เมืองไทยประกันชีวิตชู 2 กรมธรรม์เด่นต้อนรับ “วันพ่อ” ชูจุดขายซื้อง่าย-ไม่ต้องตรวจสุขภาพตอบโจทย์ออมเงินพร้อมคุ้มครองชีวิต
นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาส “วันพ่อแห่งชาติ” ทางบริษัทฯ ได้นำเสนอแบบประกันชีวิต 2 แบบ เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้าที่ต้องการมอบประกันชีวิตเป็นของขวัญวันพ่อ โดยคัดเลือกแบบประกันที่ซื้อง่าย “ไม่ต้องตรวจสุขภาพ” สามารถตอบโจทย์ทั้งการออมเงินซึ่งให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจ พร้อมกับรับความคุ้มครองชีวิตตลอดอายุสัญญา และเป็นหลักประกันให้แก่ครอบครัวได้ในระยะยาว
แบบที่ 1 ได้แก่ “เมืองไทย สมาร์ท เซฟวิ่ง 10/6” เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออมเงินง่าย ๆ พร้อมรับความคุ้มครองถึง 10 ปี แต่จ่ายเบี้ยเพียง 6 ปี โดยมีเงินจ่ายคืนให้ทุกปีตั้งแต่สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1-9 ปีละ 10% ของทุนประกัน ณ วันเริ่มสัญญา และเมื่อครบสัญญารับเงินครบกำหนดอีก 610% ของทุนประกัน ณ วันเริ่มสัญญารวมผลประโยชน์ตลอดสัญญาสูงถึง 700% ของทุนประกัน ณ วันเริ่มสัญญา
ทั้งนี้ แบบประกันดังกล่าวยังสามารถรับประกันได้จนถึงอายุ 80 ปี และสะดวกยิ่งขึ้นเนื่องจากไม่ต้องตรวจสุขภาพ นอกจากนี้ ผู้เอาประกันยังสามารถใช้สิทธิ์หักลดหย่อนภาษีจากค่าเบี้ยประกันชีวิตนี้ได้สูงสุดถึง 100,000 บาทอีกด้วย โดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด
ส่วนแบบที่ 2 เป็นแบบประกันชีวิตที่เพิ่งเปิดตัวใหม่พร้อมกับออกภาพยนตร์โฆษณา คือ “โครงการเมืองไทย สุขใจวัยเก๋า” เป็นแบบประกันที่รวมทั้งประกันชีวิตและอุบัติเหตุเข้าไว้ด้วยกัน ให้ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุสาธารณะสูงสุดถึง 2,000,000 บาท (สำหรับแผน 5)
พร้อมรับค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุสูงถึง 25,000 บาทต่อครั้ง (สำหรับแผน 5) โดยไม่ต้องสำรองจ่าย เพียงแค่ยื่นบัตรกับโรงพยาบาลคู่สัญญา ทั้งจะได้รับค่าชดเชยรายวันระหว่างการเข้ารักษาตัวจากอุบัติเหตุในโรงพยาบาล สูงสุดวันละ 2,500 บาท รวมกันสูงสุดไม่เกิน365 วัน ต่อการบาดเจ็บแต่ละครั้ง และกรณีรักษาตัวในห้องไอซียู รับค่าชดเชยรายวันเพิ่มเป็น 2 เท่าสูงสุดถึง 7 วันต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้งอีกด้วย
แบบประกันนี้รับประกันตั้งแต่อายุ 50-75 ปี เหมาะสำหรับผู้สูงอายุหรือบุตรหลานที่กังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุไม่คาดฝัน ซื้อง่ายโดยไม่ต้องตรวจและไม่ต้องตอบคำถามสุขภาพตอบโจทย์ได้ตรงใจมากขึ้นด้วยแผนความคุ้มครองที่มีให้เลือกได้ถึง 5 แผน และเลือกชำระเบี้ยได้ทั้งแบบรายปีและรายเดือน
“บริษัทฯ มองว่าแบบประกันทั้งสองแบบนี้น่าจะเป็นทางเลือกสำหรับการเก็บออมเงินพร้อมกับความคุ้มครองชีวิต รวมถึงช่วยสร้างหลักประกันที่มั่นคงให้แก่ครอบครัวและช่วยบริหารค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลเพื่อลดความกังวลใจจากความไม่แน่นอนในอนาคต เหมาะสำหรับลูก ๆ ที่กำลังมองหาของขวัญเนื่องในโอกาส “วันพ่อแห่งชาติ” หรือจะเป็นของขวัญ “ปีใหม่” ที่มากคุณค่าก็ได้เช่นกัน” นายสาระกล่าว.