FB on September 11, 2015, 01:47:25 PM
หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล พร้อมผู้พันเบิร์ด เต้ย พงศกร / มัดหมี่ พิมดาวและทีมนักแสดงภาพยนตร์ “พันท้ายนรสิงห์”ร่วมทำบุญถวายภัตตาหารเพล สักการะ “ศาลพันท้ายนรสิงห์” เสริมสิริมงคล ยืนยันฉายโรง 30 ธ.ค.แน่นอน





          ในที่สุด "พันท้ายนรสิงห์" ภาพยนตร์พีเรียดย้อนยุคอิงประวัติศาสตร์ ผลงานการกำกับภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของท่านมุ้ย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล จะมีโอกาสได้ชมเป็นที่แน่นอนแล้วด้วยความยาวอย่างจุใจ 3ชั่วโมงเต็ม ในโรงภาพยนตร์ ผลงานการสร้างของทาง พร้อมมิตรโปรดักชั่น และได้สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล มาช่วยรับหน้าที่ในการจัดจำหน่ายและประชาสัมพันธ์ งานนี้เปิดเผย และการันตีโดยตัวท่านมุ้ย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล เองว่ามีโปรแกรมเข้าฉายส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ.2558 เป็นที่แน่นอนแล้ว

          ท่านมุ้ย : ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว เพราะตัดต่อเสร็จไปแล้วคงเหลือเพียงใส่เพลง และมิกซ์เสียง ภาพยนตร์เรื่องพันท้ายนรสิงห์ที่เราจะได้ชมกันด้วยความยาว3ชั่วโมงเต็ม เราแทบจะไม่ได้ลดทอนเนื้อหาสำคัญเลย เพราะพยายามตัดเข้าเนื้อหาจริงๆ เลย ยากมาก ใช้เวลาตัดต่อปีกว่า ตั้งใจไม่แบ่งเป็นภาค อันนี้คือเนื้อแท้ๆ ของพันท้ายนรสิงห์ เนื้อความที่เราจะได้ดูกันยืนยันว่าชัดเจน ผมรับประกัน

          12 พ.ย.58 ที่ผ่านมา บริษัทพร้อมมิตร โปรดักชั่น จำกัด โดย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ผู้กำกับภาพยนตร์, หม่อมกมลา ยุคล ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสร้าง, ม.ร.ว.ศรีคำรุ้ง ยุคล รัตตกุลและ คุณเตือนใจ เตชะรัตนประเสริฐ รองประธานกรรมการบริษัท, คุณอวิกา เตชะ-รัตนประเสริฐ รองประธานกรรมการฝ่ายการตลาด, คุณจาตุศม เตชะรัตนประเสริฐ รองประธานกรรมการฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัทสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด นำทีมเหล่านักแสดงนำจากภาพยนตร์เรื่องพันท้ายนรสิงห์อาทิ ผู้พันเบิร์ด-พันโทวันชนะ สวัสดี, เต้ย-พงศกร เมตตาริกานนท์, มัดหมี่- พิมดาว พานิชสมัย, ราชวัติ ขลิบเงิน,วิศว ทัพพะรังสี, ร.อ.ณยศ เสาว์ทองหยุ่น,วัชรพล พลายด้วง, ปฐมรัตน์ ศิริทรัพย์,ฝนพา ปราโมช ณ อยุธยา,รุ่งทิว คงสนุ่น และญีน่า ซาลาส

          มาร่วมทำบุญถวายภัตตาหารเพล ถวายสังฆฑาน และรับพรจากพระภิกษุเพื่อเป็นการเสริมสิริมงคล พร้อมกันนี้ยังได้ร่วมกันสักการะปิดทองที่รูปปั้นพันท้ายนรสิงห์ ไหว้ศาลพระเจ้าเสือ ศาลพันท้ายนรสิงห์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งไหว้ศาล และหลักประหารพันท้ายนรสิงห์ ที่เชื่อกันว่าเป็นจุดที่พระเจ้าเสือสั่งประหารชีวิต พันท้ายนรสิงห์ในอดีต ณ. วัดศาลพันท้ายนรสิงห์ ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร

          พันโท วันชนะ สวัสดี: สำหรับในวันนี้ก็ถือว่าเป็นโอกาสดีนะครับที่นักแสดงแล้วก็รวมถึงผู้กำกับก็คือท่านมุ้ยได้มีโอกาสกลับมารวมตัวอีกครั้งหนึ่งเพื่อที่ได้ถวายเพลให้กับพระภิกษุสงฆ์ รวมถึงได้มาไหว้ศาลพันท้ายนรสิงห์ เหมือนกับเราได้มาทำบุญอีกครั้งหนึ่ง เหมือนเอาฤกษ์แล้วก็ส่งบุญนี้ให้กับทุกๆ ท่านที่จะได้ไปชมภาพยนตร์เรื่องพันท้ายนรสิงห์ในปลายปีนี้ด้วยครับ ในส่วนเนื้อหาและเรื่องราวหลักของภาพยนตร์เรื่องพันท้ายนรสิงห์ก็คือเรื่องการดำรงไว้ซึ่งความถูกต้อง ความยุติธรรม ส่วนที่สองก็คือความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน ส่วนที่สาม คือความสัมพันธ์ในส่วนของชายหญิงที่เราจะสื่อให้เห็นถึงขนบธรรมเนียมประเพณีของไทยที่ดีงามด้วยรับรองได้เลย

          พระ-นางรุ่นใหม่ลูกศิษย์คู่ล่าสุดของท่านมุ้ยเองอย่าง เต้ย-พงศกร และ มัดหมี่-พิมดาว เองกว่าจะมีโอกาสถ่ายทอดบทบาทของ " พันท้ายนรสิงห์ และแม่นวล" เองก็ต้องผ่านการเคี้ยวกรำอย่างหนักจากครูผู้มีความสามารถและเชี่ยวชาญเฉพาะในศิลปะแขนงต่างทั้งก่อนถ่ายทำไปจนกระทั่งในช่วงเวลาที่ถ่ายทำ

          มัดหมี่ : สำหรับมัดหมี่แล้วก็เป็นบทที่หินเหมือนกันก็คือ เมื่อพูดถึงแม่นวลเราก็จะนึกถึงผู้หญิงที่ดูเรียบร้อยมากแต่จริงๆ แล้วในเรื่อง แม่นวลจะเป็นผู้หญิงที่ทำได้ทุกอย่างเหมือนกัน ทำอาหารก็เป็น แล้วก็ทะโมนมากด้วย พายเรือ ฟัดข้าว ขี่ควาย ร้องเพลงฉ่อย ขี่ม้า หลายอย่างมากเลยค่ะ ดีใจที่ได้ทำ และเป็นส่วนหนึ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้ค่ะ สำหรับการฝึกร้องเพลงฉ่อยก็ได้ศิลปินแห่งชาติอย่างแม่ขวัญจิต มาสอนให้ แล้วก็มีการฝึกรำด้วย ก็คือจะต้องการฝึกทุกอย่างตั้งแต่ก่อนการถ่ายทำด้วย และแม้แต่ในระหว่างตอนที่มีการถ่ายทำด้วย ซึ่งตอนถ่ายทำก็เหมือนกับเป็นการเรียนรู้ในแต่ละวันไปด้วย

          เต้ย : ก็รู้สึกว่าเป็นเกียรติครับ ที่ได้ร่วมงานกับหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล และเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกเลยที่ทำให้ผมได้เข้ามาในวงการนี้ และได้มาเล่นกับพี่ๆทุกคน ก็ถือได้ว่าเป็นการนับหนึ่งใหม่เลยกับภาพยนตร์เรื่องนี้ แล้วก็ไปฝึกความสามารถต่างๆ มากมายๆ ไม่ว่าจะเป็นขี่ม้าฟันดาบต่อยมวยพายเรือคัดท้ายเรืออะไรหลายๆอย่าง เรียกได้ว่ามาเรื่องนี้ได้ประสบการณ์เยอะมากครับ ถือได้ว่ามาถึงเรื่องแรกก็ได้รับบทหนักเลยครับสำหรับพันท้ายนรสิงห์ คู่กับมัดหมี่พิมดาวด้วย กับเพื่อนนักแสดงอีกมากมายครับ รวมทั้งอาหนิงนิรุตติ์ มีอาเอก สรพงษ์ด้วยครับ"
« Last Edit: November 16, 2015, 02:43:06 PM by FB »

FB on November 24, 2015, 11:09:45 PM
ผู้พันเบิร์ดมั่นใจท่านมุ้ยทำ “พันท้ายนรสิงห์” เน้นเชิดชูความซื่อสัตย์ ยุติธรรม หลังทุ่มชีวิตกว่า 2 ทศวรรษถ่ายทอดอยุธยา 400 กว่าปี







          ผ่านประสบการณ์การทำงานกับ ท่านมุ้ย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคลมาอย่างยาวนาน เรียกได้ว่าจากนี้ไปสามารถเทียบเคียงกับศิษย์เอกรุ่นพี่อย่าง สรพงษ์ ชาตรี ได้เลยทีเดียวสำหรับ ผู้พันเบิร์ด พันโทวันชนะ สวัสดี หลังจาก14ปีกับตำนานสมเด็จพระนรศวรมหาราชทั้ง 6 ภาค ล่าสุด "พันท้ายนรสิงห์" ผลงานภาพยนตร์พีเรียดอิงประวัติศาสตร์เรื่องที่ 2 ในชีวิตของผู้พันเบิร์ด ที่ล่าสุดได้โปรแกรมเข้าฉายส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 30 ธ.ค. นี้

          หลังจากที่หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ทรงทุ่มเทชีวิต พลิกโฉมหน้า และปฏิวัติรูปแบบการสร้างสรรค์ผลงานภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์ของไทยมาตลอด 2 ทศวรรษ จากภาพยนตร์ทั้ง 3 เรื่องที่ล้วนบอกเล่าเหตุการณ์ หรือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ตลอด 4 ศตวรรษ ในรัชสมัยที่มีกรุงศรีอยุธยาเป็นเมืองหลวง ถึงกระนั้นก็ตามผู้พันเบิร์ดมองว่าเรื่องราวรายละเอียด และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็จะแตกต่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาพยนตร์เรื่อง "พันท้ายนรสิงห์" จะเป็นการเชิดชูในเรื่องของความซื่อสัตย์ ความถูกต้อง ยุติธรรม ผ่านตัวพันท้ายนรสิงห์ เป็นแกนสำคัญ โดยดำเนินเรื่องในช่วงปลายของกรุงศรีอยุธยา ที่มีสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นพระเจ้าแผ่นดิน ต่อเนื่องมายัง พระเพทราชา และมาถึง พระเจ้าเสือหรือสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8

          "สำหรับผมแล้วผมมองว่าท่านมุ้ย ท่านเป็นครู แล้วก็เป็นผู้กำกับ ท่านมุ้ยไม่ได้เป็นคนที่ต้องการจะทำหนังพีเรียดย้อนยุค จริงๆ ท่านทำหนังได้ทุกแนว หนังทุกเรื่องของท่านที่ทำออกมาเป็นเหมือนลูกของท่านที่ท่านรักเท่ากัน แต่พอมาทำภาพยนตร์พีเรียดท่านก็สามารถทำได้ เพราะท่านเป็นคนที่ลึกในข้อมูลและศึกษามาก เพราะฉะนั้นสิ่งที่ถ่ายทอดออกมามันผ่านกระบวนการศึกษาค้นคว้ามามาก แล้ว แล้วก็ค่อยๆ ถ่ายทอดออกมาให้เราได้ชม ผมคิดว่าการสร้างภาพยนตร์พีเรียดของท่านตั้งแต่สุริโยไท ตำนานสมเด็จพระนเรศวร จนกระทั่งมาจนถึงพันท้ายนรสิงห์ เป็นเหมือนการเล่าช่วงชีวิต การปกครองในสมัยอยุธยา ที่มีการพัฒนาการมาเรื่อยๆ ถ้าใครได้ชมภาพยนตร์ที่ท่านสร้างมา 3 เรื่องนี้นะครับ ก็จะรู้ว่ามันมีพัฒนาการในการถ่ายทำ แต่จะถูกแทรกด้วยความเป็นจริงของสังคม เพราะท่านศึกษา ท่านรู้ว่ามันมีการเปลี่ยนแปลงไปในเรื่องใดบ้าง การแต่งกาย หรือแม้กระทั่งธรรมชาติที่เปลี่ยน เพราะว่าเส้นเรื่องของอยุธยาก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามพระมหากษัตริย์ด้วย เพราะฉะนั้นท่านได้ถ่ายทอดมาในครั้งนี้ ถ้าเกิดได้ไปดูหนังท่านตั้งแต่สุริโยไท มาจนถึงพันท้ายนรสิงห์ เราก็พอจะเข้าใจอยุธยาเกือบทั้งหมดเลยว่ายุคสมัยนั้น400กว่าปีเป็นอย่างไร สำหรับภาพยนตร์เรื่องพันท้ายนรสิงห์ที่เราจะได้ชมกัน ก็คือเป็นภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นจากความประสงค์ของท่านมุ้ย ที่ต้องการจะบอกถึงการเชิดชูเรื่องของความซื่อสัตย์ยุติธรรม เชิดชูความสุจริต ที่เป็นคุณธรรมข้อหนึ่งที่ท่านเคยบอกว่าไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านมาเท่าไหร่ก็ตาม คนก็คือคน มันก็ยังเหมือนเดิม ภาพยนตร์จะสะท้อนบริบทแวดล้อมของสังคมในสมัยนั้น แสดงว่าถ้าพันท้ายนรสิงห์มาฉายในปัจจุบัน แสดงว่าสังคมเรากำลังต้องการคุณธรรมข้อนี้ เพราะเรื่องนี้ต้องการสะท้อนในเรื่องของความซื่อสัตย์ยุติธรรม เรื่องของการเคารพกฎเคารพกติกาที่มีอยู่ของบ้านเมือง"

FB on November 24, 2015, 11:17:14 PM
เปิดตัวโปสเตอร์ “พันท้ายนรสิงห์” ผลงานภาพยนตร์พีเรียดอิงประวัติศาสตร์สุดยิ่งใหญ่!



          ยึดความสัตย์ซื่อ ถือความหาญกล้า และนำมาซึ่งความภักดี
          มิตรภาพความรักและความเสียสละของกษัตริย์ผู้ห้าวหาญและข้าพระบาทผู้สละได้แม้ชีวิต
          ครั้งแรกของการเผชิญหน้าและปะทะบทบาทสุดเข้มข้นของ2 ซูเปอร์สตาร์ชายแห่งยุค

          พันโทวันชนะ สวัสดี พลิกคาแรคเตอร์และจิตวิญญาณสวมบท "พระเจ้าเสือ"
          เต้ย-พงศกร เมตตาริกานนท์ ถือสัตย์ ยึดหัวใจเป็น "พันท้ายนรสิงห์"
          พร้อมด้วยนางเอกสาว มัดหมี่-พิมดาว พานิชสมัย ทุ่มสุดตัวกับบทบาท "นวล" เจ้าของหัวใจรักที่ต้องเสียสละ

          ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 30 ธันวาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

FB on November 25, 2015, 10:25:41 AM

Movie Guide: ท่านมุ้ยการันตี “พันท้ายนรสิงห์” ฉบับพ.ศ. 2558 สุดเข้มข้น“เต้ย พงศกร VS. ผู้พันเบิร์ด พันโทวันชนะ”ส่งโปสเตอร์ “พระเจ้าเสือปะทะพันท้ายนรสิงห์”พร้อมคลิกชมภาพยนตร์ตัวอย่างได้แล้ววันนี้







ตัวอย่างภาพยนตร์ พันท้ายนรสิงห์ (Official Trailer)
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=_bAXXdJU9U4" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=_bAXXdJU9U4</a>

          สร้างความฮือฮาออกมาทันทีที่ปล่อยภาพใบปิด-โปสเตอร์ภาพยนตร์อย่างเป็นทางการ เรียกได้ว่าทำเอายอดจำนวนกดคลิ้กไลค์เรียกคะแนนนิยมของโปสเตอร์เวอร์ชั่น "เสือพบสิน"หรือ "พระเจ้าเสือปะทะพันท้ายนรสิงห์" ซึ่งเป็นการประจัญหน้าปะทะบทบาทกันของ 2 ซูเปอร์สตาร์ชายระดับแถวหน้าของเมืองไทย งานนี้ไม่มีการยอมกันเพราะทั้งแฟนๆ ของหนุ่มฮอตแห่งปีอย่าง เต้ย พงศกร เมตตาริกานนท์ แฟนคลับของ ผู้พันเบิร์ด พันโทวันชนะ สวัสดี รวมไปถึงบรรดาแฟนๆ ภาพยนตร์ "ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทั้ง 6 ภาค" และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เหล่า "ท่านมุ้ยFC." แฟนภาพยนตร์ของ ท่านมุ้ย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล สำหรับ "พันท้ายนรสิงห์" ฉบับปีพุทธศักราช 2558 ซึ่งเป็นผลงานการกำกับภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของท่านมุ้ย ที่คนไทยทั้งประเทศรอคอย

