ผู้ประพันธ์: ธม ธาตรี
บทโทรทัศน์: วรพันธ์ รวี
ผู้กำกับ: ณพธันกรณ์ ธัญญาสิริทรัพย์
ผู้ผลิต: บริษัทดีด้า วิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
นำแสดงโดย:
1. เขตต์ ฐานทัพ แสดงเป็น บริพัฒน์
2. รังสิโรจน์ พันธุ์เพ็ง แสดงเป็น ชาตรี
3. ปุณยาพร พูลพิพัฒน์ แสดงเป็น ลำหับ
4. ธัญยกันต์ ธนกิตติ์ธนานนท์ แสดงเป็น เฉิดเฉลา
5. ศรุต วิจิตรานนท์ แสดงเป็น ยศพงษ์
6. พูลภัทร์ อัตถปัญญาพล แสดงเป็น พลเทพ
7. ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล แสดงเป็น ราม
8. ภัทรพลฒ์ เดชพงษ์วรานนท์ แสดงเป็น คนัง
9. พรชดา เครือคช แสดงเป็น เพ็ญโพยม
10. พรหมพิริยะ ทองพุทธรักษ์ แสดงเป็น จักริน
11. ณรงค์ฤทธิ์ รัตนภักดี แสดงเป็น เศก
12. วาสนา สิทธิเวช แสดงเป็น นายแม่
13. วันชัย เผ่าวิบูล แสดงเป็น อาเดียว
14. วาสิฏฐี ศรีโลฟุ้ง แสดงเป็น แม่เริ่ม
15. สมชาย ศักดิกุล แสดงเป็น ลุงเปรื่อง
16. นึกคิด บุญทอง แสดงเป็น วิเวก
17. อรุโณทัย จิตตรีขันธ์ แสดงเป็น ตึ๋งหนืด
18. จิรภัทร พานเงิน แสดงเป็น สน
20. ด.ช.อัฉริยะ ศรีวิลัย แสดงเป็น จูเนียร์
21. ด.ช.กันตพัฒน์ รัตนภักดี แสดงเป็นคนัง(เด็ก)
22. ด.ญ.สมิตา รัตนภักดี แสดงเป็น เพ็ญโพยม(เด็ก)
นักแสดงรับเชิญ
18. มัณฑนา หิมะทองคำ แสดงเป็น นลินี
19. เล็ก ไอศูรย์ แสดงเป็น พ่อเลี้ยงศร
หนูใหญ่ (ลำหับ) เป็นลูกสาวของ ราม หัวหน้าค่ายอาสาป้องกันชายแดนผู้ทรยศต่อแผ่นดิน เพราะความอยากเป็นใหญ่มีเงินทองจึงไปเข้าร่วมกับ พ่อเลี้ยงศร เจ้าพ่อค้ายา ทำสิ่งผิดกฎหมาย และก่อการร้าย รามเปิดทางให้พวกพ่อเลี้ยงศรเข้ามาเผาค่ายเพื่อใช้เป็นทางผ่านส่งยา ในคืนวันเกิดเหตุหลังจากที่ลำหับฝึกซอสามสายที่ นลินี ผู้เป็นแม่ฝึกสอนให้ประจำแล้ว รามสั่งให้นลินีเล่นเพลงพญาโศก ซึ่งรามแอบใช้เป็นเพลงสื่อสารกับพ่อเลี้ยงให้รอช่วงเวลาหลังจากเพลงจบบุกทำลายค่าย นลินีไม่ต้องการเล่นเพลงนี้เพราะจับสังเกตได้ว่าทุกครั้งที่สามีสั่งให้เล่นเพลงนี้จะมีความตายเกิดขึ้น แต่ก็ไม่อาจขัดขืนได้จึงจำใจเล่น
ศรได้ยินเสียงเพลงพญาโศกขึ้นจึงรีบสั่งการตามที่นัดหมายกับรามทันที เมื่อเพลงจบรามสั่งให้ลูกเมียเดินทางออกจากค่ายโดยไม่ยอมตอบคำถามว่ามีจุดหมายที่ใด อนุญาตเพียงให้เอาซอสามสายไปด้วย นลินีเกิดลางสังหรณ์ว่ารามอาจทำสิ่งไม่ถูกต้องจึงปฏิเสธที่จะออกจากค่ายจนกว่าจะได้คำตอบ รามตอบเพียงว่า ถ้าอยู่ครอบครัวต้องตายหมดเพราะค่ายกำลังจะถูกทำลาย นลินีเข้าใจทันที และต่อว่ารามว่าหักหลังพี่น้องในค่าย เธอจะไปบอกให้ทุกคนรู้ตัวโดยที่ไม่ฟังคำสั่งของรามว่าให้ออกจากค่ายไม่เช่นนั้นจะยิงให้ตาย นลินีและลูกพากันวิ่งกลับไปเพื่อตะโกนบอกพวกในค่ายให้รู้ตัว ขณะเดียวกันนั้นพ่อเลี้ยงศรก็ยิงระเบิดเข้าไปในค่ายหลายลูก รามตัดสินใจยิงนลินีก่อนที่จะเข้าไปบอกทุกคนจนล้มลง ซอสามสายกระเด็น ลำหับและน้องชายตกตะลึง นลินีที่ใกล้ตายตะโกนสั่งให้ลำหับซึ่งตอนนั้นชื่อหนูใหญ่ ส่วนน้องชายชื่อ น้องเล็ก (พลเทพ)ให้พาน้องหนี ลำหับก้มลงเก็บซอกระชากน้องชายหนี แต่รามจิกหัวไว้
