happy on October 04, 2015, 06:57:06 PM

จัดจำหน่ายโดย                                   HANDMADE DISTRIBUTION
ชื่อภาพยนตร์                                      We Are Your Friends (วี อาร์ ยัวร์ เฟรนด์ส)
ภาพยนตร์แนว                                     มิวสิค-โรแมนติก
จากประเทศ                                        อังกฤษ , ฝรั่งเศส , สหรัฐอเมริกา
กำหนดฉาย                                        8 ตุลาคม 2558
ผู้กำกับ                                              MAX JOSEPH   (แม็ค โจเซฟ)
                                       
-นักแสดงนำ-


ZAC EFRON  (แซค แอฟรอน)         รับบท     COLE (โคล)
ผลงานที่ผ่านมา  The Paperboy , New Year’s Eve , 17 Again , Hairspray

EMILY RATAJKOWSKI (เอมิลี่ ราไทคาวสกี้ )    รับบท    SOPHIE (โซฟี่)
ผลงานที่ผ่านมา Gone Girl , Entourage

WES BENTLEY (เวส เบนท์เลย์)         รับบท    JAMES (เจมส์)
ผลงานที่ผ่านมา Interstellar , The Hunger Games , Gone , Underworld : Awakening

SHILOH FERNANDEZ  (ชิโลห์ เฟอร์นานเดส )   รับบท    OLLIE (ออยลี่)
ผลงานที่ผ่านมา Evil Dead , Red Riding Hood

ALEX SHAFFER  (เอล็ค แชฟเฟอร์ )       รับบท    SQUIRREL (สแควร์เรล)
ผลงานที่ผ่านมา Runoff , Win Win , The Life Guard

JONNY WESTON  (จอห์นนี่ เวสตัน)       รับบท MASON   (เมสัน)
ผลงานที่ผ่านมา Insurgent ,  Taken3 , Chasing Mavericks

-เรื่องย่อ-


                “We Are Your Friends” เป็นเรื่องราวของวงการเพลงแนวอิเล็คทรอนิกส์ในค่ำคืนของฮอลีวู้ด  “โคล” ดีเจหนุ่มวัย 23 ปี เขารวมกลุ่มกับเพื่อนในวัยเด็กและซุ่มทำเพลงที่หวังจะให้ฮิตติดตลาด ทุกอย่างดูเหมือนจะมีความหวังเมื่อเขาได้พบกับ “เจมส์” ดีเจรุ่นพี่ที่มองเห็นถึงพรสวรรค์ของเขาและรับเขาเข้าสังกัดเพื่อทำงานเพลง แต่ทว่าความยุ่งยากเริ่มเกิดขึ้น เมื่อโคลไปตกหลุมรัก “โซฟี” แฟนสาวของเจมส์ มันเป็นรักต้องห้าม เป็นความสัมพันธ์ที่ต้องหักหลังเพื่อน และโคลต้องเลือกระหว่าง ความรัก ความซื่อสัตย์ และอนาคตในวงการเพลงที่เป็นความฝันของเขา

                ลิงค์ตัวอย่างภาพยนตร์ We Are Your Friends : https://www.youtube.com/watch?v=lg2_NjfooJo

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=lg2_NjfooJo" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=lg2_NjfooJo</a>






เกี่ยวกับภาพยนตร์

                เสียงเพลงแทรกซึมเข้ามาในชีวิตเรา หลายคนมีจังหวะที่ติดอยู่ในหัวและมันจะดังขึ้นเมื่อเราเจอเพลงที่ชอบ เมื่อเราได้ยินเราได้ยินทุกอย่างรอบตัว แต่บางเสียงเท่านั้นมีผลกับเรา บางครั้งเพลงบางเพลงอาจจะจุดประกายความทรงจำในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง  แต่สำหรับโคล เขามีความฝันที่อยากจะเป็นดีเจ เพลงคือชีวิตของเขา และเขาก็พยามเรียนรู้และเสาะหาเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ 

