MSN on March 26, 2014, 10:15:28 AM
The new Porsche 911 Turbo and 911 Turbo S The new reference for performance and efficiency





           In introducing the new generation 911 Turbo and Turbo S, Porsche is presenting the top cars of the 911 model series in terms of technology and dynamic performance. 40 years after the world premiere of the first Turbo prototype, the Porsche 911 Turbo is redefining the limits of what is feasible in a sports car for everyday use.

          Overview of the new 911 Turbo generation’s highlights:
          - Active rear axle steering enhances agility on the street and on the circuit race course
          - Adaptive aerodynamics improve performance, efficiency and everyday utility
          - New all-wheel drive controls power distribution even faster and more precisely
          - 3.8-litre biturbo engines produce 520 hp (383 kW) and 560 hp (412 kW)
          - A 30 hp gain in engine power but 16 per cent reduction in fuel consumption compared to the previous model
          - Fuel consumption reduced to 9.7 l/100 km
          - 911 Turbo S has active roll compensation (PDCC), ceramic brakes (PCCB), 20-inch wheels and full-LED headlights

          For 40 years now, the unique selling point of the 911 Turbo has been the extreme spread of its capabilities that range between dynamic performance and efficiency, between exclusivity and everyday practicality, between tradition and innovation. Advanced development of existing systems and the introduction of new active systems are extending this range in such a way that the 911 Turbo models have now cranked their top values up a notch in all individual disciplines. For example, the lap time of the new 911 Turbo S at the North Loop of the Nürburgring was reduced to well under 7:30 minutes – naturally with standard production tyres. This advances it into realms of dynamic performance that were previously only attainable by uncompromisingly designed super sports cars.

          More than ever, the two new top models also make a clear visual statement about their performance. The characteristic widely flared rear fenders of the new 911 Turbo generation are 28 mm wider than those of the 911 Carrera 4 models – a nearly level surface of more than a hand width extends out from the C-pillar to the outer edge of the car.

MSN on March 26, 2014, 10:17:00 AM
โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส มาเจสติก ฮอร์ส คอลเล็กชั่น



          บริษัท โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส จากัด มีความยินดีที่จะเผยโฉมรถยนต์หรูรุ่นลิมิเต็ด มาเจสติก ฮอร์ส คอลเล็กชั่น รถยนต์รุ่นโกสต์ที่ได้รับการสั่งทาพิเศษ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากการตีความเกี่ยวกับม้าที่แสดงออกผ่านงานศิลป์ของจีน

          รถยนต์ในคอลเล็กชั่นนี้นาเสนอการตีความแบบร่วมสมัยของงานศิลป์ของจีนเกี่ยวกับม้าที่พบเห็นบนชิ้นไม้แกะสลักสวยงามบริเวณแผงหน้าปัด และงานปักบนพนักพิงศีรษะ และเบาะนั่ง ส่วนตัวรถภายนอกตกแต่งด้วยลายเส้นคู่อันประณีตที่บ่งนัยถึงม้าซึ่งบรรจงวาดด้วยมือบนข้างตัวรถ

          คอลเล็กชั่นนี้สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับการเฉลิมฉลองปีนักษัตรมะเมียในพ.ศ. 2557 การผสมผสานกันระหว่างสองแนวคิดหลักอันเป็นมงคลนี้ สะท้อนสู่สายตาในรูปของงานไม้แกะสลักด้วยมือบนแผงหน้าปัด ตามธรรมเนียมจีนดั้งเดิมจะมีการเฉลิมฉลอง ‘ธาตุ’ ร่วมกันกับสัตว์แต่ละชนิด นับเป็นครั้งแรกในกว่ากึ่งศตวรรษที่ธาตุไม้และม้ามาบรรจบในปีเดียวกัน