ผมขาดจากหัวกระจุกใหญ่ รามแย่งเอาน้องเล็กมาได้ คนของศรเข้ามาเจอเหตุการณ์จะยิงลำหับ นลินีฮึดเฮือกสุดท้ายกระโดดไปขวางทางปืนล้มลงตาย ลำหับหนีรอดไปได้ ค่ายโดนทำลายคนในค่ายตายทั้งหมด ศรพาคาราวานยาเสพติดผ่านค่ายไปได้ ตั้งรามให้เป็นหัวหน้าค่ายแห่งใหม่ รามได้รางวัลเป็นเงินทองมากพอสมควร
ลำหับหอบซอหนีมาหกล้มหกลุกคลุกคลานหมดแรงสลบบนก้อนหินใหญ่กลางป่า เช้ารุ่งขึ้น บริพัตร ทำงานสำรวจรังวัดถนนที่ดิน เข้ามาสำรวจงานตามปกติกับลูกน้องสองคน ขณะที่ส่องกล้องสำรวจ ได้ยินเสียงเพลงพญาโศกแว่วมาจึงแพนกล้องไปยังก้อนหินใหญ่ เขาเห็นเด็กสาวแรกรุ่นหน้าตาสะสวยน้ำตาอาบนองหน้ากำลังเล่นเพลงพญาโศก บริพัตรเข้าไปยืนฟังใกล้ๆ รอจนเพลงจบจึงแสดงตัว แต่ลำหับไม่ยอมพูดจาหรือตอบคำถาม หอบซอหนีไป บริพัตรตามจนลำหับหมดแรงล้มสลบไปอีกครั้ง บริพัตรจึงพาลำหับกลับไปบ้านตนเอง ลำหับรู้สึกตัวที่บ้านบริพัตร เห็นบริพัตรคนแรกรีบถอยหนีดึงซอมากอดไว้แน่น นายแม่ ของบริพัตรนั่งอยู่ด้วยเข้าปลอบโยนจนหายตกใจ กระนั้นลำหับก็ยังไม่ยอมพูดจากับใครเช่นเดิม จนทุกคนคิดว่าลำหับเป็นใบ้ นายแม่ตั้งชื่อให้หนูใหญ่ว่าลำหับ ลำหับเอาแต่สีซอเพลงพญาโศก ข้าวปลาแทบไม่ยอมกิน จนกระทั่งวันหนึ่งนายแม่เป็นลมกะทันหันไม่มีใครในบ้านเห็น ลำหับไปช่วยพูดจาดูอาการนายแม่ ทำให้ทุกคนดีใจมากที่ลำหับพูดได้ วิเวก คนรถกับ ตึ๋งหนืด คนรับใช้ชื่นชมรักใคร่ลำหับมากโดยเฉพาะนายแม่ บริพัตรดีใจที่สุดตัดสินใจส่งลำหับไปเรียนหนังสือ แต่ไม่ว่า ลำหับจะพูดจาอะไรก็ไม่เคยปริปากบอกว่าเป็นใครมาจากไหน
เฉิดเฉลา หญิงสาวเปรี้ยวเฉี่ยวที่ทุกคนเข้าใจว่าคือเจ้าสาวในอนาคตของบริพัตร ไม่ชอบลำหับตั้งแต่ก้าวแรกที่บริพัตรพามาบ้าน พยายามบอกให้ไล่ไปให้พ้นเพราะลำหับต้องเป็นคนไม่ดีแน่นอน เฉิดเฉลาเบื้องหน้าเป็นหลานของพ่อเลี้ยงศร แต่ความจริงแล้วเป็นลูกสาวของแม่บ้านที่ท้องกับคนงานด้วยกันแต่ไม่มีใครยอมรับเป็นพ่อ พอโตขึ้นหน้าตาดีจึงถูกศรปล้ำ และรับเอามาเป็นเมียน้อยตั้งแต่อายุเพิ่งแรกรุ่น เฉิดเฉลาแสร้งทำดีแต่ในใจเกลียดชังคิดล้างแค้น เฉิดเฉลารู้ความลับและความเป็นมาของ ลำหับ เฉิดเฉลา
มักใหญ่ใฝ่สูงอยากได้ใคร่ดี แอบคบเพื่อนชายสนิทคือ ยศพงษ์ เป็นเศรษฐีใหม่ไฟแรงเคมีตรงกัน เฉิดเฉลาสมคบกับยศพงษ์โค่นล้มศร เพราะเกรงใครจะรู้ว่าเธอคือเมียน้อยของศร แม้แต่ยศพงษ์ก็ไม่รู้ เฉิดเฉลามีลูกกับศรชื่อ เศก เศกเป็นเด็กติดยา เฉิดเฉลาบอกทุกคนว่าเก็บมาดูแล เฉิดเฉลาทำตัวเป็นคนใจบุญดูแลเศกที่ติดยาถึงขั้นหนักหน่วง เมื่อโค่นศรได้แล้ว ยศพงษ์ก็จะกลายเป็นเจ้าพ่อค้ายาคนใหม่ แทนศร
