ที่มาของภาพยนตร์
“โยมผีพ่อ” ภาพยนตร์ตลกแฝงคุณธรรม สร้างมาจากเค้าโครงประสบการณ์จริงของหนึ่งในผู้กำกับอารมณ์ดีอย่าง “ติ๊ก กลิ่นสี” เนื้อเรื่องเล่าถึงเรื่องราวของเณรน้อยและพ่อจอมนักเลงที่แม้จะจากโลกนี้ไป แต่ยังไม่หมดกรรม กลายเป็นเปรตมาขอให้เณรช่วยแก้กรรมที่ก่อเอาไว้ แม้จะตายไปก็ยังไม่วายกลายเป็นผีขี้เล่น เที่ยวกลั่นแกล้งชาวบ้านจนเกิดเรื่องราวสุดฮา ผลงานกำกับเรื่องแรกของนักแสดงอารมณ์ดี “ติ๊ก กลิ่นสี” ร่วมกับ “หนุ่ย- นิรันดร์ ธรรมปรีชา” ผู้กำกับฝีมือดีที่เคยฝากผลงานไว้จากหนัง เท่ ส้ม อ๋อง,นะมะปะสุ และอีกหลายเรื่อง ส่วนใหญ่แล้วเรามักจะคุ้นหน้า ติ๊ก กลิ่นสี ในฐานะนักแสดงสมทบที่เข้าไปร่วมสร้างสีสันและเสียงหัวเราะให้กับละครและภาพยนตร์หลายเรื่องเสมอ แต่คราวนี้เมื่อติ๊กลงทุนนั่งแท่นผู้กำกับภาพยนตร์เต็มตัว จึงไม่ต้องสงสัยว่าภาพยนตร์ของเขาจะสนุกสนานแค่ไหน โดยติ๊กได้เล่าถึงที่มาก่อนตัดสินใจทำภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า เนื้อเรื่องของ โยมผีพ่อนั้นมีที่มาจากประสบการณ์ตรงของตน โดยเรื่องเกิดขึ้นในวันที่ติ๊กไปอัดรายการที่สตูดิโอแล้วมีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาทักว่า ตอนนี้มีคนเดินตามอยู่ตลอดเวลา เหมือนเขาต้องการมาขอความช่วยเหลือให้เราทำอะไรบางอย่างให้ เพื่อที่เขาจะได้ไปเกิด จากเหตุการณ์วันนั้นทำให้ติ๊กนึกถึงความเชื่อที่เคยได้ยินมาในเรื่องวิญญาณของคนที่ตายไปแล้วซึ่งกลับมาเพื่อต้องการบอกอะไรบางอย่างหรือต้องการให้คนที่มีชีวิตอยู่ทำบางสิ่งบางอย่างที่เขาต้องการแต่ไม่สามารถทำได้ จึงนำเรื่องนี้ไปเล่าให้หนุ่ย (นิรันดร์ ธรรมปรีชา) ผู้กำกับที่เคยร่วมงานกันมานานนับสิบปี จนเกิดไอเดียนำเรื่องนี้ไปสร้างเป็นหนัง
สำหรับการวางตัวนักแสดงของเรื่อง ติ๊กเผยว่างานนี้ได้ขนกองทัพตลกมาร่วมสมทบอย่างคับคั่ง มีทั้ง ทีมตลกจากก่อนบ่ายคลายเครียดกว่า10 ชีวิต นำทีมโดย นุ้ย เชิญยิ้ม เด๋อ ดอกสะเดา, จาตุรงค์ ม๊กจ๊ก, ฮาย อาภาพร, เจ๊จิ๊ก เนาวรัตน์ ฯลฯ พ่วงด้วยนักแสดงเจ้าบทบาทอย่าง สุเชาว์ พงษ์วิไล,ปั๋ง ประกาศิต โบสุวรรณ และดาราสมทบอีกเพียบ นอกจากนี้ติ๊กเองยังร่วมแสดงนำในเรื่องและช่วยคิดมุกปรับจังหวะความฮาต่างๆให้โดนใจคนดูมากยิ่งขึ้น พร้อมดึงสาว ต้อม รัชนีกร พันธ์มณี รับบทแสดงนำฝ่ายหญิง และยังได้นักแสดงวัยรุ่นเลือดใหม่มากฝีมือมาช่วยสร้างสีสันกันอีกมากมาย เรียกว่าแท๊กทีมกันมาแบบนี้คงการันตีได้ถึงความฮากันแบบขนหัวลุกที่เชื่อเหลือเกินว่าจะไม่ทำให้คนดูผิดหวังอย่างแน่นอน
