์ ชามัสเรื่อง Indignation ที่สร้างจากนิยายโดยฟิลิป ร็อธ และภาพยนตร์โดยเจมส์ พอนโซลด์เรื่อง The Circle ที่สร้างจากนิยายโดยเดฟ เอ็กเกอร์ส ผลงานภาพยนตร์หลังจากนี้ของเขารวมถึงภาพยนตร์โดยคอร์ทนีย์ ฮันท์เรื่อง The Whole Truth ที่นำแสดงโดยคีอานู รีฟส์และเรเน เซลวีเกอร์และภาพยนตร์โดยจอห์น คาร์นีย์เรื่อง Sing Street (เดอะ ไวน์สตีน คัมปะนี) ผลงานเมื่อเร็วๆ นี้ของเขารวมถึงภาพยนตร์โดยเอมี เบิร์กเรื่อง Every Secret Thing (แองคอร์ เบย์) ที่นำแสดงโดยไดแอน เลนและอลิซาเบธ แบงค์, ภาพยนตร์โดยเบนเน็ตต์ มิลเลอร์เรื่อง Foxcatcher (โซนี พิคเจอร์ส คลาสสิกส์) ที่นำแสดงโดยสตีฟ คาเรล, แชนนิง ทาทัมและมาร์ค รัฟฟาโล, ภาพยนตร์โดยจอห์น คาร์นีย์เรื่อง Begin Again (เดอะ ไวน์สตีน คัมปะนี) ที่นำแสดงโดยมาร์ค รัฟฟาโลและเคียรา ไนท์ลีย์, ภาพยนตร์โดยนิโคล โฮลอฟซีเนอร์เรื่อง Enough Said (ฟ็อกซ์ เสิร์ชไลท์) ที่นำแสดงโดยจูเลีย หลุยส์-ดรายฟัสและเจมส์ แกนดอลฟินี
   ภาพยนตร์ของเบร็กแมนได้รับรางวัลมากมายจากเวทีออสการ์ ลูกโลกทองคำ บาฟตา ก็อทแธม อินดีเพนเดนท์ สปริต อวอร์ดตลอดจนเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ เบอร์ลินและซันแดนซ์ ในปี 2010 โรเจอร์ อีเบิร์ทได้ยกย่องภาพยนตร์เรื่อง Synecdoche, New York เป็นภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในรอบหนึ่งทศวรรษ

   เควิน เฟรคส์ (ผู้อำนวยการสร้าง) เป็นผู้ก่อตั้งและซีอีโอของปาล์มสตาร์ มีเดีย เฟรคส์ ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์กว่า 30 เรื่อง ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาอาวุโสของเมอร์ซีด มีเดียด้วยเช่นกัน
   ในปี 2004 เฟรคส์ได้ร่วมก่อตั้งบริษัทปาล์มสตาร์ และนับตั้งแต่นั้นมา เขาก็ได้ระดมทุนกว่า 100 ล้านเหรียญในการพัฒนา สร้างและจัดจำหน่ายภาพยนตร์และเนื้อหาสำหรับสื่อประเภทอื่น ในปี 2010 เฟรคส์ได้ทำงานร่วมกับกลุ่มนักลงทุนจากย่านซานฟรานซิสโก เบย์ เพื่อก่อตั้งปาล์มสตาร์ มีเดีย ซึ่งเป็นบริษัทให้เงินทุนและสร้างภาพยนตร์อิสระระดับแนวหน้า ที่ตั้งอยู่ในลอสแองเจลิส โดยมีวัตถุประสงค์ในการสร้างสรรค์ภาพยนตร์และโทรทัศน์ ในปี 2012 เขาได้จัดให้มีการร่วมมือกันอย่างเป็นทางการขึ้นระหว่างปาล์มสตาร์ มีเดียและเฮดจ์ฟันด์ เมอร์ซีด แคปิตอลจากมินนิอาโพลิส เพื่อก่อตั้งเมอร์ซีด มีเดีย พาร์ทเนอร์ส
   ผลงานการสร้างของเขารวมถึง Hateship Loveship และ How to Make Love like an Englishman

   ราจ บรินเดอร์ ซิงห์ (ผู้อำนวยการสร้าง) เป็นผู้นำในความพยายามของเมอร์ซีด มีเดีย (บริษัทลูกของเมอร์ซีด แคปิตอล) ในการให้เงินทุนภาพยนตร์ ซิงห์เข้าทำงานกับเมอร์ซีด แคปิตอล ซึ่งเป็นบริษัทจัดการทรัพย์สินมูลค่า 2.5 พันล้านเหรียญ ในปี 2011 ก่อนหน้านั้น เขาทำงานในนิวยอร์กที่กรีนไบรอาร์ อีควิตี้ กรุ๊ปและแผนกการลงทุนการธนาคารของเมอร์ริล ลินช์
   เขาได้อำนวยการสร้างหรือควบคุมงานสร้างภาพยนตร์หลายเรื่อง รวมถึงภาพยนตร์โดยจอห์น คาร์นีย์เรื่อง Sing Street, ภาพยนตร์ที่นำแสดงโดยเพียร์ซ บรอสแนนเรื่อง November Man และภาพยนตร์โดยรอน โฮเวิร์ดเรื่อง Rush