ลำหับสวยวันสวยคืนเก่งงานสารพัด เรียนจบมอหกและจะไปเรียนมหาวิทยาลัยต่อ ก่อนที่พ่อเลี้ยงศรจะโดนโค่นล้ม เฉิดยุยงให้ศรขอลำหับมาเป็นเมียเพื่อกีดกันลำหับให้พ้นจากบริพัตรที่เธอหมายปอง เฉิดพาพ่อเลี้ยงมาสู่ขอลำหับจากนายแม่ นายแม่โยนไปที่บริพัตร บริพัตรพูดไม่ออกบอกนายแม่ขอถามความเห็นของลำหับก่อน ลำหับปฏิเสธแม้ว่านั่นจะทำให้เธอกลายเป็นหญิงผู้ร่ำรวย เฉิดไม่พอใจมากๆ ลำหับกับบริพัตรพากันไปยังสถานที่พบกันครั้งแรก ทั้งสองสารภาพรักกัน บริพัตรขอลำหับแต่งงาน ลำหับตกลง บริพัตรแจ้งข่าวนี้กับนายแม่ ท่านยินดีและเต็มใจ เฉิดเฉลาแค้นมาก งัดไม้ตายเรื่องความหลังของลำหับว่ามีพ่อคือรามเป็นคนขายชาติ และจะเป็นการทำลายการไปสมัคร สส. ของบริพัตร นายแม่ไม่แคร์สิ่งนี้ และขอโทษเฉิดเฉลาแทนบริพัตร ส่วนเรื่องอนาคตให้บริพัตรตัดสินใจเอง ลำหับแอบได้ยินทั้งหมดจึงตัดสินใจหนีไปจากบริพัตร ลำหับชวนบริพัตรไปยังโขดหินแห่งนั้นอีกครั้ง ทั้งสองได้เสียกันในคืนนั้น เมื่อบริพัตรตื่นมาไม่พบลำหับจึงรู้ว่าลำหับหนีไปแล้ว เขาเสียใจมากจนล้มป่วย เฉิดเฉลาวางแผนกับยศพงษ์ว่าจะใช้บริพัตรเป็นเครื่องมือหากินหลังจากที่บริพัตรได้เป็น สส. ยศพงษ์ลงทุนหาเสียง และแอบซื้อเสียงให้บริพัตรโดยที่เขาไม่รู้ตัว เฉิดเฉลาบอกบริพัตรเรื่องลำหับเป็นลูกคนขายชาติ บริพัตรบอกไม่จำเป็นที่ลำหับต้องขายชาติไปด้วย เฉิดเฉลาตามหาลำหับ ต่อว่าต่อขาน จ้างวานลำหับให้หนีไปให้พ้นอย่าให้บริพัตรเจอ ให้ลำหับนึกถึงอนาคตของบริพัตร ลำหับปฏิเสธจะรับเงินแต่รับปากจะหนีให้พ้นบริพัตร เฉิดมาบอกบริพัตรว่าลำหับมีผู้ชายคนใหม่ชื่อ ชาตรี ไปมาหาสู่บ่อยๆ
บริพัตรตามหาลำหับจนพบ ลำหับจึงแกล้งทำให้เขาเข้าใจผิดว่าเธอยินยอมจะแต่งงานด้วยถ้าบริพัตรจะยอมเป็นคนขายชาติเข้าร่วมกับพ่อของเธอ บริพัตรไม่เชื่อ ลำหับยืนยันว่าจริง บังเอิญชาตรีมาหาลำหับ บริพัตรถามว่านี่คือผู้ชายคนใหม่หรือลำหับรับว่าใช่ บริพัตรจึงจำใจตัดใจจากลำหับด้วยความเศร้าโศกผิดหวังกลับมาแต่งงานกับเฉิดเฉลา บริพัตรได้เป็น สส. ดังต้องการ ถึงคราวที่ยศพงษ์และเฉิดเฉลา จะเอาคืน ทั้งสองขอให้บริพัตรผลักดันโครงการที่หมายตาไว้ให้ยศพงษ์ บริพัตรปฏิเสธ เฉิดเฉลาบอกว่าจะเปิดโปงบริพัตรเรื่องลำหับ และจะแฉบริพัตรว่าเนรคุณที่ยศพงษ์ซื้อเสียงให้ บริพัตรตกใจมากเพราะไม่เคยทราบมาก่อน จึงตัดสินใจลาออกจาก สส. หันมาทำงานส่วนตัว เฉิดกับยศเหิมเกริมเล่นชู้กันจนออกนอกหน้า นายแม่เห็นจึงตักเตือน เฉิดไม่พอใจเถียงสู้ด่ากลับแล้วผลักนายแม่จนตกจากบันไดคอหักตาย แสร้งทำโวยวายร้องไห้ว่าเข้ามาพบนายแม่ตกบันได บริพัตรหมดสิ้นทั้งแม่และคนรัก เตลิดเปิดเปิงหายเข้าป่าไป เขาไปนั่งรอลำหับที่โขดหิน บางครั้งได้ยินเสียงซอสามสายเพลงพญาโศกดังแว่วมา พอตามไปหาที่มาของเสียงกลับไม่พบอะไร ที่แท้ลำหับนั่นเองลอบตามมาแอบดูบริพัตร ลำหับไปทำไร่ดอกไม้โดย
