ภาพยนตร์เรื่อง “Timeline จดหมาย ความทรงจำ” 13 กุมภาพันธ์ 2557

Mv.ไกลแค่ไหนคือใกล้- เต้ย เจมส์ [Ost.Timeline จดหมาย-ความทรงจำ]
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=7elAJTvvJOU" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=7elAJTvvJOU</a>

          คำร้อง/ทำนอง: ปณต คุณประเสริฐ
          เรียบเรียง: คชภัค ผลธนโชติ
          ขับร้อง: เต้ย-จรินทร์พร จุนเกียรติ, เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข
          (Original Song โดย Getsunova)

          ผลงานภาพยนตร์โดย นนทรีย์ นิมิบุตร
          ถ่ายทอดทุกอณูความรัก
          โดย 4 นักแสดงคุณภาพระดับแถวหน้าของเมืองไทย
          เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข, ป๊อก-ปิยธิดา วรมุสิก,
          เต้ย-จรินทร์พร จุนเกียรติ, ปีเตอร์-นพชัย ชัยนาม
          13 กุมภาพันธ์นี้ ต้อนรับวาเลนไทน์

“Timeline จดหมาย-ความทรงจำ” หนังรักดีๆ ต้องมีอะไรโดนๆ เจมส์, เต้ย, ป๊อก ยกนิ้ว “ผัดฟักแม้ว” 1 ในเสน่ห์สุดโรแมนติค


 
          เสน่ห์ของหนังรักที่ขึ้นหิ้งมักจะมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยที่ “จับ” หัวใจคนดูอยู่หมัด เป็นจุดที่คนดูมักจะพูดถึงอยู่ตลอดเวลา และสำหรับภาพยนตร์รักเรื่องล่าสุด ของผกก.อุ๋ย นนทรีย์ นิมิบุตร ถึงขนาดทำให้เหล่านักแสดงสัมผัสความรู้สึกดังกล่าวได้ ตั้งแต่ตอนอ่านบท ทั้ง เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข ,เต้ย จรินทร์พร จุนเกียรติ, ป๊อก ปิยธิดา วรมุสิก ยังรวมไปถึง น้องยอร์จ ยงศิลป์ วงศ์พนิตนนท์ ซึ่งรับบทเป็นหนุ่มเจมส์ ตอนเด็ก ก็ยังต้องถ่ายทอดเสน่ห์ดังกล่าวให้ออกมาโดนใจผู้ชมใน Timeline จดหมาย-ความทรงจำ นี้ด้วยงานนี้ผกก.ถึงขนาดส่งแม่ครัวมือฉมัง มาสอนการผัดฟักแม้วให้กับนักแสดงกันเลยทีเดียว

          ป๊อก ปิยธิดา: ใช่ค่ะ ทุกคนจะได้รับการเทรน เรื่องการผัดฟักแม้ว มีทั้งป๊อกต้องผัดให้ลูกดู ต้องมีเต้ยมีน้องเจมส์ผัด แล้วก็มีน้องยอร์ชตัวเล็ก ก็ต้องผัดเป็นด้วย คือทุกคนจะได้ผ่านการผัดฟักแม้วกันทุกคน ซึ่งในรายละเอียดเล็กๆ ตรงนี้ใครจะไปคิดว่ามันจะเป็นความโรแมนติกไปได้ยังไง แต่มันเป็นไปแล้วจริงๆ สำหรับเรื่องนี้ซึ่งการกินฟักแม้วของแต่ละตัวละครมันจะไม่ใช่แค่การกิน แต่มันเป็นความรู้สึกอีกแบบหนึ่ง ว่านี่คืออาหารที่เราเคยทำกับสามีนี่คือสิ่งที่เขาพยายามถ่ายทอดให้เราคิดถึง และเราจำได้ นี่คือสิ่งที่เขาทำให้เรารู้สึกอบอุ่นใจเวลาทานอาหารทำให้เรารู้สึกว่าเราคิดถึงเหมือนมีเขาอยู่กับเราตลอดเวลา

          เต้ย จรินทร์พร : ในหนังก็จะมีหลายๆ อย่างที่น่ารัก และลึกซึ้งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ตัวแทนความทรงจำที่เกิดขึ้นของกัน และกันทั้งในคู่ของจูนกับแทน อย่างผัดฟักแม้วก็จะเริ่มมาจากความรักของรุ่นแม่ซึ่ งเป็นตัวแทนการส่งต่อมาเป็นทอดๆ เป็นอาหารที่พ่อเคยทำให้แม่ และแม่ก็ทำให้แทนทานซึ่งเป็นรายละเอียดเล็กๆ ที่เต้ยรู้สึกว่าน่ารักจังเลย

          เจมส์ จิรายุ : (หัวเราะ) ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคุณแม่จะติดใจอะไรกับผัดฟักแม้ว ถึงได้ให้ทุกคนผัดกันมากขนาดนี้ (หัวเราะ) คือเรื่องนี้เราได้ผัดฝักแม้วกันแทบทุกคนครับ จริงๆ แล้วความสำคัญในภาพยนตร์โดยเฉพาะตัวละครแม่มัท ลองนึกภาพที่ใครคนหนึ่งที่เขามีความรักเขามีความทรงจำเขาก็อยากทำอะไรทุกๆ อย่างที่เกี่ยวกับความทรงจำเหล่านั้นอีกครั้ง และอยากทำให้คนที่เขารักได้มีส่วนร่วมในการแชร์ความรู้สึกดีๆ เหล่านี้ รวมไปถึงการกินอาหารเดิมๆ ที่เขาเคยกินหรือที่เขาเคยทำให้ผมว่ารายละเอียดเล็กทุกๆ อย่างที่เกิดขึ้นกับตัวละครในหนังมันล้วนแล้วแต่เป็นเสน่ห์โดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงที่ว่าเราก็ไม่เคยรู้หรอกครับว่าความสำคัญมันอยู่ที่ตรงไหนจนกระทั่งเขาจากไปแล้วเราถึงจะรู้ว่ามันคือสิ่งที่สำคัญในชีวิตของเราเหมือนกัน”

          แม้ใครจะไปคิดว่า “เมนูอาหารอย่างผัดฟักแม้ว”จะกลายเป็นรายละเอียดที่สุด “จี๊ด” และ “โดนใจ” ไปได้ รออีกนิดกับ “Timeline จดหมาย-ความทรงจำ” การกลับมาของหนังรักแห่งปรากฎการณ์ที่ทุกคนรอคอย กับหนังรักเรื่องแห่งปีจาก สหมงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนล พร้อมประเดิมฉาย 13 ก.พ. ต้อนรับเทศกาลวาเลนไทน์

ร่วมสนุกลุ้นดูหนังรอบพิเศษ “Timeline จดหมาย-ความทรงจำ” กับเพื่อนซี้อีก 3 คน เพียงถ่ายรูปคู่กับ Olay AquAction



           โอเลย์ อควาแอคชั่น ร่วมกับ สหมงคลฟิล์ม ขอเชิญร่วมสนุกลุ้นรับบัตรชมภาพยนตร์รอบพิเศษ "Timeline จดหมาย-ความทรงจำ" ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ SF Cinema Terminal 21 รอบเวลา 18:00 น.  เพียงโพสต์รูปถ่ายตัวเองพร้อมผลิตภัณฑ์ โอเลย์ อควาแอคชั่น และ บอกความรู้สึกสั้นๆ ตามด้วย hashtag #OlayThailand ที่ https://www.facebook.com/OlayThailand
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://on.fb.me/1eaoMH5

          ก่อนที่จะชวนทุกคนไปสัมผัสกับเรื่องราวความทรงจำแห่งรักที่แสนงดงามที่จะติดตรึงอยู่ในหัวใจไปตลอดกาลกับ “Timeline จดหมาย-ความทรงจำ” ปรากฎการณ์ของหนังรัก ณ พ.ศ.นี้ จากผลงานการกำกับ โดย อุ๋ย-นนทรีย์ นิมิบุตร พร้อมการแสดงที่เต็มไปด้วยอารมณ์และความรู้สึกโดยสุดยอดนักแสดงมากฝีมืออย่าง ป๊อก ปิยธิดา วรมุสิก, ปีเตอร์ นพชัย ชัยนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งคู่พระนางที่ทุกคนจะต้องซาบซึ้งไปกับเรื่องราวของเขาและเธอ เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุขและเต้ย-จรินทร์พร จุนเกียรติ 13 ก.พ.นี้ ความสุขจะเอ่อล้นสองแก้มอุ่นๆ ไปพร้อมกันทุกโรงภาพยนตร์

เจมส์-จิ ควง เต้ย-จรินทร์พร พร้อม อุ๋ย-นนทรีย์ บินลัดฟ้าสู่เชียงใหม่ เปิดตัว “Timeline จดหมาย-ความทรงจำ” และจัดรอบการกุศล 6 ก.พ. นี้



          เจมส์-จิ ควง เต้ย-จรินทร์พร พร้อม อุ๋ย-นนทรีย์ บินลัดฟ้าสู่เชียงใหม่
          เปิดตัว “Timeline จดหมาย-ความทรงจำ” และจัดรอบการกุศล 6 ก.พ. นี้
          นำรายได้ซื้อจักรยานให้น้องพร้อมชวนแฟนๆ ร่วมใกล้ชิดอิ่มอุ่นอิ่มบุญก่อนใคร

          6 ก.พ.นี้ เต็มอิ่มทุกความรู้สึกกับความทรงจำแห่งรักที่แสนอบอุ่นก่อนใครในโลกกับการเปิดตัวภาพยนตร์รักที่ทุกคนรอคอย “Timeline จดหมาย-ความทรงจำ” เป็นครั้งแรกในงาน “Timeline Premiere Screening of Love in Chiangmai” ที่โรงภาพยนตร์เอส เอฟ เอ็กซ์ ซีเนม่า เมญ่า ไลฟ์สไตล์ ช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์ จ.เชียงใหม่ พบกับตัวเป็นๆ ของเจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข พร้อมด้วย เต้ย จรินทร์พร จุนเกียรติ และผู้กำกับ อุ๋ยนนทรีย์ นิมิบุตร ที่บินลัดฟ้าสู่เชียงใหม่เพื่อร่วมงานเปิดตัวภาพยนตร์พร้อมพบปะใกล้ชิดกับแฟนๆ โดยเฉพาะ

          พร้อมกันนี้พิเศษยิ่งกว่านอกจากงานเปิดตัวภาพยนตร์อย่างเป็นทางการ ยังได้เชิญแฟนๆ และผู้ชมภาพยนตร์ที่สนใจร่วมชมภาพยนตร์รอบแรกก่อนใครพร้อมสัมผัสที่แสนใกล้ชิดแบบ “เอ็กซ์คลูซีฟ” สุดๆ ร่วมถ่ายรูปกับนักแสดงที่จะมาทักทายผู้ชมถึงในโรงภาพยนตร์เฟิร์สคลาส

          บัตรมีจำหน่ายแล้ววันนี้ ที่กรุงเทพ ติดต่อ บ.สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล โทร 02-273-0930 – 9 ต่อ 160 คุณเหน่ง, คุณหนุ่ย 080-609-9666 และ ที่ จ.เชียงใหม่ ณ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เอ็กซ์ ซีเนม่า เมญ่า ไลฟ์สไตล์ ช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์ ติดต่อ คุณ พิชาพัทธ์ ธเนศฐ์วัฒนกุล โทร 052-081 000 หรือ 084-295 9892 ซึ่งรอบพิเศษนี้จะเป็นบัตรที่นั่งโรงภาพยนตร์เฟิร์สคลาส ที่นั่งละ 3,000 บาท โดยจะนำรายได้จากการจำหน่ายบัตรไปเข้าโครงการซื้อจักรยานให้น้องในชนบท

บทสัมภาษณ์ “เต้ย-จรินทร์พร กับบทบาทล่าสุดใน TIMELINE จดหมาย-ความทรงจำ”



          ไม่เพียงแค่ “เต้ย-จรินทร์พร” ที่รักตัวละครตัวนี้
          มั่นใจว่าทุกคนจะหลงรัก “จูน” สาวน้อยที่เต็มไปด้วยอารมณ์และความรู้สึกอย่างหมดใจ
          กับบทบาทล่าสุดใน TIMELINE จดหมาย-ความทรงจำ”

          Q. มาพูดถึงผลงานล่าสุดภาพยนตร์เรื่อง TIMELINE จดหมาย-ความทรงจำ เป็นไงมาไงถึงได้กลายมาเป็นนางเอกในหนังรักเรื่องล่าสุดที่ พี่อุ๋ย นนทรีย์ กำกับได้
          T. คนติดต่อมาทางพี่ผู้จัดการค่ะพอรู้ว่าเรื่อง Timeline เอาจริงๆ ตอนนั้นไม่ค่อยรู้เรื่องคือตอนนั้นมันมีข่าวนิดๆ หน่อยว่าได้น้องเจมส์มาเป็นพระเอกนะแต่เอาจริงๆ เต้ยไม่รู้เรื่องเลยค่ะ เต้ยก็จริงเหรอก็ดีใจแล้วจนกระทั่งเต้ยก็แอบ search ดูในเน็ตจริงๆ แล้วเต้ยไม่ได้เข้าไปดูตั้งแต่แรก คือคุณแม่บอกก่อนว่าเป็นน้องเจมส์นะ เป็นรูปพี่อุ๋ยถ่ายรูปกับน้องเจมส์ แล้วก็ผ่านไปพอพี่เขาส่งบทมาให้อ่านเต้ยก็นั่งอ่านบทจำได้ว่าตอนนั้นไปถ่ายละครอยู่ที่ต่างจังหวัดก็มีช่วงว่างพอดี ก็เลยนั่งอ่านบทอ่านไปเรื่อยๆ ตอนแรกก็อ่านก็เพลินแล้วตอนท้ายๆ น้ำตาไหลพรากออกมาเองด้วยไม่ทันตั้งตัวเลยค่ะ คือเหมือนโดนแกล้ง น้ำตาไหลแล้วต้องไปถ่ายละครต่อคือมันเป็นการร้องไห้ที่อิ่มจังเลย ที่อ่านบทตอนแรกก็รับเลย จนกระทั่งพี่อุ๋ยนัดเข้าไปคุยร้านหนึ่งเจอน้องเจมส์ด้วยครั้งแรก ตอนนั้นก็ยังสงสัยจะได้เล่นจริงๆ เหรอเขาอาจจะเปลี่ยนตัวก็ได้นะอาจจะเรียกมาคุยเฉยๆ แล้วพอวันบวงสรวงค่อยรู้สึกว่าเป็นเต้ยจริงๆ แล้วแหละ

