MSN on September 26, 2014, 02:19:44 PM
แสนสิริกวาดยอดขายรวม 8,500 ล้านบาท จากการเจาะตลาดต่างชาติ ฮ่องกง สิงคโปร์และรัสเซีย รั้ง TOP3 ซื้อคอนโดแสนสิริสูงสุด  พร้อมเดินหน้าจัดกิจกรรมการตลาด  หวังขยายฐานลูกค้าต่างชาติเพิ่ม



          แสนสิริประสบความสำเร็จจากการรุกตลาดลูกค้าชาวต่างชาติ เผยปัจจุบันมียอดขายจากกลุ่มลูกค้าต่างชาติรวมแล้วกว่า 8,500 ล้านบาท ชี้ 8 เดือนแรกปีนี้กวาดไป 585 ล้านบาทโตกว่าปีก่อนถึง 460% เชื่อมั่นแตะเป้า 1,100 ล้านบาทในสิ้นปีนี้ได้แน่ ระบุความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองไม่กระทบความเชื่อมั่นในการลงทุนอสังหาฯ โดยลูกค้าต่างชาติที่ซื้อคอนโดมิเนียม แสนสิริสูงสุด คือ ฮ่องกง สิงคโปร์และรัสเซีย ห้องแบบ 1 – 2 ห้องนอนได้รับความนิยมสูงสุดใน กทม. ส่วนคอนโดมิเนียมต่างจังหวัดขายดีทุกขนาดหลังตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป้าหมาย พร้อมรุกจัดกิจกรรมและโปรโมชั่นช่วงไตรมาส 4 เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าต่างชาติต่อเนื่อง

          นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันแสนสิริมียอดขายรวมจากลูกค้าต่างชาติถึง 8,500 ล้านบาทหรือคิดเป็น 5% ของยอดขายรวมของแสนสิริทั้งหมดตั้งแต่อดีตจนถึง 31 สิงหาคม 2557 ซึ่งยอดขายนี้มาจากการขายคอนโดมิเนียม 1,500 ยูนิตแก่ลูกค้าต่างชาติจาก 55 ประเทศ โดยลูกค้าต่างชาติที่มียอดซื้อคอนโดมิเนียมสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ฮ่องกง 9.6% (820 ล้านบาท), สิงคโปร์ 5.6% (480 ล้านบาท), รัสเซีย 5.5% (470 ล้านบาท), อังกฤษ 4.7% (400 ล้านบาท) และฝรั่งเศส 4.3% (370 ล้านบาท) สำหรับยอดขายกลุ่มลูกค้าต่างชาติ 8 เดือนแรกของปี 57 อยู่ที่ 585 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ที่ 127 ล้านบาทหรือคิดเป็น 460%

          “แม้ช่วงปลายปีที่ผ่านมาจนถึงครึ่งปีแรกของปี 2557 ประเทศไทยจะประสบกับความไม่แน่นอนด้านการเมืองและเศรษฐกิจ แต่นักลงทุนชาวต่างชาติก็ยังลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยต่อเนื่อง เพราะกลุ่มคนเหล่านี้มีความเคยชินกับสถานการณ์ทางการเมืองของไทยและรับทราบว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงปัจจัยลบชั่วคราวเท่านั้น โดยเหตุผลหลักที่นักลงทุนต่างชาติเลือกลงทุนในอสังหาฯ เมืองไทย คือ ผลตอบแทนจากการลงทุนในระดับสูง ราคาอสังหาฯ ที่ต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับสิงคโปร์และฮ่องกง เสน่ห์ของเมืองไทย และราคาอสังหาฯ ที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปี”

          นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า กลุ่มลูกค้าต่างชาติที่ซื้อโครงการของแสนสิริมีความแตกต่างกันตามทำเล เช่น ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลจะเป็นผู้ซื้อเพื่อลงทุน ขณะที่ในเมืองท่องเที่ยวจะเป็นการซื้อเพื่อเป็นบ้านหลังที่สองและอยู่อาศัยระยะยาวเพื่อทำงานหรือเกษียณอายุ เป็นต้น โดยคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ห้องที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ ห้องแบบ 1 และ 2 ห้องนอนที่ตกแต่งพร้อมปล่อยเช่าในคอนโดมิเนียมใกล้รถไฟฟ้า ส่วนคอนโดมิเนียมในเมืองตากอากาศห้องที่ขายได้ดีจะมีตั้งแต่สตูดิโอไปจนถึงเพนท์เฮ้าส์เพราะกลุ่มลูกค้ามีความหลากหลายทั้งในเรื่องงบประมาณการซื้อและวัตถุประสงค์ของการลงทุน ทั้งนี้ จุดเด่นของแสนสิริที่ดึงดูดให้นักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุน คือ การเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่ให้บริการครอบคลุมถึงการบริหารจัดการโครงการที่พักอาศัยและการให้บริการซื้อ-ขาย-ปล่อยเช่า เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งการันตีว่าการลงทุนในอสังหาฯ จะมีแต่เพิ่มมูลค่าและให้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีต่อเนื่องในระยะยาว

          “จากการรุกตลาดต่างชาติในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่ายังมีดีมานด์ความต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยของชาวต่างชาติอีกมาก ดังนั้น แสนสิริจะเดินหน้าเพิ่มฐานลูกค้ากลุ่มนี้อย่างต่อเนื่องต่อไป โดย ในช่วง low-season เราจะจัดโรดโชว์เดินสายโปรโมทโครงการในต่างประเทศ เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ และมาเลเซีย ซึ่งปีนี้เราได้ไปโรดโชว์ยังตลาดใหม่ คือ จีนแผ่นดินใหญ่และรัสเซียหลังจากเริ่มเห็นกำลังซื้อของกลุ่มนักลงทุนในประเทศเหล่านั้น ทั้งนี้ การโรดโชว์ในแต่ละครั้งก็ประสบความสำเร็จในด้านยอดขายและยอดผู้เข้าชมตามที่เราวางเป้าไว้ด้วยจำนวนคนเข้าชมโรดโชว์วันละ 50 – 100 คนและยอดขายประมาณ 100 – 200 ล้านบาทต่อโรดโชว์หนึ่งครั้ง นอกจากนั้น ในช่วง high-season ซึ่งเป็นฤดูท่องเที่ยวของประเทศไทยในช่วงไตรมาส 4 เรามีการจัดกิจกรรมทางการตลาดและมอบโปรโมชั่นพิเศษแก่ลูกค้าต่างชาติ รวมทั้งจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ เช่น เอเจนซี่ในต่างประเทศให้นำลูกค้าต่างชาติมาเยี่ยมชมโครงการ และอีลิทการ์ด (Elite Card) เพื่อมอบสิทธิประโยชน์และเอกสิทธิ์เหนือระดับแก่ลูกค้าของแสนสิริ เป็นต้น ซึ่งแสนสิริเชื่อมั่นว่ายอดขายจากกลุ่มลูกค้าต่างชาติในปีนี้จะอยู่ที่ 1,100 ล้านบาทตามที่เราวางเป้าได้แน่นอน” นายเศรษฐา กล่าวสรุป
« Last Edit: September 26, 2014, 02:53:03 PM by MSN »

MSN on September 26, 2014, 02:54:17 PM
Sansiri has achieved 8.5 Billion Baht in total sales from foreign buyers with Hong Kong, Singapore and Russia being the Top 3 source countries buying Sansiri condo properties  The developer continues to expand its foreign customer base with a host of exciting marketing campaigns



