happy on November 23, 2014, 04:45:22 PM
“ศูนย์การเรียนรู้ผลิตภัณฑ์ไหลทอบ้านหนองกระทุ่ม” จ.บุรีรัมย์
เพิ่มพูนรายได้ครัวเรือน เสริมสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน
“ไหล” เป็นภาษาพื้นเมืองใช้เรียก “ต้นกกพันธุ์ลังกา” วัตถุดิบธรรมชาติที่นำมาทอเป็นเสื่อ ซึ่งการทอเสื่อจากต้นไหล หรือ ต้นกก เป็นงานหัตถกรรมที่ยังคงเอกลักษณ์พื้นบ้าน เป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมของชาวชุมชนบ้านหนองกระทุ่ม อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ ที่มีจุดเด่นเฉพาะตัว คือ การสร้างสรรค์ ออกแบบลวดลายในขณะที่ทอเสื่อ ทำให้ได้ลวดลายที่ไม่ซ้ำกัน เกิดความหลากหลาย มีสีสด สวยงาม เหนียว คงทน ราคาถูก และเพื่อร่วมสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นของชุมชน โครงการ แคมป์สนุกคิดกับอินทัช “เยาวชนพอดี โรงเรียนพอเพียง” โดย บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ อินทัช จึงร่วมกับนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ วิทยาเขตชุมพร สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตชุมพร โรงเรียนและชุมชน จัดทำ “ศูนย์การเรียนรู้ผลิตภัณฑ์ไหลทอบ้านหนองกระทุ่ม” ขึ้นที่ โรงเรียนวัดหนองกระทุ่ม เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมองค์ความรู้ด้านการทอเสื่อ ทั้งด้านกระบวนการทอเสื่อ ลวดลายของเสื่อ และผลิตภัณฑ์งานทอต่างๆที่เป็นเอกลักษณ์ของชุมชน รวมทั้งให้เยาวชนได้ฝึกทักษะไปพร้อมกับการเรียนรู้วิถีชีวิตและวัฒนธรรมท้องถิ่น อีกทั้งยังเป็นแหล่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์งานหัตถกรรมจากต้นไหล(กก) ที่สร้างรายได้เสริมให้กับชุมชน นอกจากนั้นยังมุ่งหวังให้ศูนย์การเรียนรู้ฯ ทำหน้าที่รวบรวม เผยแพร่ทักษะ และองค์ความรู้สู่ภายนอก รวมทั้งเชื่อมโยงองค์ความรู้จากแหล่งอื่นๆ เข้ามาสู่ชุมชน เพื่อให้เกิดการขยายองค์ความรู้และก่อให้เกิดประโยชน์สู่วงกว้าง ในชุมชนบ้านหนองกระทุ่ม ปลูกต้นไหลร้อยละ 70 ของชุมชนทั้งหมด แต่ละครัวเรือนมีพื้นที่ในการปลูกต้นไหล 20-50 ตารางวา ซึ่งสามารถปลูกและขยายพันธุ์ได้ง่าย ภายใน 15-20 วัน สามารถตัดลำต้น นำไปทอเสื่อได้ ซึ่งเสื่อไหลบ้านหนองกระทุ่มทอมาจาก “ต้นกกพันธุ์ลังกา” ที่มีลำต้นกลม ผิวอ่อนนุ่ม เหนียว ไม่กรอบ มีความละเอียดของผิวมากกว่ากกกลมพันธุ์อื่นๆ เมื่อนำมาทอเป็นเสื่อจะนิ่มน่าใช้ ขัดถูก็เป็นมันน่าดู จึงนิยมนำกกกลมมาทอเสื่อกันมาก ซึ่งต้นไหล (กก) มีประโยชน์ช่วยบำบัดน้ำเสียได้ดี ช่วยปรับสมดุลนิเวศทางธรรมชาติ อีกทั้งส่วนต่างๆ ของต้นไหล (กก) ยังมีสรรพคุณเป็นสมุนไพรใช้รักษาโรคเช่น