         “We Are Your Friends” แซค แอฟรอน  รับบทเป็น โคลเด็กหนุ่มที่พยามจะค้นหาเส้นทาง ชีวิตที่แตกต่างออกไปให้กับตัวเอง เขามีพรสวรรค์มีการทำเพลงซึ่งนั่นเป็นตัวกำหนดชะตาชีวิตของเขา “…ผมชอบเนื้อหาของภาพยนตร์เรื่องนี้มันเป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มที่ต้องการค้นหาตัวเอง พยามจะสร้างชีวิต และเติมเต็มความฝันแรงบันดาลใจ ซึ่งเรื่องราวมันเริ่มต้นจากจุดนั้น ไม่มีใครช่วยเขา เขาจะต้องทำให้มันเกิดขึ้นด้วยตัวเอง…”

         ผู้กำกับ  แม็ค โจเซฟ นั่งแท่นคนเขียนบทซึ่งเขาใส่ประสบการณ์ของเขาลงในเนื้อเรื่องนี้ด้วย “…ผมต้องการสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับเด็กที่เรียนจบจากโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัย แล้วออกมาใช้ชีวิตด้วยตัวเองพวกเขากำลังก้าวสู่ความเป็นผู้ใหญ่และพวกเขาต้องเลือกทางเดินว่าจะไปทางไหน ซึ่งเส้นทางอาจจะเต็มไปด้วยเซ็กส์ ยาเสพติด ปาร์ตี้ รถยนต์ นั่นเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตวัยรุ่นที่เราใส่เข้าไปใน เพลงเพื่อให้เสริมบทให้กับภาพยนตร์ ซึ่งผมชอบผลที่ออกมามาก…”

         ภาพยนตร์เรื่อง We Are Your Friends” ได้ปลุกจังหวะของหัวใจไปกับเพลงมันส์ๆ อาทิ เพลง ในจังหวะรีมิกส์ของกริฟฟินใน Years & Years’ เพลง  “Desire” และเพลงใหม่สองเพลงของ The Americanos เพลง “BlackOut” ร้องร่วมกับ Lil Jon , Juicy J และ Tyga และเพลงของ Hook N Sling เพลง “Break Yourself” ร้องร่วมกับ Far East Movement และ Pusha T.

        ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับเพลง แรนดัล โปสเตอร์ จึงถูกเลือกมาให้รับงานดูเรื่องเพลงประกอบซึ่งเขามีผลงานเพลงประกอบภาพยนตร์มากกว่า 100 เรื่อง โจเซฟกล่าวว่า  “…เราอยากให้เพลงที่ออกมาเป็นเพลงที่ร่วมสมัย อยากให้เป็นเพลง ที่อยู่ในยุคปัจจุบัน เพลงเต้น จังหวะมันส์ๆ แนวอิเล็คทรอนิกส์ เทศกาลเพลง แนวป๊อบ แนวเทรป ฮิพฮอฟ หรือ อีดีเอ็ม ก็ได้ แต่ให้ร่วมสมัย เราทำงานอย่างหนักมากในเรื่องของเพลงเพื่อให้ได้เพลงที่ดีที่สุดที่จะส่งเสริมเนื้อเรื่องให้เด่น เราผสมผสานเพลงแนวต่างๆไว้ภายใต้เพลงเต้นจังหวะมันส์ๆ แนวอิเล็คทรอนิกส์ ให้สมดุลตามความเหมาะสม มันเป็นงานศิลปะจากดีเจที่จะสร้างสรรค์และเลือกเพลงต่างๆ มาผสมผสานกันให้เกิดจังหวะที่กลมกลืนกัน ทำให้คุณเกิดอารมณ์อยากขยับตัว อยากเต้นรำ เราเชื่อว่าเราทำมันให้เกิดขึ้นในภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว…”
 
