FB on August 13, 2014, 11:33:35 PM
“กอล์ฟ ธัญญ์วาริน” ทุ่มสุดใจสร้างความฟินครั้งสำคัญ ซุป’ตาร์เอเชีย “มาโกโตะ” นำทีม “ฟินสุโค่ย”




   
          หลังจากที่ “ฟินสุโค่ย” ภาพยนตร์จากความร่วมมือกันระหว่างไทย-ญี่ปุ่นได้เหินฟ้าไปฉายรอบ World Premiere ในเทศกาลภาพยนตร์ Osaka Asian Film Festival 2014 เมื่อต้นปีที่ผ่านมาและโดนใจชาวญี่ปุ่นไปเต็มๆ กระแสแรงจนต้องเพิ่มรอบฉายกันเลยทีเดียว

          ล่าสุด “สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล” และ “ฟิน โปรเจกต์” ก็ได้ประกาศวันฉายของหนังโรแมนติก-คอเมดี้เรื่องนี้ให้คอหนังชาวไทยได้พิสูจน์ความฟินกันแล้วในวันที่ 25 กันยายนนี้ งานนี้เตรียมตัวฟินสุโค่ยกันได้เลย

          “ฟินสุโค่ย” ภาพยนตร์แนววัยรุ่นที่ว่าด้วยเรื่องของมิตรภาพ ความรัก และดนตรีเป็นสื่อกลางโดยได้ผู้กำกับมือรางวัลของเมืองไทย “กอล์ฟ-ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์” มาเป็นผู้สร้างสรรค์ความฟินให้กับหนังเรื่องนี้ และได้คว้าร็อกสตาร์ชื่อดังระดับเอเชีย “มาโกโตะ โคชินากะ” แห่งวง ลูซิเฟอร์ (Aucifer) ขวัญใจชาวเจ-ร็อกที่มีแฟนคลับอยู่ทั่วเอเชียรวมไปถึงประเทศไทยอย่างมากมาย มารับบทนำในหนังสัญชาติไทยเรื่องนี้เป็นครั้งแรก และยังได้นักแสดงชื่อดังของเมืองไทยมาร่วมกันฟินกันอย่างคับคั่งนำทีมโดย “สายป่าน-อภิญญา สกุลเจริญสุข”, เต๋า-เศรษฐพงศ์ เพียงพอ”, “ติ๊นา-ศุภนาฏ จิตตลีลา”, “กาย-นวพล ลำพูน”, “ภีม-ภาคิน บวรศิริลักษณ์” ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดจะมาร่วมกันสร้างความฟินไปกับเรื่องราวความรักของวัยรุ่นยุคใหม่ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นมุมมองหลายด้านของความรักและมิตรภาพบนความสัมพันธ์ที่สลับซับซ้อน

          ผู้กำกับธัญญ์วารินได้พูดถึงแรงบันดาลใจในการทำหนังเรื่องนี้ว่า

          “แรงบันดาลใจในการทำหนังเรื่องนี้มาจากการที่เราชอบอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นมีเรื่องนึงที่ชื่อว่า ‘จังหวะร็อก ดนตรีรัก’ ก็ถือเป็นแรงบันดาลใจส่วนหนึ่ง แล้วเราก็เอาประกอบกับการ์ตูนที่เป็นที่มาของวงมาโกโตะ เพราะว่าวงลูซิเฟอร์ก็มาจากญี่ปุ่น เราก็เอาตรงนั้นมาเป็นเหมือนกับคอนเซ็ปต์ของหนังที่มีผู้หญิงซึ่งคลั่งไคล้นักร้องเจ-ร็อก คือนอกจากที่จะมีตัวสายป่านแล้ว มันก็ยังมีตัวละครแวดล้อมที่มีผลกระทบ เพราะเรา

          คิดว่าการที่คนๆ หนึ่ง เป็นแฟนคลับของนักร้องที่เราฝันจะใกล้ชิด แล้ววันหนึ่งได้เข้าไปอยู่ใกล้ชิดจริงๆ มันจะมีผลกระทบอะไรกับคนเหล่านี้ ทั้งความรักและมิตรภาพ เรารู้สึกว่าตรงนั้นมันเป็นเรื่องที่เราสนใจ
‘ฟินสุโค่ย’ เป็นเรื่องของผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อว่าหนูนา (สายป่าน) ซึ่งมีแฟนอยู่แล้วก็คือเสือโคร่ง (เต๋า เศรษฐพงศ์) แต่ตัวหนูนาชอบและก็เป็นแฟนคลับของมาโกโตะ พอมาโกโตะได้เข้ามาเปิดคอนเสิร์ตและก็มาหานางเอกเอ็มวีที่เมืองไทย หนูนาก็พยามทำทุกอย่างให้บรรลุความฝันที่จะได้ไปอยู่ใกล้ๆ กับมาโกโตะ แต่พอได้ใกล้กันอย่างที่ฝันแล้ว ความสัมพันธ์กับแฟนตัวเองและกับเพื่อนในกลุ่มที่มีอยู่ ทั้งหมูแฮม (ติ๊นา) กับ ไก่โต้ง (กาย) ก็มีบางอย่างเกิดขึ้น ที่ผลมาจากความฟินของหนูนา มันก็อลวนวุ่นวายกันไปหมด แต่จะลงเอยยังไง ต้องไปหาคำตอบกันในหนัง”

          งานนี้ต้องติดตามว่าซุป’ตาร์เอเชีย “มาโกโตะ” และนักแสดงวัยรุ่นมากฝีมือของเมืองไทย จะมาร่วมกันถ่ายทอดความฟินให้หัวใจคุณกันขนาดไหนใน “ฟินสุโค่ย” เตรียมฟินเว่อร์ทุกโรงภาพยนตร์ 25 ก.ย. นี้แน่นอน

FB on August 24, 2014, 02:11:26 PM
Movie Guide: ตัวอย่าง “ฟิน สุโค่ย”

ฟิน สุโค่ย - ตัวอย่างภาพยนตร์เต็ม (Official Trailer {HD})
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=uNcnb2QJSao" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=uNcnb2QJSao</a>     

ถ้าความรัก ความฝัน มันห้ามกันไม่ได้ จนนำไปสู่ทางที่ต้องเลือก ว่าจะ #ฟิน ให้สุดชีวิต หรือ จะใช้ชีวิตเพลนๆ

“ฟินสุโค่ย” 25 กันยานี้
เตรียมฟินพร้อมกัน ในโรงภาพยนตร์
« Last Edit: August 24, 2014, 02:15:22 PM by FB »

FB on August 24, 2014, 09:39:23 PM
“สายป่าน-อภิญญา” พลิกบทบาทสวมบทสาวติ่ง “มาโกโตะ” ตัวแม่ ผู้กำกับ “กอล์ฟ” ซูฮกฝีมือตีบทแตกใน “ฟินสุโค่ย”







           ถือเป็นอีกหนึ่งนักแสดงสาวมากฝีมืออีกคนหนึ่งของวงการสำหรับ “สายป่าน-อภิญญา สกุลเจริญสุข” นักแสดงสาวที่ผ่านผลงานคุณภาพมาแล้วอย่างมากมาย กับหลากหลายคาแร็คเตอร์และบทบาทที่ได้รับ ซึ่งคอหนังทุกคนคงยืนยันได้ว่าเธอคนนี้มักแสดงพลังทางการแสดงออกมาได้อย่างดีเยี่ยมมาโดยตลอด พิสูจน์ได้จากรางวัลสุพรรณหงส์ สาขานักแสดงหญิงนำยอดเยี่ยม (จากเรื่อง “ปาดังเบซาร์” ปี 56) ที่เธอคว้ามาเป็นเครื่องยืนยันฝีมือทางการแสดงได้เป็นอย่างดี และในภาพยนตร์โรแมนติก-คอเมดี้ “ฟินสุโค่ย” จากการแท็คทีมกันฟินครั้งสำคัญของค่ายใบโพธิ์ “สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล” และ “ฟิน โปรเจกต์” ผลงานการกำกับของผู้กำกับมากฝีมือ “กอล์ฟ-ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์” สายป่านก็พร้อมพลิกคาแร็คเตอร์ชนิดที่ฉีกจากทุกบทบาทที่เคย”ได้รับมา กับบทบาทสาวติ่งเจ-ร็อกที่กำลังฟินกับความฝันจนลืมแฟนในชีวิตจริง และต้องมาปะทะบทบาทกับซุป’ตาร์เอเชีย “มาโกโตะ โคชินากะ” แบบสุดพิเศษอีกด้วย รวมไปถึงนักแสดงวัยรุ่นชื่อดังอย่าง “สายป่าน-อภิญญา สกุลเจริญสุข”, เต๋า-เศรษฐพงศ์ เพียงพอ”, “ติ๊นา-ศุภนาฏ จิตตลีลา”, “กาย-นวพล ลำพูน”, “ภีม-ภาคิน บวรศิริลักษณ์” ฯลฯ ซึ่งผู้กำกับกอล์ฟพูดถึงบทบาทการแสดงของสายป่านในเรื่องนี้ว่า

          “คาแร็คเตอร์ของหนูนาก็ค่อนข้างเป็นคนที่เปิดเผยความรู้สึกนะ เขาชอบอะไร เขารู้สึกอะไร เขาก็จะบอก เพราะฉะนั้นว่าถึงเขาจะมีแฟนอยู่แล้ว แต่เขาชอบมาโกโตะมานาน จนรู้สึกว่าเขาชอบมานานกว่าแฟนหรือเปล่า แล้วเขาก็รู้สึกว่ามาโกโตะเป็นทุกอย่างของชีวิตเขา เพราะฉะนั้นหนูนาก็จะมีมาโกโตะเป็นไอดอล คือปกติเท่าที่เราได้เห็นการแสดงของสายป่าน เราก็จะเห็นว่ามาทางดราม่าซะเยอะ แต่ว่าถ้ามาเล่นแบบสาวติ่ง แบบนี้เรายังไม่เคยเห็นสายป่านเล่น ตัวละครหนูนามีความหลากหลายทางอารมณ์ ต้องเล่นทั้งคอเมดี้ ทั้งดราม่า มีน่ารักๆ แรงๆ ผสมกัน เรารู้สึกว่าตรงนี้มันเป็นความสามารถที่ท้าทายของสายป่าน พอสุดท้ายเราได้เห็นการแสดงของเขาเราก็รู้สึกแฮปปี้ว่านี่ไม่ใช่สายป่าน ที่เรารู้จัก แต่เป็นหนูนาจริงๆ เราก็รู้สึกแฮปปี้กับการแสดงของสายป่านจริงๆ”

          ทางด้านสาวสายป่านก็พูดถึงบทบาทกับลุกส์ใหม่ที่รับรองว่าคนดูจะเอาใจช่วยและอินไปกับความรักและความฝันของตัวละครตัวนี้ว่า
         
          “ถือเป็นความท้าทายของป่าน ที่ได้มาร่วมงานกับพี่กอล์ฟ เพราะเราได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จากคาแร็คเตอร์ของตัวละครหนูนา วัฒนธรรมของแฟนคลับซึ่งไม่ได้แค่ตามกรี๊ดกร๊าดศิลปินไปวันๆ เหมือนที่คนภายนอกมอง แต่การชื่นชอบใครสักคนจนหมดหัวใจ มันทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการแสวงหาสิ่งที่ตัวเองต้องการอย่างเช่น กับการทำงานในกองนี้ก็สนุกมาก คาดเดาไม่ได้ว่าแต่ละฉากของเรื่องพี่กอล์ฟจะทำออกมาในรูปแบบไหน ซึ่งก็ท้าทายทุกครั้ง บางวันได้แต่งคอสเพลย์ บางวันได้ใส่กิโมโน รู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้มาทำงาน”

          ใครที่ชื่นชอบการแสดงของสาวสายป่าน รับรองว่าได้ฟินกับบทบาทใหม่ของเธอกันอย่างแน่นอน ต้องไปพิสูจน์ในหนังโรแมนติกฟินเว่อร์ “ฟินสุโค่ย” 25 กันยายนนี้ ทุกโรงภาพยนตร์

FB on August 28, 2014, 03:16:31 PM
Movie: ฟินสุโค่ย







ฟิน สุโค่ย - ตัวอย่างภาพยนตร์เต็ม (Official Trailer {HD})
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=uNcnb2QJSao" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=uNcnb2QJSao</a>

โอ้ว++++ ฟินเฟ่อ ฟินกันขนาดไหนใน #ฟินสุโค่ย
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=ZLorUlOjyEE" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=ZLorUlOjyEE</a>

           พวกเขาจะทำให้...หัวใจ...ของคุณ...ฟินเว่อร์

          “สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล” ร่วมกับ “บริษัท ฟิน โปรเจกต์”
          ขอจับมือกันฟินครั้งสำคัญ
          กับภาพยนตร์โรแมนติก-คอเมดี้ ร่วมทุนระหว่างไทย-ญี่ปุ่น

          สร้างสรรค์ความ “ฟินสุโค่ย” โดยผู้กำกับมือรางวัล
          “กอล์ฟ-ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์”
          พร้อมการปรากฏตัวครั้งสำคัญบนแผ่นฟิล์มของร็อคสตาร์ระดับเอเชีย “มาโกโตะ โคชินากะ” ขวัญใจ J-Rock จากวง Aucifer
          ร่วมด้วยนักแสดงไทยขวัญใจวัยรุ่นชาวไทยแห่งยุคที่ขนมาฟินกันอย่างคับคั่ง
          “สายป่าน อภิญญา”, “เต๋า เศรษฐพงศ์”, “ติ๊นา ศุภนาฏ”, “กาย นวพล” ฯลฯ
          เตรียมฟินเว่อออร์...ทุกหัวใจ 25 กันยายนนี้ ทุกโรงภาพยนตร์

บริษัทผู้สร้าง บริษัท ฟิน โปรเจกต์ จำกัด
บริษัทจัดจำหน่าย บริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
บริษัทดำเนินงานสร้าง แอมฟายน์ โปรดักส์ชั่น
อำนวยการสร้าง ภัคกมล วิทยารางสกุล, ปุณยนุช วรนิธิพงศ์
ควบคุมงานสร้าง ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์, สุทธิเขตต์ คงถาวร
กำกับภาพยนตร์ ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์
บทภาพยนตร์ ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์, ธนพล เชาวน์วานิชย์
กำกับภาพ นิกร ศรีพงศ์วรกุล
กำกับศิลป์ เลอพงษ์ ภู่อ่อน
ลำดับภาพ บริษัท ฟูลเฮ้าส์ โปรดักชั่น
ดนตรีประกอบ เทิดศักดิ์ จันทร์ปาน
ออกแบบเครื่องแต่งกาย ปัญชลี ปิ่นทอง
ฟิล์มแล็บ จีทูดี บันทึกเสียง
บันทึกเสียง เรด สแนปเปอร์
ทีมนักแสดง มาโกโตะ โคชินากะ, อภิญญา สกุลเจริญสุข, เศรษฐ พงศ์ เพียงพอ, ศุภนาฏ จิตตลีลา, นวพล วัฒนพานิช, ภาคิน บวรศิริลักษณ์, ชิชา อำมาตยกุล และ ชวนภ โพธิ์ประเสริฐ

