แคมเปญข้ามชาติ "Global Privilege Partnership"

สยามพิวรรธน์  มุ่งนำเสนอประสบการณ์แตกต่างที่ตรงใจจับมือค้าปลีกยักษ์ใหญ่ในประเทศท่องเที่ยวยอดนิยมระดับโลก“ผุดแคมเปญ Global Privilege Partnership” ข้ามชาติครั้งแรกของวงการค้าปลีกไทย





กรุงเทพมหานคร : 14 ตุลาคม 2557  บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เจ้าของสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และพาราไดซ์ พาร์ค จับมือ 5 พันธมิตรค้าปลีกยักษ์ใหญ่ในประเทศท่องเที่ยวระดับโลกได้แก่ ห้างสรรพสินค้า ลอตเต้ ประเทศเกาหลีใต้, ฮ่องกง ไทมสแควร์  ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน, ห้างสรรพสินค้า   โรบินสัน ประเทศสิงคโปร์, ห้างสรรพสินค้า ซัปโปโรปาร์คโก้ ประเทศญี่ปุ่น และ ห้างสรรพสินค้า แกเลอรี ลาฟาแยต ประเทศฝรั่งเศส ต้อนรับฤดูกาลแห่งการเฉลิมฉลองด้วยแคมเปญยิ่งใหญ่ระหว่างประเทศภายใต้ชื่อแคมเปญ Global Privilege Partnership  ด้วยสุดยอดแห่งประสบการณ์การช้อปปิ้งและสิทธิประโยชน์ที่เหนือระดับ  สำหรับนักช้อปชาวไทยและชาวต่างประเทศ  นับเป็นการสร้างปรากฏการณ์ครั้งแรกของวงการค้าปลีกไทย และตอกย้ำความเป็นผู้นำในการสร้างประสบการณ์แตกต่างที่ตรงใจให้กับผู้บริโภค

นางมยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสฝ่ายส่งเสริมธุรกิจ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เปิดเผยว่า ด้วยกลยุทธ์หลักของสยามพิวรรธน์คือการเป็นผู้นำความคิดสร้างสรรค์ที่ล้ำสมัยของวงการพัฒนาธุรกิจค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย โดยมุ่งเน้นนำเสนอคอนเซ็ปต์แปลกใหม่ในการพัฒนาโครงการต่างๆ การค้าปลีกชนิดใหม่ๆ และคอนเซ็ปต์ไลฟสไตล์ล้ำยุคหลายประเภท  ที่ไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทยหรือเป็นครั้งแรกในโลก ดังนั้นกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของศูนย์การค้าสยามพารากอน  สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และ พาราไดซ์ พาร์ค  จึงมุ่งมั่นที่สร้างกิจกรรมการตลาดที่น่าตื่นตาตื่นใจ  เป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกในประเทศไทยหรือเป็นประสบการณ์ระดับโลก  ตลอดจนการมอบบริการเหนือระดับและสร้างความประทับใจด้วยประสบการณ์แตกต่างที่ตรงใจให้แก่ผู้มาใช้บริการทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาเยี่ยมเยือนใช้บริการภายในศูนย์การค้าในเครือสยามพิวรรธน์อย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบันบริษัทฯ ได้จัดทำบัตรสมาชิก เพื่อมอบสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ใช้บริการ 2 บัตรสมาชิก ได้แก่ Platinum M Card (แพลตตินั่ม เอ็ม การ์ด) และบัตร VIZ Card (วิซ การ์ด) โดย บัตร Platinum M Card (แพลตตินั่ม เอ็ม การ์ด) สำหรับมอบสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ใช้บริการของศูนย์การค้าสยามพารากอน และบัตร VIZ Card (วิซ การ์ค) สำหรับมอบสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ใช้บริการของสยามเซ็นเตอร์  สยามดิสคัฟเวอรี่ และพาราไดซ์ พาร์ค โดยปัจจับันมีสมาชิกรวมทั้งสิ้น  120,000 (Platinum M Card 20,000 VIZ Card 100,000)ท่าน และเพื่อขยายฐานสมาชิกเพิ่มขึ้นโดยเจาะกลุ่มนักช้อปที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวด้วยแคมเปญ Global Privilege Partnership ที่จะเป็นเสมือนเพื่อนเดินทางร่วมเดินทางกับท่านสมาชิกทั่วโลก   