มีวิเวกกับตึ๋งหนืดตามไปอยู่ด้วย เฉิดเฉลาท้องกับยศพงษ์แต่ไม่ได้บอกใคร กลับทำให้ทุกคนเข้าใจว่าท้องกับบริพัตร ส่วนลำหับคลอดลูกเป็นชายชื่อ คนัง ตลอดเวลาลำหับไม่เคยทราบว่าชาตรีคือตำรวจลับนอกเครื่องแบบที่แอบติดตามพฤติกรรมของเธอมาตลอด เธอมักพบชาตรีตามที่ต่างๆ โดยเฉพาะในเวลาที่คับขัน เขาจะเป็นคนที่มาช่วยให้เธอรอดปลอดภัย จนกลายเป็นคนที่ไปมาหาสู่ที่ไร่ของลำหับ พลเทพน้องเล็ก ซึ่งโตแล้ว และได้รามครอบงำเต็มที่ปฏิบัติตามคำสั่งพ่อแต่โดยดี พลเทพลงมาจากเขามาดูพฤติกรรมของลำหับโดยไม่บอกว่าเขา คือ น้องเล็ก รามให้พลเทพพยายามเกลี้ยกล่อมให้ลำหับไปเป็นพวก ลำหับปฏิเสธ แต่พลเทพเองก็ไม่ย่อท้อ
เฉิดแอบหลบไปคลอดลูกเงียบๆ และยกเด็กให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เธอบอกยศพงษ์ว่าเด็กแท้งตายไปแล้ว ยศพงศ์มีลูกกับภรรยาเก่าที่แต่งงานด้วยซึ่งเสียชีวิตแล้ว ตั้งแต่ลูกสาวคือ เพ็ญโพยม ยังเล็กๆ ทิ้งเพ็ญให้อยู่ในความดูแลของ แม่เริ่ม กับ อาเดียว ญาติห่างๆ ยศพงษ์ให้ทุกอย่างทางวัตถุยกเว้นความรักความห่วงใย วิเวกมีญาติทำงานในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าบอกลำหับว่าเฉิดทิ้งลูกที่ลงทะเบียนว่าเป็นลูกของบริพัตรไว้ ลำหับจึงไปรับมาดูแลเพราะสงสาร บริพัตรอาการหนักเพราะไปพลัดตกลงมาจากโขดหินที่ทั้งสองเคยพลอดรักกัน ลำหับรีบรับตัวบริพัตรมาดูแล เมื่อบริพัตรได้สติเขาได้ยินเสียงเพลงพญาโศก และพบว่า ลำหับสีซออยู่ใกล้ๆ เขาดีใจมาก ลำหับบอกความจริง และบอกเรื่องลูก บริพัตรจึงขอร้องให้ดูแลลูกของตนกับเฉิดเฉลาด้วย ลำหับพาคนังกับ จักริน ลูกของเฉิดมาให้รู้จัก บริพัตรกอดคนัง จักริน และลำหับก่อนหมดลมหายใจ ลำหับเลี้ยงดูเด็กทั้งสองด้วยความรักใคร่เท่าเทียมกัน สอนให้คนังรักน้องอภัยให้น้อง ยิ่งโตเด็กสองคนยิ่งมีนิสัยแตกต่างกัน จักรินชั่วร้ายเอาแต่ใจเห็นแก่ตัว เมื่อทำความผิดจะโทษคนัง ให้คนังยอมรับโทษแทนเสมอโดยที่ลำหับไม่เคยทราบ วิเวกกับตึ๋งหนืดระอาใจกับจักรินมาก โตขึ้นเรียนหนังสือเวลาสอบจักรินให้คนังใส่ชื่อและหมายเลขสอบของตน ส่วนตนเองใส่ชื่อคนัง ทำให้
จักรินได้คะแนนสูงแต่คนังคะแนนต่ำ จบม.หก คนังตัดสินใจไม่เรียนต่อเพื่อให้แม่ได้ส่งเสียจักรินคนเดียว คนังใช้วิธีครูพักลักจำไปเรียนวิชาการเกษตรจากอาจารย์แม่โจ้ที่เกษียณแล้ว ทำสวนดอกไม้สวยงาม
ใหญ่โต เอาเงินส่งให้จักรินเรียนเมืองนอกแบบลูกเศรษฐี
ที่เมืองนอกจักรินพบกับเพ็ญโพยม และสนิทสนมกัน จักรินหลงรักเพ็ญ แต่เพ็ญชอบพอบ้างไม่ถึงกับหลงรัก ทั้งสองไม่รู้ว่าพ่อเดียวกันเพียงแต่คนละแม่ จักรินอวดว่าเป็นลูกเศรษฐีมีเงิน เพ็ญฟังแล้วเบื่อมาก เพ็ญเลือกเรียนด้านดนตรีส่วนจักรินเรียนแบบจับจดไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ปิดเทอมทั้งสองต่างกลับบ้าน และนัดเจอกันที่เมืองไทย จักรินไม่อยากอยู่บ้านไร่กลัวคนว่ายากจน โดยหารู้ไม่ว่าคนังได้ขยายกิจการจนมีบ้านน่ารักน่าอยู่ จักรินพักที่คอนโดหรูในตัวเมือง เพ็ญไม่พอใจน้อยใจพ่อที่เอาแต่อยู่กับเฉิดเฉลาทำตัวเป็นนักการกุศลดูแลเด็กเศก และเด็กยากจนอื่นๆ แต่ไม่เหลียวแลลูกตนเอง จึงไม่ยอมเข้าบ้านพ่อ แต่จะไปหาแม่เริ่มกับอาเดียวที่เป็นผู้เลี้ยงดูเธอมา ซึ่งก็ย้ายบ้านใหม่เช่นกัน