          “ลูกค้าจากทั่วโลกเลือกที่จะสั่งรถยนต์ที่เป็นส่วนหนึ่งในการเฉลิมฉลองเรื่องราวทางวัฒนธรรมและโอกาสสาคัญ ถือเป็นข้อพิสูจน์ด้านความคิดสร้างสรรค์และการทางานที่ไม่หยุดอยู่กับที่ของทีมออกแบบเพื่อบริการสั่งทาพิเศษ (บีสโป๊ก) ของโรลส์-รอยซ์ ที่นาความต้องการของลูกค้ามาสรรสร้างผลงานได้อย่างงดงาม” มร. กาวิน ฮาร์ทลีย์ ผู้จัดการฝ่ายออกแบบเพื่อบริการสั่งทาพิเศษ (บีสโป๊ก) กล่าว “เป็นสิ่งน่าภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสเฉลิมฉลองปีอันเป็นมงคลของชาวจีน และผลงานไม้ชิ้นเยี่ยมของช่างฝีมือของเรา”

          การรังสรรค์รถยนต์รุ่นโกสต์ มาเจสติก ฮอร์ส คอลเล็กชั่นนี้สอดคล้องกับการเติบโตของบริการสั่งทาพิเศษ (บีสโป๊ก) ที่เพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก โดยเกือบร้อยละ 95 ของรถยนต์โรลส์-รอยซ์ที่ขายเมื่อปีที่แล้วเป็นการสั่งทาพิเศษเฉพาะบุคคลของเจ้าของรถ ซึ่งเป็นการตอกย้าถึงคากล่าวที่ว่าโรลส์-รอยซ์เป็นผู้ผลิตรถยนต์หรูสาหรับผู้ที่มองหาสิ่งที่ดีที่สุดสาหรับปัจเจกบุคคล สาหรับในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคมียอดขายเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 50 ไม่รวมประเทศจีน

          “ลูกค้าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคได้ให้การตอบรับมากขึ้นในเรื่องของบริการสั่งทาพิเศษที่ไม่เป็นสองรองใครของเรา” มร.พอล แฮริส ผู้อานวยการประจาภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค บริษัท โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส จากัด กล่าว “รถยนต์รุ่นลิมิเต็ดนี้เป็นการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างขนบทางศิลป์ของจีนกับสุดยอดการออกแบบ ยนตรกรรมร่วมสมัยของอังกฤษ ลูกค้าผู้มีระดับที่ชื่นชอบงานฝีมืออันประณีต และหลายคนที่ยินดีที่จะเดินทางไปยังบ้านของโรลส์-รอยซ์ที่กู๊ดวู้ด ประเทศอังกฤษ เพื่อปรึกษากับทีมนักออกแบบและชมการทางานที่ตอกย้า แบรนด์โรลส์-รอยซ์ในฐานะผู้สร้างสรรค์สุดยอดสินค้าหรูระดับโลก”

          รถยนต์โกสต์รุ่นลิมิเต็ด มาเจสติก ฮอร์ส นี้คาดว่าจะสามารถส่งมอบให้ลูกค้าได้ในไตรมาสที่ 2 ของปีพ.ศ. 2557

MSN on March 26, 2014, 10:19:27 AM
ROLLS-ROYCE MOTOR CARS MAJESTIC HORSE COLLECTION



          Rolls-Royce Motor Cars is delighted to announce the debut of the Majestic Horse Collection - a limited number of Bespoke Rolls-Royce Ghosts that take inspiration from classical interpretations of the horse in traditional Chinese art.

          The cars present a contemporary re-imagining of the traditional Chinese representation of the horse in beautifully hand-crafted marquetry to the dash-board and embroidery to the headrest and cushions. The exterior is exquisitely finished with horse motif, hand-applied to the twin coachlines.

          The collection also times with the Chinese Zodiac, Year of the Horse, being celebrated in 2014. The convergence of two key themes of this highly auspicious year can be seen in the dashboard’s hand-crafted marquetry. In traditional Chinese cultures, an ‘element’ is celebrated in conjunction with an animal. For the first time in over half a century, the element ‘wood’ and the horse are marked in the same year.