          ที่สำคัญแฟนๆ จะได้เห็นการเฉือดเชือนบทบาทกันในทุกอารมณ์ กับความเป็นภาพยนตร์ แอ็คชั่น-โรแมนติค อิงประวัติศาสตร์ ที่มีครบทั้ง แอ็คชั่น มิตรภาพ โรแมนติค ประทับใจ ที่ทั้งหนุ่มเต้ย กับผู้พันเบิร์ด จะต้องถ่ายทอดออกมาดังที่ถูกสื่อสารผ่านภาพใบปิดโปสเตอร์กันเลยทีเดียว โดยท่านมุ้ยทรงให้น้ำหนักของทั้ง 2 ตัวละครทั้งพระเจ้าเสือ และไอ้สินหรือพันท้ายนรสิงห์ เข้มข้นตั้งแต่ต้นเรื่องไปจนถึงฉากไฮไลท์สำคัญท้ายเรื่องกันเลยทีเดียว

          "ครับผมสำหรับพันท้ายนรสิงห์ที่เราจะได้ดูกัน เราจะได้เห็นความสัมพันธ์ของตัวละครพระเจ้าเสือและไอ้สิน หรือพันท้ายนรสิงห์เดินเรื่องควบคู่กัน ครับโดยเราต้องให้น้ำหนักของทั้งสองตัวละครเท่ากันครับ ส่วนเคมีทางด้านการแสดงระหว่างเต้ยกับผู้พันเบิร์ด หรือระหว่างสินกับพระเจ้าเสือ ก็ได้นะครับ ก็ดูเป็นเพื่อนรักกันได้เลยนะครับแล้วก็สามารถเป็นเจ้านายกับบ่าวได้ค่อนข้างสมบูรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรามีฉากสำคัญๆหลายๆฉากของทั้งคู่ที่ผมก็พอใจมากๆ เลย ทั้งแอ็คชั่น ไม่ว่าจะเป็นการที่ผู้พันเบิร์ดหรือพระเจ้าเสือต้องไปฝึกต่อยมวยแบบโบราณนะครับ สังเกตุดูจากวิธีการรำมวยของพระเจ้าเสือ จะเห็นว่าแกทำได้จริงๆ เต้ยเองก็เหมือนกันเลยครับ ทั้งคู่ต้องฝึกมวยกันอย่างหนัก แล้วเต้ยตอนนั้นเขาใหม่ เขาสดมากๆ ครับ เราก็ต้องส่งเขาไปฝึกมวยต้องไปฝึก แล้วก็ต้องเจ็บด้วย หรือเราจะได้เห็นว่าผู้พันเบิร์ดแกสามารถเล่นในบทบาทที่มีอารมณ์ขันได้มากพอสมควร อันนี้ก็ถือว่าเป็นความแปลกใหม่ เพราะทั้งคู่จะต้องชอบผู้หญิงคนเดียวกัน ก็เลยจะต้องมีการจีบผู้หญิงคนเดียวกัน"

          และนี่เป็นเพียงบางส่วนจากที่แฟนๆ ของทั้งผู้พันเบิร์ด และหนุ่มเต้ยจะได้สัมผัสกันเต็มๆในโรงภาพยนตร์ ซึ่งทาง สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล วางโปรแกรมเข้าฉายส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ในวันที่ 30 ธันวาคมนี้แล้ว โดยงานนี้ ท่านมุ้ย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ทรงการันตีด้วยพระองค์เองเลยว่า พันท้ายนรสิงห์ เวอร์ชั่นนี้จะอัดแน่นไปด้วยความเข้มข้นที่เป็นเนื้อแท้ของเรื่องราวจริงๆ ไม่มีการแบ่งภาคใดๆทั้งสิ้น และใช้เวลาตัดต่อยาวนานกว่า 1 ปี

          "ภาพยนตร์เรื่องพันท้ายนรสิงห์ที่เราจะได้ชมกัน เราแทบจะไม่ได้ลดทอนเนื้อหาสำคัญเลย เพราะพยายามตัดเข้าเนื้อหาจริงๆ เลย ยากมาก ใช้เวลาตัดต่อปีกว่า ตั้งใจไม่แบ่งเป็นภาค อันนี้คือเนื้อแท้ๆ ของพันท้ายนรสิงห์ เนื้อความที่เราจะได้ดูกันยืนยันว่าชัดเจน ผมรับประกัน"

          ล่าสุดทางสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล พร้อมปล่อยภาพยนตร์ตัวอย่าง (เทรลเลอร์) อย่างเป็นทางการของภาพยนตร์เรื่อง "พันท้ายนรสิงห์" ให้แฟนๆ ได้สัมผัสความยิ่งใหญ่สมกับที่ทุกคนรอคอย คลิกชมhttps://youtu.be/_bAXXdJU9U4

FB on December 01, 2015, 09:07:58 AM
ท่านมุ้ยเลือกเต้ย พงศกร เป็น พันท้ายนรสิงห์ ติวเข้มหนักหน่วง เปลี่ยนลุค ตัดผม พายเรือ บู๊แอ็คชั่นยันบทรัก





          เรียกได้ว่าเป็นศิษย์ และพระเอกคนล่าสุดของ ท่านมุ้ย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล หลังจากปล่อยให้รุ่นพี่อย่าง ผู้พันเบิร์ด พันโทวันชนะ สวัสดี ครองตำแหน่งศิษย์ (พระ) เอกคนล่าสุดของท่านมุ้ยมานับ 10 ปี กับตำนานสมเด็จพระนเรศวรทั้ง 6 ภาค เอาเป็นว่าแฟนๆ ท่านมุ้ย รวมไปถึงแฟนๆ ของผู้พันเบิร์ดและ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าแฟนคลับของพระเอกหนุ่มสุดฮอตประจำปีนี้อย่างเต้ย พงศกร เมตตาริกานนท์เฮกันได้เลย เพราะเรากำลังจะได้ชม "พันท้ายนรสิงห์" ผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิต ของหนุ่มเต้ย ที่มีท่านมุ้ยเป็นทั้งครู และผู้กำกับภาพยนตร์คนแรกในชีวิต และเหตุผลสำคัญที่ทำให้ท่านมุ้ยประทับใจหนุ่มเต้ยจนได้กลายมาเป็นพระเอกภาพยนตร์คนล่าสุด

          "ความพยายามครับ เหมือนกับสรพงษ์ ทำให้นึกถึงสรพงษ์ในตอนที่เป็นเด็กหนุ่ม เขามีความพยายามสูงมากครับ"

          โดยก่อนถ่ายทำหนุ่มเต้ยจะต้องได้รับการเคี่ยวกรำอย่างหนัก และฝึกฝนทักษะความสามารถอันหลากหลายรวมไปถึงการแสดงตามหลักสูตร "โรงเรียนท่านมุ้ย" ที่เคยบ่มเพาะรุ่นพี่ๆ อย่างผู้พันเบิร์ด พันโทวันชนะ, แอฟ ทักษอร, ปีเตอร์ นพชัย และทีมนักแสดงจากภาพยนตร์เรื่อง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชมาแล้ว

          "คือเราต้องการให้นักแสดงเป็นตัวละครตัวนั้นจริงๆ อย่างเต้ยเราต้องการให้เขาเป็นพันท้ายนรสิงห์จริงๆ เลย เป็นทั้งชาวบ้านที่เป็นสิน เป็นทั้งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เป็นพันท้ายกับศักดินาพันไร่ซึ่งเขาต้องแสดงในหลายๆ บทบาท บทบาทที่มีความรักกับนวลอะไรพวกนี้ก็เช่นกันในแง่การถ่ายทอดอารมณ์ รวมไปถึงฉากแอ็คชั่น เพราะภาพยนตร์เรื่องพันท้ายนรสิงห์ก็มีฉากบู๊อยู่มากพอสมควร"

          นั่นคือเหตุผลสำคัญที่ท่านมุ้ย หม่อมเจ้าชาตรี เฉลิมยุคลเล่าให้ฟัง ว่านักแสดงในภาพยนตร์ของท่านจะต้องถูกส่งไปฝึกฝน และเรียนรู้อย่างหนักบ้างเป็นเดือน บางรายอาจเป็นปีก่อนที่จะถ่ายทำ รวมทั้งการปรับลุคให้สอดคล้องกับบทบาทและคาแรคเตอร์ตัวละคร

          "เราเอาเต้ยมาฝึกสารพัดอย่างเลยครับ ก่อนอื่นต้องให้เขาทำความเข้าใจกับตัวแสดงในเรื่อง กับตัวบทที่เขาจะต้องถ่ายทอดออกมาว่าเป็นใคร เราต้องเปลี่ยนลุคของเขา ให้เข้ากับตัวพันท้าย ตั้งแต่ตอนเป็นชาวบ้านไปจนกระทั่งถึงเป็นพันท้ายนะครับ ตั้งแต่เป็นไอ้สินเลย ในส่วนของการเปลี่ยนแปลง ก็มีตั้งแต่ตัดผม คือทำทุกอย่างให้มันดูเป็นชาวบ้าน ไปจนถึงแอ็คชั่นด้วยครับ สู้กัน โดยมีทีมสตันท์คอยสอนว่าจะสู้อย่างไร ซึ่งก็ไม่ผิดหวัง รวมไปถึงเป่าขลุ่ยหรือแม้แต่พายเรือทั้งพายเรือธรรมดา และถือหางเสือ

          เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราจะได้เห็นสิ่งที่เต้ยทำหรือเป็นในภาพยนตร์เรื่องพันท้ายนรสิงห์เยอะแยะเลยครับเกือบทุกอย่าง ตั้งแต่ฉากบู๊จนถึงฉากรัก เต้ยต้องทำให้ได้ เอาอย่างนี้ต้องไปดูเอาเองในหนังดีกว่าครับผม ต้องให้คนดูเป็นคนตัดสินใจ ผมเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน แต่ดูแล้วก็ไม่ผิดหวังนะครับ"

          การันตีจากท่านมุ้ย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ขนาดนี้ไปให้กำลังใจพระเอกคนล่าสุดของท่านมุ้ยกับภาพยนตร์เรื่อง "พันท้ายนรสิงห์" ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 30 ธันวาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์

FB on December 04, 2015, 02:07:44 PM
“พันท้ายนรสิงห์” หัวใจแลกให้ความรัก ชีวิตสละให้ความภักดี



เพลง น้ำตาแสงไต้ (Official Ost. ภาพยนตร์ พันท้ายนรสิงห์)
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=gvF_VcXFFxo" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=gvF_VcXFFxo</a>

          ยึดความสัตย์ซื่อ ถือความหาญกล้า และนำมาซึ่งความภักดี
          มิตรภาพความรักและความเสียสละของกษัตริย์ผู้ห้าวหาญและข้าพระบาทผู้สละได้แม้ชีวิต
          ครั้งแรกของการเผชิญหน้าและปะทะบทบาทสุดเข้มข้นของ2 ซูเปอร์สตาร์ชายแห่งยุค

          พันโทวันชนะ สวัสดี พลิกคาแรคเตอร์และจิตวิญญาณสวมบท "พระเจ้าเสือ"
          เต้ย-พงศกร เมตตาริกานนท์ ถือสัตย์ ยึดหัวใจเป็น "พันท้ายนรสิงห์"
          พร้อมด้วยนางเอกสาว มัดหมี่-พิมดาว พานิชสมัย ทุ่มสุดตัวกับบทบาท "นวล" เจ้าของหัวใจรักที่ต้องเสียสละ
          "พันท้ายนรสิงห์"
          ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 30 ธันวาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์
« Last Edit: December 06, 2015, 01:57:16 PM by FB »

FB on December 08, 2015, 03:24:32 PM
มัดหมี่ สุดดีใจ “พันท้ายนรสิงห์” หนังเรื่องแรกในชีวิต รับอิน และรักบท “แม่นวล” มาก ติวเข้ม ยอมเปลี่ยนลุคทุ่มสุดตัวย้อนไป 327 ปี









          เรียกได้ว่าแฮปปี้อินเกมแอน์ดซักซี้ดอินเลิฟกันเลยทีเดียวสำหรับสาวมัดหมี่ พิมดาว พานิชสมัย เพราะจูงมือแฟนหนุ่มเข้าประตูวิวาห์ พร้อมกับเปิดค่ายเพลงของตัวเอง และมีซิงเกิ้ลใหม่มาให้แฟนๆ ได้ฟังเสียงเพราะๆ แล้ว "พันท้ายนรสิงห์" ภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตที่เรียกได้ว่าโปรดักชั่นสุดพิถีพิถัน เพราะคือผลงานการกำกับระดับครูใหญ่ของวงการภาพยนตร์ไทย ท่านมุ้ย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ศิลปินแห่งชาติ ในโปรแกรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 30 ธันวาคมนี้

          โดยเฉพาะบท "แม่นวล" หญิงสาวชาวบ้านแห่งเมืองวิเศษชัยชาญ ผู้ซึ่งเป็นที่รักหญิงของ "สิน" หรือ "พันท้ายนรสิงห์" คือผลงานการแสดงภาพยนตร์ที่มัดหมี่ทุ่มสุดตัวเป็นตัวละครที่มัดหมี่รักมากที่สุด อินกับคาแรคเตอร์ที่สุดแล้ว ยังเป็นผลงานการแสดงที่เรียกได้ว่าท้าทายที่สุดในชีวิต เพราะนอกจากต้องเปลี่ยนลุคตัวเองเป็นสาวชาวบ้านสมัยพ.ศ. 2231 ในช่วงปลายของกรุงศรีอยุธยา ด้วยการยอมหั่นผมสวยๆ ของตัวเองสั้นเป็นทรงดอกกระทุ่ม นุ่งผ้าแถบ กว่าจะได้เปิดกล้องถ่ายทำต้องถูกส่งเข้าไปเรียนหลักสูตรพิเศษใน "โรงเรียนท่านมุ้ย" ขี่ม้า ขี่ควาย ฝัดข้าว พายเรือ อาบน้ำในคลอง ยังไม่รวมกับที่ต้อง เรียนรำ ร้องเพลงฉ่อย โดยได้ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (เพลงพื้นบ้าน-อีแซวปีพ.ศ. 2539) อย่าง แม่ขวัญจิต ศรีประจันต์มาเป็นติวเตอร์อย่างเข้มข้นทั้งในสตูดิโอและกองถ่ายที่กาญจนบุรีเลยทีเดียว

          "ก็ต้องบอกว่าดีใจมากเลยคะ เป็นผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของมัดหมี่ด้วย ตัวมัดหมี่เองก็อยากเห็นการแสดงของตัวเองที่เล่นไป คนรอบตัวทุกคนก็อยากดู ดีใจที่ภาพยนตร์เรื่องพันท้ายนรสิงห์จะได้ฉายแล้ว โดยส่วนตัวรู้สึกเลยค่ะว่ามัดหมี่รักตัวละครแม่นวลมาก แล้วเชื่อว่าแต่ละตัวละคร นักแสดงทุกคนที่เล่นเรื่องนี้เขาก็รักตัวละครของเขา ทุกครั้งที่เล่นเสร็จเราจะมานั่งคุยกัน แชร์ความรู้สึกกันว่าเป็นยังไง รู้สึกยังไง ยอมรับว่าเล่นจบไปแล้วเราก็รู้สึกว่ายังติดความเป็นแม่นวลอยู่บ้างค่ะ ยังจำได้เลยว่าตอนแรกเลย พอได้ทราบว่ามาแคสท์เป็นแม่นวลในพันท้ายนรสิงห์ ตื่นเต้นสุดเลย คือตอนแรกทำอะไรไม่ถูกเลย แล้วเราก็ไม่มีประสบการณ์ทางด้านการแสดงมาก่อนด้วยยิ่งพอรู้ว่าผู้กำกัคือท่านมุ้ยซึ่งท่านเป็นถึงผู้กำกับมือ1ของประเทศไทยด้วย มัดหมี่ก็ตื่นเต้นมาก ถามว่าหลักสูตรโรงเรียนท่านมุ้ยสอนอะไรบ้าง ในภาพยนตร์เรื่องพันท้ายนรสิงห์ นวลจะต้องทำเป็นทุกอย่างเลยคะ ซึ่งในชีวิตจริงมีบางอย่างที่ตัวมัดหมี่เองอาจทำไม่เป็นบ้างนะคะ (หัวเราะ) อย่างเช่นต้องฝึกร้องเพลงฉ่อยกับแม่ขวัญจิต ซึ่งแม่ขวัญจิต ก็จะน่ารักมากคือเดินทางมาไกลเลยนะคะ มาจากสุพรรณฯแล้วก็มาสอน ทั้งที่สตูดิโอที่กรุงเทพด้วย แล้วก็มีทั้งไปที่กาญจนบุรีด้วยเลย ยากมากค่ะเราอาจจะมีพื้นฐานจากทางด้านการร้องเพลง แต่เพลงฉ่อยต้องเอื้อนเยอะแล้วต้องจำคำอะไรหลายๆ อย่าง แล้วไม่ได้แค่ร้องเพลงอย่างเดียว ต้องมีทำกิจกรรมไปด้วยอย่างเช่นมีการรำ ฝัดข้าว ขี่ควาย พายเรือ ขี่ม้า ซึ่งมัดหมี่ ตกม้ามาแล้ว ตกควายมาแล้วด้วยค่ะ ทำกับข้าวนี่เป็นคนที่ไม่ถนัดเลย ต้องไปเรียนกับหม่อมบี๋ (หม่อมกมลา ยุคล ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสร้าง) ก็จะช่วยสอนด้วยค่ะ มีซักผ้าแบบโบราณด้วยค่ะ เอาง่ายๆ คือต้องเป็นแม่บ้านถึงที่สุดแบบย้อนยุคกลับไปหลายร้อยปีที่แล้วด้วย"