เรื่องย่อ

          เพราะความอยาก ‘ฟิน’ ไม่เข้าใครออกใคร เมื่อใดโอกาสมาถึง เป็นต้องขอ ‘ฟิน’ ดูสักที!.......
          ใครจะไปคิดว่าติ่งตัวแม่อย่าง หนูนา (สายป่าน-อภิญญา) ที่มีความฝันลมๆ แล้งๆ ว่าจะได้ฟินกับหนุ่มเจ-ร็อกนามกระเดื่อง มาโกโตะ (มาโกโตะ โคชินากะ) นักร้องนำแห่งวง TRICK จะได้ฟินสุโค่ยสมใจอยาก แต่กว่าที่ฝันจะเป็นจริงก็ไม่เรื่องง่าย เมื่อ เสือโคร่ง (เต๋า-เศรษฐพงศ์) แฟนหนุ่มนักกีฬายูโดออกอาการหึงหวงหนูนาที่ติ่งจนลืมแฟน จนอยากจะจับมาโกโตะทุ่มให้ฟินสักที มีเพียงน้องชายสุดเนิร์ดอย่าง สิงห์น้อย (ภีม-ภาคิน) ที่คอยดูแลปลอบใจเสือโคร่งอยู่ไม่ห่าง ทางด้านหนูนาเองลึกๆ ก็รู้สึกผิดที่ตัวเองติ่งจนเกินขอบเขต แต่ทำยังไงได้เมื่อความฝันที่จะฟินกับมาโกโตะนั้นแรงกล้ากว่าสิ่งใด
          เมื่อมาโกโตะและวง TRICK มาแถลงข่าวเปิดคอนเสิร์ตที่ประเทศไทย เพื่อมาตามหานางเอกมิวสิกวิดีโอเพลงใหม่ หนูนาจึงทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ฟินกับมาโกโตะ โดยมี หมูแฮม (ติ๊นา-ศุภนาฏ) และ ไก่โต้ง (กาย-นวพล) สองเพื่อนซี้คอยช่วยเหลือจนฝันของหนูนาเป็นจริงในที่สุด หารู้ไม่ว่าที่หมูแฮมทำไปก็เพราะแอบชอบหนูนา จึงพยายามทำทุกทางเพื่อให้เธอได้ฟินอย่างมีความสุข ตรงข้ามกับเสือโคร่งที่ไม่เข้าใจหนูนาเลยสักนิด ยังไม่มีใครรู้ว่า หลังจากที่หนูนาได้ฟินกับมาโกโตะสมใจอยากแล้ว ทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมหรือไม่ เธอจะหมกมุ่นกับความฝันจนลืมความเป็นจริงไปหรือเปล่า หมูแฮมจะจัดการความรู้สึกตัวเองได้หรือไม่ เสือโคร่งจะเข้าใจหนูนาไหม และใครกันแน่คือตัวจริงที่ทำให้หนูนาได้ฟินสุโค่ย!
« Last Edit: September 22, 2014, 08:38:28 AM by FB »

FB on August 28, 2014, 03:16:49 PM
จุดเริ่มต้นของความ “ฟินสุโค่ย”
          ปี พ.ศ. 2556 กรรมการบริษัทฟิน โปรเจกต์ จำกัด นำโดย คุณภัคกมล วิทยารางกุล และ คุณปุณยนุช วรนิธิพงศ์ ซึ่งขณะนั้นเป็น Project Manager ของบริษัท K-Project จากประเทศญี่ปุ่นได้เดินทางไปร่วมประชุมแนวคิดเรื่องการสร้างภาพยนตร์ร่วมกับ คุณโยชิโอะ โคชินากะ ประธานบริษัท K-Project ซึ่งเป็นต้นสังกัดของวงดนตรีชื่อดังอย่าง ลูซิเฟอร์ (/UCIFER) และ ทริค (TRICK) จนมาลงตัวที่ภาพยนตร์แนววัยรุ่นซึ่งมีดนตรีเป็นสื่อกลาง ในภาษาสากลคือ “Fin Sugoi” (ฟินสุโค่ย)
          หลังจากนั้นทีมผู้สร้างก็พยามเฟ้นหาผู้กำกับและมือเขียนบทที่จะต่อยอดความตั้งใจที่จะสร้างหนังเรื่องนี้ออกมาให้ถูกอกถูกใจวัยรุ่นและถ่ายทอดเรื่องราวของ ความรัก มิตรภาพ และเสียงดนตรีให้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด ก่อนที่คุณภัคกมล วิทยารางกุล และ คุณปุณยนุช วรนิธิพงศ์ สองกรรมการบริษัทฟิน โปรเจกต์ ได้เลือกผู้กำกับมากฝีมืออันดับต้นๆ ของเมืองไทย “กอล์ฟ-ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์” มาเป็นผู้ปรุงแต่งและสร้างความฟินในหนังเรื่องนี้ ซึ่งสองผู้บริหารสาวพูดถึงเหตุผลที่เลือกผู้กำกับคนนี้ว่า
          “คุณกอล์ฟเป็นคนที่มีแนวคิดนอกกรอบ อีกทั้งยังมีจินตนาการที่กว้างไกลและมีความสุขุมในเรื่องของบทภาพยนตร์ เพราะแม้ว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นหนังวัยรุ่นแต่ก็ต้องการความสมจริงของบทและความพิถีพิถันในการสร้าง อีกทั้งผลงานของคุณกอล์ฟก็เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ซึ่งเรามองไกลไปซึ่งการนำหนังไปฉายในประเทศอาเซียนทั้งหมด จึงไม่มีใครเหมาะสมไปกว่านี้อีกแล้ว”
ทางด้านผู้กำกับ “กอล์ฟ ธัญญ์วาริน” ก็พูดถึงจุดเริ่มต้นกับผลงานชิ้นนี้ กับเหตุผลที่ตัดสินใจตบปากรับคำมากำกับความฟินครั้งสำคัญในครั้งนี้ว่า
          “จุดเริ่มต้นของ ‘ฟินสุโค่ย’ มาจากทางผู้สร้างก็คือจากฝั่งไทย ‘ฟิน โปรเจกต์’ ได้มีแนวคิดกับทาง ‘K-Project’ ของประเทศญี่ปุ่น ที่จะทำหนังร่วมกัน อยากจะทำหนังที่เกี่ยวกับแฟนคลับมาโกโตะ ซึ่งตัวมาโกโตะเขาอยู่ในสังกัดของ K-Project อยู่แล้ว พอทางผู้สร้างติดต่อเราให้มากำกับ ก็มีการพูดคุยกันถึงทิศทางและอารมณ์ของหนัง ก็รู้สึกว่าอยากทำ ในฐานะที่เราเป็นวัยรุ่นสมัยก่อน ที่โตมากับการฟังเพลงญี่ปุ่น หรือชื่นชอบการฟังเพลงญี่ปุ่น ซึ่งเรารู้สึกว่าเราเคยรู้สึกแบบนั้น ก็เลยอยากทำ พออยากทำก็เลยเริ่มหาข้อมูล จากทั้งคนที่เป็นแฟนคลับคนญี่ปุ่น ก็เลยเกิดแรงบันดาลใจที่จะทำเรื่องฟินสุโค่ยขึ้นมา”

          สำหรับ “กอล์ฟ ธัญญ์วาริน” ชื่อนี้คงไม่ต้องพูดถึงฝีมือที่มีอยู่รอบด้านในการทำหนัง และถ้าดูจากผลงานสร้างชื่อที่ผ่านมาอย่าง “it gets better ไม่ได้ขอให้มารัก” และ “เธอ เขา เรา ผี” เราจะสังเกตได้ว่าผู้กำกับคนนี้มีการตีความความรักออกมาหลายรูปแบบ และที่สำคัญคือมีการจับต้องได้ เรียกได้ว่าเข้าถึงความเป็นจริงของมนุษย์ จนทำให้โดนอกโดนใจใครหลายคนมาแล้ว และในครั้งนี้ก็เช่นกันที่ผู้กำกับกอล์ฟกำลังพาทุกคนไปสัมผัสความรัก มิตรภาพ และเสียงดนตรี ให้ฟินอกฟินใจกันถ้วนหน้าอีกครั้ง พิสูจน์ได้จากกระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยม หลังจากที่ “ฟินสุโค่ย” โดนใจชาวญี่ปุ่นไปเต็มๆ หลังจากได้ฉายรอบ World Premiere ในเทศกาล Osaka Film Festival 2014 ณ เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่นที่กระแสแรงจนต้องเพิ่มรอบฉายเลยทีเดียว
          “แรงบันดาลใจในการทำหนังเรื่องนี้มาจากการที่เราชอบอ่านการ์ตูนญี่ปุ่น มีเรื่องนึงที่ชื่อว่า ‘จังหวะร็อก ดนตรีรัก’ ก็ถือเป็นแรงบันดาลใจส่วนหนึ่ง แล้วเราก็เอาประกอบกับการ์ตูนที่เป็นที่มาของวงมาโกโตะ เพราะว่าวงลูซิเฟอร์ก็มาจากญี่ปุ่น เราก็เอาตรงนั้นมาเป็นเหมือนกับคอนเซ็ปต์ของหนังที่มีผู้หญิงซึ่งคลั่งไคล้นักร้องเจ-ร็อก คือนอกจากที่จะมีตัวสายป่านแล้ว มันก็ยังมีตัวละครแวดล้อมที่มีผลกระทบ เพราะเราคิดว่าการที่คนๆ หนึ่ง เป็นแฟนคลับของนักร้องที่เราฝันจะใกล้ชิด แล้ววันหนึ่งได้เข้าไปอยู่ใกล้ชิดจริงๆ มันจะมีผลกระทบอะไรกับคนเหล่านี้ ทั้งความรักและมิตรภาพ เรารู้สึกว่าตรงนั้นมันเป็นเรื่องที่เราสนใจ”
          “ฟินสุโค่ย” เป็นเรื่องของผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อว่าหนูนา(สายป่าน) ซึ่งมีแฟนอยู่แล้วก็คือเสือโคร่ง (เต๋า เศรษฐพงศ์) แต่ตัวหนูนาชอบแล้วก็เป็นแฟนคลับของมาโกโตะ พอมาโกโตะได้เข้ามาเปิดคอนเสิร์ต แล้วก็มาหานางเอกเอ็มวีที่เมืองไทย หนูนาก็พยามทำทุกอย่างให้บรรลุความฝัน ที่จะได้ไปอยู่ใกล้ๆ กับมาโกโตะ แล้วฝันก็เป็นความจริง แต่พอได้ใกล้กันอย่างที่ฝันแล้ว ความสัมพันธ์กับแฟนตัวเองและกับเพื่อนในกลุ่มที่มีอยู่ ทั้งหมูแฮม (ติ๊นา) กับ ไก่โต้ง (กาย) ก็มีบางอย่างเกิดขึ้น ที่ผลมาจากความฟินของหนูนา มันก็อลวนวุ่นวายกันไปหมด แต่จะลงเอยยังไง ต้องไปหาคำตอบกันในหนัง”
          หลายคนคงอยากรู้ว่าใน “ฟินสุโค่ย” ผู้กำกับกอล์ฟ ได้ใส่ประเด็นความรักแบบไหนลงไปในหนังเรื่องนี้ ซึ่งรับรองว่าในหนังเรื่องนี้ก็เป็นอีกครั้ง ที่ตัวผู้กำกับหยิบประเด็นใกล้ตัวซึ่งมีความ ‘เรียลิสติก’ ที่เกิดขึ้นได้กับความรักของวัยรุ่นหรือคนทั่วไปในปัจจุบัน ซึ่งผู้กำกับพูดถึงพูดถึงมุมมองความรักในหนังเรื่องนี้ว่า
          “ฟินสุโค่ย เล่าถึงเรื่องราวความรักของคนที่แอบจิ้น แอบรัก ไม่ว่าจะเป็นคาแร็คเตอร์ของสายป่านที่แอบรัก แอบชอบ แอบจิ้นกับมาโกโตะ แล้วก็จะมีตัวละครรอบๆ อย่างน้องเต๋า น้องกาย น้องติ๊นา น้องกัสเบล น้องภีม น้องคิตตี้ ต่างก็มีความรู้สึกบางอย่างอยู่ในใจ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราจะเล่าในเรื่องนี้ก็คือการแอบรัก แล้วถ้าเรามีโอกาสที่จะฟินกับคนที่เราแอบรัก เราจะทำอะไรกับมัน เราก็รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ถ้าเรามีโอกาสได้ใกล้ชิดกับคนที่เราแอบรัก แล้วที่สำคัญที่สุดที่เราอยากจะนำเสนอในหนังเรื่องนี้ก็คือ ความรู้สึกของคนที่ถูกแอบรัก ปกติแล้วหนังมันจะเล่ามุมของฝ่ายที่ไปแอบชอบเขา แต่บางทีเราก็ไม่ได้เล่ามุมของคนที่ถูกแอบชอบ มันเป็นความอึดอัดว่าเราจะเสียเพื่อนไปมั้ย เราจะให้ความหวังเค้าเกินไปมั้ย หรือเราจะเสียเพื่อนไปมั้ย มันเป็นมุมมองที่อยากจะเสนอเข้าไปในเรื่องนี้ด้วยค่ะ”

FB on August 28, 2014, 03:17:11 PM
พวกเขาจะทำให้คุณฟินสุโค่ย
มาโกโตะ โคชินากะ รับบทเป็น มาโกโตะ
          มาโกโตะ นักร้องนำวง TRICK ของญี่ปุ่น เขาเป็นร็อกสตาร์ที่มีแฟนคลับทั่วเอเชียและยังเป็นขวัญใจของสาวไทยอย่างหนูนา และด้วยความหล่อเนี้ยบ มีเสน่ห์แบบซูเปอร์สตาร์ เขาจึงกลายเป็นชายในฝันที่ผู้หญิงทุกคนคลั่งไคล้

          “มาโกโตะ โคชินากะ” อดีตนักร้องวงเจ-ร็อกชื่อดัง “ลูซิเฟอร์” เป็นที่รู้จักกันดีไม่เพียงแต่ในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ในประเทศไทยของเรา มาโกโตะและวงลูซิเฟอร์ดังกระหึ่มถึงขนาดต้องบอกว่าแทบไม่มีเจ-ร็อกพันธุ์ไทยคนไหนที่ไม่รู้จักพวกเขา ถึงแม้ว่าตอนนี้มาโกโตะจะหันมาออกอัลบั้มเดี่ยว และเดบิวต์วงใหม่ที่ชื่อว่า TRICK แล้ว แต่กระแสความนิยมของแฟนๆ ที่มีต่อหนุ่มเจ-ร็อกคนนี้ไม่ได้ลดน้อยลงแต่อย่างใด ซึ่งกับการตบปากรับคำมาเล่นหนัง “ฟินสุโค่ย” ในครั้งนี้ของเขา ถือเป็นความเซอร์ไพรส์ที่เรียกเสียงกรี๊ดของแฟนคลับชาวไทยอย่างมาก ซึ่งผู้กำกับกอล์ฟ ธัญญ์วารินพูดถึงการแสดงของมาโกโตะในหนังเรื่องนี้ว่า
          “คือเราก็รู้จักเขามานานแล้วตั้งแต่ตอนดังมากๆ ในเมืองไทย ซึ่งก็มีกลุ่มคนไทยเยอะอยู่พอสมควรที่รู้จักเขา พอได้มีโอกาสมาทำงานกับเขา เราก็ตื่นเต้นนะ แล้วมาโกโตะก็อยากเล่นหนังไทย พอดูบท ดูอะไรปั๊บ เขาก็สนใจ เพราะไม่ต้องเล่นเป็นคนอื่น เขาเล่นเป็นตัวเขาเอง ถึงแม้ว่าในหนังจะเขียนให้เขาเป็นอีกแบบหนึ่ง ไม่ได้เป็นเรื่องของมาโกโตะตัวจริง แต่ว่าเขาได้ร้องเพลง ได้โชว์ความสามารถ ทั้งการแสดงแล้วก็การร้องเพลงด้วย เขาก็เลยสนใจและอยากร่วมงานกับเรา ในเรื่องเขาก็จะเป็นศิลปิน เป็นซูเปอร์สตาร์ ก็เหมือนปกติทั่วไปคือคือมีกรอบ มีกำแพง ที่กั้นจากคนอื่นอยู่ประมาณหนึ่ง แต่ด้วยหน้าที่การงานแล้วก็ความจำเป็น เขาก็มีกรอบบางอย่าง บางครั้งเขาก็ทำตามใจตัวเอง บางครั้งก็ทำตามกรอบที่มี ก็ถือว่าเขาเป็นคนที่คาดเดาความรู้สึกไม่ได้”
         