          “Customers from around the world choose to commission motor cars that celebrate cultural stories and occasions. It is testament to the creativity and flexibility of Rolls-Royce’s Bespoke design team that these requests can be beautifully executed,” said Gavin Hartley, Bespoke Design Manager. “It is most satisfying to celebrate both this highly auspicious year in Chinese culture and our craftspeoples’ mastery of wood.”

          The creation of the Majestic Horse Ghost follows a period of exceptional growth in demand for Bespoke personalisation globally. Almost 95% of Rolls-Royce cars purchased last year were personalised by their owners, reinforcing the claim that Rolls-Royce is the luxury carmaker for the connoisseur who demands the best in individualisation. In the Asia-Pacific region - an increase of 50% has been observed outside of China Mainland.
 
          “Asia Pacific customers are increasingly embracing the unparalleled scope for personalisation our Bespoke service offers.” said Paul Harris, Asia Pacific Regional Director, Rolls-Royce Motor Cars. “This limited series of motor cars perfectly marries Chinese artistic tradition to the very best in contemporary British automotive design. Highly discerning customers have a profound appreciation of fine craftsmanship, with many delighting at travelling to the Home of Rolls-Royce in Goodwood, England to consult with designers and witness first-hand the practices that reinforce Rolls-Royce Motor Cars’ position as purveyor of the world’s pinnacle super-luxury goods.”

          Deliveries to customers of the limited Majestic Horse Edition Ghost are expected to commence from Quarter 2 of 2014.

MSN on March 26, 2014, 10:20:57 AM
ซันยองยกทัพเข้าร่วมงานมอเตอร์โชว์ 2014 เปิดตัว New Korando โฉมใหม่









           ซันยองเตรียมพร้อม เข้าร่วมงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 35 ระหว่างวันที่ 24 มี.ค.-6 เม.ย. 2557 ที่บู๊ธ A16 อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี ด้วยงบประมาณ 20 กว่าล้านบาท ในการสร้างสรรค์พื้นที่ภายในงานเพื่อนำเสนอรถยนต์รุ่นต่างๆ และการแสดงที่ยิ่งใหญ่ และสำหรับงานนี้ บอสใหญ่ซันยอง นายวิรัตน์ ผลประดับ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซันยอง (ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดรถรุ่น Korando โฉมใหม่ ขนาดกระทัด ปรับเปลี่ยน ดีไซน์ ทั้งภายใน และภายนอก ให้ความทันสมัย และความหรูหรามากขึ้น มายลโฉมในงานนี้อีกด้วย

          New Korando C โฉมใหม่ปรับเปลี่ยนด้วย ยกหน้าใหม่เพิ่มเติมอารมณ์ของความรู้สึกที่ดุดันมากขึ้นด้วยกันชนหน้าใหม่ เช่นเดียวกับการปรับเปลี่ยนสไตล์ของกระจังหน้า ชุดไฟหน้าเพิ่มความน่าสนใจด้วยชุดไฟ LED ขณะที่ด้านหลังประดับประดาด้วยกันชนหลังขนาดใหญ่ขึ้น และชุดไฟท้ายที่ปรับสไตล์ใหม่เช่นกัน สำหรับภายในห้องโดยสารของ New Korando C มีความแปลกใหม่ในส่วนของแผงหน้าปัด, ชุดอุปกรณ์ควบคุมต่างๆ และมีระบบอินโฟเทนเม้นท์ที่ทันสมัยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการตกแต่งด้วยลายไม้, คิ้วเมทัลลิก และวัสดุอื่นๆ ที่มีคุณภาพสูงขึ้น สำหรับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 149 แรงม้า แรงบิด 360 นิวตันเมตร ทางด้านของระบบส่งกำลังสามารถเลือกได้ทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด หรือเกียร์อัตโนมัติ T-Tronic จาก Mercedes – Benz ให้การยึดเกาะถนนได้ดีเยี่ยมด้วยระบบช่วงล่างแบบอิสระทั้ง 4 ล้อ ราคาพิเศษเพียง 1,680,000 บาท

