เชฟไทยฝีมือจัดจ้าน...คว้่าแชมป์โอลิมปิกอาหารโลก The Culinary World Cup 2014

เชฟไทยฝีมือจัดจ้าน ...คว้าแชมป์โอลิมปิกอาหารโลก The Culinary World Cup 2014

                เชฟไทยสร้างชื่อคว้ารางวัลแชมป์โลก 2 เหรียญทอง 3 เหรียญเงินรวม 5 ประเภทการแข่งขัน  ทั้งจาก Professional Team และ Junior Team  ในรายการใหญ่ระดับโอลิมปิกด้านอาหาร The Culinary World Cup 2014 จากประเทศลักเซมเบิร์ก เมื่อเร็วๆ นี้

01

                การแข่งขันในรายการ The Culinary World Cup 2014 จัดขึ้นที่ EUXEPO Exhibition and Conference Center, Luxembourg ในชื่องาน EXPOGAST 12th INTERNATIONAL TRADE SHOW FOR GASTRONOMY โดยจะจัดขึ้นเป็นประจำทุก 4 ปี ในปีนี้มีผู้เข้าชมงานมากกว่า 40,000 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมบริการอาหาร และมีผู้เข้าแข่งขันจาก 53 ประเทศ รวม 1,700 คน

                ถือเป็นปีแรกที่เชฟไทยเข้าสู่เวทีการแข่งขันระดับโอลิมปิกในรายการนี้

                เชฟวิลแมน ลีออง ประธานชมรม Thailand Culinary Academy ผู้ปลุกปั้นทีมเชฟไทยและส่งเชฟ 20 คนเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ เล่าว่า ตนเองไม่คาดคิดว่าทีมเชฟไทยจะสามารถคว้ารางวัลมาได้หลายรางวัล เพราะเป็นการแข่งขันรายการใหญ่ระดับโอลิมปิกด้านอาหารก็ว่าได้ สำหรับทีม Professional เราได้เน้นการใช้วัตถุดิบอาหารไทยในสัดส่วนถึง 80% และนำเสนอเมนูอาหารไทยเป็นหลัก ส่วนทีม Junior ยิ่งสร้างความเซอร์ไพรซ์และภาคภูมิใจให้อย่างมากที่สามารถคว้าเหรียญทองจากการแข่งประเภท Hot Cooking Catergory และเหรียญเงินจากประเภท Cool Display Catergory

02


03

                โดยเชฟไทยที่ได้รับรางวัลเหรียญทอง 2 รางวัล ได้แก่ การแข่งขันประเภท Community Catering Professional Team ( 5 คน) โดยเชฟทีม Professional Team ที่ประกอบด้วยเชฟเอก ชาติตระกูล(ผู้จัดการทีม), เชฟอรรถพล(ไนโตะ) ถังทอง(กัปตันทีม), เชฟพงศ์ศักดิ์  มีขุนทอง, เชฟจารึก ศรีอรุณ, และเชฟรวีกานต์ ทักขิณเสถียร(Pastry Chef)

                และอีก 1 เหรียญทองจากการแข่งขัน Hot Cooking Category Junior Team ( 6 คน) ส่วนเหรียญเงิน 1 เหรียญ ได้แก่ การแข่งขันประเภท Cool Display Category Junior Team ( 6 คน)  ซึ่งทั้ง 2 ประเภทเป็นการแข่งขัน โดยทีมเชฟเยาวชนไทย Junior Team ประกอบด้วย นายศุภกิณห์ บูชา นายกฤษฎา ผามั่ง นางสาวสุธานิต แก้วเก้า นางสาวสุชารัตน์ ปิยะโชคไพศาล นายอภิญญะ สุนพคุณศรี และเชฟจตุพร จึงมีสุข เป็นผู้จัดการทีม

                ส่วนเหรียญเงินอีก 2 รางวัล ได้แก่ การแข่งขันประเภทเดี่ยว Culinary Art Display Category Individual (1 คน)  ได้แก่ เชฟพัทธนันท์  ธงทอง และ Pastry Display Category Individual (1คน) ได้แก่ เชฟกนก ชวลิตพงษ์

