ตำนานพับนกที่โลกร่ำไห้...ซาดาโกะ...กระเรียนพันตัวhttp://webboard.mthai.com/7/2005-11-17/166633.html“นกกระดาษนั่นจะ ทำให้ฉันหายป่วยได้ ยังไง”
ซาดาโกะถาม ชิซูโกะเพื่อนสนิทซึ่งมาเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาลพร้อมด้วยนกกระเรียนที่พับขึ้นจากกระดาษสีทอง
“เธอจำตำนานเก่าแก่เกี่ยวกับเรื่อง นกกระเรียนไม่ได้หรือ... เขาเชื่อกันว่า.. นกกระเรียนนั้นจะมีอายุถึงพันปี ถ้าหากว่าคนที่เจ็บป่วย
สามารถพับนกกระเรียนได้ถึงพันตัว สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทำให้คนนั้นกลับมามีสุขภาพแข็งแรงอีกครั้งหนึ่ง”
ชิซูโกะยื่นนกกระเรียนกระดาษให้ซาดาโกะแล้วบอกว่า
“นี่คือนกกระเรียนตัวแรกของเธอ”
เด็กน้อยซาบซึ้งใจกับความปรารถนาดีของเพื่อน หลังจากนั้นซาดาโกะก็เริ่มต้นพับนกกระเรียนของเธอ
พร้อมๆ กับอธิษฐานว่า “ขอให้ฉันหายป่วย”
แต่ ซาดาโกะ ไม่หายจากอาการป่วย และ ไม่สามารถพับนกกระเรียนกระดาษได้ครบหนึ่งพันตัว ...
นั่นคือ เรื่องราวของซาดาโกะกับนกกระเรียนพันตัว ซึ่งเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเมื่อกว่า 40 ปีที่แล้ว แต่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานเพียงไร
เรื่องของเด็กผู้หญิงคนนี้กับสิ่งที่เธอทำก็ยังไม่เคยเลือนหายจากความทรงจำของผู้คนทั่วโลก
ซาดาโกะ ซาซากิ เกิดเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2486 ที่เมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น ต่อมาในวันที่ 6 สิงหาคม 2488
ขณะที่ซาดาโกะอายุได้ 2 ขวบ เครื่องบินของกองทัพสหรัฐอเมริกาก็ทิ้งระเบิดปรมาณูลูกแรกของโลกลงมาที่
เมืองฮิโรชิมา อีก 10 ปีให้หลัง ซาดาโกะก็กลายมาเป็นอีกคนหนึ่งที่เจ็บป่วยด้วยอาการโรคมะเร็งในเม็ดเลือดขาว
หรือลูคีเมีย ซึ่งเป็นพิษภัยจากระเบิดนิวเคลียร์นั่นเอง หลังจากที่ต้องต่อสู้กับโรคร้ายนี้อยู่นาน 8 เดือน
เด็กหญิงซาดาโกะก็เสียชีวิตลงในวันที่ 25 ตุลาคม 2498 ขณะอายุได้ 12 ปี
เมื่อเด็กน้อยผู้ร่าเริงคนที่ตั้งความหวังว่าจะเป็นนักวิ่งที่เก่งกาจต้องมาใช้ชีวิตอยู่บนเตียงโรงพยาบาล ซาดาโกะต่อสู้
กับโรคร้ายด้วยความเข้มแข็ง ในจิตใจของเธอเปี่ยมด้วยความหวังว่า ตัวเองจะต้องหายจากอาการป่วย เธอมุ่งมั่นที่
จะพับนกกระเรียนกระดาษให้ครบ หนึ่งพันตัวตามความเชื่อของคนญี่ปุ่นโบราณที่เล่าขานกันต่อๆ มา
เด็กหญิงซาดาโกะเสียชีวิตขณะที่เธอพับนกกระเรียนได้ 644 ตัว ในวันประกอบพิธีศพ เพื่อนๆ ของเธอร่วมกันพับนก
