MSN on August 17, 2015, 07:27:31 PM
วช. จัดงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2558 (Thailand Research Expo 2015)”








 
สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ร่วมกับหน่วยงานเครือข่ายในระบบวิจัยทั่วประเทศ จัดงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2558 (Thailand Research Expo 2015)” ระหว่างวันที่ 16 – 20 สิงหาคม 2558 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ

ศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ เลขาธิการ วช. กล่าวว่า มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ (Thailand Research Expo) เป็นกิจกรรมสำคัญที่สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ หรือ วช. จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยเริ่มจัดครั้งแรกเมื่อปี 2549 และจัดต่อเนื่องกันเป็นประจำทุกปี ซึ่งปีนี้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 10 แล้ว ภายใต้ความร่วมมือของหน่วยงานเครือข่ายในระบบวิจัยทั่วประเทศ ในการนำเสนอผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่มีคุณภาพ มีศักยภาพ พร้อมที่จะนำไปใช้ประโยชน์สู่กลุ่มเป้าหมายในมิติต่างๆ ทั้งมิติเชิงนโยบาย เชิงวิชาการ เชิงสังคม/ชุมชน เชิงพาณิชย์หรืออุตสาหกรรม ในการจัดงานที่ผ่านมา ได้แสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการของการวิจัยอย่างแท้จริงที่เริ่มต้นจากการวิจัยเพื่อหาความรู้ สู่การเรียนรู้ และการนำไปใช้ประโยชน์ ที่เรียกว่า “การนำผลงานวิจัยจากหิ้งสู่ห้าง”

สำหรับ 1 ทศวรรษของการจัดงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2558 หรือ Thailand Research Expo 2015” ซึ่งเวียนมาบรรจบครบรอบ (10 ปี) ในปี 2558 นี้ วัตถุประสงค์หลักของการจัดงาน คือ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา 2 เมษายน 2558 และให้ความสำคัญกับการสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านการวิจัยระหว่างหน่วยงานเครือข่ายในระบบวิจัยทั่วประเทศ ในการนำผลงานวิจัยที่มีศักยภาพ ซึ่งเป็นผลผลิตจากการวิจัยมาสู่การใช้ประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อนำไปสู่ “สังคมแห่งการเรียนรู้” ภายใต้แนวคิด “วิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจ และสังคมอย่างยั่งยืน (Research for Quality of Life, Sustainable Economy and Society)” โดยมีนกเจ้าฟ้าเป็น Mascot ของงาน กิจกรรมภายในงานแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ การแสดงนิทรรศการ ประกอบด้วย นิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภายใต้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถ โครงการฟาร์มตัวอย่างแบบผสมผสาน จังหวัดเพชรบุรี นิทรรศการสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โครงการตามแนวพระราชดำริในด้านต่าง ๆ นิทรรศการของพระบรมวงศานุวงศ์ นิทรรศการผลงานวิจัยและกิจกรรมการวิจัยจากหน่วยงานเครือข่ายในระบบวิจัยทั่วประเทศ รวมแล้วมากกว่า 130 หน่วยงาน นำเสนอผลงานมากกว่า 400 ผลงาน ใน 9 ประเด็นกลุ่มเรื่องวิจัย ได้แก่ งานวิจัยเพื่อการพัฒนาเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป งานวิจัยเพื่อพลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม งานวิจัยเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมสำหรับภาคอุตสาหกรรม งานวิจัยเพื่อสร้างธุรกิจ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม งานวิจัยเพื่อสุขภาพ การแพทย์ สังคมผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาส งานวิจัยเพื่อการอนุรักษ์วัฒนธรรม ศิลปกรรม การศึกษา และการพัฒนาชุมชน งานวิจัยเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม งานวิจัยเพื่อความมั่นคงของรัฐและการเสริมสร้างธรรมาภิบาล และงานวิจัยเพื่อรองรับการสร้างความเข้มแข็งของประชาคมอาเซียน