ทางด้านของหนุ่มมาโกโตะ ก็พูดถึงความรู้สึกและการทำงานกับทีมงานชาวไทยเป็นครั้งแรกในหนังเรื่องนี้ว่า
          “ทุกคนน่ารักมาก จริงๆ ก่อนหน้านี้ผมอยากแสดงภาพยนตร์ไทย ทำงานร่วมกับคนไทยมานานแล้วแต่ยังไม่มีโอกาส ซึ่งผมได้พูดกับสตาฟฟ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วพอดีสตาฟฟ์ได้รับการติดต่อจากทางบริษัทฟิน โปรเจกต์เลยมีโอกาสได้มาเล่นเรื่องนี้ครับ ในเรื่องนี้ผมก็รับบทเป็นนักร้องเหมือนกับตัวจริงที่ผมเป็นครับ ก็ขอขอบคุณผู้กำกับที่ให้ผมได้แสดงในบทบาทที่เป็นตัวเองด้วยการจุ๊บแก้มไปแล้วครับ สำหรับการแสดงถึงแม้ว่าจะมีปัญหาเรื่องของกำแพงภาษา เนื่องจากคนละเชื้อชาติกัน แต่ผมก็มาที่เมืองไทยหลายครั้งมากแล้ว ถึงแม้จะพูดไทยไม่ได้ แต่ในด้านความรู้สึก ผมก็จะพยายามแสดงออกมาให้ดีที่สุด ทำงานออกมาจากใจ ตั้งใจทำงานให้เต็มที่ เพื่อให้ผลงานออกมาดีที่สุด ฝากเนื้อฝากตัวกับทุกท่านด้วยครับ”

อภิญญา สกุลเจริญกุล รับบทเป็น หนูนา
          หญิงสาวที่ชื่นชอบดนตรีเจ-ร็อกเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะศิลปินสุดฮ็อต มาโกโตะ และเมื่อโชคชะตาเล่นตลกให้เธอได้ใกล้ชิดกับมาโกโตะ แล้วสาวติ่งอย่างเธอจะเลือกใครระหว่างชายในฝันกับแฟนหนุ่มที่คบกันมานานอย่างเสือโคร่ง
          “สายป่าน อภิญญา” นักแสดงสาวที่ผ่านผลงานคุณภาพมาแล้วอย่างมากมาย กับหลากหลายคาแร็คเตอร์และบทบาทที่ได้รับ ซึ่งคอหนังทุกคนคงยืนยันได้ว่าเธอคนนี้มักแสดงพลังทางการแสดงออกมาได้อย่างดีเยี่ยมมาโดยตลอด จนถือเป็นนักแสดงคุณภาพอีกคนหนึ่งของวงการ พิสูจน์ได้จากรางวัลสุพรรณหงส์ สาขานักแสดงหญิงนำยอดเยี่ยม (จากเรื่อง “ปาดังเบซาร์” ปี 56) ที่เธอคว้ามาเป็นเครื่องยืนยันฝีมือทางการแสดงได้เป็นอย่างดี และใน “ฟินสุโค่ย” สายป่านก็พร้อมพลิกคาแร็คเตอร์ชนิดที่ฉีกจากทุกบทบาทที่เคยได้รับมา กับบทบาทสาวติ่งเจ-ร็อกที่กำลังฟินกับความฝันจนลืมแฟนในชีวิตจริง ซึ่งผู้กำกับกอล์ฟพูดถึงบทบาทการแสดงของสายป่านในเรื่องนี้ว่า
          “คาแร็คเตอร์ของหนูนาก็ค่อนข้างเป็นคนที่เปิดเผยความรู้สึกนะ เขาชอบอะไร เขารู้สึกอะไร เขาก็จะบอก เพราะฉะนั้นว่าถึงเขาจะมีแฟนอยู่แล้ว แต่เขาชอบมาโกโตะมานาน จนรู้สึกว่าเขาชอบมานานกว่าแฟนหรือเปล่า แล้วเขาก็รู้สึกว่ามาโกโตะเป็นทุกอย่างของชีวิตเขา เพราะฉะนั้นหนูนาก็จะมีมาโกโตะเป็นไอดอล ก็คือเป็นคนที่ชอบถึงแม้ว่าจะเป็นไปไม่ได้ คาแร็คเตอร์ของหนูนาก็จะโผงผางเอาแต่ใจตัวเอง แต่ถ้าถามว่าหนูนาเป็นคนแรงมั้ย ก็แรงนะ แต่ว่าก็เป็นผู้หญิงที่ทำทุกอย่างเพื่อคนที่รักได้ คือปกติเท่าที่เราได้เห็นการแสดงของสายป่าน เราก็จะเห็นว่ามาทางดราม่าซะเยอะ แต่ว่าถ้ามาเล่นแบบสาวติ่ง แบบนี้เรายังไม่เคยเห็นสายป่านเล่น ตัวละครหนูนามีความหลากหลายทางอารมณ์ ต้องเล่นทั้งคอเมดี้ ทั้งดราม่า มีน่ารักๆ แรงๆ ผสมกัน เรารู้สึกว่าตรงนี้มันเป็นความสามารถที่ท้าทายของสายป่าน สายป่านก็มักจะบอกว่าการที่ได้มากองนี้รู้สึกตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา เขารู้สึกตื่นเต้นและท้าทายความสามารถที่จะทำให้ดีมากขึ้น พอสุดท้ายเราได้เห็นการแสดงของเขาเราก็รู้สึกแฮปปี้ว่านี่ไม่ใช่สายป่าน ที่เรารู้จัก แต่เป็นหนูนาจริงๆ เราก็รู้สึกแฮปปี้กับการแสดงของสายป่านจริงๆ”
ทางด้านสาวสายป่านก็พูดถึงบทบาทกับลุคใหม่ที่รับรองว่าคนดูจะเอาใจช่วยและอินไปกับความรักและความฝันของตัวละครตัวนี้ว่า
          “ถือเป็นความท้าทายของป่าน ที่ได้มาร่วมงานกับพี่กอล์ฟ เพราะเราได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จากคาแร็คเตอร์ของตัวละครหนูนา วัฒนธรรมของแฟนคลับซึ่งไม่ได้แค่ตามกรี๊ดกร๊าดศิลปินไปวันๆ เหมือนที่คนภายนอกมอง แต่การชื่นชอบใครสักคนจนหมดหัวใจ มันทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการแสวงหาสิ่งที่ตัวเองต้องการอย่างเช่น กับการทำงานในกองนี้ก็สนุกมาก คาดเดาไม่ได้ว่าแต่ละฉากของเรื่องพี่กอล์ฟจะทำออกมาในรูปแบบไหน ซึ่งก็ท้าทายทุกครั้ง บางวันได้แต่งคอสเพลย์ บางวันได้ใส่กิโมโน รู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้มาทำงาน”

เศรษฐพงศ์ เพียงพอ รับบทเป็น เสือโคร่ง
          แฟนหนุ่มของหนูนาผู้ไม่เคยเข้าใจอาการติ่งของแฟน เขามักถูกหนูนาไปเปรียบเทียบกับชายในฝันอย่างมาโกโตะ จนรู้สึกอึดอัดและน้อยใจเป็นที่สุด แต่จะให้เขาปล่อยให้แฟนสาวไปคบกับนักร้องในฝันง่ายๆ ก็เสียชื่อชายไทยเกินไปแล้ว เขาไม่มีวันยอมซะหรอก
          “เศรษฐพงศ์ เพียงพอ” นักแสดงหนุ่มวัยรุ่นที่แจ้งเกิดมาจากเวที อะคาเดมี แฟนเทเชีย ซีซั่น 8 ที่เขาสามารถชนะใจบรรดาแฟนคลับ ด้วยเสน่ห์เฉพาะตัวและฝีมือที่มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม จนสามารถคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 4 มาครองได้สำเร็จ ก่อนที่หนุ่มเต๋าจะเข้าสู่วงการบันเทิงอย่างเต็มตัว ทั้งผลงานโฆษณา ถ่ายแบบ เล่นละครร้องเพลง ก่อนจะมีผลงานแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกที่มีชื่อว่า “ยอดมนุษย์เงินเดือน” ทั้งยังชิมลางเป็นพระเอกเต็มตัวทางช่อง 3 ใน “สลับร่างสร้างรัก”และล่าสุดหนุ่มเต๋าก็พร้อมพาทุกคนไปพบบทบาทใหม่ที่สุดท้าทายของเขาอีกครั้ง กับบท เสือโคร่ง แฟนหนุ่มที่ไม่เคยเข้าใจอาการคลั่งไคล้นักร้องญี่ปุ่นของแฟนสาว ซึ่งผู้กำกับกอล์ฟ พูดถึงบทบาทและการแสดงของหนุ่มเต๋าในเรื่องนี้ว่า
          “เสือโคร่งก็เป็นผู้ชายธรรมดา แต่ในความธรรมดาถ้าถามว่าเป็นคนที่นิสัยดีมั้ย ก็บอกเลยว่าไม่ดี เพราะเขาเป็นคนที่ขี้โมโห ไม่ใส่ใจในรายละเอียด เพราะฉะนั้นมันก็จะเป็นคาแร็คเตอร์ที่ผู้หญิงหรือคนที่มีแฟนแบบนี้ไม่น่าจะชอบหรือเปล่า แต่นิสัยส่วนตัวของเขาก็เป็นคนรักเดียวใจเดียว สำหรับเต๋าเราคิดว่าเราเคยเห็นการแสดงของเต๋า จากหนังบ้างละครบ้าง เราก็คิดว่าเต๋าน่าจะเหมาะกับบทๆ นี้ เพราะว่าหน้าของเต๋ามีความดื้อรั้นอยู่ในตัว เราก็คิดว่าเต๋าน่าจะเป็นเสือโคร่งได้ แล้วเต๋าก็ทำให้ทุกคนเชื่อได้ว่าทำไมถึงเป็นคนนิสัยแบบนี้ เรียกว่าเขาทำการบ้านแล้วก็เตรียมตัวมาเล่นเป็นเสือโคร่งได้ดีจริงๆ”

ทางด้านของหนุ่ม เต๋า เศรษฐพงศ์ ก็พูดถึงการแสดงและบทบาทใหม่ของเขาในครั้งนี้ว่า
          “ผมว่าผู้ชายที่มีแฟนเป็นติ่งศิลปิน ต้องมีความอดทนสูง แต่ตัวผมเองก็เป็นศิลปินที่มีแฟนคลับสนับสนุนจึงค่อนข้างเข้าอกเข้าใจความรู้สึกของพวกเขาเป็นอย่างดี ผมว่าการได้มาเล่นเป็นเสือโคร่งที่มีแฟนเป็นติ่งศิลปินญี่ปุ่นถือว่าเป็นอะไรที่น่าสนุกนะ เพราะในเรื่องนี้ตัวเสือโคร่งไม่มีอะไรไปเทียบกับศิลปินระดับเทพอย่างมาโกโตะอยู่แล้ว การเอาชนะใจแฟนตัวเองต้องอาศัยความจริงใจและความเข้าใจในสิ่งที่เธอเป็น ก็ถือเป็นบทที่เราต้องถ่ายทอดออกมาให้คนดูเข้าใจตัวละครตัวนี้ที่สุด ซึ่งก็ได้พี่กอล์ฟให้คำแนะนำและสอนในเรื่องของการสื่อสารอารมณ์ต่างๆ ให้ แล้วนักแสดงที่เล่นด้วยกันทั้ง สายป่าน ติ๊นา กาย แต่ละคนก็ทำออกได้ดีจนเวลาที่เราเข้าฉากด้วย ก็เลยแสดงอารมณ์ได้ดีมากขึ้นไปอีก ยังไงก็ไปติดตามกันเยอะๆ นะครับ”

ศุภนาฏ จิตตลีลา รับบทเป็น หมูแฮม
          สาวหล่อเพื่อนซี้อีกคนของหนูนา ซึ่งเข้าอกเข้าใจหนูนาเป็นอย่างดี และเป็นที่ปรึกษาและกำลังใจที่สำคัญของหนูนาเสมอมา แล้วผิดเหรอที่หมูแฮมจะเผลอใจให้กับหนูนา แล้วความรู้สึกนี้จะถูกเก็บเป็นความลับได้นานสักแค่ไหน
          “ติ๊นา ศุภนาฏ” สาวหล่อขวัญใจสาวๆ แห่งยุคพ.ศ.นี้ หลังจากแจ้งเกิดจากหนังรักวัยรุ่น “Yes or No อยากจะรักก็รักเลย” ทั้งสองภาค ชื่อของเธอก็ก้าวไปสู่การเป็นซูเปอร์สตาร์อีกคนหนึ่งของเมืองไทย ที่มีแฟนคลับคอยให้กำลังใจและติดตามผลงานมากที่สุดอีกหนึ่งคน ซึ่งไม่ใช่แค่ในประเทศไทย แต่ติ๊นายังมีแฟนคลับอยู่ในต่างแดนอีกมากมายไม่แพ้กันอีกด้วย โดยเฉพาะทางฝั่งแดนมังกร ซึ่งเธอได้รับการโหวตจากประชาชนประเทศจีนให้เป็นดาราหญิงที่ได้รับความนิยมสูงสุดของเมืองไทย ซึ่งกับบทบาท “หมูแฮม” เพื่อนคนสนิทของตัวละคร “หนูนา” นั้นเจ้าตัวถึงกับออกปากว่าไม่ง่ายเลย แต่เธอก็พร้อมทุ่มสุดตัวให้กับบทบาทการแสดงใหม่นี้ ซึ่งทางผู้กำกับกอล์ฟ พูดถึงบทบาทและการแสดงของติ๊นาในเรื่องนี้ว่า
          “ก็แน่นอนว่าหมูแฮมเป็นทอม แล้วก็เป็นเพื่อนสนิทกับหนูนา หมูแฮมก็เป็นนักดนตรีกลางผับ มีสาวๆ มากรี๊ดกร๊าดมากมาย นิสัยเขาก็จะเป็นคนที่เก็บความรู้สึก ไม่ได้เปิดเผยความรู้สึกของตัวเองมากสักเท่าไหร่ ก็จะดูแลเอาใจใส่เป็นเพื่อนที่ดีของหนูนา ซึ่งบางครั้งการเป็นเพื่อนสนิทด้วยกันมากๆ มันก็อาจจะมีหวั่นไหวบ้าง แต่ว่าก็ต้องเก็บความรู้สึกกันไว้ จากที่เราเห็นติ๊นา เล่นใน Yes or No ก็จะเล่นเป็นคู่ทอมดี้ เป็นเลสเบี้ยน คือเรื่องนี้พี่ก็พยายามปรับคาแร็คเตอร์ของหมูแฮม ซึ่งมันเซอร์ไพรส์มากในเรื่อง ตัวคาแร็คเตอร์ของหมูแฮมมันต้องมีความซับซ้อนกว่าทุกเรื่องที่ติ๊นาเคยเล่นมา ทั้งเล่นดนตรี ร้องเพลง ถือว่าเรื่องนี้เราจะได้เห็นอะไรในตัวติ๊นามากขึ้นจากเดิม”
ทางด้านของสาวติ๊นา ก็ออกปากเลยว่าหนักใจสุดๆ กับการแสดงในหนัง “ฟินสุโค่ย” ที่นอกจากจะต้องแสดงให้เข้าถึงอารมณ์ของคนแอบรักแล้ว เธอยังต้องแสดงฉากร้องเพลง รวมไปถึงเลิฟซีน ที่รับรองว่าคนดูต้องเซอร์ไพรส์กันไปตามๆ กันว่า
          “เรื่องนี้ถือว่าติ๊นาต้องเจอการบ้านที่ยากและต้องทำอะไรที่ไม่เคยทำมาก่อนเลย แต่ก็ต้องยกให้พี่กอล์ฟที่ช่วยดึงความสามรถของเราออกมาอีก เขาจะคอยบอกติ๊ตลอดว่าฉากนี้อารมณ์ต้องเป็นแบบไหนต้องเล่นยังไง อย่างฉากเลิฟซีนพี่กอล์ฟก็จะมีวิธีละลายพฤติกรรมที่จะทำให้เราเปิดใจและสามารถเล่นบทเลิฟซีนได้ไม่เขิน ส่วนการแสดงเราก็ต้องเล่นแบบเก็บความรู้สึกลึกๆ ไว้ข้างใน คือมันต้องออกทางสีหน้า ท่าทาง ก็ได้พี่กอล์ฟ ได้นักแสดงคนอื่นๆ ช่วยกันบิลท์ได้ดีมากค่ะ อีกสิ่งหนึ่งที่ท้าทายก็คือการร้องเพลงและเล่นกีตาร์ ก็ต้องมีการไปเรียน แต่ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุดค่ะ”

