MSN on March 24, 2015, 02:25:17 PM
KTAMเตรียมรับเปิดAECลุยลงทุนหุ้นกลุ่มอาเซียน     
 
นางชวินดา  หาญรัตนกูล  กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า  บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดเคแทม อาเซียน อิควิตี้  ฟันด์   (KTAM ASEAN Equity Fund )  เสนอขายถึงวันที่  27 มีนาคม 2558    เป็นกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ ที่มีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวม JP Morgan Fund- ASEAN Equity Fund    โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80  ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม  หรือตามสัดส่วนที่สำนักงานคณะกรรมการก.ล.ต. กำหนด   

ส่วนกองทุนรวมหลักจะลงทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ 67 ของสินทรัพย์ของกองทุน   ในหลักทรัพย์ประเภทตราสารทุนของบริษัท   ที่มีภูมิลำเนาหรือมีผลการดำเนินงานหลักของบริษัทมาจากประเทศที่เป็นสมาชิกในกลุ่มอาเซียน ซึ่งประเทศในกลุ่มอาเซียนบางประเทศ อาจถูกพิจารณาให้เป็นประเทศตลาดเกิดใหม่  กองทุนรวมหลักอาจลงทุนในบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มประเทศอาเซียน  ซึ่งมีธุรกรรมกับประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศจีน      การป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ขึ้นกับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน  โดยอาจไม่ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนโดยสิ้นเชิงได้

กองทุนรวมหลักให้ความสำคัญกับการใช้ผู้เชี่ยวชาญของประเทศนั้นๆ  เนื่องจาก บริษัทจดทะเบียนในตลาดอาเซียนส่วนมากจะมุ่งเน้นดำเนินธุรกิจภายในประเทศ     ประกอบกับตลาดการเงินของแต่ละประเทศในอาเซียนมีลักษณะเฉพาะ    ผู้จัดการกองทุนจะลงทุนแบบเชิงรุกในประเทศอาเซียน  เนื่องจาก   ตลาดอาเซียนยังคงเป็นตลาดที่ไม่มีประสิทธิภาพ  ซึ่งเอื้อให้นักลงทุนที่มีประสบการณ์สามารถสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มได้ในสภาวะตลาดผันผวน  และเลือกลงทุนในหลักทรัพย์ที่เน้นการขยายตัวของกิจการ  โดยมองหาบริษัทที่มีการเติบโตของผลประกอบการ และกระแสเงินสดสูง  เพื่อโอกาสการจ่ายปันผลที่สูงขึ้นได้   

สำหรับมุมมมองการลงทุน ในประเทศต่างๆในกลุ่มอาเซียนนั้น    ผู้จัดการกองทุนรวมหลักได้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในประเทศไทยสูงกว่าตลาด    จากการกลับมาขยายตัวของอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2015 จากการฟื้นตัวของการลงทุน และการท่องเที่ยว   นอกจากนี้  ยังให้น้ำหนักการลงทุนที่สูงกว่าตลาดในหมวดธนาคารพาณิชย์ และกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์จากการลงทุน  และการปฎิรูปพลังงาน   ผู้จัดการกองทุนยังคงสนใจหลักทรัพย์ที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

ประเทศอินโดนีเซีย ราคาน้ำมันที่ลดลงควรจะเป็นประโยชน์ต่ออินโดนีเซีย   ซึ่งประสบกับปัญหาขาดดุลบัญชีเดินสะพัด   และอัตราเงินเฟ้อที่สูง และผันผวนมาโดยตลอด   โดยปัจจัยข้างต้นจะช่วยปูทางไปสู่ช่วงของอัตาเงินเฟ้อ  และอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงในเชิงโครงสร้างในระยะยาว   นโยบายของ Jakowi ที่จะปฎิรูปขั้นตอนราชการของรัฐบาล  และจัดสรรเงินทุนใหม่  โดยนำเงินอุดหนุนราคาเชื้อเพลิงไปใช้ในภาคเศรษฐกิจที่มีประโยชน์มากกว่า   เช่น โครงสร้างพื้นฐาน  ที่อยู่อาศัยและอื่นๆ เป็นกุญแจสำคัญต่อการเจริญเติบโต และความเชื่อมั่นของประเทศ โดยกองทุนยังคงรักษาสัดส่วนการลงทุนให้กับตลาด และสนใจลงทุนในบริษัทเกี่ยวเนื่องกับโครงสร้างพื้นฐาน และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์

