MSN on December 04, 2014, 01:06:59 PM
สถาบันฯ สิ่งทอ รุกต่อเนื่อง Eco Fiber เฟส 2 ต่อยอดพัฒนาเส้นใยธรรมชาติสู่ผู้นำสิ่งทออาเซียน
กรุงเทพฯ 4 ธันวาคม 2557 – สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กระทรวงอุตสาหกรรม เดินหน้าต่อยอดโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้วัตถุดิบภาคการเกษตรด้วยการพัฒนาเส้นใยธรรมชาติสู่อุตสาหกรรมสิ่งทอ (ในระยะที่ 2 ต้นแบบเส้นใยยาว) ตอกย้ำความสำเร็จของโครงการในปีแรก ตั้งเป้าพัฒนาเส้นใยธรรมชาติโดยใช้เทคโนโลยีในต่างประเทศ พร้อมดึงวัตถุดิบเหลือใช้จากภาคการเกษตรวิจัยเพิ่ม อาทิ สับปะรด ผักตบชวา กาบกล้วย ผลตาล เปลือกหมาก เน้นการผลิตเส้นใยธรรมชาติที่ได้ศักยภาพและมีปริมาณสูง โดยเชื่อมโยง นวัตกรรม เทคโนโลยี การออกแบบ และช่องทางการตลาด มุ่งสู่ผู้นำอุตสาหกรรมสิ่งทอเพื่อสิ่งแวดล้อมแห่งอาเซียน ไม่ว่าจะเป็น เครื่องแต่งกาย เคหะสิ่งทอ ผลิตภัณฑ์สิ่งทอเทคนิค และสิ่งทอที่มีคุณสมบัติพิเศษ ซึ่งวัสดุเหล่านี้สามารถนำมาสร้างมูลค่าเพิ่มโดย การสร้างสรรค์ให้เป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่มีความน่าสนใจ โดดเด่น และแปลกใหม่ขึ้นด้วยเทคโนโลยีสิ่งทอ พร้อมสานต่อ “โครงการจัดการประกวดออกแบบสิ่งทอเชิงสร้างสรรค์” (Creative Textile Award) เพื่อผลิตนักออกแบบนวัตกรรมสิ่งทอเพื่อสิ่งแวดล้อมครั้งที่ 2 พัฒนาสู่ผลิตภัณฑ์แฟชั่นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อรองรับความต้องการของตลาดรักษ์โลกที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ คาดว่าหากนำเส้นใยธรรมชาติมาพัฒนาใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ อย่างเต็มรูปแบบ จะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมสิ่งทอ ลดการสูญเสียของวัตถุดิบเหลือทิ้งจากภาคเกษตร และสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนสร้างรายได้แก่เกษตรกรไทยมากยิ่งขึ้น
สำหรับ ผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 กรุงเทพฯโทรศัพท์ 0 2713 5492 – 9 ต่อ 406, 400 หรือดูรายละเอียดได้ที่ www.thaitextile.org
นางสุทธินีย์ พู่ผกา ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ เปิดเผยว่า สถาบันฯ สิ่งทอ เดินหน้าขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสิ่งทอไทยสู่ผู้นำอุตสาหกรรมการผลิตเส้นใยธรรมชาติในอาเซียน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มของเส้นใยธรรมชาติ ด้วยการพัฒนาเส้นใยธรรมชาติสู่อุตสาหกรรมสิ่งทอ ระยะที่ 1 (กลุ่มโครงการพัฒนาเส้นใยปี 2557) โดยนำวัสดุเหลือทิ้งจากภาคการเกษตรและอุตสาหกรรม มาวิจัยและพัฒนาสู่เส้นใยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มุ่งเป้าสร้างเส้นใยที่หลากหลายสู่อุตสาหกรรม ลดการพึ่งพาฝ้าย และตอบสนองความต้องการของตลาดรักษ์โลกที่มีแนวโน้มเติบโตมากขึ้น
ทั้งนี้ จากการวิจัยและพัฒนาในระยะที่ 1 ทางสถาบันฯ สามารถพัฒนาเส้นใยจากวัตถุดิบเหลือใช้จากภาคการเกษตร 3 ชนิด คือ เส้นใยสับปะรด เส้นใยกัญชง เส้นด้ายจากไหมรีไซเคิล สู่การต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น หมวก กระเป๋า และกางเกงยีนส์ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาวิจัย และพัฒนาเส้นใยในระยะแรก พบว่า เทคโนโลยีในประเทศไทยนั้น ยังไม่รองรับการปั่นเส้นใยสับปะรดแบบเส้นใยยาวได้ ทางสถาบันฯ จึงตั้งเป้านำเส้นใยสับปะรดไปพัฒนาในต่างประเทศ โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากอิตาลีเป็นที่ปรึกษา เพื่อให้ได้เส้นใยสับปะรดที่มีคุณภาพ และนำไปสู่การพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและสามารถใช้ได้จริง นางสุทธินีย์ กล่าว