        โปสเตอร์ เห็นด้วยกับโจเซฟ “… เราต้องการเพลงที่บ่งบอกถึงอารมณ์ของตัวละครและบอกเล่าเรื่องราว ความฝันของเขาซึ่งเรื่องราวและอารมณ์มันจะเป็นตัวกำหนดจังหวะของเพลง แนวเพลงอิเล็คทรอนิกส์เป็นที่ นิยมเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เองแต่ในวงการก็ยังมีเพลงฮิพฮอฟ เพลงป็อบที่ยังอยู่ในกระแสและเราต้องการให้เกิด ความหลากหลายในภาพยนตร์ แต่เราก็ต้องคุมโทนเพลงในเนื้อเรื่องด้วย…”

        ศิลปินชาวฝรั่งเศส ปีรามิด ได้ช่วยโจเซฟสร้างเพลงของโคล โจเซฟได้ยินเพลงของ ปิรามิด เพลง “See You in the Other Side” ซึ่งเขาเห็นว่าเหมาะที่จะนำมาสร้างแรงบันดาลใจสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ “…กลับไปตอนที่เราช่วยกันคิดเรื่องเพลงของโคล ผมก็คิดถึงปิรามิด เพราะว่าเพลงของเขา มันมีทั้งความเป็นอิเล็คทรอนิกส์และเต็มไปด้วยอารมณ์ และจิตวิญญาน ซึ่งเราหาศิลปินมาทำงานเพลงของ โคลหลายคน แต่เราก็พบว่าปิรามิดน่าสนใจที่สุด…”โจเซฟกล่าว.

        โจเซฟพาศิลปินไปที่หุบเขาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจก่อนเริ่มงาน และหลัง จากนั้นพวกเขาก็ทำงานกันสองอาทิตย์เต็มๆ แบบไม่หยุดพัก “…พอสิ้นอาทิตย์ที่สองเราก็ได้เพลงที่มหัศจรรย์ มากเพลงที่สื่อได้ถึงอารมณ์ของฉากและตัวละคร มันค่อนข้างท้าทายในการสร้างเพลงให้ชีวิต โคล มันไม่ใช่แค่เพลงเพลงหนึ่ง แต่มันต้องมีวิญญานมีแรงดึงดูดของอารมณ์ที่แผ่ออกมา…”

        ดีเจ/โปรดิวเซอร์เพลง เจสัน สตีวาร์ด  รับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้ภาพยนตร์ เขาสอนทักษะให้เอฟรอน ในเรื่องเพลงและดีเจรวมทั้งการวางตัวบนเวที ซึ่งมันช่วยให้ภาพของภาพยนตร์สมจริงมากขึ้น “…ผมสนใจใน ภาพยนตร์ที่มีเพลงเข้ามาเกี่ยวข้อง การทำงานกับเอฟรอนและโจเซฟและโปสเตอร์มันเยี่ยมมาก ผมหวังว่างาน แบบนี้น่าจะมีบ่อยๆ นะ…” เขากล่าว

         ผู้ที่เรียบเรียงฉากในเพลงทั้งหมดนี้คือ ซีกัล ซึ่งโจเซฟ ชอบงานของเขาในซีรีย์ของอังกฤษเรื่อง “Skins” “…ผมค่อนข้างลุ้นนะและภูมิใจมากที่ได้ร่วมงานกับปิรามิด , ซีกัล และ ชอง  ผมชอบงานของพวกเขาทั้งสามทั้งเพลงในรูปแบบและเพลงที่ดีเจจัด พวกเขายังเด็กยังกระหาย อยากเรียนรู้ และกระตือรือร้น ซึ่งพวกเขายังไปได้อีกไกลเลยทีเดียว…”







เสียงมีวิญญาน ที่สร้างขึ้นมา ค้นหาเสียงใหม่ๆ
เริ่มต้นฟังว่าจริงๆ แล้ว โลกอยากบอกคุณว่าอะไร

                ในภาพยนตร์เรื่อง “We Are Your Friends” โคลได้รับได้รับโอกาสสำคัญจากดีเจรุ่นพี่ เจมส์ รีด ซึ่งเขามีอิทธิพลต่อชีวิตของโคลมาก หลังจากพบกับกับเจมส์ โคลก็เริ่มพบแนวทางในชีวิตของเขา