          Sansiri announced great success in attracting foreign buyers, with total sales of over 8,500 million baht (US$266 million) having been generated to date from this segment alone. The company further unfolds that a total sales of 585 million baht (US$18 million) have been achieved during the first eight months of 2014, a remarkable surge of 460% from last year. Sansiri is confident in reaching a sales goal of 1,100 million baht (US$34.5 million) by the end of this year. The economic and political volatility is believed to have no effect on the customer confidence in local property investment. To date, the top foreign buyers of Sansiri condominiums are from Hong Kong, Singapore and Russia. One and two bedrooms are found to be the most popular unit types for the buyers of properties in Bangkok while demand in other provinces, particularly in key resort areas, extends to all unit sizes due to various preferences. A range of stimulating marketing activities and offers are set to be launched in Q4 to continuously expand its foreign customer base.

          Mr. Srettha Thavisin, President of Sansiri Public Company Limited, disclosed that, “Sansiri has enjoyed total sales of 8,500 million baht (US$26 million) generated from foreign buyers alone, which amounts to 5% of our total sales from the past to 31st August 2014. Such a figure is the sales achieved from 1,500 condominium units sold to customers from 55 countries, with our top five buyers being from Hong Kong 9.6% (820 million baht or US$256 million), Singapore 5.6% (480 million baht, or US$15 million), Russia 5.5% (470 million baht, or US$15 million), England 4.7% (400 million baht, or US$12.5 million) and France 4.3% (370 million baht or US$11.5 million), respectively. Sales achieved from this market segment alone during the past eight months of 2014 closed at 585 million baht (US$18 million), up 460% from the same period last year, which was at 127 million baht (US$4 million).”

          Mr. Srettha continued, “Although Thailand has experienced economic uncertainty as a result of political unrest starting from the end of last year to the middle of this year, foreign investors still show strong confidence in property investment in Thailand. These investors are accustomed to our political situations and are well aware that such negative economic factors were only temporary. Overseas buyers have selected Thailand as their property investment destination because of the high rates of Return on Investment and the highly competitive prices of properties in comparison to Singapore and Hong Kong, among other places. Other factors are attractive characteristics known to foreigners of Thailand along with the fact that the property value here goes up every year.”

          The president noted further that purchasing purposes of foreign buyers vary according to their chosen locations. The developments located in Bangkok and surrounding provinces were purchased for investment while those in upcountry serve as a second home and a residence for a long-term stay, either as a workplace or a post-retirement retreat. In terms of unit types, fully-furnished one and two bedrooms with close proximity to the Skytrain are the most desirable types in Bangkok. In resort cities, however, all room types, ranging from studios to penthouses, have received an upbeat response due to various customer demands, which differ both in location, budget and investment purposes.

          One of the strengths of Sansiri that have attracted global investors is the fact that it is the only fully-integrated property developer in Thailand which offers a comprehensive range of professional services including buying, re-selling, renting, as well as, managing quality residential developments. Customers can therefore be rest assured that their investment in property will only increase in value and gain an impressive ROI continuously in the long term.

          “Our foreign buyer market over the past two years has shown an increase in demand for properties in Thailand. Sansiri has continued to expand this customer base to keep up with such high demand. During the off-season, we organised roadshows to promote our developments abroad, such as in Hong Kong, Singapore and Malaysia, and other markets. Also, since last year, we have shifted our focus to capture new markets, such as mainland China and Russia, where strong purchasing power coupled with high, incoming tourist traffic is prevalent. These roadshows successfully reached targets both in terms of sales figures and the number of participants. Each roadshow event accommodated around 80 – 100 participants and generated approximately 100 – 200 million baht (US$3-6 million) in sales per event. For the high season in the fourth quarter, which is the peak tourist season in Thailand, we have created a broad range of special campaigns and promotions exclusively for overseas customers. A host of benefits and extra privileges including those of the ‘Elite Card’ are offered to Sansiri customers. Furthermore, we have cooperated with international business partners in arranging visits to our property developments. Lastly, we are confident that a sales target of 1,100 million baht (US$34.5 million) set to be gained from the foreign buyer market this year will definitely be achieved,” concluded Mr. Srettha.