ลำต้น : มีรสจืดเย็น นำมาต้มเพื่อเอาน้ำดื่ม ช่วยรักษาโรคท่อน้ำดีอักเสบ ขับน้ำดี ใบ : มีรสเย็นเบื่อ นำมาตำเพื่อพอกฆ่าพยาธิบาดแผล หรือสามารถต้มนำดื่มจะช่วยฆ่าพยาธิ ฆ่าเชื้อโรคภายใน ดอก :มีรสฝาดเย็น นำมาต้มและนำน้ำมาอม ช่วยแก้แผลเปื่อยพุพองในปาก เหง้า : มีรสขม นำมาต้มเป็นน้ำดื่ม หรือบดเป็นผง ละลายน้ำร้อนดื่ม ช่วยบำรุงธาตุ เจริญอาหาร แก้เสมหะ ขับน้ำลาย และ ราก : มีรสขมเอียน ต้มน้ำดื่ม หรือตำกับเหล้า แล้วคั้นเอานำดื่ม ช่วยแก้ช้ำใน ขับโลหิตเน่าเสีย แก้ตกเลือดจากอวัยวะภายใน นางละมุน ทองเต็ม ปราชญ์ชาวบ้าน กล่าวว่า “การทอเสื่อมีอยู่หลายแบบ แต่อยู่ที่เราจะเลือกทอลาย มีทั้งลายตาหมารุก ลายขลิบมัดหมี่ ลายเสื่อทอสองหน้า ลายกรุ๊ปหมี่ ประยุกต์มาจากลายผ้าถุงเรานี่แหละ แต่ละลายที่ทำเกิดจากการสร้างสรรค์ออกแบบของผู้ทอแต่ละคน ทำให้ได้ลวดลายที่ไม่ซ้ำกัน มีความหลากหลาย สำหรับเสื่อลายหนองกระทุ่ม เป็นลายประจำหมู่บ้าน พี่เป็นคนคิดค้นเองจากลายหมอนขิด เมื่อนำมาให้สมาชิกในกลุ่มดูทุกคนบอกว่า ลวดลายบนหมอนขิดนั้น เป็นลวดลายที่มีความเป็นเอกลักษณ์สะท้อนถึงวัฒนธรรมท้องถิ่นอยู่กับคนไทยมานาน น่าจะนำมาดัดแปลงลวดลายให้มีเอกลักษณ์เฉพาะของหมู่บ้าน เหมาะที่จะนำไปทำเป็นของที่ระลึก ของฝาก และคิดว่าน่าจะเรียนรู้ที่จะช่วยกันทำลายนี้ได้ แต่ว่ายังไม่เคยทดลองทำกันจริงจัง พอมาถึงวันนี้ที่ทาง อินทัช เข้ามาทุกคนเลยได้โอกาสทดลองทำจริง จนตอนนี้เสื่อลายนี้ได้รับการยอมรับให้เป็นลายประจำหมู่บ้าน พี่รู้สึกภูมิใจมากค่ะ” คุณรัชฎาวรรณ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์ อินทัช กล่าวว่า “อินทัช เป็นสื่อกลางในการประสานความร่วมมือ รวบรวมความรู้จากแหล่งต่างๆ และเชื่อมตลาดเข้าหาชุมชนรวมถึงจัดหาอุปกรณ์จำเป็นเพิ่มเติม อาทิ กี่ทอเสื่อ จักรอุตสาหกรรมมาไว้ในศูนย์การเรียนรู้ฯ เพื่อให้สามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและมาตรฐานที่แตกต่าง สร้างจุดเด่นแก่ผลิตภัณฑ์ อาทิ อาสนะ แผ่นรองนั่ง ที่รองจาน ที่รองแก้ว เพื่อให้สามารถผลิตจำหน่ายได้เพียงพอต่อความต้องการของตลาดในอนาคต” หากคนในชุมชนเห็นคุณค่า ช่วยกันอนุรักษ์ และสืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นของบรรพบุรุษจะทำให้ ภูมิปัญญาการทอเสื่อยังคงอยู่สืบต่อสู่คนรุ่นหลัง ท่ามกลางกระแสความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และวัฒนธรรม ทำให้ชุมชนเกิดความภาคภูมิใจ และสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนอินทัช เชื่อมต่อโอกาส สร้างรากฐานที่แข็งแรง เพื่ออนาคตของสังคมไทย
« Last Edit: November 23, 2014, 04:54:17 PM by happy »
Logged