ครั้งแรกกับแคมเปญ Global Privilege Partnership ข้ามชาติของวงการค้าปลีกไทย

ครั้งแรกกับการผนึกกำลังร่วมกับพันธมิตรที่เราได้คัดสรรผู้นำในตลาดรีเทลของแต่ละประเทศท่องเที่ยวยอดนิยม ร่วมกันนำเสนอประสบการณ์ช้อปปิ้งสู่เวทีโลกที่เหนือระดับผ่านแคมเปญระดับประเทศ ภายใต้ชื่อแคมเปญ Global Privilege Partnership โดยจับมือ 5 พันธมิตรค้าปลีกยักษ์ใหญ่ในต่างประเทศ ซึ่งเป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลก ได้แก่ ห้างสรรพสินค้า ลอตเต้ ประเทศเกาหลีใต้,  ฮ่องกง ไทมสแควร์ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน, ห้างสรรพสินค้า โรบินสัน ประเทศสิงคโปร์, ห้างสรรพสินค้า ซัปโปโรปาร์คโก้ ประเทศญี่ปุ่น และ ห้างสรรพสินค้า แกเลอรี ลาฟาแยต ประเทศฝรั่งเศส ด้วยการมอบสิทธิประโยชน์ระดับพรีเมี่ยมให้กับสมาชิกของบัตร Platinum M Card (แพลตตินั่ม เอ็ม การ์ด) และบัตร VIZ Card (วิซ การ์ด) พร้อมทั้งสมาชิกผู้ถือบัตรของพันธมิตรค้าปลีกทั้ง 5 ราย จะได้รับสิทธิประโยชน์และการดูแลอย่างพิเศษแบบ VIP อย่างที่ท่านได้รับการดูแลในประเทศของท่าน ซึ่งปัจจุบันมีฐานสมาชิกรวมกันทั้ง 5 รายจำนวนกว่า 2 ล้านคนทั่วโลก   

คุณมยุรี กล่าวว่า “ทั้งนี้สยามพิวรรธน์มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นผู้นำในการจัดแคมเปญนี้พร้อมทั้งได้รับการไว้วางใจจากพันธมิตรที่ได้เลือกเราเป็น Exclusive Partner และเป็นตัวแทนในการนำเสนอการบริการและทำ CRM แบบไม่มีพรมแดนจากประเทศไทยเพื่อให้ลูกค้าผู้ถือบัตรได้สิทธิประโยชน์สูงสุด  โดยเรามองเห็นการร่วมมือแบบ Partnership และ Collaboration เพื่อพัฒนาและสร้างกลไกการกระตุ้นยอดใช้จ่ายจากต่างประเทศสู่ไทยให้มากยิ่งขึ้น ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าที่มาใช้บริการในศูนย์การค้าของสยามพิวรรธน์ เป็นลูกค้าในระดับ B ขึ้นไป มีกำลังการซื้อสูง มีไลฟ์สไตล์ที่ชอบการเดินทาง มีการใช้ชีวิตที่ทันสมัย ชื่นชอบนวัตกรรมแบบล้ำสมัย และคาดหวังในบริการเหนือระดับซึ่งตรงกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าที่ร่วมเป็นพันธมิตรในครั้งนี้ ดังนั้นแคมเปญนี้จะสามารถดึงดูดนักช้อปสมาชิกผู้ถือบัตรของพันธมิตรค้าปลีกจากประเทศต่างๆ เข้ามาจับจ่ายใช้สอยในศูนย์การค้าของสยามพิวรรธน์  โดยคาดการว่าจะมีจำนวนลูกค้าเข้าร่วมแคมเปญนี้ทั้งสิ้นประมาณ 400,000 คนต่อปี คิดเป็นเงินสะพัดจำนวนรวม 6,000 ล้านบาทต่อปี“

