ไอแบงก์ลุยขายประกันตะกาฟุล ผ่าน 129 สาขา ตั้งเป้าสร้างกองทุนตะกาฟุลโตขึ้นกว่า 1 พันล้านบาท หวังเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียมของธนาคาร
ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย หรือไอแบงก์ จับมือ 3 บริษัทประกันชีวิตชั้นนำ ได้แก่ ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เมืองไทยประกันชีวิตจำกัด (มหาชน) และอาคเนย์ประกันภัยจำกัด (มหาชน) ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการให้บริการผลิตภัณฑ์ประกันตะกาฟุล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มบริการทางการเงินของธนาคารให้มีความหลากหลาย และสามารถตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่ต้องการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต และกลุ่มลูกค้ามุสลิมที่ต้องการเสริมสร้างความมั่นคง ทั้งในด้านการให้ความคุ้มครองและการออม ผ่านช่องทาง 129 สาขาของธนาคาร (Bancatakaful) โดยตั้งเป้าสร้างกองทุนตะกาฟุลครึ่งปีหลังโตขึ้นในไตรมาส 3 และ 4 ปี 2557 ไม่น้อยกว่า 1 พันล้านบาท เพื่อเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียมของธนาคาร
ดร.ครรชิต สิงห์สุวรรณ์ รักษาการผู้จัดการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมากในระบบการเงินการธนาคาร เนื่องจากในปัจจุบัน ธนาคารชั้นนำต่างๆได้ให้ความสำคัญแก่การให้บริการประกันประเภทต่างๆ ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการให้บริการผลิตภัณฑ์สินเชื่อและเงินฝาก กอปรกับธนาคารมีกลุ่มลูกค้ามุสลิมจำนวนมากที่ให้ความสนใจในการทำประกันชีวิตที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม ธนาคารจึงเล็งเห็นความสำคัญของการให้บริการประกันตะกาฟุล
สำหรับการให้บริการประกันชีวิตที่ถูกต้องนั้น ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และร่วมมือระหว่างกันตามหลักการตะกาฟุล เสมือนสัญญาระหว่างผู้เข้าร่วมประกัน ตกลงจะร่วมแบ่งเบาภาระจากความสูญเสียหรือเสียหายที่เกิดขึ้นกับสมาชิกในกลุ่ม ซึ่งสมาชิกจะได้รับเงินจำนวนหนึ่งจากกองทุน เมื่อเกิดความเสียหายหรือสูญเสียตามที่กำหนดไว้ในสัญญา หรือเป็นการออมเงินร่วมกันในกิจการที่ศาสนาอิสลามส่งเสริม
ทั้งนี้ ธนาคารได้ดำเนินการคัดเลือกผลิตภัณฑ์จาก 3 บริษัทประกันชั้นนำ เนื่องจากเล็งเห็นถึงประสบการณ์และความพร้อมขององค์กรในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม และสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าของธนาคาร และผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้รับการรับรองจากผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านศาสนา(ชะรีอะฮ์) อีกทั้งองค์กรมีความพร้อมในด้านทีมงานที่มีประสบการณ์ และระบบการบริหารจัดการที่ดี สามารถรองรับการให้บริการผลิตภัณฑ์สำหรับสาขาของธนาคารได้
