พฤกษา เรียลเอสเตท รักษาสถิติเติบโตต่อเนื่อง ครึ่งปีแรก โตสวนกระแสเศรษฐกิจ ทั้งยอดขาย รายได้ และกำไร
นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) (คนกลาง), นายเลอศักดิ์ จุลเทศ รองประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวยการ (คนขวา), และ นายชาลี มาดาน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มการเงิน และบัญชี (คนซ้าย) ทั้งสาม ร่วมให้ข้อมูลในงานแถลงข่าวครั้งนี้
14 สิงหาคม 2558 – พฤกษา เรียลเอสเตท ยังคงรักษาสถิติเติบโตต่อเนื่อง โชว์ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2558 เติบโตทุกด้าน ด้วยยอดขาย 23,939 ลบ. รายได้ 21,766 ลบ. และกำไรสุทธิ 3,059 ลบ. มั่นใจทั้งปีบรรลุเป้าหมายทั้งยอดขายและรายได้ ที่ 47,000 ลบ.
นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกของปี 2558 บริษัทฯ เติบโตเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2557 โดยสามารถทำยอดขายรวม 23,939 ล้านบาท มีรายได้ 21,766 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 3,059 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 33.5%, 15.7% และ 4.2% ตามลำดับ”
“ปีนี้แม้ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศจะยังคงชะลอตัว แต่สำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์ แนวโน้มคาดว่าน่าจะเติบโตเพิ่มขึ้น 15% จากปีที่ผ่านมา สำหรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลในภาพรวมครึ่งปีแรกของปี 2558 จะมีมูลค่าตลาดรวม 179,344 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 31% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา แต่สำหรับพฤกษา เรียลเอสเตท เองจะมียอดขายเติบโต 33.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและยังคงรักษาส่วนแบ่งการตลาดได้ดี (Market Share) ที่ 12% โดยสามารถครองตำแหน่งผู้นำทาวน์เฮาส์ ที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 33% และบ้านเดี่ยวที่มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 13%” นายทองมา กล่าว
ด้าน นายเลอศักดิ์ จุลเทศ รองประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวยการ เปิดเผยว่า “ด้วยนโยบายของบริษัทฯ ที่มุ่งคิดสร้างสรรค์ คุณค่าเพื่อลูกค้า (Create Value) จึงมีการนำนวัตกรรม การก่อสร้างที่ทันสมัยมาพัฒนาสินค้าและบริการที่ดีมีคุณภาพให้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผลประกอบการในครึ่งปีแรก มียอดขาย 23,939 ล้านบาท คิดเป็น 51% เทียบกับเป้าหมายทั้งปี 47,000 ล้านบาท และมีรายได้ 21,766 ล้านบาท คิดได้เป็น 46% เทียบกับเป้ารายได้ทั้งปี 47,000 ล้านบาท และสำหรับในครึ่งปีหลังนี้ บริษัทฯ ยังมีรายได้ที่รอรับรู้ (Backlog) เหลืออยู่อีก 20,508 ล้านบาท พร้อมทั้งมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย (Active Projects) ณ สิ้นเดือนมิ.ย. 58 จำนวน 181 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 8 หมื่นล้านบาท จึงมั่นใจว่าในปีนี้บริษัทฯ จะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้อย่างแน่นอน”
