MSN on August 22, 2014, 07:57:18 AM
พบกับ “Bangkok Fashion Avenue 2014” ปรากฏการณ์ทางแฟชั่นรูปแบบใหม่ กับ 5 ย่านการค้าแฟชั่นใจกลางเมือง







กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เตรียมจัดงาน “บางกอก แฟชั่น อเวนิว 2014” (Bangkok Fashion Avenue 2014) เพื่อสร้างการตื่นตัวในอุตสาหกรรมแฟชั่น และกระตุ้นผู้บริโภคทั้งไทยและเทศ ให้ทราบถึงศักยภาพย่านการค้าแฟชั่นในกรุงเทพฯ โดยสร้างปรากฏการณ์การแสดงแฟชั่นรูปแบบใหม่ ที่เชื่อมโยงระหว่าง “แฟชั่น คน และสถานที่” เข้าด้วยกัน ภายใต้ธีม “Everywhere is Fashion” ใน 5 ย่านการค้าแฟชั่นได้แก่ จตุจักร, บางลำพู, ประตูน้ำ, สุขุมวิท และสยามสแควร์ ระหว่างเดือนกันยายน – พฤศจิกายน 2557 โดยมีนิตยสารแฟชั่นชั้นนำ แอล (ELLE),  แมรี แคลร์ (MarieClaire) และแอล เมน (ELLEMen)   เป็นผู้นำในการจัดแฟชั่นโชว์ในรูปแบบต่างๆ พร้อมจัดกิจกรรม  “แฟชั่น บิสซิเนส ฟอรัม” (Fashion Business Forum) จัดสัมมนาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจ โดยภายในงานแถลงข่าวมีเหล่ากูรูด้านแฟชั่น   และดีไซเนอร์แบรนด์ไทยชื่อดัง อาทิ พลพัฒน์ อัศวะประภา  ดีไซเนอร์แห่งแบรนด์ ASV และ ASAVA, ขวัญข้าว เศวตวิมล แห่งแบรนด์ KWANKAO, มิลิน ยุวจรัสกุล ดีไซเนอร์แบรนด์ MILIN  และภูภวิศ กฤตพลนารา เจ้าของแบรนด์ ISSUE มาร่วมงาน ณ  โรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท กรุงเทพฯ 

ดร.อรรชกา สีบุญเรือง อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยที่มาของกิจกรรมว่า “จากสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมจึงตระหนักถึงความสำคัญในการสร้างความตื่นตัวให้วงการอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย โดยร่วมงานกับหน่วยงานภาคเอกชน และผู้ประกอบการรายย่อยทั้งหลาย จัดกิจกรรม Bangkok Fashion Avenue 2014 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการตอกย้ำกรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางแฟชั่น ในปัจจุบันนี้การเทียบจัดอันดับของเมืองแฟชั่น กรุงเทพฯ อยู่ในอันดับ 29 ของโลก และในเอเซียเราจะเป็นลำดับ 5 รองจาก โตเกียว เซี่ยงไฮ้ ฮ่องกง และสิงคโปร์ ตามลำดับ จึงอยากเร่งพัฒนาเพื่อก้าวสู่อันดับต้นๆ ของเอเซีย ด้วยการจัดกิจกรรมต่างๆ และพัฒนาอุตสาหกรรมแฟชั่นทั้ง 3 สาขา ซึ่งได้แก่ อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม อุตสาหกรรมเครื่องหนังและรองเท้า และอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ โดยการมุ่งเน้นสร้างการรับรู้ และสร้างกระแสความนิยมให้กับผู้บริโภคทั้งในประเทศและนักท่องเที่ยวให้ทราบว่าเมืองไทยนอกจากจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติแล้ว ยังมีแหล่งแฟชั่นและ สินค้าแบรนด์ไทยที่มีรูปแบบเป็นเอกลักษณ์แต่แฝงไปด้วยความทันสมัย พร้อมตั้งเป้าประเทศไทยเป็น สวรรค์แห่งการช้อปปิ้ง (Fashion Shopping Paradise)”