นอกจากนี้ ในระหว่างการจัดงานยังมีการประชุมในหลากหลายประเด็นที่น่าสนใจ ได้แก่ การประชุมขนาดใหญ่ที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการงานวิจัยของประเทศ จำนวน 10 หัวข้อเรื่อง การประชุม/ขนาดกลางในประเด็นปัญหาสำคัญของประเทศที่ควรเร่งแก้ไข จำนวน 32 หัวข้อเรื่อง การประชุมกลุ่มเฉพาะเรื่องในประเด็นเฉพาะที่น่าสนใจ จำนวน 68 หัวข้อเรื่อง การนำเสนอผลงานวิจัย/Thailand Research Symposium Thailand Research Symposium และการถ่ายทอดเทคนิคและกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการวิจัย (Twilight Program) จำนวน 19 หัวข้อเรื่อง รวมทั้งมีเวทีกลาง (Highlight Stage) เพื่อสาธิตผลงานวิจัยและนวัตกรรมเด่นที่น่าสนใจ ซึ่งบางผลงานสามารถนำไปสร้างเป็นอาชีพเสริมได้ มีการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สรอ.) และสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) การประกวดผลงานนวัตกรรมสายอุดมศึกษา การมอบรางวัล Thailand Research Expo 2015 Award ให้แก่หน่วยงานที่จัดแสดงนิทรรศการผลงานในแต่ละกลุ่มเรื่อง มีมุมเจรจาธุรกิจการต่อยอดงานวิจัยเพื่อเป็นเถ้าแก่น้อยของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ การแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้าที่เป็นผลผลิตจากงานวิจัยและภูมิปัญญาท้องถิ่นตลอดระยะเวลาการจัดงาน

และเพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการด้านการวิจัยระหว่างประเทศไทยและประเทศอินเดีย วช. จึงร่วมกับสภาวิจัยสังคมศาสตร์แห่งประเทศอินเดีย (ICSSR) จัดให้มี “การสัมมนาร่วมทางวิชาการระหว่างไทย-อินเดีย (The 9th NRCT – ICSSR Joint Seminar on Social Science Challenges for Thailand and India) ภายใต้หัวข้อหลัก “ความท้าทายทางด้านสังคมศาสตร์สำหรับประเทศไทยและอินเดีย (Social Science Challenges for Thailand and India)” ในระหว่างวันที่ 19 – 20 สิงหาคม 2558 โดยหวังว่าความรู้จากการสัมมนาจะนำไปสู่การวางแผนการกำหนดทิศทางนโยบายเพื่อการพัฒนาประเทศร่วมกัน

ทั้งนี้ พิธีเปิดงาน มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2558 จะมีขึ้นในวันที่ 16 สิงหาคม 2558 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมเวิลด์ บอลรูม (ชั้น 23) โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ โดย ศาสตราจารย์ ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานภาคการประชุมและปาฐกถาพิเศษ เรื่อง นโยบายด้านการวิจัยท้าทายไทย (Grand Challenges Thailand) และมอบรางวัล 2015 TWAS Prize for Young Scientists  in Thailand และรางวัล National Ethics Committee Accreditation System in Thailand (NECAST) และในส่วนพิธีเปิดงานภาคนิทรรศการ วช. ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดงานภาคนิทรรศการและเปิดการสัมมนาทางวิชาการระหว่างไทย – อินเดีย ครั้งที่ 9 ในวันที่ 19 สิงหาคม 2558 เวลา 09.00 น.

งาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2558 (Thailand Research Expo 2015)” มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 - 20 สิงหาคม 2558 ตั้งแต่เวลา 08.00 - 18.00 น. ณ ชั้น 22 และ 23 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและรายละเอียดหัวข้อการประชุมได้ที่ www.researchexpo.nrct.go.th หรือ www.nrct.go.th ชมฟรีตลอดงาน
« Last Edit: August 17, 2015, 11:05:31 PM by MSN »

MSN on August 17, 2015, 11:01:00 PM
วช. จัดประกวดผลงานวัตกรรมสายอุดมศึกษา ประจำปี 2558 ในงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2558 (Thailand Research Expo 2015)” ระหว่างวันที่ 16 – 18 สิงหาคม 2558 ณ พื้นที่โถงบริเวณหน้าห้อง World Ballroom (ชั้น 23)
โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์

ศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในปี 2558 สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) จัดกิจกรรมเพื่อสร้างแรงจูงใจ และกระตุ้นให้นิสิต นักศึกษา ในระดับอุดมศึกษาได้แสดงแนวคิดและแสดงความรู้ความสามารถด้านการประดิษฐ์คิดค้นที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาสังคมตามความจำเป็นได้จริง รวมทั้งได้นำเสนอผลงานประดิษฐ์คิดค้นต่อเวทีสาธารณะ และได้กำหนดจัดกิจกรรมภายใต้โครงการส่งเสริมการวิจัยสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมสายอุดมศึกษา “การประกวดสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมสายอุดมศึกษา” ขึ้น ในระหว่าง วันที่ 16 – 18 สิงหาคม 2558 ในงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2558 (Thailand Research Expo 2015)” ณ พื้นที่โถงบริเวณหน้าห้อง World Ballroom (ชั้น 23) โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเสริมสร้างทักษะและเทคนิคการประดิษฐ์คิดค้นอย่างเป็นระบบ เพื่อกระตุ้นและสร้างแรงจูงใจให้นิสิต นักศึกษาได้เข้าใจและเห็นประโยชน์ของการวิจัยและการประดิษฐ์คิดค้นเพื่อสร้างสรรค์ผลงานในเชิงนวัตกรรมที่สามารถพัฒนาต่อยอดสู่การใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์  และการสร้างมูลค่าเพิ่ม พร้อมกับการก้าวสู่การแข่งขันในเวทีระดับชาติและนานาชาติ เพื่อส่งเสริมและสร้างให้เกิดเครือข่ายด้านการวิจัยและการประดิษฐ์คิดค้นระหว่างนิสิต นักศึกษาในระดับอุดมศึกษา มีผลงานนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์จากนิสิต นักศึกษา จากสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศเข้าร่วมประกวด จำนวน 71 ผลงาน ใน 4 กลุ่มเรื่อง ได้แก่ กลุ่มนวัตกรรมและสิ่งแวดล้อมด้านวิศวกรรมศาสตร์ กลุ่มนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ด้านวิทยาศาสตร์ กลุ่มนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ด้านเกษตรศาสตร์ และกลุ่มนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ด้านศิลปะและการออกแบบ

ทั้งนี้ จะมีพิธีมอบรางวัลนวัตกรรมสายอุดมศึกษา ประจำปี 2558 ในวันที่ 18 สิงหาคม 2558 เวลา 13.00 น. ณ เวที Highlight Stage ห้องบางกอกคอนเวนชัน ชั้น 22
« Last Edit: August 17, 2015, 11:05:39 PM by MSN »

MSN on August 17, 2015, 11:02:34 PM
วช. ลงนาม MOU พัฒนาระบบสารสนเทศการวิจัย ร่วมกับ สนง.รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ร่วมกับ สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สรอ.) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการพัฒนาระบบสารสนเทศการวิจัยสู่ระบบบริการภาครัฐที่ใช้งานร่วมกัน (Common Service) ในงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2558 (Thailand Research Expo 2015)” วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม 25588 เวลา 10.30 น. ณ เวที Highlight Stage ห้องบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ (ชั้น 22) โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ

ศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ เลขาธิการ วช. เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) มีภารกิจตามกฎหมายในการทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงข้อมูลสารสนเทศด้านการวิจัยของประเทศ รวมทั้งจัดระบบเชื่อมโยงและสร้างเครือข่ายแลกเปลี่ยนข้อมูลสารสนเทศด้านการวิจัย ภารกิจดังกล่าวมีความเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น เมื่อ วช. ได้รับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรีให้ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานเจ้าภาพในการปฏิรูประบบวิจัยเพื่อให้สามารถตอบสนองต่อวิสัยทัศน์การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ โดยร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการวิจัย ใช้ชื่อในภาพรวมว่าเครือข่ายองค์กรบริหารงานวิจัยแห่งชาติ (คอบช.) โดยขอบเขตการปฏิรูประบบวิจัยที่มีทั้งหมด 9 มิติ นั้น เรื่องของระบบสารสนเทศการวิจัยถูกจัดไว้ในมิติโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อปฏิรูปให้มีฐานข้อมูล การบริหารจัดการ เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลเกี่ยวกับการวิจัยให้ได้ประโยชน์สูงสุด และให้ได้มาซึ่งข้อมูลอย่างเหมาะสม