          และสำหรับรถธงอีกรุ่นที่ไม่พูดถึงไม่ได้นั้นก็คือ New Stavic เป็นรถธงที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างล้มหลาม และสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้เป็นอย่างดีจากปีที่ผ่านมา New Stavic โฉมใหม่คันนี้ ซันยองได้รังสรรค์รูปลักษณ์ภายนอกด้วยดีไซน์โดดเด่น ทันสมัย และเปี่ยมล้นไปด้วยความสะดวกสบาย กว้างขวางของห้องโดยสารขนาด 11 ที่นั่ง พร้อมเพลิดเพลินกับความบันเทิงที่อัดแน่นด้วยชุด Multi Media เครื่องเสียงระบบ Home Theater ไว้อย่างครบครัน

          ในส่วนของขุมพลังที่ใช้ใน New Stavic ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์อัจฉริยะ คอมมอลเรลเทอร์โบดีเซล Xdi 2.0 ขนาด 4 สูบ มาพร้อมขุมกำลัง 155 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 360 นิวตันเมตร ใช้ระบบเกียร์          อัตโนมัติ 5 สปีด T-Tronic มาตรฐาน ของ Mercedes-Benz ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบอิสระปีกนกสองชั้นและด้านหลังเป็นแบบมัลติลิงค์ที่ให้การทรงตัวและการเกาะถนนอย่างดีเยี่ยม

          สำหรับภายในงาน บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 35 พบกับ New Stavic ในราคาพิเศษเฉพาะในงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้เท่านั้น พร้อมเงื่อนไขการผ่อนเพียงเดือนละ19,750 บาทเท่านั้น และสิทธิพิเศษที่พลาดไม่ได้อีกมากมาย

          New Rexton 2.0 รถยนต์ในแบบฉบับ SUV ระดับหรู ขนาด 7 ที่นั่ง มาพร้อมพลังขับเคลื่อนที่มหาศาล โดยในปีนี้ ซันยองได้เพิ่มทางเลือกให้กับท่าน ประหยัดขึ้นด้วยเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล เทอร์โบแปรผัน DOCH 5 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร นำเข้ามาเพื่อในงานนี้ และขนาดเดิม 2.7 ลิตรให้คุณได้เลือกขับ พร้อมให้กำลังสูงสุดถึง 186 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 402 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ T-Tronic จาก MERCEDES-BENZ พร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่คล่องแคล่วและสะดวกง่ายดายที่วงพวงมาลัย (Steering Gear Shift) สู่การขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Permanent ที่ล้ำสมัย ให้การยึดเกาะถนนได้ดีเยี่ยมด้วยระบบช่วงล่างแบบอิสระทั้ง 4 ล้อ ด้านหน้าแบบปีกนก 2 ชั้น พร้อมคอยล์สปริงและช็อคอัพ ส่วนด้านหลังแบบอิสระ 8 Links คอยส์สปริงและช็อคอัพแก๊ส โดดเด่นด้วยซันรูฟสองชั้นที่ควบคุมสั่งงานด้วยระบบไฟฟ้า สามารถเปิด-ปิดได้อย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส ภายในตกแต่งด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมายง่ายต่อการใช้สอย เบาะนั่งคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมด้วยระบบ Easy Access ซึ่งเบาะนั่งจะปรับระดับลดต่ำลง และถอยหลังไปจนสุดเพื่อความสะดวกในการลงจากรถ และจะเลื่อนกลับสู่ตำแหน่งเดิมที่กำหนดไว้ เมื่อปิดสวิทซ์กุญแจสตาร์ท ราคาพิเศษเพียง 2,580,000.-