FB on December 12, 2015, 11:01:59 PM
ท่านมุ้ยทรงโปรด “ฉากพระเจ้าเสือท้าไอ้สินชกมวยคาดเชือกหมายชิงนวล” ไม่สั่งเทค ปล่อยผู้พันเบิร์ดระดมหมัดเท้าเข่าศอก ใส่เต้ยไม่ยั้ง









          เรียกได้ว่าเป็นที่จับตามองตั้งแต่ ท่านมุ้ย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ประกาศสร้าง "พันท้ายนรสิงห์ฉบับพุทธศักราช 2558" แถมยังได้ 2 นักแสดงชายสุดฮอตแห่งยุคอย่าง ผู้พันเบิร์ด พันโทวันชนะ สวัสดี และ หนุ่มเต้ย พงศกร เมตตาริกานนท์ มาปะทะบทบาทกันเป็นครั้งแรกในบท พระเจ้าเสือ และพันท้ายนรสิงห์ เรียกได้ว่าดึงเอาศักยภาพ เสน่ห์และความสามารถของทั้งคู่ออกมาปะทะเฉือดเชือนกันแบบจัดเต็ม เราจะได้เห็นตั้งแต่เป็นคู่อริแลกด้วยเลือด ก่อนจะเปลี่ยนเป็นมิตรแท้ จนถึงเป็นกษัตริย์เจ้าเหนือหัว และข้าราชแผ่นดินผู้ซื่อสัตย์กันเลยทีเดียว งานนี้ท่านมุ้ยเลยอัดแน่นทั้งฉากอารมณ์ ซาบซึ้งประทับใจ ไปจนถึงฉากบู๊แอ็คชั่น ให้ทั้งคู่ได้โชว์กันเต็มที่

          โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉากที่พระเจ้าเสือปลอมตัวเป็นทิดเดื่อมายังหมู่บ้านวิเศษชัยชาญ และขอเปรียบมวยโดยมี "นวล" (มัดหมี่ พิมดาว พานิชสมัย) เป็นเดิมพัน มีหรือที่ไอ้สินจะยอมให้คนกรุงมาหยามเกียรติถึงถิ่น และในการถ่ายทำฉากมวยคาดเชือกที่ "พระเจ้าเสือต้องต้องแลกหมัดกับไอ้สิน" กลายมาเป็นฉากที่สร้างความประทับใจให้กับท่านมุ้ยเป็นอย่างยิ่ง ทรงวางน้ำหนักของตัวละครทั้งสองเทียบเคียงกันได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ ไม่ให้ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน

          "ต้องให้เท่ากันครับ ส่วนเคมีทางด้านการแสดงระหว่างเต้ยกับผู้พันเบิร์ด หรือระหว่างสินกับพระเจ้าเสือเป็นอย่างไรบ้าง โอเคเลยครับ ทั้งคู่ดูเป็นเพื่อนรักกันได้เลยนะครับ (หัวเราะ) แล้วก็สามารถเป็นเจ้านายกับบ่าวได้ค่อนข้างสมบูรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรามีฉากสำคัญของทั้งคู่ที่ผมก็พอใจมากๆ เลยก็คือฉากชกมวยของทั้งคู่ โดยที่ผู้พันเบิร์ดหรือพระเจ้าเสือต้องไปฝึกต่อยมวยแบบโบราณมาก่อนนะครับ และที่สำคัญคือเป็นฉากต่อยมวยที่ดูแล้วรู้สึกได้ว่าเขารำมวยได้เข้าท่าเลยทีเดียว แล้วผู้พันเบิร์ดต่อยอย่างจริงจังมากๆ ซึ่งก็ค่อนข้างจะมีแรงปะทะ แต่ขณะเดียวกันเวลาเตะพระเจ้าเสือบางทีก็เขียวช้ำไปทั้งตัวเหมือนกัน จะเห็นว่าแกทำได้จริงๆ เต้ยเองก็เหมือนกันเลยครับ ทั้งคู่ต้องฝึกมวยกันอย่างหนัก แล้วเต้ยตอนนั้นเขาใหม่ เขาสดมากๆ ครับ เราก็ต้องส่งเขาไปฝึกมวยครับ ต้องไปฝึก แล้วก็ต้องเจ็บด้วย เพราะว่าตอนถ่ายทำเราไม่ตัดเลยครับ คัทนั้นเราถ่ายยาวตลอดเลยปล่อยให้ทั้งคู่เล่น"

          ฟังผ่านมุมมองของผู้กำกับแล้ว คราวนี้ลองฟังความรู้สึกของนักแสดงอย่าง หนุ่มเต้ย พงศกร ที่ในขณะนั้นเรียกได้ว่ากำลังสดใหม่ และต้องมาเข้าฉากบู๊แบบเต็มๆ หมัดเต็มๆ แข้งกับผู้พันเบิร์ด โดยมีศอกของผู้พันเบิร์ดเป็นของแถมกลับบ้านไป

          เต้ย พงศกร : สำหรับฉากต่อยมวยระหว่างสินกับทิดเดื่อ เป็นอีกฉากสำคัญที่พระเจ้าเสือกับไอ้สินจะต้องหันมาเผชิญหน้ากัน เบื้องหลังเราต้องเร่งถ่ายทำท่ามกลางความกดดันของแสงที่กำลังจะหมดไป วันนั้นเราเล่นกันแบบสดๆเพื่อความสมจริงมากๆ ใส่กันสดๆ เลย วันนั้นผมก็เลยได้เจอศอกของพี่เบิร์ดมาเต็มๆ พี่เบิร์ดเองก็โดนผมเตะเหมือนกัน เตะกันจริง ต่อยกันจริง ใช้จากที่เคยฝึกเรียนการชกกันมา แน่นอนว่ามีโดนจริงครับ พี่เบิร์ดเขายกมือขึ้นมาบล็อกไม่ทัน มันก็เลยโดนไปนิดหนึ่ง แล้วหลังจากนั้นมาพี่เบิร์ดก็เอาคืนผมหมดเลย (หัวเราะ) พี่เบิร์ดมีท่าตวัดศอกกลับมาด้วย รู้สึกตอนนั้นเหมือนต่อยมวยกันจริงๆ เลย แต่มวยคนละไซส์ ลองนึกถึงไซส์พี่เบิร์ดกับไซส์ผมนะครับ (หัวเราะ) คนละไซส์กันเลย พี่เบิร์ดตัวหนากว่ามากเลย เตะทีนี่ไม่สะเทือนเลย แล้วรูปแบบการชกของเราสองคนก็คือการชกมวยคาดเชือกครับ เพราะว่ามีพันแขนด้วย

          ขณะที่ผู้พันเบิร์ดได้ให้ข้อสังเกตถึงฉากแอ็คชั่นที่แฟนๆ จะได้ชมใน "พันท้ายนรสิงห์" ว่ามีความแตกต่างจาก "ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช"ตรงที่จะมีลักษณะประชิดตัว และถึงลูกถึงคนมากกว่าการเน้นใช้อาวุธหรือรบพุ่งในรูปแบบสนามรบ ทำให้งานนี้ทั้งผู้พันเบิร์ดและหนุ่มเต้ยก็เลยต่างประเคนหมัดเท้าเข่าศอกกันอย่างถึงลูกถึงคนกันเลยทีเดียว

          "ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเห็นได้ว่ามันเกิดขึ้นในยุคสมัยที่การสงครามมีน้อย เพราะฉะนั้นการต่อสู้หรือฉากแอ็คชั่นที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์เรื่องนี้จะแตกต่างจากภาพยนตร์เรื่องตำนานสมเด็จพระนเรศวร จะเรียกว่าต่อยตีถึงลูกถึงคนแบบชาวบ้านมากกว่า เช่นจับมีดฟันเลย หรือต่อยกันใช้เข่าใช้ศอกใช้หมัดกอดปล้ำรัดซึ่งจะถูกถ่ายทอดออกมาลักษณะนี้ในฉากแอ็คชั่น ซึ่งมันจะค่อนข้างประชิดตัวมากขึ้นกว่า จะไม่มีอุปกรณ์อื่นมาช่วย การสู้รบหรือต่อยตีแบบนี้จะเป็นลักษณะไร้รูปแบบ เมื่อแอ็คชั่นก็เตะมาก่อน อีกฝ่ายก็จะมีการยกแขน ยกแข้งกัน กัน กันไว้ก่อน มีจับล็อค บางครั้งก็เกิดเป็นมวยสด บางทีก็นอกคิว แล้วท่านมุ้ยเองท่านก็ไม่สั่งคัทสักที ผมกับเต้ยก็มองตากัน เอาวะ บางทีก็พลาด ผมนี่มองตาเต้ยกะให้เต้ยหลบนะ ปรากฎเต้ยไม่หลบซัดตูมเลย ขึ้นมาใหม่ เต้ยตอนนั้นเขาสดอยู่ ช่วงนั้นคือยังวัยรุ่นอยู่มาจับผมกอดผมปล้ำอีกเฮ้ย แรงดีเว้ย ระหว่างที่สู้กัน ท่านก็ยังไม่ยอมคัท คิวสดเลยครับก็ไล่กันไป วิ่งหนีกันบ้างเตะบ้างก็ถือว่าเป็นคิวสด เป็นการต่อสู้ในฉากแอ็คชั่นที่สนุกสนานมากๆ ครับ"

          ก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งรสชาติของการทำงานที่เรียกได้ว่าเซอร์ไพรส์และทุ่มสุดตัวของ2พระเอกหนุ่มที่เราจะได้ชมกันเต็มๆ กันในโรงภาพยนตร์สำหรับ "พันท้ายนรสิงห์" จากผลงานการกำกับภาพยนตร์โดยท่านมุ้ย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคลที่แฟนๆ ไม่ควรพลาด โปรแกรมทองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 30 ธันวาคมนี้พร้อมกันทุกโรภาพยนตร์

FB on December 12, 2015, 11:03:17 PM
Movie Guide: เปิดภาพโปสเตอร์คาแรกเตอร์ “พันท้ายนรสิงห์”

















หนึ่งมหากษัตริย์ หนึ่งสามัญชน ใน พันท้ายนรสิงห์
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=QFvp0AvdGmg" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=QFvp0AvdGmg</a>

สู่เรื่องราวของภาพยนตร์ ใน พันท้ายนรสิงห์
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=XisNRr0kvss" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=XisNRr0kvss</a>

          เต้ย พงศกร เมตตาริกานนท์ รับบท พันท้ายนรสิงห์ (ไอ้สิน)
          ชายชาตินักสู้ชาววิเศษชัยชาญ กล้าหาญ เด็ดเดี่ยว ซื่อสัตย์ และ รักแผ่นดินเกิดยิ่งชีพ

          พันโทวันชนะ สวัสดี รับบท พระเจ้าเสือ (หลวงสรศักดิ์)
          พระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา ผู้มีพระทัยหนักแน่น เด็ดขาด ชื่นชอบดื่มน้ำจันทน์และการละเล่นต่างๆ ทั้งพายเรือ ชกมวย และตกปลา

          มัดหมี่ พิมดาว พานิชสมัย รับบท นวล
          สาวชาววิเศษชัยชาญ แก่นแก้ว ช่างพูดช่างเจรจา จิตใจโอบอ้อมอารี เป็นสาวที่หนุ่มๆหลายคนต่างหมายปอง

          สมเกียรติ จันทร์พราหมณ์ รับบท ทองอ่อน
          มหาดเล็กคนสนิทพระเจ้าเสือ ผู้มีอารมณ์ขันล้นเหลือ คอยตามเสด็จพระเจ้าเสือไปทุกหนทุกแห่งทุกเวลานาที

          นิรุตติ์ ศิริจรรยา รับบท พระยาราชสงคราม
          นายทหารคนสนิทของพระเพทราชา ที่ได้รับอำนาจในการเก็บภาษีจากพระเจ้าเสือ แต่กลับรีดนาทาเร้นราษฎรทั้งหลายในนามของพระเจ้าเสือ ทำให้ชาวเมืองจงเกลียดจงชังพระเจ้าเสือไปทุกหย่อมหญ้า
« Last Edit: December 16, 2015, 08:31:14 AM by FB »

FB on December 16, 2015, 08:54:20 AM
วันของ “เต้ย พงศกร เมตตาริกานนท์” พระเอกคนล่าสุดของ “ท่านมุ้ย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล” กับบทบาทแอคชั่นเข้มข้น ครบทุกอารมณ์ใน “พันท้ายนรสิงห์”