          Q. ฟังดูแล้วเหมือนกับว่าแค่ได้อ่านบทก็ทำให้เต้ยรู้สึกอินได้เลย บทนี้ถือได้ว่าเป็นเรื่องราวใกล้ตัวเรามั้ย
          T. ก็ไม่ถึงกับใกล้สักทีเดียว คือมันเป็นบทผู้หญิงแอบชอบคนๆ หนึ่ง แต่จะก็จะเอามาปรับให้เข้ากับความที่เป็นตัวเต้ยด้วยคือแอบชอบ แต่ทำตัวเฉยๆ เต้ยก็ว่ามีความใกล้นะคะกับคาแรคเตอร์ตัวละครตัวนี้ เพราะที่ผ่านมาถ้าเป็นหนังเต้ยเล่นมา 3 เรื่อง เรื่องนี้ก็มีความใกล้เคียงถ้ากับหนังก็จะใกล้ตัวมีความมีเหตุมีผล และก็ไม่ใช่แบบเป็นคนที่แฮปปี้ตลอดเวลาคือเขาก็จะมีมุมความเป็นคนดังนั้นก็จะเข้าถึงตัวละครตัวนี้ได้ง่ายและก็รักเขา รักตัวละครตัวนี้ค่ะแต่ถ้าในละครที่เต้ยเล่นมาเหมือนกันทุกเรื่อง คาแรคเตอร์ใกล้เคียงกันตลอดทุกเรื่องเลยมันก็ไม่ค่อยมีความแตกต่างแต่ถ้าเป็นเกี่ยวกับภาพยนตร์จะไม่เหมือนกันเลยสักเรื่องค่ะ

          Q. ตอนที่ได้อ่านบทภาพยนตร์เรื่อง TIMELINE จดหมาย-ความทรงจำ ครั้งแรกอะไรเป็นความประทับใจที่เรารู้สึกได้กับบทภาพยนตร์เรื่องนี้
          T. ตอนที่เต้ยอ่านเต้ยประทับใจในพาร์ทของแม่ลูกค่ะ ตรงที่เขามีปมอะไรบางอย่างด้วยกันบางทีคนเราใกล้กันมันอาจจะมองไม่เห็นแก้ไขอะไรไม่ได้ และก็ประทับใจบทจูนที่ เหมือนมาช่วยเหลือทั้งแทนและก็แม่แทนด้วย เหมือนจูนเป็นกุญแจสำคัญบางอย่าง (เหมือนกับชื่อ "จูน") เหมือนจูนให้เข้ากัน (ซึ่งจริงๆ พี่อุ๋ยตั้งใจตั้งแต่การตั้งชื่อทุกตัวละครไมว่าจะเป็น แม่มัท (ป๊อก ปิยธิดา), แทน (เจมส์) เต้ยรู้แต่ว่าจูนเหมือนเป็นกุญแจที่ไขเรื่องต่างๆ แม้กระทั้งเรื่องของตัวเอง

          Q. ในการที่จะต้องถ่ายทอดบทบาทตัวละครจูนให้มีชีวิตต้องมีการเตรียมตัวเตรียมพร้อมอย่างไรบ้าง
          T. ก็จะต้องมีการเวิร์คช็อปกันซึ่งเต้ยว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากค่ะ ตั้งแต่แรกที่เราไปเวิร์คช็อปกันก็จะให้เราเหมือนละลายพฤติกรรมก่อนค่ะ แล้วเข้ามาสู่พาร์ทตัวละคร คือเราต้องมาเขียนภูมิหลังเราต้องเขียนลักษณะของเขา เพราะว่าเขาไม่ใช่เราบางทีการที่เราต้องเล่นเป็นตัวละครตัวหนึ่ง เราต้องรู้ว่าตลอดเวลา 20 ปีของจูนเกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้าง เขาเป็นคนยังไงเขามีปมชีวิตตรงไหน ถ้าเขาเจอเรื่องแบบนี้เขาจะตอบยังไงการเวิร์คช็อปเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับตัวละครค่ะ และก็การเข้าใจบทเข้าใจไดอะล็อกต่างๆ ต้องบอกก่อนว่าหนัง 2 เรื่องที่เต้ยเคยเล่นถ่ายเรียงเรื่องทั้ งหมดคืออารมณ์ก็จะต่อเนื่องไปเรื่อยๆ แต่เรื่องนี้ถ่ายข้ามไปข้ามมาไม่ได้เรียงเรื่องอยู่ดีๆ ซีนนี้แฮปปี้มีความสุข ซีนต่อไปร้องไห้มันก็มีความยากตรงนี้ค่ะที่จะต้อง continue กับอารมณ์ความรู้สึกกับซีนกับบทของตัวละครให้ถูกต้องค่ะ"

          Q. ตอนที่เริ่มต้นศึกษาทำความรู้จักและพยายามเข้าใจตัวละคร “จูน” ที่เราจะต้องถ่ายทอดเต้ย รู้สึกอย่างไรบ้างกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป
          T. ตอนแรกเต้ยไม่ค่อยห่วงนะคะ ตอนอ่านบทรู้สึกว่าอายุก็ไม่ค่อยได้ไกลกันมากถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ปี 1 แต่ก็ถือว่าตัวคาแรคเตอร์ไม่ไกลจากตัวเองค่ะแต่ที่ห่วงอย่างที่บอกมันจะมี ดราม่า มี mood ของการคอนทินิวท์อารมณ์ที่สำคัญมาก ถ้าเราทำตรงนี้ไม่ดี ตัวละครเราอยู่ดีๆ ถึงซีนที่ต้องเศร้า แต่ไม่เศร้าก็ไม่ได้มันคือความยากความท้าทายที่เต้ยไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนกับการเล่นหนัง มันทดสอบความสามารถทางด้านการแสดงจริงๆ ค่ะ เพราะเต้ยตั้งใจที่จะเรียนรู้กับคนๆ นี้เป็นพิเศษ และเต้ยก็จะรักตัวละครตัวนี้ถ้าเกิดเป็นเรื่องแรกก็อาจจะไม่ค่อยรักเขามากขนาดนี้

          Q. สำหรับบทจูนในภาพยนตร์เรื่อง TIMELINE จดหมาย-ความทรงจำ ถือได้ว่าบทนี้เป็นบทที่ท้าทายความสามารถของตัวเองมากน้อยแค่ไหนอย่างไรบ้าง
          T. จริงๆ การใกล้ตัวเองแล้วเล่นยังไงไม่ซ้ำกับที่มันเคยเป็นมาค่ะเต้ยว่ามันเป็นอะไรที่ท้าทาย และก็ยิ่งบทจูนนี่จริงๆ แล้วเขามีหลายอารมณ์ เขาก็เป็นคนที่สดใสร่าเริง แต่จากการที่ว่าเขาเป็นคนที่ไม่ค่อยคาดหวังอะไรเท่าไหร่ และมีความคาดหวังบางอย่าง ต้องรับมือกับความคาดหวัง อาจจะไม่ได้เป็นไปตามความคาดหวัง มีผิดหวัง มีเสียใจบ้าง เหมือนกับว่าไม่ต้องพูดด้วยซ้ำ แล้วก็มีซีนที่ต้องเล่นคนเดียว เต้ยว่ามันต้องอาศัยเรื่องที่อยู่ในสมองเราค่ะ เต้ยรู้สึกว่าเต้ยรักจูน อินกับจูนดังนั้นเวลาสมมติว่าอยู่คนเดียวอ่านข้อความ มันก็จะมีเรื่องให้เราคิดได้เรื่อยๆ ค่ะ หรือสมมติพิมพ์หาแทนก็จะคิดไปเรื่อยๆ อาจจะเป็นเพราะหนูจิตนาการหนูเพ้อเจ้อมั่ง (หัวเราะ) คิดว่าจูนกับแทนต้องเคยทำอย่างนี้ด้วยกันนะมันก็จะมีแบบยิ้มๆ แต่เขาใกล้นะแต่ไกลจังเลยเลยรู้สึกเศร้าก็เล่นไปเรื่อยๆ ตามสิ่งที่เรารู้สึกตามตัวละครที่เรารู้สึก

         Q. คงต้องเล่าให้ฟังแล้วละว่าบุคลิกบทบาทและคาแรคเตอร์จูนของเต้ยเป็นอย่างไรบ้าง
          T. จูนเป็นคนที่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรไม่ชอบอะไรรู้ว่าตัวเองเป็นคนมีความสุขได้ด้วยเรื่องอะไรค่ะ เป็นคนที่จัดการกับความสุขความทุกข์ได้ค่อนข้างดีมากๆ เลย และก็เป็นผู้หญิงที่ลุยๆ ไปไหนไปกัน อยากจะไปดูคอนเสิร์ตก็ไปเลยไม่ต้องรอใคร จูนเป็นลูกคนเดียว พ่อแม่ก็เข้าใจปล่อยให้จูนมีชีวิตที่มีความสุขของตัวเอง จนกระทั่งมาเจอแทน เป็นคนๆ หนึ่งที่จูนห่วงเหลือเกินผู้ชายคนนี้ อาจจะเป็นเพราะว่าเขามาจากต่างจังหวัดไม่รู้อะไรเลย คือชอบที่เขาเป็นคนสบายๆ ง่ายๆ เป็นคนที่จิตใจดี ถ้าพูดถึงความสัมพันธ์กับแทนจูนกับแทนเป็นเพื่อนกันค่ะจูนเหมือนค่อยเป็นห่วงเป็นใยเวลาอยู่ด้วยกัน จูนจะเป็นผู้นำค่ะ แม้แต่กระทั่งแทนมีความฝันอะไรอย่างที่บอก จูนก็ไปเป็นห่วงคนๆ นี้อยากให้เขาได้ทำในสิ่งที่เขาชอบ อยากให้เขาทำตามความฝันในสิ่งที่เขาชอบ สิ่งที่เขาเป็นจริงๆ มันก็มีความสุข ในขณะเดียวกันแทนเองก็เป็นแรงบันดาลใจให้กับจูน เหมือนสองคนนี้เขาเป็นแรงบันดาลใจให้แก่กันค่ะ ให้จูนลุกขึ้นมาทำอะไรหลายๆ อย่างที่ตัวเองไม่คิดว่าจะทำค่ะ

          Q. คิดว่าเสน่ห์ของตัวละครตัวนี้อยู่ที่ตรงไหนอย่างไร
          T. เต้ยชอบจูนตรงที่ไม่ต้องห่วงอะไรมากค่ะ เป็นคนที่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรจัดการความสุขของตัวเองได้ดีค่ะ อะไรที่เป็นความทุกข์เขาก็พยายามเข้าใจมัน แล้วก็ออกจากมัน และเสน่ห์ตรงที่เป็นผู้หญิงที่ดูแลตัวเองได้เต้ยชอบแบบนี้ด้วย เต้ยว่าจูนอยู่บนโลกใบนี้ก็เพราะต้องมาทำอะไรกับเรื่องแบบนี้ เขามีความสุขกับชีวิตของเขา แต่จริงๆ แล้ว จูนเป็นคนที่ขาดความรักเหมือนกัน ชอบอยู่คนเดียวแล้วก็ขาดตรงนี้เหมือนกันเลยเข้าใจในความรู้สึกของแทน เหมือนจูนเป็นคนที่ขาดแต่ชอบที่จะเติมเต็มให้กับคนอื่นทำให้คนที่เขารักคนที่เขาห่วงใยมีความสุขได้นั้นก็คือความสุขของจูนแล้ว ถ้าถามว่าเสน่ห์คู่ของเต้ยที่เล่นเป็นจูนกับแทนที่เจมส์เล่นเสน่ห์ของคู่นี้อยู่ตรงที่ต่างคนต่างเติมเต็มให้กันโดยที่ไม่รู้ตัว จูนคิดว่าความสัมพันธ์แบบคู่รักคงไม่มีหรอกในโลกนี้เขาก็ใช้ชีวิตแบบแฮปปี้ของเขาไป อยู่ดีๆวันหนึ่งจูนมีความรู้สึกชอบใครบางคนขึ้นมาก็เป็นการเติมเต็มในส่วนที่จูนก็คงต้องการจริงๆ ในเรื่องนี้ ซึ่งจริงๆ ทุกคนแหละที่ชอบให้ใครสักคนหนึ่งอยู่รอบๆ ตัวเราอยู่แล้ว