          Kyron เป็นรถยนต์ที่ผสมผสานความปราดเปรียวของรถสปอร์ตคูเป้เข้ากับสมรรถนะในการขับเคลื่อนของรถ SUV ให้ความสนุกสนานเร้าใจในการขับขี่ ออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ ภายนอกโดดเด่นด้วยกระจังหน้าออกแบบใหม่ให้ดูทันสมัย พร้อมชุดโคมไฟหน้าและไฟตัดหมอก เพิ่มความสปอร์ตเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ เพลิดเพลินไปกับการเดินทางด้วยเครื่องเสียงคุณภาพเยี่ยม ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล ขนาด 2.0 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุด 141 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 310 นิวตัน-เมตร พร้อมชุดเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ แบบAUTOMATIC TRANSAXLE พร้อมโปรมแกรม Winter Mode ช่วยให้รถเคลื่อนตัวบนสภาพถนนที่ลื่นได้อย่างง่ายดาย ส่วนระบบขับเคลื่อนเป็นแบบ 4 ล้อ คล่องตัวยามขับขี่ในเมือง และเต็มเปี่ยมไปด้วยสมรรถนะในทุกสภาพถนน เพิ่มความมั่นใจด้วยระบบการทรงตัว ESP และช่วยในการขับขี่ลงทางลาดชันด้วยระบบ HDC ขณะที่ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบปีกนก 2 ชั้น คอยส์สปริง ด้านหลังแบบมัลติลิ้งค์ 5 จุด ราคาพิเศษเพียง 1,780,000.-

          ทั้งนี้ภายในงานบริษัทฯ ยังได้จัดการแสดงโชว์สุดพิเศษในวันเปิดงาน เพื่อเพิ่มสีสันให้มีความตื่นตาตื่นใจ พบการแสดงโชว์สุดอลังการ และชมนวัตกรรมใหม่ ๆ จากบู๊ธรถยนต์ซันยอง ตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค. – 6 เม.ย. 2557 นี้ ที่บู๊ธ A16 อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี

MSN on March 26, 2014, 10:23:47 AM
นิสสัน จัดทัพรถยนต์รุ่นใหม่ โดนใจทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมโปรโมชั่นสุดเร้าใจ ในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 35









           - ไฮไลท์: “ใหม่ นิสสัน ลิวิน่า” “นิสสัน พัลซาร์ DIG Turbo” “นิสสัน จู๊ค จ๊อยท์เอดิชั่น” และรถยนต์ขับเคลื่อนสะอาดด้วยก๊าซธรรมชาติซีเอ็นจี ทั้ง “นิสสัน นาวารา ซีเอ็นจี” “นิสสัน ซิลฟี ซีเอ็นจี” และ “นิสสัน เออร์แวน ซีเอ็นจี”
          - ทดลองขับรถยนต์นิสสัน: “ใหม่ นิสสัน ลิวิน่า” “นิสสัน พัลซาร์ DIG Turbo” “นิสสัน จู๊ค” “นิสสัน
อัลเมร่า ใหม่” “นิสสัน มาร์ช” และ “นิสสัน เทียน่า”
          - “นิสสัน จีที อคาเดมี” เปิดแข่งขันสนามแรก ณ บูธนิสสัน (A7) ในงานมอเตอร์โชว์ คว้าโอกาสก้าวสู่การเป็นนักขับรถแข่งมืออาชีพบนเวทีโลกกับทีมนิสโม (NISMO)

          บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมยานยนต์ที่ตื่นเต้นเร้าใจ ยกขบวนรถยนต์นิสสันทุกรุ่น ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์และความต้องการที่แตกต่างของลูกค้าไทย เปิดให้ทดลองขับอย่างจุใจ นำด้วยดาวเด่น “นิสสัน ลิวิน่า” คอมแพ็ค เอสยูวี ขนาด 1.6 ลิตร เติมความสุขให้ทุกเส้นทาง “นิสสัน พัลซาร์ DIG Turbo” สู่สมรรถนะการขับขี่ที่แรงเร้าใจด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบ เบนซินไดเร็คอินเจ็คชั่น ขนาด 1.6 ลิตร และ “นิสสัน จู๊ค จ๊อยท์เอดิชั่น” รุ่นลิมิเต็ด นิยามใหม่แห่งสไตล์สุดชิค เสริมด้วยทัพรถยนต์พลังงานทางเลือก ประหยัดเชื้อเพลิงมากกว่าด้วยก๊าซซีเอ็นจี กับ “นิสสัน นาวารา ซีเอ็นจี” “นิสสัน ซิลฟี ซีเอ็นจี” และ “นิสสัน เออร์แวน ซีเอ็นจี”

          นิสสัน เชิญชวนคนไทยคว้าโอกาสก้าวสู่การเป็นนักขับรถแข่งมืออาชีพบนเวทีโลกกับทีมนิสโม (NISMO) กับโครงการ “นิสสัน จีที อคาเดมี” สัมผัสประสบการณ์มอเตอร์สปอร์ตระดับอินเตอร์ ตอกย้ำแนวคิดในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ตื่นเต้นเร้าใจให้กับทุกคน ซึ่งเปิดเวทีแข่งขันพิเศษ สนามแรก ณ บูธนิสสัน (A7) งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 35 ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม ถึง 6 เมษายน 2557

          ใหม่ นิสสัน ลิวิน่า
          รถคอมแพ็คอเนกประสงค์ นิสสัน ลิวิน่า ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษเพื่อเน้นความสะดวกสบายในทุกที่นั่ง และพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางภายในซึ่งปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งาน พื้นที่วางขากว้างขวางพิเศษสำหรับเบาะหลังซึ่งแยกพับได้ 60/40 ตอบโจทย์การจัดเก็บสัมภาระอเนกประสงค์ได้ดังใจด้วยความจุที่ขยายได้ถึง 769 ลิตร เติมชีวิตแอคทีฟให้ลงตัวทุกจังหวะด้วยดีไซน์ภายนอกที่ปราดเปรียว สู่ทัศนวิสัยที่เหนือกว่า พร้อมสำหรับทุกเส้นทางด้วยระยะความสูงจากพื้น 175 มิลลิเมตร พร้อมระบบความปลอดภัยและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน
          นิสสัน ลิวิน่า ขับเคลื่อนมั่นใจในทุกจังหวะด้วยระบบเกียร์แปรผันอัจฉริยะ XTRONIC CVT และเครื่องยนต์ HR16DE ขนาด 1.6 ลิตร 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว พร้อมระบบหัวฉีดคู่ (Dual Injector System) ผสานกับระบบวาล์วแปรผันคู่ Twin C-VTC สมรรถนะเครื่องยนต์ให้แรงบิดสูงสุดที่ 153 นิวตัน-เมตร (15.6 กก.-ม.) ที่ 4,000 รอบต่อนาที กำลังสูงสุด 114 แรงม้า (พีเอส) ที่ 5,600 รอบต่อนาที เผาไหม้เชื้อเพลิงหมดจด ประหยัดน้ำมันได้ดีเยี่ยม มั่นใจในสมรรถนะการยึดเกาะถนนและการขับขี่ที่นุ่มนวลด้วยระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง และระบบกันสะเทือนหลังแบบทอร์ชั่นบีมพร้อมเหล็กกันโคลง
          นิสสัน ลิวิน่า มาพร้อมระบบความปลอดภัยที่เหนือกว่าและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ เครื่องเล่น DVD กุญแจอัจฉริยะ Immobilizer ทุกรุ่นมากับสัญญาณกันขโมย มีจำหน่าย 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น 1.6E MT รุ่น 1.6E CVT และรุ่น 1.6V CVT ราคาเริ่มต้น 672,000 บาท มีให้เลือก 5 สี คือ สีขาวไวท์โซลิด สีเทาทไวไลท์เกรย์ สีแดงเบิร์นนิ่งเรด สีเงินบริลเลียนท์ซิลเวอร์ และสีดำแบล็คโซลิด

