happy on December 29, 2014, 04:35:47 PM
ม.เทคโนโลยีมหานคร ขยายความร่วมมือ 3 ม.ดัง ในต่างประเทศ
เปิดหลักสูตรสองภาษา ได้รับปริญญาบัตรอินเตอร์

                ครั้งแรกและก้าวใหม่ของสถาบันการศึกษาไทย เริ่มแล้ว “ม.เทคโนโลยีมหานคร” เผยว่าได้มองอนาคตบัณฑิตไทยโดยเฉพาะด้านวิศวกรรมศาสตร์ ต้องมีความสามารถที่เพิ่มขึ้นทั้งด้านทักษะและภาษา ดังนั้นเพื่อรองรับตลาดอาเซียนที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ จึงผุดโปรเจคต์ผลิตบัณฑิตวิชาชีพร่วมกัน  เรียนไทยสองปี พร้อมสิทธิเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยดัง ตปท. อีกสองปี   รับปริญญาบัตร “อินเตอร์เนชั่นแนล ดีกรี” (International Degree) โดยมีมีจุดแข็งคือ โอกาสและอนาคตการทำงานที่มีมากขึ้น รวมถึงช่วยลดค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง!!


ดร.ชูธรรม สาวิกันย์  ผู้อำนวยการ หลักสูตรนานาชาติ ม.เทคโนโลยีมหานคร

                ดร.ชูธรรม สาวิกันย์  ผู้อำนวยการ หลักสูตรนานาชาติ ม.เทคโนโลยีมหานคร (Dr.Chutham Sawigun, International Programme Director, Mahanakorn University of Technology) เผยว่า “ จากประสบการณ์ที่ได้ทำความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกในหลายประเทศ อาทิ University of New South Wales และ University of Sydney ประเทศออสเตรเลีย Imperial College, University of Surrey และ University College London ประเทศอังกฤษ University of Veterinary Medicine Hannover ประเทศเยอรมันนี และ Tokyo University of Agriculture and Technology ประเทศญี่ปุ่น เป็นต้น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ได้ตระหนักถึงความสำคัญของมาตรฐานการศึกษาระดับนานาชาติต่อการผลิตบัณฑิตออกสู่สังคมปัจจุบัน ที่กำลังก้าวเข้าสู่ยุคที่ไร้พรมแดนทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ จึงได้ขยายความร่วมมือกับ 3 มหาวิทยาลัยดังในต่างประเทศ ที่มีความโดดเด่นในแต่ละสาขา ทั้ง อังกฤษ และ เกาหลี  ผุดโปรเจคต์ผลิตบัณฑิตวิชาชีพร่วมกัน ภายใต้ “หลักสูตรสองภาษา” ที่เข้มข้น มุ่งเน้นทักษะ ประสบการณ์ทำงานจากสถานที่จริง รวมถึง ภาษา ซึ่งเป็นอุปสรรคของบัณฑิตไทยเมื่อเทียบกับบัณฑิตในเขตอาเซียน เสริมจุดแข็ง ให้เรียนไทยสองปี พร้อมสิทธิเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยดัง ตปท. อีกสองปี  พร้อมรับปริญญาบัตร “อินเตอร์เนชั่นแนล ดีกรี” (International Degree) เชื่อมั่นนักศึกษาในหลักสูตรสองภาษา จะมีจุด แข็งคือ โอกาสและอนาคตการทำงานที่มีมากขึ้น รวมถึงช่วยลดค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองด้วย”