สำหรับสิทธิพิเศษเหนือระดับแบบ เอ็กซ์คลูซีพ สำหรับสมาชิก บัตร Platinum M Card (แพลตตินั่ม เอ็ม การ์ด) และบัตร  VIZ Card (วิซ การ์ด) สองบัตรในประเทศไทยที่ได้รับการต้อนรับอย่างดีเมื่อเดินทางท่องเที่ยวยังประเทศยอดนิยมทั้ง 5 อีกด้วย

โดยสิทธิประโยชน์ที่สมาชิกบัตร Platinum M Card และ VIZ card (black และ Titanium) พร้อมทั้งสมาชิก  ผู้ถือบัตรของพันธมิตรค้าปลีกทั้ง 5 รายที่เข้าร่วมโครงการนี้จะได้รับคือ ส่วนลดตั้งแต่ 5% - 50% จากร้านค้ากว่า 2,000 ร้านค้าในประเทศท่องเที่ยวยอดนิยมระดับโลก พร้อมบริการที่สุดพิเศษซึ่งอำนวยความสะดวกสบายสูงสุด ได้แก่บริการผู้ช่วยส่วนบุคคลที่จะคอยแนะนำบริการต่างๆ ภายในศูนย์การค้า เวลคัมกิ๊ฟสุดเอ็กซ์คูลซีฟมูลค่ากว่า 3,000 บาท และที่ขาดไม่ได้คือการใช้บริการ Exclusive Lounge  พรั่งพร้อมด้วยเครื่องดื่มเพื่อผ่อนคลายขณะช้อปปิ้ง โดยแคมเปญนี้จะเริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และคาดว่าจะขยายการให้บริการที่เหนือระดับเช่นนี้ไปยังประเทศต่างๆ เพิ่มขึ้นอีก 5 ประเทศ ภายในปี 2558

และในฐานะเจ้าของสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ ที่เป็นจุดหมายการเดินทางท่องเที่ยวชั้นนำระดับโลก บริษัทฯ ยังได้จัดเตรียมการต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศให้เกิดความประทับใจเมื่อมาใช้บริการด้วยสิทธิประโยชน์มากมาย อาทิ การจัดทำเวปไซต์สำหรับบริการนักท่องเที่ยวจากชาติต่างๆ ถึง 6 ภาษา ได้แก่ ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษารัสเซีย ภาษาญี่ปุ่น ภาษาเกาหลี และภาษาไทย เพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อสื่อสารกับนักท่องเที่ยว และยังร่วมเป็นพันธมิตรกับโรงแรมชั้นนำกว่า 60 โรงแรมทั่วประเทศในการมอบส่วนลดสุดพิเศษ อาทิ รับส่วนลดจากการใช้บริการ สปาสูงสุดถึง 50% เป็นต้น

“สำหรับแคมเปญ  Global Privilege Partnership นี้เป็นการจับมือกับพันธมิตรระดับประเทศชั้นนำที่มากที่สุด ซึ่งไม่เพียงแต่จะสามารถเพิ่มจำนวนทราฟิคของนักท่องเที่ยวที่มายังศูนย์การค้าสยามพารากอน  สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่เท่านั้น แต่ยังก่อให้เกิดการเพิ่มความคุ้มค่าในด้านสิทธิประโยชน์แก่สมาชิกบัตร Platinum M card และ VIZ Card อีกด้วย และแคมเปญนี้ยังเป็นการสร้างปรากฏการณ์ในการขับเคลื่อนให้วงการธุรกิจค้าปลีกของประเทศให้เกิดการตื่นตัว พร้อมทั้งดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทยสร้างการใช้จ่ายและเพิ่มรายได้ให้กับประเทศไทยอีกด้วย” นางมยุรี กล่าวเพิ่มเติม