          Q. ทักทายกันก่อนได้ข่าวว่ากำลังจะมีผลงานภาพยนตร์เรื่องล่าสุดมาให้ชมกัน
          T. สวัสดีครับ ผมเต้ย พงศกร เมตตาริกานนท์ครับ ตอนนี้เต้ยกำลังมีผลงานภาพยนตร์เรื่องแรก และเป็นผลงานภาพยนตร์เรื่องล่าสุดด้วยครับเรื่องพันท้ายนรสิงห์ครับผม
          Q. เมื่อพูดถึง "พันท้ายนรสิงห์" อะไรคือภาพจำหรือสิ่งที่ทำให้เรานึกถึง
          T. เท่าที่เคยเรียนมา พันท้ายนรสิงห์ ผมนึกถึงความซื่อสัตย์ แล้วก็คัดท้ายเรือ เป็นคนที่คัดท้ายเรือครับ
          Q. แล้วถ้าพูดถึง "พระเจ้าเสือ" จะนึกถึงอะไร
          T. ชื่อเขาก็บอกแล้วนะว่าเขาเป็นคนดุแค่ไหน พระเจ้าเสือเป็นคนที่ดุกับลูกน้องทุกคน เพราะว่าพระองค์เป็นคนที่เคร่งครัดในกฎระเบียบครับ
          Q. เป็นไงมาไงถึงได้มีโอกาสเข้ามารับบท "สิน" พระเอกของท่านมุ้ยใน "พันท้ายนรสิงห์" ได้
          T.ก่อนอื่นต้องขอบคุณผู้พันเบิร์ดเลยครับ เป็นจุดเริ่มต้นเลยที่ทำให้ผมได้มีโอกาสก้าวเข้ามาในวงการภาพยนตร์นี้ และได้เล่นกับผู้กำกับคุณภาพอย่างท่านมุ้ย พูดได้ว่าผู้พันเบิร์ดเป็นคนขุดผมมาเลย เพราะตอนนั้นผมกำลังเล่นฟิตเนสอยู่ที่เดียวกันกับผู้พันเบิร์ดนี่แหละครับ ผมก็เล่นอยู่ เล่นไปเรื่อยๆพี่เบิร์ดเขาก็เห็นผมทุกวัน แล้วอยู่ดีๆพี่เบิร์ดบอก เฮ้ย เราหน้าไทย นะ ลองไปแคสเรื่องนี้ดูไหม เผื่อท่านมุ้ยชอบ เดี๋ยวพี่ส่งไปผมก็เลยลองไปแคสครับ เราก็นัดวันกับพี่เบิร์ด ไปถึงพี่เบิร์ดก็ส่งให้ไปแคสเลย เราก็ได้แสดงให้ท่านดูซึ่งท่านก็ชอบ
          Q. เคยนึกเคยฝันมาก่อนมั้ยว่าผู้กำกับภาพยนตร์คนแรกในชีวิตของเราจะเป็นท่านมุ้ย ผู้กำกับระดับครูของคนวงการหนังซึ่งเป็นทั้งศิลปินแห่งชาติและเป็นผู้กำกับระดับแถวหน้าของเมืองไทย
          T.คือผมเองก็ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งจะได้มาร่วมงานกับท่านมุ้ย ก็รู้สึกดีใจมากครับที่ได้ร่วมงานกับท่านเพราะชื่อ "ท่านมุ้ย" หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ผมก็ดูภาพยนตร์ของท่านมาแล้วทุกเรื่อง ทั้งสุริโยไท พระนเรศวร ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะมีโอกาสได้มาร่วมงานกับท่าน อันนี้ต้องเกริ่นก่อนเลยต้องขอบคุณผู้พันเบิร์ดจริงๆ
          Q. สิ่งที่ได้รับและเรียนรู้จากการได้เข้ามามีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งในภาพยนตร์เรื่องพันท้ายนรสิงห์
          T. ความอดทนครับ อันดับหนึ่งเลยครับ แล้วก็ฝึกเรื่องวินัยของตัวเอง อย่างเช่น พอผมได้เล่นปั๊บต้องไปเข้าคอร์สพายเรือ ขี่ม้า ฟันดาบ มวย ก่อนที่จะเปิดกล้องถ่ายทำ คือ ฉากแต่ละซีนท่านเป็นคนละเอียดในทุกๆอย่าง และต้องมีการจัดแสงนู่นนี่นั่นด้วย ซึ่งมันใช้เวลานาน แล้วผมเองตอนนั้นก็ไม่เคยเล่นละคร ไม่เคยเล่นภาพยนตร์อะไรมาก่อน แรกๆไปก็คิดว่าทำไมมันนานจังเลย แต่พอเราได้เห็นผลงาน ได้ไปเช็กมอนิเตอร์ดูว่ามันเป็นยังไง โห มันสวยจริง จัดแสงนี่แหละ แบบที่ท่านมุ้ยเขาทำ คือ แสงมันสวยอย่างนี้ ภาพมันสวยอย่างนี้ แล้วผมจำได้เลยว่า ฉากแรกที่ผมเข้ากับผู้พันเบิร์ด พี่ลิง (เสนาลิง) พี่กบ(พิมลรัตน์) เป็นฉากที่ห้ามพระเจ้าเสือไปคลองโคกขาม ฉากแรกเลย ฉากนั้นเล่นไปประมาณ 3 ชั่วโมง ผมยังจำdialogueได้จนถึงวันนี้เลย จำได้มาจนผ่านมา 3 ปี 4 ปีแล้วยังจำได้เลย "การอันองค์เสด็จสาครบุรีนั้น หาควรไปทางคลองโคกขามไม่" พูดแค่นี้ ประโยคแค่นี้ ผมพูดประมาณ 3 ชั่วโมง ซึ่งผมไม่เคยเล่นอะไรมาก่อน ด้วยความตื่นเต้นของฉาก แบบตื่นเต้นมากๆ จนท่านมุ้ยแบบมานี่ก่อน มาตั้งสติ มาดูที่ตัวเองเล่นก่อน คือ ท่านมุ้ยเป็นผู้กำกับที่เข้าใจนักแสดง ท่านไม่กดดัน ว่าแบบต้องได้นะ ต้องเดี๋ยวนี้นะ ท่านดุด่าอะไรอย่างนี้ ไม่ ไม่เคย ถ้าท่านด่า ท่านก็จะด่าแบบเล่นๆ แบบผู้ใหญ่รักเด็ก อบรมเด็กสอนเด็ก ท่านก็จะให้รู้จักคิด วิเคราะห์ แยกแยะอะไรอย่างนี้(หัวเราะ)
          Q. ดูเหมือนว่าท่านมุ้ยจะมีวิธีการสอนและกำกับนักแสดงตามแบบฉบับของท่าน
          T. ท่านจะค่อยๆซึมซับให้เราเป็นตัวละคร ผมว่าอันนี้สำคัญมากเลยนะครับ จุดหนึ่งที่ท่านมุ้ยสนิทกับนักแสดงได้คือ เรียกไปทานข้าวพร้อมกันทุกมื้อ แล้วสิ่งนี้นี่แหละที่จะช่วยหล่อหลอมให้ผมได้ซึมซับความเป็นตัวละครเพิ่มขึ้นด้วย เพราะว่าในระหว่างการทานข้าว ท่านมุ้ยก็จะสนทนาให้เราได้รู้ว่าเรื่องราวของพันท้ายนรสิงห์เป็นอย่างไร ประวัติเป็นอย่างไร เราก็ได้ซึมซับไปในตัว เหมือนการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ แทนที่เราจะกินข้าว กินใครกินมันแล้วก็ไปรอถ่าย แต่กลับเป็นว่าได้คุยเรื่องราวประวัติความเป็นมาซึ่งก็จะถูกซึมซับเข้าไปในตัวของเราทุกวันๆๆ จนกลายเป็น "สิน" กลายเป็น "พันท้ายนรสิงห์" ครับ
          Q. เพื่อที่จะรับบทเป็น "พันท้ายนรสิงห์" ต้องมีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
          T. ก่อนอื่นก็ต้องศึกษาประวัติก่อนเลย ศึกษาประวัติว่าสินเขาชอบอะไร ชอบตีไก่ ชอบชกมวย ฟันดาบเป็น ยิงธนูเป็น พายเรือเป็น เป็นคนที่ขี่ม้าเป็นด้วย เป่าขลุ่ยด้วย นี่คือสิ่งที่จะต้องเป็น เพราะตัวพันท้ายนรสิงห์จะต้องเป็นคนที่มีความสามารถพิเศษเยอะมาก ซึ่งผมต้องทำเป็นให้หมดทุกอย่าง แล้วก็ต้องค่อยๆทำทีละอย่าง แล้วก็ต้องทำให้เร็วที่สุดด้วย เพราะว่ากำลังจะเปิดกล้องแล้ว ต้องไปเรียนดาบกับสำนักพุทไธสวรรย์ เรียนมวยกับอาจารย์ยอดธง เรียนพายเรือ เรียนคัดท้ายเรือ แล้วก็มีเรียนยิงธนูต้องจับท่าธนูให้ถูกต้องด้วย ที่สำคัญเรียนเป่าขลุ่ยกับอาจารย์ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี ด้วยครับจะได้เห็นผมเป่าขลุ่ยด้วยในเรื่องนี้
          Q.รู้สึกหนักใจและกดดันมั้ยที่รอบตัวเรามีแต่นักแสดงระดับฝีมือ
          T. มีกดดันตัวเอง เพราะว่ามีแต่นักแสดงที่มากประสบการณ์ทั้งนั้นเลย แล้วก็เป็นนักแสดงที่เก่ง เพราะว่าท่านมุ้ยได้คัดเลือกมาแล้วที่จะเล่นภาพยนตร์เรื่องพันท้ายนรสิงห์เรื่องนี้ ตัวผมเองก็เกร็งมาก อย่างที่บอกไปครับ ฉากแรกนี่ก็ปาไป 3 ชั่วโมงเลย แล้วก็มีฉากที่ต้องระบายความในใจกับพระเจ้าเสือ ตอนนั้นเราเมาแล้วก็เล่าให้ฟังว่าเราไม่ชอบพระเจ้าเสือยังไงซึ่งตอนนั้นบทมาสดเลย ท่านมุ้ยเขียนมาสดๆเลย หน้าหนึ่งเต็มๆ ยี่สิบสามสิบกว่าบรรทัด ซึ่งเราแบบ จำไม่ทัน แต่ดีนะ ท่านมุ้ยคือเป็นคนที่เข้าใจนักแสดง ท่านให้พักกองก่อน และท่านก็เล่าให้ฟังว่าไอ้สินมันเกลียดยังไง โกรธยังไง มันเห็นชาวบ้านเป็นยังไง ทให้เรานึกภาพตามเห็นเรื่องราวต่างๆ เห็นจนกระทั่งเราพูด dialogueหน้าหนึ่งแบบสบายๆเลย จำเป็นภาพเอา จริงๆคือท่านมุ้ยจะใส่ใจทุกรายละเอียดเลย ทุกคำพูดของตัวละครมีความหมายหมด ยกตัวอย่างนะครับในฉากนี้สินพูดกับทิดเดื่อ ซึ่งเป็นพระเจ้าเสือปลอมตัวมาเป็นชาวบ้าน อยากรู้ว่าชาวบ้านคิดยังไง จนกระทั่งเมาแล้วสินก็เลยได้พูดออกไปว่าแบบ "เมาเหล้าข้ายังรับได้ เพราะว่ารุ่งเช้ามันก็สร่าง แต่เมาอำนาจรับไม่ได้" ซึ่งเป็นคำพูดที่สินพูดกระแทกแดกดันไปทางพระเจ้าเสือ ซึ่งตอนนั้นเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพระเจ้าเสือคือทิดเดื่อ ทำให้พระเจ้าเสือรับรู้ว่าชาวบ้านเขาคิดกับเราแบบนี้เหรอเหมือนกระจกสะท้อนเงากลับไป ด้วยความที่สินเป็นคนจริงใจ เป็นแบบชาวบ้านๆ เลยทำให้พระเจ้าเสือชอบไอ้สินที่เป็นคนจริงใจ ถึงแม้จะเป็นชาวบ้านธรรมดาๆ
          Q. "พันท้ายนรสิงห์" ในมุมของท่านมุ้ย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล มีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง
          T. คือ เราอาจจะเคยดูพันท้ายนรสิงห์ในรูปแบบละครมาแล้ว และก็เคยเป็นภาพยนตร์มาก่อนเมื่อปีพ.ศ.2493 ซึ่งได้รับการยอมรับ อยากให้ทุกคนได้ชมในภาพยนตร์เวอร์ชั่นพ.ศ.2558 นี้ กำกับโดยท่านมุ้ย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ที่สอดแทรกเรื่องราวของวัฒนธรรม ประเพณี ความรักระหว่างกษัตริย์กับสามัญชน ความรักระหว่างชายหญิง ความรักกับเพื่อน และก็ความรักระหว่างแม่กับลูกด้วย พร้อมสอดแทรกเนื้อหาที่คนไทยส่วนใหญ่อาจจะลืมไป หรือมองข้ามไป อยากให้เห็นว่าคนสมัยนั้นเขาจริงจังกับกฎระเบียบบ้านเมืองมากแค่ไหน จนกระทั่งยอมสละชีวิตของตัวเองเพื่อความถูกต้องครับ ในภาพยนตร์เรื่องนี้มีนักแสดงที่มากฝีมือเรียกได้ว่ารวมซุปตาร์อยู่ในนั้นเลย ความเก่งของนักแสดงทุกรุ่นอยู่ในนั้น แล้วก็ทั้งทีมงาน ทีมตากล้อง ทีมแสง พรอพ ฉาก ทุกอย่างทุกคนตั้งใจในทุกรายละเอียด เราจะได้เห็นความสมจริงเหมือนมันทำให้เราเข้าไปอยู่ในยุคนั้นเลย ทีมงานและก็นักแสดงทุกคนทุ่มเท รวมทั้งได้ศึกษาเรื่องราวมาก่อน ก่อนที่จะมาลงมือปฏิบัติจริง ถ่ายทำจริง
          Q. เรื่องราวของพันท้ายนรสิงห์ฉบับปีพ.ศ.2558ที่เราจะได้ชมกัน
          T. เรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์พีเรียดล่าสุดของท่านมุ้ยเลยที่เราจะได้ชมกันในปี 2558 นี้ ซึ่งเป็นเรื่องระหว่างตัวพันท้ายนรสิงห์กับพระเจ้าเสือผู้เป็นกษัตริย์ เป็นมิตรภาพและความจงรักภักดีสามารถตายแทนกษัตริย์ที่ตัวเองรักได้ แล้วก็เป็นความรักระหว่างสินกับนวล เป็นรักที่จริงใจของคนสมัยก่อน เป็นรักที่ให้เกียรติผู้หญิง เป็นรักที่บริสุทธิ์จริงๆ ซึ่งทุกคนจะได้เห็นเรื่องราว และก็ได้เห็นตั้งแต่พัฒนาการของตัวละครเลย เหมือนตัวละครยังเด็ก จนกระทั่งโตไปเรื่อยๆ ผ่านอุปสรรคต่างๆมาเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงจุดพีคสูงสุด
          Q. บุคลิกคาแรคเตอร์ของ "สิน" หรือ "พันท้ายนรสิงห์" ที่เต้ยได้รับเป็นอย่างไร
          T. ไอ้สิน หรือ พันท้ายนรสิงห์ เป็นคนมีน้ำใจมาก ชอบช่วยเหลือคน เห็นคนที่ตกทุกข์ได้ยากก็เข้าไปช่วยเหลือโดยไม่หวังผลตอบแทน ชอบในการชกมวย ฟันดาบ ยิงธนู เป็นคนที่รักเพื่อนฝูง มีฝีไม้ลายมือในการพายเรือ เป็นฝีพายเรืออันดับหนึ่งแล้วก็การคัดท้ายเรืออันดับหนึ่งของหมู่บ้านวิเศษชัยชาญเลยก็ว่าได้ มีเสน่ห์เป็นที่ชื่นชอบของสาวๆ แต่ตัวสินเป็นคนที่รักเดียวใจเดียว รักนวลเพียงคนเดียว นอกจากนี้ยังเป็นคนที่โรแมนติกมากๆ ชอบเป่าขลุ่ยแทนความรู้สึก แทนความคิดถึง ส่งไปให้นวลที่เรารัก รักของคนสมัยก่อนซึ่งไม่เหมือนคนในปัจจุบัน จะได้เห็นถึงความรักแท้ รักที่บริสุทธิ์จริงๆ และที่สำคัญที่สุดคือ พันท้ายนรสิงห์เป็นคนที่ซื่อสัตย์ครับ เป็นคนกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ ในภาพยนตร์เราจะได้เห็นความสัมพันธ์ของสินกับตัวละครหลายๆตัวในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพระพิชัยที่เปรียบได้กับพ่อบุญธรรมเป็นผู้มีพระคุณ กับเพื่อนๆในหมู่บ้านวิเศษชัยชาญ ,กับพระเจ้าเสือที่เป็นทั้งเพื่อนและพระเจ้าแผ่นดินที่เรารักและเทิดทูน และนวลคนรัก
          Q. ความสัมพันธ์ของสินกับตัวละครอื่นๆ
          T. ในด้านความสัมพันธ์ระหว่างสิน กับพระพิชัย ซึ่งรับบทโดย อาเอก-สรพงษ์ ซึ่งสินก็เหมือนเป็นลูกบุญธรรมของพระพิชัย สอนสั่งให้เราได้เรียนรู้และมีความสามารถในด้านต่างๆไม่ว่าจะเป็นการฟันดาบ ต่อยมวย ยิงธนู ซึ่งเราเองก็กตัญญูต่อพระพิชัยมากๆ แต่พระพิชัยเองจะมองพระเจ้าเสือเป็นคนไม่ดีเพราะความเข้าใจผิด ทำให้สินหนักใจมากๆ เป็นอีกความขัดแย้งหนึ่งที่ตัวละครต้องหาทางออกให้กับปัญหานี้ ว่าจะทำให้สองคนนี้เข้าใจกันได้ยังไง ในขณะเดียวกันก็จะมีอีกหนึ่งตัวละครสำคัญที่มีความสัมพันธ์กับสิน นั่นคือ ทิดเดื่อ หรือพระเจ้าเสือ (ผู้พันเบิร์ด) ซึ่งความรู้สึกแรกที่สินมีต่อคนๆนี้ ทั้งๆที่ยังไม่ได้เคยเจอหน้าพระเจ้าเสือมาก่อนเลย ก็คือเกลียดพระเจ้าเสือมาก เพราะว่าจากที่ฟังชาวบ้าน แม้กระทั่งพระพิชัยเล่าให้ฟังว่าพระเจ้าเสือเป็นคนยังไง แต่สินได้มาเจอพระเจ้าเสือครั้งแรกตอนพระเจ้าเสือปลอมตัวมาเป็นทิดเดื่อ โดยพระเจ้าเสือได้มาต่อยมวยที่หมู่บ้านวิเศษชัยชาญ แล้วก็ได้ต่อยกับเพื่อนเรานี่แหละ กระทั่งพระเจ้าเสือเห็นผู้หญิงคนหนึ่งแล้วก็ชอบมากๆเลย แล้วจะขอผู้หญิงคนนี้ แต่ปรากฏว่าเราเห็นว่าเป็นนวล ตัวสินเองก็เลยตัดสินใจกระโดดเข้าไปในเวทีมวยลองดูกัน สักยกหนึ่งกับทิดเดื่อ อย่ามาแตะต้องนวลนะ ก็เลยได้ต่อยกัน แต่จะเป็นอย่างไรให้ไปติดตามชมในภาพยนตร์ แล้วก็ในระหว่างนั้นก็ได้เป็นศัตรูกัน มีการใช้จิตวิทยาต่อกัน เพราะเราทั้งคู่จะต้องแข่งกันจีบนวล ผลัดกันเกี้ยวนวล โดยมีกะลา กะลาสมัยก่อน กะลาใส่น้ำ เป็นการกำหนดเวลา แต่แล้วก็มีเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้ทั้งคู่ได้ทำความเข้าใจกัน ในวันที่สินถูกเรียกตัวเข้าไปในพระราชวังภายใน แล้วพระเจ้าเสือได้แต่งตั้งให้เป็นพันท้ายนรสิงห์
          Q. ในมุมมองของเต้ยรู้สึกอย่างไรกับ "พันท้ายนรสิงห์" อะไรคือเสน่ห์ของตัวละครตัวนี้
          T. สินเป็นคนที่ซื่อสัตย์ เป็นคนที่รักเดียวใจเดียว เป็นคนที่กตัญญูรู้บุญคุณคน เลยทำให้ตัวละครตัวนี้มีเสน่ห์มากๆในเรื่องของคุณงามความดี ในเรื่องของการทำดีโดยไม่หวังผลตอบแทน ทำดีออกมาจากใจของตัวละครตัวนั้น ผมคิดว่าทุกคนก็จะได้เห็นแหละว่าสินดียังไง ดีจริงๆมันดียังไงในภาพยนตร์เรื่องนี้แหละครับ พันท้ายนรสิงห์
          Q. พูดถึงความท้าทายในการรับบทนี้
          T. เรียกได้ว่าตัวละครตัวนี้แทบจะเปลี่ยนบุคลิกผมเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นการนั่ง ตั้งแต่ผมเล่นพันท้ายนรสิงห์มาจนจบ มีแต่คนทักผมเป็นทหารเหรอ นั่งเป็นอย่างนี้ เดินเป็นอย่างนี้ ซึ่งมันซึมซับเข้าไปในตัวตลอด ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้ระยะเวลาการถ่ายทำก็เป็นปี ทำให้ผมรักในตัวละครนี้เป็นการท้าทายความสามารถ และเป็นเหมือนครูให้กับผม ผมได้เรียนรู้หลายๆอย่างจากการรับบทสินในพันท้ายนรสิงห์ครับ
          Q. การเตรียมตัวและการถ่ายทำ "พันท้ายนรสิงห์" กับบทบาทคนคัดท้ายเรือประจำที่นั่งของพระเจ้าเสือ เป็นยังไงบ้าง
          T. บอกเลยว่าคนสมัยก่อนเขาต้องแข็งแรงมากๆนะ เพราะเขาไม่มีฟิตเนสเหมือนสมัยปัจจุบัน ที่มีเพาะกล้าม เขาต้องมาจากกล้ามเนื้อจริงๆ การทำงานหนัก การฝึกอย่างหนักของเขาจริงๆ กว่าจะมาเป็นคัดท้ายเรือพระที่นั่งได้ บอกเลยว่าที่คัดท้ายไม่ใช่เล่นๆเลย หนักมาก ปกติเขาจะคัดมี 2 คน แต่ว่าที่ถ่ายคือมีคนเดียว พอเรือไปทางนี้ ผมต้องยกไม้พาย ไม้คัดท้ายขึ้นมาเปลี่ยนอีกฝั่งหนึ่ง เพราะมันคัดได้แบบอย่างเดียวข้างเดียว ต้องเปลี่ยนมาอีกฝั่งหนึ่งด้วย ซึ่งการพายเรือในแม่น้ำที่เชี่ยวมากๆ เราแบบคัดท้ายเรือด้วยความยากลำบากกว่าจะผ่านแม่น้ำนี้ไปได้ แต่กว่าจะพายได้ท่านมุ้ยก็มีเชิญครูจากราชนาวีมาสอน ตอนแรกได้เรียนกับการพายเรือเล็ก โหคัดสบายเลยตอนถ่ายแรกๆ แต่พอเข้าวังเสร็จ มีแต่เรือพระที่นั่งยาวๆใหญ่ๆทั้งนั้น ไม้พายทุกอย่างหนักขึ้นหมด ซึ่งต้องให้ทางกองทัพเรือมาคอยสอนว่าคัดเรือที่ถูกต้องเป็นยังไง ท่าทางที่ถูกต้อง ต้องทะมัดทะแมง การแบกไม้พายเป็นยังไง ซึ่งไม้พายอันหนึ่งหนักมาก
          Q. ทราบมาว่าต้องมีเล่นฉากแอคชั่นเยอะมากๆด้วย
          T. เจอครบรสมากๆเลยสำหรับผม เพราะว่ามันไม่ใช่แอคชั่นธรรมดา มันมีทั้งบนบก บนเรือ ในน้ำ และก็แอคชั่นบนม้าด้วย และไม่ใช่แค่ต่อย ศอก เตะ ธรรมดา มีดาบ มีมีด มีธนู เรียกได้ว่าครบมากๆเรื่องนี้ ครบแบบจัดเต็มมาก และก็เป็นประสบการณ์ที่สอนเราไปในตัวด้วย ให้ทักษะเหล่านี้มันอยู่กับเราในตัว ซึ่งเป็นวิชาที่แบบ ไม่ใช่จะหาได้ง่ายๆเลย ครับ
          Q. อยากให้ยกตัวอย่างฉากแอคชั่นสำคัญๆในภาพยนตร์ที่เราจะได้ชมกัน
          T. สำหรับฉากที่เป็นทั้งซีนสำคัญที่จะส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครสองคนคือพระเจ้าเสือ และสินเป็นฉากแอคชั่นที่ทั้งคู่จะต้องต่อสู้กับผู้ร้ายร่วมกัน ที่มันสำคัญมากๆก็เพราะว่าเป็นซีนที่สินได้ตัดสินใจเข้าไปช่วยพระเจ้าเสือ ก็คือทิดเดื่อที่กำลังจะโดนลอบปลงพระชนม์ ซึ่งเบื้องหลังของการถ่ายทำในฉากนี้ตอนถ่ายทำมีฝนตกด้วย ต้องเลอะโคลน ถ่ายกันแบบทั้งคืนเลยก็ว่าได้ เริ่มถ่ายตั้งแต่ทุ่มสองทุ่มเสร็จประมาณตีสี่ แล้วก็มีสตั้นท์อีกเป็นสิบเลยครับ จริงๆฉากแอคชั่นไม่มีแค่ซีนนี้ และก็มีการบาดเจ็บกันตลอด เพราะว่าเราไม่ได้ใส่รองเท้าเลยครับ เราจะโดนอะไรบาดเท้าทุกสัปดาห์ของการถ่ายเลย ซึ่งครั้งหนึ่งผมเคยโดนบาดเพราะถ่ายทำในน้ำ เราก็ต้องแปะเทปแล้วก็ต้องลงไปถ่ายใหม่อีก พอถ่ายเสร็จเราถึงได้ไปโรงพยาบาล ซึ่งแบบเป็นอะไรที่เหน็ดเหนื่อยพอสมควรครับ เป็นอะไรที่หนักมากเลยในการบู๊แต่ละครั้ง ถึงแม้ว่าเรามีการซักซ้อมก่อน ซ้อมกับสตั้นท์ก่อน ก่อนที่จะไปเล่นจริงก็ตาม กับอีกฉากหนึ่งที่พระเจ้าเสือกับไอ้สินจะต้องหันมาเผชิญหน้ากัน ต่อยมวยกันระหว่างสินกับทิดเดื่อ เราต้องเร่งถ่ายทำท่ามกลางความกดดันของแสงที่กำลังจะหมดไป วันนั้นเราเล่นกันแบบสดๆเพื่อความสมจริงมาก แบบใส่กันสดๆเลย วันนั้นก็เจอศอกพี่เบิร์ดมาเต็มๆ พี่เบิร์ดก็โดนผมเตะเหมือนกัน เตะกันจริง ต่อยกันจริง ใช้จากที่เคยฝึกเรียนการชกกันมา แน่นอนว่ามีโดนจริงครับ พี่เบิร์ดเขายกมือขึ้นมาบล็อกไม่ทัน มันก็เลยโดนไปนิดหนึ่ง แล้วหลังจากนั้นมาพี่เบิร์ดก็เอาคืนผมหมดเลย(หัวเราะ) พี่เบิร์ดมีท่าตวัดศอกกลับมาด้วย รู้สึกตอนนั้นเหมือนต่อยมวยกันจริงๆเลย แล้วเหมือนต่อยมวยคนละไซส์เลย นึกถึงไซส์พี่เบิร์ดกับไซส์ผม(หัวเราะ) พี่เบิร์ดตัวหนากว่ามากเลย เตะทีนี่ไม่สะเทือนเลย แล้ว เป็นการชกมวยคาดเชือกครับ เพราะว่ามีพันแขนด้วย
          Q. นอกเหนือจากการแสดงในฉากแอ็คชั่นมีซีนไหนที่เราประทับใจอีก
          T.ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ใช่แค่หนังแนวแอคชั่นอิงประวัติศาสตร์แต่เป็นหนังที่คุณจะได้ครบทุกรสทั้งเรื่องราวความสัมพันธ์ในลักษณะของมิตร-สหาย นาย-บ่าว พระเจ้าแผ่นดินกับข้าราช อย่างพระเจ้าเสือกับพันท้ายนรสิงห์แล้ว ยังมีทั้งสุข สนุก อมยิ้มไปจนถึง รัก ซึ้ง เสียสละ เศร้า น้ำตาไหลในความรักของสินกับนวล ซึ่งแสดงโดยมัดหมี่ เกิดขึ้นตลอดทั้งเรื่องในหลายๆฉาก อย่างฉากที่สินไปช่วยนวลจากพระยาราชสงคราม จนต้องโทษ และถูกจับใส่โซ่ตรวนเพื่อรอจะส่งไปสำเร็จโทษในเมืองหลวง ในขณะที่นวลเองก็กำลังจะถูกส่งไปให้พระเจ้าเสือ เรียกได้ว่าเป็นความรู้สึกสิ้นหวังของตัวละครทั้งสอง เราไม่รู้ว่าเราจะช่วยเขาได้ยังไงแล้ว มันหมดสิ้นความหวังแล้ว เป็นอีกฉากสำคัญเลยครับ ซีนนี้เป็นซีนที่ดราม่ามากๆ ใช้เวลาการถ่ายทำน่าจะประมาณ 3 วันเต็มๆ 3 วันเต็มๆกับซีนนี้ การเข้าคุก เพราะว่าผมใส่ชุดนักโทษนี้นานมากเลย
          Q. จากเศร้าสุดๆมาสู่ฉากที่สุขสุดๆ
          T. เป็นฉากที่ทั้ง 2 ตัวละครเขาก็ไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีกแล้ว ระหว่างสินกับนวล แต่พอได้มาเจอกัน ทุกอย่างมันออกมาหมดเลยในแววตาของทั้ง 2 ตัวละคร และยิ่งถ่ายไปเสร็จ ไม่อยากจะคิดว่าถ้าท่านมุ้ยเอาเพลงที่มัดหมี่ร้องมาใส่หรือเปล่า ถ้าใส่นี่ยิ่งจะแบบ ตรงกับในสถานการณ์นั้นเลย ยิ่งจะทำให้เข้าใจว่า คนที่ไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีกแล้วในชาตินี้ กลับได้มาเจอกันอีก มันจะมีความรู้สึกยังไง ท่านผู้ชมจะได้เห็นว่าจากคนสิ้นหวัง กลายเป็นคนที่มีความหวังอีกครั้งหนึ่งในด้านความรักจะเป็นยังไง สมหวังกับความรักเป็นยังไงซึ่งฉากนี้ไม่ได้พูดอะไรเลย สำหรับคนที่มีความรักที่จริงใจต่อกันแล้วก็เป็นฉากเลิฟซีนด้วย เป็นเลิฟซีนแรกของผมเลยกับมัดหมี่ ซึ่งต้องไปติดตามชมในภาพยนตร์ครับ
          Q. พูดถึงมัดหมี่กับการแสดงในบทนวล
          T. มัดหมี่เขาเก่งมาก เขาคอยสอนผมอะไรหลายๆอย่าง เพราะเขาเป็นนักแสดงรุ่นพี่ผมอีกคนหนึ่ง มัดหมี่เขายังเคยเล่นละครเวทีมา อย่างผมนี้ก็ใหม่เลย มัดหมี่ก็คอยสอนเรื่องการท่องบท และทำความเข้าใจบท ต้องมีสมาธิ เราก็ลองต่อdialogueกันดู จนเข้าปากแล้วก็ทำความเข้าใจกัน ว่าตีความว่ามันเป็นอย่างนี้ๆๆ มัดหมี่เป็นคนถึกครับ เห็นภาพลักษณ์ภายนอกอาจจะดูไฮโซ แต่ปรากฏว่าเขาลุย เขาเป็นผู้หญิงลุย ลุยทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นดำนา ขี่ควาย เลอะเปื้อน ทุกอย่างเขายอมทำได้หมด ถอดรองเท้าเดินลุยอะไรอย่างนี้ ทำได้ทุกอย่าง
          Q. เมื่อพูดถึงเรื่องราวของพันท้ายนรสิงห์จะต้องพูดถึงเหตุการณ์สำคัญในทางเกร็ดประวัติศาสตร์หรือพงศาวดารคือการตัดสินประหารชีวิตพันท้ายนรสิงห์ของพระเจ้าเสือ
          T. สำหรับฉากนี้ท่านมุ้ยเลือกเอาไว้ถ่ายสุดท้ายเรื่องเลยจริงๆ ท่านรอให้เราเป็นตัวละครเต็มที่ 100 เปอร์เซ็นต์ ให้นักแสดงมีความสนิทสนมกัน เข้าใจกัน จนกระทั่งเป็นตัวละครเลย มันเป็นฉากที่แบบยากที่สุด พีคที่สุดของเรื่องเลย มันเลยทำให้เราอินมากๆ แล้วพระเจ้าเสือยอมที่จะลุก แล้วก็เดินลงมาหาเรา เดินมาคุกเข่าพูดคุยกับเรา ทั้งๆที่เราเป็นสามัญชนธรรมดา เราเชื่อว่าเขาเป็นกษัตริย์จริงๆและกษัตริย์รักเราขนาดนี้ แต่พันท้ายนรสิงห์ก็ทำไม่ได้ เพราะว่าเราต้องรักษากฎมณเฑียรบาลที่เคยทำมา แล้วสิ่งที่พระเจ้าเสือทำมาตลอดทั้งชีวิต ถ้าไม่ทำตามกฎ สิ่งเหล่านั้นก็จะสูญสลายไปเลย สินก็ยืนยันที่จะยอมเสียสละชีวิตตัวเองเพื่อรุ่นลูกรุ่นหลานของคนไทยทุกคน เพื่อกษัตริย์ตัวเอง และก็เพื่อมิตรสหาย เพื่อน ผู้มีพระคุณ พระพิชัย แล้วก็คนรักของตัวเอง
          Q. เบื้องหลังของการถ่ายทำในฉากนี้เป็นอย่างไรบ้าง
          T. ผมร้องไห้หนักมากตอนแสดง เพราะว่าด้วยระยะเวลาการถ่ายมันเป็นซีนยาว ถ่ายทั้งวันเลย กว่าจะจัดแสงเสร็จ พอจบฉากนี้ก็ต้องไปต่ออีกฉากหนึ่งเลย จนกระทั่งแสงหมด ซึ่งบอกเลยว่าถ่ายฉากนี้ไปเสร็จ นักแสดงทุกคนกลับมาคุยอีกทีว่าแบบ โห กลับไปยังปวดหัวอยู่เลย ปวดหัวประมาณ 2-3 วัน ซึ่งในตอนถ่ายร้องไห้หนักมาก ต้อง hashtag เลยว่าร้องไห้หนักมากซีนนี้
          Q. เห็นการแสดงของผู้พันเบิร์ดในบทพระเจ้าเสือแล้วเป็นอย่างไร
          T. เป็นการพลิกคาแรคเตอร์ของพี่เบิร์ดมากๆสำหรับบทบาทที่เค้าได้รับในภาพยนตร์เรื่องนี้ เราจะได้เห็นพี่เบิร์ดในมุมตลก มุมสนุก มุมของกษัตริย์ที่น่าเกรงขามซึ่งเราเชื่ออยู่แล้วว่าเขาเป็นกษัตริย์ เขามีบุคลิกที่จะเป็นกษัตริย์อยู่แล้วเลยทำให้เราเชื่อได้ง่ายขึ้น พี่เบิร์ดก็เป็นคนที่จริงใจในการแสดงทำให้คำพูดทุกคำพูดสื่ออารมณ์ออกมาได้ดีมาก