                “โดยบัณฑิต ม.เทคโนโลยีมหานคร มีสัดส่วนการได้งานทำมากกว่า 95% ในสายงานและอาชีพที่เป็นที่ยอมรับ ส่วนอีก 5% คือเจ้าของธุรกิจและศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น ล่าสุด ยังได้รับการรับรองมาตรฐานเป็นอันดับ 1 ของประเทศ จากหน่วยงานประเมินที่มีมาตรฐาน คือ สำนักงานรับรองมาตรฐานคุณภาพการศึกษา (หรือ สมศ. เป็น องค์การมหาชน)  โดยเราเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งเดียว ที่กล้าเข้าไปอยู่ในกลุ่มสถาบันเน้นการผลิตบัณฑิตและวิจัย ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีขั้นตอนและมาตรฐานในการตรวจสอบ ประเมินสูงสุด เข้มข้นที่สุด โดยปัจจุบันมหาวิทยาลัยได้ชื่อว่า มีจำนวนนักศึกษาและผลิตบัณฑิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่มากที่สุดในประเทศ (เมื่อเทียบกับมหาวิทยาลัยเอกชน ในประเทศไทยและมีคุณภาพเทียบเท่ามหาวิทยาลัยรัฐบาล **จากจำนวนสถิตินักศึกษาประจำปีการศึกษา 2556 โดย สกอ.)  ปัจจุบันมีอาจารย์ประจำอยู่มากกว่า 90% และมีการพัฒนาคณาจารย์อย่างต่อเนื่อง (จัดส่งคณาจารย์ไปศึกษาต่อระดับปริญญาโท และปริญญาเอก จนสำเร็จการศึกษาแล้วมากกว่า 250 ท่าน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และอยู่ระหว่างการศึกษาต่อในระดับปริญญาโท และปริญญาเอก ทั้งในประเทศ และต่างประเทศอีกจำนวนมากกว่า 85 ท่าน)  พรั่งพร้อมด้วยเครื่องมือวิจัย (ห้องปฏิบัติการที่ทันสมัยเพื่อรองรับการเรียนการสอน... เน้นเรียนรู้จริง ใช้งานจริง กับห้องวิจัยมากกว่า 13  ห้อง และห้องปฏิบัติการมากกว่า 49 ห้อง รวมมูลค่าการพัฒนามากกว่า 500 ล้านบาท) อีกทั้งนโยบายการพัฒนาบัณฑิตให้มีความพร้อมสู่ตลาดประชาคมอาเซียน”




                ล่าสุดในปีการศึกษา 2558 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ได้ขยายความร่วมมือไปยังมหาวิทยาลัยเอกชนชั้นนำของโลกอีก 3 แห่ง ได้แก่ ออกซ์ฟอร์ดบรูคส์ยูนิเวอร์ซิตี ในประเทศอังกฤษ (Oxford Brookes University), เดอะยูนิเวอร์ซิตีออฟเชฟฟิลด์ (The University Of Sheffield) และ ยูนิเวอร์ซิตีออฟยูลซาน ประเทศเกาหลี (University of Ulsan) มหาวิทยาลัยที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณโดยผู้นำด้านอุตสาหกรรมยานยนต์และการต่อเรือชั้นนำของโลก อย่าง ฮุนได (Hyundai) ฯลฯ ร่วมกันเปิดหลักสูตรสองภาษา โดยมีจุดเด่น คือ เรียนไทย 2 ปี และเรียนต่างประเทศ 2 ปี พร้อมรับปริญญาบัตรอินเตอร์ เป็น UK Degree, และ Korea Degree  เบื้องต้นได้เปิดนำร่องในคณะวิศวกรรมศาสตร์ รวม 4 สาขา  ได้แก่ สาขาวิศวกรรรมไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์, สาขาวิศวกรรมเคมี, สาขาวิศวกรรมโยธา, สาขาวิศวกรรมเครื่องกลและวิศวกรรมยานยนต์  เพราะมีความต้องการแรงงานในตลาดสูง”

                สำหรับรายละเอียด “หลักสูตรสองภาษา คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.เทคโนโลยีมหานคร” จัดการเรียนโดยใช้ภาษาอังกฤษในวิชาบรรยายและภาษาไทยหรืออังกฤษในวิชาปฏิบัติการ มีอาจารย์ผู้สอนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ดังนั้น เมื่อนักศึกษาเรียนหลักสูตรสองภาษา นักศึกษาจะได้เรียนเนื้อหาวิชา วิศวกรรมศาสตร์เป็นภาษาอังกฤษ พร้อมทั้งได้พัฒนาความรู้ภาษาอังกฤษไปด้วย นอกจากนี้ ถ้าไม่เข้าใจเนื้อหาในส่วนไหนสามารถขอให้อาจารย์อธิบายเป็นภาษาไทยได้ โดย หลักสูตรสองภาษามี 2 โปรแกรมให้เลือกเรียน คือ Twinning Programme และ 4-year Programme โดย Twinning Programme คือโปรแกรมที่นักศึกษาเรียนปี 1-2 ที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร และไปเรียนต่อปี 3-4 ที่ The University of Sheffield หรือ Oxford Brookes University ประเทศอังกฤษซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยระดับโลกด้านวิศวกรรมศาสตร์ จึงมีผู้สมัครแข่งขันเข้าเรียนมากมายจากทั่วโลก  มหาวิทยาลัยทั้งสองแห่งได้ทำความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร  เพื่อรับนักศึกษาเข้าเรียนต่อปี 3-4 เมื่อเรียนจบแล้ว นักศึกษาโครงการ Twinning Programme จะได้รับปริญญาจากประเทศอังกฤษ เช่นเดียวกับนักศึกษาที่เรียนที่ประเทศอังกฤษตลอดทั้ง 4 ปี ดังนั้น ภาระค่าใช้จ่ายจึงน้อยกว่าการไปเรียนที่ประเทศอังกฤษตลอดหลักสูตร ถึงเกือบครึ่งหนึ่ง อีกอย่าง โครงสร้างแบบ Twinning Programme นี้ยังช่วยให้นักศึกษาไทยสามารถไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษได้ โดยไม่ต้องเข้าแข่งขันกับผู้สมัครคนอื่น ทั้งจากภายในประเทศอังกฤษเอง และจากทั่วโลก ส่วน 4-year Programme จะเรียนที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร 4 ปีเป็นภาษาอังกฤษ โดยมีการจัดการเรียนการสอน  ห้องปฺฏิบัติการและเครื่องมือที่ได้มาตรฐานเดียวกันกับ The University of Sheffield และ Oxford Brookes University