ผู้กำกับภาพยนตร์
ชาญณรงค์ ขันทีท้าว (ติ๊ก กลิ่นสี)
ชาญณรงค์ ขันทีท้าว หรือ “ติ๊ก”จบการศึกษาจากคณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ก้าวเข้ามาเป็นที่รู้จักในวงการและแจ้งเกิดเป็นครั้งแรกจากภาพยนตร์เรื่อง กลิ่นสีและกาวแป้ง (2531) หลังจากนั้น จึงทำให้หลายๆคนรู้จักเขาในนามของ ติ๊ก กลิ่นสี มาโดยตลอด และมีผลงานการแสดงออกมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ ดีดสีและตีเป่า (2533),บุญชู 5 (2533),เท่ ส้ม อ๋อง (2535), วาไรตี้ผีฉลุย (2548) พากย์เสียงในเรื่องก้านกล้วย (2549)และมะหมา 4 ขาครับ(2550) ต่อมาได้เข้าร่วมธุรกิจกับ “เกียรติ กิจเจริญ” (ซูโม่กิ๊ก) เปิดบริษัท ทริปเปิ้ล ทู จำกัด ผลิตรายการเกมโชว์ “แสบคูณสอง” ตั้งแต่ปี 2540 ตามมาด้วยรายการรักกันสนั่นเมือง เกมพันหน้า กิ๊กกะไบท์ กลมกิ๊ก ชิดหมอ ฯลฯ ทำให้เขามีโอกาสได้เข้ามาทำงานเบื้องหลังมากขึ้น โดยยังเป็นผู้จัดละครให้กับช่อง 7 สี ในส่วนของการสร้างพล็อตเรื่องและกำกับการแสดงด้วยตนเองในละครเรื่อง “ตลาด โรงเจ ลิเก ความรัก” ล่าสุดมีผลงานการกำกับละครเรื่อง หลวงตาใหม่กับผู้ใหญ่เย็น และเณรน้อย ที่กำลังออกอากาศทางช่อง 7 สี โดยได้ร่วมแสดงในละครทั้ง 2 เรื่องด้วย นอกจากนี้ยังได้หันมาจับงานทางด้านวิทยุ โดยเป็นผู้จัดรายการทางคลื่นลูกทุ่งเอฟเอ็ม 94.5 ในช่วง“รู้ปัญหาชีวิตกับ ติ๊ก กลิ่นสี” และล่าสุดได้ตัดสินใจลงมากำกับภาพยนตร์ด้วยตนเองเป็นครั้งแรกในเรื่อง “โยมผีพ่อ” และรับบทบาทเป็นพระเอกของเรื่องอีกด้วย
นิรันดร์ ธรรมปรีชา (หนุ่ย)
เกิด 24 กันยายน 2501 เป็นหนึ่งผู้กำกับภาพยนตร์ กลุ่มคนไท ที่สั่งสมประสบการณ์ทำงานมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ผลงานกำกับเรื่องแรก “ไผ่ปล้องเดียว” เมื่อพ.ศ.2529 นับเป็นระยะเวลากว่า 24 ปีและมีผลงานที่สร้างชื่อเสียงและรายได้ในสมัยนั้นจากภาพยนตร์เรื่อง กระเหรี่ยงตกดอย ในปี พ.ศ. 2530 "ผลุบโผล่"ในปี 2531 นับเป็นผลงานชิ้นหนึ่งที่สร้างเกียรติประวัติและทำรายได้ อีกเรื่องหนึ่ง ต่อมาในปี 2533 นิรันดร์จึงหันมากำกับภาพยนตร์แนวชีวิต เรื่อง "ก้อนหินในดินทราย" ในบรรยากาศของเกาะสมุย และต่อด้วยผลงานแนวตลกคอเมดี้แนวถนัด เรื่อง "3 กบาล" เป็นผลงานที่หวนกลับมาเอาใจตลาดอีกครั้ง ด้วยความแปลกของเนื้อหาและชื่อหนัง
