KTAMขายตราสารหนี้6เดือนชู2.70%ต่อปี
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน โดยเฉพาะกองทุน Term Fund นับตั้งแต่เดือนมกราคม – มิถุนายน มียอดเงินลงทุนกว่า 60,500 ล้านบาท ทั้งนี้ จึงส่งผลให้บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ทุกสัปดาห์ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า ในสัปดาห์นี้ บริษัทจึง เปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทย ธนทรัพย์ เอ็นแฮนซท์ 7 ( KTSUPE7 ) เสนอขายในวันที่ 9-15 กรกฎาคม 2557 อายุ 6 เดือน มูลค่า 5,000 ล้านบาท เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ประมาณ 75% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ประกอบด้วย เงินฝาก Bank of china , เงินฝากประจำ Akbank T.A.S , MTN ออกโดย Turkiye Vakfllar Bankasi TAO และMTN ออกโดย Finansbank A.S. ส่วนที่เหลือลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ ประเภท หุ้นกู้ ตั๋วแลกเงิน สถาบันการเงิน / บริษัทเอกชน ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.70% ต่อปี และมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายรอบใหม่ ( Roll Over ) ของกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ท อินเวส 3 เดือน 1 (KTSIV3M1) ถึงวันที่ 10 กรกฎาคม 2557 อายุ 3 เดือน เน้นลงทุนตราสารในประเทศ ประเภทตราสารหนี้ภาคเอกชน ประมาณ 70 % ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝากธนาคารพาณิชย์ ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.35% ต่อปี
สำหรับอัตราผลตอบแทนของตลาดตราสารหนี้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตราสารระยะสั้นถึงกลางทยอยปรับตัวขึ้น โดยตราสารในรุ่นอายุ ไม่เกิน 1 ปี ปรับเพิ่มขึ้น 1-3 bp ขณะที่ตราสารรุ่นอายุ 2-10 ปี ปรับเพิ่มขึ้น 1-10 bp โดยรุ่นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดคือรุ่นอายุ 3ปี ปรับเพิ่มขึ้น 10 bp. อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในทิศทางเดียวกันกับพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาแข็งแกร่งเกินคาด
ส่วนของตลาดอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 32.30-32.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยต้องจับตาความคืบหน้าในประเด็นเศรษฐกิจ-การเมืองไทย ข้อมูลเงินเฟ้อและการส่งออกเดือนมิ.ย. ของจีน และการแถลงจากเจ้าหน้าที่เฟดในระหว่างสัปดาห์ ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ บันทึกการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 17-18 มิ.ย. ตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนพ.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์