04

                เชฟอรรถพล (ไนโตะ) ถังทอง กัปตันทีม Professional ที่คว้าเหรียญทองจากการแข่งขันประเภท Community Catering เล่าว่า “เราชูคอนเซ็ปท์ ASIAN MEETS EUROPEAN เป็นการผสมผสานระหว่างความเป็นไทยเข้ากับความเป็นตะวันตก เมนูส่วนใหญ่เป็นอาหารไทย ใช้วัตถุดิบไทย ได้แก่ กลุ่ม Salad Buffet : ผักสลัดเสริฟ์พร้อมน้ำสลัดต้มยำ, น้ำสลัดซีอิ้วผสมบัสสามิสโก้, น้ำสลัด  มายองเนสวาซาบิ,ปลาแซลม่อนอบในน้ำมันมะกอกเสริ์ฟคู่กับยำส้มโอ, ยำเนื้อแกะย่างเสริ์ฟคู่กับน้ำพริกหนุ่ม, สลัดเมี่ยงคำแบบดั้งเดิม, ส้มตำไก่ย่างเสริ์ฟมาในแป้งกรอบทาโก้ Soup : ซุปข้นฟักทองรสแกงเลียง เสริ์ฟคู่กับข้าวตังและหมูฝอย Meat Main Course : แกงมัสมั่นเนื้อแบบ 2สไตล์ Fish Main Course : ห่อหมกสองสีเสริ์ฟคู่กับแกงเขียวหวานSide Dishes : ข้าวอบธัญพืช 7 ชนิด, มันเทศผัดไข่ใส่โหระพา, ผัดผักน้ำมันหอยใส่เนยสด, มะเขือเทศอบในน้ำพริกอ่อง Chef Action Vegetarian Conner : เกาเหลาผัดไทยห่อในแป้งบางๆแล้วย่างเสริ์ฟคู่กับผักสลัดและซอสมะขาม Dessert เค้กข้าวเหนียวมูลมะม่วงสุกหวาน เสริ์ฟคู่กับครีมกะทิกลิ่นตะไคร้

                โดยนำปิ่นโตมาเป็นลูกเล่น เป็นภาชนะสำหรับใส่อาหาร สร้างสีสันในการรับประทาน  ทั้งยังสื่อถึงวัฒนธรรมการรับประทานอาหารกลางวันของคนไทยในอดีตได้เป็นอย่างดี เมื่อบวกกับกลิ่นและรสชาติของวัตถุดิบอาหารไทย และสมุนไพรไทยที่มีความเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงการตกแต่งที่สวยงาม จึงทำให้ถูกใจกรรมการและได้รับรางวัลในที่สุด ซึ่งในการแข่งขันมีเวลาในการจัดเตรียม 6 ชั่วโมง จำนวน 150 เสิร์ฟในลักษณะบุฟเฟต์ สำหรับแขกที่เข้าร่วมงานเสียค่าใช้จ่ายจำนวน 20 ยูโรต่อคน มีเวลาในการรับประทาน 2 ชั่วโมง

05

                เชฟจตุพร จึงมีสุข ผู้จัดการทีมเชฟ Junior เผยว่า “รู้สึกตื่นเต้นมากที่ทีมเชฟเยาวชนสามารถคว้าเหรียญทองและเหรียญเงินจากการแข่งขันครั้งนี้ เพราะถือเป็นรายการใหญ่ระดับโลก โดยก่อนไปทุกคนได้มีการเตรียมตัวเป็นอย่างดี ปัจจุบันเชฟเยาวชนทุกคนยังเป็นนักศึกษาด้านการทำอาหารจากสถาบันต่างๆ แต่ได้มารวมตัวกันทุกอาทิตย์เพื่อหมั่นฝึกฝนการทำอาหารในลักษณะทีมเวิร์ค ซึ่งเป็นหัวใจของการแข่งขันในลักษณะทีม และนำความสำเร็จมาสู่ประเทศไทยในที่สุด

                สำหรับเมนูอาหารที่ทำให้ได้เหรียญทองจากการแข่งประเภท Hot Cooking Category Junior Team นั้น ทีมเชฟมีเวลาในการจัดเตรียม 6 ชั่วโมง จำนวน 70 เสิร์ฟ แขกที่เข้าร่วมงานมีเวลาในการรับประทาน 3 ชั่วโมง เป็นลักษณะ Sit down dinner  อาทิ Appetizer : ห่อหมกปลากราย, ยำมะม่วง,มูสหอยเชลล์ต้มข่า แตงกวาน้ำอาจาด,ปลาฮาริบัทนึ่ง,ยำกุนเชียงซอสบาบิยอง,ถุงทองไส้ปลา Main Course 1: สันในแกะอบ, ไส้กรอก มัสมั่นแกะ, สตูถั่วมัสมั่นซอสตะไคร้  Dessert : ไวท์ชอคโกแลตและครีมชีสมูสสอดไส้สตรอเบอรี่,  ขนมปังราดซอสเบอรี่เสริ์ฟกับซอสซาบายอง  แชมเปญและราสเบอรี่”