สิริมน ณ นคร กรรมการผู้จัดการ บริษัท โพสต์ อินเตอร์เนชั่นแนล มีเดีย จำกัด ผู้ดำเนินโครงการในครั้งนี้ เผยถึงรูปแบบกิจกรรมที่จะจัดขึ้นว่า “การจัดงานในครั้งมีคอนเซ็ปต์ว่า Everywhere is Fashion เพราะแฟชั่นอยู่รอบตัวเรา ทุกๆ ที่สามารถเป็นแรงบันดาลใจในเรื่องของแฟชั่น จึงนำแฟชั่นเข้าไปหาทุกคนตามสถานที่ต่างๆ ที่เราจะจัดแฟชั่นโชว์ ซึ่งแต่ละย่านนั้นก็มีเอกลักษณ์ ความโดดเด่น ที่ไม่เหมือนกัน จึงนำมาสร้างเป็นคอนเซ็ปต์แฟชั่นโชว์ของแต่ละแห่ง พร้อมทั้งยังสร้างความสุขร่วม ด้วยการนำแฟชั่นมาเชื่อมโยงกับดนตรีเข้าไว้ด้วยกัน โดยนำวงดนตรีแนวหน้าของไทยมาร่วมโชว์ เพื่อให้โชว์นั้นมีความสนุกสนานมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงเท่านี้ วงดนตรีที่เล่นนั้นจะเป็นวงที่มีเอกลักษณ์ตรงกับคอนเซ็ปต์แต่ละย่าน โดยย่านแรก จตุจักร เป็นสถานที่ที่มีความหลากหลาย ที่เรียกว่าเป็นเวิลด์คลาสช้อปปิ้ง สไตล์แฟชั่นเสื้อผ้า อยากได้แบบไหน ที่จตุจักรมีหมด ดังนั้นการนำเสนอในย่านนี้คือ สไตล์ อิเล็คทริค ที่จะสื่อถึงความหลากหลาย สิ่งที่ผู้ชมจะได้เห็นคือความหลากหลาย ที่มีความเป็นวาไรตี้ แต่มีความเป็นแฟชั่นอยู่ แห่งที่ 2 บางลำพู เป็นสถานที่ที่มีเรื่องราว เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมที่หลากหลาย คอนเซ็ปต์ของโชว์จึงเป็น คัลเจอร์ แอนด์ ไวลด์ เสื้อผ้าที่นำมาโชว์นั้นยังความสวยงาม แต่จะแฝงความดิบที่แสดงออกถึงวัฒนธรรม แห่งที่ 3 ประตูน้ำ จะเห็นว่าคนที่มาช้อปปิ้งที่ย่านนี้จะมีความสนุกในแฟชั่น สีสัน ความเคลื่อนไหวที่รวดเร็วของเทรนด์แฟชั่น จะมีที่นี่ คอนเซ็ปต์จึงเป็น แฟชั่น ฟอร์ ฟัน โชว์นี้จึงเน้นความสนุกสนานทั้งการเดินแฟชั่นโชว์ เสื้อผ้า รวมถึงเพลง แห่งที่ 4 สุขุมวิท ย่านที่มีความเป็นเมืองแห่งธุรกิจ สะท้อนไลฟ์สไตล์แบบคนเมือง ที่ชอบเทคโนโลยี  คอนเซ็ปต์ที่นี่ จะเป็นการจัดโชว์สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการที่เปิดร้านค้าออนไลน์ เป็นกลุ่มที่ไม่มีหน้าร้าน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น และน่าสนับสนุน แฟชั่นในโชว์นี้จึงมีคอนเซ็ปต์ว่า ดัสค์ ทิล ดอว์น เสื้อผ้าในโชว์นี้จึงนำเสนอในลุคเท่ สมาร์ทในตอนกลางวันทำงาน แต่เที่ยวปาร์ตี้ได้ต่อในยามค่ำคืน และที่สุดท้าย สยาม เป็นที่รู้กันว่าแฟชั่นของสยามเป็นเรื่องของการล้ำหน้า การก้าวนำไปพร้อมๆ กับแฟชั่น มีดีไซเนอร์หน้าใหม่เกิดจากสยามมากมาย คอนเซ็ปต์จึงเป็น แฟชั่น ฟอร์เวิร์ด ซึ่งความพิเศษของโชว์นี้ จะเป็นแฟชั่นโชว์จากดีไซเนอร์ที่ประสพความสำเร็จแล้ว 10 ดีไซเนอร์ไทย ร่วมกับดีไซเนอร์เลือดใหม่อีก 10 ดีไซเนอร์ จะออกแบบเสื้อผ้ามาเดินร่วมกัน ซึ่งดีไซเนอร์ที่จะมาร่วมออกแบบเสื้อผ้าในแต่ละย่าน จะเลือกจากดีไซเนอร์ที่เป็นผู้ประกอบการในย่านนั้นๆ ยกเว้นสุขุมวิท ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ อยากจะสนับสนุนให้เกิดการตื่นตัวระหว่างผู้ประกอบการ ร้านค้าที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับแฟชั่น ในขณะที่ประชาชนทั่วไป อยากให้เกิดความรู้สึกสนุกไปกับแฟชั่น เหมือนที่เราจัดแฟชั่นโชว์ในย่านที่คุณอยู่กันถึงที่”

นอกจากนี้ยังมีการจัดสัมมนาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจแฟชั่น เจาะกลุ่มเป้าหมายคนรักแฟชั่นประชาชนทั่วไป และผู้ประกอบการสินค้าแฟชั่น สามารถซื้อบัตรและลงทะเบียนเข้างานได้ตลอดทั้งวัน โดยการอบรมในครั้งนี้จะครอบคลุมทั้งเรื่องของแฟชั่น การลงทุนและการเงิน รวมถึงการสร้างแบรนด์  โดยในส่วนของแฟชั่นนั้นได้รับความร่วมมือจากสมาคมดีไซเนอร์กรุงเทพ (Bangkok Fashion Society)
ปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่แห่งวงการแฟชั่นไทย ที่จะมาปลุกกระแสแฟชั่นในตัวคุณกับแฟชั่นโชว์ 5 รูปแบบ ใน 5 ย่านการค้าแฟชั่นสำคัญในกรุงเทพฯ เพื่อก้าวไปพร้อมกันกับการเป็นศูนย์กลางเมืองแฟชั่น ที่จะทำให้ทั่วโลกหันมาจับตาเมืองไทย เพราะเราเชื่อว่า แฟชั่นอยู่ทุกหนแห่ง
« Last Edit: August 27, 2014, 03:44:58 PM by MSN »

MSN on August 22, 2014, 09:36:23 PM
ปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ของแฟชั่นไทย โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรมจัดงาน BANGKOK FASHION AVENUE 2014 กับ 5 รูปแบบแฟชั่นโชว์ ใน 5 ย่านการค้าแฟชั่นรอบกรุงเทพฯ ภายใต้การรับผิดชอบดำเนินโครงการ โดยบริษัท โพสต์ อินเตอร์เนชั่นแนลมีเดีย จำกัด



