เมืองไทยประกันชีวิต เปิดตัว“โครงการเมืองไทยสุขใจวัยเก๋า” ชูจุดเด่นความคุ้มครองครบถ้วน ทั้งประกันชีวิตและอุบัติเหตุ
นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต “โครงการเมืองไทยสุขใจวัยเก๋า” พร้อมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาโครงการดังกล่าว โดยมีคุณวิทวัจน์ สุนทรวิเนตร์ เป็นพรีเซ็นเตอร์ ซึ่งมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายวัยเก๋าที่อายุตั้งแต่ 50-75 ปี ด้วยการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ให้ความคุ้มครองอย่างครบถ้วน ทั้งความคุ้มครองชีวิต และอุบัติเหตุต่างๆ โดยมีจุดเด่นของแบบประกันชีวิต ดังนี้
คุ้มครองคุ้มค่า : คุ้มครองชีวิตสูงสุดถึง 2 ล้านบาท* กรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุสาธารณะ*
สะดวกสบาย : ไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุแต่ละครั้งสูงสุดไม่เกิน 25,000 บาท* เพียงแค่ยื่นบัตร**
หายห่วง : รับเงินชดเชยรายวัน เมื่อรักษาตัวในโรงพยาบาล สูงสุดวันละ 2,500 บาท* และรับเพิ่มเป็น 2 เท่าเมื่อรักษาตัวในห้องไอซียู นานสูงสุด 7 วัน ต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้ง*** ผลประโยชน์รายวันรวมสูงสุด 365 วัน
คุ้มค่าสุดๆ : เบี้ยประกันภัยเริ่มต้นเพียง วันละ 7 บาท****
ซื้อง่าย : ไม่ต้องตรวจ และไม่ต้องตอบคำถามสุขภาพให้ยุ่งยาก
ตอบโจทย์ตรงใจ : รับประกันผู้ที่มีอายุ 50-75 ปี สำหรับวัยเก๋าที่มีความกังวลเรื่องความคุ้มครอง
สำหรับโครงการนี้ ผู้เอาประกันจะได้รับความคุ้มครองจนถึงครบอายุ 90 ปี ชำระเบี้ยประกันภัยถึงครบอายุ 90 ปี โดยสามารถเลือกแผนความคุ้มครองได้มากถึง 5 แผน พร้อมความยืดหยุ่นที่สามารถเลือกจ่ายเบี้ยประกันภัยได้ ทั้งแบบรายปีและรายเดือน นอกจากนี้ ในกรณีที่ผู้เอาประกันมีชีวิตอยู่จนถึงวันครบสัญญาก็จะได้รับเงินครบกำหนด 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัยอีกด้วย
* สำหรับแผน 5 / ความคุ้มครองในปีกรมธรรม์ที่ 1-2 รับ 102% ของเบี้ยประกันที่ชำระแล้ว และในปีกรมธรรม์ที่ 3 เป็นต้นไปรับจำนวนเงินเอาประกันภัย
** แสดงบัตรประจำตัวผู้เอาประกันคู่กับบัตรประชาชนเฉพาะโรงพยาบาลคู่สัญญาเท่านั้น
**** แผน 1 ความคุ้มครอง 30,000 บาท เพศหญิงอายุ 50 ปี / การพิจารณารับประกันเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
-เงื่อนไขเป็นไปตามที่ระบุในกรรธรรม์
-การพิจารณารับประกันเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด
สำหรับ ภาพยนตร์โฆษณาชุด “เมืองไทยสุขใจวัยเก๋า” นำเสนอจุดเด่นของกรมธรรม์ในด้านต่างๆโดยพรีเซ็นเตอร์ คุณวิทวัจน์ สุนทรวิเนตร์ ภายใต้แนวคิด ‘Begin Again หรือความสุขเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหลังเมื่อชีวิตหมดห่วง’ ผ่านไอเดียอยากมีชีวิตสุขใจ ด้วย“โครงการเมืองไทยสุขใจวัยเก๋า” ซึ่งจะมอบหลักประกันชีวิตแบบที่รวมเอาประกันชีวิตและอุบัติเหตุเข้าไว้ด้วยกัน สามารถสร้างความอบอุ่นและความมั่นใจให้กับพ่อแม่ว่าจะไม่เป็นภาระ ต่อตนเองและลูกหลาน โดยจะเริ่มออกอากาศเป็นครั้งแรกในวันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน ศกนี้
“ปัจจุบันประเทศไทยมีประชากรที่มีอายุสูงกว่า 65 ปีขึ้นไปคิดเป็นสัดส่วนที่ 9% และมีทิศทางที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 25% ของจำนวนประชากรทั้งหมดในปี 2583 (Source:Tracking Demographic Changes in Thailand and Policy Implications, UNFPA) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่ยุค “สังคมผู้สูงอายุ” อย่างเต็มตัวเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นให้คนตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพและการดำเนินชีวิตหลังการเกษียณ ทั้งนี้ ธุรกิจประกันชีวิตจะต้องมีส่วนร่วมและมีบทบาทเชิงรุกเพื่อรองรับต่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรไทยสู่ยุค Aging Society ที่กำลังจะมาถึง ดังนั้น บริษัทประกันจึงเริ่มมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับกลุ่มสูงวัยดังกล่าวออกมามากยิ่งขึ้นตามไปด้วย สำหรับเมืองไทยประกันชีวิตภายใต้แนวคิด “บริษัทของคนหัวคิดทันสมัย” จะยังคงเดินหน้าเติมเต็มทุกช่องว่างของทุกกลุ่มตลาดโดยมุ่งผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายด้วยการออกแบบประกันที่ตอบโจทย์และสอดคล้องกับความต้องการที่ครอบคลุมทุกช่องว่างในตลาด ควบคู่ไปกับการมุ่งเป็นผู้นำในการสร้างสีสันและความแปลกใหม่ให้กับธุรกิจประกันชีวิตไทย โดยในปีที่ผ่านมานับเป็นอีกหนึ่งปีแห่งความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจ สะท้อนได้จากรางวัลอันทรงเกียรติต่างๆ ที่ได้รับทั้งในระดับภูมิภาคเอเชีย อย่าง “รางวัลสุดยอดบริษัทประกันชีวิตแห่งปี 2014” (Life Insurance Company of The Year) จากการประกวด Asia Insurance Industry Award 2014 รางวัลสุดยอดแบรนด์แห่งปี หรือซุปเปอร์แบรนด์ ประจำปี 2014 (Superbrands Thailand 2014) ต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 8และล่าสุด คือรางวัล ‘บริษัทประกันชีวิตที่มีการบริหารงานดีเด่น อันดับ 1 ประจำปี 2556’โดยได้รับต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 เช่นเดียวกัน นับเป็นกำลังใจในการมุ่งมั่นเพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำด้วยคุณภาพมาตรฐานการบริหารงานภายใต้หลักธรรมาภิบาล ที่มีความมั่นคง แข็งแกร่ง และมุ่งมั่นสู่บริการที่เป็นเลิศ เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของผู้เอาประกันควบคู่ไปกับการแบ่งปันความสุขและรอยยิ้มผ่านการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่องต่อไป” นายสาระ กล่าวทิ้งท้าย.