ประเทศมาเลเซีย ครึ่งปีแรกของ2015  จะเป็นปีที่ท้าทายจากการที่ตลาดยังคงตื่นตัวในประเด็นด้านเศรษฐกิจ  และวิธีการที่รัฐบาลจะใช้จัดการกับ การพลาดเป้า   ทั้งเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และเป้าหมายการขาดดุลการคลัง   ราคาน้ำมันที่ลดลงมีผลลบต่อค่าเงิน และตลาดหลักทรัพย์   อีกทั้งยังส่งผลให้มีเงินทุนไหลออก  และก่อให้เกิดความผันผวน ของเงินทุนมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม สภาพคล่องในประเทศคาดว่าจะสามารถลดกระทบได้บ้าง   กองทุนยังคงรักษาสัดส่วนของการลงทุนที่ต่ำกว่าตลาด  และได้ลดการลงทุนในกลุ่มน้ำมันและแก๊ส

ประเทศสิงคโปร์   เป็นช่วงการปรับสมดุลภายหลังการเลือกตั้งที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายครั้งสำคัญ ในปี 2011  ส่งผลให้อัตราการเติบโตชะลอตัวลง   ระบบเศรษฐกิจอยู่ในช่วงเปลี่ยนเข้าสู่การเจริญเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไปในระยะกลางที่ช้าลง     ราคาตลาดเมื่อเทียบกับการคาดหมายอัตราการเติบโตของผลประกอบการนับว่าไม่น่าสนใจเป็นพิเศษ  ดังนั้น ผู้จัดการกองทุนยังคงน้ำหนักการลงทุนในประเทศสิงคโปร์ ที่น้อยกว่าตลาด  แต่ยังคงมีความเป็นบวกในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และหุ้นที่ไม่เป็นไปตามวงจรตลาด ที่มีงบการเงินที่แข็งแกร่ง

ประเทศฟิลิปปินส์ ราคาน้ำมันที่ลดลง และค่าเงินดอลล่าร์ที่แข็งค่าขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลดีต่อแรงงานฟิลิปปินส์ ที่ทำงานในต่างประเทศ  และการบริโภคในประเทศ  การใช้จ่ายเพื่อการเลือกตั้ง ในปี 2015  น่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในระยะสั้น   กองทุนรวมหลัก ได้ปรับลดน้ำหนักการลงทุนในฟิลิปปินส์เมื่อเทียบกับตลาด  เนื่องจากราคาหุ้นที่แพง และอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจชะลิตัว  หุ้น กลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าสนใจได้แก่  ธนาคารพาณิชย์    เนื่องจากยังคงมีอัตราการขยายตัวของสินเชื่อที่แข็งแกร่ง และมีส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยสม่ำเสมอ   และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์  เนื่องจากสินเชื่อที่อยู่อาศัยขยายตัวเพิ่มมากขึ้น  และจำนวนแรงงานฟิลิปปินส์ ที่ทำงานในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น

สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุนรวมหลัก  ณ วันที่  27  กุมภาพันธ์  2558    ย้อนหลัง 1 ปี  อยู่ที่ 6.3%  ย้อนหลัง 3 ปี  โดยเฉลี่ยต่อปี  อยู่ที่ 5.8%     ย้อนหลัง 5 ปี โดยเฉลี่ยต่อปี อยู่ที่ 12.2%     และ YTD  อยู่ที่ 1.3%  ซึ่งผลการดำเนินงานของกองทุน สูงกว่าเกณฑ์มาตราฐานของ MSCI South East Asia Net  โดยย้อนหลัง 1 ปี  อยู่ที่ 5.7%  ย้อนหลัง3 ปี  เฉลี่ยต่อปี อยู่ที่ 3.3%    ย้อนหลัง 5 ปี  เฉลี่ยต่อปี อยู่ที่ 9.8%   และ YTD  อยู่ที่ 0.9%