ข้อมูล :
บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด
บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เป็นบริษัทพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2502 โดยได้รับสิทธิการเช่าส่วนหนึ่งของที่ดินอันทรงเกียรติจำนวน 72 ไร่ บนถนนพระรามที่ 1 จนถึงสี่แยกปทุมวัน กรุงเทพมหานคร โดยตลอดระยะเวลายาวนานกว่าครึ่งศตวรรษ บริษัทดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์อันยาวไกลของผู้บริหาร มีนโยบายการบริหารที่แน่วแน่ชัดเจน ในการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ที่มีคุณภาพสูงเพียบพร้อมสมบูรณ์แบบ นำเสนอแนวความคิด ที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำแบบใครเพื่อมุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวไทยบริษัทฯ ยึดหลักในการบริหารธุรกิจด้วยธรรมาภิบาล และมีศักยภาพทางการเงินที่แข็งแกร่ง ได้พัฒนาและบริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูงมีชื่อเสียงได้รับการยอมรับในระดับโลก และเป็นโครงการที่นับเป็นความภาคภูมิแห่งประเทศไทยมาโดยตลอด

•   ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์  ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2516 เป็นศูนย์การค้ามาตรฐานสากลแห่งแรกในประเทศไทยนับเป็นเวลากว่า 40 ปีแล้ว สยามเซ็นเตอร์เป็นหัวใจของวงการแฟชั่นที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของประเทศไทย และเมื่อต้นปี 2556 สยามเซ็นเตอร์เปิดตัวรูปโฉมใหม่ปฏิวัติวงการศูนย์การค้าและวงการค้าปลีกของโลก นำเสนอคอนเซ็ปต์ Ideaopolis เมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ ศูนย์กลางแห่งจินตนาการและงานสร้างไร้ขีดจำกัดในศาสตร์แห่งสุนทรีย์ของศิลปะ แฟชั่นเทคโนโลยี และไลฟ์สไตล์ ยกระดับกรุงเทพฯ ให้เป็นศูนย์กลางธุรกิจการค้าชั้นนำระดับโลก

•   ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่ ก่อตั้งขึ้นในปี 2540 เป็น Lifestyle Shopping Centre แห่งแรกของประเทศไทย และเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ่ แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

•   อาคารสำนักงานสยามทาวเวอร์ อาคารสยามทาวเวอร์เป็นอาคารสำนักงานเกรดเอความสูง 30 ชั้นใจกลางกรุงเทพฯ มีผู้เช่าประกอบด้วยบริษัทชั้นนำจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานที่มีผู้เช่าเต็มตลอด

•   ศูนย์การค้าสยามพารากอน  ศูนย์การค้าระดับโลกใจกลางกรุงเทพมหานคร ที่สร้างขึ้นด้วยงบประมาณกว่า 15,000 ล้านบาท เกิดจากการร่วมทุนของ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด และ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป เปิดให้บริการในปี พ.ศ. 2548 ประกอบไปด้วยพื้นที่กว่า 500,000 ตารางเมตร ครบถ้วนด้วยร้านค้าชั้นแนวหน้าของประเทศไทย และแบรนด์ระดับโลกกว่า 250 ร้านค้า อะควาเรียม โรงภาพยนตร์ และศูนย์การประชุมและศูนย์การแสดงนิทรรศการ นับเป็นโครงการแห่งความภาคภูมิใจของคนไทยที่ยิ่งใหญ่เพียบพร้อมสมบุรณ์แบบที่สุดแห่งหนึ่งในเอเซีย มีความสง่างามและมีมาตรฐานสูง เป็นจุดหมายการเดินทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ช่วยยดระดับกรุงเทพมหานครให้เป็น “World Class Shopping Destination” อย่างแท้จริง

•   ศูนย์การค้า พาราไดซ์ พาร์ค เป็นกิจการร่วมทุนมูลค่ากว่า 3,200 ล้านบาท ระหว่างบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กับบริษัท เอ็มบีเค จำกัด (มหาชน) โดยมีพื้นที่ใช้สอย 300,000 ตารางเมตร เต็มไปด้วยร้านค้าและแบรนด์ชั้นนำที่นำเสนอสินค้าแฟชั่นล่าสุด รวมถึงร้านอาหารและสถาบันเพื่อการเรียนรู้และความบันเทิงสำหรับเด็ก จับกลุ่มเป้าหมายผู้อยู่อาศัยในย่านถนนศรีนครินทร์ และกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก ด้วยส่วนผสมที่ลงตัวสำหรับตอบสนองความต้องการของครอบครัว และ คนทุกรุ่น