          Q. เสน่ห์อย่างหนึ่งของหนังรักที่เรามักได้พบเห็นกันคือการถ่ายทอดความสัมพันธ์ของตัวละครโดยมักมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยที่ผูกโยงกันให้คนรู้สึกและสัมผัสกับตัวละครได้แล้วสำหรับ TIMELINE ละ
          T. สัญลักษณ์ของแทนกับจูนคือจักรยานค่ะ คือแทนกับจูน เป็นคนที่ชอบขี่จักรยาน ไปไหนก็คือขี่จักรยานไปด้วยกันเวลามีความสุขก็มีความสุขด้วยกันเหมือนเป็นเพื่อนขี่จักรยานแบบนี้ค่ะ แต่จริงๆ แล้วในภาพยนตร์ก็จะมีความสัมพันธ์หลายๆ อย่างหรือสัญลักษณ์หลายๆ อย่างที่เชื่อมกันระหว่างแทนกับจูน และระหว่างตัวละครทุกๆ ตัวในเรื่องนี้ด้วย ต้นบ๊วยเป็นสัญลักษณ์บางอย่างของเรื่องนี้มันเหมือนเป็นการส่งต่อความทรงจำบางอย่างที่ส่งมาเป็นทอดๆ แล้วก็ ผัดฟักแม้ วอาหารที่พ่อของแทน ทำให้แม่ของแทนกิน แม่ของแทนก็ทำให้แทนทานซึ่ งมันก็เลยเหมือนเป็นแรงบันดาลใจต่างๆ ทำให้คนที่เรารู้สึกดีด้วย รู้สึกชอบก็มันก็ต่อๆ กันมา แล้วก็จะมีอีกหนึ่งตัวละครที่สำคัญมากระหว่างจูนกับแทน เป็นสุนัขตัวหนึ่งที่จูนกับแทนเจอพร้อมๆ กันและก็จูนได้เห็นความน่ารักของแทนที่ไปช่วยไอ้เจ้ากระป๋องนี่ค่ะ"

          Q. TIMELINE จดหมาย-ความทรงจำ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร
          T. เป็นเรื่องเกี่ยวกับแม่ลูกคู่หนึ่งเป็นพี่ป๊อกกับน้องเจมส์ ตั้งแต่เด็กๆ เลยถึงได้ชื่อว่าแทน เหมือนกับแม่วางกรอบให้เดินแล้วเรียบร้อยว่าอยากให้เป็นแบบนี้ จนวันหนึ่งตัวแทนก็คงทนไม่ไหวก็อยากมีชีวิตของเขา และก็ได้มาอยู่กรุงเทพได้เจอกับจูนสองคนนี้เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมากๆ จูนได้เห็นมุมมองความน่ารักความธรรมชาติ ความมีเสน่ห์บางอย่างที่ไม่ได้ปรุงแต่งอะไรของแทนจริงๆ แล้วจูนแอบชอบแทนก็อยากที่จะรู้จักผู้ชายคนนี้ให้มากขึ้นก็เลยพยายามเข้าไปในชีวิตของผู้ชายคนนี้เมื่อเข้าไปแล้วก็รู้สึกดีเหลือเกินได้ทำอะไรในสิ่งที่จูนไม่เคยทำสุดท้ายแล้วทั้ง3ตัวละครแทนเขาจะเดินทางไปตามจุดมุ่งหมายหรือความฝันเขายังไง แล้วจูนละจะเป็นอย่างไรแม่ของแทนที่ยึดอยู่กับความทรงจำเก่าๆ สุดท้ายจะเป็นอย่างไรโดยเรื่องราวทั้งหมดก็จะเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสมัยนี้ที่เป็นส่วนหนึ่งของผู้คนในยุคนี้ทั้ง Line, Timeline Facebook หรืออะไรต่างๆ

          Q. ร่วมงานกับพระเอกหนุ่มซูปเปอร์สตาร์สุดฮอตของเมืองไทยอย่างเจมส์ จิรายุเป็นอย่างไรบ้าง
          T. ตอนแรกเต้ยก็ไม่รู้ว่าน้องเจมส์จะเป็นคนยังไงค่ะ แต่ครั้งแรกที่เจอเขาก็น่ารักมากเลย เขาเป็นคนที่ร่วมงานด้วยง่ายมากเลยแล้วพอยิ่งมาทำงานด้วยกันมาถ่ายหนังด้วยกันเจอกันบ่อยๆ เล่นเป็นตัวแทนกับจูนก็ยิ่งทำให้อินไปกับตัวละครพอเจอน้องเจมส์คือมันจะแยกกันค่ะสมมติเต้ยกับน้องเจมส์ในแทนกับจูนน้องเจมส์เป็นแทนมากๆ เลยสำหรับเต้ย เต้ยก็จะอินมากคนนี้คือคนที่เราชอบคนนี้คือคนที่เราอยากทำอะไรให้คนนี้คือคนที่เรารู้สึกที่ไม่รู้ทำไมถึงเป็นคนนี้อย่างที่บอกแต่ถ้าเป็นพาร์ทเต้ยกับน้องเจมส์ในการเป็นเพื่อนร่วมงานก็จะรู้สึกน้องน่ารักมาเหมือนลูกลิงคือจะเป็นคนที่ไม่อยู่สุขจะเป็นคนที่สร้างสีสันให้กับที่กองตลอดเลยค่ะ

          Q. ในการทำงานของภาพยนตร์เรื่องนี้ยังมีโอกาสได้ร่วมงานกับนักแสดงหญิงคุณภาพอย่างพี่ป๊อก ปิยธิดาด้วย
          T. พี่ป๊อกก็เป็นไอดอลเต้ยเหมือนกันค่ะ เต้ยชอบในการแสดงของพี่ป๊อกอยู่แล้ว พี่ป๊อกเป็นคนที่เก่ง และก็เป็นนักแสดงที่ดีมากๆ เลยค่ะ ในเรื่องนี้เต้ยมีโอกาสได้ร่วมซีนกับพี่ป๊อกน้อย ซีนที่ได้เจอกันได้ร่วมฉากด้วยกันก็เหมือนกับว่าสุดยอดมากเลยค่ะ คือเขาแค่เล่าเรื่องอะไรบางอย่างมาเราก็รู้สึกได้ว่าข้างในเขามีอะไรเต็มไปหมดเลยพอเขาเล่าเรื่องมาเท่านั้นเราก็อยู่ดีๆ ร้องไห้ตามเขาไปเลย

          Q. มาจนถึงผู้กำกับระดับแถวหน้าของเมืองไทยอย่างพี่อุ๋ย นนทรีย์
          T. เต้ยรู้สึกแบบว่านี่คือคนที่เคยได้ยินชื่อมาตั้งแต่เด็กๆ จะรู้สึกเกร็งๆ พอมาเจอจริงๆ แล้วพี่อุ๋ยไม่ดุเลย เป็นคนที่ทำงานด้วยแล้วสนุกค่ะ เหมือนกับว่างานนี่ไม่ใช่เป็นงานของเขาแค่คนเดียว เป็นคนที่เปิดโอกาสให้ทุกคนมาสนุกกันในเรื่องๆ นี้ ดังนั้นเวลาที่ภาพยนตร์เรื่องนี้สำเร็จออกมา เรื่องนี้จะไม่ใช่หนังของอุ๋ย นนทรีย์อย่างเดียวค่ะ แต่เป็นหนังของทุกๆ คนที่ได้มาร่วมช่วยกันทำ พี่อุ๋ยจะให้พื้นที่ในการแชร์ว่ารู้สึกยังไงบ้างคิดเขาค่อนข้างจะให้อิสระการเป็นตัวละคร อีกเรื่องหนึ่งพี่อุ๋ยเป็นคนทำงานเร็วมากสำหรับเต้ย เต้ยเคยเจอผู้กำกับแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน มันทำให้เรารู้สึกว่าการเป็น professional ต้องเตรียมงานมาจากบ้านจริงๆ เราต้องทำการบ้านมาอย่างดีค่ะ พี่อุ๋ยจะไม่ได้ให้เรามาหลายๆ ครั้งค่ะ ถ้าเกิดเขาแฮปปี้เขาโอเคแล้วเขาก็เอาเลย เต้ยว่าพี่อุ๋ยเป็นคนที่มุมของความโรแมนติกค่ะ มีความละเอียดอ่อนในเรื่องของความคิด ความรู้สึกซึ่งสิ่งเหล่านี้มันก็สามารถบอกหรือสะท้อนในความเป็นตัวตนของพี่อุ๋ย ได้ส่งผลมาถึงตัวหนังนะค่ะเขาก็เอามาใส่อย่างในเรื่องของจักรยานพี่อุ๋ยก็เอามาใส่ซึ่งพี่อุ๋ยชอบมากก็เอามาใส่ในหนังเรื่องนี้เต้ยว่าหลายๆ เรื่องในเรื่องนี้ก็อาจจะมาจากตัวพี่อุ๋ยเองก็ได้นะแต่ก็จำได้ว่า 2499 ก็ไม่ใช่หนังรักแต่ว่าภาพยนตร์เรื่อง Timeline เป็นหนังรักเป็นหนังที่เกี่ยวกับเรื่องของความรักไม่ใช่ความรักแบบชู้สาวแต่เป็นความรักทั่วๆ ไปในโลกนี้ค่ะพี่อุ๋ยก็ทำออกมาได้ดีแล้วก็ไม่ประดิษฐ์คือเล่าออกมาอย่างตรงไปตรงมาเต้ยว่าทำได้ดีนะค่ะ"

          Q. เป็นหนังรักที่มีการเดินทางไปถ่ายทำในหลากหลายโลเกชั่นมากถึงขึ้นเขาทะเลโดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวละครจูนที่เต้ยได้รับทำให้ได้มีโอกาสไปถ่ายทำในทุกๆ โลเกชั่นเลยทีเดียว
          T. ในภาพยนตร์ตัวจูนเป็นคนชอบเที่ยวค่ะจูนก็เลยได้ไปทุกที่เลยทั้งที่ญี่ปุ่นซึ่งไม่มีใครได้ไป (หัวเราะ) ซึ่งการเดินทางไปในแต่ละที่ก็จะมีความยากง่ายแตกต่างกันไป ถามว่าลำบากไหมเต้ยว่ามันไม่ลำบากเต้ยว่ามันสนุกมากกว่าแล้วก็ได้แอบคุยกับน้องเจมส์ด้วยน้องเจมส์ก็ไม่ได้รู้สึกว่าลำบากเหมือนได้ไปพักผ่อนคือเราไปถ่ายหนังค่ะแต่มันไม่เหนื่อยเหมือนเป็นการไปสนุกไปเล่นเพราะเราไปเกาะสีชังเต้ยก็ไม่เคยไปมาก่อนและมันก็ไม่ได้มีซีนเต้ยตลอดเต้ยก็ไปนั่งชิวๆ ประมาณนั้นคือหนังที่เราถ่ายขี่จักรยานเล่นชมเมืองเราก็ได้ขี่จักรยานเล่นชมเมืองไปกับตัวละครด้วยทำให้เราไม่รู้สึกว่าเหนื่อยหรือยากลำบากอะไรค่ะและก็มีไปเชียงใหม่ไปอ่างขางและก็ไปสะเมิงก็ไม่เหนื่อยนะค่ะก็สนุกดีแต่ในเรื่องก็คือจูนไปเที่ยวมันก็เลยไม่ได้มีซีนที่ต้องอยู่ที่นั้นเยอะเต้ยก็เลยไม่ได้รู้สึกว่าเหนื่อยจังเลยในความรู้สึกของเต้ยนะเต้ยว่ามันสนุกมากกว่า

          Q.จุดขายส่วนใหญ่ในหนังรักนอกจากพระเอกนางเอกและเรื่องราวที่แสนโรแมนติคแล้วต้องมีเพลงเพราะภาพสวย TIMELINE เองเข้าข่ายดังกล่าวด้วยไหม
          T. ต้องบอกอย่างนี้ค่ะในภาพว่าสวยแล้วของจริงยิ่งสวยกว่าค่ะ ยิ่งไร่ต้นบ๋วยที่เต้ยไปมานี่มันเขียวไปหมดเลยและให้บรรยากาศที่โรแมนติกมากมีความสุขรู้สึกสบายเกาะสีชังก็เป็นทะเลที่ไปง่ายๆ อาจจะไม่ได้สวยมากขนาดนั้นแต่ก็ไปเที่ยวได้แบบสนุกๆ อย่างที่บอกค่ะว่าไม่รู้ว่ามันอาจจะเป็นการสนองความต้องการของพี่อุ๋ยทั้งหมดก็ได้ค่ะ (หัวเราะ) มันจะมีสถานที่เก่าๆ คลาสสิคที่พี่อุ๋ยให้ตัวละครแทนกับจูนไปขี่จักรยานด้วยกัน มันก็ได้เห็นเสน่ห์ของกรุงเทพอีกแบบหนึ่งเรื่องนี้จะได้เห็นเสน่ห์ของกรุงเทพทั้งแบบเก่าและแบบใหม่และเชียงใหม่แบบโรแมนติก และเกาะสีชังที่ไปเที่ยวแบบสนุกๆ แบบพักผ่อน"

