enjoyjam.net » ภาพยนตร์ » ข่าวภาพยนตร์ (Moderators: happy, sianbun) » The Giver เดอะ กิฟเวอร์ พลังพลิกโลก กำหนดเข้าฉายวันที่ 23 ตุลาคมนี้ « previous next » Print Pages: [1] Go Down happy on September 29, 2014, 06:31:28 PM THE GIVERจัดจำหน่ายโดย HANDMADE DISTRIBUTION ชื่อภาพยนตร์ THE GIVER ชื่อไทย เดอะ กิฟเวอร์ พลังพลิกโลก ภาพยนตร์แนว Sci-Fi , Fantasyจากประเทศ ประเทศสหรัฐอเมริกากำหนดฉาย 23 ตุลาคม 2557ณ โรงภาพยนตร์ ทุกโรงภาพยนตร์ ผู้กำกับ PHILLIP NOYCE (ฟิลลิป นอยซ์)นักแสดงMERYL STREEP (เมอริล สตรีพ) รับบท CHIEF ELDER (หัวหน้าผู้อาวุโส) เธอตัดสินใจแทนผู้คนเพราะเชื่อว่านั่นคือความถูกต้องที่สุด• ผลงานที่ผ่านมา THE IRON LADY / MAMMA MIA!/ THE DEVIL WEARS PRADAJEFF BRIDGES (เจฟฟ์ บริดเจส ) รับบท THE GIVER (ผู้ให้) ผู้เขากุมความจริงแท้ที่รอวันถ่ายทอด• ผลงานที่ผ่านมา TRON:LEGACY / R.I.P.D. / IRON MAN / THE BIG LEBOWSKI BRENTON THWAITES (เบรนตัน ทเวทส์) รับบท JONAS (โจนาส) เด็กหนุ่มกับพลังที่จะเปลี่ยนโลกทั้งใบ• ผลงานที่ผ่านมา MALEFICENT / OCULAS / HOME AND AWAYS (TV SERIES)KATIE HOLMES (เคที โฮล์มส์) รับบท MOTHER (คุณแม่ของโจนาส) เธอเชื่อว่าทุกอย่างที่รับรู้คือความถูกต้องเสมอ • ผลงานที่ผ่านมา BATMAN BEGINS / THE ROMANTICS / HOW I MET YOUR MOTHER (TV Series) ALEXANDER SKARSGARD (อเล็กซานเดอร์ สการ์สการ์ด) รับบท FATHER (คุณพ่อของโจนาส) เขาเชื่อว่าทุกอย่างต้องเป็นอย่างที่ถูกกำหนดไว้เท่านั้น• ผลงานที่ผ่านมา BATTLESHIP / TRUE BLOOD (TV Series) / MELANCHOLIA TAYLOR SWIFT (เทย์เลอร์ สวิฟท์) รับบท ROSEMARY (โรสแมรี) เธอถือกุญแจความลับแห่งอดีต• ผลงานที่ผ่านมา TRUE BLOOD(TV Series) / THE FIRM (TV Series) / THE HUNGER GAMESODEYA RUSH (โอเดยา รัช)รับบท FIONA (ฟิโอน่า) เธอเชื่อว่าโลกนี้มีอะไรมากกว่าที่เธอรู้• ผลงานที่ผ่านมา The Odd Life Of Timothy Green / We Are What We Are CAMERON MONAGHAN (คาเมรอน โมนาแกน) รับบท ASHER (แอชเชอร์) เขาเชื่อและยึดมั่นในกฏอย่างไร้ข้อกังขา• ผลงานที่ผ่านมา Vampire Academy: Blood Sisters / Shameless(TV Series)เรื่องย่อ ภาพยนตร์ที่นำเสนอเรื่องราวของ โจนาส (เบรนตัน ทเวทส์) เด็กหนุ่มผู้ใช้ชีวิตอยู่ในโลกที่ดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบ และเต็มไปด้วยความมีระเบียบและความสุขแม้จะไร้ซึ่งสีสัน แต่เมื่อเขาเริ่มใช้เวลาอยู่กับ ผู้ให้ (เจฟฟ์ บริดเจส) ผู้เก็บรักษาความทรงจำทั้งมวลของชุมชนแห่งนี้ โจนาสก็ กลับเริ่มค้นพบความจริงที่สุดแสนจะอันตรายและมืดหม่นในอดีตที่ลึกลับของเมืองแห่งนี้ ด้วยพลังจากสิ่งที่เขาได้เรียนรู้ ซึ่งเขาก็ตระหนักว่าความเสี่ยงนั้นมากกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้เสียอีก เพราะมันเป็นเรื่องความเป็นความตายสำหรับตัวเขาเองและคนที่เขารักมากที่สุด แม้จะมีโอกาสน้อยเพียงไหนแต่โจนาสก็รู้ว่าเขาจะทำทุกวิถีทางถึงต้องหลบหนีออกจากโลกใบนี้ให้ได้เพื่อปกป้องทุกคนเขาก็จะทำมัน ซึ่งมันเป็นความท้าทายที่ไม่เคยมีใครทำสำเร็จมาก่อน ภาพยนตร์ THE GIVER สร้างจากนิยายสำหรับเยาวชนชื่อเดียวกันโดยโลอิส โลว์รี ซึ่งได้รับรางวัลนิวเบรี มีดัลปี 1994 และขายได้กว่า 10 ล้านก็อปปี้ทั่วโลก นำแสดงโดย เมอริล สตรีพ , เจฟฟ์ บริดเจส , เบรนตัน ทเวทส์ , เคที โฮล์มส์ , เทย์เลอร์ สวิฟท์ , อเล็กซานเดอร์ สการ์สการ์ด ฯลฯ จากผลงานการกำกับของ ฟิลลิป นอยซ์ เกี่ยวกับงานสร้างการพัฒนาเรื่อง The Giver นิยายไซไฟโดย โลอิส โลว์รี ทำยอดขายได้กว่าสิบล้านเล่มทั่วโลกและเป็นหนังสือ ebook ที่ขายดีที่สุดเล่มหนึ่งของสำนักพิมพ์ฮาร์เปอร์ คอลลินส์ ปัจจุบันนี้ นิยาย ‘เยาวชน’ กลายเป็นหนังสือที่นักเรียนมัธยมทั่วอเมริกาต้องอ่าน และมีฐานแฟนรุ่นเยาว์จำนวนมาก ภาพยนตร์เรื่อง THE GIVER เป็นเหมือนการทำความฝันที่ยาวนานยี่สิบปีให้กลายเป็นจริงสำหรับนักแสดง เจฟฟ์ บริดเจส ผู้ทำหน้าที่ผู้อำนวยการสร้างของเรื่องด้วย “…ลูกสาวผมได้อ่านหนังสือเรื่องนี้ และก่อนหน้าที่ผมจะรู้ว่าพวกเธอได้อ่านหนังสือเรื่องนี้ ผมก็มองหาหนังที่ผมจะสามารถกำกับ ลอยด์ บริดเจส พ่อของผมได้ แล้วผมก็อยากจะสร้างหนังที่ลูกๆ ผมในตอนนั้นสามารถดูได้ ผมพลิกดูแคตตาล็อกหนังสือสำหรับเด็กและผมก็เจอหน้าปกหนังสือวิเศษสุด ที่มีชายชราอยู่บนหน้าปกแล้วก็คิดว่า ใช่เลย พ่อฉันสามารถรับบทชายคนนั้นได้…” บริดเจส กล่าวว่า “…ผมคิดว่าจะได้อ่านหนังสือสำหรับเด็ก แต่มันเวิร์คมากสำหรับผู้ใหญ่ และมันต้องเป็นโปรเจ็กต์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับพ่อของผม…” บริดเจส ทำถึงขนาดที่ใช้กล้องวิดีโอของตัวเองถ่ายทำภาพยนตร์ทั้งเรื่อง ที่เขาได้กำกับพ่อของเขาในบทผู้ให้ และหลานชายของเขาในบท โจนาส เขาใช้เวลาหลายปีในการพยายามพัฒนาโปรเจ็กต์นี้ ที่ผ่านการแปลงโฉมหลายครั้งกับผู้กำกับและมือเขียนบทมากหน้าหลายตา กว่าสิบห้าปีที่แล้ว บริษัทที่ผู้อำนวยการสร้าง นิกกี้ ซิลเวอร์ กำลังทำงานอยู่ เป็นเจ้าของสิทธิหนังสือเรื่องนี้ ซิลเวอร์ยยอมรับว่าโชคดีที่เธอสามารถครอบครองสิทธินี้ด้วย ตอนนั้น บริดเจสและซิลเวอร์ก็เริ่มพัฒนาและหล่อเลี้ยงโปรเจ็กต์นี้ด้วยกัน รวมถึงพยายามประคับประคองให้มันอยู่รอดด้วย ซิลเวอร์ อธิบายว่า “…เจฟฟ์มีส่วนเกี่ยวข้องมาจนถึงตอนที่ฉันเจอโปรเจ็กต์นี้แล้วฉันก็โทรหาเขาถามว่าเขายังอยากจะสร้างมันรึเปล่า ซึ่งฉันก็ได้รับคำตอบว่า อยากและหลังจากนั้น