ครั้งแรกที่เมืองไทย โนวัค ยอโควิช VS ราฟาเอล นาดาล ดวลแร็กเกตนัดประวัติศาสตร์

ครั้งแรกที่เมืองไทย โนวัค ยอโควิช VS ราฟาเอล นาดาล ดวลแร็กเกตนัดประวัติศาสตร์ "สร้างความเชื่อมั่นประเทศไทย"  เตรียมเสิร์ฟความมันให้ชมอย่างจุใจ 2 ต.ค.นี้ ที่อินดอร์ฯ





















ปีนี้วงการกีฬาเมืองไทยถือว่าคึกคักทีเดียวเพราะนอกจากมีนักกีฬาของไทยผลัดกันออกไปสร้างชื่อเสียงในเวทีโลกกันอย่างคับคั่งแล้ว ก็ยังมีนักกีฬาระดับโลกหลายรายบินข้ามน้ำข้ามทะเลมามอบความสุขให้กับคอกีฬาเมืองไทย อย่างเช่น ลิเวอร์พูล ที่เพิ่งเดินทางมาเตะอุ่นเครื่องพรีซีซั่นเมื่อเดือนกรกฎาคม ก่อนมาถึงอีกหนึ่งรายการใหญ่สำคัญที่จะทำให้แฟนเทนนิสเมืองไทยต้องร้องว้าว! เมื่อ 2 สุดยอดนักเทนนิสระดับโลกมาโชว์ฟอร์มให้ได้ชมกันถึงบ้าน

โดย เครือเจริญโภคภัณฑ์ และ ทรู คอร์ปอเรชั่น ผนึกกำลังร่วมมือกับ ลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เตรียมจัดศึกเทนนิสคู่หยุดโลกระหว่างสองนักเทนนิสดีกรีมือ 1 โลกอย่าง ราฟาเอล นาดาล เจ้าพ่อแชมป์ แกรนด์ สแลม 14 สมัย พบกับ โนวัค ยอโควิช นักหวดหมายเลข 1 ของโลกคนปัจจุบันจาก เซอร์เบีย ดวลแร็กเกตกันในรายการที่ใช้ชื่อว่า “แบ็ค ทู ไทยแลนด์ ราฟาเอล นาดาล พบ โนวัค โจโควิช พรีเซนท์เต็ด บาย  เครือเจริญโภคภัณฑ์ และทรู คอร์เปอเรชั่น” โดยนับเป็นครั้งแรกเลยที่คนไทยจะได้ชมการฟาดฟันแร็กเกตระดับโลกที่เมืองไทยแบบสดๆ ถึงขอบสนาม

ศึกเทนนิสรายการพิเศษนี้ ถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จจากทัวร์นาเมนต์ ทรู ซูเปอร์ โทรฟี ลิเวอร์พูล เอเชีย ทัวร์ 2015 ระหว่าง ลิเวอร์พูล ยอดทีมจาก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ พบกับทีมรวมดาราไทยลีก ทรู ออลสตาร์ ที่ได้รับเสียงตอบรับจากแฟน “หงส์แดง” เมืองไทยตีตั๋วเข้ามาชมและเชียร์ทีมรักกันแบบแน่นสนามราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันที่ 14 กรกฏาคม ที่ผ่านมา ก่อนที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ และ ทรู คอร์ปอเรชั่น จะร่วมกันมอบความมันระดับโลกแบบต่อเนื่องกับทัวร์นาเมนต์เทนนิสพิเศษเช่นนี้รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศไทย

โดยงานนี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และ ทรู คอร์ปอเรชั่น ทุ่มทุนสร้างถึง 150 ล้านบาท ดึงสองนักเทนนิสซูเปอร์สตาร์ระดับโลกที่มีดีกรีความสำเร็จมากมายชนิดล้นตู้โชว์ มาให้แฟนๆ ชาวไทยได้สัมผัสลีลาของพวกเขากันแบบเต็มๆ โดยไม่ใช่รูปแบบการถ่ายทอดสดจากต่างประเทศเหมือนในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งทั้ง นาดาล และ ยอโควิช ก่อนหน้านี้ก็เคยเดินทางมาลงแข่งรายการ เอทีพี ทัวร์ ไทยแลนด์ โอเพ่น ที่เมืองไทยมาแล้วทั้งคู่ เพียงแต่มากันคนละปีและไม่ได้เจอกันในรายการนี้แม้แต่แมตช์เดียว