กรุงเทพฯ 21 สิงหาคม 2557 – กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม สร้างปรากฏการณ์ทางแฟชั่นรูปแบบใหม่ที่เป็นการเชื่อมโยงระหว่าง“แฟชั่น คน และสถานที่” เข้าด้วยกันผ่านกิจกรรม "บางกอก แฟชั่น อเวนิว 2014” (BangkokFashionAvenue2014) โดยมีนิตยสารแฟชั่นชั้นนำระดับโลก 3 เล่มคือ แอล (ELLE), แมรี แคลร์ (MarieClaire) และแอล เมน (ELLEMen) รับผิดชอบเป็นผู้นำในการจัดแฟชั่นโชว์ในรูปแบบต่างๆ เพื่อเปิดถนนสายสำคัญที่เป็นศูนย์รวมแหล่งซื้อขายแฟชั่น และเครื่องประดับ 5 แห่งทั่วกรุงเทพฯ จัดแฟชั่นโชว์ในรูปแบบที่ต่างกัน เพื่อสร้างให้เกิดกระแสแฟชั่นไทยฟีเวอร์สำหรับประชาชนทั่วไปได้ตื่นตัวและตระหนักถึงเอกลักษณ์ของแต่ละย่านแฟชั่นไทยในเขตกรุงเทพมหานครมากขึ้นตั้งแต่เดือนกันยายน-พฤศจิกายน 2557 ใน 5 ย่านธุรกิจได้แก่ จตุจักร บางลำพู ประตูน้ำ สุขุมวิท และสยาม นอกจากนี้ยังมีการจัดสัมมนาให้ความรู้เชิงธุรกิจแฟชั่น “แฟชั่นบิสซิเนสฟอรั่ม” (FashionBusinessForum) เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยให้มีความรู้ในด้านแฟชั่นและเสริมสร้างธุรกิจของตัวเองและงานแฟชั่นโชว์กาล่าดินเนอร์ เพื่อแสดงผลงานของดีไซเนอร์รุ่นใหม่ คาดว่ามีผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมดกว่า 15,000 คน โดยจัดแถลงข่าวความพร้อมการจัดกิจกรรมดังกล่าว วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2557 ณ ห้องแกรนด์ บอลรูม โรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท (สุขุมวิท 24) มีนักออกแบบรุ่นใหม่และนักออกแบบแฟชั่นเจ้าของกิจการร่วมงานเป็นจำนวนมาก 

ดร.อรรชกา สีบุญเรือง อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรม ได้กำหนดให้มีนโยบายสนับสนุนการจัดกิจกรรมแฟชั่น วีค (Fashion Week) เพื่อกระตุ้นให้เกิดการบริโภคสินค้าแฟชั่น หลังจากสภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จึงตระหนักถึงความสำคัญในการสร้างความตื่นตัวให้วงการอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย จึงร่วมกับหน่วยงานภาคเอกชนและผู้ประกอบการรายย่อยทั้งหลายร่วมกันพัฒนาอุตสาหกรรมแฟชั่นทั้ง 3 สาขา ซึ่งได้แก่ อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม อุตสาหกรรมเครื่องหนังและรองเท้า และอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ ซึ่งในการพัฒนานั้น จำเป็นต้องพัฒนาทั้งนวัตกรรม (Innovative) ผลิตภาพในการผลิต (Productivity) การออกแบบ (Design) และการตลาด (Marketing) ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มได้หลายเท่าในสินค้าแฟชั่นขั้นสุดท้าย (End Products) รวมถึงสร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภคทั้งในประเทศและนักท่องเที่ยวให้ทราบว่าเมืองไทยนอกจากจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติแล้ว ยังมีแหล่งแฟชั่นและสินค้าแฟชั่นที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องมาเที่ยวและซื้อกลับไป โดยตั้งเป้าประเทศไทยเป็น “สวรรค์แห่งการช้อปปิ้ง (Fashion Shopping Paradise)” สำหรับทั้งนักลงทุน และนักท่องเที่ยวดังนั้นจำเป็นต้องส่งเสริมให้เกิดแหล่งช้อปปิ้งที่หลากหลายทั้งในมิติของพื้นที่และสินค้าเฉพาะอย่าง

ด้วยเหตุนี้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จึงได้กำหนด “โครงการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย” เพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นผู้ซื้อและนักท่องเที่ยว ให้ทราบถึงศักยภาพของย่านการค้าแฟชั่นในกรุงเทพมหานคร ด้วยการนำเสนอความสามารถอันหลากหลายของผู้ผลิตและนักออกแบบสินค้าแฟชั่นไทย ตลอดจนสร้างกระแสความนิยมให้กับผู้ซื้อทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศในการเลือกใช้สินค้าแบรนด์ไทยที่มีรูปแบบเป็นเอกลักษณ์แต่แฝงไปด้วยความทันสมัย รวมทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้ผู้ผลิตสินค้าในแหล่งแฟชั่นต่างๆ มองเห็นโอกาสในการพัฒนาสินค้าให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น รองรับการเติบโตของตลาดแฟชั่นในอนาคต จึงเป็นที่มาของกิจกรรม “บางกอก แฟชั่น อเวนิว 2014” (Bangkok Fashion Avenue 2014) ภายใต้แนวคิด “เอฟรี่แวร์ อีส แฟชั่น (Everywhere is Fashion) เพราะแฟชั่นอยู่ทุกหนแห่ง” โดยนิตยสารต่างประเทศฉบับภาษาไทยในเครือของบริษัทโพสต์อินเตอร์เนชั่นแนลมีเดียจำกัด เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินจัดโครงการทั้งหมด โดยมีกิจกรรม 2 กิจกรรมหลักภายใต้โครงการ Bangkok Fashion Avenue 2014 โดยกิจกรรมแรกเป็นการจัดแฟชั่นโชว์ 5 รูปแบบ ซึ่งจะเดินสายจัดกิจกรรมแฟชั่น 5 ย่านการค้าแฟชั่นสำคัญของกรุงเทพฯและกิจกรรมที่สองคือ Fashion Business Forum เป็นการจัดสัมมนาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจแฟชั่น เจาะกลุ่มเป้าหมายคนรักแฟชั่นประชาชนทั่วไป และผู้ประกอบการสินค้าแฟชั่น ซึ่งแต่ละย่านก็จะมีแนวความคิดแตกต่างกันไปสอดคล้องกับเอกลักษณ์ของย่านนั้นๆ ได้แก่
   - ย่านการค้าจตุจักร  : สไตล์ อิเล็คทริค (STYLE ECLECTIC) ในแนวคิด From Runway to Real way โดยเลือกเสื้อผ้าและเครื่องประดับจากร้านในย่านจตุจักรที่ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากรันเวย์  แต่สามารถสวมใส่เดินบนท้องถนนในชีวิตประจำวันได้ เกิดเป็นการแสดงแฟชั่นโชว์ผสมผสานกับดนตรีเพื่อให้เกิดความสนุกและเข้าถึงได้
   - ย่านการค้าบางลำพู : คัลเจอร์แอนด์ไวลด์ (CULTURE & WILD) โดยเฉพาะย่านถนนข้าวสาร เป็นแหล่งช็อปปิ้งและท่องเที่ยวกลางคืนที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศมากที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ มีความเป็นแฟชั่นที่อินดี้เฉพาะตัว จึงเป็นการผสมผสานของความเป็นวัฒนธรรมที่หลากหลายผ่านทางแฟชั่นโชว์ที่สร้างสรรค์พิเศษ
   - ย่านการค้าประตูน้ำ : แฟชั่น ฟอร์ ฟัน (FASHION FOR FUN) เป็นย่านการค้าที่มีสินค้าแฟชั่นหลากหลายและเป็นแหล่งการค้าส่งสินค้าแฟชั่นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ รูปแบบแฟชั่นโชว์จึงเป็นผสมผสานแนวมิกส์แอนด์แมทช์(mix and match) ให้ความสนุกสนาน โดยผสมผสานเสื้อผ้าจากย่านแพลทตินั่มมาสร้างสรรค์เป็นรูปแบบแฟชั่นโชว์ที่สนุก
   - ย่านการค้าสุขุมวิท : ดัสค์ทิลดอว์น  (DUSK TILL DAWN) ย่านสุขุมวิทเป็นใจกลางของกรุงเทพมหานครที่มีภาพลักษณ์ของความทันสมัยจึงเหมาะสำหรับการจัดโชว์สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่เปิดร้านค้าออนไลน์ ซึ่งกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง กลุ่มนี้จึงเป็นกลุ่มที่น่าสนับสนุนและส่งเสริม โดยมีเป้าหมายเพื่อให้สามารถพัฒนาธุรกิจจนเติบโตสามารถเปิดหน้าร้านได้ ลักษณะกิจกรรมเป็นลักษณะของการจำหน่ายสินค้าของผู้ประกอบการหน้าใหม่โดยเฉพาะ
   - การค้าสยาม: แฟชั่น ฟอร์เวิร์ด (FASHION FORWARD) เป็นศูนย์กลางแฟชั่นและศูนย์รวมดีไซเนอร์ทั้งที่เป็นTrendsetterเช่น Issue, Asava,Kloset เป็นต้น และดีไซเนอร์หน้าใหม่ เช่น Kwankao,Janesudaใจกลางเมืองที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากทั้งชาวไทยและต่างประเทศ มาตลอดหลายทศวรรษ โดยมุ่งผลักดันสยามเป็นศูนย์กลางแฟชั่นของเอเชียในอนาคต รูปแบบของโชว์จะเป็นการรวมตัวกันของ 10 ดีไซเนอร์ไทยระดับแนวหน้าและดีไซเนอร์หน้าใหม่ที่เปิดร้านที่สยามรวมกัน 1 โชว์ รวมถึงการจัดปาร์ตี้หลังโชว์จบโดยวงดนตรีและดีเจร่วมสร้างความสนุก

