MSN on September 08, 2015, 03:56:13 PM
KTAM ขาย 3 กองทุนตราสารหนี้ชู 6 เดือน 1.95% ต่อปี
 
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สัปดาห์นี้บริษัทเปิดจำหน่าย 3 กองทุนตราสารหนี้ ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งมีช่วงอายุของกองทุนที่แตกต่างกัน เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกลงทุนตามความเหมาะสมซึ่ง โดยจะเสนอขายในวันที่ 9-15 กันยายน 2558 ประกอบด้วย กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ เอ็นแฮนซ์ 31( KTFFE31 ) อายุ 6 เดือน โดยกองทุนจะเน้นลงทุนใน MTN ที่ออกโดย Banco Santander  (Brasil ) , ออกโดย Banco Latinoamericano de   Comercio Ex terior , S.A , ออกโดย Industral and Commercial Bank of CHINA( Asia ) Ltd , เงินฝากประจำ Bank of China ( Macau ) , Turkiye Garanti Bankasi A.S  และ Yapi  Kradi Bankasi ผลตอบแทนประมาณ 1.95% ต่อปี
 
ส่วนกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ เอ็นแฮนซ์ 41 ( KTFFE41 ) เสนอขาย9 -15 กันยายน 2558 อายุ 3 เดือน เน้นลงทุนใน MTN ที่ออกโด  Banco Santander ( Brasil ) SA ,  ออกโดยBanco Latinoamercano de Comercio Exterior , S.A เงินฝากประจำ Bank of China( Macau )  , TUrkiye Garanti Bankasi A.S. และ Yapi Kradi Bankasi ในสัดส่วน 84 % ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ ประเภทตั๋วแลกเงินของบมจ.บัตรกรุงไทย ผลตอบแทนประมาณ 1.75% ต่อปี

นอกจากนี้บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายรอบใหม่ ( Roll Over ) ของกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ทอินเวส 3เดือน3 ( KTSIV3M3) เสนอขายถึงวันที่ 11 กันยายน 2558 อายุ 3 เดือน   เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชน ประมาณ 78% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝาก ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)  ผลตอบแทนประมาณ 1.50% ต่อปี
 
ส่วนผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศมีการปรับตัวขึ้นลงในช่วงแคบๆ โดยความต้องการลงทุนในตราสารหนี้ปรับตัวลดลงจากความกังวลต่อการย้ายเงินออกนอกประเทศของต่างชาติถึงแม้ปัจจัยด้านเงินเฟ้อและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ยังไม่เอื้อต่อการปรับขึ้นอัตราผลตอบแทนก็ตาม   

ทางด้านอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาปรับตัวลดลงทุกช่วงอายุตามแรงซื้อจากความต้องการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังตัวเลขเศรษฐกิจภาคการผลิตของจีนออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ ทำให้ตลาดกลับมากังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ประกอบกับการที่ธนาคารกลางยุโรป ( ECB) มีแนวโน้มที่จะทำมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เพิ่มถ้าจำเป็นและตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนสิงหาคมของสหรัฐอเมริกาที่ออกมาต่ำกว่าคาด ทำให้ US Treasury เป็นที่สนใจของนักลงทุน โดยอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวลดลง -1 bps. มาอยู่ที่ 0.71% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวลดลง -5 bps. มาอยู่ที่ 1.47% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวลดลง -6 bps.มาอยู่ที่ 2.13% ต่อปี สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้จะเป็นทิศทางเศรษฐกิจโลก และความไม่แน่นอนของช่วงเวลาที่ FED จะเริ่มปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งอาจส่งผลต่อความผันผวนของตลาดและต่อทิศทางการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้