อีก 365 ตัว ให้ครบหนึ่งพันแล้วจึงนำไปฝังพร้อมกับร่างของ ซาดาโกะ อาจจะด้วยสิ่งที่เพื่อนๆ ช่วยกันทำนั่นเองจึงช่วย
ให้คำอธิษฐานของเธอเป็นจริงได้ เพราะ จนถึงวันนี้ซาดาโกะก็ยังคงมีชีวิตอยู่ในหัวใจของผู้คนทั่วโลกเสมอมา
ในปี 2501 อนุสาวรีย์ของซาดาโกะก็สร้างสำเร็จและนำไปตั้งไว้ที่สวนสันติภาพของเมืองฮิโรชิมา รูปปั้น ที่สร้างจากหิน
แกรนิตเป็นรูปของเด็กหญิงซาดาโกะยืนอยู่บนสวรรค์ ในมือที่เหยียดชูขึ้นสูงเป็นรูปนกกระเรียน สีทอง อนุสาวรีย์ของ
ซาดาโกะนี้ไม่เพียงเพื่อซาดาโกะ แต่เพื่อเธอเป็นอนุสรณ์ให้ชาวโลกตระหนักถึงพิษภัย ของสงคราม ทุกปีเมื่อถึง
วันที่ 6 สิงหาคม ซึ่งนับเป็น วันสันติภาพ ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศจะเดินทางมา พร้อมกับนกกระเรียนกระดาษมา
วางไว้หน้ารูปปั้นของ ซาดาโกะเพื่อระลึกถึงเธอและเพื่อภาวนาให้สันติภาพ เกิดขึ้นในโลก
เรื่องราวของซาดาโกะถูกนำเสนอผ่าน ตัวหนังสือและสื่ออื่นๆ แต่ที่โด่งดังและเป็นที่รู้จัก มากที่สุดคือ หนังสือเรื่อง
ซาดาโกะกับนกกระเรียน พันตัว หรือ Sadako and the Thousand Paper Cranes ของ อีลีนอร์ โคเออร์ สตรีชาวแคนาดา
ผู้ลุ่มหลงวัฒนธรรมของญี่ปุ่นอย่างยิ่ง โคเออร์เขียน เรื่องราวของซาดาโกะขึ้นจากหนังสือชื่อ โคเคชิ ซึ่งเพื่อนนักเรียนของ
ซาดาโกะนำจดหมายและ บันทึกของเธอมารวมเป็นเล่ม วรรณกรรมเรื่อง ซาดาโกะกับนกกระเรียนพันตัว ตีพิมพ์ครั้งแรกที่
สหรัฐอเมริกาในปี 2520 ปัจจุบันถูกตีพิมพ์เป็นภาษา ต่างๆ มากมาย
วรรณกรรมเรื่องซาดาโกะกับนกกระเรียนพันตัว กลายมาเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนได้ตระหนักถึงพิษภัยของสงคราม และทำให้
การพับนกกระเรียนกระดาษ ซึ่งเป็นความเชื่อของชาวญี่ปุ่นเป็นการอธิษฐานเพื่อให้ ผู้คนหายจากอาการเจ็บป่วย รวมทั้ง
เป็นสัญลักษณ์ แห่งการเรียกร้องหาสันติภาพอีกนัยหนึ่งด้วย
สำหรับผู้ที่มีโอกาสได้ไปเยือนอนุสาวรีย์ของซาดาโกะที่สวนสันติภาพของเมืองฮิโรชิมาก็จะได้พบว่า มีถ้อยคำที่กินใจ
จารึกไว้ที่ฐานของรูปปั้นว่า “นี่คือ คำร้องขอ ของเรา นี่คือ คำภาวนาของเรา สันติภาพจงบังเกิดขึ้นบนโลก...”
ในเดือนตุลาคมของปีหน้า จะเป็นวันครบรอบ 50 ปี ที่ซาดาโกะได้จากโลกนี้ไป แต่ดูเหมือนว่า ความปรารถนาของเธอ
และเพื่อนๆ รวมทั้งผู้รัก ความสงบสุขทั้งหลายยังไม่อาจเป็นความจริงได้ เมื่อสันติภาพที่ร้องขอและภาวนาให้บังเกิดยัง
มาไม่ถึง และสงครามยังคงมีอยู่ทุกมุมโลก
เรื่องราวของ ซาดาโกะและนกกระเรียนพันตัว จึงไม่เคยถูกลืมเลือน
และชาวโลกจะต้องพับนกกระเรียนกระดาษอีกกี่ตัว คำอธิษฐานจึงจะเป็นจริง ...