                “หลักสูตรสองภาษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานครเป็นมหาวิทยาลัยเดียวในประเทศที่สร้างหลักสูตรโดยใช้มาตรฐานเดียวกับ The University of Sheffield และ Oxford Brookes University จึงสามารถส่งนักศึกษาไปเรียนต่อชั้นปี 3-4 ที่มหาวิทยาลัยทั้งสองแห่ง และได้รับปริญญาจากประเทศอังกฤษได้เช่นเดียวกับนักศึกษาที่ไปเรียน 4 ปีที่อังกฤษ และเมื่อเรียนจบ บัณฑิตมีโอกาสเข้าทำงานกับบริษัทชั้นนำในยุโรปได้  ซึ่งโดยปกติจะได้ค่าตอบแทนสูงกว่าประเทศไทยประมาณสามถึงห้าเท่า ขึ้นอยู่กับบริษัท ในส่วนของเมืองไทย ก็มีคณาจารย์จาก Sheffield และ Oxford Brookes มาร่วมสอนในบางรายวิชา ซึ่งจะช่วยให้คุณภาพของหลักสูตรและบรรยากาศการเรียนการสอนอยู่ในระดับที่เป็นสากล ด้วยเหตุนี้ เมื่อก้าวเข้าสู่ AEC หลักสูตรสองภาษาจะช่วยให้บัณฑิตของหลักสูตรจบไปเป็นวิศวกรที่มีทักษะและคุณภาพในระดับนานาชาติ และสามารถประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในฐานะวิศวกรผู้เป็นส่วนหนึ่งของกลไกหลักในการพัฒนาเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมให้แก่กลุ่มประเทศในภูมิภาคอาเซียน”




นศ.มหานคร สองภาษา และเครื่องแบบ






                ด้วยมาตรฐานทางการศึกษาที่เทียบเท่ามหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศอังกฤษ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ได้รับความสนใจจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในเอเชียเพื่อทำความร่วมมือในหลักสูตรสองภาษาด้วยเช่นกัน โดยเมื่อเร็วๆนี้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ได้ทำความร่วมมือกับ มหาวิทยาลัยยูลซาน (University of Ulsan) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของเกาหลีใต้ที่ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากกลุ่มอุตสาหกรรมการต่อเรือและรถยนต์ฮุนได (Hyundai Heavy Industries and Hyundai Motors) โดย นักศึกษาหลักสูตรสองภาษาสามารถเลือกเรียนที่ ม.เทคโนโลยีมหานคร ชั้นปี 1-2 และ ไปเรียนต่อชั้นปี 3-4 ที่ประเทศเกาหลีใต้ได้ ทั้งนี้นักศึกษาจะมีโอกาสเข้าฝึกงานกับบริษัทในเครือฮุนได ซึ่งประกอบด้วย อุตสาหกรรมการต่อเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลก อุตสาหกรรมยานยนต์ที่กำลังขยายตัวเป็นคู่แข่งที่สำคัญของญี่ปุ่นและอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ฯลฯ อีกอย่างเมื่อเรียนจบหลักสูตรนี้ยังได้รับปริญญาบัตรจากประเทศเกาหลี ซึ่งจะทำให้มีโอกาสในตลาดแรงงานในเอเชียมากขึ้น รวมถึงโอกาสในการร่วมงานกับบริษัทในเครือฮุนได ณ เมือง Ulsan ซึ่งถือเป็นพื้นที่อุตสหากรรมที่ให้ค่าตอบแทนสูงมาก วัดตามตัวเลข GDP per capita ปี 2012 ซึ่งใกล้เคียงกับประเทศ Luxembourg ที่มี GDP per capita สูงเป็นอันดับหนึ่งของโลกในปีเดียวกัน