เพ็ญขับรถมาตามลำพังเพื่อไปหาแม่เริ่มกับอาเดียว แต่ไปไม่ถูกจึงแวะถามทางที่ไร่ของลำหับ เจอวิเวกเขาจะเป็นคนพาไปแต่รถยางแบน วิเวกเรียกตึ๋งหนืดมาช่วย และฝากคนังให้พาเพ็ญไปนั่งรอ คนังทำท่าเข้มไม่สนใจความเป็นสาวเปรี้ยวของเพ็ญ เพ็ญรู้สึกว่าคนังอวดดีปั้นปึ่ง เพ็ญหิวน้ำคนังก็ชี้ให้ไปกินในห้วย เพ็ญแอบเห็นคนังใช้ใบไม้รองน้ำกิน จึงขอใบไม้บ้าง คนังหมั่นไส้ส่งใบไม้ที่มีมดให้ เพ็ญโดนมดกัดปากเจ่อโวยวายใส่คนัง คนังหัวเราะเยาะแล้วเดินหนีไป เพ็ญเดินตามไปจะเอาเรื่องกลับได้ยินเสียงเพลงพญาโศก จึงหยุดทันทีหันเดินไปตามเสียงเพลงดังกล่าว พบว่าลำหับกำลังสีเพลงที่หลุมศพใครคนหนึ่ง เพ็ญเข้าไปทักทายจึงทราบว่าลำหับคือเจ้าของไร่ดอกไม้แห่งนี้ เธอบอกว่าสนใจซอสามสาย และเพลงพญาโศกนี้มาก เคยได้ยินเพลงนี้ แต่ไม่ไพเราะอย่างนี้ อยากขอมาเรียนรู้เพลงนี้จากลำหับบ้าง ลำหับยินดี ลำหับบอกว่าเธอมีลูกชายสองคน คนโต คือ คนังผู้จัดการไร่ คนเล็กอยู่เมืองนอกหารู้ไม่ว่าจักรินมาขอให้คนังส่งเงินไปให้เช่าคอนโดอยู่ และกำลังจะขอให้ซื้อรถให้ และในระหว่างรอ จักรินจึงเอาเงินไปเช่ารถหรูมาขับ ขณะคุยกันลำหับทราบว่าเพ็ญเรียนเมืองเดียวกับลูกชาย และกำลังจะบอกชื่อลูกชายอีกคนแต่ไม่ทันได้บอก คนังก็มาบอกว่ารถใช้ได้แล้ว วิเวกพาเพ็ญไปส่งที่บ้านแม่เริ่มกับอาเดียว เพ็ญกลับไปเจอเข้ากับยศพงษ์เฉิดเฉลา และจักรินที่นั่น วิเวกซึ่งแอบหลบซ่อนดูอยู่จึงเห็นเหตุการณ์ และพบว่าแทนที่ยศพงษ์จะดีใจที่เห็นเพ็ญกลับมา แต่กลับบอกให้ไปคุยกับเฉิดเฉลาเรื่องงานกุศลที่จะให้เพ็ญโชว์ศิลปะที่ร่ำเรียนมา
เพ็ญต่อว่าพ่อไม่ใยดี จักรินรีบประจบเอาใจเฉิดกับยศเพื่อทำคะแนนเรื่องเพ็ญ สองคนคิดว่าจักรินเป็น ลูกเศรษฐีจึงยิ้มแย้มต้อนรับ ทั้งหมดทำให้วิเวกใจหายใจคว่ำมากรีบหนีกลับไร่ เฉิดกับยศพูดจบก็กลับไปทิ้งให้เพ็ญอยู่กับอาเดียวแม่เริ่มและจักริน ยศพงษ์ให้แค่ซองเงินเป็นค่าใช้จ่ายวันงาน เพ็ญน้ำตาตกใน จักรินชวนเพ็ญไปเที่ยวดูแสงสีในเมือง เพ็ญปฏิเสธ แม่เริ่มกับอาเดียวได้แต่มองหน้ากันทำตาปริบๆสงสารเพ็ญ เพ็ญไปหาลำหับให้สอนเพลงพญาโศกและสอนสีซอสามสาย เพ็ญใช้เพลงพญาโศกประกอบนาฏลีลาแสดงโชว์ของตนเอง โดยขอร้องให้ลำหับสีเพลงนี้ให้เธอ ลำหับรับปาก ทุกวันเพ็ญมาฝึกซ้อมที่ไร่ร่วมเดือน(ไร่ของลำหับ) เพ็ญพบกับคนังมีปากเสียงกันทุกวัน เพ็ญเปรยว่าอยากเจอหน้าน้องชายของคนังมาก เพราะลำหับคุยอวดไว้ว่าเป็นเด็กดีเรียนเก่ง คนังบอกลำหับว่าจักรินกลับมาแล้วไม่ยอมกลับมาบ้าน ลำหับน้อยใจเงียบๆ ให้คนังโทรไปหาจักริน จักรินบอกกำลังคุยเรื่องงาน และต้องการรถหนึ่งคันเพื่อใช้ติดต่องาน ไม่อยากให้ใครคิดว่ายากจนเพราะมีแฟนร่ำรวยมาก สองคนได้แต่อึ้ง แต่คนังก็รับปากน้องชายพยายามจะหาเงินให้จักรินไปดาวน์รถให้ได้