การปฏิรูปด้านข้อมูลการวิจัยดำเนินการโดยสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศที่ผลักดันโดย สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สรอ.) โดยเฉพาะในแนวทางของการพัฒนาจากยุครัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ไปสู่รัฐบาลดิจิทัลเพื่อสนับสนุนนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ เป็นยุคแห่งการปฏิรูประบบสารสนเทศการวิจัยสู่ Open Data ในฐานะข้อมูลของภาครัฐที่สามารถนำมาใช้ได้โดยอิสระ สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้และแจกจ่ายได้โดยใครก็ตาม แต่ต้องระบุแหล่งที่มาหรือเจ้าของงานและต้องใช้สัญญาหรือเงื่อนไขเดียวกันกับที่มาหรือตามเจ้าของงานกำหนด

ด้วยแนวทางดังกล่าว ระบบสารสนเทศการวิจัยของประเทศซึ่งประกอบด้วยฐานข้อมูลจำนวนมากจึงได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างมีมาตรฐานทำให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลผลงานวิจัยระหว่างฐานข้อมูลของหน่วยงานต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ระบบดังกล่าวนี้ นำไปสู่ความต้องการโครงสร้างพื้นฐาน ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่เพียงพอและมีความมั่นคงปลอดภัยสูง การนำระบบสารสนเทศการวิจัยที่มีปริมาณข้อมูลขนาดใหญ่เข้าไว้ในระบบคลาวด์ภาครัฐ (G-Cloud) ซึ่งให้บริการโดยสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สรอ.) จึงเป็นการปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่สำคัญของระบบสารสนเทศการวิจัยในการก้าวเข้าสู่ยุครัฐบาลดิจิทัล

หน่วยงานที่รับผิดชอบ
   สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
   สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์  (องค์การมหาชน) (สรอ.)

R&D Digital Gateway 
จากฐานข้อมูลต่างๆ ระบบสารสนเทศการวิจัย ทำให้เกิดการรวมระบบที่เรียกว่า Research and Development Digital Gateway (R&D Digital Gateway) เป็นการพัฒนาระบบที่เป็นเว็บพอร์ทอล (Web Portal System) สำหรับข้อมูลด้านการวิจัยทั้งหมดที่ถูกจัดเก็บอยู่ในระบบต่างๆ ในศูนย์สารสนเทศการวิจัย สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.)

รูปแบบการทำงานของระบบ R&D Digital Gateway 
เพื่อให้ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลงานวิจัยทั้งหมดได้จากจุดเดียว (One Search) เช่น เมื่อค้นหาคำว่า   “ข้าว” ระบบจะทำการค้นหาจากทุกระบบพร้อมแสดงผลลัพธ์ที่ได้ ซึ่งเป็นระบบค้นหาแบบ One Search ส่งผลให้ทุกข้อมูลที่มีอยู่ในระบบสามารถแสดงได้ในจุดเดียวกัน

   นอกจากนี้ ระบบจะนำผลลัพธ์จากการค้นหาที่ได้ทั้งหมดมาทำการวิเคราะห์และแสดงผลการค้นหาในรูปแบบของ Dashboard เพื่อให้เห็นถึงการเปรียบเทียบเชิงปริมาณ ในมิติต่างๆ ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้ประโยชน์จากผลลัพธ์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ประโยชน์
1.   สร้างโอกาสให้นักวิจัยได้มีทางเลือกที่หลากหลายในการใช้บริการและการเข้าถึงข้อมูลด้านการวิจัยและพัฒนา
2.    นักวิจัยจะได้รับการบริการจากภาครัฐที่ดียิ่งขึ้น เช่น มีความสะดวก รวดเร็ว และได้รับเอกสารที่ถูกต้องแม่นยำมากขึ้น
3.   ลดช่องว่างและความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงข้อมูลและการบริการด้านการวิจัยและพัฒนาของรัฐของ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม ทั้งกลุ่มนักวิจัย ผู้บริหารจัดการการวิจัย ประชาชนทั่วไป องค์กรของทั้งภาครัฐและเอกชน
4.   ลดความยุ่งยากของกฎเกณฑ์ และเพิ่มความโปร่งใสในการให้บริการและการบริหารจัดการด้านการวิจัยและพัฒนา ทั้งการรับรู้ข่าวสาร การขอรับทุน การพิจารณาโครงการวิจัย การติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการ รวมทั้งการเปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นต่อระบบบริหารจัดการ
5. เพิ่มความเชื่อมั่นของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการด้านการวิจัยและพัฒนาในการรับบริการอย่างปลอดภัยและเป็นส่วนตัว
« Last Edit: August 17, 2015, 11:05:50 PM by MSN »