          Q.คิดว่าเสน่ห์ของหนังรักเรื่องนี้อยู่ที่ตรงไหนอย่างไร
          T. มันเป็นเรื่องราวที่ใกล้ชิดกับปัจจุบันมากๆ ในแง่มุมของแม่ลูกบางทีลูกๆก็อาจจะลืมความสำคัญของคนที่อยู่ข้างหลังเราไปทั้งๆ ที่ความจริงแล้วเขาอยู่กับเราตลอดเวลามันใกล้เคียงมากกับแม่ลูกแล้วก็เรื่องเกี่ยวกับ social network ด้วย มันก็น่าจะเป็นอะไรที่คนดูเข้าใจมันได้ง่าย เต้ยคิดว่าคนดูต้องได้อะไรกลับไปแน่ๆ ประสบการณ์ร่วมที่ต่างคนก็ไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะได้เรื่องพ่อแม่ บางคนอาจะได้เรื่องเกี่ยวกับเพื่อน บางคนอาจะได้เรื่องเกี่ยวกับความฝันมันเป็นชีวิตดี เสน่ห์ของ TIMELINE จดหมาย-ความทรงจำ อีกอย่างหนึ่งก็คือเรื่องนี้เกี่ยวกับ 3 เรื่องคือความรัก ความฝัน ความทรงจำ ความรักในเรื่องนี้เขาจะพูดเกี่ยวกับว่าความรักที่มากเกินไป และน้อยเกินไป อาจจะไปทำร้ายใครบางคนทำลายอะไรบางอย่าง มันก็เป็นเรื่องที่ใกล้กับชีวิตคน เป็นเรื่องการตามหาความฝันของแทน ของแม่แทน และก็ของจูนด้วย เป็นการตามหาความฝันที่เจอแล้วกับยังไม่เจอก็จะได้ดูตรงนี้ด้วย เต้ยเชื่อว่าคนที่ได้รู้ว่าตัวเองชอบอะไรแล้วก็จะยิ่งมุ่งตรงไปสู่จุดหมายคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรกลับไปนั่งทบทวนกับตัวเองว่าจริงๆ แล้วชอบอะไรกันแน่ความทรงจำในเรื่องนี้เป็นการกำเนิดเรื่องทั้งหมดให้เกิดขึ้นมา ทั้งความทรงจำที่ดี และความทรงจำที่ไม่ดีในเรื่องนี้จะเป็นความทรงจำที่ฝังมาจากในอดีต ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคน แต่ละตัวละครนั้นจะเอาความทรงจำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข หรือมีความทุกข์กับความทรงจำเหล่านั้นกันแน่

          Q.ที่บอกว่าในภาพยนตร์จะต้องมีการขี่จักรยานด้วยแล้วเต้ยจรินทร์พรกับจักรยานสนิทสนมกันมากน้อยขนาดไหนอย่างไร
          T. ในชีวิตจริงไม่ค่อยได้ขี่จักรยานเท่าไหร่ พอมาถ่ายเรื่องนี้ทำให้ได้เห็นเสน่ห์ของจักรยานมากขึ้น มันเป็นอะไรที่สนุก และสบายยิ่งช่วงนี้อากาสเย็น ก็ยิ่งสนุกเข้าไปใหญ่เลย และประกอบกับหนังเรื่องนี้ต้องขี่จักรยานตลอด จูนต้องเป็นคนที่รักจักรยาน แทนก็ชอบเหมือนกันมั นก็เลยเหมือนเป็นเรื่องที่เขาคุยกันได้จักรยานแต่ละคันที่ใช้ในเรื่องนี้ก็ไม่เบา ในภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่มีการใช้สแตนอินแน่นอนค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการขี่ลงเขาเองมันจะเป็นแบบทางลาดมากเลย เวลาลงเขาเต้ยก็ไม่เคยขี่จักรยานลงเขามาก่อน ก็มีทีมงานทุกคนจะช่วยเซฟ ถามว่ายากมั้ยก็ไม่ยากค่ะ แต่มันมีความกลัวในการขี่จักรยานลงเขา มันมีความกลัวตั้งต้นแต่เมื่อไหร่ที่เราเอาชนะความกลัวได้ มันก็สนุกแล้วค่ะ

          Q. ท้ายนี้แล้วอยากฝากบอกอะไรกับแฟนๆ กับภาพยนตร์รักโรแมนติคเต็มๆ ตัวของเต้ยจรินทร์พรที่คิดว่าทุกคนรอชมกันมากที่สุด TIMELINE จดหมาย-ความทรงจำ
          T. เต้ยรู้สึกแฮปปี้มากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในหนังเรื่องนี้ เต้ยรู้สึกภาคภูมิใจมากๆ พูดได้เต็มปากเลยว่ามาดูกันนะอยากให้ดูจริงๆ เพราะว่าดูแล้วน่าจะอิ่มค่ะ เต้ยอ่านบทเต้ยก็รู้สึกอยู่ดีๆ ก็ร้องไห้ มันก็ไม่ได้เศร้านะเหมือนมันอิ่มใจแล้วมันก็ร้องไห้ยิ้มทั้งน้ำตา มีความสุขในการแสดงด้วยการที่เล่นเป็นตัวละครตัวนี้ด้วยถ่ายทอดออกมายังไงและก็มีความสุขกับกองภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยค่ะไปทำงานทุกครั้งมีความสุขทุกครั้งเหมือนไปพักผ่อนเหมือนไปเล่นกันแฮปปี้ เต้ยว่า TIMELINE จดหมาย-ความทรงจำ เป็นหนังของคน พ.ศ. นี้ค่ะหลายคนอาจจะคิดว่าหนังรักอะไร มันจะเลี่ยนหรือเปล่ามันจะเป็นหนังรักอะไรยังไงอย่างนี้เต้ยคิดว่าอย่าเพิ่งคาดหวังอะไรกับหนังรักที่คิดว่ามันมีความโรงแมนติกสูงมากความรักมันมีได้หลายแบบในโลกนี้ รักพ่อแม่รักการทำงานรักอะไรก็ตามแต่เชื่อว่าหนังรักเรื่องนี้จะอยู่ในใจคนไทยไปได้แน่นอนค่ะเพราะมันเป็นหนังรักที่ค่อนข้างเข้ากับยุคสมัยที่ที่เป็นอยู่ตอนนี้ค่ะไม่ไกลตัวแน่นอนคือดูแล้วยังไงก็เข้าใจอยู่แล้วค่ะ 13 ก.พ. นี้นะคะ

เปิดตัว “Timeline จดหมาย-ความทรงจำ” ผู้คนล้นทะลักกระแสตอบรับคุ้มค่าที่รอคอย “พี่อุ๋ย-เจมส์-เต้ย-ป๊อก-ปีเตอร์” สุดเซอร์ไพรส์ “แอน ทองประสม” ร่วมมอบช่อดอกไม้ให้กำลังใจ “หนังรักดีๆ ที่ไม่ควรพลาด”





          เนรมิตไม่เพียงแค่ลานกิจกรรมชั้น 1 โซน B เซ็นทรัลพลาซ่าลาดพร้าว ให้อบอวลไปด้วยไออุ่นแห่งรัก แต่ยังคราคร่ำไปด้วยเหล่าเซเลปฯ นักแสดงผู้คนในวงการบันเทิงทั่วฟ้าเมืองไทยทั้งคนเบื้องหน้าและเบื้องหลังมากมาย และเหล่าบรรดาแฟนคลับที่ต่างมาขนป้ายไฟมาให้กำลังใจเหล่าบรรดานักแสดงนำจากภาพยนตร์ และมาร่วมเก็บความรู้สึกประทับใจใน Valentine’ s Date with Timeline Premiere in Bangkok งานเปิดตัว “Timeline จดหมาย-ความทรงจำ” ภาพยนตร์รักแห่งปีที่ทุกคนรอคอย ท่ามกลางบรรยากาศของงานที่คลุมโทนออกมาในสีพาสเทลหวานชนิดที่เรียกได้ว่าพื้นที่ทุกตารางนิ้วล้วนถูกแต่งแต้มไปด้วยสีสันของความทรงจำแห่งรักที่สุดแสนจะโรแมนติค

          โดยเฉพาะอย่างยิ่งไฮไลท์พิเศษกับต้นไม้แห่งความทรงจำขนาดใหญ่ที่ถูกดีไซน์ และติดตั้งกลางบริเวณงานให้บรรดาแขกที่มาร่วมงานได้ถ่ายทอดความรู้สึกโพสต์ผ่านข้อความอธิษฐานไปบนต้นไม้ก่อนที่สีสันแรกของงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อวง Getsunova ขึ้นโชว์เสียงร้องแบบสดๆ เต็มๆ แบนด์ด้วยซิงเกิ้ลใหม่ล่าสุด “สิ่งที่ตามหา” สร้างความคึกคักไปทั้งเซ็นทรัลลาดพร้าว ก่อนที่จะเปลี่ยนโหมดชวนทุกคนในงานร่วมร้องและซึ้งกันไปทั้งงานกับ 2 เพลงฮิตอย่าง “คำถามซึ่งไร้คนตอบ” และ “ไกลแค่ไหนคือใกล้” “ที่ล่าสุดมีเวอร์ชั่นพิเศษจากเสียงร้องของ เจมส์ และเต้ย ที่ทำขึ้นเป็นพิเศษเพื่อประกอบในภาพยนตร์เรื่อง Timeline จดหมาย-ความทรงจำ” สามารถครองอันดับ 14 และ ขึ้นสู่อันดับ 1 ยอดดาวน์โหลดใน iTunes ตามด้วยเสียงกรี๊ดของแฟนๆ ด้วยการเปิดตัวผู้กำกับ อุ๋ย นนทรีย์ นิมิบุตร และ 4 นักแสดงหลักจากภาพยนตร์ซึ่งประกอบไปด้วย ป๊อก-ปิยธิดา วรมุสิก, ปีเตอร์-นพชัย ชัยนาม, เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข และ เต้ย-จรินทร์พร จุนเกียรติ ที่ควงคู่กันมาท่ามกลางวงล้อมของแฟนๆ จำนวนมหาศาลก่อนขึ้นร่วมพูดคุยกันบนเวทีกันกับความรู้สึกของทุกคนที่ต่างทุ่มเทแรงใจกับหนังรักที่ทาง สหมงคลฟิล์ม และ ซีเนมาเซีย ตั้งใจให้เป็นอีกหนึ่งปรากฎการณ์หนังรักตามความต้องการของผู้กำกับอุ๋ยนนทรีย์ที่อยากทำหนังรักอีกสักเรื่องที่จะไปอยู่ในดวงใจของทุกๆ คน

          ก่อนที่ทั้งผู้กำกับและนักแสดงรวมไปถึงเหล่าผู้บริหารพันธมิตรทางการตลาดผู้มีส่วนร่วมสำคัญในการสนับสนุนและอยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการช่วยผลักดันให้เกิดภาพยนตร์รักแห่งปีเรื่องนี้โดยได้รับเกียรติจาก คุณเตือนใจ เตชะรัตนประเสริฐ รองประธานกรรมการบริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, คุณเตชิต หร่มระฤก กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิยาบิ กริลล์ จำกัด, คุณวราภรณ์ ลีกุลนิมิต ผู้จัดการอาวุโส ส่วนโฆษณา บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน), คุณวินิท คุมาร์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์โอเลย์ภาคพื้นอาเซียน บริษัท พรอคเตอร์แอนด์แกมเบิล เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด, คุณสฤษฎกุล แจ่มสมบูรณ์ ประธาน บริษัทสปินเวิร์ค จำกัด ตัวแทนจาก บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ขึ้นปลูกและรดน้ำต้นไม้แห่งความทรงจำร่วมกันก่อนที่ทั้งหมดจะถ่ายภาพร่วมกันพร้อมกับแขกผู้มีเกียรติอย่างคุณอัครพล เตชะรัตนประเสริฐ ประธานกรรมการบริษัท แฮปปี้ โฮม เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด, คุณสุพัฒน์ งามวงศ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอส เอฟ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน), คุณสาธิต วิกรานต์ธนากุล ผู้อำนวยการศูนย์การค้า เซ็นทรัลพลาซ่าลาดพร้าว, คุณวีรศักดิ์ โค้วสุรัตน์ เลขาธิการสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ, คุณณมญชุ์ พงษ์วิไล ผู้ควบคุมงานสร้าง, คุณชาญฉลาด ทวีทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มีตา ทาเลนจ์ แมนเนจเมนท์ , คุณชาติชาย พงษ์ประภาพันธ์ ผู้ประพันธ์ดนตรีประกอบภาพยนตร์, Mr.Takachi Nishinaka (มิสเตอร์ ทาคาชิ นิชินากะ) Director from Saga Film Commission, Saga Prefecture Japan รวมทั้งนักแสดงจากภาพยนตร์ น้องยอร์จ ยงศิลป์ วงศ์พนิตนนท์, นิวัติ กองเพียร

          โดยที่ช่วงท้ายงานได้มีแขกเซอร์ไพรส์สุดพิเศษจากซูปเปอร์สตาร์นางเอกตลอดกาล แอน ทองประสม ขึ้นมอบช่อดอกไม้ร่วมแสดงความยินดีและเป็นกำลังใจให้กับ พี่อุ๋ยนนทรีย์ นิมิบุตร และเหล่านักแสดงนำจากภาพยนตร์ Timeline จดหมาย-ความทรงจำ ที่ทำหนังรักดีๆ มาให้ผู้ชมได้ชมกันอีกครั้งก่อนที่ทุกคนจะเข้าร่วมชมภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์รอบแรกในกรุงเทพต้อนรับช่วงวาเลนไทน์อย่างเป็นทางการ

