แบงค็อค เอ็กซ์ซิบิชั่น เซอร์วิสเซส สบช่องพม่ารุกเปิดตลาด 2 งานอีเวนท์ใหญ่

แบงค็อค เอ็กซ์ซิบิชั่น เซอร์วิสเซส สบช่อง พม่า อ้าแขนรับนักลงทุนทั่วโลก
รุกเปิดตลาด 2 งานอีเวนท์ใหญ่ พร้อมนำทัพนักลงทุนและนักธุรกิจไทยบุกตลาดพม่า
คาดสร้างมูลค่าการค้าและการลงทุนกว่า 7,000 ล้านบาท

               นักธุรกิจและนักลงทุนไทยเทศแห่เข้า พม่า หวังใช้เป็นฐานการผลิตและเปิดตลาดการค้าใหม่ ด้าน แบงค็อค เอ็กซ์ซิบิชั่น เซอร์วิสเซส หนึ่งในผู้นำด้านการจัดงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติของไทย คว้าโอกาสทองเปิด 2 งานอีเวนท์ใหญ่ งานฟู้ด แอนด์ โฮเทล เมียนม่า (Food & Hotel Myanmar) และ งานโพรแพ็ค เมียนม่า (ProPak Myanmar) พร้อมนำทัพนักลงทุนและนักธุรกิจไทย โชว์ศักยภาพ ร่วมเจรจาธุรกิจหาพันธมิตรและเปิดตลาดการค้าใหม่ คาดสร้างมูลค่าการค้าและการลงทุนภายในงานกว่า 7,000 ล้านบาท

Justin Pau

               มร.จัสติน พาว ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แบงค็อค เอ็กซ์ซิบิชั่น เซอร์วิสเซส จำกัด ผู้นำด้านการจัดงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ กล่าวถึงการจัด 2 งานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ (International Exhibition Trade Fair) คือ งานฟู้ด แอนด์ โฮเทล เมียนม่า (Food & Hotel Myanmar) และ งานโพรแพ็ค เมียนม่า (ProPak Myanmar) ว่า แบงค็อค เอ็กซ์ซิบิชั่น เซอร์วิสเซส ถือเป็นผู้จัดงานแสดงสินค้านานาชาติอัดดับแรกๆ ของไทยที่เข้าไปเปิดตลาดงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติในประเทศพม่า ซึ่งได้รับความสนใจเข้าเยี่ยมชมและร่วมจัดแสดงงานจำนวนมาก จากปัจจัยสำคัญคือการที่ประเทศพม่ามีนโยบายในการเปิดรับนักธุรกิจและนักลงทุนจากทั่วโลกอย่างชัดเจน มีการเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ปรับปรุงกฎหมายและกฎระเบียบทางการค้าเพื่อดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลก และ พม่ายังแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ ทำให้ภาคธุรกิจและการลงทุนโดยเฉพาะในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและอุตสาหกรรม การท่องเที่ยวและโรงแรมเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

               ประกอบกับ แบงค็อค เอ็กซ์ซิบิชั่น เซอร์วิสเซส ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัท กลุ่มออลเวิร์ล เอ็กซ์ซิบิชั่น อีเวนท์ (An Allworld Exhibitions Event) ผู้นำด้านการจัดงานแสดงสินค้าระดับโลกมีนโยบายในการขยายธุรกิจการจัดงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมไปยังหลายประเทศในกลุ่มอาเซียน เพื่อรับกับการเปิด AEC ทั้ง พม่า ลาว และ กัมพูชา โดย พม่า เป็นประเทศที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญเป็นรองจากประเทศไทย