MSN on August 17, 2015, 11:03:26 PM
วช. ลงนาม MOU ร่วมกับ สำนักงาน กปร. “นำองค์ความรู้จากการวิจัยสู่การใช้ประโยชน์”

สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อขยายผลการเผยแพร่และถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีจากผลงานวิจัยและนวัตกรรมสู่การใช้ประโยชน์ให้แก่เจ้าหน้าที่และเกษตรกรในพื้นที่ความรับผิดชอบของศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2558 (Thailand Research Expo 2015)” วันพุธที่ 19  สิงหาคม 2558 เวลา 14.00 น. ณ เวที Highlight Stage ห้องบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ (ชั้น 22) โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ

ศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ เลขาธิการ วช. เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) เผยแพร่และถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีด้านต่างๆ ให้แก่เจ้าหน้าที่และเกษตรกรในพื้นที่ความรับผิดชอบของศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ภายใต้ความดูแลของสำนักงาน กปร. จำนวน 6 ศูนย์ ได้แก่ ศูนย์ศึกษาฯ อ่าวคุ้งกระเบนฯ จ.จันทบุรี ศูนย์ศึกษาฯ
ภูพานฯ จ.สกลนคร ศูนย์ศึกษาฯ ห้วยทรายฯ จ.เพชรบุรี ศูนย์ศึกษาฯ ห้วยฮ่องไคร้ฯ จ.เชียงใหม่ ศูนย์ศึกษาฯ เขาหินซ้อนฯ จ.ฉะเชิงเทรา และศูนย์ศึกษาฯ พิกุลทองฯ จ.นราธิวาส รวมทั้ง โครงการฯ ปากพนังฯ จ.นครศรีธรรมราช ศูนย์ศึกษาฯ เขาชะงุ้มฯ จ.ราชบุรี และศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงฯ จ.ระยอง และเกษตรกรที่สนใจในพื้นที่ใกล้เคียง มาตั้งแต่ปี 2551 เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ภายในศูนย์ศึกษาฯ รวมถึงเกษตรกรได้มีความรู้ และสามารถนำความรู้ไปพัฒนาและสร้างอาชีพให้แก่ครอบครัวและชุมชน ให้เป็นชุมชนที่เข้มแข็งและมีความยั่งยืน โดย วช. จะรวบรวมองค์ความรู้ เทคโนโลยีที่ได้รับทุนสนับสนุนจาก วช. เสนอให้สำนักงาน กปร. ใช้เป็นข้อมูลในการสอบถามความต้องการไปยังเจ้าหน้าที่และเกษตรกร ก่อนดำเนินการถ่ายทอด เพื่อให้องค์ความรู้และเทคโนโลยีที่ วช. มีอยู่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้ และเพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายของ วช. ในการส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการนำองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่ได้จากงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ได้มากยิ่งขึ้น

ในปีงบประมาณ 2558 วช. ได้พิจารณาเห็นว่าการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยี จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อเจ้าหน้าที่และเกษตรกรในพื้นที่ความรับผิดชอบของศูนย์ศึกษาฯ จึงเห็นควรดำเนินการขยายผลการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีให้แก่ศูนย์ศึกษาฯ ต่าง ๆ ตามความต้องการต่อไป
« Last Edit: August 17, 2015, 11:06:09 PM by MSN »

MSN on August 17, 2015, 11:06:45 PM
วช. ประกาศรางวัล TWAS Prize for Young Scientists in Thailand ประจำปี 2558



สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้มีพิธีมอบรางวัล TWAS Prize for Young Scientists in Thailand ประจำปี 2558 ในพิธีเปิดงานภาคการประชุมในงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2558 (Thailand Research Expo 2015)” เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม 2558 ณ ห้องประชุมเวิลด์ บอลรูม ชั้น 23 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งในปีนี้เป็นการมอบรางวัลในสาขาเคมี โดยผู้ที่ได้รับรางวัลคือ ดร.วรายุทธ  สะโจมแสง และ วช. ได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์ ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล

ดร.วรายุทธ  สะโจมแสง ผู้ได้รับรางวัล TWAS Prize for Young Scientists in Thailand ประจำปี 2558 เป็นนักวิจัยอาวุโส จากศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ซึ่งมีผลงานวิจัยอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก เป็นการสร้างองค์ความรู้ใหม่ทางด้านเคมี ซึ่งมีการจดสิทธิบัตรถึง 7 เรื่อง และมีการพัฒนางานวิจัยที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคม มีการทำวิจัยอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ.2551-2558 ผลงานได้รับการตีพิมพ์ในวารสารนานาชาติที่มี Impact factor สูงเป็นจำนวนมาก ผลงานวิจัยที่โดดเด่นคือ ผลงานวิจัยเรื่อง “อนุภาคนาโนไคโตซานวัสดุนำส่งมหัศจรรย์” ซึ่งได้มีการพัฒนากระบวนการสังเคราะห์และการเตรียมไคโตซานและอนุพันธ์ไคโตซานชนิดใหม่ให้อยู่ในรูปของอนุภาคขนาดนาโนเมตรด้วยเทคนิคต่างๆ เพื่อนำไปใช้เป็นวัสดุทางด้านการแพทย์และเภสัชสำหรับห่อหุ้มและนำส่งสารต่างๆ เช่น ยา โปรตีน แอนติเจน แอนติบอดี เป็นต้น เพื่อควบคุมการปลดปล่อยและเพิ่มประสิทธิภาพทั้งทางกายภาพและชีวภาพของสารเหล่านี้ต่อการบำบัดรักษาและป้องกันโรคต่างๆ

ทั้งนี้ โครงการรางวัลนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ในประเทศไทย (TWAS Prize for Young Scientists in Thailand) นั้น เป็นโครงการที่ วช. ร่วมกับ สภาวิทยาศาสตร์สำหรับประเทศกำลังพัฒนา (The Academy of Sciences for the Developing World - TWAS) จัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและประกาศเกียรติคุณนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ของประเทศไทย (อายุไม่เกิน 40 ปี) ที่มีผลงานวิชาการดีเด่น เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติในสาขาวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน คือ สาขาชีววิทยา สาขาเคมี สาขาคณิตศาสตร์ และสาขาฟิสิกส์ โดยมีการมอบรางวัล TWAS ปีละ 1 รางวัล ในการนี้ มีผู้ได้รับรางวัลจนถึงปัจจุบันทั้งสิ้น จำนวน 18 ราย นักวิทยาศาสตร์ที่สนใจส่งผลงานและประวัติเพื่อขอรับการพิจารณาเสนอชื่อเข้ารับรางวัล สามารถติดตามข่าวการประกาศรับสมัครได้ผ่านทาง http://www.nrct.go.th ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี โดยในปี พ.ศ. 2559 จะเป็นการมอบรางวัลในสาขาคณิตศาสตร์

MSN on August 25, 2015, 08:24:04 PM
ภาพข่าว: มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ พ.ศ.2558 (Thailand Research Expo 2015)



          สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดงานภาคนิทรรศการในงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ พ.ศ.2558 และการสัมมนาร่วมทางวิชาการระหว่างไทย – อินเดีย ครั้งที่ 9’’ ณ ห้องประชุมเวิลด์บอลรูม ชั้น23 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ ในการนี้ สุพัตรา จิราธิวัฒน์ รองประธานอาวุโส ฝ่ายองค์กรสัมพันธ์และภาพลักษณ์ โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา เฝ้ารับเสด็จ เมื่อเร็วๆนี้