นางสุทธินีย์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ดี สถาบันฯ สิ่งทอ ยังคงไม่หยุดที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอจากเส้นใยธรรมชาติ ยังคงเดินหน้าศึกษาวิจัย และพัฒนาเส้นใยจากวัตถุดิบเหลือทิ้งจากภาคการเกษตรอย่างต่อเนื่อง ผ่านการดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้วัตถุดิบภาคการเกษตรด้วยการพัฒนาเส้นใยธรรมชาติสู่อุตสาหกรรมสิ่งทอ ในระยะที่ 2 (ต้นแบบเส้นใยยาว) โดยการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งในครั้งนี้มุ่งศึกษาวิจัยเส้นใยธรรมขาติที่ได้วิจัยแล้ว รวมทั้งเส้นใยใหม่ ให้มีศักยภาพและมีปริมาณสูงขึ้น อาทิ สับปะรด กาบกล้วย ผลตาล เปลือกหมาก ผักตบชวา เป็นต้น โดยเชื่อมโยง นวัตกรรม เทคโนโลยี และการออกแบบ รวมไปถึงช่องทางการตลาด เพื่อมุ่งเน้นไปสู่อุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น เครื่องแต่งกาย (Apparel) เคหะสิ่งทอ (Home Textiles) ผลิตภัณฑ์สิ่งทอเทคนิค (Technical Textiles) และสิ่งทอที่มีคุณสมบัติพิเศษ (Functional Textiles) ส่งต่อไปใช้ยังอุตสาหกรรมอื่น ๆ นอกจากนี้ผลผลิตที่ได้ยังเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม และยังเป็นการนำวัสดุเหลือทิ้งจากภาคเกษตรกรรมมาใช้ให้เกิดประโยชน์และสร้างรายได้ให้เกษตรกร อีกทั้ง โครงการดังกล่าวยังเป็นการลดการนำเข้าเส้นใยจากต่างประเทศ รวมทั้งเพิ่มศักยภาพในการพัฒนาและสร้างสรรค์
นางสุทธินีย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การส่งเสริมนี้จำเป็นต้องส่งเสริมควบคู่ไปกับการสร้างภูมิคุ้มกันของอุตสาหกรรมสิ่งทอทั้งระบบ โดยอาศัยกลไกความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชนในการพัฒนาองค์ความรู้ พึ่งพาตนเอง ลดการนำเข้า พร้อมทั้งส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาการผลิตทั้งระบบให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตลอดจนสร้างความเป็นเจ้าของและผลักดันให้เกษตรกรผู้ผลิตเข้าใจภาวะตลาด โดยผลักดันให้ชุมชนมีส่วนร่วม และการสร้างมูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์ทั้งห่วงโซ่การผลิต ผ่านการวิจัยและพัฒนา รวมทั้งนโยบายการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเฉพาะด้าน อาทิ คุณสมบัติเส้นใยการพัฒนาลักษณะพิเศษของเส้นใย เส้นด้าย และผ้าผืนสำหรับนักวิจัย การส่งเสริมการลงทุนด้านเทคโนโลยี เช่น เทคโนโลยีการปั่นด้ายจากเส้นใยยาว เทคโนโลยีการตกแต่งสำเร็จสำหรับด้ายและผ้าผืนสำหรับนักลงทุน และการส่งเสริมการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ผ่านการประกวดและช่องทางการตลาดต่างๆ สำหรับนักออกแบบ นักประดิษฐ์และเจ้าของกิจการขนาดเล็ก โดยสถาบันฯ สิ่งทอประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง ในการจัดการประกวดออกแบบสิ่งทอเชิงสร้างสรรค์ (Creative Textiles Award) ซึ่งเป็นเวทีให้นักออกแบบได้พัฒนาเกิดเป็นผลิตภัณฑ์สิ่งทอเพื่อสิ่งแวดล้อม โดยจะจัดต่อเนื่องทุกๆ ปี ซึ่งการผลักดันดังกล่าว จะส่งผลให้โครงสร้างอุตสาหกรรมสิ่งทอไทยมีความเข้มแข็งขึ้นในระยะยาว และสามารถเป็นผู้นำอุตสาหกรรมสิ่งทอเพื่อสิ่งแวดล้อมแห่งอาเซียนได้ในอนาคต ทั้งนี้ คาดว่าหากนำเส้นใยธรรมชาติมาพัฒนาใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ อย่างเต็มรูปแบบ จะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมสิ่งทอ ลดการสูญเสียของวัตถุดิบเหลือทิ้งจากภาคเกษตร และสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนสร้างรายได้แก่เกษตรกรไทยมากยิ่งขึ้น
สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการพัฒนาเส้นใยจากธรรมชาติ หรือติดตามการประกวดโครงการประกวดออกแบบสิ่งทอเชิงสร้างสรรค์ประจำปี 2015 สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 กรุงเทพฯโทรศัพท์ 0 2713 5492 – 9 ต่อ 406, 400 หรือดูรายละเอียดได้ที่ www.thaitextile.org
« Last Edit: December 06, 2014, 02:44:25 PM by happy »
Logged