นวพล ลำพูน รับบทเป็น ไก่โต้ง
          หนุ่มมาดขรึม ซึ่งเป็นเพื่อนในกลุ่มของหนูนาและหมูแฮมที่คอยอยู่เคียงข้างกันเสมอ หัวใจของไก่โต้งเริ่มสับสนเมื่อเขาเกิดความรู้สึกบางอย่างที่มันไม่ควรเกิดขึ้น แล้วเขาจะจัดการกับความรู้สึกนี้ได้อย่างไร
          “กาย-นวพล ลำพูน” นักแสดงหนุ่มมาดเซอร์ทายาทของนักแสดงชื่อดังของเมืองไทย “หนุ่ย อำพล – มาช่า วัฒนพานิช” ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์อยู่ในตัว ด้วยสไตล์เฉพาะตัวและแนวทางที่ชัดเจน หนุ่มกายก็มักตีบทแตกและทำให้คนเชื่อว่าเขาเป็นตัวละครตัวนั้นได้จริงๆ ไม่ยาก และกับบทบาทล่าสุด “ไก่โต้ง” ที่ผู้กำกับกอล์ฟพูดได้เต็มปากว่ามีความใกล้เคียงและคล้ายคลึงกับตัวหนุ่มกายมาก และเราจะได้เห็นความสามรถที่ก้าวไปอีกของหนุ่มมาดเซอร์คนนี้อย่างแน่นอน
          “ไก่โต้งก็เป็นคนนิ่งๆ เงียบๆ จะเป็นเพื่อนกับหมูแฮมแล้วก็หนูนา ดูเป็นผู้ชายแมนๆ ติสท์ๆ ไม่ค่อยเปิดเผยความรู้สึก ซึ่งก็จะมีความลับกับตัวเองเยอะ ซึ่งเขาก็มีความรู้สึกบางอย่างที่บอกใครออกไปไม่ได้ สำหรับตัวละครไก่โต้งกับกายถือว่าคล้ายกันมาก ใกล้เคียงเลย กายอ่านบทแล้วกายชอบมาก มันมีอะไรที่คล้ายตัวเขา ก็ดีใจที่กายตกลงมาเล่นแล้วคือเวลากล้องจับถ่ายกายเรารู้สึกว่าเวลาถ่ายมุมหนึ่งก็เหมือนพี่หนุ่ย (อำพล) มุมหนึ่งเหมือนพี่ช่า (มาช่า) เลย ก็เลือกมุมยากพอสมควร (หัวเราะ) ส่วนเรื่องการแสดงเขาก็จะมีบทลึกๆ ที่ไม่ต้องพูด แต่แสดงอารมณ์ได้ดีมากๆ รับรองสาวๆ เห็นหลงรักแน่นอน”

ทางด้านหนุ่มกาย ก็พูดถึง “ไก่โต้ง” ตัวละครที่ได้รับว่า เขาชอบบทและคาแร็คเตอร์ของตัวละครตัวนี้ที่มีความใกล้เคียงและเป็นตัวเขาสูงมาก ซึ่งกายพูดถึงบทบาทและการแสดงในเรื่องนี้ว่า
          “คาแร็คเตอร์แบบไก่โต้ง เขามีความเป็นปัจเจกชนสูง ค่อนข้างมีความเป็นตัวของตัวเองการที่เขาจะรู้สึกชอบอะไร มันก็เป็นสิ่งที่เขาเก็บไว้ในใจ ไม่มีใครรู้ ก็ถือว่าเป็นคาแร็คเตอร์ที่มีความซับซ้อนอยู่พอสมควร แต่พี่กอล์ฟก็มักจะบอกเสมอว่าตัวละครตัวนี้จะใช้สีหน้าและอารมณ์ถ่ายทอดบทบาทและการแสดงออกมาเป็นหลัก ส่วนเรื่องมันส์ๆ เวลาอยู่กับเพื่อนมันก็เป็นธรรมชาติของตัวผมอยู่แล้ว ก็ได้ฝึกได้เรียนรู้อะไรเยอะครับในหนังเรื่องนี้ แล้วก็สนุกมากด้วยได้ทำอะไรหลายอย่าง ได้ขับมอเตอร์ไซค์เท่ๆ ได้ใส่ชุดซามูไรและได้เล่นบทดราม่าหนักๆ ส่วนภาพในหนังที่มีหลายคนทักว่าเหมือนคุณพ่อหนุ่ย อำพลมาก ผมบอกได้เลยว่า ผมแซ่บกว่าเยอะครับ” (หัวเราะ)

เบื้องหลังความฟินเว่อร์ ณ ดินแดนปลาดิบ
          ถือเป็นอีกหนึ่งความพิเศษในหนัง “ฟินสุโค่ย” ที่นอกจากเราจะได้ฟินไปกับเรื่องราวความรักและมิตรภาพในหนังแล้ว เรายังได้เห็นและซึมซับบรรยากาศแบบฟินๆ กับสถานที่สวยๆ ของดินแดนปลาดิบที่ทีมงานยกพลกันไปถ่ายทำกันอย่างเต็มอิ่ม แม้จะต้องเผชิญกับความยากลำบากและการปรับตัวของทั้งทีมงานและนักแสดง ที่ต้องเจอทั้งแผ่นดินไหว หิมะตก และอากาศที่หนาวเย็น แต่ทั้งหมดก็ทุ่มสุดตัวเพื่อให้ได้ฉากฟินๆ ที่แสนจะโรแมนติก ซึ่งผู้กำกับกอล์ฟพูดถึงการยกพลกันไปถ่ายทำที่ญี่ปุ่นว่า
          “ที่ญี่ปุ่นเราเดินทางกันไปถ่ายอยู่หลายที่ แล้วก็หลายฉากเลย ไปกันอยู่เป็นอาทิตย์ ก็มีที่เอโดะวันเดอร์แลนด์ ไปถ่ายฉากที่หนูนากับเพื่อนไปเที่ยวกัน ก็ใส่ชุดกิโมโนดวลดาบซามูไรกัน จำได้ว่าตอนที่ไปถ่ายอากาศหนาวมาก ไม่ถึงสิบองศา แล้วคือนักแสดงไปถึงวันแรกเราก็ถ่ายฉากนี้เลย ก็ยังมึนงงกันอยู่ แต่ฉากนี้ถ่ายออกมาแล้วดูสนุกสนานกันดี อีกที่ที่เราไปก็คือ สะพานชินเคียว เป็นสถานที่มรดกโลก ด้วยความที่เป็นสะพานสีแดง เวลาถ่ายย้อนแสงไปมันเป็นอะไรที่สวยงามมาก เราก็ใช้ที่นี่ถ่ายฉากสำคัญเป็นจุดไคลแม็กซ์ของเรื่อง ข้อสรุปของเรื่องราวทั้งหมดจะเกิดขึ้นบนสะพานแห่งนี้ แล้วก็มีที่น้ำพุร้อนออนเซ็น ก็เป็นฉากที่โหดมากสำหรับสายป่าน เพราะต้องแช่อยู่ในน้ำตังแต่เช้ายันเที่ยง ตัวละครคนอื่นก็จะมีบทที่จะสลับกันขึ้นน้ำไป แต่ของสายป่านต้องแช่น้ำอยู่ตลอด ส่วนที่พ้นน้ำมาจะหนาว อยู่ใต้น้ำก็จะร้อน คือเสี่ยงต่อการไข้กินมาก คือสายป่านถ่ายฉากนี้เสร็จตัวแดงเลย ก็สงสารน้องอยู่นะ”

ฟินกันแบบอลังการงานสร้าง กับ ฉากคอนเสิร์ต J-ROCK

          ในหนัง “ฟินสุโค่ย” บรรดาแฟนคลับของหนุ่มมาโกโตะและวง TRICK คงได้ฟินกันแบบสุดๆ เพราะผู้กำกับกอล์ฟและทีมงานได้เนรมิตฉากคอนเสิร์ตสุดอลังการให้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด ด้วยการทุ่มทุนสร้างมหาศาลเพื่อฉากๆ นี้โดยเฉพาะ เรียกได้ว่าฉากนี้คนดูคงได้ทั้งความฟินความมันส์กันถ้วนหน้าประหนึ่งอยู่ในฉากคอนเสิร์ตกันจริงๆ ซึ่งเบื้องหลังทีมงานก็เซต แสง สี เสียง แบบเต็มรูปแบบ พร้อมกับนักแสดงและแฟนคลับร่วม 500 ชีวิตที่มาเข้าฉากกัน ณ มูนสตาร์ สตูดิโอ งานนี้หนุ่มมาโกโตะและเพื่อนก็โชว์ฝีมือระดับเทพทั้งเล่นทั้งร้องสดทุกฉากทุกเพลงแบบไม่มีกั๊ก จนผู้กำกับกอล์ฟต้องยกนิ้วให้
          “ก็ถือว่าเป็นฉากที่เราเซตใหญ่มาก แล้วก็ทุ่มทุนเยอะมาก เพราะว่ามันเป็นฉากคอนเสิร์ตที่ใหญ่ เครื่องมันต้องครบ แสง สี เสียง อุปกรณ์เครื่องดนตรี มาโกโตะกับวงก็ต้องเล่นจริง เอ็กซ์ตร้าก็ต้องอัดเข้าไปเยอะมากเพื่อแสดงเป็นแฟนเพลง มันก็เป็นฉากใหญ่ แล้วก็เป็นฉากไคลแม็กซ์ของเรื่องด้วย ก็ถือว่าเป็นฉากที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตเราเลยนะ ฉากนี้กินเวลาถ่ายทั้งวันประมาณ 12 ชั่วโมง คือร้องจริงๆ 2 เพลง แต่ถ่ายกัน 12 ชั่วโมง แล้วต้องถ่ายให้เสร็จเพื่อถ่ายฉากอื่นต่อ ก็ถ่ายกันด้วยความกดดัน แต่พี่โชคดีมาก ที่นักแสดงเรื่องนี้มืออาชีพกันทั้งนั้น การถ่ายก็เลยใช้แค่ไม่กี่เทค คือไม่ว่าจะถ่ายกี่มุมเขาก็เล่นดีเหมือนเดิม ถือเป็นความโชคดีของเราที่ทำให้เราผ่านฉากยากๆ นี้ไปได้”

DIRECTOR’S NOTE
          งานนี้เป็นงานยากและเป็นบทพิสูจน์ฝีมือของตัวเองอีกระดับหนึ่ง เพราะแม้ว่าจะเคยคว้ารางวัลระดับนานาชาติมาแล้ว แต่การทำหนังตลาดเพื่อเอาชนะใจวัยรุ่นต้องใช้จิตวิทยาอย่างสูง เพราะด้วยความสัมพันธ์ของตัวละคร ในบทค่อนข้างซับซ้อน มีส่วนผสมของความสุข ความสนุก ตลกขบขันและดราม่าในตัว จึงต้องทำให้ถึงอารมณ์ในทุกฉาก อีกทั้งยังได้นักแสดงระดับซูเปอร์สตาร์อย่างมาโกโตะมาร่วมงานกับดาราชื่อดังของไทย “ฟินสุโค่ย” จึงกลายเป็นหนังที่ทุกคนจับตามองและคาดหวังว่าต้องแตกต่างจากหนังวัยรุ่นทั่วไป งานสร้างจึงต้องใช้ความพิถีพิถันตั้งแต่การเลือกทีมงานไปจนถึงบท ภาพยนตร์และการกำกับศิลป์ก็ต้องความประณีต ซึ่งต้องใช้โลเกชั่นถ่ายทำทั้งในไทยและในญี่ปุ่น
          เราว่าหนังรักเรื่องนี้ มันก็เป็นความบันเทิง มีความสุข แล้วก็ได้เห็นเรื่องราวความรัก ที่เราสามารถไปตั้งคำถามกับตัวเราได้ว่าการที่เรามีความฝัน มีไอดอล เป็นแฟนคลับใครสักคน แล้วถ้าวันหนึ่งเราฟินกับความฝันนั้นแล้ว ชีวิตจริงเราจะเป็นยังไง เพราะบางครั้งคนเราก็ไปยึดติดกับความฝันมาก จนบางครั้งลืมมองความเป็นจริงไป ตรงนั้นเราว่าเป็นเมสเสจสำคัญที่คนดูจะไปตั้งคำถามกับชีวิตว่า “เราหมกมุ่นกับความฝันจนลืมความเป็นจริงไปหรือเปล่า”

FB on September 02, 2014, 03:25:27 PM
ทีมนักแสดง “ฟินสุโค่ย” ยกพลเปิดตัวความฟิน กลางกองถ่าย MV ประกอบหนัง “มาโกโตะ” แท๊กทีม “เต๋า-ติ๊นา” นำทีมเรียกเสียงกรี๊ดกระหึ่มงาน





            ได้ฤกษ์เปิดตัวความฟินไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับภาพยนตรโรแมนติก-คอเมดี้ฟินเว่อร์ “ฟินสุโค่ย” จากการแท็กทีมกันของค่ายใบโพธิ์ “สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล” และ “ฟิน โปรเจกต์” ผลงานการกำกับของผู้กำกับมากฝีมือ “กอล์ฟ-ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์” ซึ่งได้แถลงข่าวเปิดตัวหนังอย่างเป็นทางการไปเป็นที่เรียบร้อย ณ สตูดิโอมงคล โดยงานนี้ก็ได้เปิดโอกาสโอกาสให้บรรดาสื่อมวลชนได้เข้าไปเก็บภาพบรรยากาศความฟินกันแบบสดๆ กับการถ่ายทำมิวสิควีดีโอเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ กับเพลงที่มีชื่อว่า “ไม่สนิท” ซึ่งทีมนักแสดงในหนังเรื่องนี้ก็มาร่วมกันถ่ายทอดอารมณ์ของเพลงนี้กันอย่างคับคั่ง นำทีมโดยร็อคสตาร์ระดับเอเชีย “มาโกโตะ โคชินากะ” ร่วมด้วยทีมนักแสดงวัยรุ่นชื่อดังของเมืองไทย “เต๋า-เศรษฐพงศ์ เพียงพอ”, “ติ๊นา-ศุภนาฏ จิตตลีลา”, “กัสเบล-ชวนภ โพธิ์ประเสริฐ”, “คิตตี้-ชิชา อำมาตยกุล”, “ภีม-ภาคิณ บวรศิริลักษณ์” ขาดไปเพียงสองนักแสดงหลักอย่าง “สายป่าน-อภิญญา สกุลเจริญกุล” และ “กาย-นวพล วัฒนพานิช” ก่อนจะถึงช่วงของการพูดคุยบนเวที่ซึ่งหนุ่มร็อคสตาร์ขวัญใจสาวกเจร็อคอย่าง “มาโกโตะ” ก็ตอบคำถามอย่างสนุกสนาน จนเรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดจากบรรดาสื่อมวลชนและแฟนคลับ ก่อนที่ทั้งหมดจะขึ้นถ่ายรูปร่วมกับสองฝั่งผู้บริหาร ทั้งจากฝั่งบริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล คุณ อวิกา เตชะรัตนประเสริฐ รองประธานกรรมการ ฝ่ายการตลาด และ คุณ จาตุศม เตชะรัตนประเสริฐ รองประธานกรรมการ ฝ่ายสื่อสารการตลาด และสองกรรมการ ฟิน โปรเจกต์ คือ คุณ ภัคกมล วิทยารางสกุล และ คุณ ปุณยนุช วรนิธิพงศ์ ซึ่งภาพยนตร์ “ฟินสุดโค่ย” จะเข้าฉายให้ฟินกัน 25 กันยายน นี้ ทุกโรงภาพยนตร์