          นิสสัน พัลซาร์ DIG Turbo
          นิสสัน พัลซาร์ DIG Turbo ตอบโจทย์นักขับที่รักความเร็วและสไตล์ที่แตกต่าง ขับสนุกทุกจังหวะสปีด แรงเต็มพลังด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบ เบนซินไดเร็คอินเจ็คชั่น ขนาด 1.6 ลิตร รหัส MR16DDT ผสานกับการทำงานของระบบวาล์วแปรผันคู่ Twin C-VTC แรงเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร แต่ประหยัดน้ำมันเกินคาดด้วยเทอร์โบชาร์จเจอร์ ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า (พีเอส) ที่ 5,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 240 นิวตัน-เมตร ที่ 2,400 รอบต่อนาที
          ด้วยชุดเกียร์แปรผันอัจฉริยะ XTRONIC CVT พร้อมฟังก์ชั่นเกียร์ Manual Mode 6 สปีด เพิ่มอารมณ์การขับขี่ที่สนุกสนาน นิสสัน พัลซาร์ DIG Turbo ได้รับการปรับการทำงานของระบบเบรกให้มั่นใจยิ่งขึ้นด้วยจานเบรกที่ขยายใหญ่ขึ้น เติมเต็มการขับขี่สไตล์สปอร์ตด้วยระบบบังคับเลี้ยวและระบบช่วงล่างที่ปรับแต่งขึ้นเป็นพิเศษ ให้ค่าสปริงโช้คอัพหนึบขึ้น รองรับสมรรถนะที่แรงเร้าใจของเครื่องยนต์เทอร์โบ
          นิสสัน พัลซาร์ DIG Turbo เหนือกว่าด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อความปลอดภัยและสมรรถนะการขับขี่ที่มั่นใจได้ในทุกความเร็ว อาทิ ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ (Vehicle Dynamics Control: VDC) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control System: TCS) พร้อมระบบถุงลม 6 จุด รอบคัน ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า (SRS Airbags) ถุงลมด้านข้าง (Side Airbags) และม่านถุงลมด้านข้าง (Curtain Airbags) ราคา 1,070,000 บาท

          นิสสัน จู๊ค จ๊อยท์เอดิชั่น
          นิสสัน จู๊ค จ๊อยท์เอดิชั่น รุ่นลิมิเต็ด นิยามใหม่แห่งสไตล์สุดชิค สะท้อนอารมณ์สนุกสไตล์สปอร์ตทุกมุมมองด้วยการมิกซ์แอนด์แมทช์สีสันบนตัวถังรถ สปอยเลอร์ และกระจกมองข้าง พร้อมแต่งสติ๊กเกอร์จากหน้าจรดท้าย และสัญลักษณ์ Joint Edition ท้ายรถ บ่งบอกรสนิยมโดดเด่นไม่ซ้ำใคร จำนวนจำกัดเพียงสีละ 100 คัน เท่านั้น!
           นิสสัน จู๊ค จ๊อยท์เอดิชั่น ขับขี่คล่องตัวด้วยสมรรถนะเครื่องยนต์และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเช่นเดียวกับ นิสสัน จู๊ค ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายปี 2556 ด้วยเครื่องยนต์ล้ำสมัย HR16 ขนาด 1.6 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบหัวฉีดคู่ (Dual Injector System) ผสานกับระบบวาล์วแปรผันคู่ Twin C-VTC และระบบเกียร์แปรผันอัจฉริยะ XTRONIC CVT สมรรถนะเครื่องยนต์ให้แรงบิดสูงสุดที่ 154 นิวตัน-เมตร (15.7 กก.-ม.) ที่ 4,000 รอบต่อนาที กำลังสูงสุด 116 แรงม้า (พีเอส) ที่ 5,600 รอบต่อนาที เผาไหม้เชื้อเพลิงหมดจด ประหยัดน้ำมันได้ดีเยี่ยม ราคา 863,000 บาท