        เอฟรอนอธิบาย “…โคลเป็นบทที่เท่ห์มากเขาเป็นหนึ่งในกลุ่มเพื่อนที่มีทั้งหมดสี่คนซึ่งพวกเขาต่างทำ อะไรด้วยกันพวกเขาสนิทกันมาก แต่ในอาชีพของการเป็นดีเจมันต้องคิดเยอะกว่านั้น และยิ่งได้รับโอกาสจาก   ดีเจรุ่นพี่ให้เข้าร่วมสังกัดอีก มันเป็นชิ้นส่วนเล็กๆหลายชิ้นที่เขาต้องคิดให้มากขึ้นเขาพบว่าเพื่อนๆของเขาต่าง ติดอยู่ในกรอบของชีวิตเดิมๆ เขารู้สึกว่าเขาต้องเลือกระหว่างเพื่อนหรือชีวิตในวงการเพลงของเขา โคลหวังจะสร้างแนวเพลงที่เป็นแรงบันดาลใจให้คนลุกมาเต้นตามจังหวะ เขาอยากจะพาเพื่อนๆของเขาออกไปด้วยกัน    โคลเริ่มรู้สึกแล้วว่าเขาไม่เป็นตัว ของตัวเองเมื่อเขาอยู่กับกลุ่มเพื่อนๆ เขาพบรักที่ไม่มีเงื่อนไขแต่เขากลับทำตามหัวใจตัวเองไม่ได้ และเมื่อเขา อยู่ที่แผ่นเสียงเขามีอิสระและเขาก็สามารถสร้างเสียงต่างๆ เสียงที่เขาไม่สามารถพูดออกมาได้ เขาสามารถ รับรู้ถึงทุกๆคนรอบตัวเขา ดนตรีเป็นเหมือนขุมพลังและดีเจก็เป็นคนที่คุมหางเสือในการใช้พลังปลุกชีวิตผู้คน มันเจ๋งมาก…” เอฟรอนกล่าว.

        ระหว่างการถ่ายทำ เอฟรอนต้องเตรียมตัวเพื่อรับบทนี้ เขาถูฝึกโดย เจสัน สตีวาร์ด ในเรื่องของการเป็นดีเจ “…การเป็นดีเจมันยาก มันยากกว่าที่ผมคิดไว้เยอะเลย ในเรื่องของการฝึกเป็นดีเจ เขามีบทเรีบนที่ต้องนำกลับไปฝึกฝนต่อ ผมได้ตัวเครื่องเล่นเอาไปฝึกเล่น เพลงที่บ้าน ผมไม่เล่นวีดีโอเกมส์ ผมได้แต่เล่นกับแผ่นเสียง เพื่อนบ้านอาจจะรำคาญบ้าง แต่ว่าผมโชคดีที่มี เพื่อนบ้านที่เจ๋งพวกเขาชอบ ผมต้องเริ่มเรียนรู้พื้นฐานว่าจะเร่งจังหวะอย่างไร จะเปลี่ยนเพลงอย่างไร เลือกเพลงที่จะต้องใช้ในการแสดง เพื่อให้มั่นใจ ว่าผมจะสามารถใช้งานได้อย่างคล่องมือ เพื่อให้ดูสมจริงเวลาถ่ายทำ  นอกจากนี้ผมยังต้องออกไปฟังดีเจหลายคนตามคลับ เพื่อดูวิธีการเล่นแผ่นของพวกเขาแล้วเอามาปรับใช้ในบทที่ผมได้รับ มันเหมือนงานศิลป์มาก สำหรับผมคิดว่าส่วนที่ยากที่สุดคือสไตล์ สิ่งเล็กๆที่ต้องใส่เข้าไปในเพลง หรือสร้างสรรค์ให้เพลงออกมาเป็นในแบบของคุณเอง…”

        ในเรื่องของร่างกายโจเซฟเป็นผู้ดูแลให้กับเอฟรอน “ …ตอนที่ผม พบเขาครั้งแรก เขาอ้วนมาก,ตัวใหญ่ ผมบอกเขาว่าคนที่เป็นดีเจเขาไม่ค่อยกินเท่าไหร่และจะใช้เวลาส่วนใหญ่ ตอนกลางคืนอยู่กับคอมพิวเตอร์ เขาจะไม่ได้มีผิวสีแทนสวยเพราะว่าเขาไม่ค่อยจะโดนแดด  และเขาน้ำหนักลดลงไปเกือบ 20 ปอนด์ เมื่ออยู่หน้ากล้อง…”