FB on September 03, 2014, 02:46:58 PM
บทสัมภาษณ์นักแสดงหนุ่ม “เต๋า-เศรษฐพงศ์ เพียงพอ”กับผลงานเรื่องล่าสุด “ฟินสุโค่ย”ในบท “เสือโคร่ง” แฟนหนุ่มเจ้าอารมณ์ของ “หนูนา” แฟนคลับมาโกโตะตัวแม่





           บทบาทและคาแร็คเตอร์ใน “ฟินสุโค่ย”
          รับบทเป็น “เสือโคร่ง” ครับ ก็เป็นผู้ชายที่ค่อนข้างอารมณ์ร้อน โผงผางนิดหน่อย ตัวเสือโคร่งมีแฟนก็คือหนูนา (รับบทโดย สายป่าน) ตัวหนูนาก็เป็นพวกคลั่งไคล้ศิลปินแบบสุดๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่เสือโคร่งไม่เข้าใจ แบบว่าทำไมต้องไปคลั่งไคล้ศิลปินต่างชาติทั้งๆ ที่มีแฟนอยู่แล้วซึ่งเป็นตัวเสือโคร่งเอง ทำไมเค้าถึงละเลยเราไป ใช้เราทำนู่นทำนี่ ทั้งๆ ที่เราเป็นตัวจริงทำไมเค้าไม่มองมาที่เราบ้าง
           บทบาทที่ได้รับใน “ฟินสุโค่ย” แตกต่างจากที่เราเคยรับมายังไง
           แตกต่างเหมือนกัน บทที่เคยได้รับมาก็ดูเป็นคนเป็นคนทะเล้นกะล่อน แต่ว่าเรื่องนี้จะเป็นคนที่จริงจัง โผงผางมากขึ้นคืออารมณ์ร้อนแล้วก็พูดออกมาเลย จริง ๆ แล้วเสือโคร่งเป็นคนที่รักหนูนามาก และก็เป็นคนที่ตามใจปากมากกว่าที่จะคิดก่อนแล้วค่อยพูด ก็คือจะพูดออกไปเลย ก็เลยทำให้เกิดเรื่องราวเกิดขึ้นเพราะไปพูดไม่ดีกับหนูนาเข้า
           กับผลงานเรื่องนี้มีความกดดันหรือท้าทายกับตัวเราอย่างไรบ้าง
           ก็ท้าทายแล้วก็กดดันอยู่เหมือนกัน อย่างแรกคือการต้องทำงานกับร็อกสตาร์ระดับเอเชียอย่างมาโกโตะ จริงๆ เคยร่วมงานกับเขามาแล้ว แต่เป็นแค่การไปแสดงคอนเสิร์ตที่เดียวกัน พอมาทำงานด้วยกันจริงๆ ก็เกร็งเหมือนกันเพราะเราก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นคนแบบไหน จะเข้มงวดในเรื่องไหนบ้าง แต่พอมาทำงานด้วยกันเขาก็เฟรนด์ลี่ แล้วก็ตั้งใจมากๆ ส่วนการได้มาทำงานกับพี่กอล์ฟก็ถือเป็นครั้งแรก ก็เคยติดตามผลงานของพี่เขามาก่อน ก็รู้ว่าพี่เขาเป็นคนที่เก่งมาก ก็กดดันเหมือนกันกลัวทำออกมาได้ไม่ดี แล้วก็ต้องมาเจอกับสายป่าน, กาย, ติ๊นา ซึ่งไม่เคยร่วมงานกันมาก่อนตรงนี้ก็เกร็งอยู่เหมือนกัน
           เรื่องราวใน “ฟินสุโค่ย”
           ก็เป็นเรื่องของผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อว่าหนูนา(สายป่าน) ซึ่งมีแฟนอยู่แล้วก็คือเสือโคร่ง (เต๋า เศรษฐพงศ์) แต่ตัวหนูนา ชอบแล้วก็เป็นแฟนคลับของมาโกโตะ พอมาโกโตะได้เข้ามาเปิดคอนเสิร์ต แล้วก็มาหานางเอกเอ็มวีที่เมืองไทย หนูนาก็พยามทำทุกอย่างให้บรรลุความฝันที่จะได้ไปอยู่ใกล้ๆ กับมาโกโตะ แล้วฝันก็เป็นความจริง แต่พอได้ใกล้กันอย่างที่ฝันแล้ว ความสัมพันธ์กับแฟนตัวเองและกับเพื่อนในกลุ่มที่มีอยู่ ทั้งหมูแฮม (ติ๊นา) กับ ไก่โต้ง (กาย) ก็มีบางอย่างเกิดขึ้น ที่ผลมาจากความฟินของหนูนา มันก็อลวนวุ่นวายกันไปหมด แต่จะลงเอยยังไง ต้องไปหาคำตอบกันในหนัง
           ได้ยินมาว่าเข้าฉากวันแรกก็ได้ฟินสมชื่อหนังเลย เพราะต้องเล่นเลิพซีนกับสายป่าน
           ก็ไม่ได้ฟินอะไรครับ มันคือการแสดง (หัวเราะ) คือซีนแรกตอนแรกเข้าใจว่าต้องเล่นซีนกุ๊กกิ๊กๆ กับสายป่าน คือในบทมันแค่กุ๊กกิ๊กๆ กันธรรมดา แต่พอไปถึงหน้าเซ็ต พี่กอล์ฟบอกไหนลองจูบกันดูซิ เราก็อ้าวจูบเลยหรอซีนแรก เพิ่งมานะ พี่กอล์ฟบอกเอาเลยจูบเลย จะได้ละลายพฤติกรรมไปด้วย จะได้รู้ว่าเป็นแฟนกันจะต้องทำกันยังไง สายป่านเค้าเป็นมืออาชีพอยู่แล้ว ก็คือแบบว่าพี่กอล์ฟบอกจูบเลยจูบจริง ก็หันไปมองสายป่านแล้วแบบโอเคก็เล่นเลยไม่ได้มีนัดแนะ คือตามอารมณ์ไปเลย คือหายเขินกันไปเลยวันนั้นก็ได้ผลจริง ๆ เพราะว่าพอเราผ่านซีนนั้นไปได้ ซีนอื่นคือแบบสบายแล้ว คือทำให้ผมกับสายป่านเชื่อว่าเราเป็นแฟนกันจริงๆ
           การทำงานกับผู้กำกับ “กอล์ฟ ธัญญ์วาริน”
           พี่กอล์ฟสวยมากเลยครับต้องชมก่อน (หัวเราะ) พี่กอล์ฟเป็นคนเขียนบทเองเรื่องนี้ เขาจะรู้มิติของตัวละครทุกตัวว่าอะไรเป็นยังไง เขาจะเป็นทั้งแอ็คติ้งโค้ช แล้วก็เป็นผู้กำกับให้ด้วย พี่กอล์ฟจะปล่อยให้เราทำการบ้านมาก่อน เล่นกันไปก่อน อันไหนไม่ผ่านจริงๆ แล้วค่อยมาตบกลับเข้ามา เขาจะไม่กดดันนักแสดงเลย จะไม่มีแบบว่าเวลานี้ต้องได้แล้วนะ ต้องเสร็จนะ ถ้ามันไม่ได้จริงๆ พี่กอล์ฟก็ไม่ปล่อยผ่านก็คือมืออาชีพมากครับ
           พี่กอล์ฟได้มีการแนะนำหรือสอนอะไรเรากับการมารับบทเสือโคร่งบ้าง
           พี่กอล์ฟจะเน้นความดิบ ๆ ของตัวเสือโคร่ง เพราะว่าผมอาจจะนุ่มนวลเกินไป พอพี่กอล์ฟบอกมันไม่ได้อะเต๋า เสือโคร่งมันต้องแบบดิบๆ ห่ามๆ โผงผาง เราอย่าแบบหวานๆ นุ่มนวลไม่ใช่แล้ว เราต้องไม่ใช่ผู้ชายที่มาทะนุถนอมผู้หญิงมันไม่ใช่ มันต้องแบบผู้ชายที่ตรงๆ แมนๆ เลย ก็จะแนะนำตรงจุดนั้น แล้วก็จะมีเรื่องราวความหลังด้วยว่าทำไมเราถึงมาเป็นแบบนี้เพราะอะไร ทำไมเราถึงเป็นคนแบบนี้ ก็จะช่วยตรงนั้น ทำให้เราเข้าใจความรู้สึกของตัวละครได้ชัดเจนมากขึ้น
           การทำงานร่วมกับนักแสดงสาวมากฝีมือ “สายป่าน อภิญญา”
           สายป่าน ผมได้เห็นผลงานหนังของเขามานนานแล้ว ก็ถือเป็นนักแสดงที่แสดงได้เก่งมากๆ เคยไปงานเดียวกับที่สายป่านได้รับรางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมสุพรรณหงส์ ก็บอกกับตัวเองว่าอยากร่วมงานกับเขาสักครั้ง เพื่อที่ผมจะได้เรียนรู้ทักษะการแสดงของเขาเผื่อจะได้เอามาใช้กับตัวเองบ้าง พอได้มาร่วมงานจริง ๆ ก็สมใจเลย ตอนที่ทำงานด้วยกันสายป่านจะช่วยนักแสดงทุกคนในการทำงาน อย่างอยู่ในเข้าฉากเขาจะส่งอารมณ์เต็มที่แม้ว่ากล้องไม่ได้จับหน้าเขา แต่ก็ส่งอารมณ์เต็มที่ ถึงแม้กระทั่งเค้าสามารถคงอารมณ์ไว้ ต้องสลับคนเปลี่ยนคนกันมา แต่เค้ายังอยู่ในอารมณ์ สมาธิเค้าดีมากๆ เลย
           การทำงานร่วมกับสาวหล่อขวัญใจสาวๆ อย่าง “ติ๊นา ศุภนาฏ” กับหนุ่มหล่อมาดนิ่ง “กาย นวพล”
           ติ๊นาในเรื่องชื่อหมูแฮม ส่วนกายชื่อไก่โต้งก็เป็นเพื่อนของฝั่งหนูนาคือสองคนนี้ก็จะตามนางเอกไปเรื่อย ๆ จะเป็นเพื่อนของกลุ่มนางเอกซึ่งเราก็ไม่ได้สนิทมากในเรื่อง แต่ก็ด้วยความที่เราไปกับแฟนบ่อย เราก็จะได้เจอกับกลุ่มนี้บ่อยทำให้เราเริ่มรู้จักสองคนนี้เรื่อย ๆ แล้วพอเกิดเหตุการณ์ที่เราทะเลาะกับแฟน เราไม่รู้จะปรึกษาใคร เราก็ต้องไปปรึกษาสองคนนี้ว่ายังไงดี ส่วนการทำงาน ติ๊นากับกายก็จะอายุไล่ๆ กันก็จะเข้าใจกันง่ายขึ้นคือคุยกันรู้เรื่องภาษาเดียวกันถูกคอกัน ส่วนการทำงานทุกคนก็เต็มที่อยู่แล้ว ไม่ต้องพูดถึงทุกคนปล่อยของออกมาเต็มที่มากๆ
           ช่วงเวลาที่ทีมงานและนักแสดงยกพลกันไปเก็บบรรยากาศความฟินถึงญี่ปุ่น เป็นยังไงบ้าง
           ตอนที่ถ่ายทำที่ญี่ปุ่นสนุกมากครับ จำได้ว่าตอนที่ไปถึงวันแรกลงเครื่องปุ๊บนี่มุ่งหน้าไปถ่ายทำกันเลย ไปถ่ายกันที่เอโดะ วันเดอร์แลนด์ ต้องใส่ชุดกิโมโนแล้วสวมบทเป็นซามูไรฟันดาบกัน แล้วก็มีไปถ่ายกันที่บ่อน้ำพุร้อนออนเซ็น ตอนที่ถ่ายทำก็สนุกมากเพราะว่าทุกคนจะเขิน เพราะต้องใส่กางเกงในตัวเดียว แล้วก็ต้องเอาผ้ามาปิดไว้ บางคนก็เขิน โดยเฉพาะผู้หญิง ติ๊นา สายป่าน ก็ต้องลงบ่อเดียวกันกับพวกผมก็จะมีแซวกันก็จะเขินๆ กัน แล้วก็มีไปถ่ายที่สะพานชินเคียว สวยมากครับเห็นว่าเป็นมรดกโลกด้วย ซีนนี้ต้องถ่ายว่าแข่งกับเวลา เพราะว่าพระอาทิตย์ที่นู่นตกเร็วมาก ห้าโมงก็จะมืดแล้วเพราะว่ามันเป็นหน้าหนาวของที่นู่น แล้วอากาศก็หนาวมากด้วย แต่ทุกคนก็ช่วยกันจนผ่านไปได้ ช่วงที่ไปถ่ายทำที่ญี่ปุ่นก็ถือว่าเป็นประสบการณืที่ดีสำหรับตัวผมครับ
           การทำงานกับร็อกสตาร์ระดับเอเชีย “มาโกโตะ”
           จริงๆ ผมเคยเห็นผลงานแล้วก็รู้จักชื่อเสียงของเขามานานแล้ว ตั้งแต่ยังเด็ก เราก็เริ่มไปติดตามผลงานของเขาอีกตอนที่รู้ว่าจะต้องร่วมงานกัน พอมาถึงเมืองไทยเราจะได้เข้าไปคุยกันได้ เขาเป็นคนที่เป็นกันเองมาก แล้วก็คุ้นเคยกับเมืองไทยอย่างดี อาจเพราะว่าเขามาเมืองไทยหลายรอบแล้ว แล้วเขาก็รู้ว่าธรรมชาติของคนไทยเป็นยังไง คือเข้าหากันคุยกันสนุกสนาน และถ้าว่างเขาก็ชอบมาทำไข่เจียวให้ทีมงานกิน จะชอบปล่อยมุกตลกผ่านล่ามอีกที ให้ทีมงานฟัง
           มีฉากไหนที่เข้ากับมาโกโตะแล้วประทับใจเป็นเพิเศษไหม มีครับ อย่างฉากที่ผมจะต้องชกมาโกโตะตกสระน้ำ แล้วเขาก็แบบเอาเทคเดียวเลยนะ ซ้อมก่อนไหม ซ้อมไปเรื่อยเขาจะคอยให้ทีมงานเช็คว่ามุมกล้องตรงนี้โอเคหรือยัง เพราะว่ามันจะเปียกได้ครั้งเดียวไงครับ เพราะถ้าตกไปแล้วเรียบร้อยมันจะถ่ายไม่ได้ ผมก็แบบต้องมาต่อยมาโกโตะหรอเนี่ย แล้วก็จะมีอีกฉากหนึ่งเป็นฉากที่มาโกโตะจะแสดงโชว์คอนเสิร์ต แล้วเขาต้องเล่นสด ท่าทางของเขากับวงของมืออาชีพมาก ผมดูแล้ว โอ้โห สุดยอด เหมือนเข้าไปอยู่ในคอนเสิร์ตจริงๆ เลย แสงสีเสียงได้หมด ตัวมาโกโตะเอง
           เพลงประกอบหนังเรื่องนี้ที่มีชื่อว่า “ไม่สนิท” ซึ่งเต๋าเป็นคนร้องเองด้วย
          ผมได้มีโอกาสได้ร้องเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ครับ ชื่อเพลงว่า “ไม่สนิท” ซึ่งผมคิดว่ามันบอกอะไรได้หลายอย่างเหมือนกันสำหรับหนังเรื่องนี้ เพราะว่าความที่เราไม่รู้ว่าการที่เราพูดออกไปเนี่ยมันจะทำให้เราเสียคนๆ นั้นไปหรือเปล่าหรือว่าการที่เราพูดออกไปแล้ว เราจะสามารถได้ใจคนนั้นกลับมามั้ย อารมณ์น่ามาจะประมาณนี้ เหมือนกับตัวละครในเรื่องนี้ที่มีความลับบางอย่างอยู่ในใจกัน แต่ด้วยความสัมพันธ์ของการเป็นเพื่อนมันเลยทำให้มันเป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อนมาก ก็ขอฝากเพลง “ไม่สนิท” ให้ทุกคนลองฟังกันดูครับ
           ในฐานะที่เราก็เป็นศิลปินที่มีแฟนคลับคอยติดตามและให้กำลังใจ ส่วนตัวเราคิดว่าเราเป็นอะไรในชีวิตของแฟนคลับเหล่านั้น
           ความรู้สึกอาจจะคล้ายๆ กันแต่คงจะแตกต่างกันหน่อย เพราะว่าญี่ปุ่นกับเมืองไทยวัฒนธรรมอาจไม่เหมือนกัน อย่างตัวผมเกิดมาจากรายการที่มันเป็นเรียลิตี้โชว์ คนก็จะรู้จักตัวตนของผมว่า ผมเป็นคนยังไงนิสัยยังไง แล้วเขาก็จะมาให้กำลังใจกันมากกว่า ถ้าถามว่าผมเป็นอะไรในชีวิตเขา ก็คงเป็นเหมือนแรงบันดาลใจมั้งคับ น้องๆ เนี่ยก็จะเห็นพี่เต๋าเป็นตัวอย่างอยากจะเป็นเหมือนพี่เต๋า อยากจะเป็นนักร้อง อยากจะเข้ามาบ้าน AF บางคนก็จะให้ผมถ่ายคลิปมาให้ แล้วบอกว่าให้ตั้งใจเรียนหนังสือนะ ก็เป็นกำลังใจในการเรียนหนังสือของเขาไป
           กลับกันแล้วแฟนคลับที่ชื่นชอบเรา เขาเป็นอะไรในชีวิตของเรา
           สำคัญมากนะ สำหรับอาชีพของผม แล้วก็ตัวผมเองด้วย ถ้าไม่มีคนที่ติดตาม ก็คงไม่มีเต๋า AF ในวันนี้ เพราะว่าเขาก็ต้องเชียร์เราตั้งแต่อยู่ในบ้านถึงแม้ว่าออกจากบ้านมาแล้วก็ยังติดตามผลงานของเรา สนับสนุนผลงานของเรา คอยเป็นกระบอกเสียงให้ กระจายข่าวเต๋ามีผลงานนี้นะ ไปร้องเพลงที่นี่นะ เขาก็จะช่วยโปรโมท แล้วก็เวลาผมไปร้องเพลงที่ไหนต่างจังหวัดหรือในกรุงเทพ เขาก็จะตามไปมีป้ายไฟมาให้ ก็คือเป็นกำลังใจที่สำคัญมากสำหรับผมเลย
           ถ้าสมมติว่าเรามีแฟนที่เป็นติ่งศิลปินแบบในหนัง เราจะทำยังไง
           ถ้าสมมติว่าผมมีแฟนแล้วแฟนเป็นติ่งศิลปินใช่ไหม จะรู้สึกยังไง ก็คงต้องทำความเข้าใจกัน แล้วก็คงคุยกันว่าแค่ขนาดไหนมันคือพอดี ถ้ามันมากเกินไปก็คงต้องบอกคุยกันด้วยว่าบางครั้งเราก็ไม่เข้าใจเขาว่าคลั่งไคล้อะไรขนาดนั้น จนมีรูปติดโปสเตอร์เต็มห้องไปหมดแต่รูปเราเล็กนิดเดียว ก็คงต้องคุยกันว่าความชอบของเขาเป็นยังไง แต่จริงๆ แล้วถ้าเป็นแฟนกันเราคงต้องยอมรับการเป็นตัวตนของแต่ละคนให้ได้ก่อน เพราะก่อนที่จะมาเป็นแฟนกัน ก็ต้องมีการทำความรู้จักกันก่อนอยู่แล้ว ผมว่าก็คงจะรับได้ คงไม่ถึงขั้นต้องบอกเลิกกันเหมือนในเรื่อง
           ความสนุกของ “ฟินสุโค่ย” เราคิดว่ามันอยู่ที่ตรงไหน
           ความสนุกของหนังเรื่องนี้อย่างแรกเลยคือ เราจะได้ติดตามกันว่าความฟินของแต่ละคนมันเกิดขึ้นและจะลงเอยยังไง สายป่านกับเสือโคร่งจะกลับมาคืนดีกันได้หรือเปล่า หลังจากที่ความไม่เข้าใจเกิดขึ้น ความรักที่คนธรรมดามีให้ศิลปินกับความรักของคนธรรมดาที่มีให้กัน พอไม่เข้าใจกัน มันจะรักษาแผลใจกันได้หรือเปล่า นอกจากนั้นก็จะมีความรักของเพื่อนๆ ที่คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และก็พร้อมที่จะมองข้ามบางสิ่งบางอย่างที่เขาสามารถมองข้ามไปทำให้ทุกคนกลับมาอยู่ด้วยกัน ก็เป็นอีกมุมมองหนึ่งนะสำหรับหนังพี่กอล์ฟ ก็เป็นมุมมองของความรักที่พี่กอล์ฟไม่ค่อยได้ทำหนังแบบนี้มาก่อน แล้วพอได้มาทำมันก็จะได้เห็นมุมมองอีกมุมมองหนึ่งซึ่งคนหลายๆ คนอาจจะไม่เคยเห็นมาก่อนว่ามันเป็นยังไง คนก็จะได้มาเห็นในหนังในเรื่องนี้ครับ
           ฝากผลงานภาพยนตร์ “ฟินสุโค่ย”
           เต๋าก็ฝากผลงานเรื่องนี้ด้วยนะครับ “ฟินสุโค่ย” จะเข้าโรงแล้ววันที่ 25 กันยายนนี้นะครับ ฝากทุกคนติดตามกันด้วยรับรองว่าฟินแน่นอนแล้ว ก็มาลุ้นกันว่าเสือโคร่งกับสายป่านจะลงเอยยังไง แล้วก็ความลับความฟินของแต่ละคนจะออกมาในรูปแบบไหน ก็ฝากไว้ด้วยนะครับ “ฟินสุโค่ย” ครับ