          และแน่นอนว่าผลตอบรับหลังจากการชมภาพยนตร์รักที่ทุกคนรอคอยก็ทำเอาเหล่าผู้กำกับ นักแสดงและทีมงานที่ร่วมงานและสร้างหนังเรื่องนี้ในตลอด 1 ปีที่ผ่านมาหายเหนื่อยทันที เมื่อทุกคนต่างเสียน้ำตาไปด้วยความสุข ความประทับใจกับหนังรักเรื่องนี้ และร่วมชื่นชมพร้อมถ่ายทอดความรู้สึกผ่านคำพูด ตัวอักษร ข้อความลงบนโพสต์-อิทพร้อมร่วมติดไปบนสแตนดี้กันหลังจากที่ภาพยนตร์ฉายจบ ชนิดที่ว่าคราบน้ำตาแห่งความสุขและไออุ่นของความรักและความทรงจำยังคงอบอวลไปตลอดค่ำคืนแห่งปรากฎการณ์ของหนังรักที่คุ้มค่ากับการรอคอยจริงๆ Timeline จดหมาย ความทรงจำ เข้าฉายพร้อมกัน 13 กุมภาพันธ์ นี้ทุกโรงภาพยนตร์

เต็มอิ่มกับ “เต้ย จรินทร์พร” สาวเจ้าน้ำตาจาก “Timeline จดหมาย-ความทรงจำ” ที่ทุกคนจะหลงรักกับสุดยอดการแสดงระดับมาสเตอร์พีซพร้อมชมคลิปพิเศษ









เต้ย อินบทจูน ร้องไห้กลางกอง Timeline จดหมาย-ความทรงจำ
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=TfKuTBO-NiE" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=TfKuTBO-NiE</a>

เปิดใจ พิสูจน์ด้วยตัวคุณ Timelne จดหมาย-ความทรงจำ
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=VTgeDjpJEkA" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=VTgeDjpJEkA</a>

           เป็นนักแสดงหญิงที่เรียกได้ว่าทั้งฮอตและเป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆ ถึงขนาดมีเฟสบุคส์ที่แฟนๆ ทำให้และมีคนติดตามกดไลค์ถึง 1.2 ล้าน และที่สำคัญเป็นรุ่นใหม่ฝีไม้ลายมือเทียบชั้นนักแสดงรุ่นพี่ที่หาตัวยจับยากคนหนึ่งของเมืองไทยแถมยัง น่ารัก เจ้าเสน่ห์ มีความสามารถมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบทบาทที่ต้องใช้อารมณ์จนถึงขนาดผู้กำกับอุ๋ยนนทรีย์ที่ตั้งใจเลือก เต้ย จรินทร์พร จุนเกียรติที่มารับบทจูน ตัวละครสำคัญของ “Timeline จดหมาย-ความทรงจำ” ภาพยนตร์รักเรื่องล่าสุดของสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนลทึ่ง และการันตีว่าเต้ยเป็นนักแสดงที่เก่งมากและอินอยู่กับบทอยู่ตลอดเวลา นักแสดงรุ่นพี่ที่ร่วมงานด้วยอย่าง ป๊อก-ปิยธิดา เจ้าของรางวัลทางด้านการแสดงมากมายถึงกับออกปากชื่นชม แม้แต่พระเอกหนุ่มสุดฮอต เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุขขนานนามว่าอาจารย์เต้ย ยอมรับและทึ่งในความสามารถทางด้านการแสดงโดยเฉพาะน้ำตาชนิดที่ว่าสั่งได้

          “สำหรับการทำงานร่วมกับพี่เต้ยนะครับพี่เต้ยเป็นอีกคนหนึ่งที่ผมบอกได้เลยครับว่าผมรักมากนะพี่เต้ยเป็นเหมือนอาจารย์ครับในหลายๆ ซีนที่เขาแสดงออกมาผมเห็นเลยว่าเขาทุ่มเทมากกับภาพยนตร์เรื่องนี้มากขนาดไหนแล้วผมเห็นว่ามันเป็นอะไรประหลาดและเซอร์ไพรส์มากๆ ด้วยความที่เวลาที่เขาเล่นหนังแล้วพี่เต้ยเขาดูเป็นตัวละครตัวนั้นจริงๆ เขาดูเป็นธรรมชาติโดยไร้ซึ่งที่ติผมเห็นเขาแล้วเฮ้ยเขาทำได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอยกตัวอย่างมันมีอยู่ฉากหนึ่งที่พี่เต้ยต้องร้องไห้ด้วยต้องเสียใจด้วยเขาแค่บอกว่าขอกอดหน่อยแล้วกอดกันโดยที่ตอนนั้นมันก็ไม่ได้มีใครเห็นอยู่แล้วนะครับเพราะว่ามันอยู่ในห้องที่ปิดอยู่เขาบอกว่าขอกอดหน่อยเออเราก็กอดแล้วพอ ผกก. สั่งแอ็คชั่นทุกอย่างมันแบบว่ามันเหมือนกับสิ่งที่เขาได้สัมผัสในตัวละครของเราไปแล้วมันทำให้เขาแสดงออกมาหรือว่าอะไรหลายๆ อย่างมันดูเหมือนกับเฮ้ยพระเจ้าทำไมคนอะไรที่มันสามารถทำการแสดงที่เป็นตัวละครได้มากขนาดนี้อาจารย์เต้ยเป็นคนหนึ่งที่ผมนับถือและเรียกได้ว่าเชื่อถือด้วยคือผมว่าพี่เต้ยเป็นคนหนึ่งที่เวลาที่เขาเล่นหนังแล้วเขารู้สึกเขาเชื่อจริงๆ ในสถานการณ์นั้น”

          ในขณะที่เจ้าตัวเองก็ยอมรับว่าอดไม่ได้ที่จะอินไปกับทุกอารมณ์และความรู้สึกของตัวละคร “จูน” และถึงกับเข้าขั้นหลง “รัก” ตัวละครตัวนี้อย่างเต็มหัวใจประมาณว่า “ยิ่งรู้จักยิ่งรักตัวละคร” โดยเป็นหนังเรื่องแรกของเต้ยที่การถ่ายทำไม่ได้เรียงลำดับตามซีนในเรื่อง เพราะฉะนั้นตอนเช้าอาจจะกำลังเข้าฉากยิ้มๆ สนุกๆ อยู่เลยพอสายๆ ต้องร้องไห้เป็นบทบาทที่ท้าทายความสามารถและเชื่อว่าจะเป็นอีกบทบาทหนึ่งที่เราจะได้เห็นเสน่ห์ของเต้ยและทุกคนที่ได้ชมจะอดหลงรักตัวละครเจ้าน้ำตาตัวนี้เหมือนกับที่เต้ยเอง“รัก”ไม่ได้อย่างแน่นอน

          “ภาพยนตร์เรื่อง Timeline จดหมาย-ความทรงจำ เต้ยรู้สึกแฮปปี้มากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในหนังเรื่องนี้ก็เป็นหนังเรื่องหนึ่งที่เต้ยรู้สึกภาคภูมิใจมากๆ พูดได้เต็มปากเลยว่ามาดูกันนะอยากให้ดูจริงๆ เพราะว่าดูแล้วน่าจะอิ่มค่ะจำได้ว่าตอนเต้ยอ่านบทเต้ยก็รู้สึกดีๆ แต่แล้วอยู่ๆ ก็ร้องไห้มันก็ไม่ได้เศร้านะเหมือนมันอิ่มใจแล้วมันก็ร้องไห้ยิ้มทั้งน้ำตา เป็นเรื่องหนึ่งที่รู้สึกมีความสุขในการแสดงด้วย การที่ได้เล่นเป็นตัวละครตัวนี้ด้วย จะถ่ายทอดออกมายังไง ไปทำงานทุกครั้งมีความสุขทุกครั้งเหมือนไปพักผ่อนเหมือนไปเล่นกันแฮปปี้ เต้ยว่า Timeline จดหมาย-ความทรงจำ เป็นหนังของคนพ.ศ.นี้ค่ะ หลายคนอาจจะคิดว่าหนังรักอะไรมันจะเลี่ยนหรือเปล่ามันจะเป็นหนังรักอะไรยังไงอย่างนี้เต้ยคิดว่าอย่าเพิ่งคาดหวังอะไร สำหรับ เต้ย เต้ยคิดว่าในหนังมันมีความโรงแมนติกสูงมากความรักมันมีได้หลายแบบในโลกนี้ รักพ่อแม่รักการทำงานรักอะไรก็ตามแต่เชื่อว่าหนังรักเรื่องนี้จะอยู่ในใจคนไทยไปได้แน่นอนค่ะเพราะมันเป็นหนังรักที่ค่อนข้างเข้ากับยุคสมัยที่ที่เป็นอยู่ตอนนี้ค่ะไม่ไกลตัวแน่นอน 13 ก.พ.นี้นะค่ะ”

          เต็มอิ่มไปกับทุกความรู้สึกดีๆ จากภาพยนตร์รักแห่งปีที่กลายเป็นความทรงจำที่จะอยู่ในใจกันไปให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับอีกหนึ่งผลงานทางด้านการแสดงระดับมาสเตอร์พีซของสาวเต้ย จรินทร์พร พร้อมกันนี้เรามีคลิปพิเศษของสาวเต้ยจากภาพยนตร์เรื่อง Timelineจดหมาย-ความทรงจำให้ได้ชมกันรับรองว่าฟินแน่นอน http://youtu.be/TfKuTBO-NiE

“ป๊อก-เต้ย-เจมส์” โชว์ฝีมือเล่น “Timeline จดหมาย-ความทรงจำ” สะกดอารมณ์คนดูพร้อมหลั่งน้ำตาด้วยความสุข



          ยืนยันว่าเป็นภาพยนตร์รักที่เน้นอารมณ์ และความรู้สึกทางด้านการแสดงจากนักแสดงระดับฝีมือในทุกๆ ฉากทุกๆ ซีนที่เกิดขึ้นกับทุกตัวละครใน “Timeline จดหมาย-ความทรงจำ” และทันทีที่ภาพยนตร์ตัวอย่างฉบับเต็มที่บอกเล่าเรื่องราวถูกปล่อยออกมาไม่เพียงสะกดอารมณ์ความรู้สึกสำหรับทุกคนที่ได้ชมแต่ถึงขั้นเรียกน้ำตาจากหลายๆ คนกันเลยทีเดียวโดยเฉพาะไฮไลท์ช่วงท้ายของภาพยนตร์ตัวอย่างที่เราจะได้เห็นการหลั่งน้ำตาชนิดที่ว่ากั้นยังไงก็ไม่อยู่แถมเจิ่งนองกันชนิด 2 แก้มของทั้ง ป๊อก ปิยธิดา วรมุสิก ,เต้ย จรินทร์พร จุนเกียรติ และ เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข กันแบบเต็มๆ จอ ถึงแม้ว่าผู้กำกับ อุ๋ย นนทรีย์ นิมิบุตร จะยืนยันว่านี่เป็นแค่บางส่วนจากอีกหลายๆ ฉากของความเอ่อล้นของหยาดน้ำตาแห่งความสุขที่จะมาพร้อมรอยยิ้มและความรู้สึกอิ่มเอมหัวใจที่เขา นักแสดงและทีมงานทั้งหมดของภาพยนตร์ตั้งอกตั้งใจตลอดเวลากว่า2ปีนับตั้งแต่เริ่มต้นเขียนบทภาพยนตร์กันเลยทีเดียว

          “จริงๆ ตัวละครทุกตัวกว่าจะได้มาต้องบอกว่าเราตัดสินใจกันยากมากทีเดียวในเบื้องต้นว่ามันจะเหมาะสมกับใครแต่เรารู้อย่างหนึ่งว่า นอกจากตัวบทตัวเรื่องแล้วตัวละครทุกตัวในภาพยนตร์เรื่องนี้ล้วนสำคัญแล้วก็ไม่ใช่แค่มาพูดไดอาล็อคแต่ต้องส่งผ่านความรู้สึกหลายๆ ความรู้สึกที่บางครั้งไม่มีคำพูดด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นแล้วทุกคนที่จะมาถ่ายทอดแต่ละตัวละครในภาพยนตร์จะต้องเป็นนักแสดงที่มีความสามารถมากๆ คนหนึ่งเลยทีเดียว โดยเฉพาะบทของมัทโดยป๊อกซึ่งมันยากมากคือจริงๆแล้วเหมือนกับเขาเล่นอยู่คนเดียว ความสามารถในการแสดงของเขาเป็นที่ประจักษ์แก่ทุกคนอยู่แล้วป๊อกถ่ายทอดเอาความรู้สึกทั้งหมดเหล่านี้ออกมาได้ละเอียดและกลมกล่อมที่สุดโดยไม่รู้สึกว่าเราไปบีบคั้นตัวละครตัวนี้มากเกินไปหรือไปบีบคั้นคนดูมากเกินไปความรู้สึกในการแสดงที่มันมีความพอดีแบบนี้ป๊อกทำได้ดีมาก ป๊อกปิยธิดาได้ให้สิ่งที่ผมเซอร์ไพรซ์เกินความคาดหวังที่ผมคิดเอาไว้เยอะ ตลอดเวลาที่เราถ่ายหนังไปร้องไห้ไป นักแสดงที่อินกับบทอย่างป๊อกทำให้เราสะอึกสะอื้นอยู่ตลอดเวลา ขณะที่บทของเจมส์ถึงเขาจะเป็นนักแสดงหน้าใหม่แต่ช่วยไม่ได้ที่บทๆ นี้ของเจมส์มันสำคัญมากๆ แล้วเราเองต้องการการถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกทางการแสดงอย่างสูงมากของเจมส์ และเขาก็ไม่ทำให้ผมผิดหวังในขณะที่หนังกำลังถ่ายอยู่เจมส์เขาก็เล่นไปผมเกือบจะสั่งคัทเพราะนึกว่าเขาเป็นอะไรเกิดอะไรขึ้นกับเขานึกว่าเขาหลุดจากการแสดงไปแล้วแต่ปรากฏว่ามันไม่ใช่นั่นมันไม่ใช่การแสดงนั่นมันคือของจริงที่เขาพรั่งพรูมันออกมามันคือการเสียใจที่ผมรู้สึกได้ว่าเหมือนตัวเขาเองจริงๆเขารับรู้อะไรบางอย่างที่เขาไม่เคยรู้มาก่อนแล้วเขาเสียใจอย่างรุนแรงออกมาซึ่งผมนึกว่าเขาเป็นอะไรกับเรื่องอื่นทำให้เราได้เห็นว่าถ้าเขาเปิดใจเต็มที่กับอะไรบางอย่างเขาสามารถสร้างเซอร์ไพร์สร้างสิ่งที่เรานึกไม่ถึงออกมาได้อยู่ตลอดเวลา”

