คิงเพาเวอร์ จัดงานเปิดตัวแคมเปญการตลาด สโมสรเลสเตอร์ซิตี้ ครั้งใหญ่“จิ้งจอกสยาม อะคาเดมี่”
สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ “ทีมของคนไทย ความภูมิใจของไทย” แห่งพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ภายใต้การบริหารงานของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ นำโดย อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา รองประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้เปิดสัมภาษณ์พิเศษต่อสื่อมวลชน ในงาน “Leicester Talk” เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเปิดแคมเปญใหญ่ “จิ้งจอกสยาม อะคาเดมี่” ค้นหานักเตะเยาวชนสายพันธุ์ไทย เข้าไปเรียนรู้และฝึกฝนความเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพในระดับสากลที่เลสเตอร์ อะคาเดมี่ ประเทศอังกฤษ
จากที่กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ประสบความสำเร็จในธุรกิจสินค้าปลอดอากร จนเป็นที่รู้จักทั้งในและต่าง ประเทศมานานกว่า 25 ปี ทางด้านกีฬา คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้ให้ความสนใจและชื่นชอบฟุตบอลเป็นอย่างมาก จึงได้เข้าซื้อกิจการของสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2553 พร้อมดำรงตำแหน่งประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ โดยมี อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ดำรงตำแหน่งรองประธานสโมสรฯ ภายใต้เป้าหมาย จะนำพาทีมเลื่อนชั้นจากลีกเดอะแชมเปี้ยนชิพ สู่การแข่งขันในระดับพรีเมียร์ ลีก ซึ่งต่อมาในปี พ.ศ. 2557 ทีมเลสเตอร์ ซิตี้ ก็ได้คว้าแชมป์ในลีก เดอะ แชมเปี้ยนชิป อังกฤษ และเลื่อนชั้นขึ้นสู่พรีเมียร์ ลีก อย่างเต็มภาคภูมิ ภายในระยะเวลา 3 ปีครึ่ง ด้วยผลคะแนนสูงสุด 102 คะแนน
อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา รองประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ เปิดเผยว่า “สำหรับปีนี้ ทางสโมสรได้เลื่อนชั้นมาเล่นในพรีเมียร์ ลีก นับว่าเป็นความภูมิใจถึงจะเป็นทีมน้องใหม่ที่เลื่อนชั้นขึ้นมา แต่เป้าหมายหลักสำหรับปีนี้ ทีมต้องอยู่รอดในพรีเมียร์ลีก ซึ่งในปีต่อไปทีมก็จะมีความเสถียรมากขึ้น สามารถดึงนักเตะมาร่วมทีมได้มากขึ้นด้วย”
“อีกหนึ่งเป้าหมายของทีม คือ การสร้างความฝันที่จะเห็นเยาวชนไทยได้มีโอกาสเข้าไปเล่นในฟุตบอลมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็นลีกอังกฤษ หรือ ลีกยุโรปต่างๆ ซึ่งศูนย์ฝึกอะคาเดมี่ของเลสเตอร์ นับว่าเป็น 1 ใน 10 ศูนย์ฝึกที่ดีที่สุดในประเทศอังกฤษ นับว่าเป็นโอกาสที่ดีของเยาวชนไทยที่จะได้มีโอกาสเข้าไปฝึกฝนและเรียนรู้ทักษะฟุตบอลแบบมืออาชีพ เด็กไทยทุกคนที่ไปจะซ้อมอยู่กับทีม U16 เหมือนกับเด็กทุกคนที่อยู่ในอะคาเดมี่ของสโมสร รวมถึงการจัดคอร์สเรียนหนังสือระดับ High School ให้อีกด้วย ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในโครงการ”
สำหรับโครงการ “จิ้งจอกสยาม อะคาเดมี่” จะเปิดรับสมัครเยาวชนไทยทั่วประเทศอายุไม่เกิน 16 ปี เข้าร่วมโครงการ โดยจะเปิดรับสมัครและคัดเลือกรอบแรกจาก 5 ภาค จำนวน 110 คน หลังจากนั้นจะมีการคัดเลือกรอบสุดท้าย ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่จากเลสเตอร์อะคาเดมี่ประเทศอังกฤษบินตรงคัดเลือกเหลือเพียง 16 คน ที่จะได้เข้าไปอยู่ในอะคาเดมี่ โดยเยาวชนที่ได้รับการคัดเลือกจะต้องอยู่ที่อังกฤษระยะเวลา 2 ปี ครึ่ง ซึ่งมีแผนที่จะเปิดโครงการนี้อย่างเป็นทางการต้นเดือนตุลาคมนี้”