ดร.ครรชิต กล่าวทิ้งท้ายว่า “การให้บริการผลิตภัณฑ์ประกันตะกาฟุล จะทำให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายจากการให้บริการทางการเงินแบบครบวงจร เมื่อใช้บริการผ่านทางเคาน์เตอร์ของธนาคาร ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของธนาคาร ในการเป็นสถาบันทางการเงินที่มุ่งสู่ความเป็นเลิศในการให้บริการธุรกรรมทางการเงินพื้นฐานเพื่อชาวไทยมุสลิมอย่างทั่วถึง”
บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
นางวรางค์ ไชยวรรณ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ในการสร้างหลักประกันตะกาฟุล สำหรับลูกค้าธนาคาร พนักงานและครอบครัว เพื่อวางแผนดูแลชีวิตและความมั่นคงทางการเงิน ภายใต้การบริหารจัดการตามหลักศาสนาอิสลามอย่างเคร่งครัด
โดยหลักประกันตะกาฟุลที่บริษัทฯนำเสนอ เป็นผลิตภัณฑ์ด้านการออมทรัพย์ 3 แบบ คือ แบบเตาฟี๊ดร์ 10/5 เป็นทางเลือกในการเก็บออมที่มีผลตอบแทนจากการลงทุนที่แน่นอน การันตีผลตอบแทนตลอดอายุสัญญา โดยชำระเงินสมทบเพียง 5 ปี ให้ความคุ้มครองต่อเนื่องถึง 10 ปี รวมถึงมีผลประโยชน์คืน 10% ทุกปี ครบกำหนดจะได้รับฮิบะห์ 500% พร้อมเงินปันผล
แบบตะฮ์ซีน 20/20 เป็นแบบออมเงินที่มีระยะเวลาของสัญญา 20 ปี ระยะเวลาชำระเงินสมทบ 20 ปี กรณีครบสัญญารับฮิบะห์ 110% พร้อมเงินปันผล กรณีเสียชีวิต รับฮิบะห์เท่ากับจำนวนเงินหลักประกันตะกาฟุล หรือจำนวนเงินค่าเวนคืนที่มากกว่า พร้อมเงินปันผล ซึ่งเงินปันผลที่จะนำมาจ่ายให้สมาชิก จะมาจากการลงทุนตามช่องทางที่ถูกต้องตามหลักศาสนา
และแบบอามานี 90/20 เป็นแบบที่ชำระเงินสมทบ 20 ปี แต่ได้ความคุ้มครองยาวนานจนถึงอายุ 90 ปี ครบสัญญารับฮิบะห์ 110% ถือเป็นการออมเงินเพื่อสร้างกองทุนสำหรับค่าใช้จ่ายในยามฉุกเฉิน หรือเป็นมรดกสำหรับลูกหลาน อีกทั้งเงินสมทบยังสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
“นอกเหนือจากหลักประกันตะกาฟุลแล้ว ไทยประกันชีวิตยังสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านการบริการที่มากกว่าสำหรับลูกค้า อาทิ ไทยประกันชีวิตฮอตไลน์ บริการฉุกเฉินทางการแพทย์และเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง ไทยประกันชีวิตแคร์เซ็นเตอร์ และแคร์เซ็นเตอร์เน็ตเวิร์ก ศูนย์ดูแลสิทธิประโยชน์ลูกค้า ที่สมบูรณ์แบบ ครอบคลุมทั่วประเทศ และคลับไทยประกันชีวิต กับหลากหลายกิจกรรมความสุข และสิทธิพิเศษต่างๆมากมาย”
บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน)
ทางด้าน นายหลักชัย สุทธิชูจิต กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) หนึ่งในพันธมิตรธุรกิจที่ร่วมลงนามสัญญาความร่วมมือในครั้งนี้กล่าวว่า อาคเนย์ กลุ่มธุรกิจประกันและการเงิน พร้อมนำแผนสัญญาตะกาฟุลหลักประกันอย่างครบวงจร ร่วมให้บริการกับธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยทุกสาขาทั่วประเทศ
ทั้งสัญญาตะกาฟุลที่ให้ความคุ้มครองด้านความมั่นคงปลอดภัยในทรัพย์สิน โดยบริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) และสัญญาตะกาฟุลเพื่อสร้างหลักประกันความมั่นคงปลอดภัยในการดำรงชีวิต โดยบริษัท อาคเนย์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ซึ่งในเฟสแรกของความร่วมมือกันในครั้งนี้ กลุ่มอาคเนย์ฯ ได้นำผลิตภัณฑ์สัญญาตะกาฟุลที่ออกโดยบริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ออกมาให้บริการก่อน 2 ประเภท ได้แก่ผลิตภัณฑ์สัญญาอาคเนย์ตะกาฟุลรถยนต์ และ สัญญาอาคเนย์ตะกาฟุลอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัย
สำหรับสัญญาตะกาฟุลรถยนต์จะมีให้บริการหลากหลายครบทุกประเภท ได้แก่อาคเนย์ตะกาฟุลรถยนต์ ภาคสมัครใจ หรือประเภท 1 ประเภท 2+ และ 3+ ประกันภัย พ.ร.บ. และแบบ Package ประเภท 3 รวม พ.ร.บ. และไม่รวม พ.ร.บ. เป็นต้น โดยจุดเด่นจะเน้นให้สมาชิกเลือกใช้บริการความคุ้มครองได้ง่าย ๆ ด้วยอัตราการชำระเงินสมทบราคาเดียวกับรถยนต์แต่ละประเภท ทั้ง เก๋ง กระบะ และรถตู้ โดยไม่ต้องตรวจสภาพรถยนต์ก่อนทำประกัน ยกเว้นประกันรถยนต์ประเภท 1 เมื่อสมาชิกสมัครทำสัญญาตะกาฟุลและชำระเงินสมทบแล้ว สามารถรอรับสัญญาและรับความคุ้มครองได้ทันที และพิเศษสุดคือจะรับประกันรถยนต์อายุสูงสุดถึง 20 ปี
และนอกจากนี้ อาคเนย์ประกันภัย ยังได้นำ สัญญาอาคเนย์ตะกาฟุลอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัยมาให้บริการพร้อมกันกับสัญญาตะกาฟุลรถยนต์ด้วย ซึ่งจุดเด่นของสัญญาตะกาฟุลอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัย ก็คือ เป็นสัญญาที่ราคาประหยัด ให้ความคุ้มครองสูงสุดถึง 10 ล้านบาท สามารถเลือกคุ้มครองระยะยาวได้ตั้งแต่ 1 ปี 2 ปี และ 3 ปี โดยชำระเงินสมทบเพียงครั้งเดียว ไม่ต้องตรวจสภาพที่อยู่อาศัยก่อนการทำสัญญา และขยายความคุ้มครองค่าเช่าที่อยู่อาศัยชั่วคราวให้แก่สมาชิกที่ได้รับภัย
ซึ่งสัญญาหลักประกันอาคเนย์ตะกาฟุล ที่นำมาให้บริการทั้งหมด เป็นหลักประกันที่ดำเนินการอย่างถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อตอบสนองความต้องการของพี่น้องชาวมุสลิมที่นับถือศาสนาอิสลาม ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการ ชาริอะฮ์ (Shariah Advisory Board) โดยอาคเนย์ได้มีกระบวนการแยกการบริหารจัดการภายใน รวมถึงการให้การบริการลูกค้า ออกจากการดำเนินงานในระบบลูกค้าปกติ อย่างชัดเจน จึงมั่นใจว่าจะได้รับความคุ้มครองหลักประกันที่อบอุ่นและวางใจได้
บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
นายปราโมทย์ ศักดิ์กำจร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ลงนามความร่วมมือ “โครงการผลิตภัณฑ์ตะกาฟุลประกันชีวิต” กับธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย เพื่อเป็นพันธมิตรในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และสิทธิประโยชน์ด้านการประกันชีวิตแก่ลูกค้าของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ทั้งลูกค้าตะกาฟุลที่นับถือศาสนาอิสลามและมีความต้องการแบบประกันที่ถูกต้องตามหลักการศาสนาอิสลาม และลูกค้าทั่วไป ณ ห้องบอลรูม 1 โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท
นายปราโมทย์ กล่าวว่า ด้วยบริษัทฯ มี ‘โครงการเมืองไทยตะกาฟุล’ ซึ่งเป็นการประกันที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม สำหรับพี่น้องมุสลิม และได้รับการคัดเลือกจากธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ในการนำเสนอรูปแบบการเงินอิสลามรูปแบบใหม่แก่พี่น้องมุสลิม ตลอดจนบุคคลทั่วไปที่ต้องการธุรกรรมทางการเงินแบบตะกาฟุลที่ปราศจากดอกเบี้ยในครั้งนี้ ธนาคารฯ จะเป็นผู้นำเสนอแบบตะกาฟุลในฐานะนายหน้าประกันชีวิตของบริษัทฯ ขณะที่เมืองไทยประกันชีวิต จะทำหน้าที่เป็นผู้คิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ตะกาฟุล ให้การบริการผลิตภัณฑ์ตะกาฟุล การบริการอื่นๆ รวมถึงการบริการหลังการขายให้แก่ลูกค้า
สำหรับแบบตะกาฟุลที่อยู่ภายใต้ความร่วมมือในครั้งนี้ มีทั้งหมด 4 แบบ คือ เมืองไทยตะกาฟุลเพื่อฮัจญ์ 10/7 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออมทรัพย์ในระยะเวลาปานกลาง ผู้ที่ต้องการได้รับสิทธิในการลดหย่อนภาษีรายได้ และต้องการเก็บออมเพื่อไปประกอบพิธีฮัจญ์ ลำดับถัดไป คือ เมืองไทยตะกาฟุลเราะห์มะฮ์ 5/5 ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออมทรัพย์ในระยะสั้น ต้องการเก็บออมเพื่อไปประกอบพิธีฮัจญ์/อุมเราะห์ และมีส่วนลดเงินสมทบสำหรับจำนวนเงินหลักประกันตะกาฟุลที่สูงขึ้นไป แบบที่สาม ตะกาฟุลตลอดชีพ 95/20 เป็นแบบที่ชำระเงินสมทบตะกาฟุลไม่สูงมาก แต่ให้ความคุ้มครองสูง และสุดท้าย คือ ตะกาฟุลออมทรัพย์ 20/15 โดยเป็นแบบการเก็บออมและคุ้มครองระยะยาว ที่สามารถทำไว้เพื่อเป็นทุนการศึกษาของบุตรหลานได้
นายปราโมทย์ กล่าวถึงความแตกต่างของตะกาฟุลทั้ง 4 แบบข้างต้นได้เป็น 2 ประเภท คือ แบบที่ให้ความคุ้มครองอย่างเดียว ได้แก่ ตะกาฟุลตลอดชีพ 95/20 และแบบให้ความคุ้มครองพร้อมทั้งการออม ได้แก่ เมืองไทยตะกาฟุลเพื่อฮัจญ์ 10/7, เมืองไทยตะกาฟุลเราะห์มะฮ์ 5/5 , และตะกาฟุลออมทรัพย์ 20/15
“ด้วยการบริหารจัดการเงินสมทบตะกาฟุลอย่างถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลามที่บริษัทฯได้ดำเนินการด้วยดีตลอดมา สมาชิกตะกาฟุลจะมีสิทธิ์ได้รับผลประโยชน์จากเงินปันผล และสิทธิ์ประโยชน์ทั่วไปตามเงื่อนไขสัญญา เช่น กรณีเสียชีวิตระหว่างสัญญา หรือการครบกำหนดสัญญา โดยเมืองไทยตะกาฟุลได้ดำเนินการคัดเลือกการลงทุนให้ถูกต้องตามหลักการอิสลามและได้ผลตอบแทนสูงสุดให้แก่สมาชิกตะกาฟุล เพื่อประโยชน์แก่สมาชิกตะกาฟุลและลูกค้าธนาคารอิสลามฯ นอกจากนี้ ยังสามารถได้รับสิทธิพิเศษต่างๆ จากเมืองไทย สไมล์ คลับ ในการเข้าร่วมกิจกรรมแห่งความสุขต่างๆ เพียงสมัครเป็นสมาชิกเมืองไทยสไมล์ คลับ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการสมัคร” นายปราโมทย์ กล่าว
ทั้งนี้ พี่น้องมุสลิม สามารถซื้อสัญญาตะกาฟุลผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยได้ทุกสาขา ทั่วประเทศ และหากมีข้อสงสัย หรือต้องการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้จาก เจ้าหน้าที่ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยทุกสาขา หรือฝ่ายสินเชื่อรายย่อยฯ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย สำนักงานใหญ่
ขณะเดียวกัน ยังสามารถติดต่อสอบถามผ่านช่องทางการขาย ของบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ณ สำนักงานใหญ่ ฝ่ายขายพันธมิตรทางธุรกิจช่องทางสถาบันการเงิน โทร 02-693-3619 หรือ 02-290-2239