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี นายกลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์คณะกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขันเทนนิสนัดพิเศษ  กล่าวว่า ศึกเทนนิสครั้งนี้ระหว่าง ยอโควิช และ นาดาล เกิดขึ้นภายใต้แนวคิด Back To Thailand หรือการกลับมาประเทศไทยอีกครั้ง ของ 2 นักเทนนิสระดับโลก เพราะอย่างที่บอกว่าทั้งคู่เคยมาเล่นที่เมืองไทยแล้วแต่ไม่ได้เจอกันเองสักครั้ง ขณะเดียวกันยังเป็นโอกาสที่จะได้แสดงให้เห็นว่าเมืองไทยนั้นมีความพร้อมที่จะจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลก และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นของนานาชาติที่มีต่อประเทศไทยของเรา อันจะส่งผลดีต่อประเทศในอีกหลายๆ ด้าน ทั้งภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ และการลงทุนอีกด้วย เพราะอย่างที่รู้กันว่าก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ความสูญเสียครั้งรุนแรงที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ แต่ทั้งคู่ยังตัดสินใจตอบรับมาเล่นที่ไทยอย่างไม่มีปัญหา 

นายศุภชัย เจียรวนนท์ รองประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์/กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บมจ. ทรูคอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า การนำกีฬาระดับ World Class มาเสิร์ฟให้ดูถึงบ้าน แถมยังเป็นครั้งแรกที่สองซูเปอร์สตาร์อย่าง ยอโควิช และ นาดาล จะโคจรมาดวลแร็กเกตนัดประวัติศาสตร์กันที่ไทย โดยมั่นใจว่าแฟนเทนนิสทั่วประเทศจะให้การตอบรับเป็นอย่างดีเพราะถือเป็นแมตช์หยุดโลกที่แฟนลูกสักหลาดควรชมสดๆ สักครั้งในชีวิต

นอกจากนี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และ ทรู คอร์ปอเรชั่น  ยังได้จัดโครงการพิเศษ “ซีพีสานฝัน ปันโอกาส” (Just believe in your dreams) เปิดโอกาสให้เยาวชนไทยจากโรงเรียนกีฬาในต่างจังหวัด พร้อมด้วยนักกีฬาเทนนิสผู้พิการทีมชาติไทย ได้สัมผัสบรรยากาศการชมและเชียร์แบบสดๆ ถึงขอบสนามในวันแข่งขันจริง และเข้าร่วมกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจทางด้านกีฬา และสร้างประสบการณ์ที่มีคุณค่าให้แก่เยาวชนไทยในอนาคตอีกด้วย

สำหรับศึกเทนนิสรายการพิเศษ “แบ็ค ทู ไทยแลนด์ ราฟาเอล นาดาล พบ โนวัค โจโควิช พรีเซนท์เต็ด บาย  เครือเจริญโภคภัณฑ์ และทรู คอร์เปอเรชั่น” จะเปิดศึกกันในวันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม นี้ ณ อินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก เวลา 19.00น. เปิดจำหน่ายบัตรแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ทุกสาขา บัตรราคา 5,000/4,000/3,000/2,000/1,000 บาท

นอกจากนี้ยังจะมีการถ่ายทอดสดให้ได้ชมกันทางช่อง True4You ดิจิตอลทีวี (ทรูวิชั่นส์ช่อง 4 กล่องดิจิทัล ช่อง 34 ดาวเทียม และ เคเบิ้ลช่อง 34) และแบบ HD ผ่านช่องทรู เทนนิส เอชดี (ทรูวิชั่นส์ช่อง 670) หรือแอพพลิเคชั่น “ทรูวิชั่นส์ เอนิแวร์”

ทั้งนี้ วงการเทนนิสบ้านเราซบเซาไปนานพอดูทีเดียวนับตั้งแต่วันที่ ภราดร ศรีชาพันธุ์ นักเทนนิสอันดับ 1 ของเมืองไทยประกาศแขวนแร็กเกตตั้งแต่ปี 2010 และล่าสุดก็เป็นคิวของ ดนัย อุดมโชค นักหวดหนุ่มรุ่นน้องที่ขออำลาวงการลูกสักหลาดไปอีกราย จนทำให้วงการเทนนิสปัจจุบันไร้ซึ่งเสาหลักที่จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็กรุ่นใหม่ ทว่าการมาถึงของรายการสำคัญระดับโลกที่จะเกิดขึ้นในเดือนตุลาคมนี้ อาจเป็นการจุดประกายให้วงการเทนนิสเมืองไทยกลับมาบูมอีกครั้งและอาจสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักหวดลูกสักหลาดดาวรุ่งทั้งหลาย ได้พัฒนาฝีมือตนเองขึ้นมาเพื่อก้าวสู่ระดับโลกในอนาคตก็เป็นได้ !