•   อภิมหาโครงการเมือง ไอคอนสยาม เป็นโครงการที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา โดยการร่วมทุนระหว่างบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น และเครือเจริญโภคภัณฑ์
ไอคอนสยามเป็นอภิมหาโครงการเมืองแห่งใหม่ที่เป็นปรากฏการณ์ ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 50 ไร่ของที่ดินผืนงามริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ประกอบด้วย 2 อาณาจักรศูนย์การค้าแห่งยุค ที่สุดของความอลังการล้ำเลิศ คอนโดมิเนียมที่พักอาศัยริมน้ำคุณภาพระดับโลกที่หรูหราสง่างาม 2 อาคาร และสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวแห่งใหม่ทั้ง 7 ที่จะเป็นปรากฏการณ์ใหม่ครั้งแรกในประเทศไทย โดยได้รับการขนานนามให้เป็น “7 สิ่งมหัศจรรย์แห่งไอคอนสยาม” ไอคอนสยามมีพื้นที่รวมทั้งสิ้น 750,000 ตารางเมตร มีด้านหน้าทอดยาวเลียบริมน้ำ และมีผืนน้ำโอบอุ้มทั้งสองฝั่งซ้ายขวาซึ่งมีระยะความยาวมากกว่า 400 เมตร  เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2560 ไอคอนสยามจะเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และเป็นสัญลักษณ์แห่งความภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 50,000 ล้านบาท ไอคอนสยามเป็นโครงการลงทุนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ภาคเอกชนไทยเคยทำมาในประวัติศาสตร์ประเทศไทย

ไอคอนสยามจะเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวแห่งใหม่ของประเทศไทย เพียบพร้อมและสมบูรณ์แบบ เปรียบเสมือนเมืองใหม่ และจะเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ ที่กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่พลาดไม่ได้ของประเทศไทย และจะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกและทั่วประเทศให้มาเยี่ยมเยือน

รางวัลและการรับรอง
จากความมุ่งมั่นในการบริหารงานอย่างมืออาชีพด้วยความคิดสร้างสรรค์ เพื่อนำเสนอความแปลกใหม่ให้กับชีวิต ธุรกิจในเครือของสยามพิวรรธน์จึงได้มีการพัฒนาทั้งด้านสถานที่และการบริการอย่างไม่หยุดนิ่ง จนประสบผลสำเร็จ นำมาซึ่งรางวัลและการรับรองจากองค์กรชั้นนำทั้งภาครัฐ และเอกชนในระดับประเทศ และระดับนานาชาติมากมาย ได้แก่

สยามเซ็นเตอร์
•   พ.ศ. 2550 ได้รับรางวัล ICSC Award Winner for Renovation Expansion of an Existing Project จาก International Council of Shopping Center (ICSC)
•   พ.ศ. 2551 ได้รับรางวัล ICSC Silver Award Winner for Marketing Excellence จาก International Council of Shopping Center (ICSC)
•   พ.ศ. 2556  ได้รับรางวัล Best Commercial Renovation / Redevelopment Thailand  "Siam Center Ideaopolis" จาก Asia Pacific Property Award
•   พ.ศ. 2556 ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10  Best Retail Store Design in Asia โดย Retail Asia Expo
•   พ.ศ. 2556 ได้รับรางวัล Asia Pacific Shopping Center Gold Award Winner "Marketing Positioning" จาก International Council of Shopping Center (ICSC)
•   พ.ศ. 2556 ได้รับการจัดอันดับให้เป็น No.1 of Top 10 Most Shopping Destinations โดย www.toptenthailand.com
•   พ.ศ. 2556 ได้รับรางวัล Best Party of the Year จากนิตยสาร Hiso Party
•   พ.ศ. 2557 ได้รับรางวัล VIVA Best-of-the-Best Awards honoree for Marketing จาก International Council of Shopping Centers (ICSC)