ศุภกรณ์ เวชชาชีวะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท  โพสต์  อินเตอร์เนชั่นแนล  มีเดีย  จำกัด  กล่าวถึงการเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดงาน Bangkok Fashion Avenue 2014 ในครั้งนี้ว่า บริษัท โพสต์ อินเตอร์เนชั่นแนล มีเดีย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำที่ผลิตนิตยสารแฟชั่นหัวนอกระดับโลก โดยมีนิตยสารต่างประเทศฉบับภาษาไทยในเครือบริษัทฯ จำนวน 3 เล่ม ได้แก่ แอล (ELLE), แมรี แคลร์ (Marie Claire) และ แอล เมน (ELLE Men) ซึ่งเป็นนิตยสารที่มีความเป็นสากลและมีประสบการณ์การจัดงานแฟชั่นระดับประเทศมานับไม่ถ้วน แต่สามารถผสมผสานแฟชั่นไทยและแฟชั่นสากลได้อย่างลงตัว และครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย ทั้งผู้หญิงและผู้ชายรุ่นใหม่และวัยทำงาน เป็นผู้นำในการจัดแฟชั่นโชว์ในรูปแบบต่างๆ เพื่อเปิดถนนสายสำคัญที่เป็นศูนย์รวมแหล่งซื้อขายแฟชั่น และเครื่องประดับ ใน 5 ย่านการค้า ได้แก่ สยาม จตุจักร ประตูน้ำ บางลำพู และสุขุมวิท ภายใต้คอนเซ็ปท์ “เอฟรี่แวร์ อีส แฟชั่น (Everywhere is Fashion) เพราะแฟชั่นอยู่ทุกหนแห่ง” โดยดึงเสน่ห์และเอกลักษณ์ของแต่ละย่านมาประยุกต์กับกิจกรรมที่จะจัดขึ้นในแต่ละย่าน โดยในแต่ละย่านนั้น เราจะจัดแฟชั่นโชว์ ผสมผสานกับความสนุกของดนตรี โดยคอนเสิร์ตจากศิลปินชั้นแนวหน้าของไทย อาทิ บี้ เดอะสตาร์, โมเดิร์นด็อก, บิ๊กแอส, อีทีซี, แท็ตทูคัลเลอร์ และป๊อป ปองกูล รวมทั้งมีการออกบูธขายสินค้าแฟชั่นจากผู้ประกอบการแฟชั่น ณ ย่านนั้นๆ ด้วย โดยคาดหวังว่ามีผู้เข้าร่วมในกิจกรรมทั้งหมดนี้ไม่ต่ำกว่า 15,000 คน