ถึงวันงาน มีการแสดงโชว์ต่างๆ พอถึงชุดที่เพ็ญโชว์ ทุกคนเงียบกริบเพลงพญาโศกหวานเย็นไพเราะจนทุกคนต้องนิ่งเงียบ ลีลาการแสดงของเพ็ญประทับใจคนดูที่สุด เมื่อจบการแสดงทุกคนต่างลุกขึ้นยืนปรบมือยกนิ้วส่งเสียงเอาอีกๆ ให้เพ็ญ พิธีกร คือ จักรินเป็นตัวแทนสัมภาษณ์เพ็ญ การแสดงครั้งนี้มีการถ่ายทอดทีวีด้วย รามดูรายการนี้ ส่วนพลเทพไปดูที่ห้องส่งจำเสียงเพลงพญาโศกนี่ได้ดีมาก การสัมภาษณ์เริ่มต้นขึ้น จักรินชื่นชมเพ็ญมากมาย เพ็ญกลับบอกว่าต้องยกเครดิตนี้ให้กับผู้ที่สีซอสามสายเพลงพญาโศก ยศพงษ์และหลายคนต้องการให้พาไปดูคนสีซอผู้นี้ที่สุด เพ็ญพาจักรินไปพบลำหับทุกคนตะลึง ยศพงษ์ จักริน ถึงกับนิ่งอึ้ง รามที่ดูอยู่บนเขาในป่าตะลึงนิ่งเงียบ เห็นลำหับแม้จะเป็นผู้ใหญ่สามสิบกว่าแต่ยังสวยงามได้แต่ถอนใจ พูดไม่ออก แต่คนที่ทนไม่ได้คือเฉิดนั่นเอง ลืมตัวเผลอวิ่งเข้ากล้องมากระชากคันซอไปจากมือลำหับขว้างทิ้ง ตบหน้าจนทุกคนตกตะลึงพรึงเพริด เฉิดเฉลาอ้างว่าตบสั่งสอนลูกคนขายชาติ ผู้กำกับรายการสั่งตัดภาพทันที เข้าโฆษณา แต่ผู้ชมก็เห็นกันทั่วประเทศแล้ว เฉิดเฉลาโกรธมากที่ลำหับบังอาจมาเล่นซอสามสายในงานของเธอ คนังปราดมาปกป้องแม่ วิเวกกับ ตึ๋งหนืดก็เช่นกัน เพ็ญโกรธเฉิดมากด่ากลับเฉิดรุนแรง จักรินพูดไม่ออก เพ็ญขอโทษลำหับ ชาตรีมาปรากฏตัวและแนะนำให้ลำหับกลับไปก่อน ขณะกำลังจะกลับจักรินวิ่งตามมาบอกลำหับว่าอย่าบอกทุกคนว่าเป็นลูก คนังชกจักริน ลำหับต้องห้ามเอาไว้ และรับปากว่าจะไม่บอกใคร จักรินโล่งอก เฉิดกับยศตามมาสำทับว่าอย่าคบหากับลูกสาวของพวกเขาเด็ดขาด และสั่งจักรินว่าพวกเราเป็นผู้ดีมีเงินอย่าไปเกลือกกลั้วคนชั้นต่ำ จักรินรีบทำท่าดูถูกผสมทันที คนังจะอาละวาดอีกครั้ง ลำหับต้องรีบห้าม
พลเทพกลับไปรายงานพ่อถึงเรื่องลำหับและคนัง รามบอก สน มือขวาว่าต้องการให้สนติดตาม ลำหับมาเป็นพวกให้ได้ สนบอกว่าชาตรีเป็นคนรักของลำหับ ชาตรีน่าจะช่วยพูดให้ได้ รามตกลงให้เอา คนังมาด้วย เพ็ญไม่สบายใจมาก คนังก็แค้นมากที่เฉิดมาตบหน้าแม่ และโดนดูถูกจากยศพงษ์ คนังเก็บความแค้นเอาไว้เต็มอก วิเวกกับตึ๋งหนืดต่อว่าลำหับว่าทำไมไม่บอกเฉิดไปว่าจักริน คือ ลูกของเฉิดที่ลำหับเก็บมาเลี้ยง ลำหับห้ามไว้เพราะจักรินจะอับอาย จักรินแอบมาอีกครั้งมาบอกว่าจะเอาเงินไปซื้อรถเขาเห็นไร่ใหญ่โตไม่เชื่อว่าไม่มีเงิน และห้ามไม่ให้ไปในที่พวกเพ็ญและจักรินไป ลำหับรับปากน้ำตาไหลพราก คนังประกาศว่าไม่ซื้อรถไม่ส่งเสียคนอกตัญญูอีกแล้ว ทำให้จักรินยิ่งแค้นใจมากชกต่อยกัน ลำหับแอบให้เงินจักรินไปก้อนหนึ่ง จักรินบอกว่าจะไม่มาที่นี่อีก เพราะกำลังจะไปเป็นลูกเขยของบ้านเฉิดแล้ว
เฉิดพยายามสืบสวนว่าจักริน คือ ลูกใคร ฐานะดี ชาติตระกูลดีแค่ไหน จักรินก็เล่นบทหลอกลวงจนสองคนเชื่อว่าเป็นลูกเศรษฐี จักรินขอเพ็ญแต่งงานเพ็ญปฏิเสธ วันหนึ่งเพ็ญแอบมาที่ไร่ของลำหับยังไม่ทันจะเข้าไปกลับพบกับคนังเสียก่อน เพ็ญโดนคนังต่อว่าแรงๆ เพ็ญแรงตอบ และจะเข้าไปพบลำหับให้ได้ สองคนยื้อยุดกัน คนังโกรธจับเพ็ญมัดโยนใส่รถของเพ็ญเองแล้วขับไปในป่าที่มีทะเลสาบกระท่อม ลุงเปรื่อง