               สำหรับ 2 งานแสดงสินค้าระดับนานาชาติที่จะจัดขึ้นนั้น คือ งานฟู้ด แอนด์ โฮเทล เมียนม่า (Food & Hotel Myanmar) และ งานโพรแพ็ค เมียนม่า (ProPak Myanmar) โดย งานฟู้ด แอนด์ โฮเทล เมียนม่า เป็นงานแสดงสินค้าที่เกี่ยวข้องกับภาคธุรกิจอุตสาหกรรมอาหารและโรงแรม ที่มีความสำคัญและเติบโตอย่างเป็นมากในพม่าขณะนี้ เนื่องจากพม่าเป็นทั้งแหล่งวัตถุดิบอาหารที่มีความสมบูรณ์ เหมาะสมในการใช้เป็นฐานการผลิตทั้งเพื่อส่งออกและการผลิตเพื่อการบริโภคภายในประเทศพม่าเอง เนื่งจากปัจจุบันพม่ายังพึ่งพาการนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารจากต่างประเทศจำนวนมากโดยเฉพาะจากไทย นอกจากการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมของพม่าแล้ว พม่ายังเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่คนทั่วโลกให้ความสนใจและหาโอกาสที่จะเดินทางมาเยี่ยมชม โดยสถิติใน ปี พ.ศ. 2556 พม่ามีโรงแรมจำนวน 923 แห่ง และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้งานฟู้ด แอนด์ โฮเทล เมียนม่า เป็นที่สนใจของผู้ประกอบการของทั้ง 2 ภาคอุตสาหกรรมเป็นอย่างมาก โดยงานฟู้ด แอนด์ โฮเทล เมียนม่า จะจัดขึ้นที่ ย่างกุ้ง ในวันที่ 3-5 มิถุนายน 2558 ที่จะถึงนี้

               ส่วนอีกงานสำคัญ คือ งานโพรแพ็ค เมียนม่า (ProPak Myanmar) ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมและเครื่องจักรอุตสาหกรรมที่ใช้ในกระบวนการผลิตภายในโรงงานตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ โดยมีกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมงาน คือ ผู้ผลิตเครื่องจักรอุตสาหกรรม เจ้าของโรงงาน และ ผู้สนใจในเทคโนโลยีเครื่องจักรอุตสาหกรรมใหม่ นักธุรกิจผู้ต้องการเปิดตลาดการค้าหรือหาพันธมิตรธุรกิจในประเทศพม่า ซึ่งงานโพรแพ็ค เมียนม่า จะจัดขึ้นที่ ย่างกุ้ง ในวันที่ 24-26 กันยายน 2558

               โดยทั้ง 2 งานแสดงสินค้านานาชาติที่จัดขึ้นนั้น ในปีนี้ถือเป็นการจัดงานขึ้นเป็นปีที่ 2  ซึ่งได้รับความสนใจจากนักธุรกิจทั้งไทยและต่างชาติสอบถามข้อมูลการเข้าร่วมงานมาเป็นจำนวนมากและมีการยืนยันเพื่อเข้ารวมแสดงงานแล้วถึง 90% จากพื้นที่การจัดงานรวมทั้งหมด 12,000 ตารางเมตร แบ่งเป็นงานฟู้ด แอนด์ โฮเทล เมียนม่า 6,000 ตารางเมตร และ งานโพรแพ็ค เมียนม่า 6,000 ตารางเมตร  ทั้ง 2 งานถือเป็นศูนย์กลางในการพบปะกันระหว่าง ผู้ซื้อและผู้ขาย ผู้ต้องการลงทุนหรือต้องการหาพันธมิตรธุรกิจและผู้ต้องการทำธุรกิจในประเทศพม่าในระดับนานาชาติที่ใหญ่ที่สุด โดยในปีที่ผ่านมาทั้ง 2 งาน มีผู้เข้าร่วมชมงานกว่า 10,000 คน แบ่งเป็นนักธุรกิจและนักลงทุนจากต่างชาติที่เข้าร่วมแสดงงานกว่า 340 บูธ จาก 27 ประเทศ มีนักธุรกิจและนักลงทุนจากประเทศไทยร่วมออกงานจำนวน 90 บูธ สามารถสร้างมูลค่าทางธุรกิจและการเจรจาทางธุรกิจภายในงานกว่า 6,500 ล้านบาท ส่วนการจัดงานในปีนี้คาดว่าจะมีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมงานเพิ่มขึ้นประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ และ น่าจะสร้างมูลค่าทางการค้าและการเจรจาทางธุรกิจได้ไม่น้อยกว่า 7,000 ล้านบาท สำหรับผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดงานสามารถสอบถามได้ที่ โทร 02-615-1255 ต่อ 123