   เดวิด อัลเพิร์ต (ผู้อำนวยการสร้าง) ดำรงตำแหน่งประธานบริษัทสกายบาวน์ เอนเตอร์เทนเมนต์ บริษัทด้านความบันเทิงหลายแพลทฟอร์ม ร่วมกับเพื่อนและผู้สร้าง The Walking โรเบิร์ต เคิร์คแมน ในฐานะประธาน อัลเพิร์ตได้ดูแลงานประจำวัน ข้อสัญญาเสนองานก่อนกับยูนิเวอร์แซล สตูดิโอส์และการพัฒนาสินทรัพย์หลากหลายแพลทฟอร์ม รวมถึงการจับมือกับซัมซุงเพื่อพัฒนาคอนเทนท์ความจริงเสมือน นอกจากนี้ เขายังเป็นหุ้นส่วนของเซอร์เคิล ออฟ คอนฟิวชัน แอลแอลซี แผนกจัดการและสร้างภาพยนตร์และโทรทัศน์ ที่มีออฟฟิศอยู่ในลอสแองเจลิสและนิวยอร์กอีกด้วย
   อัลเพิร์ตเป็นผู้อำนวยการจอแก้วและจอเงินที่มากความสามารถ ผลงานของเขารวมถึง The Walking Dead และซีรีส์ใกล้เคียง Fear The Walking Dead both สำหรับเอเอ็มซีและ Outcast สำหรับซีนีแม็กซ์และภาพยนตร์หลายเรื่อง รวมถึง AIR ที่นำแสดงโดยนอร์แมน รีดัสและดิมอน ฮันซูและภาพยนตร์ที่นำแสดงโดยจอร์จ โลเปซและมาริสซา โทเมเรื่อง  Spare Parts นอกจากนี้ เขายังอำนวยการสร้างรายการวิทยุสำหรับไอฮาร์ทมีเดีย และซีรีส์เว็บ สามเรื่องผ่านทางการร่วมมือกับเมคเกอร์ สตูดิโอส์
   อัลเพิร์ตสำเร็จการศึกษาเกียรตินิยมจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและโรงเรียนกฎหมายแห่งมหาวิทยาลัยนิวยิร์ก

   บริททัน ริซซิโอ (ผู้อำนวยการสร้าง) เป็นชาวชิคาโก เธอเริ่มต้นจากการทำงานให้กับกีกี้ พริทซ์เกอร์ จากนั้น เธอก็ได้อำนวยการสร้างมิวสิค วิดีโอและโฆษณา และได้ร่วมงานกับวงต่างๆ เช่นเดธ แค็บ ฟอร์ คิวตี้, มาย เคมิคัล โรแมนซ์และโพสทัล เซอร์วิส ความรักในการรวมทีมและการตามหาผู้มีพรสวรค์สำหรับงานถ่ายทำต่างๆ เหล่านี้นำเธอไปสู่การจัดการด้านวรรณกรรม อาชีพของเธอในฐานะผู้จัดการเริ่มต้นขึ้นที่นิวยอร์ก ออฟฟิศ บริษัทผลิตโฆษณาที่ทั้งส่งเสริมและไม่ส่งเสริมการใช้สื่อ เธอตั้งออฟฟิศในลอสแองเจลิสและเป็นผู้ดูแลทีมงานที่เกี่ยวข้องกับโฆษณาที่ทั้งส่งเสริมและไม่ส่งเสริมการใช้สื่อ หลังจากทำงานที่นั่น เธอก็ไปร่วมงานกับเซอร์เคิล ออฟ คอนฟิวชัน ในฐานะผู้จัดการงานวรรณกรรม ในที่สุด เธอก็ได้ร่วมก่อตั้ง ริท ลาร์จ บริษัทจัดการและสร้างที่ตั้งขึ้นที่ลอสแองเจลิส ลูกค้าของเธอรวมถึงโอเรน อูซีล (22 Jump Street), แม็กซ์ แลนดิส (Chronicle), โซ ฮิวจ์ (Whispers) และคิม เพียร์ซ (Boys Don’t Cry, Carrie)

FB on October 26, 2015, 02:53:17 PM
AMERICAN ULTRA พยัคฆ์ร้ายสายซี๊ดดดด ดราเมดี้อินดี้ บู๊สุดระห่ำ !!! 