FB on September 03, 2014, 04:01:10 PM
เพลง “ไม่สนิท” OST. ฟินสุโค่ย เวอร์ชั่นใหม่สุดฟิน !! ขับร้องโดย “เต๋า-เศรษฐพงศ์”





MV. ไม่สนิท - เพลงประกอบภาพยนตร์ "ฟินสุโค่ย"
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=3ylAuhXhBMM" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=3ylAuhXhBMM</a>

           ใครที่เคยอินไปกับบทเพลง “ไม่สนิท” ของเจ้าของเสียงร้องเดิมอย่าง “นนท์ เดอะวอยซ์” ก็เตรียมตัวอินและฟินกันมากขึ้นกว่าเดิม กับเวอร์ชั่นใหม่ของเพลงๆ นี้ ที่ถูกเอามาทำใหม่เพื่อเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์โรแมนติกฟินเว่อร์ “ฟินสุโค่ย” จากการแท็คทีมกันของ “สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล” และ “ฟิน โปรเจกต์” ซึ่งในเวอร์ชั่นใหม่นี้ก็ได้นักร้อง-นักแสดงหนุ่มเสียงดีอย่าง “เต๋า-เศรษฐพงศ์ เพียงพอ” มาเป็นผู้ถ่ายทอดบทเพลงนี้ให้ ซึ่งหนุ่มเต๋าเองก็เป็นหนึ่งในนักแสดงของหนังเรื่องนี้ โดยร่วมกับเหล่านักแสดงขวัญใจวัยรุ่นอย่าง “สายป่าน-อภิญญา สกุลเจริญกุล” ,“กาย-นวพล วัฒนพานิช”, “ติ๊นา-ศุภนาฏ จิตตลีลา” รวมไปถึงนักแสดงสุดเซอร์ไพรซ์อย่างร็อคสตาร์ระดับเอเชีย “มาโกโตะ โคชินากะ” ซึ่งเพลง “ไม่สนิท” ถูกเลือกมาด้วยความที่เนื้อหาพูดถึงคนที่แอบจิ้น แอบรัก และแอบฟินกับความฝัน เหมือนกับตัวละครในหนังเรื่องนี้ ใครที่อยากรู้ว่าเพลง “ไม่สนิท” ของหนุ่มเต๋า ในเวอร์ชั่นใหม่นี้จะออกมาเพราะ และฟินขนาดไหน สามารถติดตามได้ในคลื่นวิทยุชื่อดังทั่วประเทศ และอย่าลืมติดตามภาพยนตร์โรแมนติกฟินเว่อร์ “ฟินสุโค่ย” 25 กันยายนนี้ ทุกโรงภาพยนตร์
« Last Edit: September 22, 2014, 08:44:54 AM by FB »

FB on September 08, 2014, 03:24:34 PM
ซุป’ตาร์เจร็อก “มาโกโตะ” จัดเต็มเพื่อแฟนคลับชาวไทยได้ฟินเว่อร์ รับตื่นเต้นร่วมงานนักแสดงไทยใน “ฟินสุโค่ย”


 
           ถือเป็นนักแสดงสุดเซอร์ไพรส์ที่มาร่วมสร้างความฟินครั้งสำคัญในหนังโรแมนติก-คอเมดี้ฟินเว่อร์ “ฟินสุโค่ย” จากการจับมือกันของค่ายใบโพธิ์ “สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล” และ “ฟิน โปรเจกต์” ผลงานการกำกับของผู้กำกับมากฝีมือ “กอล์ฟ-ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์” สำหรับร็อdสตาร์เอเชีย “มาโกโตะ โคชินากะ” อดีตนักร้องวงเจ-ร็อกชื่อดัง “ลูซิเฟอร์” ซึ่งตอนนี้ได้แยกตัวมาออกอัลบั้มเดี่ยว และเดบิวต์วงใหม่ที่ชื่อว่า TRICK เรียกได้ว่าไม่มีสาวกเจร็อกในเมืองไทยคนไหนที่ไม่รู้จักเขา

          ซึ่งกับการตบปากรับคำมาเล่นหนัง “ฟินสุโค่ย” ในครั้งนี้ของเขา ถือเป็นความเซอร์ไพรส์ที่เรียกเสียงกรี๊ดของแฟนคลับชาวไทยอย่างมาก โดยมาโกโตะต้องมารับบทเป็นศิลปินร็อกชื่อดังที่เดินทางมาที่เมืองไทย เพื่อมาเล่นคอนเสิร์ตและค้นหานางเอกเอ็มวี จนเกิดเป็นเรื่องราวความฟินซึ่งต้องไปติดตามกันในหนัง ซึ่งมาโกโตะต้องมาปะทะฝีมือการแสดงกับนักแสดงวัยรุ่นแถวหน้าของเมืองไทยอย่าง “สายป่าน อภิญญา”, “ติ๊นา ศุภนาฏ”, “กาย นวพล”, “เต๋า-เศรษฐพงศ์” ที่ขนกันมาฟินอย่างคับคั่ง

ผู้กำกับกอล์ฟ ธัญญ์วารินพูดถึงการแสดงของมาโกโตะในหนังเรื่องนี้ว่า

          “คือเราก็รู้จักเขามานานแล้วตั้งแต่ตอนดังมากๆ ในเมืองไทย พอได้มีโอกาสมาทำงานกับเขา เราก็ตื่นเต้นนะ แล้วมาโกโตะก็อยากเล่นหนังไทย พอดูบท ดูอะไรปั๊บ เขาก็สนใจ เพราะไม่ต้องเล่นเป็นคนอื่น เขาเล่นเป็นตัวเขาเอง ถึงแม้ว่าในหนังจะเขียนให้เขาเป็นอีกแบบหนึ่ง ไม่ได้เป็นเรื่องของมาโกโตะตัวจริง แต่ว่าเขาได้ร้องเพลง ได้โชว์ความสามารถ ทั้งการแสดงแล้วก็การร้องเพลงด้วย เขาก็เลยสนใจและอยากร่วมงานกับเรา ในเรื่องเขาก็จะเป็นศิลปิน เป็นซูเปอร์สตาร์ ก็เหมือนปกติทั่วไปคือคือมีกรอบ มีกำแพง ที่กั้นจากคนอื่นอยู่ประมาณหนึ่ง แต่ด้วยหน้าที่การงานแล้วก็ความจำเป็น เขาก็มีกรอบบางอย่าง บางครั้งเขาก็ทำตามใจตัวเอง บางครั้งก็ทำตามกรอบที่มี ก็ถือว่าเขาเป็นคนที่คาดเดาความรู้สึกไม่ได้”

          ทางด้านของหนุ่มมาโกโตะ ก็พูดถึงความรู้สึกและการทำงานกับทีมงานชาวไทยเป็นครั้งแรกในหนังเรื่องนี้ว่า

“ทุกคนน่ารักมาก จริงๆ ก่อนหน้านี้ผมอยากแสดงภาพยนตร์ไทย ทำงานร่วมกับคนไทยมานานแล้วแต่ยังไม่มีโอกาส ซึ่งผมได้พูดกับสตาฟฟ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วพอดีสตาฟฟ์ได้รับการติดต่อจากทางบริษัทฟิน โปรเจกต์เลยมีโอกาสได้มาเล่นเรื่องนี้ครับ ในเรื่องนี้ผมก็รับบทเป็นนักร้องเหมือนกับตัวจริงที่ผมเป็นครับ ก็ขอขอบคุณผู้กำกับที่ให้ผมได้แสดงในบทบาทที่เป็นตัวเองด้วยการจุ๊บแก้มไปแล้วครับ สำหรับการแสดงถึงแม้ว่าจะมีปัญหาเรื่องของกำแพงภาษา เนื่องจากคนละเชื้อชาติกัน แต่ผมก็มาที่เมืองไทยหลายครั้งมากแล้ว ถึงแม้จะพูดไทยไม่ได้ แต่ในด้านความรู้สึก ผมก็จะพยายามแสดงออกมาให้ดีที่สุด ทำงานออกมาจากใจ ตั้งใจทำงานให้เต็มที่ เพื่อให้ผลงานออกมาดีที่สุด ฝากเนื้อฝากตัวกับทุกท่านด้วยครับ”

          งานนี้เหล่าสาวกเจร็อกและแฟนคลับของหนุ่ม “มาโกโตะ” เตรียมตัวฟินกันได้แบบสุดตัวใน “ฟินสุโค่ย” 25 กันยายนนี้ ทุกโรงภาพยนตร์

FB on September 12, 2014, 12:20:18 AM
กิจกรรม “แชะฟินเฟอร์ เพ้อเจ้อให้สุดติ่ง”



          ฟินสุโค่ย ชวนคุณมาโชว์ฟินเวอร์ ให้โลกตะลึง
          ส่งภาพหน้าของคุณ แบบฟินโคตรเวอร์
          กับกิจกรรม “แชะฟินเฟอร์ เพ้อเจ้อให้สุดติ่ง”
          แล้วมาลุ้นรางวัลแบบสุโค่ย สุโค่ย จากภาพยนตร์
          ระยะเวลาร่วมกิจกรรม : 4 – 30 ก.ย. 2557
          ประกาศผลกิจกรรม : 1 ต.ค. 2557
          รูปแบบกิจกรรม
          เลือกภาพ สติ๊กเกอร์จากอัลบัม ใน FB Sahamongkolfilmint โดยทาง แอดมินจะนำภาพมาเพิ่มทุกสัปดาห์ ผู้ร่วมเล่น สามารถเลือกภาพที่คิดว่า สุโค่ยมากที่สุด
          เลือกมา 1 ภาพ แล้วเลือกภาพของตัวเอง หน้าฟินๆ มาใส่ในช่อง 4 แอ็ค
          ทำจาก Program ในมือถือที่มี อาทิ Fotorus, Line Camera ไม่จำกัด ไอเดีย
          แชร์ลงใน Facebook หรือ IG ของคุณ พร้อม Caption ใต้ภาพ “ทำไมถึงฟินเฟอร์??” พร้อมติด #finsugoi_photo ร่วมลุ้นรางวัลจากภาพยนตร์ทุกสัปดาห์
          รายละเอียดของรางวัล
          ประกาศผลรางวัลรางวัล
          ครั้งที่ 1 วันที่ 9 ก.ย. เสื้อยืดฟินสุโค่ย 5 รางวัล
          ครั้งที่ 2 วันที่ 15 ก.ย. เสื้อยืดฟินสุโค่ย 5 รางวัล
          ครั้งที่ 3 วันที่ 23 ก.ย. เสื้อยืดฟินสุโค่ย 5 รางวัล
          และ รางวัลตั๋วรอบสื่อ 5 รางวัลๆ ละ 2 ที่นั่ง
          หลังจากนั้น จะนำภาพผู้ชนะประจำสัปดาห์ มาเปิดให้โหวต ในสัปดาห์สุดท้าย โดยมีระยะเวลาในการโหวตตั้งแต่ 24 ก.ย. – 30 ก.ย. เท่านั้น ประกาศผลผู้ชนะ 1 ต.ค. จำนวน 3 รางวัล
          รางวัลที่ผู้ชนะเลิศ Fujifilm instax share sp-1 มูลค่า 5,990 บาท จำนวน 1 รางวัล
          รางวัลชมเชย Fujifilm instax mini 8 มูลค่า 2,690 บาท จำนวน 2 รางวัล
          รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 15,000 บาท