นอกเหนือจากงาน Bangkok Fashion Avenue 2014 ที่กล่าวไปแล้วนั้น เพื่อเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยให้มีความรู้ในด้านแฟชั่นและเสริมสร้างธุรกิจภายใต้แบรนด์ของตัวเอง ทางบริษัทฯ จึงมีการจัดงานสัมมนา  “แฟชั่น บิสซิเนสฟอรัม” (Fashion BusinessForum) งานสัมมนาผู้ประกอบธุรกิจโดยใช้ประสบการณ์ในวงการแฟชั่นจากนิตยสารระดับโลกทั้ง 3 เล่ม อย่าง Elle, Marie Claire และ Elle Men จัดอบรมในด้านการเสริมสร้างธุรกิจและความรู้ด้านแฟชั่นในหลากหลายสาขา เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบทั่วไปและจากทั้ง 5 ย่านการค้าเข้าร่วม โดยสามารถซื้อบัตรและลงทะเบียนเข้างานได้ตลอดทั้งวัน โดยการอบรบในครั้งนี้จะครอบคลุมทั้งเรื่องของแฟชั่น การลงทุนและการเงิน รวมถึงการสร้างแบรนด์  โดยในส่วนของแฟชั่นนั้นได้รับความร่วมมือจากสมาคมดีไซเนอร์กรุงเทพ (Bangkok Fashion Society) นำทีมโดยนายกสมาคมฯ พลพัฒน์ อัศวประภา เจ้าของแบรนด์ Asava และ ASV ในหัวข้อ “How to be a super designer in Thailand” ทำอย่างไรสำหรับดีไซเนอร์ในการปรับเปลี่ยน passion ให้กลายเป็นธุรกิจไปได้ด้วย ในส่วนของการสร้างแบรนด์และหาแรงบันดาลใจ นำทีมโดย ธนา เธียรอัจฉริยะ ผู้บริหารมืออาชีพผู้พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสและสร้างสรรค์แบรนด์ให้กลายเป็นแบรนด์ชั้นนำกับตัวอย่างของการสร้างแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในหัวข้อThe Path of 1) Panpuri : Path to World Class Luxury Brand 2) Sappe& Jib : From rags to rich, from SME to billionaires 3) Patinya : From fashion editor to designer และอีกส่วนคือการบริหารการเงินในการลงทุนทำธุรกิจแฟชั่น งานสัมมนาดังกล่าวจะจัดขึ้นในวันที่  25-26 กันยายน 2557 ณ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ โดยสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.bangkokfashionavenue.com

นอกจากนี้ ทางสถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์ หรือ ซีไอดีไอ (Chanapatana International Design Institute: CIDI) สถาบันการศึกษาที่ไม่แสวงหาผลกำไร เพื่อการพัฒนาคนไทย อีกทั้งยังเป็นแหล่งบ่มเพาะดีไซเนอร์หน้าใหม่หลากหลายสาขาให้ก้าวเข้าสู่ “วิถีมืออาชีพ” ระดับแนวหน้า จะมีการสร้างสรรค์แฟชั่นโชว์ครั้งพิเศษThe Fresh-Faced Collection ในงาน ELLE’s 20th Anniversary Celebration ที่จะนำเสนอคอลเล็กชั่นผลงานจากดีไซเนอร์รุ่นใหม่ผู้ชนะการประกวดจากสถาบันฯ ในโครงการ “Star Fashion Search 2014” ซึ่งอยู่ภายใต้โครงการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้รักในการออกแบบเสื้อผ้า หลงใหลในการออกแบบเครื่องหนัง คลั่งไคล้ในการออกแบบเครื่องประดับ ได้ก้าวเข้าสู่การเป็น “ดีไซเนอร์มืออาชีพ” ในอนาคตอันใกล้ โดยจะโชว์ชุดจาก ผู้ชนะการประกวดทั้งหมด 15 ชุดเป็นชุดเปิดงานร่วมกับแฟชั่นโชว์พิเศษ 42 ชุด จากดีไซเนอร์ไทยชั้นนำอีก 21 แบรนด์ในงานเลี้ยงกาล่าดินเนอร์ ELLE’s 20th Anniversary Celebration : Fashion Tribute Collection เฉพาะแขกรับเชิญผู้มีเกียรติระดับประเทศในวงการแฟชั่นไทย และแขกผู้มีเกียรติจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรมในวันที่  27 กันยายน 2557 ที่จะถึงนี้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทฯ คาดหวังว่าในกิจกรรมตลอด 3 เดือนนี้จะเป็นกิจกรรมที่ต่อยอดทางธุรกิจให้ผู้ประกอบการ เป็นกิจกรรมที่ช่วยขับเคลื่อนแฟชั่นให้เข้าไปใกล้กับผู้คน เข้าไปในชุมชนและสังคมทุกรูปแบบ เพราะแฟชั่นเป็นเรื่องใกล้ตัว หรืออยู่รอบๆ ตัวเราทุกคน ที่สำคัญแฟชั่นเป็นกิจกรรมที่พร้อมคืนความสุขให้ประชาชนเช่นกัน ทั้งนี้ งาน Bangkok Fashion Avenue 2014 จะจัดขึ้น ณ 5 ย่านแฟชั่นหลักของกรุงเทพฯ ได้แก่ ย่านจตุจักร ณ ศูนย์การค้าโครงการJJ Green วันที่ 6 กันยายน 2557, ย่านบางลำพู ณ สวนสันติชัยปราการ วันที่ 20 กันยายน 2557, ย่านประตูน้ำ ณ ศูนย์การค้าแพลทตินัมวันที่ 18 ตุลาคม 2557, ย่านสุขุมวิท ณ อารีน่า 10 วันที่ 2 พฤศจิกายน 2557 และย่านสยาม ณ พาร์ค พารากอน วันที่ 16 พฤศจิกายน 2557

ทั้งนี้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และ บริษัท โพสต์ อินเตอร์เนชั่นแนล มีเดีย จำกัดจัดงานแถลงข่าวความพร้อมในการจัดกิจกรรม“บางกอก แฟชั่น อเวนิว2014” ในวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2557 ณ ห้องแกรนด์ บอลรูม โรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท (สุขุมวิท 24) พร้อมแฟชั่นโชว์สุดอลังการโดยนางแบบมืออาชีพ มีนักออกแบบรุ่นใหม่และนักออกแบบแฟชั่นเจ้าของกิจการร่วมงานเป็นจำนวนมาก สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บริษัทโพสต์ อินเตอร์เนชั่นแนล มีเดีย จำกัดโทรศัพท์0-988-17-8027 หรือwww.bangkokfashionavenue.com/www.ellethailand.com/www.ellementhailand.comหรือที่หน้าเพจFacebook : ELLEThailand / MarieClaireThailand / ElleMenThailand และสำหรับประชาชนทั่วไปที่ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมโครงการต่าง ๆ เกี่ยวกับอุตสาหกรรมแฟชั่นสามารถสอบถามได้ที่สำนักพัฒนาผู้ประกอบการ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพฯ หมายเลขโทรศัพท์ 022024571-73 , 4521หรือเข้าไปที่ http://www.dip.go.th         

กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักบริหารกลาง กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โทร 0 2202 4414 – 18
« Last Edit: August 22, 2014, 11:20:47 PM by MSN »

MSN on August 22, 2014, 09:50:43 PM
FACT SHEET

งาน Bangkok Fashion Avenue จัดขึ้นเพื่อเปิดถนนสายสำคัญที่เป็นศูนย์รวมแหล่งซื้อขายแฟชั่น              และเครื่องประดับ 5 แห่งทั่วกรุงเทพฯ จัดแฟชั่นโชว์ในรูปแบบที่ต่างกัน พร้อมด้วยความบันเทิงจากศิลปินและร้านค้า เพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นผู้ซื้อและนักท่องเที่ยว ให้ทราบถึงศักยภาพของย่านการค้าแฟชั่นในกรุงเทพมหานคร ด้วยการนำเสนอความสามารถอันหลากหลายของผู้ผลิตและนักออกแบบสินค้าแฟชั่นไทย ตลอดจนสร้างกระแสความนิยมให้กับผู้ซื้อทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศในการเลือกใช้สินค้าแบรนด์ไทยที่มีรูปแบบเป็นเอกลักษณ์แต่แฝงไปด้วยความทันสมัย รวมทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้ผู้ผลิตสินค้าในแหล่งแฟชั่นต่างๆ มองเห็นโอกาสในการพัฒนาสินค้าให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น รองรับการเติบโตของตลาดแฟชั่นในอนาคต จึงเป็นที่มาของกิจกรรม “บางกอก แฟชั่น อเวนิว 2014” (Bangkok Fashion Avenue 2014) โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โดยมีบริษัท  โพสต์  อินเตอร์เนชั่นแนล  มีเดีย  จำกัด เป็นบริษัทฯ รับผิดชอบดำเนินโครงการทั้งหมด ภายใต้แนวคิด “เอฟรี่แวร์ อีส แฟชั่น (Everywhere is Fashion)  เพราะแฟชั่นอยู่ทุกหนแห่ง” โดยระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่เดือนกันยายน-พฤศจิกายน 2557 ในย่านธุรกิจต่างๆ ดังนี้ จตุจักร, บางลำพู, ประตูน้ำ, สุขุมวิท, และสยาม

หลักการและเหตุผลที่มาของโครงการ

ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรม ได้กำหนดให้มีนโยบายสนับสนุนการจัดกิจกรรมแฟชั่น วีค (Fashion Week)         เพื่อกระตุ้นให้เกิดการบริโภคสินค้าแฟชั่น หลังจากสภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวในช่วงหลายปีที่ผ่านมา                  กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จึงตระหนักถึงความสำคัญในการสร้างความตื่นตัวให้วงการอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย จึงร่วมกับหน่วยงาน ภาคเอกชน และผู้ประกอบการรายย่อยทั้งหลายร่วมกันพัฒนาอุตสาหกรรมแฟชั่นทั้ง 3 สาขา ซึ่งได้แก่ อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม อุตสาหกรรมเครื่องหนังและรองเท้า และอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ ซึ่งในการพัฒนานั้น จำเป็นต้องพัฒนาทั้ง นวัตกรรม (Innovative) ผลิตภาพในการผลิต (Productivity) การออกแบบ (Design) และการตลาด (Marketing) ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มได้หลายเท่าในสินค้าแฟชั่นขั้นสุดท้าย (End Products) รวมถึงสร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภคทั้งในประเทศและนักท่องเที่ยวให้ทราบว่าเมืองไทยนอกจากจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติแล้ว ยังมีแหล่งแฟชั่นและสินค้าแฟชั่นที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องมาเที่ยวและซื้อกลับไป โดยตั้งเป้าประเทศไทยเป็น “สวรรค์แห่งการช้อปปิ้ง (Fashion Shopping Paradise)” สำหรับทั้งนักลงทุน และนักท่องเที่ยวดังนั้นจำเป็นต้องส่งเสริมให้เกิดแหล่งช้อปปิ้งที่หลากหลายทั้งในมิติของพื้นที่และสินค้าเฉพาะอย่าง จึงเป็นที่มาของโครงการ Bangkok Fashion Avenue 2014 นี้ในการเปิด 5 แห่งทั่วกรุงเทพฯ

ด้วยเหตุนี้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จึงได้กำหนด “โครงการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย” เพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นผู้ซื้อและนักท่องเที่ยว ให้ทราบถึงศักยภาพของย่านการค้าแฟชั่นในกรุงเทพมหานคร ด้วยการนำเสนอความสามารถอันหลากหลายของผู้ผลิตและนักออกแบบสินค้าแฟชั่นไทย ตลอดจนสร้างกระแสความนิยมให้กับผู้ซื้อทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศในการเลือกใช้สินค้าแบรนด์ไทยที่มีรูปแบบเป็นเอกลักษณ์แต่แฝงไปด้วยความทันสมัย รวมทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้ผู้ผลิตสินค้าในแหล่งแฟชั่นต่างๆ มองเห็นโอกาสในการพัฒนาสินค้าให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น รองรับการเติบโตของตลาดแฟชั่นในอนาคต จึงเป็นที่มาของกิจกรรม “บางกอก แฟชั่น อเวนิว 2014” (Bangkok Fashion Avenue 2014) ภายใต้แนวคิด “เอฟรี่แวร์ อีส แฟชั่น (Everywhere is Fashion)  เพราะแฟชั่นอยู่ทุกหนแห่ง” โดยนิตยสารต่างประเทศฉบับภาษาไทยในเครือของบริษัท โพสต์ฯ เป็นผู้ดำเนินจัดกิจกรรม โดยมี 2 กิจกรรมหลักภายใต้โครงการ Bangkok Fashion Avenue 2014 โดยกิจกรรมแรกเป็นการจัดแฟชั่นโชว์ 5 รูปแบบซึ่งจะเดินสายจัดกิจกรรมแฟชั่น 5 ย่านการค้าแฟชั่นสำคัญของกรุงเทพฯ และกิจกรรมที่สองคือ Fashion Business Forum เป็นการจัดสัมมนาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจแฟชั่น เจาะกลุ่มเป้าหมายคนรักแฟชั่น ประชาชนทั่วไป และผู้ประกอบการสินค้าแฟชั่น ซึ่งแต่ละย่านก็จะมีแนวความคิดแตกต่างกันไปสอดคล้องกับเอกลักษณ์ของย่านนั้นๆ

