JMT ซื้อ หนี้เสียเข้า พอร์ตเพิ่มอีก 6,458 ลบ.
หนุน พอร์ตบริหาร หนี้ทะลุเป้า อยู่ที่กว่า 5.7 หมื่น ลบ. จาก เดิมวางไว้ 5 หมื่น ลบ. JMT ซื้อ หนี้ทะลุเป้า !!! ล่าสุด เซ็นสัญญากับ บริษัทบริหาร สินทรัพย์แห่ง หนึ่งมูลค่า 6,458 ลบ. หนุนพอร์ตบริหารหนี้ ปัจจุบันอยู่ ที่ 5.7 หมื่น ลบ. เกิน เป้าหมายเดิม ที่วางไว้ 5 หมื่น ลบ. เรียบ ร้อยแล้ว แถมอยู่ระหว่าง ประมูลซื้อหนี้ เสียเข้าพอร์ต เพิ่มอีก 2 – 3 ดีล หนุน JMT แข็ง แกร่งในอนาคต “ปิยะ พงษ์อัชฌา” เชื่อผลงานปี 58 กำไร สุทธิโตตามเป้า 40 – 50% ได้ ไม่ยาก หลังผลงานไตร มาส 3/57 ออกมาสุดประทับใจ กำไร โต 110.21%
นาย ปิยะ พงษ์อัชฌา ประธานเจ้า หน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT ผู้ ประกอบธุรกิจ ให้บริการ ติดตามเร่งรัด หนี้ บริหารหนี้ด้อย คุณภาพระดับแนว หน้าของไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2557 บริษัท บริหาร สินทรัพย์เจ จำกัด บริษัทย่อยของ JMT ได้ ลงนามในสัญญา โอนสิทธิเรียก ร้องในหนี้ด้อย คุณภาพของสิน เชื่อส่วนบุคคล กับ บริษัทบริหาร สินทรัพย์แห่ง หนึ่ง โดยสัญญามีมูลค่าหนี้เท่ากับ 6,458 ล้าน บาท สนับสนุนการซื้อหนี้เข้ามาบริหารในปีนี้ของบริษัทฯ ให้เกินเป้า หมายที่วางไว้ โดยหนี้ก้อนดัง กล่าวเป็นหนี้ ที่บริษัทฯ ได้พิจารณาแล้ว ว่ามีคุณภาพ ได้รับอัตรา ผลตอบแทนที่ คุ้มค่าและสูง กว่าอัตราต้น ทุนทางการเงิน ของบริษัทฯ
ทั้ง นี้ จากการซื้อหนี้ ด้อยคุณภาพเข้า มาบริหาร ตั้งแต่ต้นปี ที่ผ่านมา แม้จะอยู่ใน ช่วงสถานการณ์ ทางการเมืองและ เศรษฐกิจที่ไม่ ดีเท่าไหร่นัก บริษัทฯ ก็สามารถเดิน หน้าซื้อหนี้ เสียเข้าพอร์ต เพิ่มได้อย่าง ต่อเนื่อง และมากกว่าปกติ จากเป้าหมาย เดิมจะซื้อหนี้ ด้อยคุณภาพเข้า มาบริหารในปี นี้เพิ่มอีก 20,000 ล้าน บาท สนับสนุนพอร์ตบริหารหนี้สิ้นปี 2557 ให้ อยู่ที่ 50,000 ล้าน บาท จากปี 2556 มี พอร์ตบริหาร หนี้อยู่ที่ ประมาณ 30,000 ล้าน บาท แต่ปัจจุบัน บริษัทฯ ซื้อหนี้ทะลุเป้าหมาย มีพอร์ตบริหาร หนี้อยู่ที่ กว่า 57,000 ล้าน บาทเรียบร้อย แล้ว ซึ่งถือว่าเป็น ทิศทางที่ดีของ บริษัทฯ ในการรับรู้รายได้จากหนี้ดังกล่าวอนาคต