สยามดิสคัฟเวอรี่
•   พ.ศ. 2547 ได้รับรางวัลการบริหารจัดการใช้พลังงานดีเด่น โครงการอนุรักษ์พลังงานแบบมีส่วนร่วม จากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พ.พ.)
•   พ.ศ. 2556 ได้รับรางวัล Best Commercial Renovation / Redevelopment Thailand "Siam Discovery" Renovation จาก Asia Pacific Property Award

สยามพารากอน
•   พ.ศ. 2549 ได้รับรางวัล A New Shopping Mecca จาก Commercial Design Trends Magazine
•   พ.ศ. 2550 ได้รับรางวัล ICSC Award Winner for Innovative Design & Development of a New Project จาก International Council of Shopping Center (ICSC)
•   พ.ศ 2550 - 2554 และ พ.ศ. 2555 – 2557 ได้รับการรับรองมาตรฐานห้องน้ำสาธารณะเพื่อการท่องเที่ยวระดับสากล (Public Restroom Standard for Tourism International Level) จาก กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (Office of -Tourist Development, Ministry of Tourism and Sports of Thailand)
•   พ.ศ. 2553  ได้รับรางวัล รางวัลด้านประหยัดพลังงานและส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (Building Energy Awards of Thailand)  จาก กระทรวงพลังงาน และ รางวัล Good Building Practice จาก บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด (The Central Laboratory Thailand Company Limited)
•   พ.ศ.  2556 ได้รับ Superbrand Status for Excellence in Branding จากองค์กร Superbrands
•   พ.ศ.2556 ได้รับรางวัล The World's Most Photographed Location on Instagram จากการจัดอันดับของ Instagram
•   พ.ศ. 2556 ได้ทำลายสถิติโลกของเทศกาลคริสต์มาส กับ กินเนส เวิลด์ เรคคอร์ดส ด้วยการเรียงตัวของคนจำนวนกว่า 800 คน เป็นรูปต้นคริสต์มาสคนที่ใหญ่ที่สุดในโลก
•   พ.ศ. 2557 ได้รับรางวัล World’s top 25 Retailers for Special Service (Doorman)” จากนิตยสาร Monocle

ข้อมูล :
บริษัทพันธมิตร

•   ห้างสรรพสินค้า ลอตเต้  (LOTTE) ประเทศเกาหลีใต้ :  เป็นธุรกิจค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเกาหลีใต้ มีสาขาในประเทศจำนวน  43 สาขา และมี 8 สาขาในต่างประเทศ ได้แก่ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน (5), ประเทศรัสเซีย (1), ประเทศเวียดนาม (1) และประเทศอินโดเนียเซีย (1)

•   ฮ่องกง ไทมสแควร์ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน :  เป็นศูนย์การค้าแนวตั้งแห่งแรกในฮ่องกง ปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 9,000 คน และสมาชิกเข้ามาใช้บริการมียอดค่าใช้จ่ายเฉลี่ยประมาณ 20,000 เหรียญฮ่องกงต่อวัน

•   ห้างสรรพสินค้า โรบินสัน ประเทศสิงคโปร์ : ที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศสิงคโปร์ และมีเปิดให้บริการมายาวนานกว่า 150 ปี โดยมี 3 สาขาในประเทศ และ 1 สาขาในต่างประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย

•   ห้างสรรพสินค้า ซัปโปโรปาร์คโก้  ประเทศญี่ปุ่น : มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของประชาชนยาวนานกว่า 61 ปี และมีสาขาในทุกเมืองของประเทศญี่ปุ่น โดยมีสมาชิกบัตร ปาร์คโก้ จำนวนกว่า 1.6 ล้านคน

•   แกเลอรี ลาฟาแยต ประเทศฝรั่งเศส : ก่อตั้งเมื่อปี 1895 และเป็นห้างสรรพสินค้าระดับพรีเมี่ยมของประเทศฝรั่งเศส