FB on December 16, 2015, 03:45:46 PM
นิรุตติ์ประทับใจ “น้ำตาแสงไต้”ซาบซึ้งแทนความหมายแห่งรัก พันท้ายนรสิงห์ฉบับท่านมุ้ยฟังเสียง “กัน นภัทร” ร้อง ทั้งหวานเศร้าแต่ไพเราะจับใจ









Mv. น้ำตาแสงไต้ ( Official Ost. ภาพยนตร์พันท้ายนรสิงห์)
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=hy9WUeHKauY" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=hy9WUeHKauY</a>

          เป็นความคลาสสิคที่ทรงคุณค่าอย่างแท้จริงสำหรับ "พันท้ายนรสิงห์" บทพระราชนิพนธ์อิงประวัติศาสตร์จากฝีพระหัตถ์ของ "พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ ยุคล" ที่จะกลับมาอีกครั้งในรูปแบบ ภาพยนตร์แอ็คชั่น-โรแมนติคอิงประวัติศาสตร์ จากผลงานการกำกับภาพยนตร์โดย ท่านมุ้ย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล โดยมี ผู้พันเบิร์ด พันโทวันชนะ สวัสดี รับบท "พระเจ้าเสือ" พร้อมด้วย 2 นักแสดงรุ่นใหม่มากฝีมืออย่าง เต้ย พงศกร เมตตาริกานนท์ และ มัดหมี่ พิมดาว พานิชสมัย คู่พระนางที่จะมาถ่ายทอดความรักที่แสนลึกซึ้ง กินใจ และเต็มไปด้วยความเสียสละของพันท้ายนรสิงห์ และแม่นวล ทุกฉากล้วนผ่านความทุ่มเท และเต็มไปด้วยความปราณีตบรรจงที่ได้ทรงนำเสนอออกมาเป็นภาพที่งดงาม

          โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้เพลง "น้ำตาแสงไต้" เพลงรักอมตะสุดคลาสสิคที่อยู่คู่กับ "พันท้ายนรสิงห์" มากว่า 7 ทศวรรษจากผลงานการสร้างสรรค์ของเหล่าศิลปินระดับครู ตั้งแต่การประพันธ์คำร้องโดย "ครูมารุต" (ทวี ณ บางช้าง ผู้กำกับภาพยนตร์ไทยสาวเครือฟ้า , สันติ-วีณา รวมทั้งเป็นผู้แต่งเพลง และกำกับภาพยนตร์อมตะอย่าง "ชั่วฟ้าดินสลายฉบับปีพุทธศักราช 2498" และ "พันท้ายนรสิงห์ฉบับพุทธศักราช2493" ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 25 ภาพยนตร์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกภาพยนตร์ของชาติประจำปี2558 และ "ครูเนรมิต" (อำนวย กลัสนิมิ) ศิลปินแห่งชาติสาขา ศิลปะการแสดง (ผู้สร้างภาพยนตร์และผู้กำกับภาพยนตร์) ประจำปีพ.ศ.2538 ผู้บุกเบิกการสร้างภาพยนตร์ไทยด้วยฟิล์ม 16 ม.ม. ประสบความสำเร็จอย่างมากมาย อาทิ โบตั๋น,ผู้ชนะสิบทิศ ภายใต้การประพันธ์ทำนองโดย "ครูสง่า อรัมภีร" ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (เพลงไทยสากล) ประจำปีพุทธศักราช 2531 มีผลงานประพันธ์เพลงมากกว่า 2,000 เพลง รวมทั้งเพลงประกอบละครและภาพยนตร์กว่า 250 เรื่อง เป็นผู้ประพันธ์ทำนองเพลงอมตะหลายเพลงรวมทั้ง "เรือนแพ"