        เบนท์เลย์ ที่รับบทดีเจรุ่นพี่ เจมส์ รีด ก็ต้องฝึกการเป็นดีเจเหมือนกัน

        “…อย่างหนึ่งที่ดึงดูดผม คือ เมื่อตอนผมเป็นเด็ก ผมฝันว่าจะเล่นเพลงแนวอิเล็คทรอนิกส์ ผมจะทำเพลง ในแนวของผมเองและเหล่าดีเจก็บอกว่ามันใช้ได้ ซึ่งมันค่อนข้างเหมือนกับบทเจมส์ที่ผมได้รับ ผมว่าโชค เข้าข้างผมนะ  สำหรับเจมส์มันเหมือน เป็นสัญชาตญาน มันเหมือนกับนักกีฬาที่รู้จังหวะว่าเขาจะเตะบอลเมื่อไหร่ผมว่าเจมส์รู้สึกอย่างเดียวกัน เมื่อเขาพบกับโคล เขามีบางอย่างที่คนอื่นไม่มี บางอย่างที่เขาเคยมีมาก่อนชื่อเสียง โชคลาภ…” เบนท์เลย์กล่าว
   
        เอมิลี่ ราไทคาวสกี้ ไม่ได้พักอยู่ที่เดียวกับเจมส์ แต่ทำตัวเหมือนกับผู้ช่วยของเขามากกว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดูราบรื่นจนกระทั่งโคลเข้ามาในชีวิต “…โซฟีเป็นผู้หญิงที่ฉลาดมากเป็นเด็กเรียนเธอไม่มีเวลา ที่จะไปทำ กิจกรรมอะไรสนุกอย่างสาวๆไฮสคูลทำกัน และเมื่อเธอเข้าเรียนที่แสตนฟอร์ดได้ เธอก็ทำงานหนัก มากและเธอก็ต้องการเวลาพักเธอมาที่แอล.เอ. จนได้พบเจมส์และมันก็ถึงเวลาที่เธอเริ่มมองหาเส้นทางของ ตัวเอง  เธอทำสิ่งที่น่าสนใจมาก เธอขีดเส้นใต้ในบทและเขียนอธิบายไว้ใน แต่ละบรรทัดซึ่งมันดูซับซ้อน การทำงานร่วมกับเธอมันน่าประทับใจมากเธอมีความเป็นมืออาชีพมากและมี ทักษะที่ยอดเยี่ยม…” เอมิลี่อธิบาย
   
        “…เอมิลี่น่ารักมากเธอรับบทโซฟีได้อย่างง่ายๆเลย ผมคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่โคลสนใจในตัวโซฟีความเป็น ตัวของตัวเองของเธอ ความเข้มแข็งและเธอก็จิตใจดี ซึ่งการที่เขาสนใจเธอมันทำให้เขาสับสนและไม่รู้จะทำตัว อย่างไรเมื่อเขาและโซฟีอยู่ต่อหน้าเจมส์…” เอฟรอนกล่าว.

        ในโลกของโคลมีแค่ เพื่อนๆ  ซึ่งได้แก่ ออยลี่ , เมสัน และ สแควร์เรล  พสกเขาเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆ และ เมื่อโตขึ้นพวกเขาต่างสับสนว่าตัวเองจะไปในทิศทางไหนจะใช้ชีวิตอย่างไร พวกเขาจะทำทุกอย่าง เพื่อไปฮอลลีวู้ด