ก็คือการเดินทางที่ยาวนานสำหรับฉัน, เจฟฟ์และนีลค่ะ มันยากเป็นพิเศษเพราะทุกคนรักและเคารพนิยายเรื่องนี้ แต่มันก็เป็นทั้งดราม่า และเป็นเรื่องสำหรับเด็กด้วย ซึ่งคำพวกนั้นทำให้หลายคนกลัว แต่ไวน์สตีน คัมปะนีก้าวเข้ามาแล้วเต็มใจที่จะเผชิญความท้าทายนี้กับเราค่ะ…” Logged happy on September 29, 2014, 06:49:48 PM ประวัตินักแสดงเมอริล สตรีพ รับบท หัวหน้าผู้อาวุโส เธอเริ่มต้นอาชีพนักแสดงบนเวทีละครนิวยอร์ก ที่ซึ่งเธอได้สร้างเอกลักษณ์ในฐานะนักแสดงอย่างรวดเร็ว ภายเวลาสามปีหลังจากที่เธอสำเร็จการศึกษา เธอก็ได้เปิดตัวบนเวทีบรอดเวย์ ได้รับรางวัลเอ็มมี (สำหรับ Holocaust) และได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์ (สำหรับ The Deerhunter) ในปี 2013 เธอได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลอคาเดมี อวอร์ดครั้งที่ 18 ซึ่งเป็นสถิติที่ไม่มีใครทาบได้ จากกาแสดงในบทไวโอเล็ต เวสตันในภาพยนตร์เรื่อง August: Osage Country การแสดงของเธอยังทำให้เธอได้รับรางวัลลูกโลกทองคำและได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลแซ็ก อวอร์ด หลังจากนี้ เธอจะได้แสดงในภาพยนตร์โดยทอมมี ลี โจนส์เรื่อง The Homesman, ภาพยนตร์โดยไวน์สตีน คัมปะนีเรื่อง The Giver, ภาพยนตร์ดิสนีย์เรื่อง Into the Woods และ The Suffragette ประกบแคร์รีย์ มัลลิแกนและเฮเลนา บอนแฮม คาร์เตอร์ หลังจากนี้ เธอจะเริ่มต้นถ่ายทำภาพยนตร์โดยเดียโบล โคดี้เรื่อง Ricki and the Flashเจฟฟ์ บริดเจส รับบท ผู้ให้ / ผู้อำนวยการสร้าง การแสดงของ เจฟฟ์ บริดเจส หนึ่งในนักแสดงที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในฮอลลีวู้ด และได้รับการเสนอชื่อชิงหกรางวัลอคาเดมี อวอร์ด ใน “Crazy Heart” ในบทแบ๊ด เบลค ทำให้นักแสดงคนดังผู้นี้ได้รับรางวัลออสการ์ครั้งแรกสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม นอกจากนั้น การแสดงครั้งนั้นยังทำให้เขาได้รับรางวัลลูกโลกทองคำ รางวัลแซ็ก อวอร์ดและรางวัลไอเอฟพี/สปิริต อวอร์ดสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม เขาได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์ในปี 1971 ในสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมในภาพยนตร์โดย ปีเตอร์ บ็อกดาโนวิชเรื่อง “The Last Picture Show” สามปีให้หลัง เขาได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมครั้งที่สองจากการแสดงในภาพยนตร์โดยไมเคิล ซิมิโนเรื่อง “Thunderbolt and Lightfoot” พอถึงปี 1984 เขาได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจาก “Starman” นอกจากนั้น การแสดงครั้งนั้นยังทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลลูกโลกทองคำอีกด้วย ในปี 2001 เขาได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลลูกโลกทองคำและได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่สี่จากการแสดงของเขาใน “The Contender” ทริลเลอร์การเมืองโดยร็อด ลูรีย์ จากนั้น เขาได้ร่วมงานกับพี่น้องโคเอนอีกครั้งในภาพยนตร์เวสเทิร์นชื่อดังเรื่อง “True Grit” ทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่หก ในเดือนเดียวกัน เขาได้แสดงในภาพยนตร์แอ็กชันผจญภัย 3D ที่หลายคนรอคอย “TRON: Legacy” เขาได้กลับมารับบทเควิน ฟลินน์ และเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เขาได้แสดงในแอ็กชันผจญภัยเหนือธรรมชาติเรื่อง “R.I.P.D” ประกบไรอัน เรย์โนลด์ส, เควิน เบคอนและแมรี-หลุยส์ ปาร์คเกอร์ สำหรับผู้กำกับโรเบิร์ต ชเวงค์เก้ ภาพยนตร์โดยมาร์ติน เบลเรื่อง “American Heart” (ประกบเอ็ดเวิร์ด เฟอร์ลอง ภายใต้การอำนวยการสร้างของแอสอิส โปรดักชันส์ บริษัทของบริดเจส) ภาพยนตร์เรื่องนั้นทำให้บริดเจสได้รับรางวัลไอเอฟพี/สปิริต อวอร์ดในปี 1993 สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม และในปี 2004 เขาได้แสดงประกบคิม บาซิงเจอร์ในภาพยนตร์ดังเรื่อง “The Door in the Floor” สำหรับผู้กำกับท็อดด์ วิลเลียมส์ และโฟกัส ฟีเจอร์ส ซึ่งทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลไอเอฟพี/สปิริต อวอร์ดสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม หนึ่งในสิ่งที่เจฟฟ์รักจริงๆ คือการถ่ายภาพ ระหว่างที่อยู่ในกองถ่าย เจฟฟ์ได้ถ่ายภาพเบื้องหลังของนักแสดง ทีมงานและโลเกชั่น ภาพถ่ายของเจฟฟ์ได้ลงนิตยสารหลายเล่ม หนังสือของเขา ที่ได้รับการยกย่องจากบรรดานักสะสม ไม่เคยถูกคิดว่าจะนำมาขาย แต่ในฤดูใบไม้ร่วงปี 2003 สำนักพิมพ์พาวเวอร์เฮาส์ บุ๊คส์ได้ตีพิมพ์ Pictures: Photographs by Jeff Bridges หนังสือปกแข็งที่รวมภาพถ่ายที่เขาถ่ายในโลเกชันถ่ายทำต่างๆ ในช่วงเวลาหลายปี ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ชื่นชม รายได้จากหนังสือเล่มนี้ถูกบริจาคให้กับกองทุนภาพยนตร์และโทรทัศน์ องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ที่ให้การดูแลและการสนับสนุนคนทำงานในแวดวงภาพยนตร์เบรนตัน ทเวทส์ รับบท โจนาส การก้าวขึ้นสู่ความโด่งดังของทเวทส์เริ่มต้นขึ้นในตอนที่เขาได้แสดงภาพยนตร์ปี 2012 ทางไลฟ์ไทม์ แชนแนลเรื่อง Blue Lagoon: The Awakening การแสดงที่โดดเด่นของเขาทำให้เขาได้รับเสียงวิจารณ์ชื่นชมและทำให้เขาสามารถคว้าบทเจ้าชายใน Maleficent ที่หลายคนหมายปองมาได้ ภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชันจากวอลท์ ดิสนีย์ที่เป็นการรีเมก Sleeping Beauty