ผลงานกำกับภาพยนตร์
ไผ่ปล้องเดียว ( 2529)
กะเหรี่ยงตกดอย (2530)
กะเหรี่ยงลอยฟ้า (2531)
กระชุ่มกระชวย (2531)
ผิดฝาไม่ผิดตัว (2531)
ผลุบโผล่ (2532)
ก้อนหินในดินทราย (2533)
3กบาล (2533)
ตามล่าแต่หาไม่เจอ (2535)
เท่ ส้ม อ๋อง (2535)
นะมะปะสุ (2538)
รักไม่ถึง 100 (2543)
นักแสดงนำ
ติ๊ก รับบท โดย ติ๊ก – ชาญณรงค์ ขันทีท้าว
รับบท “ติ๊ก” ผีเปรตที่กลับมาเพื่อขอให้ลูกชายซึ่งบวชเป็นเณร ช่วยเป็นสื่อกลางในการตามหาภรรยาของตนเอง เพื่อนำพาให้ทั้งคู่มาพบกัน เพียงเพื่อต้องการขอให้ภรรยายกโทษและอโหสิกรรมให้กับตน ที่ได้ทำความผิดไว้มากมายเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่
ต้อม รับบทโดย ต้อม – รัชนีกร พันธ์มณี
รับบท “ต้อม” ภรรยาของติ๊ก ที่หลังจากคลอดลูกชายแล้ว จำใจทิ้งเด็กขายยุ่งลูกที่ยังแบเบาะและตัดสินใจหนีเข้ามาทำงานเป็นนักร้องคาเฟ่ในกรุงเทพฯ เนื่องจากทนพฤติกรรมเกเร กินเหล้าเมายาของติ๊กไม่ไหว ต้อมเป็นคนหน้าตาสวย ร้องเพลงเพราะ ทำให้มีเหล่าบรรดาอาเสี่ยทั้งหลายเข้ามาติดพันอยู่ตลอด โดยต้อมตั้งใจไว้ว่าเมื่อเก็บเงินได้มากพอจะกลับไปรับลูกชายมาอยู่ด้วยกัน
เณรยุ่ง รับบทโดย น้องซัน – ด.ช. ชญานนท์ กลีบประทุม
รับบท “เณรยุ่ง” ลูกชายของเปรตติ๊ก (ติ๊ก กลิ่นสี) กับต้อม รัชนีกร พันธ์มณี ด้วยความที่ขาดทั้งพ่อและแม่ทำให้ยุ่ง ก่อความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านไปทั่ว จนวันหนึ่งเกิดเหตุการณ์พลิกผันทำให้ยุ่งต้องบวชเป็นสามเณร และได้พบเจอกับเปรตติ๊กผู้เป็นพ่อที่มาขอความช่วยเหลือให้เณรยุ่งออกตามหาแม่เพื่อพาแม่ให้มาพบกับพ่อและขออโหสิกรรมต่อกันเพื่อให้เปรตผู้เป็นพ่อได้ไปเกิดอย่างสงบ
หน่อย รับบทโดย น้องแพร – ด.ญ.สุพิชชา มงคลจิตตานนท์
รับบท “หน่อย” น้องสาวของนิด (รับบทโดยนางเอกหน้าใหม่ เกด นภัสกร ช่วยเกิด ) หน่อยเป็นสาวน้อยผู้มองโลกในแง่ดี ฉลาดและมีมุมมองต่างๆ ที่ผู้ใหญ่หลายคนยังต้องอาย ด้วยความบริสุทธิ์และสดใสร่าเริงของหน่อย ก่อให้เกิดมิตรภาพที่สวยงามของความเป็นเพื่อนขึ้นระหว่างภารกิจการตามหาแม่ของเณรยุ่ง
ต้น รับบทโดย ต้น – ธีรพงษ์ นามหัน