          บทเพลง "น้ำตาแสงไต้" ที่ช่างไพเราะ ซาบซึ้ง ทุกครั้งที่ถ้อยคำของบทเพลง "นวลเจ้าพี่เอย คำน้องเอ่ยล้ำคร่ำครวญ ถ้อยคำเหมือนจะชวน ใจพี่หวนครวญคร่ำอาลัย" ดังขึ้นมา เหมือนกับที่นักแสดงมากฝีมือระดับแถวหน้าของเมืองไทยอย่าง นิรุตติ์ ศิริจรรยา ซึ่งครั้งหนึ่งเคยรับบทพันท้ายนรสิงห์มาก่อน และในภาพยนตร์ฉบับพุทธศักราช 2558 ในบท พระยาราชสงคราม ตัวละครสำคัญที่ พระเจ้าเสือ และพันท้ายนรสิงห์จะต้องรับมือ ยกให้เพลงน้ำตาแสงไต้คือบทเพลงแห่งความประทับใจตลอดมา

          "ทุกครั้งที่พูดถึง พันท้ายนรสิงห์ ผมจะนึกถึงเพลง น้ำตาแสงไต้ ก่อนเลย น้ำตาแสงไต้เป็นบทเพลงที่ยังคงซึ้งและครองใจผม แม้นจนกระทั่งปัจจุบัน ผมได้ยินเมื่อไหร่ผมจะต้องหยุดฟังก่อน วิทยุมาผมจะไม่เปลี่ยนไปไหน หรือถ้าเปิดซีดีฟังเวลาขับรถไปต่างจังหวัดผมก็ต้องฟังซ้ำอีกสองสามหน คือผมชอบทั้งในท่วงทำนอง คำร้องและเสียงของคนร้องมาก หรือเวลาไปนั่งฟังเพลงหรือว่าในคาราโอเกะที่ไหนก็ตามก็ต้องร้องเพลงนี้กัน หรือผมร้องเพลงไม่เป็นผมก็มักจะชอบขอน้ำตาแสงไต้ก่อน เขาก็ร้องให้ฟัง นั่นเป็นสิ่งที่ยังคงประทับใจผมอยู่ ผมเองก็จะ 70 อยู่แล้ว คนรุ่นใหม่อาจบอกว่าฉันไม่เคยได้ยิน แต่ขอให้ลองฟังดูทั้งเนื้อร้องทำนอง แล้วคุณจะซาบซึ้งในบทเพลงและคุณจะเข้าใจความหมายของความรักระหว่างผู้ชายคนหนึ่งกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ยอมเสียชีวิตเพื่อหน้าที่ได้"

          ผู้ชมภาพยนตร์ ตลอดจนนักฟังเพลง จะได้ดื่มด่ำไปกับเรื่องราวมิตรภาพ ความผูกผัน ความจงรักภักดี ความซื่อสัตย์ของ พันท้ายนรสิงห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรัก ความเสียสละที่มีต่อนวลหญิงคนรัก พร้อมกับบทเพลง "น้ำตาแสงไต้" โดยได้นักร้องนักแสดงรุ่นใหม่มากความสามารถอย่าง "กัน นภัทร อินทร์ใจเอื้อ" มาเป็นผู้ถ่ายทอดบทเพลงรักอมตะ ที่มาพร้อมกับน้ำเสียงหวานเศร้าสุดโรแมนติค ได้อย่างไพเราะจับใจประกอบในภาพยนตร์

          ซึ่งตอนนี้ทาง สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล และพร้อมมิตรโปรดักชั่น ได้ส่งมิวสิควิดีโอ"น้ำตาแสงไต้" พร้อมภาพสวยๆ จากภาพยนตร์ให้ทุกท่านได้สัมผัสกับเรื่องราวความรักที่แสนกินใจของพันท้ายนรสิงห์และนวลได้แล้วโดยคลิ้กไปที่ http://youtu.be/hy9WUeHKauY
« Last Edit: December 16, 2015, 03:51:55 PM by FB »

FB on December 21, 2015, 02:03:11 PM
ท่านมุ้ยกำกับฉาก “พระเจ้าเสือถูกลอบปลงพระชนม์” เน้นแอคชั่นสมจริง ผู้พันเบิร์ด-เต้ย สุดทรหด บู๊อัดสตันท์นับสิบกลางสายฝนตลอดคืน





ความรักและภักดี ใน พันท้ายนรสิงห์
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=6Dn6EJFys6g" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=6Dn6EJFys6g</a>

          ภาพยนตร์ "พันท้ายนรสิงห์" โดย ท่านมุ้ย หม่อมเจ้าตรีเฉลิม ยุคล เราจะได้เห็น 2 นักแสดงหนุ่มสุดฮอตต้องหันหลังชนกันเข้าฉากบู๊ สู้กับนักแสดงแอคชั่นสตันท์อีกนับสิบที่ล้วนแล้วเป็นตัวจริงในเรื่อง "คิวบู๊" เพราะเป็นฉาก และเหตุการณ์สำคัญในภาพยนตร์ที่จะส่งผลต่อการกระชับมิตรและความสัมพันธ์ต่อกันของ "พระเจ้าเสือ" (ผู้พันเบิร์ด พันโทวันชนะ สวัสดี) และ "พันท้ายนรสิงห์" (เต้ย-พงศกร เมตตาริกานนท์) ว่าเหตุไฉน พระเจ้าเสือถึงรักข้าราชแผ่นดินอย่างไอ้สินนัก และไอ้สินเองก็พร้อมที่จะสละชีวิตเพื่อปกป้องกษัตริย์อันเป็นที่รักด้วยใจภักดี

          "สำหรับฉากที่เป็นทั้งซีนสำคัญในภาพยนตร์ที่จะส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครสองคนคือพระเจ้าเสือ และสินเป็นฉากแอคชั่นที่ทั้งคู่จะต้องต่อสู้กับผู้ร้ายร่วมกัน เป็นซีนที่สินได้ตัดสินใจเข้าไปช่วยทิดเดื่อ ซึ่งก็คือพระเจ้าเสือที่กำลังจะโดนลอบปลงพระชนม์ ซึ่งเบื้องหลังของการถ่ายทำในฉากนี้ตอนถ่ายมีฝนตกด้วย ต้องเลอะโคลน ถ่ายกันแบบทั้งคืนเลยก็ว่าได้ เริ่มถ่ายตั้งแต่ทุ่มสองทุ่มเสร็จประมาณตีสี่ แล้วก็มีสตั้นท์อีกเป็นสิบเลยครับ จริงๆ ฉากแอคชั่นที่เราจะได้ชมในภาพยนตร์ไม่ได้มีแค่ซีนนี้เท่านั้น และในระหว่างการถ่ายทำก็มีการบาดเจ็บกันตลอด เพราะว่าเราไม่ได้ใส่รองเท้าเลยครับ เราจะโดนอะไรบาดเท้าทุกสัปดาห์ของการถ่าย ซึ่งครั้งหนึ่งผมเคยโดนบาดเพราะถ่ายทำในน้ำ เราก็ต้องแปะเทปแล้วก็ต้องลงไปถ่ายใหม่อีก พอถ่ายเสร็จเราถึงได้ไปโรงพยาบาล เป็นอะไรที่หนักมากเลยในการบู๊แต่ละครั้ง ถึงซ้อมกับสตั้นท์มาก่อนแล้วก็ตาม"

          หนุ่มเต้ย พงศกร เมตตาริกานนท์เล่าให้ฟังถึงเบื้องหลังของการถ่ายทำท่ามกลางอุปสรรคที่เกิดขึ้น แต่ด้วยความสดใหม่ และทุ่มเทสุดชีวิตกับผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกถึงเหนื่อยแค่ไหนหนุ่มเต้ยก็ยอม เพื่อให้ได้ภาพและอารมณ์ของภาพยนตร์ออกมาสมใจผู้กำกับอย่าง ท่านมุ้ย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคลที่ทรงให้ความสำคัญกับฉากนี้มากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความต้องการให้แอคชั่นของฉากนี้ออกมาสมจริงที่สุด

          "ครั้นเมื่อพระเจ้าเสือเองที่ปลอมตัวมายังวิเศษชัยชาญ เกิดความรู้สึกอดคิดถึงนวลไม่ได้ ก็เลยพยายามที่จะไปหานวลในระหว่างที่เดินผ่านป่าช้าไป ปรากฎว่ามีผู้ร้ายจะมาลอบปลงพระชนม์ท่าน แต่ทว่าไอ้สินได้เข้ามาช่วยซะก่อน ในท้ายที่สุดทั้งคู่ก็เลยได้กลายเป็นเพื่อนกัน เป็นสหายศึกด้วยซึ่งเป็นฉากต่อสู้ที่เราจะต้องถ่ายทำในเวลากลางคืน การทำงานในฉากนี้ก็ค่อนข้างลำบากครับ ตอนถ่ายทำฝนก็ตกตลอด เราถ่ายตอนฝนตก ในหนังเราอาจจะเห็นเพียงแค่ 2-3 นาที แต่ในตอนถ่ายทำเรียกได้ว่าทั้งคืน เปียกกันโชก คือหนังเรื่องนี้เราไม่มีการใช้คิวบู๊แบบที่เราเห็นในหนังทั่วไปนะครับ ไม่เหมือนกัน เราบู๊กันจริงๆ ฟันกันแบบธรรมดาไม่ได้มีลูกเล่นมากมายนัก แต่ว่าต่อยกันจริงๆ จะๆ เลย ไม่ใช่ต่อยเป็นคิวเหมือนกับหนังทั่วไป เพราะอยากเน้นไปที่ความสมจริง"

          เตรียมพบกับอีกหนึ่งฉากแอคชั่นที่เข้มข้นของ ผู้พันเบิร์ด พันโทวันชนะ และหนุ่มเต้ย พงศกรที่โคจรมาปะทะบทบาทกันทั้งบู๊แอคชั่น และกระชากอารมณ์ชนิดสุดตัว
 
          30 ธันวาคมนี้ พิสูจน์ด้วยตาคุณเองกับ "พันท้ายนรสิงห์" โปรแกรมสุดยิ่งใหญ่ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ทุกโรงภาพยนตร์
« Last Edit: December 21, 2015, 02:43:37 PM by FB »

FB on December 23, 2015, 03:46:20 PM
Movie Guide: เพลง พันท้ายนรสิงห์ (Official Ost.ภาพยนตร์ พันท้ายนรสิงห์)



เพลง พันท้ายนรสิงห์ (Official Ost.ภาพยนตร์ พันท้ายนรสิงห์)
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=oIVYDsZuV_I" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=oIVYDsZuV_I</a>

          เพลงพันท้ายนรสิงห์ เพลงประกอบภาพยนตร์ พันท้ายนรสิงห์
          คำร้อง ทำนอง : สุทธิพงษ์ วัฒนจัง
          เรียบเรียง : จักรวาล เสาธงยุติธรรม
          ขับร้อง : นรอรรถ จันทร์กล่ำ

          ครั้งแรกของการปะทะบทบาทสุดเข้มข้นของ 2 ซูเปอร์สตาร์ชายแห่งยุค
          พันโทวันชนะ สวัสดี พลิกคาแรคเตอร์และจิตวิญญาณสวมบท "พระเจ้าเสือ"
          เต้ย-พงศกร เมตตาริกานนท์ ถือสัตย์ ยึดหัวใจเป็น "พันท้ายนรสิงห์"
          พร้อมด้วยนางเอกสาว มัดหมี่-พิมดาว พานิชสมัย ทุ่มสุดตัวกับบทบาท "นวล" เจ้าของหัวใจรักที่ต้องเสียสละ
          พร้อมทัพนักแสดงคุณภาพระดับแถวหน้าของเมืองไทยกว่าร้อยชีวิต

          เตรียมพบภาพยนตร์ไทยแอคชั่น-โรแมนติค อิงประวัติศาสตร์ ที่ได้รับการเล่าขานและเทิดทูนมาจนปัจจุบันถึงนายท้ายผู้ซื่อสัตย์และเต็มเปี่ยมด้วยความจงรักภักดี ยอมสละได้แม้แต่ศีรษะและชีวิตตัวเองเพื่อความถูกต้องและกษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่ง ได้ยืนหยัดปกครองราษฎรในแผ่นดินด้วยความร่มเย็น

          "พันท้ายนรสิงห์" 30 ธันวาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ

FB on December 25, 2015, 02:23:14 PM
บทสัมภาษณ์ ท่านมุ้ยหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ภาพยนตร์เรื่อง “พันท้ายนรสิงห์” ฉบับพุทธศักราช2558





          "มโนมอบพระผู้ เสวยสวรรค์ แขนมอบถวายทรงธรรม์ เทอดหล้า
          ดวงใจมอบเมียขวัญและแม่ เกียรติศักดิ์รักข้ามอบไว้แก่ตัว

          "อันนี้พูดไว้ตั้งแต่ต้นเรื่องเลย เป็นโคลงที่รัชกาลที่ 6 ทรงเขียนไว้
          ซึ่งตรงกับในเรื่องพันท้ายนรสิงห์ แล้วทุกอย่างนี้เกี่ยวกับความรักทั้งหมด
          เรื่องแรกเลยคือรักแผ่นดิน รักพระเจ้าแผ่นดิน รักพ่อแม่ รักเมีย
          และท้ายที่สุดคือรักเกียรติศักดิ์ของตัวเอง"
          หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล

          Q. ในรอบ2ทศวรรษที่ผ่านมาจากภาพยนตร์แห่งสยามประเทศอย่างสุริโยไท ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทั้ง6ภาค และที่เรากำลังจะได้ชมกันก็คือ พันท้ายนรสิงห์ พูดได้ว่าภาพจำของ ท่านมุ้ย หม่อมเจ้าชาตรี เฉลิมยุคล คือผู้กำกับภาพยนตร์ไทยที่ปฏิวัติการทำหนังย้อนยุค ,พีเรียด ,อิงประวัติศาสตร์ ในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ไทยโดยสิ้นเชิง ตั้งแต่กระบวนการสร้าง ที่มีการสร้างโรงถ่ายทำอย่างเป็นทางการ มีการเอานักแสดงมาเข้าโรงเรียนฝึกฝนทางด้านการแสดงก่อนการถ่ายทำเป็นปีๆ มีการสร้างฉากเซ็ทโลเกชั่นเสมือนจริงใหญ่โตอลังการ ในสายตาของท่านมุ้ย ภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์มีเสน่ห์ชวนหลงใหลอย่างไร กว่าจะถ่ายทำได้ในแต่ละฉาก นักแสดงจำนวนมหาศาล ทีมงานหลายพันชีวิต ใช้เวลาก็นานกว่าจะปิดกล้องถ่ายทำ ฯลฯ
          ท่านมุ้ย : ปัญหาก็คือผมไม่เคยถือว่าเป็นหนังประวัติศาสตร์หรือว่าอะไรนะ เพราะว่าหนังหรือภาพยนตร์ก็คือภาพยนตร์เพราะต้องบอกอย่างนี้ครับ ไม่ว่าผมทำหนังอย่างทองพูนโคกโพซึ่งเกี่ยวกับคนขับแท๊กซี่กับพระสุริโยไท ผมก็treatให้เหมือนกันหมด เพราะว่าเราตั้งใจทำ100เปอร์เซ็นต์ 150เปอร์เซ็นต์ เผื่อถ้ามี50เปอร์เซ็นต์เพิ่ม คือทำให้ดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ส่วนที่ว่าทำไมถึงมาหลงใหลในพระสุริโยไทหรือนเรศวรอะไรพวกนี้ คือเมื่อเราทำแล้วเราก็ต้องทำให้เสร็จ อย่างนเรศวรมันยาวมากนะครับ เพราะว่ามันมีหลายตอน ถ้าเผื่อว่าเราตัดตอนใดตอนหนึ่งออกมันก็จะไม่สมบูรณ์ เพราะว่ามันมีที่คนเขารู้เยอะมาก อย่างพระแสงดาบคาบค่าย หรือพระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง ยุทธหัตถี ประกาศอิสรภาพ คืออันนี้ที่รู้ๆกันนะ และยังมีที่ไม่รู้อีกเป็นจำนวนมาก ยังมีศึกตองอู ศึกนันทบุเรง คือมันมีมากมายมหาศาลซึ่งแต่ละอันสามารถทำหนังได้เรื่องหนึ่งเต็มๆเลยนะครับอย่างศึกนันทบุเรง แค่ศึกเดียวหรือพระยาจีนจันตุจากเหตุการณ์ๆเดียวเราสามารถทำหนังได้ทั้งเรื่องเช่นเดียวกัน