ที่คนังคุ้นเคยซึ่งตอนนี้ลุงเปรื่องไม่อยู่แล้ว ทั้งสองทะเลาะตบตีกันในบ้านหลังนั้นหลายวัน คนังไม่ได้ล่วงเกินเพ็ญ ในที่สุดทั้งสองก็แอบรักกันและกัน แต่ยังมีทิฐิอยู่ เฉิด ยศพงษ์ และจักรินตามหาเพ็ญไม่พบ มั่นใจว่าโดนคนังลักพาตัว จักรินรับอาสามาถามลำหับ จักรินทำร้ายด่าทอลำหับ ชาตรีมาห้ามเอาไว้และต่อว่า ขู่ว่าจะไปแจ้งความ จักรินจึงกลับไป แล้วในที่สุดก็กลับมาอีกพร้อมกับยศพงษ์ สมุน และเฉิดมาบังคับให้ลำหับบอกให้ได้ ลำหับบอกไม่รู้ไม่เห็นเพ็ญกับคนัง คนังผูกเพ็ญไว้ตลอดเวลา ทีแรกเพ็ญไม่ยอมกินอาหารแกล้งสั่งให้ให้คนังไปหาอาหารแปลกมาให้กินเช่นปลาโน่นปลานี่ คนังตากฝนไปหาปลาดังกล่าวมาให้เพ็ญโดนขวดแตกในน้ำบาดเป็นแผลเหวอะหวะอักเสบบวมไข้ขึ้น คนังจึงตัดสินใจปล่อยเพ็ญ เพ็ญออกไป คนังพยายามตะกายจะไปหาหมอเองล้มลงหมดสติ ฟื้นมาอีกทีพบว่าเพ็ญพาคนังไปหาหมอ คนังบอกไม่ต้องการให้ช่วยเหลือให้เพ็ญไป เพ็ญบอกไม่ไปจนกว่าคนังจะอาการดีขึ้น ทั้งสองจึงพากันกลับไปที่กระท่อมอีกครั้ง คนังห่วงลำหับมากทำตัวให้ดูเหมือนอาการดีขึ้น ทั้งสองจึงพากันกลับบ้าน
ที่บ้านลำหับ พวกเฉิดบุกมาอีกครั้งมาทำร้ายวิเวกกับตึ๋งหนืดจนหมดสติ และจะจับตัวลำหับจะเอาไปเป็นตัวประกันให้คนังออกมา แต่เฉิดต้องการมากกว่านั้นคือเผาบ้านลำหับ สั่งให้จักรินเป็นคนเผาเพื่อพิสูจน์ว่ารักเพ็ญจริง จักรินลำบากใจไม่น้อยเพราะมากเกินไป ที่นี่ตนเองเคยอยู่มาตั้งแต่เล็กๆ รีรอแต่ ยศพงษ์สั่งให้เผาหาไม่จะไม่ยกเพ็ญให้ จักรินพายามลากลำหับออกมาจากบ้าน ลำหับยืนกรานว่าจะตายคาบ้าน เฉิดกับยศบอกตามใจ ลำหับสลัดหนีเข้าบ้าน ในที่สุดจักรินก็เผาบ้าน ลำหับหยิบซอนั่งสีเพลง พญาโศกน้ำตาไหลพรากในบ้าน ขณะที่เพ็ญกับคนังพากันมาใกล้บ้านมากแล้ว รถน้ำมันหมดสองคนลงเดิน คนังมองไปเห็นควันไฟออกมาจากบ้าน คนังวิ่งสุดแรงเกิดรีบจนทำจดหมายหล่นลงพื้นหลายฉบับ เพ็ญหยิบไว้ เก็บใส่กระเป๋าตัวเองเดินตามคนังไป คนังไปถึงบ้านไฟไหม้เกือบหมดแล้ว จักรินมองอึกอัก ยศกับเฉิดยืนมองหัวเราะด้วยความสะใจ คนังปราดมาชกต่อยจักริน วิเวกกับตึ๋งหนืดฟื้นขึ้นมาบอกคนังว่า ลำหับน่าจะติดอยู่ในบ้าน คนังวิ่งไปในบ้านที่ไฟกำลังลุกท่วมช่วยลำหับออกมาได้ ให้วิเวกกับตึ๋งหนืดดูแลแม่ คนังลงมือชกกับจักรินด่าว่าอกตัญญูไม่รู้จักบุญคุณแม่ที่เลี้ยงดูมา ยศพงศ์กับเฉิดแปลกใจ และโกรธมากที่รู้ว่าจักรินกลายเป็นลูกของลำหับแต่มาหลอก ยศพงษ์ชักปืนมาจะยิงจักริน วิเวกกับตึ๋งหนืดตะโกนใส่เฉิดบอกว่าจักรินนี่แหละลูกของเฉิดที่เกิดกับบริพัตรที่เฉิดเอาไปทิ้งไว้สถานเด็กกำพร้า ลำหับรับปากบริพัตรจึงไปรับมาเลี้ยง เฉิดตะลึง จักรินตะลึงแต่กลายเป็นดีใจที่มีแม่รวย คนังก็ตกใจเพิ่งรู้ความจริง แต่ยศพงษ์ก็ยังไม่พอใจเพราะยิ่งคิดว่าเป็นลูกบริพัตรก็ยิ่งไม่ชอบใจจะยิงต่อเฉิดวิ่งมาบัง แล้วบอกว่ายิงไม่ได้แถมดึงปืนจากมือยศมายัดใส่มือจักรินแล้วสั่งให้ยิงคนัง จักรินจะยิงคนังลำหับมาห้ามไว้ เฉิดบอกให้ยิงลำหับ เพ็ญวิ่งมาบอกว่าคนังไม่ได้ลักพาตัวเธอไป จักรินกำลังจะยิงใส่ลำหับ คนังโดดมาแย่งปืน สองคนแย่งปืนกันไปมา แล้วปืนก็ลั่นดังขึ้นไปโดนเอาพลเทพที่รามส่งลงมาหาลำหับ พลเทพบอกกับลำหับว่าเขาคือน้องชายของลำหับที่รามส่งมาคอยดูลำหับ ลำหับร้องไห้ด้วยความเสียใจ เฉิดรีบสั่งให้จักรินเอาปืนยัดใส่มือคนังที่กำลังตกใจมาก เฉิด ยศ จักรินช่วยกันลากเพ็ญกลับออกไป วิเวกกับตึ๊งหนืดให้คนังรีบหนี ส่วนสมุนที่มาด้วยกับพลเทพทำทีช่วยคนังหนี แต่ที่แท้แอบจับตัวคนังไปให้ราม ส่วนศพของพลเทพที่ตายในอ้อมกอดของลำหับ มีคนของรามมาเอาศพไป ลำหับหมดสิ้นทุกอย่างตัดสินใจฆ่าตัวตายด้วยกันเอาคันซอแทงหน้าอก ชาตรีมาห้ามเอาไว้ทัน ปลอบโยนลำหับว่าถ้าต้องการกู้เกียรติว่าไม่ใช่คนขายชาติก็ต้องกอบกู้เกียรตินั่นกลับคืนมาด้วยการช่วยชาติ ลำหับตกลง ชาตรีจึงแนะให้ลำหับไปพบรามบนเขา ลำหับไปพบราม รามไม่ได้ทำท่ายินดีมากมายแต่โอบกอดตามรูปแบบที่ทุกคนทำกันเท่านั้น ลำหับบอกจะมาขออยู่ด้วย รามบอกให้ลำหับพิสูจน์ตนเองด้วยการฆ่าใครหนึ่งให้ดู ลำหับรับปาก แต่พอเห็นคนที่รามสั่งให้ฆ่าเท่านั้น ลำหับใจสลายตกใจมาก เพราะนั่นคือคนังนั่นเอง โทษฐานที่ยิงพลเทพตาย และไม่ใช่แค่คนังที่โดนจับ พวกยศ เฉิด จักริน ก็โดนด้วยเช่นกัน รามสั่งให้ลำหับยิงคนัง หรือไม่ก็มีตัวเลือกให้อีกคนคือ จักริน เพราะอยู่ในข่ายยิงพลเทพตายเช่นเดียวกัน ถ้าไม่ยิงคนใดคนหนึ่ง
ทุกคนที่เหลืออยู่ต้องตายหมด เฉิดร้องห้ามไม่ให้ยิงจักริน ยศบอกยิงใครก็ได้ เฉิดจึงบอกความจริงออกมาว่าจักรินคือลูกเธอกับเขา เพ็ญยืนยันว่าคนที่ทำปืนลั่นใส่พลเทพคือจักรินแม้ว่าจะเป็นพี่ชายของเธอก็ตาม แต่มันคือความถูกต้อง เฉิดกับยศพากันตบหน้าเพ็ญ ลำหับรีรอไม่ยิงสักที รามจึงสั่งให้สนจัดการยิงให้หมดทุกคน ลำหับขอสีซอเพลงพญาโศกก่อน รามยอมให้ลำหับสีซอจนจบเพลง รามสั่งให้ยิงอีก ลำหับยกปืนมากลั้นหายใจ หันปากกระบอกปืนใส่ตนเองทันที สนยืนตรงนั้นยิงไปที่รามทันทีเช่นกัน ชาตรีเข้ามาแย่งปืนจากลำหับ สนยิงรามล้มลง ชาตรีกระชากลำหับให้ไปด้วย คนังกระชากเพ็ญหลบออกมาทันที ยศโกรธต่อว่าเฉิดแย่งปืนจากคนของรามมายิงเฉิด เฉิดแย่งปืนจากอีกคนยิงยศตายเช่นกัน จักรินวิ่งหนีจึงโดนคนของรามยิงตาย
เพ็ญเอาจดหมายของจักรินที่เขียนมาไถเงินคนัง และขอบใจเรื่องที่ทำสอบแทนทุกครั้งที่สอบ ที่คนังทำหล่นไว้ให้ลำหับดูว่าคนังไม่ใช่คนเรียนไม่เก่ง คนังเสียสละให้จักรินตลอดมา เธอจะไม่กลับไปเรียนต่อแต่จะขออยู่ทำไร่ดอกไม้ และเรียนซอสามสายกับลำหับต่อไป คนังยิ้มให้เพ็ญ ลำหับไปที่โขดหิน และถือซอสามสายที่นั่นนึกถึงบริพัตร ชาตรีไปหาลำหับ และบอกว่าเขา คือ ผู้ที่บริพัตรฝากให้ดูแลและช่วยกอบกู้ศักดิ์ศรีของลำหับกลับคืนมา ซึ่งลำหับก็ได้ทำแล้ว เขาขอคุ้มครองลำหับต่อไปได้ไหม พร้อมกับเอาจดหมายฝากฝังจากบริพัตรให้ลำหับดู ลำหับยิ้มให้ชาตรี เล่นเพลงพญาโศกอีกครั้งชาตรีพึมพำบอกว่าลำหับ คือ เจ้าแม่พญาโศกจริงๆ