        มันสำคัญในการหานักแสดงถึงสามคนที่คนดูจะเชื่อว่าพวกเขาเป็นเพื่อนตายกัน จริงๆ เพราะพวกเขาต้องมีเคมีบางอย่างที่ตรงกัน โจเซฟคิดถึง ชิโลห์ เฟอร์นานเดส ให้มารับบทของออยลี่หนึ่งใน ตัวละครที่เขาชอบมาก “…ผมตื่นเต้นมากที่จะได้เห็นตัวละครตัวนี้มีชีวิตขึ้นมาจริงๆ และเมื่อได้ชิโลห์มารับบท ออยลี่ มันก็ยิ่งชัดขึ้น เขาเป็นออยลี่ได้จริงๆ…”

        “…ออยลี่ผุดขึ้นมาในสมองผมเลย เขาเป็นผู้ชายที่สนุก และในขณะเดียวกันเขาก็ต้องสูญเสียมิตรภาพเมื่อเพื่อนๆทุกคนเติบโตขึ้นและต่างมีเส้นทางของตัวเอง ผมยังจำได้ตอนที่ผมย้ายมาที่ลอสแองเจอลิสเพื่อ มาเป็นนักแสดง เพื่อนของผมที่อาศัยในหุบเขาต่างก็ต้องการออกจากหุบเขา ดังนั้นผมเลยคิดว่ามันง่ายสำหรับ ผมในการเข้าถึงบทนี้ ความคิดของการล้มเลิกความฝันเพราะว่ามันง่ายกว่าซึ่งโจเซฟใส่อารมณ์นั้นเข้าไป ในภาพยนตร์…” เฟอร์นาน เดสกล่าว.

        ในบทของเมสัน โจเซฟกล่าวถึงบทนี้ว่า “…เขาเหมือนเป็นหัวหน้ากลุ่ม ซึ่งโจเซฟได้เลือกนักแสดง จอห์นนี่ เวสสัน  มันค่อนข้างยากในการตามหาคนมารับเมสัน เราต้องการคนที่มีบทเด่นพอๆ กับเอฟรอน พวกเขาต้องเข้าฉากด้วยกันซึ่งมันหายาก จอห์นนี่มาคัดเลือกในชั่วโมงที่สิบเอ็ดหลังจากนั้นการคัดเลือก นักแสดงมันก็จบที่เขา เขาเป็นเมสันได้ เขามีเคมีที่ตรงกันกับเอฟรอน…”

        "….เมสันเป็นคนที่มุ่งมั่นที่จะรวยให้ได้ เขามักพูดเกี่ยวกับเงิน เกี่ยวกับความสำเร็จ แต่เป้าหมายที่แท้จริงของเขาคิอการดึงคนมาอยู่รวมกัน เพื่อเป็นเพื่อนกับเขาและอยู่สนุกด้วยกันกับเขา เขาดู กวนๆ แต่เขาเป็นคนดีนะ เพียงแต่ชอบทำตัวเป็นคนเลวก็เท่านั้น ผมเป็นแฟนของเทศกาลดนตรี ผมหลงไหลในเสียงเพลง ผมชอบEDM และติดกับกับเสียงเพลงอิเล็คทรอนิกส์…” เวสตันกล่าว.

        เพื่อนคนที่สี่ในกลุ่ม คือ  สแควร์เรล เขาเป็นคนเงียบๆ โจเซฟบอกว่าเขารู้จัก เอล็ค ชัฟเฟอร์ ซึ่งดูเหมาะกับบทของ สแควร์เรล ตั้งแต่แวบแรกที่เห็น “…เอล็คเป็นนักแสดงคนแรกที่เข้ามา ในห้อง และผมก็รู้สึกว่าเขามีบุคลิกที่เหมาะกับบทนี้มาก…”

        ชัพเฟอร์ตระหนักว่า “…สแควร์เรลเป็นคนที่เข้าใจว่าพวกเขาไม่สามารถทำอะไรกับชีวิตหรือกับสังคม พวกเขาโปรโมทคลับ หลอกให้ผู้หญิงมาที่งาน เพื่อมาปาร์ตี้ แต่เขาเหนื่อยที่จะทำมันต่อ เขาต้องการทำอะไร ที่มันดีกว่าและเขาก็เป็นเพียงคนเดียวที่พูดมัยออกมา..”
« Last Edit: October 04, 2015, 07:08:20 PM by happy »