          Q.ผลงานภาพยนตร์พีเรียดย้อนยุคอิงประวัติศาสตร์เรื่องล่าสุดของท่าน "พันท้ายนรสิงห์"
          ท่านมุ้ย : สำหรับเรื่องราวของ "พันท้ายนรสิงห์" คือเป็นเรื่องที่Controversial (มีข้อโต้แย้งเป็นที่ถกเถียง)กันมากๆเลย คือเรื่องเกี่ยวกับพระเจ้าเสือกับพันท้ายซึ่งเราก็ไม่รู้เลยว่าเป็นจริงแท้แค่ไหน แต่ว่าเรื่องของพันท้ายเป็นเรื่องที่อยู่ในพงศาวดารพูดถึงนายสินที่ทำให้หัวเรือหักและโดนประหารชีวิตในที่สุด ซึ่งเป็นคนเดียวในประวัติศาสตร์ไทย เป็นคนเดียวที่ขอให้ตัดหัวเพื่อรักษาพระเกียรติของพระเจ้าเสือ ซึ่งทำให้เราคิดว่าพระเจ้าเสืออาจไม่เลวร้ายเหมือนอย่างที่บางข้อมูลมีการพูดถึง แต่จะว่าไปแล้ว จริงๆแล้วท่านต้องมีอะไรดีอย่างน้อยที่สุดพันท้ายถึงยอมถวายชีวิตให้พระเจ้าเสือ จากจุดนี้ทำให้เราเริ่มค้นคว้าลึกเข้าไป แต่จริงๆก็ไม่ได้จำเป็นต้องค้นคว้าอะไรมากมายนะครับ เพราะว่าเรื่องบทของพันท้ายนรสิงห์เป็นเรื่องที่ลุงผม(พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ ยุคล)เอามาทำเป็นหนัง(พ.ศ.2493) เป็นละคร(พ.ศ.2487)มาก่อนในสมัยโน้น แต่ว่าเรารู้อย่างหนึ่งว่าพระเอกก็คือชูชัย พระขรรค์ชัย(ฉบับภาพยนตร์)นะครับ แล้วนางเอกคือสุพรรณ บูรณะพิมพ์(ทั้งฉบับละครเวทีและภาพยนตร์) แล้วบทของท่าน มันค่อนข้างลึกซึ้งพอสมควร นั่นแสดงว่าท่านศึกษามากมายพอสมควรนะครับ ซึ่งเราก็ไปศึกษาต่อ ต่อยอดมาจากท่าน แล้วเราก็นำมาทำ(พันท้ายนรสิงห์ฉบับปีพุทธศักราช2558)

          Q.นั่นหมายความนอกจากท่านมุ้ยทรงประทับใจในพระราชนิพนธ์ "พันท้ายนรสิงห์" ของพระเจ้า วรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ ยุคล จนเกิดเป็นแรงบันดาลใจที่ทรงเลือกนำมาถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์ให้ได้ชมกันแล้ว ระยะเวลาที่ผ่านไปกว่า70ปีไม่ได้ลดทอนคุณค่าในแก่นสารหรือสาระสำคัญที่บทพระราชนิพนธ์มีท่านมุ้ยมองว่าไม่ได้เป็นความล้าสมัยเลยที่จะนำเสนอในยุคปัจจุบันนี้
          ท่านมุ้ย : เรื่องความรักนะเหรอครับ ผมว่าเรื่องความรักเป็นสิ่งที่ไม่ล้าสมัยนะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรักระหว่างเพื่อนระหว่างพันท้ายนรสิงห์หรือไอ้สินกับพระเจ้าเสือ กับผู้หญิงซึ่งเป็นตัวกลางที่อยู่ระหว่างคนสองคนคือนวล ซึ่งพระเจ้าเสือในบทของผมท่านก็รักนวลพอสมควร แล้วก็เวลาเดียวกันไอ้สินรักนวล ขนาดถวายชีวิตด้วยกันตายแทนกันได้ มันเป็นอะไรที่น่าสนใจมากๆเลย

          Q.ฟังๆดูแล้วนอกจากความเป็นภาพยนตร์พีเรียดอิงประวัติศาสตร์ใน "พันท้ายนรสิงห์" ผู้ชมจะได้สัมผัสถึงอารมณ์ในรูปแบบของความดรามาติก-โรแมนซ์อยู่พอสมควรเลยทีเดียว
          ท่านมุ้ย : ต้องบอกอย่างนี้ครับมันเป็นแกนของเรื่องเลยนะครับ เรื่องโรแมนติคหรือเรื่องอะไรพวกนี้ คือผมก็ไม่รู้นะ คือเราก็พยายามที่จะให้เห็นถึงความรัก ถามว่าแล้วในพันท้ายนรสิงห์มีกี่ความรักละ มโนมอบพระผู้ เสวยสวรรค์ แขนมอบถวายทรงธรรม์ เทอดหล้า ดวงใจมอบเมียขวัญและแม่ เกียรติศักดิ์รักข้ามอบไว้แก่ตัว อันนี้พูดไว้ตั้งแต่ต้นเรื่องเลยเป็นโคลงที่รัชกาลที่6ทรงเขียนไว้ ซึ่งตรงกับในเรื่องนี้ แล้วทุกอย่างนี้เกี่ยวกับความรักทั้งหมด เรื่องแรกเลยคือรักแผ่นดิน รักพระเจ้าแผ่นดิน รักพ่อแม่ รักเมียและท้ายที่สุดคือรักเกียรติศักดิ์ของตัวเอง นี่คือคอนเซ็ปท์ที่อยากให้มันมีการถูกพูดถึงให้ได้

          Q.ที่ผ่านมาเราจะได้เห็นภาพบรรยากาศ เหตุการณ์ เรื่องราวในประวัติศาสตร์ของ "อยุธยา" ในช่วงเวลาต่างๆผ่านภาพยนตร์อย่าง "สุริโยไท" และ "ตำนานสมเด็จพระนเรศวร" แล้วสำหรับในเรื่องราวของ "พันท้ายนรสิงห์" ผู้ชมจะได้สัมผัสเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาไหนในสมัยอยุธยา
          ท่านมุ้ย : ห่างกันร้อยกว่าปีก่อนที่เราจะเสียเมืองไม่กี่ปี เป็นช่วงท้ายสุดของราชวงศ์บ้านพลูหลวงครับ อีก 2 รัชสมัยซึ่งเป็นรัชสมัยสั้นๆก่อนที่เราจะเสียเมือง เราก็จะมีการเอ่ยผ่านๆ มีการพูดถึงเรื่องราวเกี่ยวกับพระนารายณ์อยู่บ้างเหมือนกันนะครับ

          Q.สำหรับแฟนๆของท่านมุ้ยนี่เป็นอีกหนึ่งผลงานภาพยนตร์พีเรียดอิงประวัติศาสตร์ นับตั้งแต่ สุริโยไท ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จนมาถึงผลงานภาพยนตร์เรื่องล่าสุด "พันท้ายนรสิงห์"ต้องถามว่าเรื่องนี้แตกต่างจากสองเรื่องก่อนหน้านี้อย่างไรบ้าง
          ท่านมุ้ย : แตกต่างกันอย่างไรนะเหรอครับ จริงๆสำหรับพันท้ายนรสิงห์เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในของประเทศมันจะเป็นเรื่องของการปฏิวัตินะครับ มันจะไม่เกี่ยวกับพม่าหรือเขมรอะไรพวกนี้นะครับ มันเป็นเรื่องต่อสู้ภายในรบกันในประเทศระหว่างพระเจ้าเสือกับคนที่ไม่พอใจกับพระเจ้าเสือก็คือพระพิชัย(รับบทโดยสรพงษ์ ชาตรี) ผู้ที่เข้าใจผิดว่าพระเจ้าเสือเป็นขบถต่อพระนารายณ์(รับบทโดยสุเชาว์ พงษ์วิไล) เพื่อที่จะให้พ่อเลี้ยงของตัวเองคือพระเภทราชา(สมภพ เบญจาธิกุล)ขึ้นมาป็นกษัตริย์แทน

          Q.พูดถึงนักแสดงที่ถูกคัดเลือกให้มารับบทบาทถ่ายทอดคาแรคเตอร์หลักทั้ง3 (พระเจ้าเสือ,พันท้ายนรสิงห์หรือไอ้สินและนวล) ให้โลดแล่นในภาพยนตร์เรื่อง "พันท้ายนรสิงห์" ฉบับพุทธศักราช2558นี้
          ท่านมุ้ย : คนแรกเราก็มองผู้พันเบิร์ด(พันโทวันชนะ สวัสดี)เป็นพระเจ้าเสือ ซึ่งจริงๆแล้วผมประทับใจตั้งแต่สมัยที่ผู้พันเบิร์ดเป็นพระนเรศวร แต่ว่าในความรู้สึกของคนทั่วไปเขาอาจจะติดภาพของผู้พันเบิร์ดในฐานะของพระนเรศวร เราถึงต้องแก้ภาพพจน์อันนี้ให้เป็นผู้พันเบิร์ดที่เป็นพระเจ้าเสือ ซึ่งผมคิดว่าก็ประสบความสำเร็จพอสมควร เสร็จแล้วมาถึงบทพันท้ายนรสิงห์หรือนายสิน ก็เอาเด็กใหม่มาเล่นนะครับ อันนี้พูดถึงเด็กใหม่ ตอนเราเริ่มถ่ายทำเขาก็ไม่เคยเล่นหนังเรื่องไหนมาก่อน คุณเต้ย พงศกร สดๆเลยครับ

          Q.อย่างนี้ต้องเรียนถามว่าภาพของพระเจ้าเสือในใจของท่านมุ้ยเป็นอย่างไร และความต้องการที่จะเปลี่ยนลุคของผู้พันเบิร์ด ท้ายที่สุดแล้วออกมาได้อย่างตรงใจท่านมุ้ยแค่ไหน อย่างไร
          ท่านมุ้ย : ก็ในเรื่องสำหรับพระเจ้าเสือหรือทิดเดื่อ ท่านก็เป็นนักเลงชอบต่อยมวย ชอบจีบผู้หญิงซึ่งแน่นอนว่าแตกต่างจากพระนเรศวรโดยสิ้นเชิงนะครับ เพราะอย่างพระนเรศวรจะค่อนข้างขรึมๆ ซึ่งสำหรับพระนเรศวรจะค่อนข้างยากในการทำเป็นหนัง เพราะเราจะแตกประเด็นออกไปมากไม่ได้ แต่ว่าพันท้ายนรสิงห์ พระเจ้าเสือจะสามารถที่จะเล่นในมุมกว้างได้มากกว่าพระนเรศวร ที่สำคัญมีชีวิตชีวามากกว่า

          Q.อยากให้ท่านมุ้ยช่วยลองยกตัวอย่างพอให้เห็นภาพว่าลุคที่เปลี่ยนไปของผู้พันเบิร์ดที่แฟนๆจะได้เห็นในบทพระเจ้าเสือจากภาพยนตร์เรื่อง "พันท้ายนรสิงห์"เป็นอย่างไรบ้าง
          ท่านมุ้ย : ก็อย่างจีบผู้หญิงแข่งกับไอ้สินจีบนวล ซึ่งในเรื่องท่านปลอมตัวเข้าไปในหมู่บ้านวิเศษชัยชาญเพื่อที่จะเข้าไปสืบการฉ้อราษฎร์บังหลวงแล้วก็ไปเจอกับสาวชาวบ้าน แล้วท่านก็เลยเกิดชอบพอ หลงรักเข้า เพราะตามปกติแล้ว เป็นพระเจ้าเสืออยากจะได้ผู้หญิงคนไหนก็ได้ในปฐพี จะสวยแค่ไหนท่านก็เอามาได้ แต่ว่าพอมาถึงนวล สาวที่วิเศษชัยชาญ เป็นผู้หญิงที่ปฏิเสธท่านตั้งแต่ต้น เพราะว่านวลเองมีความรักอยู่แล้วกับสิน ซึ่งทำให้พระเจ้าเสือค่อนข้างที่จะต้องใช้ความพยายามเพิ่มขึ้นในการที่จะได้นวลมาเป็นเมีย

          Q.มาถึงพระเอกใหม่บ้างที่ ณ เวลานั้นค่อนข้างสดมากๆ เต้ย พงศกร อย่างนี้พอพูดได้มั้ยท่านว่าท่านมุ้ย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคลเป็นครูคนแรกของเต้ย
          ท่านมุ้ย : เป็นครูคนแรก พูดได้เลยครับ

          Q.ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมาพูดได้ว่าท่านมุ้ยมีลูกศิษย์ลูกหาเต็มไปหมดทั่วทั้งวงการ มีนักแสดงตลอดจนผู้กำกับหลายๆคนที่ได้แจ้งเกิดในวงการภาพยนตร์ หลังๆที่เห็นชัดๆในรอบ14-15ปีก็จะมีเหล่านักแสดงจากภาพยนตร์เรื่องตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชอย่าง ผู้พันเบิร์ด พันโทวันชนะ, แอฟ ทักษอร,ปีเตอร์ นพชัย ซึ่งตอนนี้กลายเป็นผู้กำกับแล้ว ฯลฯ เรื่อยมาจนถึงคู่ล่าสุด เต้ย พงศกร และน้องมัดหมี่ พิมดาว อยากเรียนถามท่านมุ้ยว่าทำไมท่านถึงต้องให้นักแสดงมาเข้าหลักสูตร-เวิร์คช็อพขี่ม้า ฟันดาบ ใช้ชีวิต เลี้ยงควายฝึกฝนมากมายขนาดนั้นบางคนแรมเดือน เห็นว่าอย่างมัดหมี่นี่ก็แรมปีเลยทีเดียว
          ท่านมุ้ย : คือเราต้องการให้นักแสดงเป็นตัวละครตัวนั้นจริงๆ ให้เต้ยเขาเป็นพันท้ายนรสิงห์จริงๆเลย เป็นทั้งชาวบ้านเป็นสิน เป็นทั้งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เป็นพันท้ายกับศักดินาพันไร่ซึ่งเขาต้องแสดงในหลายๆบทบาท บทบาทที่มีความรักกับนวลอะไรพวกนี้ก็เช่นกันในแง่การถ่ายทอดอารมณ์ รวมไปถึงฉากแอ็คชั่น เพราะภาพยนตร์เรื่องพันท้ายนรสิงห์ก็มีฉากบู๊อยู่มากพอสมควร

          Q.อยากให้ท่านมุ้ยเล่าให้ฟังว่าเอาเต้ยมาฝึกทักษะการแสดงอะไรบ้าง
          ท่านมุ้ย : เราเอาเต้ยมาฝึกสารพัดอย่างเลยครับ ก่อนอื่นต้องให้เขาทำความเข้าใจกับตัวแสดงในเรื่องกับตัวบทที่เขาจะต้องถ่ายทอดออกมาว่าเป็นใคร อันแรกเราต้องเปลี่ยนลุคของเขาให้เข้ากับตัวพันท้ายซึ่งก็ตั้งแต่ตอนเป็นชาวบ้านไปจนกระทั่งถึงเป็นพันท้ายนะครับตั้งแต่เป็นไอ้สินเลย ในส่วนของการเปลี่ยนแปลงก็มีตั้งแต่ตัดผมตัดเผ้า คือทำทุกอย่างให้มันดูเป็นชาวบ้านไปจนถึงแอ็คชั่นด้วยครับ สู้กัน โดยมีทีมสตันท์คอยสอนว่าจะสู้อย่างไร ซึ่งก็ไม่ผิดหวัง รวมไปถึงเป่าขลุ่ยหรือแม้แต่พายเรือทั้งพายเรือธรรมดาและถือหางเสือ

          Q.อะไรที่ทำให้ท่านมุ้ยรู้สึกประทับใจในตัวของ "เต้ย" ว่าเหมาะกับบท "พันท้ายนรสิงห์"
          ท่านมุ้ย : ความพยายามครับ เหมือนกับสรพงษ์ ทำให้นึกถึงสรพงษ์ในตอนที่เป็นเด็กหนุ่ม เขามีความพยายามสูงมากครับ

          Q.ผู้ชมและแฟนๆจะได้เห็นบทบาทการแสดงของเต้ยในรูปแบบไหนบ้างในภาพยนตร์
          ท่านมุ้ย : โอ้โหเยอะแยะเลยครับเกือบทุกอย่าง ตั้งแต่ฉากบู๊จนถึงฉากรัก เต้ยต้องทำให้ได้ เอาอย่างนี้ต้องไปดูเอาเองในหนังดีกว่าครับผม ต้องให้คนดูเป็นคนตัดสินใจ ผมเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน แต่ดูแล้วก็ไม่ผิดหวังนะครับ