รับบท “ต้น” เด็กหนุ่มวัยรุ่นที่กำลังตามจีบนิด จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อครอบครัวของนิดต้องเข้าไปพัวพันกับภารกิจการตามหาแม่ของเณรยุ่ง ทำให้ต้นจำต้องตกกระไดพลอยโจนเข้าไปมีส่วนร่วมในการตามหาแม่ของเณรยุ่งในครั้งนี้ด้วย
นิด รับบท โดย ลูกเกด – นภัสสร ช่วยเกิด
รับบท “นิด” เด็กสาวหน้าหวานที่ปากกับใจไม่ตรงกัน ลูกสาวของเด๋อ
หนึ่งในผู้ที่มี ส่วนเกี่ยวข้องในการร่วมตามหาแม่ของเณรยุ่ง
เสี่ยอู๋ รับบท โดย ปั๋ง – ประกาศิต โบสุวรรณ
รับบท “เสี่ยอู๋” ผู้มีอิทธิพลในวงการมาเฟีย ซึ่งได้มาเจอกับต้อมที่ร้องเพลงในคาเฟ่
เกิดถูกใจและเข้ามาติดพันกับต้อม เสี่ยอู๋เป็นคนที่มีความคิดชั่วร้ายอยู่ตลอดเวลา เกลียดการโกหก มีลูกน้องคนสนิท 2 คน ที่สำคัญหากต้องการอะไรแล้วต้องเอามาให้ได้
เจ๊ฮาย รับบทโดย ฮาย– อาภาพร นครสวรรค์
รับบท “เจ๊ฮาย” ขาเม้าท์ประจำอพาร์ทเม้นท์ กิจวัตรประจำวันคือการยุ่งเรื่องชาวบ้านและปากเสียอยู่ตลอดเวลา โดยถือคติที่ว่า เรื่องของชาวบ้าน คืองานของเรา ว่างเมื่อไหร่เป็นต้องจับกลุ่มสุมหัวนินทาเพื่อนบ้านในอพาร์ทเม้นท์เดียวกันทันที
นุ้ย รับบทโดย ชูเกียรติ เอี่ยมสุข (นุ้ย เชิญยิ้ม)
รับบท “นุ้ย” เด็กวัดที่ใช้ชีวิตอยู่ในวัดต่างจังหวัดซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเดียวกับติ๊ก และรู้จักติ๊กเป็นอย่างดี เป็นคนที่มีอุปนิสัยร่าเริง สนุกสนาน มองโลกในแง่ดีและมีน้ำใจกับคนอื่น โดยนุ้ยจะเป็นพี่เลี้ยงคอยดูแลเณรยุ่งตลอดระยะเวลาที่เณรยุ่งบวช รวมทั้งร่วมเดินทางไปกับเณรยุ่งในภารกิจการตามแม่ครั้งนี้ด้วย
น้าเด๋อ รับบทโดย สมใจ สุขใจ (เด๋อ ดอกสะเดา)
รับบท “น้าเด๋อ” ซึ่งเป็นเพื่อนเก่าของหลวงตาพวงที่ย้ายจากต่างจังหวัดเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ โดยส่วนตัวแล้วเป็นผู้ใหญ่ที่น่านับถือคนหนึ่ง จุดเด่นคือความเป็นคนมีน้ำใจ ใครขอให้ช่วยอะไรก็จะช่วยเหลือเสมอ มีลูกสาว 2 คนและค่อนข้างจะหวงเป็นพิเศษ งานอดิเรกคือการตามไปเขกหัวบรรดาหนุ่มๆที่ชอบเข้ามาขายขนมจีบให้กับลูกสาวสุดที่รักอยู่เสมอๆ
พ่อต้อม รับบทโดย สุเชาว์ พงษ์วิไล
รับบท “สุเชาว์” พ่อของต้อม ซึ่งเป็นคนที่รักลูกสาวมาก ไม่อยากเห็นลูกต้องตกระกำลำบาก จึงยอมทำทุกอย่างเพียงเพราะอยากให้ลูกมีความสุขและมีชีวิตที่ดี รวมทั้งรักและห่วงใยหลาน (เณรยุ่ง) มากเช่นกัน เมื่อรู้ข่าวว่าเณรยุ่งเดินทางเข้ามากรุงเทพฯเพื่อตามหาแม่ จึงคอยหาทางช่วยเหลือและส่งข่าวให้เณรยุ่งทราบตลอดว่าแม่อยู่ที่ไหน