          ฟังแค่นี่ก็กระตุ้นต่อมความอยากดูมากยิ่งขึ้นไปอีกกับ“Timeline จดหมาย-ความทรงจำ” หนังรักที่ว่ากันว่ามีคนรอชมมากที่สุดและเป็นการหวนกลับมากำกับหนังรักอีกครั้งแบบท็อปฟอร์มของ ผกก.อุ๋ย-นนทรีย์ นิมิบุตร หลังจากที่เคยทำให้ “นางนาก” ติดตาตรึงใจคนไทยทั้งประเทศมาแล้ว วันนี้ทุกโรงภาพยนตร์

ตอกย้ำสายสัมพันธ์แบบคู่จิ้น “Timeline จดหมาย-ความทรงจำ” กับเดทแรกของ เจมส์-เต้ย นัดปั่นจักรยานที่เกาะสีชัง
 

 
          “เมื่อความผูกผันแปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกประทับใจ ความใกล้ชิดนำมาซึ่งความห่วงใยก่อเกิดเป็นความทรงจำแห่งรักที่จะอยู่ในใจของเราตลอดไป” นี่คือธีมหลักที่เป็นหัวใจของ “Timeline จดหมาย-ความทรงจำ” ภาพยนตร์รักเรื่องล่าสุดที่ทุกคนรอคอยของ สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ของผู้กำกับ อุ๋ย นนทรีย์ นิมิบุตร และ “เกาะสีชังแห่งความทรงจำ” ก็จะเป็น1ในฉากโรแมนติคชวนฟิน ที่เราจะได้เห็นความใกล้ชิดน่ารักๆ ระหว่างแทน (เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข) กับ จูน (เต้ย จรินทร์พร จุนเกียรติ) ตามความตั้งใจของ อุ๋ย นนทรีย์ ซึ่งจะว่าไปแล้วคือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ของทั้งคู่

          “มันเป็นการเดินทางของคู่พระนางที่พอมาถึงปุ๊บมันก็เกิดเป็นความประทับใจขึ้น โดยเฉพาะตัวแทนเองคนที่เคยอยู่บนเขาอยู่กับไร่สตอว์เบอร์รี่ กับต้นบ๊วนกับแม่มาโดยตลอดเวล าเมื่อได้มาเห็นทะเล ได้เดินทางได้มาขี่จักรยานที่นี่ ที่มันเงียบสงบ เขารู้สึกว่ามันเป็นการเริ่มเติมเต็มซึ่งกั นและกันมันมีความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นระหว่าง 2 คนนี้ในขณะที่ได้เดินทางร่วมกันไป ซึ่งมันได้เปลี่ยนเป็นความประทับใจความฝังใจบางอย่างที่เกิดขึ้นกับทั้งสองคนโดยที่เขาไม่รู้ตัว”

          ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่การปั่นจักรยานไปทั่วทั้งเกาะสีชัง โดยไม่ใช้สแตนอินตลอด 2 วันของการถ่ายทำ เพื่อพิสูจน์ความเต็มร้อยของคู่พระนาง ตั้งแต่ท่าเรือจากฝั่งเกาะลอย ก่อนขึ้นเรือข้ามฝาก ท่าเรือเกาะสีชัง การปั่นขึ้นเขาไปบนจุดชมวิวที่อยู่สูงที่สุดบนเกาะ เพื่อสักการะรอยพระพุทธบาทที่ล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 ทรงอัญเชิญมาประดิษฐานไว้ที่เกาะสีชัง, แหล่งชุมชนตลาด, ไปจนถึงบรรยากาศอันร่มรื่นคลาสสิค และงดงามของสวนสวยๆ ภายในพระราชวังพระจุฑาธุชราชฐาน (ท่าวัง) ซึ่งเป็นพระราชวังฤดูร้อนของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งรวมไปถึงสะพานอัษฎางค์ซึ่งเป็นท่าเรือของพระราชวังบนเกาะ ที่เป็นท่าเรือที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย โดยเป็นการมาเยือนเกาะสีชังครั้งแรกในชีวิตของทั้งหนุ่ม เจมส์ และสาวเต้ยเลยทีเดียว

          เจมส์ : เป็นซีนปั่นจักรยานที่ผมกับพี่เต้ยมากันที่เกาะสีชังใกล้ๆ กรุงเทพนี่เองครับ จริงๆ แล้ววันนี้เราจะมาไหว้ศาสเจ้าพ่อกัน ที่นี่ก็จะมีทั้งเจ้าพ่อเขาใหญ่เจ้าพ่อเสือ นี่ขนาดเป็นการมาครั้งแรกนะครับ แต่รู้จักหมดเลยเก่งไหม ได้ข่าวว่าพี่เต้ยเองก็มาเกาะสีชังครั้งนี้เป็นครั้งแรกเหมือนกัน ที่เห็นสวยๆ มองวิวได้รอบเกาะ เพราะว่าเราต้องปั่นจักรยานขึ้นมาบนยอดเขาของเกาะสีชังนี่เลย เรามาไหว้รอยพระพุทธบาทกันแล้วก็มีเคาะระฆังด้วยเพื่อเป็นสิริมงคลครับ

          เต้ย : ไม่เคยมาเหมือนกันค่ะ สำหรับที่เกาะสีชังเราก็จะมีถ่ายทำกันทั่วทั้งเกาะเลยก็ว่าได้มี ค้างคืนด้วยเพราะนอกจากเราจะถ่ายกันสองวันสำหรับที่นี้แล้ วก็ยังต้องมีการถ่ายทำฉากกลางคืนด้วย เราขี่จักรยานขึ้นมาทางขึ้นชันมากค่ะ เหนื่อย แต่สนุกดีที่เกาะสีชังนี่มีหลายที่เลยที่เต้ยประทับใจ โดยเฉพาะที่เป็นจุดคลาสิคค่ะเวลาใครมาเกาะสีชังจะต้องมาถ่ายรูปกันบางคู่ก็มาถ่ายชุดเวดดิ้งอะไรต่างๆ นาๆ สะพานแห่งนี้ชื่อสะพานอัษฎางค์ซึ่งสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ท่านได้ทรงสร้างที่นี่จะมีวังชื่อวังว่า จุฑาธุชราชฐาน ก็มีหลายที่ที่เราทั้งคู่ต้องปั่นจักรยานก็จะมีโซนตลาดโซนเมืองที่ผู้คนจะพลุกพล่าน แล้วก็มีขึ้นไปสักการะรอยพระพุทธบาทกับน้องเจมส์ด้วยค่ะสนุกดีค่ะเห็นวิวเกาะสีชังแบบพาโนราม่าด้วย ส่วนความสำคัญของซีนที่เราต้องมาถ่ายทำที่เกาะสีชัง ในตัวละครจูนที่เต้ยแสดง เป็นสถานที่ที่ได้มากับแทนซึ่ งรับบทโดยน้องเจมส์เป็นครั้งแรก แล้วหน้ำซ้ำยังเป็นการมาทะเลครั้งแรกของแทนด้วย ก็จะเป็นซีนที่รู้สึกว่ามันเหมือนมีความรู้สึกดีๆ บางอย่างค่อยๆ เกิดขึ้นค่อยๆ เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ จากการได้มาที่นี่ด้วยกัน มันเป็นความรู้สึกดีๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างตัวละครสองตัวนี้เลยค่ะ”

          ไปร่วมเติมเต็มความประทับใจกับบรรยากาศสวยๆ ของหนังรักในแบบฟีลกู้ดสุดๆ จากคู่พระนางเจมส์-เต้ยแบบเต็มๆ ใน Timeline จดหมาย-ความทรงจำ ได้ทุกโรงภาพยนตร์

ทั้งอิ่มและซึ้ง น้ำตาท่วมโรง Timeline จดหมาย-ความทรงจำ สู่ปรากฎการณ์หนังรักที่ดีที่สุดแห่งปี นักแสดง-เซเลปฯ-คนดูอินจัดร่วมโพสต์ความรู้สึก จากหน้าโรงยันเฟสบุคส์อินสตาแกรมยันกระแสโซเชี่ยลออนไลน์มาแรง











           กำลังเป็นกระแสบอกต่อแบบปากต่อปากที่เรียกได้ว่ากำลังเป็น Talk of The Town ที่หลายๆ คนกำลังพูดถึงกันอยู่ในขณะนี้ทั้งจากกระแสผู้ชมที่เกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ไปจนถึงออนไลน์ในโซเชี่ยลเน็ทเวิร์คถึงความรู้สึกประทับใจ อิ่มเอมใจชนิดที่ว่าทำเอาน้ำตาท่วมเอ่อล้นกันทั้งในโรงภาพยนตร์ ไปจนถึงหน้าจอคอมฯและตามสังคมเว็บบอร์ดต่างๆ กันเลยทีเดียว จนพูดได้ว่า “Timeline จดหมาย-ความทรงจำ” กำลังสร้างรอยยิ้มทั้งน้ำตากลายเป็นหนังรักแห่งปรากฎการณ์ประจำปี 2557 อยู่ในขณะนี้ ภาพของผู้ชมที่เดินออกจากโรงภาพยนตร์ตาแดงก่ำยิ้มอย่างมีความสุข หยิบกระดาษโพสต์-อิทถ่ายทอดความรู้สึกประทับใจที่มันปริ่มมันล้นออกมาเป็นตัวอักษรรอบแล้วรอบเล่าในทุกโลเกชั่น (ในกรุงเทพ) แล้วไปปะไปโพสต์ลงบนสแตนดี้ (สื่อภาพยนตร์) หน้าโรงภาพยนตร์ แล้วหยิบเอาโทรศัพท์มือถือมาถ่ายข้อความโดนๆ ของตนเองและจากผู้ชมคนอื่นๆ รวมไปถึงการบันทึกความทรงจำด้วยภาพตัวเองกับคู่พระนางเป็นที่ระลึกก่อนกลับ คือข้อบ่งบอกและพิสูจน์ให้รู้ว่า “หนังรักดีๆ ไม่เคยห่างหายไปจากใจคนไทย” ตามความรู้สึกของ อุ๋ย นนทรีย์ นิมิบุตร ที่ตั้งใจ “ทำหนังรักที่จะไปอยู่ในหัวใจของผู้ชมอีกครั้ง”

          และนี่เป็นเพียงบางส่วนจากถ้อยความรู้สึกของเหล่านักแสดง คนดังเซเลปฯในวงการบันเทิงที่มีโอกาสได้สัมผัสความประทับใจของ Timeline จดหมาย-ความทรงจำ ซาบซึ้งกับความสุขที่เอ่อล้นจุกอกกันไปเป็นที่เรียบร้อย

          แอน ทองประสม นักแสดงหญิง นางเอกเดอะเลตเตอร์จดหมายรัก
          “ซาบซึ้ง ประทับใจ กินใจ มันไม่ใช่ได้แค่ความสุขจากใจ มันได้เรื่องของความคิดดีๆ ได้ความรู้สึกกลับมาแบบบางๆไมได้ยัดเยียด ให้เป็นหนังรักแห่งปีเลยคะชอบมากคะ”

          เป๊ก เปรมณัช สุวรรณานนท์
          “ยิ้มสุดหัวใจจริงๆ ต้องขอบคุณพี่อุ๋ยจริงๆ ที่ทำหนังดีๆ แบบนี้ออกมา มันครบทุกองค์ประกอบทั้งนักแสดง ซาวน์ เพลงดีมากจริงๆ มันเหมือนส่งต่อความทรงจำได้จริงๆ อยากจะให้ทุกคนดูความทรงจำในเรื่องนี้และโชคดีที่ผมได้มาดูกับพ่อแม่ครับ”

          อังเคิล ผู้กำกับ โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์
          “หนังแบบนี้ไม่ค่อยมีคนทำออกมาบ่อยมากนัก ไทม์ไลน์ให้ความรู้สึกหลากหลายอารมณ์ในความรัก มีครบเลย เป็นหนังที่ดีมากกกกก”

          คงเดช จาตุรนต์รัศมี ผู้เขียนบท เดอะเลตเตอร์ จดหมายรัก, HAPPY BIRTHDAY, ผู้กำกับตั้งวง, เฉิ่ม, สยิว, กอด
          “อยากเสียน้ำตาก็มาดูไทม์ไลน์ ที่สำคัญน้องเต้ยเล่นดีมา เสียน้ำตาให้กับเต้ย ถ้ามาดูเต้ย ก็คุ้มค่ามากแล้ว”