          Q.เป็นครั้งแรกที่เราจะได้เห็นพระเอกระดับซูเปอร์สตาร์แห่งยุคทั้ง2คนปะทะบทบาท เฉือดเชือนอารมณ์กันในภาพยนตร์เรื่องพันท้ายนรสิงห์ฉบับพุทธศักราช2558 ขอเรียนถามท่านมุ้ยว่าให้ น้ำหนักตัวละครของ พันท้ายกับ พระเจ้าเสืออย่างไร เคมีทางด้านการแสดงของทั้งคู่เป็นอย่างไรบ้าง
          ท่านมุ้ย : ต้องให้เท่ากันครับ ส่วนเคมีทางด้านการแสดงระหว่างเต้ยกับผู้พันเบิร์ด หรือระหว่างสินกับพระเจ้าเสือ ได้ครับ ก็ดูเป็นเพื่อนรักกันได้เลยนะครับ(หัวเราะ) แล้วก็สามารถเป็นเจ้านายกับบ่าวได้ค่อนข้างสมบูรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรามีฉากสำคัญของทั้งคู่ที่ผมก็พอใจมากๆเลย อย่างที่หนึ่งคือผู้พันเบิร์ดหรือพระเจ้าเสือต้องไปฝึกต่อยมวยแบบโบราณนะครับ ซึ่งมีอยู่หลายฉากนะครับที่สำคัญคือเป็นฉากต่อยมวยที่ดูแล้วรู้สึกได้เลยว่าเขารำมวยได้เข้าท่าเลยทีเดียว และวิธีการต่อยของเขาคือพระเจ้าเสือต้องต่อยกับนักมวยจริงๆด้วย เหตุผลที่ทำให้ฉากต่อยมวยนี้เป็นฉากที่ผมค่อนข้างพอใจทีเดียวเพราะว่าผู้พันเบิร์ดต่อยอย่างจริงจังมากๆ แล้วคนที่ต่อยด้วยกระอักเลือดเลยทีเดียว แต่ว่าคนที่ต่อยด้วยเป็นนักมวยจริงๆนะครับ ซึ่งก็ค่อนข้างจะมีแรงปะทะ ซึ่งเวลาเตะพระเจ้าเสือบางทีก็เขียวช้ำไปทั้งตัวเหมือนกัน เป็นฉากที่เขาต้องสู้กันแต่ว่าสังเกตุดูจากวิธีการรำมวยของพระเจ้าเสือ จะเห็นว่าแกทำได้จริงๆ รวมไปถึงฉากที่พระเจ้าเสือจะต้องต่อยกับไอ้สินเช่นกัน เต้ยเองก็เหมือนกันเลยครับ ทั้งคู่ต้องฝึกมวยกันอย่างหนัก แล้วเต้ยตอนนั้นเขาใหม่ เขาสดมากๆครับ เราก็ต้องส่งเขาไปฝึกมวยครับ ต้องไปฝึก แล้วก็ต้องเจ็บด้วย เพราะว่าตอนถ่ายทำเราไม่ตัดเลยครับ คัทนั้นเราถ่ายยาวตลอดเลยปล่อยให้ทั้งคู่เล่น รวมไปถึงฉากที่พระเจ้าเสือคิดถึงนวลนะครับก็เลยพยายามที่จะไปหานวลในระหว่างที่เดินผ่านป่าช้าไป แล้วตัวผู้ร้ายของเราก็คือพระยาราชสงคราม(รับบทโดยนิรุตติ์ ศิริจรรยา)ก็ส่งคนมาจะฆ่าพระเจ้าเสือก็คือจะมาลอบปลงพระชนม์ท่าน แต่ว่าไอ้สินเข้ามาช่วยซะก่อนผ่านมาพอดีก็เลยกลายป็นเพื่อนกัน เป็นสหายศึกด้วยซึ่งเป็นฉากต่อสู้ที่เราถ่ายทำในเวลากลางคืน การทำงานในฉากนี้ก็ค่อนข้างลำบากครับ ตอนถ่ายทำฝนก็ตกตลอด เราถ่ายตอนฝนตก ในหนังเราอาจจะเห็นเพียงแค่2-3นาทีแต่ในตอนถ่ายทำเรียกได้ว่าทั้งคืน เปียกกันโชก คือหนังเรื่องนี้เราไม่มีการใช้คิวบู๊แบบที่เราเห็นในหนังทั่วไปนะครับ ไม่เหมือนกัน เราบู๊กันแบบจริงๆ ฟันกันแบบธรรมดาไม่ได้มีลูกเล่นมากมายนัก แต่ว่าต่อยกันจริงๆจะๆเลย ไม่ใช่ต่อยเป็นคิวเหมือนกับหนังทั่วไป เน้นที่ความสมจริง

          Q.นอกจากที่เราจะได้เห็นทั้งคู่เข้าฉากด้วยกันแล้ว ว่ากันว่าในภาพยนตร์เรื่องพันท้ายนรสิงห์สิ่งที่เรียกได้ว่าเซอร์ไพรส์มากๆซึ่งเราจะไม่ค่อยได้เห็นแต่จะปรากฎอยู่ในภาพยนตร์ถ่ายทอดความสัมพันธ์ของตัวละครผ่านการแสดงของทั้งเต้ยและผู้พันเบิร์ดในบทไอ้สินและพระเจ้าเสือนั่นคืออารมณ์ขัน ถือได้ว่าเป็นการพลิกบทบาททางด้านการแสดงอย่างที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนของผู้พันเบิร์ด
          ท่านมุ้ย : ครับอันนี้เป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับผู้พันเบิร์ดที่แกสามารถเล่นในบทบาทที่มีอารมณ์ขันได้มากพอสมควร เพราะทั้งคู่จะต้องชอบผู้หญิงคนเดียวกัน ก็เลยจะต้องมีการจีบผู้หญิงคนเดียวกัน แต่สำหรับพระเจ้าเสือคือแกก็จะมีการจีบอย่างพระเจ้าแผ่นดินนะครับ ซึ่งจริงๆแล้วคือพระเจ้าเสือจีบผู้หญิงไม่เป็นนะครับ เพราะว่าท่านอยากได้ผู้หญิงคนไหนก็ได้ในปฐพี ท่านก็สามารถเอามาเป็นเมียได้ แต่สำหรับนวลท่านไม่ได้ เพราะนวลมีความเป็นตัวตนค่อนข้างจะสูงมากทีเดียวนะครับ เพราะฉะนั้นการจีบของท่านจะค่อนข้างไม่เอาไหนเท่าไหร่นัก แตกต่างจากไอ้สินที่ปากหวาน สามารถที่จะเป่าขลุ่ยได้เพราะ สามารถที่จะจีบได้ดี แต่ที่สำคัญคือทั้งคู่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะว่าหมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านเล็กๆ เขารู้จักกันแล้วก็เป็นเพื่อนจีบกันมาตั้งแต่เด็กๆ

          Q.มาถึงอีกหนึ่งตัวละครสำคัญ พูดถึงนางเอกกันบ้าง อยากให้ท่านมุ้ยพูดถึงมัดหมี่หน่อยครับ ใครจะคิดว่าทหารหญิง-นักร้องตัวเล็กๆต้องมารับบทเป็นนวล สาวชาวบ้านร้องเพลงลำตัดและต้องตัดผมทรงดอกกระทุ่มด้วย ก่อนอื่นเรียนถามท่านมุ้ย ภาพของนวลในใจของท่านมุ้ยเป็น อย่างไรบ้าง
          ท่านมุ้ย : เป็นหญิงชาวบ้านค่อนข้างจะดุ ค่อนข้างจะ เขาเรียกว่าอะไรนะ ถือตัวนิดๆ แต่สิ่งแรกที่มองคือต้องมีความเป็นชาวบ้าน แล้วสิ่งแรกที่ทำให้ผมสนใจคือมัดหมี่หน้าตาเขาชาวบ้าน เขาหน้าตาโบราณๆดี อันนี้คือความประทับใจในสิ่งแรกที่มีต่อคุณมัดหมี่ เหมือนกับที่ผมเคยชอบคุณนันทนา เงากระจ่าง ซึ่งเคยเล่นเรื่องแผลเก่า แล้วเราก็คิดว่าคุณมัดหมี่กับคุณนันทนา เงากระจ่างนี่มีอะไรหลายๆอย่างที่คล้ายกัน แล้วก็เขาเป็นคนที่ว่าพอเราเอามาเล่นแล้ว เขาเข้าถึงบทบาทจริงๆๆนะครับซึ่งมันไม่เหมือนกับตัวจริงที่เป็นลูกนายพล รองผบ.สส.นะครับ เขาก็สามารถถ่ายทอดบทบาทออกมาได้เต็มที่100เปอร์เซ็นต์

          Q.ท่านมุ้ยต้องปรับอะไรมัดหมี่เยอะมั้ยครับจากลุคปัจจุบันที่เราเห็นเพื่อที่จะมารับบทนวล
          ท่านมุ้ย : ก็เยอะเหมือนกันนะครับ ก็เริ่มจากทรงผมเลยทีเดียว เขาต้องตัดผมทรงชาวบ้าน ทรงดอกกระทุ่มสมัยโน้น แล้วเขาก็ต้องร้องเพลงในเรื่องคือเพลงเหย่ย เพลงลำตัดอะไรพวกนี้ ซึ่งเด็กสมัยนี้ก็คงจะไม่รู้แล้วว่าเขาร้องกันเป็นอย่างไร รวมทั้งต้องไปเลี้ยงควายครับ นอนบนหลังควาย

          Q.เราจะได้เห็นนางเอกสวยๆของท่านมุ้ยที่เป็นเซเลปบ้างหรือไฮโซมาทำอะไรหลายๆอย่างที่เราหรือแม้กระทั่งเจ้าตัวอาจจะไม่เคยเห็นหรือเคยทำมาก่อน
          ท่านมุ้ย : ครับไฮโซก็ขี่ควายเป็นนะ ผมเองก็ขี่ควายเป็นเหมือนกัน ผมหัดขี่ควายตั้งแต่เด็กละ แต่ก่อนบ้านที่บางกะปิก็มีแต่ควาย ไอ้ตรงที่เป็นซอยกลาง ซอยทองหล่อแต่ก่อนก็เป็นทุ่งนาทั้งนั้นแหละครับ ก็มีแต่ควาย แล้วตอนเด็กๆผมก็เล่นไปขี่ควาย สรพงษ์นี้ก็หัดขี่ควายมาตั้งแต่เด็กนั่นก็เป็นสิ่งปกติธรรมดา

          Q.ในภาพยนตร์เราจะได้เห็นฉากโรแมนติคระหว่างเต้ยกับมัดหมี่ด้วย
          ท่านมุ้ย : มีครับ ซึ่งมันก็ต้องมีอยู่แล้วนะครับสำหรับฉากโรแมนซ์ในหนังทุกเรื่อง แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่คนรักกันก็ต้องจูบกัน มันไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โตมโหฬารอะไรนะครับ ซึ่งผมว่าแค่นั้นก็พอแล้วนะครับ เพราะดูจริงจังอยู่แล้ว หนังเรื่องนี้เราจะได้เห็นอารมณ์ของตัวละครผ่านฉากโรแมนติค เน้นความรู้สึกของตัวละคร แต่ประเด็นที่เราพยายามจะเน้นในภาพยนตร์เรื่องพันท้ายนรสิงห์ก็คือเรื่องความซื่อสัตย์ ความรักที่มีระหว่างตัวละครพันท้ายกับพระเจ้าอยู่หัวคือตัวพระเจ้าเสือ ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจของพันท้ายนรสิงห์ แต่ในขณะเดียวกันเราก็จะได้เห็นเรื่องราวความรักความผูกผันของทั้ง3ตัวละคร นวล,พันท้ายนรสิงห์และพระเจ้าเสือ ถามว่าพระเจ้าเสือรักนวลรึเปล่า เห็นหนเดียว รักมั้ย ไม่รู้ว่ารักรึเปล่า คือโดยไอเดียของคาแรคเตอร์พระเจ้าเสือ อยากได้อะไรก็ต้องได้ แต่จะไม่ได้นวล มันเป็นการChallenging คือต้องได้ผู้หญิงคนนี้ ในความรู้สึกของพระเจ้าเสือนะ หญิงใดในปฐพี จะสวยแค่ไหนก็หาเอามาเป็นเมียได้ แต่ทำไมคนอย่างอีนวลที่เป็นสาวบ้านนอก ทำไมถึงไม่ได้ และระหว่างไอ้สินเพื่อนร่วมน้ำสาบาน กับอีนวล พระเจ้าเสือจะเลือกเอาใคร ผู้หญิงทั้งปฐพีหาได้ง่าย แต่เพื่อนตายเพื่อนร่วมน้ำสาบานอย่างไอ้สินหาไม่ได้ นี่คือpointของเรื่องเลย เพราะฉะนั้นพอมาจนถึงตอนตัดหัว จึงเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับพระเจ้าเสือ ไอ้สินก็บอกว่าต้องตัดเพราะถ้าไม่ตัดนะท่านจะเสียชื่อ เพราะพระเจ้าเสืออยากได้ใครก็ได้ แต่พระเจ้าเสืออยากได้นวลกลับไม่ได้นี่คือPoint อันนี้คือ Core Conceptของหนังเรื่องนี้เลย

          Q.นอกจากเรื่องราวที่เข้มข้น ความรัก ความซื่อสัตย์ บนฉากหลังในรูปแบบภาพยนตร์ย้อนยุคอิงประวัติศาสตร์แล้ว ภาพยนตร์เรื่องพันท้ายนรสิงห์ยังเป็นการรวมศิษย์เอกศิษย์เก่าบรรดานักแสดงที่เคยร่วมงานกับท่านมุ้ยมาโดยตลอดมาร่วมสร้างสีสันความยิ่งใหญ่ให้กับภาพยนตร์อย่างมากมายเลยทีเดียวทั้งรุ่นใหญ่มากฝีมือและรุ่นใหม่ไฟแรง
          ท่านมุ้ย : ก็ถือว่ามาเล่นกันเยอะเลยครับ รุ่นเก่าๆ ส่วนรุ่นใหม่ไม่กี่คน ก็มีรุ่นเด็กๆหลายคนครับที่ไม่เคยเล่นมาก่อนก็มา หลายๆคนผมเองก็จำชื่อจริงเขาไม่ได้อย่างคนที่เล่นเป็นไอ้คง(ราชวัติ ขลิบเงิน)ก็เรียกไอ้คงมาโดยตลอด ฯลฯ หรือถมยา(วิศว ทัพพะรังสี) ที่เคยเล่นนรเศวรมาแล้วในฉากพระราชมนูปล่อยมดแดง

FB on December 29, 2015, 02:48:16 PM
“พันท้ายนรสิงห์ ฉบับท่านมุ้ย” ได้ 2 พระเอกอดีตพันท้ายฯ นิรุตติ์ เชือดเฉือน สรพงษ์ รับบทตัวแปรสำคัญชี้เป็นชี้ตาย “พระเจ้าเสือ”









พันท้ายนรสิงห์ ประกาศความสัตย์แล้ววันนี้ ในโรงภาพยนตร์
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=H62yi9USoFs" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=H62yi9USoFs</a>

          เป็น 2 นักแสดงมากฝีมือที่เคยสวมบทบาทของ "พันท้ายนรสิงห์" กันมาแล้วทั้งในฉบับภาพยนตร์ และละครโทรทัศน์ โดยใน "พันท้ายนรสิงห์" จากผลงานการกำกับ ท่านมุ้ย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล เราจะได้เห็นผลงานการเชือดเฉือนบทบาทกันของนักแสดงคุณภาพระดับแถวหน้าของเมืองไทยอย่าง "สรพงษ์ ชาตรี" ในบทบาทของ พระยาพิชัย ข้าราชเก่าผู้มีความซื่อสัตย์ และจงรักภักดีต่อสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และเป็นกลุ่มผู้นำในการซ่องสุมผู้คนในหมู่บ้านวิเศษชัยชาญ ซึ่งมีไอ้สิน หรือพันท้ายนรสิงห์ ให้ลุกขึ้นมาต่อต้าน และวางแผนที่จะลอบปลงพระชนม์พระเจ้าเสือ เพราะเข้าใจผิดคิดว่าพระเจ้าเสือ คือพระเจ้าแผ่นดินที่ประพฤติมิชอบ รีดนาทาเร้นชาวบ้านสร้างความเดือดร้อนไปทั่ว และ "นิรุตติ์ ศิริจรรยา" ในบท พระยาราชสงคราม เป็นนักรบ นักวางแผน ทหารคนสนิทพระเพทราชา ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโค่นล้มพระนารายณ์ เป็นผู้มีอำนาจในการเก็บภาษีราษฎร แต่กลับอ้างพระนามพระเจ้าเสือออกรีดนาทาเร้น ทั้งคู่ต่างเป็นตัวแปรสำคัญที่เกี่ยวพันกับชะตากรรม ที่จะส่งผลต่อชีวิตพระเจ้าเสือ และพันท้ายนรสิงห์ ซึ่งรับบทโดย ผู้พันเบิร์ด พันโทวันชนะ สวัสดี และเต้ย พงศกร เมตตาริกานนท์

          แฟนๆ ของภาพยนตร์เรื่อง "พันท้ายนรสิงห์" ยังจะได้พบกับเหล่าทัพนักแสดงระดับสุดยอดของเมืองไทยมาประชันฝีมือกันเต็มจอ ตั้งแต่นักแสดงรุ่นใหญ่อย่าง สมภพ เบญจาธิกุล, สุเชาว์ พงษ์วิไล, รณ ฤทธิชัย, พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์, ธัญญา วชิรบรรจง, ไพโรจน์ ใจสิงห์, วิชุดา มงคลเขตต์,ไกรลาศ เกรียงไกร, พิมลรัตน์ พิศลยบุตร, ชลัฏ ณ สงขลา, ปราปต์ปฏล สุวรรณบาง, สุรชัย จันทิมาธร, จิระวดี อิศรางกูร ณ อยุธยา, เขาทราย แกแล็คซี่, เสนาลิง, ไชยา มิตรชัย, อภิชาติ อรรถจินดา, จิระวดี อิศรางกูร ณ อยุธยา, สมเดช แก้วลือ, หม่อมเหยิน, อาร์ท อัสนี สุวรรณ ฯลฯ รวมไปถึงเหล่านักแสดงรุ่นใหม่อีกมากมาย อาทิ มรกต หทัยวสีวงศ์, ฝนพา สาทิสสะรัต, ราชวัติ ขลิบเงิน, วิศว ทัพพะรังสี, ร.อ.ณยศ เสาว์ทองหยุ่น, วัชรพล พลายด้วง, ปฐมรัตน์ ศิริทรัพย์, กมลลักษณ์ วังแก้ว, ทินธนัท เวลส์ช, อนุชา ณ สงขลา, ยงยศ โกมลเพ็ชร, สมชาติ ประชาไทย, ณรงศักดิ์ ปักษี, ต่อลาภ กำพุศิริ, รุ่งทิวา คงสนุ่น ฯลฯ ที่มาร่วมสร้างความเข้มข้นยิ่งใหญ่อลังการให้กับ "พันท้ายนรสิงห์" 30 ธ.ค.นี้ ส่งท้ายปีก่อนต้อนรับปีใหม่ทุกโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ
« Last Edit: December 30, 2015, 02:34:24 PM by FB »