“EFORL” ฝีมือขั้นเทพพลิกกำไร 26.46 ลบ. ครั้งแรกในรอบ 4 ปี บอร์ดไฟเขียวลดทุน ล้างขาดทุนสะสม เล็งจ่ายปันผลปี 57
“บมจ. อี ฟอร์ แอล เอม หรือ EFORL” โชว์ฝีมือขั้นเทพ พลิกผลประกอบการเป็นกำไรครั้งแรกในรอบ 4 ปี หลังปรับโครงสร้างธุรกิจมุ่งเน้นสร้างรายได้จากการนำเข้าและจำหน่ายอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ เผยปี 2556 กวาดกำไร 26.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 140 จากปีก่อน เหตุลูกค้ามั่นใจในทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญและสินค้าเป็นผู้นำตลาด ลั่นปี 2557 ตั้งเป้ารายได้ 1,500 – 2,000 ล้านบาท พร้อมเล็งขยายธุรกิจสู่ AEC นอกจากนี้แจกข่าวดี บอร์ดไฟเขียวลดทุน-ล้างขาดทุนสะสม หวังจ่ายปันผลให้ได้ภายในปี 57
นายธีรวุทธิ์ ปางวิรุฬห์รักข์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อี ฟอร์ แอล เอม จำกัด (มหาชน)(EFORL) เปิดเผยว่าในปี 2556 บริษัทมีผลการดำเนินงานเติบโตอย่างโดดเด่น โดยมีรายได้รวม 170.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 96 มีกำไรสุทธิ 26.46 ล้านบาท จากปี 2555 ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 65.43 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 140 และครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีที่สามารถพลิกผลการดำเนินงานให้มีกำไรสุทธิได้ ซึ่งเป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดและน่าประทับใจอย่างมาก
ผลกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นนั้น เป็นผลมาจากการที่บริษัทได้ปรับโครงสร้างธุรกิจมาเน้นการนำเข้าและจำหน่ายอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ ควบคู่ไปกับธุรกิจให้บริการสื่อโฆษณาภายในอาคาร ผ่านสื่อดิจิตอล ซึ่งทำให้ผลประกอบการของ EFORL เริ่มมีกำไรตั้งแต่ไตรมาส 3/2556 เป็นต้นมา แม้ในไตรมาส 3/2556 บริษัทจะรับรู้รายได้จากสเปซเมด (บริษัทลูกของ EFORL) ซึ่งทำธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ เพียง 10 วันเท่านั้น แต่ก็สามารถพลิกมีกำไรสุทธิได้ถึง 3.63 ล้านบาท และสำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2556 มีการรับรู้รายได้อย่างเต็มที่จาก สเปซเมด จึงผลักดันให้ผลการดำเนินงานทั้งปีพลิกมาเป็นบวกได้
สำหรับปี 2557 บริษัทตั้งเป้าหมายว่าจะเป็นปีแห่งการเทิร์นอะราวด์ โดยตั้งเป้าหมายรายได้รวมปีนี้ไว้ที่ 1,500 – 2,000 ล้านบาท โดยมีกลยุทธ์เน้นการเป็นตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์การแพทย์จากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและเป็นผู้นำตลาด เช่น Hamilton GE และ Olympus เป็นต้น และจะมีการเพิ่มทีมงานที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญมาเสริมทัพให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจเชิงรุก เดินเข้าหาลูกค้าทั้งภายในประเทศที่เป็นกลุ่มโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงบุกตลาดต่างประเทศเพื่อรองรับการเปิดเสรีประชาคมอาเซียน หรือ AEC ที่จะเปิดในปี 2558 ซึ่ง EFORL ได้เตรียมความพร้อมเอาไว้ล่วงหน้า โดยเริ่มรุกตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นไป โดยมีเป้าหมายเริ่มต้นคือ เวียดนาม และมาเลเซียซึ่งเป็นประเทศที่มีศักยภาพ จากนั้นค่อยขยายฐานไปสู่ประเทศอื่นๆ ต่อไป
“ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของ EFORL มาจากธุรกิจใหม่คือ การนำเข้าและจำหน่ายอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ร้อยละ 60 และธุรกิจโฆษณาอยู่ที่ร้อยละ 40 แต่ในปี 2557 คาดว่ารายได้จากธุรกิจใหม่จะขยับเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่าร้อยละ 70”
โดยอุตสาหกรรมด้านสุขภาพประเทศไทย มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 4 แสนล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ร้อยละ 10 หรือประมาณ 4 หมื่นล้านบาท ซึ่ง EFORL ตั้งเป้าหมายว่าในปี 2557 จะมีส่วนแบ่งทางการตลาดไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5 ของธุรกิจอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ หรือคิดเป็น 2,000 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าสามารถเป็นไปได้
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EFORL กล่าวเพิ่มเติมอีกว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 1/2557 ได้มีมติอนุมัติเห็นชอบในแผนการลดทุนจดทะเบียนบริษัทและการลดมูลค่าหุ้นที่ตราไว้เพื่อล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ทั้งหมด 204.46 ล้านบาท และจะมีการจ่ายเงินปันผลภายในงวดปี 2557 ซึ่งจะนำเข้าสู่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นต่อไป