                ผู้อำนวยการหลักสูตรฯ ยังได้เผยถึงข้อมูล คำถามยอดฮิต ซึ่งพบบ่อย สรุปตอบเป็นข้อๆ ดังนี้ 1. ถ้าไม่เก่งภาษาอังกฤษ เรียนหลักสูตรสองภาษาได้ไหม? หลักสูตรสองภาษามุ่งเน้นพัฒนาภาษาอังกฤษให้แก่นักศึกษา จึงไม่ได้มุ่งหวังว่านักศึกษาจะต้องเก่งสุดๆด้านภาษาอังกฤษมาก่อน ดังนั้นแม้นักศึกษาจะไม่เก่งภาษาอังกฤษมากก็สามารถเรียนหลักสูตรสองภาษาได้ เพราะหลักสูตรจะมีการสอนปรับพื้นฐานภาษาอังกฤษให้กับนักศึกษาก่อนเปิดภาคเรียน และเมื่อเปิดภาคเรียน หลักสูตรฯยังได้จัดเตรียมคอร์สเพื่อเพิ่มคะแนนสอบ IELTS ให้สูงขึ้นจนถึงระดับ 6 หรือ 6.5 เพื่อไปศึกษาต่อปี 3-4 ที่ The University of Sheffield หรือ Oxford Brookes University ประเทศอังกฤษต่อไปได้ 2. ถ้าไม่เก่งภาษาอังกฤษ เรียนหลักสูตรสองภาษาจะมีปัญหาไหมหรือจะสอบตกหรือไม่? ไม่มีปัญหาถ้านักศึกษาตั้งใจจริง เพราะอาจารย์ผู้สอนมีทั้งชาวไทยและต่างชาติ และเรียนในชั้นเรียนที่ผู้สอนสามารถดูแลได้ทั่วถึง พร้อมกันนั้นอาจารย์ผู้สอนยังจัดสรรเวลาเพื่อให้คำปรึกษาและอธิบายเพิ่มเติมเป็นรายบุคคลนอกเวลาเรียนอีกด้วย 3. ถ้ายังไม่มีผลสอบ IELTS สมัครเรียนหลักสูตรสองภาษาได้หรือไม่? ทางหลักสูตรยอมรับคะแนนสอบภาษาอังกฤษจากสถาบันอื่นที่มีมาตรฐานเทียบเท่าเช่น TOEFL, TU-GET หรือ CU-TEP เป็นต้น  ในกรณีที่ไม่มีผลการสอบจากสถาบันใดเลย ทางหลักสูตรฯยังอำนวยความสะดวกให้โดยการจัดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษเป็นการภายใน เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สมัครที่มีความสนใจจริงๆ 4. ถ้าคะแนนสอบ IELTS ไม่ถึง 6.5 ตอนปี 2 สามารถไปเรียนต่อที่อังกฤษปี 3-4 ได้หรือไม่ ? สำหรับผู้ที่มีคะแนนสอบไม่ถึง 6.5 (ในปีที่ต้องไปศึกษาต่อปี 3-4 ที่ประเทศอังกฤษ) สามารถลงเรียนคอร์สภาษาอังกฤษเสริมที่ The University of Sheffield  หรือ Oxford Brookes University ได้ จนเมื่อได้ผลสอบผ่านตามเกณฑ์ นักศึกษาก็สามารถเรียนต่อปี 3-4 จนสำเร็จการศึกษาสำหรับผู้ปกครองรวมถึงนักเรียนที่สนใจ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  https://www.facebook.com/mutbilingual เว็บไซต์ www.inter.mut.ac.th โทร 02-988-3655, 02-988-3666 ต่อ 1105-7 (ฝ่ายประชาสัมพันธ์), 2138-9 (สำนักงานหลักสูตรนานาชาติ) หรือ 081-274-8220 / 091-727-5426  เริ่มเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค. 58 เป็นต้นไป


Sheffield


Sheffield


ออกซ์ฟอร์ดบรูคส์


ออกซ์ฟอร์ดบรูคส์


ยูลซาน


ยูลซาน