PDG ปิด Q3 ที่ 157.788 ล้านบาท ลุยเดินหน้าธุรกิจรับ AEC มองตั้งโรงงานในประเทศเพื่อนบ้าน
บริษัท พรอดดิจิ จำกัด (มหาชน) หรือ PDG ผู้นำในธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภทขวด PET ปิดรายได้ไตรมาส 3 ที่ 157.788 ล้านบาท ลดลง 5.8% สาเหตุหลัก มาจากค่าใช่จ่ายที่เพิ่มขึ้นช่วงระดมทุน ทั้งนี้ คาดไตรมาสสุดท้ายผลประกอบการดี เนื่องจากเป็นช่วงสินค้าใหม่เริ่มเปิดตัว พร้อมลุยเดินหน้า ศึกษาข้อมูลเตรียมขยายโรงงานผลิตไปประเทศเพื่อนบ้าน
นายธงชัย ตันสุทัตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรอดดิจิ จำกัด (มหาชน) หรือ PDG ผู้นำในธุรกิจผลิต และจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภทขวด Polyethylene Terephthalate (PET) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตขวด PET รายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ เปิดเผยว่า “สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทมีรายได้รวมสุทธิ 157.788 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาเท่ากับ 167.351 ล้านบาท ลดลง 5.71% ส่วนต้นทุนขายของบริษัทฯ เท่ากับ 134.679 ลดลง 3.384 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.45% โดยกำไรสุทธิของบริษัทฯ อยู่ที่ 7.045 ล้านบาท ลดลง 6.183 ล้านบาท หรือคิดเป็น 46.74% ด้วยสาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายในการบริหารและการจัดกิจกรรมต่างๆ ในช่วงเข้าตลาดหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น 45.40% รวมถึงค่าใช้จ่ายในการขายอีก 5.025 ล้านบาท”
โดยในช่วงไตรมาสสุดท้าย ของปี 2557 นี้ ทางบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงปลายปีส่วนใหญ่จะเป็นช่วงที่คึกคักของผู้ประกอบการเพราะเป็นช่วงเทศกาลแห่งความสุข ผู้ประกอบการหลายรายเริ่มสั่งผลิตสินค้าบรรจุภัณฑ์รูปแบบใหม่ๆ เพื่อออกสินค้ากระตุ้นยอดขายช่วงปลายปี และเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าศึกษาข้อมูลในการลงทุนระยะยาวในอุตสาหกรรมขวดบรรจุภัณฑ์ รองรับความต้องการของผู้ประกอบการในตลาดอาเซียน อาทิพม่า, กัมพูชา และลาว
สำหรับการลงทุนในไทยนั้น บริษัทได้ขยายกำลังการผลิตขวด PET ในโรงงานที่จังหวัดนครปฐมจากเดิมมีกำลังการผลิตประมาณ 50 ล้านขวดต่อเดือน จะเพิ่มเป็นประมาณ 60 ล้านขวดต่อเดือน ซึ่งปัจจุบันโรงงานดังกล่าวมีพื้นที่ 17 ไร่ ซึ่งการขยายกำลังการผลิตดังกล่าวบริษัทใช้งบประมาณกว่า 110 ล้านบาท จะรองรับการขยายกลุ่มลูกค้าในประเทศที่ปัจจุบันมีจำนวน 150 ราย ได้ในระยะเวลา 2 ปี