FB on September 12, 2014, 03:21:16 PM
“ติ๊นา-ศุภนาฏ” อุปไต๋ฉากเลิพซีน แต่แง้มแฟนคลับเตรียมฟิน!! เจ้าตัวยันรับรองเซอไพรซ์แน่นอนใน “ฟินสุโค่ย”



           เรียกว่าตอนนี้กระแสความฟินกำลังปกคลุมไปทั่วทุกพื้นที่ สำหรับภาพยนตร์โรแมนติกฟินเว่อร์ “ฟินสุโค่ย” จากการแท็คทีมกันของ “สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล” และ “ฟิน โปรเจกต์” ผลงานการกำกับของผู้กำกับมากฝีมือ “กอล์ฟ-ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์” หลังจากที่ปล่อยตัวอย่างหนังเวอร์ชั่นใหม่ออกมาเรียกน้ำย่อย ก็ทำเอาบรรดาแฟนคลับของเหล่านักแสดงในเรื่องซี๊ดซ๊าดกันไปตามๆ กัน งานนี้หนึ่งในนักแสดงของหนังเรื่องนี้อย่างสาวหล่อขวัญใจวัยรุ่น “ติ๊นา-ศุภนาฏ จิตตลีลา” ก็ออกมาแง้มให้บรรดาแฟนคลับได้จิ้นกันไปก่อนล่วงหน้าว่าบทบาทใหม่ในหนังเรื่องนี้ของเธอจะทำให้ทุกคนได้เซอไพรซ์กันอย่างแน่นอน กับบทบาท “หมูแฮม” เพื่อนคนสนิทของตัวละคร “หนูนา” ติ่งมาโกโตะตัวแม่ ซึ่งรับบทโดยนักแสดงสาวฝีมือคุณภาพ “สายป่าน-อภิญญา สกุลเจริญกุล” โดยเจ้าตัวถึงกับออกปากว่าไม่ง่ายเลย แต่เธอก็พร้อมทุ่มสุดตัวให้กับบทบาทการแสดงใหม่นี้ ซึ่งทางผู้กำกับกอล์ฟ-ธัญญ์วาริน พูดถึงบทบาทและการแสดงของติ๊นาในเรื่องนี้ว่า

          “ก็แน่นอนว่าหมูแฮมเป็นทอม แล้วก็เป็นเพื่อนสนิทกับหนูนา หมูแฮมก็เป็นนักดนตรีกลางผับ มีสาวๆ มากรี๊ดกร๊าดมากมาย นิสัยเขาก็จะเป็นคนที่เก็บความรู้สึก ไม่ได้เปิดเผยความรู้สึกของตัวเองมากสักเท่าไหร่ ก็จะดูแลเอาใจใส่เป็นเพื่อนที่ดีของหนูนา ซึ่งบางครั้งการเป็นเพื่อนสนิทด้วยกันมากๆ มันก็อาจจะมีหวั่นไหวบ้าง แต่ว่าก็ต้องเก็บความรู้สึกกันไว้ จากที่เราเห็นติ๊นา เล่นใน Yes or No ก็จะเล่นเป็นคู่ทอมดี้ เป็นเลสเบี้ยน คือเรื่องนี้พี่ก็พยายามปรับคาแร็คเตอร์ของหมูแฮม ซึ่งมันเซอร์ไพรส์มากในเรื่อง ตัวคาแร็คเตอร์ของหมูแฮมมันต้องมีความซับซ้อนกว่าทุกเรื่องที่ติ๊นาเคยเล่นมา ทั้งเล่นดนตรี ร้องเพลง ถือว่าเรื่องนี้เราจะได้เห็นอะไรในตัวติ๊นามากขึ้นจากเดิม”

          ทางด้านของสาวติ๊นา ก็ออกปากเลยว่าหนักใจสุดๆ กับการแสดงในหนัง “ฟินสุโค่ย” ที่นอกจากจะต้องแสดงให้เข้าถึงอารมณ์ของคนแอบรักแล้ว เธอยังต้องแสดงฉากร้องเพลง รวมไปถึงเลิฟซีน ที่รับรองว่าคนดูต้องเซอร์ไพรส์กันไปตามๆ กันว่า

          “เรื่องนี้ถือว่าติ๊นาต้องเจอการบ้านที่ยากและต้องทำอะไรที่ไม่เคยทำมาก่อนเลย แต่ก็ต้องยกให้พี่กอล์ฟที่ช่วยดึงความสามารถของเราออกมาอีก เขาจะคอยบอกติ๊ตลอดว่าฉากนี้อารมณ์ต้องเป็นแบบไหนต้องเล่นยังไง อย่างฉากเลิฟซีนพี่กอล์ฟก็จะมีวิธีละลายพฤติกรรมที่จะทำให้เราเปิดใจและสามารถเล่นบทเลิฟซีนได้ไม่เขิน แต่ต้องขออุบไว้ก่อนว่ายังไง (หัวเราะ) ส่วนการแสดงเราก็ต้องเล่นแบบเก็บความรู้สึกลึกๆ ไว้ข้างใน คือมันต้องออกทางสีหน้า ท่าทาง ก็ได้พี่กอล์ฟ ได้นักแสดงคนอื่นๆ ช่วยกันบิลท์ได้ดีมากค่ะ อีกสิ่งหนึ่งที่ท้าทายก็คือการร้องเพลงและเล่นกีตาร์ ก็ต้องมีการไปเรียน แต่ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุดค่ะ”

          งานนี้แฟนคลับของสาวหล่อ “ติ๊นา-ศุภนาฏ” เตรียมตัวฟินกันล่วงหน้าได้เลย กับการแสดงและฉากเลิพซีนที่ทุกคนต้องเซอไพรซ์ ในภาพยนตร์โรแมนติกฟินเว่อร์ “ฟินสุโค่ย” 25 กันยายนนี้ ทุกโรงภาพยนตร์

FB on September 16, 2014, 11:08:58 PM
“เต๋า เศรษฐพงศ์” เกิดอาการฟินเว่อร์!! เลิฟซีน “สายป่านยอมรับบทใกล้ตัวเป็นแฟนติ่งศิลปินใน ฟินสุโค่ย”




 
           ถือเป็นอีกหนึ่งคลื่นลูกใหม่ที่น่าจับตามองสำหรับนักร้อง-นักแสดงอย่างหนุ่ม “เต๋า-เศรษฐพงศ์ เพียงพอ” หรือ “เต๋า AF8” ที่มีผลงานแสดงออกมาอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดในภาพยนตร์โรแมนติกฟินเว่อร์ “ฟินสุโค่ย” จากการแท็กทีมกันของ “สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล” และ “ฟิน โปรเจกต์” หนุ่มเต๋าก็ถูกผู้กำกับมากฝีมือ “กอล์ฟ-ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์” จับมาพลิกคาแร็คเตอร์จากหนุ่มสุดทะเล้นให้มารับบทเป็น “เสือโคร่ง” แฟนหนุ่มอารมณ์ร้อน ผู้ที่ไม่เคยเข้าใจแฟนสาวที่เป็นติ่งศิลปินอย่าง หนูนา ซึ่งรับบทโดย “สายป่าน อภิญญา” งานนี้หนุ่มเต๋าถึงกับเอ่ยปากว่ารู้สึกเกร็งและกดดันอยู่ไม่น้อย กับการต้องมาร่วมงานกับผู้กำกับระดับคุณภาพอย่าง “กอล์ฟ ธัญญ์วาริน” รวมไปถึงการมาร่วมแสดงกับร็อกสตาร์ระดับตำนานอย่าง “มาโกโตะ โคชินากะ” อดีตนักร้องนำวงเจร็อกชื่อก้อง “ลูซิเฟอร์”

          แต่ที่ทำให้หนุ่มเต๋าถึงกับเซอร์ไพรส์สุดๆ ก็คือการถ่ายทำวันแรกของหนังเรื่องนี้ที่เขาต้องเข้าฉากเลิฟซีนกับนักแสดงสาวมากฝีมืออย่างสายป่าน งานนี้หนุ่มเต๋าถึงกับออกอาการเกร็งไปเลยทีเดียว แต่โชคดีที่สาวสายป่านช่วยถ่ายทอดอารมณ์ให้ดูเป็นธรรมชาติที่สุด จนทั้งคู่ช่วยกันเล่นจนผ่านซีนนี้ไปได้ในที่สุด

          “ในเรื่อง ‘ฟินสุโค่ย’ ผมรับบทเป็น ‘เสือโคร่ง’ ครับ เป็นผู้ชายที่ค่อนข้างอารมณ์ร้อน โผงผางนิดหน่อย ตัวเสือโคร่งมีแฟนก็คือหนูนา (สายป่าน) ตัวหนูนาก็เป็นพวกคลั่งไคล้ศิลปินแบบสุดๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่เสือโคร่งไม่เข้าใจ ก็เลยทำให้เกิดเรื่องราวต่างๆ ขึ้น เล่นเรื่องนี้ก็รู้สึกท้าทายแล้วก็กดดันอยู่เหมือนกัน อย่างแรกคือการต้องทำงานกับร็อกสตาร์ระดับเอเชียอย่างมาโกโตะ จริงๆ เคยร่วมงานกับเขามาแล้ว แต่เป็นแค่การไปแสดงคอนเสิร์ตที่เดียวกัน พอมาทำงานด้วยกันจริงๆ ก็เกร็งเหมือนกัน ส่วนการได้มาทำงานกับพี่กอล์ฟก็ถือเป็นครั้งแรก ก็เคยติดตามผลงานของพี่เขามาก่อน ก็รู้ว่าพี่เขาเป็นคนที่เก่งมาก ก็กดดันเหมือนกันกลัวทำออกมาได้ไม่ดี

          ส่วนฉากเลิฟซีนกับสายป่าน ก็ไม่ได้ฟินอะไรครับ มันคือการแสดง (หัวเราะ) คือซีนแรกตอนแรกเข้าใจว่าต้องเล่นซีนกุ๊กกิ๊กๆ กับสายป่าน คือในบทมันแค่กุ๊กกิ๊กๆ กันธรรมดา แต่พอไปถึงหน้าเซ็ต พี่กอล์ฟบอกไหนลองจูบกันดูซิ เราก็อ้าวจูบเลยหรอซีนแรก เพิ่งมานะ พี่กอล์ฟบอกเอาเลยจูบเลย จะได้ละลายพฤติกรรมไปด้วย จะได้รู้ว่าเป็นแฟนกันจะต้องทำกันยังไง สายป่านเค้าเป็นมืออาชีพอยู่แล้ว ก็คือแบบว่าพี่กอล์ฟบอกจูบเลยจูบจริง ก็หันไปมองสายป่านแล้วแบบโอเค ก็เล่นเลยไม่ได้มีนัดแนะ คือตามอารมณ์ไปเลย คือหายเขินกันไปเลยวันนั้นก็ได้ผลจริงๆ เพราะว่าพอเราผ่านซีนนั้นไปได้ ซีนอื่นคือแบบสบายแล้ว คือทำให้ผมกับสายป่านเชื่อว่าเราเป็นแฟนกันจริงๆ”

          เจอฉากหวานๆ ของ “เต๋า-สายป่าน” ฉากนี้แฟนๆ คงฟินกันไปถ้วนหน้า แต่ขอบอกว่าในหนัง “ฟินสุโค่ย” ยังมีความฟินให้คนดูอีกเพียบ อย่าลืมไปพิสูจน์ความฟินกัน 25 กันยายนนี้ ทุกโรงภาพยนตร์

FB on September 18, 2014, 04:05:21 PM
บทสัมภาษณ์นักแสดงสาวขวัญใจวัยรุ่น “ติ๊นา-ศุภนาฏ จิตตลีลา” กับผลงานแสดงเรื่องใหม่ล่าสุด “ฟินสุโค่ย” ที่รับรองว่าแฟนๆ จะได้ฟินและเซอไพรซ์ บทบาทนี้แบบที่ไม่เคยเห็นในเรื่องไหนมาก่อนอย่างแน่นอน