ส่วน แนวโน้มผล ประกอบการในไตร มาส 4/2557 คาด ว่าจะเป็นช่วง ที่ดีที่สุดของ JMT ในปี นี้ บริษัทฯ มีทิศทางเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2557 ที่ ผ่านมาและช่วง เดียวกันของปี ก่อน จากการทยอยซื้อ หนี้เสียเข้า พอร์ตเพิ่ม อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นปี และบางส่วนจะเริ่มรับรู้เป็นรายได้ในช่วงปลายปี 2557 ส่วน การจัดเก็บหนี้ ก็สามารถทำได้ ดีเกินกว่าที่ คาดไว้ จึงมั่นใจ เป้าหมายกำไรสุทธิทั้งปี 2557 ที่ วางไว้ จะเติบโตอีก 40 - 50% จาก ปี 2556 อยู่ ที่ 75.08 ล้าน บาท จะเป็นไปตามนั้นได้ไม่ยาก
“เรา ซื้อหนี้เสีย เข้ามาบริหาร เพิ่มได้อย่าง ต่อเนื่อง จนทะลุเป้าหมาย เดิมที่วางไว้ ปัจจุบัน JMT มี พอร์ตบริหาร หนี้อยู่ที่ กว่า 5.7 หมื่น ล้านบาทเรียบ ร้อยแล้ว ประกอบกับ ตั้งแต่ไตรมาส 2/2557 เป็น ต้นไป บริษัทฯ เริ่มรับรู้ราย ได้เต็มจำนวน จากการตัดต้น ทุนหนี้ก้อนโต ก้อนแรกเสร็จ สิ้น อีกทั้ง ก่อนหน้านี้สามารถตัดต้นทุนหนี้เสียได้เพิ่มเติมอีก2 – 3 กอง ซึ่งเป็นกองไม่ ใหญ่มาก แสดงให้เห็นถึง ศักยภาพในการ จัดเก็บหนี้ของ เรา ปัจจัยเหล่านี้ เป็นส่วนสนับ สนุนรายได้และ กำไรของบริษัทฯ ที่จะเข้ามา อย่างแข็งแกร่ง ในอนาคต โดยหนี้ที่เราซื้อมาตั้งแต่ต้นปี จะทยอยรับรู้ เป็นรายได้ใน ช่วงปลายปีนี้ ส่วนหนึ่ง ส่วนหนี้ที่ ซื้อมาตั้งแต่ ช่วงกันยายน เป็นต้นไปจะรับ รู้รายได้ในปี หน้า ไม่หมดเท่านี้ บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างประมูลซื้อหนี้เสียเข้าพอร์ตเพิ่มเติมอีก 2 - 3 ดีล จึงมั่นใจว่าผล งานในปี 2557 ต่อ เนื่องไปจนถึง ปี 2558 จะ เป็นปีที่ดีของ เรา ” นายปิยะ กล่าว
สำหรับ ผลประกอบการไตร มาส 3/2557 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ เพิ่มขึ้นอยู่ ที่ 33.35 ลบ. จาก ช่วงเดียวกัน ของปีก่อนกำไร สุทธิอยู่ที่ 15.87 ลบ. คิด เป็นการปรับ เพิ่มขึ้น 17.49 ล้าน บาท หรือ 110.21% ส่วน ผลงานงวด 9 เดือน แรกของปี 2557 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ เพิ่มขึ้นอยู่ ที่ 76.76 ลบ. จาก ช่วงเดียวกันปี ก่อน กำไรสุทธิอยู่ ที่63.31 ลบ. คิด เป็นการปรับ เพิ่มขึ้น 13.45 ล้าน บาท หรือ 21.24% จากผลงานที่ออกมา บริษัทฯ มีกำไรเติบโต ขึ้นเป็นผล จากบริษัทฯ มีรายได้รวมเพิ่มขึ้น ซึ่งถือว่าเป็น ไปตามที่คาดไว้ เนื่องจากใน ช่วงที่ผ่านมา เราซื้อหนี้ เสียเข้ามาบริ หารอย่างต่อ เนื่อง และสามารถจัด เก็บหนี้ได้ตาม เป้าหมาย