                ด้านนายเพ็ชร ชินบุตร ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า สถาบันอาหารเป็นหน่วยงานหนึ่งที่ได้ให้การสนับสนุนทีมเชฟไทยในการแข่งขัน  The Culinary World Cup 2014 ณ ประเทศลักเซมเบิร์ก และสามารถคว้ารางวัลแชมป์โลกมาได้หลายรายการซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของวงการเชฟไทยในการสร้างชื่อเสียง และนำมาซึ่งความภาคภูมิใจให้แก่คนไทยอย่างมาก  โดยสถาบันอาหารเตรียมเดินเหน้าส่งเสริมอาหารไทย และวัตถุดิบไทยผ่านฝีมือเชฟไทย  ตระเวนจัดแสดง ถ่ายทอดความรู้การปรุงอาหารไทยให้เชฟต่างชาติทั่วโลก ทั้งสนับสนุนการจัดแข่งขันปรุงอาหารด้วยวัตถุดิบไทยในเวทีระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่องต่อไป

                “การแข่งขันในครั้งนี้สำเร็จลุล่วงได้ด้วยดีก็เพราะได้รับการสนับสนุนจากหลายภาคส่วน ทั้งจากภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะจากสมาคมเชฟประเทศไทย ในการพัฒนาเชฟรุ่นใหม่ รวมถึงเชฟมืออาชีพให้มีความรู้และสามารถพัฒนาฝีมือสู่ระดับสากล โดยมีเป้าหมายในการส่งเชฟเข้าร่วมแข่งขันในเวทีระดับโลก เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับเชฟไทย ซึ่งเชฟไทยทุกคนมีความภาคภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมอาหารไทย ส่งเสริมวัตถุดิบไทยให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก และร่วมสร้างภาพลักษณ์ประเทศไทยในการเป็นครัวคุณภาพของโลก”

06


07


08


09


10


11


12


13


14


15


16

บรรยายภาพ

01 : โฉมหน้าทีมแชมป์โลกเชฟไทย
      02 : เชฟไทย Professional Team ที่คว้าเหรียญทองประเภท Community Catering   (เชฟเอก ชาติตระกูล, เชฟพงศ์ศักดิ์  มีขุนทอง, เชฟจารึก ศรีอรุณ, เชฟอรรถพล(ไนโตะ) ถังทอง และเชฟรวีกานต์ ทักขิณเสถียร) กับผู้สนับสนุนการแข่งขันครั้งนี้(เชฟวิลแมน ลีออง ประธานชมรม Thailand Culinary Academy ,เพ็ชร ชินบุตร ผอ.สถาบันอาหาร และเชฟจำนงค์ นิรังสรรค์ นายกสมาคมเชฟประเทศไทย)
      03 : เชฟเยาวชนไทย Junior Team ที่คว้าเหรียญทอง Hot Cooking Category และเหรียญเงิน Cool Display Category
      04  : เชฟอรรถพล (ไนโตะ) ถ้งทอง กัปตันทีม Professional เจ้าของไอเดียเสิร์ฟอาหารในปิ่นโต ภายใต้คอนเซ็ปท์ ASIAN MEETS EUROPEAN
      05 : เชฟจตุพร จึงมีสุข ผู้จัดการทีม Junior หัวแรงใหญ่พาเชฟเยาวชนไทยคว้าเหรียญทอง และเหรียญเงิน จาก 2 ประเภทการแข่งขัน
      06 : เชฟพัทธนันท์  ธงทอง คว้าเหรียญเงินแข่งเดี่ยวประเภท Culinary Art Display Individual
      07 : เชฟกนก ชวลิตพงษ์ เจ้าของเหรียญเงินแข่งเดี่ยวประเภท Pastry Display Category Individual
      08 : การแข่งขันของทีมเชฟ Junior ประเภท Cool Display Category
      09 : ซุปข้นฟักทองรสแกงเลียง
      10 : ซี่โครงกระต่ายอบสมุนไพรและซอสทับทิมผักรวม
      11 : ยำมะม่วง มูสหอยเชลล์ต้มข่า ถุงทองไส่้ปลา
      12 : รางวัลเหรียญเงินแข่งเดี่ยว Culinary Art Display Catergory Individual
      13 : สลัดเมี่ยงคำแบบดั้งเดิม
      14 : รางวัลเหรียญเงินแข่งเดี่ยว Pastry Display Category Individual
      15 – 16 : บรรยากาศในการแข่งขันที่ประเทศลักเซมเบิร์ก