          ดีเจกัญ รังรอง จากคลื่น COOL farenheit 93.Mhz
          “เราได้เห็นความรักในอีกหลายรูปแบบมีทั้งแอบรักอกหักอินเลิฟรวมไปถึงความรักของแม่กับลูกเป็นความรักที่สัมผัสได้ ถ้าเกิดมาคุณไม่เคยสัมผัสอารมณ์แบบนั้นเลย คุณจะสามารถมาสัมผัสได้จากหนังเรื่องนี้”

          น้องมิลค์ วณัสม์ณา วิริยะชัยกิจ นักแสดงหญิง นางเอก ฝันโคตรโคตร,กะปิ ลิงจ๋อไม่หลอกจ้าว, ฮักนะสารคาม, เธอ เขา เรา ผี
          “เป็นหนังรักที่อิ่มมากค่ะ รู้สึกว่าพอดูแล้ว มันมีอะไรหลายๆ อย่างที่เราลืมไปรึเปล่า นึกถึงแล้วจะร้องไห้ สิ่งที่อยู่กับเรามันมีค่ามาก เราควรจะรักษามันไว้”

          ได๋ ไดอาน่า FAMILY GANG
          “เต้ย ไม่คิดว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ น่ารักๆ จะกระชากความรู้สึกได้ขนาดนี้ และเจมส์จิก็เป็นคนที่น่ารัก เขาทำได้มากกว่าน่ารักคะ เขาทำให้เรารักได้จริงๆ ทำให้เราร้องไห้ด้วย”

          แม็กกี้ อาภา ภาวิไล นักแสดง นางเอก คน-โลก-จิต, สูบคู่กู้โลก,เธอ เขา เรา ผี
          “นานมากแล้วที่ไม่ได้ดูหนังรักแบบนี้ เศร้าสุดๆ ซึ้งสุดๆ แล้วก็โดนใจทุกๆ ฉาก สองอย่างที่อยากจะไปทำหลังจากชมภ.คือ อยากจะลองเขียนจดหมาย และอยากจะไปปั่นจักรยานมันเหมือนกับว่ามันทำให้โลกมันช้าลง เพราะสมัยนี้โลกทุกอย่างเร็วขึ้นทำให้เรามองข้ามสิ่งต่างๆ ไป”

          พล วงแคลช โปรดิวเซอร์ GETSUNOVA
          “มันอุ่นมากเลยครับ ต้องมาดูครับพูดได้แค่นี้จริงๆ เป็นหนังรักแห่งปีไปแล้วครับ”

          เป็นเอก รัตนเรือง ผู้กำกับภาพยนตร์ ฝนตกขึ้นฟ้า,นางไม้,พลอย
          “พี่อุ๋ยทำหนังได้ดีมากๆ เป็นหนังรักที่ดี ดีมากครับ ก็ช่วงนี้บ้านเมืองวุ่นวาย มาดูหนังรักสนุกๆ มาร้องไห้ด้วยเหตุผลแบบนี้กันดีกว่าครับ”

          ออม สุชาร์ มานะยิ่ง นักแสดง นางเอก Yes or No อยากรักก็รักเลย, Full House วุ่นนักรักเต็มบ้าน
          “ตั้งใจมาดู รู้สึกประทับใจมากๆ ทั้งเต้ยทั้งเจมส์ เคมีเข้ากันมากๆ องค์ประกอบของเรื่อง ความละเอียดสูงมากพี่อุ๋ยสุดยอดมากๆ แล้วก็ประทับใจเรื่องความสัมพันธ์ของแม่กับลูก ออมเชื่อว่ามาดูแล้วคุณจะสัมผัสได้เลยว่ามีหลาย Moment มากที่คนดูจะประทับใจ”

          อาร์ม พิพัฒน์ วิทยาปัญญานท์ พิธีกร,นักแสดง
          “หลังจากชมภาพยนตร์ไทม์ไลน์ต้องบอกว่า อยากให้ใช้เวลาในแต่ละวินาทีให้มันคุ้มค่าครับ อยากมีความรักดีๆ ให้กับชีวิตนี้ แล้วก็อยากตามหาความฝันตัวเองให้เจอ อย่าลืมมาดูภาพยนตร์รักหวานๆ อีกหนึ่งเรื่องที่ผมว่าพี่อุ๋ย-นนทรีย์ทำได้ดีมากครับ”

“อุ๋ย นนทรีย์” เข้มกำกับ “ป๊อก” ระเบิดอารมณ์ตบหน้า “เจมส์” 5 เทครวด ฉากกรีดหัวใจสำคัญของ Timeline จดหมาย-ความทรงจำ



          เป็นฉากที่ทำเอาคนดูถึงกับเกิดอาการ “จุกอกชนิดที่ว่าหายใจไม่ทั่วท้อง” และทำเอา ผู้กำกับอุ๋ย นนทรีย์ และทีมงานทุกคนในกองถ่ายขนลุกและเงียบกริบกันไปทั้งกองโดยเฉพาะพระเอกหนุ่มสุดฮอต เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุขสำหรับฉากมาสเตอร์พีซของการระเบิดอารมณ์ทางด้านการแสดงที่ต้องประกบฝีมือกับนักแสดงสาวมากฝีมือย่าง ป๊อก ปิยธิดา วรมุสิก นักแสดงสาวมากฝีมือ

          “ถ้าพูดถึงฉากขนลุกที่ผมรู้สึกว่า ซาบซึ้งใจที่ได้เข้าฉากกับพี่ป๊อกก็มีหลายฉากอยู่เหมือนกันครับโดยเฉพาะอย่างยิ่งในฉากที่แทนกับแม่ต่างฝ่ายต่างระเบิดอารมณ์ใส่กัน ซึ่งต้องบอกว่าก่อนหน้านี้ผมเองก็ยังไม่ค่อยรู้มาก่อนนะครับว่าพี่ป๊อกเป็นคนอย่างไร แต่พอถึงเวลาที่ต้องถ่ายทำสำหรับฉากนี้ผมก็เลยบอกกับพี่ป๊อกว่าพี่ป๊อกครับพี่ป๊อกช่วยตบหน้าผมจริงๆ หน่อยครับจะได้มีอารมณ์ และมีความรู้สึกจริงๆ พี่ป๊อกเป็นคนที่น่ารักมากพี่ป๊อกบอกว่าฉากนี้เขาจะไม่ทำร้ายร่างกาย แต่รู้มั้ยครับกลายเป็นว่าพอถึงเวลาถ่ายทำพี่ป๊อกเข้าฉากนี้ด้วยอารมณ์น้ำเสียงด้วยแอ็คติ้งที่บอกได้เลยว่า แค่คำพูดแค่น้ำเสียงของพี่ป๊อกทำให้เรารู้สึกหูยมันยิ่งใหญ่กว่าการที่ตบหรือว่าทำร้ายร่างกายหรือว่าทำอะไรที่มันรุนแรงกว่าอีก แค่แววตากับน้ำเสียงที่พี่ป๊อกส่งมาหาเรานี่มันแรงมาก พี่ป๊อกสามารถทำได้ขนาดนี้เลยเหรอว่าเฮ้ยมันยิ่งกว่าการตบอีกมันยิ่งกว่าการที่เราโดนตัวกันอีก”

          ในขณะที่ตัว ป๊อก ปิยธิดา เองซึ่งนอกจากต้องรับบทแม่ของเจมส์จิรายุที่ต้องมีการลงไม้ลงมือกับลูกชายแล้วในฉากนี้ยังต้องเป็นฉากสำคัญที่ต้องถ่ายทอดความรู้สึกที่ตัวเองต้องเจ็บปวดในฉากนี้ด้วย

          “สำหรับป๊อกแล้วในฉากนี้มันไม่ใช่เป็นแค่การที่เราไปตบหน้า แต่กลับกลายเป็นว่าเราที่เป็นคนตบมีความรู้สึกที่เจ็บยิ่งกว่าคนโดนตบซะอีก ซึ่งป๊อกเองเพิ่งจะเคยรู้ว่าคนที่เป็นคนตบทำไมถึงเจ็บกว่าคนที่โดนตบก็วันนี้ในซีนนี้แหละค่ะ การที่ทำให้คนที่เรารักที่สุดเจ็บมันคือสิ่งที่เราเจ็บยิ่งกว่าตอนแรกก็ไม่เคยเข้าใจจนกระทั่งพอมาอ่านบทแล้วแบบ อืม มันใช่เลยหละ แล้วตัวน้องเจมส์เองดีมากค่ะ คือตอนแรกก็แอบคิดว่าน้องเพิ่งมีประสบการณ์ทางด้านการแสดงไม่เยอะ น้องจะรู้สึกอย่างนั้นรึเปล่า ปรากฎว่าพอเอาเข้าจริงมันใช่แล้ว เจมส์เขารีแอ็คกลับมาได้ดี เจมส์ทำให้เราไม่รู้สึกในความเป็นเจมส์ แต่กลับทำให้เรารู้สึกว่าเขาเป็นลูกเรา”

          แต่กว่าจะได้ภาพออกมาเต็มอารมณ์และความรู้สึกอย่างที่เห็นบนจอภาพยนตร์จนทำให้ทุกรอบฉายของ “Timeline จดหมาย-ความทรงจำ” เกิดปรากฎการณ์น้ำตาท่วมโรงอยู่ในขณะนี้ ทั้งป๊อกและเจมส์ต้องถ่ายฉากตบหน้าระเบิดอารมณ์กันถึง5เทคเลยทีเดียว ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วอุ๋ย นนทรีย์ นิมิบุตรยืนยันว่าพอใจกับการแสดงระดับสุดยอดจากทั้งคู่ตั้งแต่เทคแรกแล้ว

          “ก็เป็นฉากที่ถ่ายทำกันนานมากแล้วก็ที่นานไม่ใช่เพราะว่าใครเล่นไม่ดีแต่ผมอยากได้มุมที่ชัดเจนในการที่จะถ่ายทอดความรู้สึกแบบนี้ออกมาให้ชัดเจนให้ได้ว่าต่างคนต่างเจ็บปวดที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนเป็นแม่ที่เฝ้าทะนุถนอมลูกมา เพราะฉะนั้นการที่เขาเองเป็นคนที่จะต้องทำให้ลูกเจ็บครั้งนี้มันเป็นความเจ็บปวดสองสามเท่าสำหรับตัวเขา จริงๆ เทคที่ใช้ได้มันใช้ได้ตั้งแต่เทคหนึ่ง เทคสองแล้วละครับ เพียงแต่ตอนนั้นต้องยอมรับว่าผมอยากทดลองดูว่าถ้าเป็นมุมมองของมัทที่เป็นแม่ผมอยากได้ความรู้สึกของเขา ถ้าเป็นเขา เขาจะคิดยังไงเขาจะแสดงออกยังไง แล้วถ้ากลับกันถ้าเป็นมุมมองของแทนบ้างละที่เป็นลูกเขาจะรู้สึกยังไง เขาจะคิดอะไร คือไม่ใช้ว่าผมไม่แน่ใจแต่ผมอยากเห็นทั้งสองข้างเพื่อที่จะเอามาเลือกดูอีกครั้งหนึ่งว่าในแต่ละข้างเราควรจะเล่าข้างไหนดีกว่ากัน ความรู้สึกของใครที่มันสะเทือนใจกว่ากัน เพื่อจะให้หนังมันมีทางออกมันมีทางเลือกมากขึ้นก็เลยต้องล่อไปสัก 5 เทคได้ครับ”

          ไปร่วมพิสูจน์ความทุ่มสุดตัวและการแสดงระดับสุดยอดของทั้งเจมส์-ป๊อกจากการกำกับภาพยนตร์รักของผกก.อุ๋ย นนทรีย์ในหนังที่หลายคนยกย่องให้เป็นภาพยนตร์รักที่ดีที่สุดแห่งปีด้วยตาของคุณเองวันนี้ทุกโรงภาพยนตร์

อุ๋ย-เต้ย ปลื้มสุดๆ คนรักหนัง Timeline กระแสชื่นชมหนังรักแห่งปี นำรายได้ขายบัตรเสื้อยืด-ผ้าเช็ดหน้าจากหนัง ซื้อจักรยาน 100 คันสานฝันน้องๆ ในชนบท



          ผ่านสัปดาห์ที่สองของการเข้าฉายพร้อมความสำเร็จ และผลตอบรับที่ดีเกิดขึ้นแบบต่อเนื่อง จากบรรดาผู้ชมออกมาแสดงความรู้สึกจนเกิดกระแส “บอกต่อปากต่อปาก (word of mouth)” ถึงความโรแมนติคซาบซึ้ง อบอุ่นหัวใจที่ไม่ได้เห็นมานาน ทำเอาหลายๆ คนที่ไม่ได้ออกจากบ้านมาชมภาพยนตร์เป็นสิบปี ต้องออกมาพิสูจน์ถึงปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น “เป็นหนังรักในดวงใจแห่งปีของTimeline จดหมาย-ความทรงจำ ที่ทุกคนรักและเป็นที่ยอมรับอย่างเต็มหัวใจ” โดยเฉพาะ “กระแสตอบรับจากผู้ที่ได้ชมแล้ว ต่างเขียนบรรยายถ้อยความรู้สึกผ่านโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คหรือ โพสต์ภาพว่าเป็นส่วนหนึ่งที่สัมผัสความประทับใจของเรื่องราวจากภาพยนตร์ ทั้งนักแสดง คนดังไปจนถึงผู้ชมภาพยนตร์ทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งความชื่นชอบตัวละคร จูน-แทน-แม่มัท-เจ้ากระป๋อง และฉากสำคัญๆในภาพยนตร์” ในลักษณะแฟนอาร์ท งานนี้ทำเอา อุ๋ย นนทรีย์ นิมิบุตร ผู้กำกับ และ นางเอกสาวเต้ย จรินทร์พร จุนเกียรติ ทีมงานนักแสดงปลื้มกันสุดๆ กับผลตอบรับ โดยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่ EAT@Double U ชั้น 9 โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า เซ็นทรัลเวิลด์