ในห้านาทีแรกของ  American Ultra พยัคฆ์ร้ายสายซี๊ดดดด ผู้ชมอาจ รู้สึกเหมือนว่ากำลังดูภาพยนตร์อินดี้ฟอร์มเล็ก  เกี่ยวกับตัวละครพิลึกสองคน  ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ทีมผู้สร้างของเรื่องตั้งใจเอาไว้ ไมค์ โฮเวล ตัวละครเอกของเรื่อง เป็นคนขี้เกียจที่ไร้แรงจูงใจ แต่ก็ฉลาดกว่าคนทั่วไป เขาเองจมปลักอยู่ในเมืองเล็กๆ ทำงานที่ร้านสะดวกซื้อในท้องถิ่น และใช้ชีวิตที่แสนจะปกติธรรมดากับ  ฟีบี้  แฟนสาว 

ผลงานจาก ผู้กำกับ นีมา นูริซาเดห์  ผู้ได้รับการยกย่องในฮอลลีวู้ดจาก Project X ผลงานภาพยนตร์เปิดตัวของเขาในปี 2012 บทภาพยนตร์เรื่องนี้แตกต่างจากเรื่องอื่นๆ ในแนวแอ็กชั่นคอเมดี้  “ถ้าคุณกระเทาะเปลือกเรื่องราวนี้ ให้เหลือแต่องค์ประกอบที่พื้นฐานที่สุด มันก็เป็นเรื่องของผู้ชายคนหนึ่งที่อยากจะขอแฟนสาวแต่งงานแต่ชีวิตเขาก็พลิกตาลปัตร ไมค์มีเป้าหมายเพียงอย่างเดียวคือการขอฟีบี้แต่งงาน แต่แล้วภายในเวลาเพียงแค่คืนเดียว ทุกอย่างก็พลิกผันและมีอุปสรรคมากมายที่เขาต้องฝ่าฟันครับ มันมีองค์ ประกอบมากมายที่ผสมผสานกันอย่างกลมกล่อม ในแบบที่คุณไม่ค่อยจะได้เห็นบ่อยนักน่ะครับ ทั้งเรื่องรัก มีแอ็กชั่น มีคอเมดี้ ดังนั้น มันก็เลยเต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์ ที่จะนำพาคุณไปในที่ที่คุณคาดไม่ถึง มันเริ่มต้นจากโลกเล็กๆ ที่เกือบจะคับแคบ ที่ไมค์และฟีบี้อาศัยอยู่ แล้วทุกอย่างก็ยุ่งเหยิงขึ้นครับ     

และเมื่อจู่ๆ แอ็กชั่นได้เปลี่ยนสถานที่จาก เมือง ลีแมน รัฐเวสต์ เวอร์จิเนีย ไปเป็นสำนักงานใหญ่ซีไอเอ บางสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวกว่าเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ก็เริ่มก่อตัวขึ้นครับ  โครงการลับของรัฐบาลกำลังจะนำความน่าสยดสยองมาสู่เมืองเวสต์ เวอร์จิเนีย ที่กำลังหลับใหล  เป้าหมายของการจู่โจมคือ...ไมค์ โฮเวล ?

“ตอนนั้นเองที่คุณจะรู้สึกได้ว่า American Ultra เป็นหนังแอ็กชั่น ที่มีการบู๊สะบัด แต่ก็ล้อเลียนหนังแนวนี้ด้วย  มันเป็นแอ็กชั่นระดับสูงที่สมจริง แต่ไม่ว่าแอ็กชั่นจะมาแรงแค่ไหน องค์ประกอบความเป็นดราเมดี้อินดี้เกี่ยวกับคู่รักติดยาก็โต้กลับแรงเท่านั้น แน่นอนว่ามันไม่ได้หมายความว่า เราจะไม่ได้สร้างฉากต่อสู้สุดเจ๋งขึ้นมาด้วยน่ะครับ American Ultra คือการผสมผสานสิ่งต่างๆ มากมายในแบบที่เป็นธรรมชาติและน่าสนใจ” เขาตั้งข้อสังเกต “ขนบหลายๆ อย่างจะเป็นสิ่งที่ผู้ชมคุ้นเคยดีอยู่แล้ว แต่มันก็จะถูกยำรวมกันนิดๆ ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง ผมชื่นชอบการนำเสนอสิ่งที่คนคิดว่ารู้แล้วให้ออกมาในรูปแบบใหม่ครับ” ซึ่งก็คือหนึ่งในจุดขายสำคัญสำหรับ นูริซาเดห์  นั่นคือการรวมแนวคลาสสิกต่างๆ ที่ทะเยอทะยานของเรื่อง  ผู้กำกับ  เล่า
                                                                                                   
12 พฤศจิกายน 255
8