 
Q บทบาทและคาแรกเตอร์ใน “ฟินสุโค่ย”
          ในเรื่อง “ฟินสุโค่ย” ติ๊ก็รับบทเป็น “หมูแฮม” ก็จะเป็นผู้หญิงออกแนวห้าวๆ แล้วก็เป็นเพื่อนสนิทกับหนูนา (รับบทโดย สายป่าน) หมูแฮมก็จะคอยอยู่เคียงข้างหนูนาตลอด แล้วก็ช่วยทำความฝันของหนูนาที่จะได้อยู่ใกล้ชิดกับมาโกโตะให้เป็นจริง ซึ่งลึกๆในใจหมูแฮมก็แอบรู้สึกกับหนูนาเกินเพื่อนมาตลอด แต่ไม่กล้าบอกออกไป
Q คาแรกเตอร์ของ “หมูแฮม” ต่างจากบทบาทที่ได้ที่เคยได้รับมาอย่างไร
          คาแรกเตอร์ของหมูแฮมก็จะแตกต่างจากบทบาทที่ติ๊เคยเล่นมาตรงที่ จะดูโต แล้วก็ลุยๆ มากขึ้น ที่ผ่านมาเราก็จะเล่นเป็นวัยรุ่น วัยใสๆ ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร แต่เรื่องฟินสุโค่ย บทเป็นหมูแฮมก็จะโตขึ้นจากเรื่องเดิมๆ คือเป็นเรื่องความสัมพันธ์จริงๆ ของวัยรุ่นที่เกิดขึ้นในหนัง
Q ส่วนตัวมีความรู้สึกท้าทายหรือกดดันกับการมาแสดงหนังเรื่องนี้อย่างไรบ้าง
          ความท้าทายของติ๊คิดว่าหนังเรื่องนี้มีอารมณ์และทิศทางของหนังที่ค่อนข้างซับซ้อนมากขึ้น คือมันมีความครบรสทั้งสุข เศร้า เหงา ซึ้ง แล้วก็มีการแสดงอารมณ์ที่แตกต่างจากที่ติ๊เคยแสดงมา ที่สำคัญคือมีเลิพซีนที่รับรองคนดูต้องเซอไพรซ์แน่นอน แต่ขออุบไว้ก่อน แล้วกับการต้องมาร่วมงานกับ คุณมาโกโตะ ก็มีเกร็งๆ เหมือนกันนะ เพราะเขาเป็นร็อคสตาร์ระดับเอเชีย เป็นซุปเปอร์สตาร์ ที่เรารู้จักมาตั้งแต่เด็กๆ เลย ที่ติ๊ชอบมาก คือการ์ตูนลูซิเฟอร์ คือจะมีทั้งวงเลย แล้วก็มีพระเอกของเรื่องก็คือมาโกโตะ พอเราอ่านการ์ตูนก็คือภาพในหัวเราคือเขาหล่อมาก แล้ววันนี้เราจะได้เล่นหนังกับเขาแล้ว ก็ปลื้มค่ะ แล้วที่ติ๊ตื่นเต้นมากเลยคือการต้องมาร่วมงานกับพี่กอล์ฟ ก็ดีใจมากเลยที่ได้ร่วมงานกับพี่กอล์ฟ ทั้งเกร็งด้วย แล้วก็ดีใจด้วย คือเราจะได้ร่วมงานกับผู้กำกับที่เก่ง แล้วก็ได้รางวัลมาเยอะ มันก็หลากหลายความรู้สึกเลยค่ะที่ได้มาร่วมงานกับพี่กอล์ฟ
Q เรื่องราวของ “ฟินสุโค่ย”
          ก็เป็นเรื่องของผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อว่าหนูนา(สายป่าน) ซึ่งมีแฟนอยู่แล้วก็คือเสือโคร่ง (เต๋า เศรษฐพงศ์) แต่ตัวหนูนา ชอบแล้วก็เป็นแฟนคลับของมาโกโตะ พอมาโกโตะได้เข้ามาเปิดคอนเสิร์ต แล้วก็มาหานางเอกเอ็มวีที่เมืองไทย หนูนาก็พยามทำทุกอย่างให้บรรลุความฝันที่จะได้ไปอยู่ใกล้ๆ กับมาโกโตะ แล้วฝันก็เป็นความจริง แต่พอได้ใกล้กันอย่างที่ฝันแล้ว ความสัมพันธ์กับแฟนตัวเองและกับเพื่อนในกลุ่มที่มีอยู่ ทั้งหมูแฮม (ติ๊นา) กับ ไก่โต้ง (กาย) ก็มีบางอย่างเกิดขึ้น ที่ผลมาจากความฟินของหนูนา มันก็อลวนวุ่นวายกันไปหมด แต่จะลงเอยยังไง ต้องไปหาคำตอบกันในหนัง
Q พูดถึงการทำงานกับผู้กำกับมากฝีมือ “กอล์ฟ-ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์”
          ตอนแรกที่ทำงานกับพี่กอล์ฟ ก็รู้สึกเกร็งเหมือนกัน เพราะเคยเห็นผลงานของพี่กอล์ฟที่ผ่านมาก็ค่อนข้างจะมีการแสดงที่เข้มข้นมาก แต่พอเจอกันพี่กอล์ฟเป็นคนใจดี แล้วก็เก่งมากๆ คือก่อนจะถ่ายทำทุกครั้งเราต้องมีการเวิกช็อพกันก่อน เพื่อให้นักแสดงอินกับตัวละคร และมีความสนิทสนมกันก่อน อย่างบางฉากที่มันยากๆ เป็นฉากดราม่า หรือฉากโรแมนติกต่างๆ เราจะลองเล่นกันตอนเวิกช็อพก่อน เผื่อจะมีการปรับแก้ก่อนที่เราจะต้องไปถ่ายทำจริงๆ เวลาที่เราสงสัยอะไร พี่กอล์ฟ เค้าก็จะให้คำแนะนำเรากลับมา ทำให้เราอินกับตัวละครมากขึ้นกว่าเดิมด้วยวิธีการกำกับของพี่กอล์ฟ ติ๊มองว่าพี่กอล์ฟเป็นผู้กำกับที่เก่งมาก ไม่ว่าจะเป็นมุมของภาพ ทุกคนก็จะสวยหมดเลยทุกมุม ก็น่าจะเรียกความฟินออกมาได้ ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีของติ๊ที่ได้มาร่วมงานกับพี่กอล์ฟ
Q พูดถึงการทำงานร่วมกับร็อคสตาร์เอเชีย “มาโกโตะ โคชินากะ”
          เจอกันวันแรกติ๊ไม่กล้าเข้าไปคุยกับเขาเลย เพราะเราก็พูดภาษาเขาก็ไม่ได้แต่พอได้คุยกันมาโกโตะ เขาเป็นคนที่น่ารักแล้วก็เฟรนด์ลี่มาก เขาเข้ามาชวนเราคุยก่อนก็เลยหายเกร็ง ที่ประทับใจมาโกโตะคงเป็นฉากใหญ่ที่เป็นคอนเสิร์ตของมาโกโตะ เราก็รู้สึกว่าเขาร้องเพลงมาจากอินเนอร์จริงๆ คือเราดูแล้วรู้สึกสนุกไปกับเพลงจริงๆ สมกับที่เขาเป็นร็อคสตาร์ที่เป็นไอดอลของใครหลายๆ คน
Q พูดถึงการทำงานกับ “สายป่าน-อภิญญา” ,“กาย-นวพล”, “เต๋า-เศรษฐพงศ์” ที่เล่นเป็นกลุ่มเพื่อนกัน
          ก็สนุกสนานกันดีค่ะ คือสนิทกันตั้งแต่ตอนเวิกช็อพ คือป่าน เต๋า กาย เขาเป็นคนที่เฟรนด์ลี่อยู่แล้ว ด้วยความที่อายุเราใกล้เคียงกัน ก็เลยสนิทกันเร็ว แต่สายป่านจะเป็นหัวโจกของกลุ่มเลย เราก็จะคอยรุมแกล้งกาย เพราะเขาเป็นคนที่น่าโดนแกล้งที่สุด จำได้ว่าพวกเราไปถ่ายที่ห้าแยกชิบูยะ ประเทศญี่ปุ่น ฉากนั้นสนุกมาก พอไฟแดงปุ๊บ เราก็ต้องรีบวิ่งไปที่กลางแยก คือวุ่นวายมาก อย่างตอนที่เราต้องไปถ่ายกันที่เอโดะวันเดอร์แลนด์ ก็เป็นเมืองโบราณแล้วพอเราไปถึง ปุ๊บเราก็ต้องเปลี่ยนชุดเป็นซามูไร แล้วกายเขาก็จะเหมือนเด็กๆ หน่อย คือชอบมากเลยชุดซามูไร กายก็จะดูแฮปปี้อยู่คนเดียวเลย แล้วถือดาบฟันเล่นกัน เรียกว่าก็สนิทกันไปเลยพอถ่ายหนังเรื่องนี้เสร็จ
Q พูดถึงประสบการณ์ที่ทีมงานบุกกันไปเก็บบรรยากาศความฟินกันถึงญี่ปุ่น
          สำหรับที่ญี่ปุ่นเราก็ไปถ่ายทำกันหลายที่ ทั้งโตเกียว เกียวโต สะพานชินเคียว เอโดะวันเดอร์แลนด์ ที่ชิบูย่า แล้วก็น้ำพุร้อนออนเซ็น ทุกที่พวกเราก็จะสนุกมากแล้วก็ฟินมาก คือเวลาไปกันเราจะยกกันไปทั้งกองเลย ไปถึงวันแรกติ๊คิดว่าเราจะได้กลับโรงแรมแล้ว ที่ไหนได้ไปถึงแล้วเปลี่ยนเป็นชุดซามูไร เข้าฉากกันเลย แล้วอากาศก็หนาวมาก ตอนที่ไปถ่ายน้ำพุร้อนตอนแรกก็คิดว่ามันจะหนาว พอลงไปแช่สักสิบนาที ก็เริ่มร้อน ตัวเริ่มแดงเพราะตัวมันเริ่มร้อนจริงๆ ส่วนข้างบนก็เริ่มมีหิมะตกลงมา ก็ขึ้นๆ ลงๆ น้ำอยู่บ่อยก็สนุกดีค่ะ แต่เห็นภาพทุกฉากที่ไปถ่ายกันมาแล้วสวยมากๆ เลย ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีของทุกคนด้วย
Q มีฉากไหนที่ยากสำหรับเราเป็นพิเศษหรือเปล่า
          ฉากที่ยากของติ๊ ก็น่าจะเป็นฉากที่ต้องร้องเพลง และต้องดีดกีตาร์ไปด้วย ตอนที่ร้องเราก็ต้องแสดงอารมณ์เหมือนกับที่ตัวหมูแฮมรู้สึก แล้วเราก็เกร็งเพราะกีตาร์เราก็เล่นไม่เป็น แล้วเราก็ต้องไปเรียนทั้งเล่นกีตาร์ เรียนทั้งร้องเพลง คือมันต้องทำอะไรหลายๆ อย่างในเวลาเดียวกัน ก็ถือว่ายากพอสมควร แต่พี่กอล์ฟก็คอยแนะนำ บอกเทคนิคในการเล่นฉากนี้ จนผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ
Q พูดถึงเพลงประกอบหนังเรื่องนี้ที่มีชื่อว่า “ไม่สนิท” ที่ติ๊นาได้ร้องเอาไว้
          สำหรับเพลงไม่สนิทในหนัง ติ๊นาก็ได้ร้องเอาไว้ เป็นเพลงประกอบด้วย ก็หนักใจเหมือนกันเพราะเสียงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ (หัวเราะ) เนื้อเพลงก็จะเกี่ยวกับการได้ไปแอบรักเพื่อน เหมือนตามเนื้อเพลงเลยที่ร้องว่า “หากเธอรู้ว่าฉันรัก เธอจะรักฉันบ้างมั้ย ไม่สนิทใจ จะเป็นเพื่อนกัน” คือเหมือนในหนังเลย คือโดนหลายๆ ตัวละครในหนังเรื่องนี้ ที่แอบจิ้น แอบฟิน กันอยู่ในใจแต่ไม่กล้าบอกออกไป
Q สำหรับตัวเราแล้วเวลานึกถึงใครที่ทำให้ฟินที่สุด
          ถ้าพูดถึงความฟิน ติ๊จะนึกถึงพ่อกับแม่ เพราะเข้าให้เราได้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นความรัก อะไรที่เราต้องการเขาจะหามาให้ทุกอย่าง แบบไม่เหน็ดไม่เหนื่อยเลย พ่อกับแม่นี่แหละคิดถึงเมื่อไหร่ก็มีความสุขสุดๆ แล้ว ถ้าในชีวิตจริงเราต้องมีแฟนที่เป็นศิลปินแบบในเรื่องเราจะทำยังไง
Q ถ้าชีวิตจริง มีแฟนที่เป็นติ่งศิลปินแบบหนูนาในหนังเรื่องนี้ ติ๊นาจะทำอย่างไร
          ตอนแรกก็คงยังไม่เข้าใจ ถ้าไปเจอแบบหนูนาในหนังก็คงไม่เข้าใจว่าอะไรขนาดนั้น อาจจะรู้สึกแบบเดียวกับแฟนของหนูนาที่ไม่ชอบให้ไปตามติดตามขนาดนั้น แต่ถ้าเราห้ามหรือเปลี่ยนแปลงอะไรเค้าไม่ได้ อย่างตัวเราเองก็อยู่ในฐานะที่มีคนมาคอยให้กำลังใจคอยมาเชียร์ ก็เข้าใจเรื่องแบบนี้ดีนะ เพราะตั้งแต่เล่นหนังเรื่องแรก มาจนถึงตอนนี้ก็สี่ปีแล้ว แล้วแฟนก็อยู่กับเรามาตั้งแต่ก้าวแรกเลย ก็อยากจะขอบคุณแฟนๆ ที่เดินร่วมทางกันมา ตั้งแต่แรกจนมาถึงวันนี้ คือเราไม่คิดว่า นอกเหนือจากครอบครัวเราแล้วจะมีคนอื่นที่มารักเราขนาดนี้ ก็อยากจะขอบคุณมากๆ เลย
Q ในฐานะที่พี่กอล์ฟ เป็นผู้กำกับที่มักนำสอดแทรกมุมมองความรักได้ดี และโดนใจ คนดูอยู่เสมอ ในเรื่องนี้ ติ๊นา คิดว่าผู้กำกับได้สอดแทรกอะไรเข้าอยู่ในหนัง
          ติ๊คิดว่าในฟินสุโค่ย ก็มีแง่มุมความรักอยู่หลายแง่มุมเลย ทั้งการแอบรัก การรักไปแล้ว รักแล้วก็เจ็บ คือความสัมพันธ์ของคนที่เป็นแฟนกัน ก็อยากให้ทุกคนเข้าไปค้นหาดูว่ามุมมองความรักในเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร
Q ฝากภาพยนตร์ “ฟินสุโค่ย”
          ติ๊นา ก็อยากจะขอฝากภาพยนตร์เรื่อง ฟินสุโค่ย 25 กันยายนนี้ทุกโรงภาพยนตร์ แน่นอน รับรองว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะไม่ทำให้คุฯผิดหวังอย่างแน่นอน แล้วที่สำคัญคือมีครบทุกรส ไม่ว่าจะเป็น ความรัก เหงา เศร้า หัวเราะ ดราม่า ก็อยากให้ทุกคนลองไปดู และเปิดใจให้กับความรักที่หลากหลายในหนังเรื่องนี้ แล้วที่สำคัญในหนังเรื่องนี้ ติ๊นาก็ต้องทำในสิ่งที่ทุกคนไม่เคยเห็นในหนังเรื่องไหนแน่นอน ฟินสุโค่ย 25 กันยายนนี้ ทุกโรงภาพยนตร์ค่ะ

FB on September 25, 2014, 03:34:36 PM
“เต๋า-ติ๊นา” นำทีมเปิดตัวความฟิน!! พร้อมรวมพลคนติ่งกรี๊ดสนั่น ในรอบปฐมทัศน์ “ฟินสุโค่ย”







           ได้ฤกษ์เปิดตัวความฟินไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับภาพยนตร์โรแมนติกฟินเว่อร์ “ฟินสุโค่ย” จากการแท็กทีมกันของ “สหมงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนล” และ “ฟิน โปรเจกต์” โดยได้จัดงานรอบสื่อมวลชนให้พิสูจน์ความฟินกันไปเป็นที่เรียบร้อย เมื่อวันที่ 22 กันยายน ที่ผ่านมา ณ ลานอินฟินิซิตี้ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ งานนี้นอกจากจะมีสื่อมวลชนมาร่วมเป็นสักขีพยานกันอย่างแน่นขนัดแล้ว ยังถือเป็นการรวมพล “ติ่ง” ที่ขนกันมาให้กำลังใจเหล่านักแสดงในเรื่องนี้กันอย่างคับคั่ง ก่อนที่เวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึงเมื่อหนุ่ม “เต๋า-เศรษฐพงศ์ เพียงพอ” ออกมาโชว์เสียงเพราะๆ ในบทเพลงประกอบหนังเรื่องนี้ที่มีชื่อว่า “ไม่สนิท” พร้อมกับทีมนักแสดงคนอื่นๆ ในเรื่องอย่าง “ติ๊นา-ศุภนาฏ”, “ภีม-ภาคิน”, “กัสเบล-ชวนภ”, “คิตตี้-ชิชา” ที่มาร่วมกันร้องเพลงๆ นี้ จนเรียกเสียงกรี๊ดจากบรรดาแฟนคลับกันสนั่น ก่อนที่จะมีการพูดคุยกันบนเวทีกับผู้กำกับมากฝีมืออย่าง “กอล์ฟ-ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์” และกิจกรรมพิเศษที่บรรดาติ่งได้ฟินแบบเซอร์ไพรส์กับนักแสดงบนเวที ที่ทำเอาติ่งแท้ติ่งเทียมฟินเฟ่อ กันไปถ้วนหน้า ก่อนที่เหล่าผู้บริหารจะขึ้นมาถ่ายรูปกันเป็นที่ระลึกซึ่งมีคุณ เตือนใจ เตชะรัตนประเสริฐ รองประธานกรรมการ บริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล และ 2 กรรมการ ฟิน โปรเจกต์ คือ คุณ ภัคกมล วิทยารางสกุล และ คุณ ปุณยนุช วรนิธิพงศ์ และ คุณ เรียวชิ ยูกิ ซีอีโอ บริษัท jidaimura จำกัด ซึ่งภาพยนตร์ “ฟินสุดโค่ย” จะเข้าฉายให้ฟินกัน 25 กันยายน นี้ ทุกโรงภาพยนตร์