วัตถุประสงค์
1.   เพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นผู้ซื้อและนักท่องเที่ยว ให้ได้ทราบถึงศักยภาพของย่านการค้าแฟชั่นในกรุงเทพมหานคร
2.   เพื่อสร้างกระแสความนิยมให้กับผู้ซื้อทั้งชาวไทยและต่างประเทศในการเลือกใช้สินค้าแบรนด์ไทย
3.   เพื่อกระตุ้นให้ผู้ผลิตสินค้าในแหล่งแฟชั่นต่างๆ มองเห็นโอกาสในการพัฒนาสินค้าให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น รองรับตลาดแฟชั่นในอนาคต

กลุ่มเป้าหมาย
1.   คนรักแฟชั่นและประชาชนทั่วไป
2.   ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมแฟชั่นจากทั้ง 5 ย่านการค้า

5 ย่านการค้าแฟชั่น ได้แก่ จตุจักร, บางลำพู, ประตูน้ำ, สุขุมวิท, และสยาม

ทั้ง 5 สถานที่ ถือเป็นย่านธุรกิจหลักในด้านการค้าแฟชั่น ถนนสายสำคัญที่เป็นศูนย์รวมแหล่งซื้อขายแฟชั่นและเครื่องประดับในกรุงเทพ ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายครอบคลุมทุกกลุ่ม แตกต่างกันไป เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนทั่วไปที่สนใจได้เข้าร่วมงาน

ย่านการค้าจตุจักร  : สไตล์ อิเล็คทริค (STYLE ECLECTIC) ในแนวคิด From Runway to Real way โดยเลือกเสื้อผ้าและเครื่องประดับจากร้านในย่านจตุจักรที่ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากรันเวย์ แต่สามารถสวมใส่เดินบนท้องถนนในชีวิตประจำวันได้ เกิดเป็นการแสดงแฟชั่นโชว์ผสมผสานกับดนตรีเพื่อให้เกิดความสนุกและเข้าถึงได้

ย่านการค้าบางลำพู : คัลเจอร์ แอนด์ ไวลด์ (CULTURE & WILD) โดยเฉพาะย่านถนนข้าวสาร เป็นแหล่งช้อปปิ้งและท่องเที่ยวกลางคืนที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศมากที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ มีความเป็นแฟชั่นที่อินดี้เฉพาะตัว จึงเป็นการผสมผสานของความเป็นวัฒนธรรมที่หลากหลายผ่านทางแฟชั่นโชว์ที่สร้างสรรค์พิเศษ

ย่านการค้าประตูน้ำ  : แฟชั่น ฟอร์ ฟัน (FASHION FOR FUN) เป็นย่านการค้าที่มีสินค้าแฟชั่นหลากหลาย และเป็นแหล่งการค้าส่งสินค้าแฟชั่นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ รูปแบบแฟชั่นโชว์จึงเป็นการผสมผสานแนวมิกส์แอนด์แมทช์ (mix and match) ให้ความสนุกสนาน โดยผสมผสานเสื้อผ้าจากย่านแพลทตินั่มมาสร้างสรรค์รูปแบบเป็นแฟชั่นโชว์ที่สนุก

ย่านการค้าสุขุมวิท : ดัสค์ ทิล ดอว์น  (DUSK TILL DAWN) ย่านสุขุมวิทเป็นใจกลางของกรุงเทพมหานครที่มีภาพลักษณ์ของความทันสมัยจึงเหมาะสำหรับการจัดโชว์สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่เปิดร้านค้า
ออนไลน์ ซึ่งกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง กลุ่มนี้จึงเป็นกลุ่มที่น่าสนับสนุนและส่งเสริม โดยมีเป้าหมายเพื่อให้สามารถพัฒนาธุรกิจจนเติบโตสามารถเปิดหน้าร้านได้ ลักษณะกิจกรรมเป็นลักษณะของการจำหน่ายสินค้าของผู้ประกอบการหน้าใหม่โดยเฉพาะ

ย่านการค้าสยาม: แฟชั่น ฟอร์เวิร์ด (FASHION FORWARD) เป็นศูนย์กลางแฟชั่นและศูนย์รวมดีไซเนอร์ทั้งที่เป็น Trendsetter และดีไซเนอร์หน้าใหม่ ใจกลางเมืองที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากทั้งชาวไทยและต่างประเทศ มาตลอดหลายทศวรรษ โดยมุ่งผลักดันสยามเป็นศูนย์กลางแฟชั่นของเอเชียในอนาคต รูปแบบของโชว์จะเป็นการรวมตัวกันของ 10 ดีไซเนอร์ไทยระดับแนวหน้าและดีไซเนอร์หน้าใหม่ที่เปิดร้านที่สยามรวมกัน 1 โชว์ รวมถึงการจัดปาร์ตี้หลังโชว์จบโดยวงดนตรีและดีเจร่วมสร้างความสนุก

MSN on August 22, 2014, 10:15:11 PM
งาน “แฟชั่น บิสซิเนส ฟอรัม” (Fashion BusinessForum)