ซึ่งเขาได้แสดงประกบแองเจลินา โจลีและแอลล์ แฟนนิง เมื่อเร็วๆ นี้ เพิ่งมีการประกาศว่าเขาจะรับบทนำในภาพยนตร์เรื่อง Gods of Egypt ที่เขาจะนำแสดงประกบเจอราร์ด บัตเลอร์, นิโคลัจ คอสเตอร์-วัลเดาจาก Game of Thrones และเจฟฟรีย์ รัช หลังจากนี้ เขาจะได้ร่วมแสดงในทริลเลอร์อาชญากรรม Son of a Gun ในบทลูกศิษย์ของยวน แม็คเกรเกอร์ ตามด้วยภาพยนตร์ไซไฟเรื่อง The Signal ประกบลอว์เรนซ์ ฟิชเบิร์น นอกจากนี้ เขายังเพิ่งปิดกล้องภาพยนตร์โรแมนติกคอเมดีที่กำกับโดยเฮเลน ฮันท์อีกด้วย ความสามารถหลากหลาย พรสวรรค์และเสน่ห์เหลือล้นทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในนักแสดงหนุ่มที่เป็นที่จับตามองและได้รับเลือกสูงสุดในฮอลลีวูด เขาเริ่มต้นอาชีพนักแสดงในซีรีส์ออสเตรเลียเรื่อง Home and Away, SLiDE และ Sea Patrol เขาสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีควีนส์แลนด์ เขาเปิดตัวในโลกภาพยนตร์ในภาพยนตร์อินดีเรื่อง Charge Over You ปัจจุบัน เขาใช้ชีวิตอยู่ในลอสแองเจลิสอเล็กซานเดอร์ สการ์สการ์ด รับบท พ่อของโจนาส เขาเริ่มต้นอาชีพนักแสดงตั้งแต่อายุแปดขวบและทำงานในจอแก้วและจอเงินของสวีเดนอย่างสม่ำเสมอ สการ์สการ์ดได้ศึกษาการละครที่มหาวิทยาลัยลีดส์ เมโทรโพลิแทนในอังกฤษ และที่แมรีเมาท์ แมนฮัตตัน คอลเลจในนิวยอร์ก เขากลับไปสวีเดนและได้แสดงในละครหลายเรื่องที่ทำให้เขาเป็นดาราดังในประเทศบ้านเกิดของเขา การไปเยือนลอสแองเจลิสทำให้เขาได้รับบทในคอเมดีฮิตเรื่อง Zoolander (2001) ที่เขาได้แสดงประกบเบน สติลเลอร์และวิล เฟอร์เรล เขาแจ้งเกิดในอเมริกาได้ด้วยมินิซีรีส์ HBO เรื่อง Generation Kill (2008) การแสดงในบทนาวาเอกแบรด “ไอซ์แมน” โคลเบิร์ทได้สร้างความประหลาดใจให้กับทั้งนักวิจารณ์และผู้ชม หลังจากภาพยนตร์เรื่องนั้น สการ์สการ์ดก็ได้รับเลือกให้รับบท อีริค นอร์ธแมน แวมไพร์ไวกิ้ง อายุพันปี ในซีรีส์ฮิตทางเอชบีโอเรื่อง True Blood (2008) ในทันที โดยในซีรีส์นี้ เขาได้แสดงประกบแอนนา พาควินและสตีเฟน โมเยอร์ ซีรีส์นี้ประสบความสำเร็จด้วยบทคุณภาพ การแสดงยอดเยี่ยมและความหลงใหลแวมไพร์ของผู้ชม ปัจจุบัน True Blood จะเริ่มต้นซีซันที่เจ็ดในปี 2014 เมื่อเร็วๆ นี้ เขาเพิ่งแสดงในภาพยนตร์โดยฟ็อกซ์ เสิร์ชไลท์เรื่อง The East (2012) ที่กำกับโดยซัล แบทแมนกลิจและนำแสดงโดยบริท มาร์ลิงและเอลเลน เพจ, What Maisie Knew (2012) ที่กำกับโดยเดวิด ซีเกลและสก็อต แม็คกีฮีและนำแสดงโดยจูลีแอนน์ มัวร์และสตีฟ คูแกน, Disconnect (2012) ที่กำกับโดยเฮนรี อเล็กซ์ รูบินและแสดงประกบพอลลา แพตตัน, เจสัน เบทแมนและอังเดร ไรซ์โบโรห์ และ Hidden (2013) ที่เขาร่วมแสดงกับไรซ์โบโรห์ สำหรับวอร์เนอร์ บรอส. ภายใต้การกำกับของแมทท์ และรอส ดัฟเฟอร์ ผลงานภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ของเขาได้แก่ภาพยนตร์ยูนิเวอร์แซลเรื่อง Battleship , ภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลโดยลาร์ส วอน เทรียร์เรื่อง Melancholia ที่นำแสดงโดยเคิร์สเตน ดันส์และรีเมกโดยร็อด ลูรีย์เรื่อง Straw Dogs เคที โฮล์มส์ รับบท แม่ของโจนาส เคที โฮล์มส์ นักแสดงหญิงผู้ได้รับเสียงวิจารณ์ชื่นชมจากบทบาทหลากหลายบนเวทีละครและจอเงิน ได้แสดงในภาพยนตร์ที่โด่งดังหลายเรื่อง ตั้งแต่ภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์แอ็กชันเรื่อง Batman Begins ที่กำกับโดยคริสโตเฟอร์ โนแลน ไปจนถึงภาพยนตร์อาร์ตเฮาส์อย่าง The Ice Strom โดยอังลีและ Pieces of April โดยปีเตอร์ เฮดเจส เมื่อเร็วๆ นี้ เธอได้แสดงในคอเมดีตลกร้ายเรื่อง Miss Meadows ที่กำกับโดยคาเรน ลีห์ ฮ็อปกินส์ และเปิดตัวในงานเทศกาลภาพยนตร์ไทรเบกา หลังจากนี้ เธอจะได้แสดงในดรามายูโทเปียเรื่อง The Giver ประกบเมอริล สตรีพ และเจฟฟ์ บริดเจส ที่จะเข้าฉายในเดือนสิงหาคม ปี 2014 นอกจากนี้ เธอยังเป็นพรีเซนเตอร์และเจ้าของร่วมของแบรนด์อัลเทมา แฮร์ แคร์อีกด้วย ในปี 2012 เธอได้แสดงในละครบรอดเวย์เรื่อง Dead Accounts ประกบโนเบิร์ต ลีโอ บัทซ์ ก่อนหน้านี้ เธอได้เปิดตัวบนเวทีบรอดเวย์ในละครปี 2008 โดยอาร์เธอร์ มิลเลอร์เรื่อง All My Sons ซึ่งโฮล์มส์ได้แสดงประกบจอห์น ลิธโกว์, แพทริค วิลสันและไดแอน เวสต์ การแสดงในบทแอนของเธอได้รับเสียงวิจารณ์ชื่นชมอย่างล้นหลามและทำให้เธอโด่งดังในฐานะนักแสดงหญิงผู้ประสบความสำเร็จทั้งบนเวทีละครและจอเงิน อาชีพนักแสดงจอเงินของเธอเริ่มต้นในปี 1996 เมื่อเธอได้รับบท ‘ลิบเบ็ทส์ เคซีย์’ ประกบโทบี้ แม็กไกวร์และซิเกอร์นีย์ วีฟเวอร์ในดรามารางวัลโดยอังลีเรื่อง The Ice Storm นับตั้งแต่นั้นมา เธอก็ได้ร่วมงานกับนักแสดงและผู้กำกับที่โด่งดังที่สุดในฮอลลีวูดหลายคน ผลงานของเธอรวมถึงภาพยนตร์โดยเคอร์ติส แฮนสันเรื่อง Wonder Boys, ภาพยนตร์โดยเจสัน ไรท์แมนเรื่อง Thank You for Smoking, ภาพยนตร์โดยแซม ไรมีเรื่อง The Gift, ภาพยนตร์โดยสตีเฟน กาแกนเรื่อง Abandon, ภาพยนตร์โดยดั๊ก ลีแมนเรื่อง Go, ภาพยนตร์โดยโจเอล ชูมัคเกอร์เรื่อง Phone Booth, ภาพยนตร์โดยคีธ กอร์ดอนเรื่อง The Singing Detective, ภาพยนตร์โดยฟอเรสต์ วิทเทคเกอร์เรื่อง First Daughter, ภาพยนตร์โดยเควิน วิลเลียมสันเรื่อง Teaching Mrs. Tingle David Nutter’s Disturbing Behavior, ภาพยนตร์โดยดิโต้ มอนทีลเรื่อง The Son of No One ประกบอัล ปาชิโนและจูเลียต บินอช, ทริลเลอร์ที่อำนวยการสร้างโดยกุยเลอร์โม เดล โทโรเรื่อง Don’t Be Afraid of The Dark, ภาพยนตร์โดยชารี สปริงเกอร์ เบอร์แมน และโรเบิร์ต ปุลชินีเรื่อง The Extra Man ประกบจอห์น ซี. ไรลีย์, คอเมดีโดยเควิน ไคลน์, พอล ดาโนและโซนีเรื่อง Jack and Jill ประกบอดัม แซนด์เลอร์ นอกจากนั้น โฮล์มส์ยังได้ควบคุมงานสร้างและนำแสดงในภาพยนตร์โดยมือเขียนบท/ผู้กำกับ กอลท์ นีเดอร์ฮอฟเฟอร์เรื่อง The Romantics โรแมนติกดรามารวมดาราที่เธอแสดงประกบแอนนา พาควิน, จอช ดูฮาเมล, มาลิน เอเคอร์แมน, แคนดิซ เบอร์เกนและเอไลจาห์ วู้ดเทย์เลอร์ สวิฟท์ รับบท โรสแมรี เจ้าของเจ็ดรางวัลแกรมมี และเป็นผู้ชนะรางวัลที่ทรงเกียรติที่สุดในประวัติศาสตร์โลกดนตรี ซึ่งก็คือรางวัลแกรมมี อวอร์ดสาขาอัลบัมแห่งปี เธอเป็นศิลปินหญิงคนเดียวในประวัติศาสตร์ดนตรี (และเป็นศิลปินคนที่สี่) ที่มียอดขายอัลบัมพุ่งถึงระดับหนึ่งล้านก็อปปี้ภายในสัปดาห์แรกเป็นจำนวนสองอัลบัม (RED ในปี 2012 และ Speak Now ในปี 2010) อัลบัม RED ทำให้เทย์เลอร์กลายเป็นศิลปินคนแรกนับตั้งแต่เดอะ บีเทิลส์ (และศิลปินหญิงคนเดียวในประวัติศาสตร์) ที่มีอัลบัมสามชุดติดอันดับหนึ่งเป็นเวลาหกสัปดาห์หรือมากกว่าติดต่อกัน RED ติดอันดับหนึ่งในชาร์ตบิลบอร์ด 200 อัลบัมนานเจ็ดสัปดาห์ และมียอดขายสูงสุดเป็นอันดับสองสำหรับศิลปินหญิง ซิงเกิล “We Are Never Ever Getting Back Together” จากอัลบัม RED ของเธอ สร้างสถิติในฐานะเพลงที่ทำยอดขายทางดิจิตอลได้สูงสุดสำหรับศิลปินหญิง และทำยอดขายได้มากที่สุดในรอบสัปดาห์เป็นอันดับสอง สำหรับ RED เทย์เลอร์ได้สร้างสถิติใหม่สำหรับ iTunes ด้วยยอดขายสัปดาห์แรกสูงสุด และอัลบัมนี้ก็ติดอันดับหนึ่งในชาร์ต iTunes และชาร์ตเพลงใน 50 ประเทศ รวมถึงอังกฤษ แคนาดา บราซิล ญี่ปุ่น เม็กซิโก มาเลเซีย ไอร์แลนด์ อาร์เจนตินา นิวซีแลนด์ ไอร์แลนด์และออสเตรเลีย เทย์เลอร์ได้พากย์เสียง ออเดรย์ในภาพยนตร์ฮิตปี 2012 เรื่อง Dr.Seuss’ The Lorax และได้แต่งเพลงเอนด์เครดิต “Sweeter Than Fiction” สำหรับภาพยนตร์เรื่อง One Chance ภาพยนตร์ชีวประวัติของพอล พอตส์ ผู้ชนะรายการ Britain’s Got Talent นอกจากนี้ เธอยังได้แต่งเพลงสองเพลงให้กับซาวน์แทร็คภาพยนตร์เรื่อง The Hunger Games และได้รับรางวัลแกรมมี อวอร์ดสาขาเพลงยอดเยี่ยมที่แต่งสำหรับสื่อวิชวล รวมถึงได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลลูกโลกทองคำสาขาเพลงดั้งเดิมยอดเยี่ยมอีกด้วย เธอเป็นพิธีกรรายการ Saturday Night Live ได้แสดงในภาพยนตร์โดยแกร์รี มาร์แชลเรื่อง Valentine’s Day และรับบทดารารับเชิญในซีรีส์รางวัลเอ็มมีเรื่อง CSI Logged Print Pages: [1] Go Up « previous next » enjoyjam.net » ภาพยนตร์ » ข่าวภาพยนตร์ (Moderators: happy, sianbun) » The Giver เดอะ กิฟเวอร์ พลังพลิกโลก กำหนดเข้าฉายวันที่ 23 ตุลาคมนี้