          พี่อุ๋ย : ผมอยากขอบคุณทุกๆ คอมเมนท์ ทุกๆ โพสต์ที่เข้ามาเขียนในอินสตาแกรมเฟสบุคส์ หรือในโซเชี่ยลมีเดียต่างๆ ฯลฯ ในหน้าเพจของผมก็จะมีหลายคนที่ดูแล้วก็จะมาโพสต์รูปตั๋วหนังเต็มไปหมดเลย หรือมาลงคอมเมนท์เกี่ยวกับหนัง ซึ่งส่วนมากก็จะชื่นชอบตัวหนังกัน อย่างเช่นอยากให้พี่อุ๋ยรับผิดชอบ คือไม่ได้ดูหนังแล้วร้องไห้มาเป็นสิบปีแล้ว สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นกำลังใจให้กับผม นักแสดง และทีมงานทุกๆ คน ต้องเรียกได้ว่าภาพยนตร์เรื่อง Timeline มีตอบรับที่ดีมากๆ แต่สิ่งที่ผมชอบมากๆ คือแฟนๆ ผู้ชมที่ดูแล้วเขียนรูปจากหนังออกมาเป็นการ์ตูน ซึ่งอันนี้ถือว่าเป็นเซอร์ไพรส์มากๆ เป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นสำหรับผมเลยนะครับ ดีใจที่ตัวหนังทำให้ผู้ชมมีอารมณ์ร่วม แชร์ออกมา ดีใจที่ทุกคนรักภาพยนตร์เรื่องนี้และพูดถึงหนังด้วยอารมณ์ที่ซาบซึ้ง เป็นความตั้งใจหลักของเราที่อยากให้อารมณ์ความรักกลับมาสู่ผู้คน”

          เต้ย : ตอนนี้ทุกคนเรียกเต้ยว่าจูนแล้วค่ะ เต้ยเองเวลาลงรูปอะไรในอินสตาแกรมก็จะมีเข้ามากดไลก์ มาคอมเมนท์กันคือแฟนๆ เขาก็จะรู้สึกอินกับตัวละครจูน เห็นรูปในอินสตาแกรมตัวเองมีคนมาคอมเมนท์ไม่ได้เขียนว่าเต้ยแต่เขียนว่าจูนๆ สำหรับตัวเต้ยถือว่าประสบความสำเร็จนะคะ แสดงว่าเขาอินกับตัวละครจริงๆ เต้ยก็รู้สึกดีใจกับตัวเองด้วยและดีใจแทนพี่อุ๋ยด้วย อย่างที่เต้ยประทับใจมากคือมีคนที่เขาเข้ามาคอมเมนท์เขาบอกว่าตอนแรกเขาเหมือนอยากจะตายด้วยซ้ำ เขาไม่รู้ว่าชีวิตนี้จะอยู่ต่อไปทำไม แต่หนังของเราได้สร้างแรงบันดาลใจให้เขาได้ใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าต่อไป เห็นความรักของคุณพ่อคุณแม่และแม้กระทั่งอีกหลายๆ เรื่อง ก็อยากให้ทุกคนออกมาและได้รับสิ่งดีๆ จากหนังเรื่องนี้ค่ะ”

          นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมดีๆ จากภาพยนตร์ไปยังน้องๆ ในชนบทกับ “เปลี่ยนปรากฎการณ์ Timeline เป็นจักรยานแห่งความทรงจำเพื่อฝันของน้องๆ” นำเงินรายได้ที่รวบรวมจากการจำหน่ายบัตรชมภาพยนตร์รอบการกุศล“Timeline Premiere Screening of Love in Chiangmai” ที่โรงภาพยนตร์เอส เอฟ เอ็กซ์ ซีเนม่า เมญ่า ไลฟ์สไตล์ ช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์ จ.เชียงใหม่ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาโดย บ.สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล และบริษัท เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), และรายได้จากการจำหน่ายเสื้อยืด T-Shirt และผ้าเช็ดหน้า เวอร์ชั่นพิเศษของภาพยนตร์ ที่ทางผกก.อุ๋ยนนทรีย์ และน้องอิงฟ้า ลูกสาวได้จัดทำขึ้นรวมเป็นเงิน 181,000 บ. ร่วมสมทบทุนเพื่อซื้อจักรยานให้กับน้องๆ ที่ด้อยโอกาสในชนบททั้ง 4 ภาค ของประเทศ โดยได้รับความร่วมมือจากกลุ่มมิตรภาพสร้างสรรรค์ Bike Finder โดยคุณญาตา กาญจนภัคพงค์ ประธานกลุ่มและคุณโอศุทธวีร์ฝ่ายกิจกรรมจักรยาน ที่จะเข้าไปร่วมสอน และแนะนำให้เด็กๆ เป็นไกด์มัคคุเทศน์ยุวชนจักรยานเพื่อให้จักรยานเป็นสื่อกลางในการสร้างฝันและโอกาสให้กับน้องๆต่อไป

          พี่อุ๋ย : จากที่เราจัดรอบการกุศลขึ้นที่เชียงใหม่ทำให้ เราเก็บเงินมาได้ 81,000 บาทนำมารวมกับรายได้จากการจำหน่ายเสื้อยืดเวอร์ชั่นพิเศษของหนัง กับผ้าเช็ดหน้าที่ลูกสาวผมทำขึ้นมาอีกประมาณแสนกว่าบาทโดยเรานำไปจัดซื้อจักรยาน 100 คันเพื่อเด็กผู้ด้อยโอกาสในต่างจังหวัด ที่บางคนใช้ปั่นไปโรงเรียนไปกลับ 8 กิโล หรือบางคนในระหว่างวันที่ต้องปั่นจักรยานมาป้อนข้าวป้อนน้ำแม่ที่ไม่สบาย ซึ่งตัวภาพยนตร์ของเราเองก็มีเรื่องที่เกี่ยวกับจักรยานเป็นสัญลักษณ์ด้วยอยู่แล้ว ก็เลยอยากที่จะสานต่อ โดยร่วมกับทางกลุ่มมิตรภาพสร้างสรรค์ bike Finder คือทางเราจะไปคุยกับทางททท. ในแต่ละภาคเพื่อจะให้มีการอบรม 1.การใช้จักรยานให้ถูกต้อง 2.แนะนำให้เขารู้จักสร้างรายได้ให้กับตัวเขาเองก็คือให้เขารู้จักให้เป็นมัคคุเทศน์รู้จักให้แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในชุมชนของเขาเวลานักท่องเที่ยวมาเขาก็จะสามารถเป็นไกด์คอยพาไปเที่ยวได้ น้องเขาก็จะได้รายได้ตรงนั้นที่จะมาบำรุงจักรยานหรือเพื่อที่จะมีรายได้มีโอกาสในการที่จะศึกษาต่อได้

         เต้ย : เดิมพี่อุ๋ยตั้งเป้าไว้แค่ 50 คัน แต่ตอนนี้เราได้จักรยาน 100 คันก็รู้สึกดีใจกันมากๆ สำหรับใครที่สนใจอยากจะมาช่วยกันร่วมบุญช่วยเหลือน้องๆ ได้ ตอนนี้ผ้าเช็ดหน้าก็ยังเหลืออยู่นะคะ ซื้อได้ที่แฟนเพจของพี่อุ๋ย http://facebook.com/nonzee.nimibutr และใครที่คิดว่าจะดูแล้วยังไม่มีเวลาว่างนะคะ ก็อยากชวนให้ออกมาดูกัน ก็อยากให้ทุกคนออกมาและได้รับสิ่งดีๆ จากหนังเรื่องนี้ค่ะ

          พี่อุ๋ย : หนังของเรายังฉายอยู่นะครับ และอยากให้ทุกคนมีส่วนร่วมในความรู้สึกในความรักในความจับใจในความอิ่มเอมความรู้สึกดีๆด้วยกันนะครับก็ออกมาดูกันเถอะครับน้องๆ พี่ๆ ผู้ชายที่กลัวว่าจะเสียฟอร์มกับการร้องไห้ เชื่อผมเถอะครับ ว่าความปิติ ความอิ่มเอมมันเกิดขึ้นกับเราแล้ว มันเติมความรักในน้ำหล่อเลี้ยงหัวใจของเราให้เต็มที่จริงๆ ให้ได้มีกำลังใจในการต่อสู้ต่อไป”

โครงการ TimeLine มอบจักรยานให้น้อง โครงการนำร่องร่วมกับกลุ่ม ชุมชน จักรยาน เพื่อสร้างสรรค์สังคม โดยพี่อุ๋ย นนทรีย์ นิมิบุตร ผกก. ภาพยนตร์ Timeline และมิตรภาพนักปั่นทั่วประเทศ ณ โรงเรียนวัดบางสระเก้า จ. จันทบุรี








 
          ถือเป็นความสำเร็จในการร่วมมือร่วมใจในการสร้างสรรค์สิ่งดๆ สู่สังคม พร้อมกับกลุ่มมิตรภาพนักปั่นทั่วประเทศ โดยได้รับความร่วมมือจากกลุ่มมิตรภาพสร้างสรรค์ Bike Finder , กลุ่มอรุณเบิกฟ้า จันทบุรี นำโดย เล็ก พรรณศักดิ์ นักเสียง , หนุ่ม พันธ์ขจร ทัศนาชาลี และมิตรภาพนักปั่นจันทรบุรี, Froggy Bike Services , Deep Team , กลุ่มมิตรภาพนักปั่นทุกกลุ่ม ทุกชมรม รวมถึง ชุมชนในจังหวัดจันทบุรีทุกๆ กลุ่ม เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมกิจกรรม ได้ร่วมกันมอบจักรยานให้กับเด็กๆ นักเรียน ที่ด้อยโอกาสแต่เรียนดี และมีความประพฤติดี

          โดย ผอ. วันเพ็ญ จันทร์ภิรมย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดบางสระเก้า พร้อมด้วย นายนรวรรณ ใจชื่น ประธานกรรมการสถานศึกษา ชาวบ้าน ชุมชนรอบๆ โรงเรียน พร้อมด้วยตัวแทนเด็กๆ นักเรียนโรงเรียนวัดบางสระเก้า จ. จันทบุรี เข้ารับมอบจักรยานจำนวน 22 คัน จากคุณอุ๋ย นนทรี นิมิบุตร ผู้กำกับชื่อดัง จากภาพยนตร์ Timeline จดหมาย...ความทรงจำ ในโครงการ “เปลี่ยนปรากฎการณ์ Timeline เป็นจักรยานแห่งความทรงจำเพื่อฝันของน้องๆ” โดยมอบจักรยานให้น้องๆ ณ โรงเรียนวัดบางสระเก้า (พิสิฏฐวิทยาคาร) อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี

          นอกจากกิจกรรม การมอบจักรยานแล้ว ยังได้รับความร่วมมือจากทาง Froggy Bike Services โดยมนัสวี สันทนานุการ ผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพทางการกีฬา และ กบ ปิยะทัศน์ , อ.จอร์จ วิทยา มาให้คำแนะนำเทคนิคการดูแลจักรยานในช่วง Bike Service และการซ่อมบำรุงจักรยานคันเก่าของน้องๆ หลังจากนั้น แนะนำน้องๆ เรื่องการปั่นจักรยานอย่างไรให้ถูกต้อง รวมถึงเรื่อง Bike Safety ทั้งสัญญามือ และการแบ่งปันการใช้พื้นที่ร่วมกันบนท้องถนน Share The Road ก่อนที่จะให้น้องๆ เด็กนักเรียนนำพี่ๆ ปั่นจักรยาน จาก โรงเรียน ไป บ้านปลา ธนาคารปู พร้อมให้น้องๆ รับหน้าที่เป็นไกด์ยุวชนท่องเที่ยวในชุมชน สร้างความภาคภูมิใจให้กับเด็กๆ โดยปัจจุบัน จ.จันทบุรี ถือว่าเป็นจังหวัด Hilight การท่องเที่ยวอีกหนึ่งจังหวัดที่น่าสนใจของนักปั่นจักรยาน อีกด้วย

          พร้อมปิดท้ายกิจกรรม โดยกลุ่ม Bike Finder ร่วมมอบอุปกรณ์สวนเกษตรให้กับเด็กๆ นักเรียน , ครู ผู้ร่วมสนใจสร้าง "สวนเกษตรทรงเรขาคณิต" เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์แปลงเกษตรของโรงเรียน พร้อมให้ข้อมูลการเรียนรู้กับเด็กๆ ได้รู้ถึงความหมายของ "สวนเกษตรทรงเรขาคณิต" เป็นการส่งท้ายความรู้สึก ก่อนแยกย้ายกันกลับบ้านด้วยรอยยิ้มอิ่มสุข เมื่อวันก่อน

          ติดตามรายละเอียดการร่วมมอบจักรยานและกิจกรรมดีๆ ในโครงการ “เปลี่ยนปรากฎการณ์ Timeline เป็นจักรยานแห่งความทรงจำเพื่อฝันของน้องๆ” ร่วมกับมิตรภาพนักปั่นทั่วประเทศ ได้ทาง www.facebook.com/bikefinderaddfriends