งานสัมมนาผู้ประกอบธุรกิจมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยให้มีความรู้ด้านแฟชั่นและเสริมสร้างธุรกิจของตัวเองได้ โดยเป็นการจัดฟอรั่ม (Forum) โดยใช้ประสบการณ์ในวงการแฟชั่นจากนิตยสารระดับโลกทั้ง 3 เล่ม อย่าง Elle, Marie Claire และ Elle Men จัดอบรมในด้านการเสริมสร้างธุรกิจและความรู้ด้านแฟชั่นในหลากหลายสาขา โดยเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบทั่วไปและจากทั้ง 5 ย่านการค้าเข้าร่วมโดยสามารถซื้อบัตรและลงทะเบียนเข้างานได้ตลอดทั้งวัน โดยการอบรบในครั้งนี้จะครอบคลุมทั้งเรื่องของแฟชั่น การลงทุนและการเงิน รวมถึงการสร้างแบรนด์  โดยในส่วนของแฟชั่นนั้นได้รับความร่วมมือจากสมาคมดีไซเนอร์กรุงเทพ (Bangkok Fashion Society) นำทีมโดยนายกสมาคมฯ คุณพลพัฒน์ อัศวประภา เจ้าของแบรนด์ Asava และ ASV ในหัวข้อ “How to be a super designer in Thailand” ทำอย่างไรสำหรับ ดีไซเนอร์ในการปรับเปลี่ยน passion ให้กลายเป็นธุรกิจไปได้ด้วย ในส่วนของการสร้างแบรนด์และหาแรงบันดาลใจ นำทีมโดย คุณธนา เธียรอัจฉริยะ ผู้บริหารมืออาชีพผู้พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสและสร้างสรรค์แบรนด์ให้กลายเป็นแบรนด์ชั้นนำกับตัวอย่างของการสร้างแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ ในหัวข้อ  The Path of 1) Panpuri : Path to World Class Luxury Brand 2) Sappe& Jib : From rags to rich, from SME to billionaires 3) Patinya : From fashion editor to designer และอีกส่วนคือการบริหารการเงินในการลงทุนทำธุรกิจแฟชั่น งานสัมมนาดังกล่าวจะจัดขึ้นในวันที่  25-26 กันยายน 2557 ณ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ โดยสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.bangkokfashionavenue.com

The Fresh-Faced Collection

อีกหนึ่งกิจกรรมที่มีจุดประสงค์ในเรื่องของการสนับสนุนดีไซเนอร์หน้าใหม่ให้เกิดขึ้นในวงการแฟชั่น โดยเป็นความร่วมมือของสถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์ หรือ ซีไอดีไอ (Chanapatana International Design Institute: CIDI) สถาบันการศึกษาที่ไม่แสวงหาผลกำไร เพื่อการพัฒนาคนไทย อีกทั้งยังเป็นแหล่งบ่มเพาะดีไซเนอร์หน้าใหม่หลากหลายสาขาให้ก้าวเข้าสู่ “วิถีมืออาชีพ” ระดับแถวหน้า โดยมีการคัดเลือกผลงานที่ดีที่สุด 15 ผลงาน จากการเข้าร่วมประกวดโครงการ “Star Fashion Search 2014” ซึ่งอยู่ภายใต้โครงการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย ส่วนเสริมสร้างผู้ประกอบการใหม่ สำนักพัฒนาผู้ประกอบการ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้รักในการออกแบบเสื้อผ้า หลงใหลในการออกแบบเครื่องหนัง คลั่งไคล้ในการออกแบบเครื่องประดับ ได้ก้าวเข้าสู่การเป็น “ดีไซเนอร์มืออาชีพ” ในอนาคตอันใกล้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์แฟชั่นโชว์ครั้งพิเศษ ในงานเลี้ยงกาล่าดินเนอร์ ELLE’s 20th Anniversary Celebration : Fashion Tribute Collection โดยในงานนี้มีการสร้างสรรค์แฟชั่นโชว์ครั้งพิเศษด้วยผลงานตระการตาจากดีไซเนอร์ไทยที่มีชื่อเสียง ทั้งหมด 21 แบรนด์กับแฟชั่นโชว์พิเศษ 42 ชุด เช่น Pitchita, Kai, Pisit, Theatre, VatitItthi, Asava, Milin, Curated by EkThongprasert, Vatanika เป็นต้น ผ่านแรงบันดาลใจที่ได้จาก “ศิลปะการทำเสื้อ” ของช่างเสื้อชื่อดังที่กลายเป็นชื่อในตำนานแฟชั่นไทยอย่าง อ.ลำยงค์ บุณยรัตพันธุ์ ผู้ก่อตั้งโรงเรียนสอนตัดเสื้อระพี และเจ้าของห้องเสื้อระพีโดยมีแขกรับเชิญผู้มีเกียรติระดับประเทศในวงการแฟชั่นไทย แขกผู้มีเกียรติจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม และสื่อมวลชน ในวันที่  27 กันยายน 2557 ที่จะถึงนี้

ตารางเวลาการจัดงานBANGKOK FASHION AVENUE จะจัดขึ้นณ 5 ย่านการค้าแฟชั่นหลักของกรุงเทพฯตามวันเวลาดังนี้

วันที่-เวลา   ย่านการค้าแฟชั่น – สถานที่   ศิลปิน
6 กันยายน 2557เวลา  14.00-21.00 น.   ย่านจตุจักร ณ โครงการ จตุจักร กรีน    Modern Dog
20 กันยายน 2557เวลา  16.00-22.00 น.   ย่านบางลำพู ณ สวนสันติชัยปราการ    ETC และ Tattoo Color
18 ตุลาคม 2557เวลา  14.00-21.00 น.   ย่านประตูน้ำ ณ ศูนย์การค้าแพลตตินั่ม   บี้ เดอะสตาร์ (สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว)

2 พฤศจิกายน 2557เวลา  11.00-21.00 น.   ย่านสุขุมวิท ณ อารีน่า 10    ป๊อป ปองกูล
16 พฤศจิกายน 2557เวลา  18.00-22.00 น.   ย่านสยาม ณ พาร์ค พารากอน    Big Ass

กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักบริหารกลาง กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โทร 0 2202 4414 – 18