          รถยนต์พลังงานทางเลือก “นิสสัน นาวารา ซีเอ็นจี” “นิสสัน ซิลฟี ซีเอ็นจี” และ “นิสสัน เออร์แวน ซีเอ็นจี”
          เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่กำลังมองหารถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานทางเลือก ซึ่งประหยัดเชื้อเพลิงมากกว่าพร้อมช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยการปล่อยมลพิษต่ำ นิสสันได้แนะนำ “นิสสัน นาวารา ซีเอ็นจี” “นิสสัน ซิลฟี ซีเอ็นจี” และ “นิสสัน เออร์แวน ซีเอ็นจี” ประหยัดค่าใช้จ่ายกว่าเดิมด้วยระบบ Bi-fuel รับประกันคุณภาพตามมาตรฐานของนิสสัน ขับเคลื่อนสะอาดกว่าด้วยก๊าซธรรมชาติ CNG และน้ำมันเบนซิน
          นิสสัน นาวารา ซีเอ็นจี มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตร รหัส QR25DE ให้กำลังสูงสุดที่ 154 แรงม้า ที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 242 นิวตันเมตรที่ 4,400 รอบต่อนาที นิสสัน นาวารา ซีเอ็นจี มีให้เลือก 5 สีในรุ่นคิงส์แคบ คือ สีเงินบริลเลี่ยนท์ซิลเวอร์ สีขาวไวท์เพิร์ล สีน้ำตาลเกรย์ยิชบรอนซ์ สีดำแบล็กสตาร์ และสีเทา
          ทไวไลท์เกรย์ ส่วนในรุ่นซิงเกิ้ลแคบ มีให้เลือกด้วยกัน 3 สี คือ สีเงินบริลเลี่ยนท์ซิลเวอร์ สีขาวไวท์โซลิด และน้ำตาลเกรย์ยิชบรอนซ์ ราคาเริ่มต้น 537,500 บาท

          นิสสัน ซิลฟี ซีเอ็นจี มาพร้อมเครื่องยนต์รุ่น HR16DE พัฒนาใหม่ ขนาด 1.6 ลิตร DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบหัวฉีดคู่ Dual Injector ผสานระบบวาล์วแปรผันคู่ Twin C-VTC ให้สมรรถนะสูงสุด 116 แรงม้า (พีเอส) ที่ 5,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 154 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ปลอดภัยเป็นพิเศษด้วยระบบโซลินอยด์วาล์ว ใช้งานสะดวกด้วยสวิตช์ปรับเปลี่ยนระบบเชื้อเพลิง มีให้เลือก 6 สี คือ สีเทาดีพไอริสเกรย์ สีขาวไวท์เพิร์ล สีดำแบล็คสตาร์ สีเงินบริลเลียนท์ซิลเวอร์ สีแดงเรเดียนท์เรด และสีน้ำตาลเกรย์ยิชบรอนซ์ ราคา 864,000 บาท

          รถตู้นิสสัน NV350 เออร์แวน ซีเอ็นจี ใหม่ มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตร รหัส QR25DE ให้กำลังสูงสุดที่ 147 แรงม้า ที่ 5,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตรที่ 4,400 รอบต่อนาที ได้รับการติดตั้งถังซีเอ็นจีขนาดใหญ่ความจุถังละ 100 ลิตร จำนวน 2 ถัง พร้อมแผงปิดเพื่อปกป้องถังก๊าซ และติดตั้งวาล์วพิเศษ ณ บริเวณหัวรับเชื้อเพลิง มอบความสะดวกในการเติมก๊าซซีเอ็นจี มีจำหน่าย 2 รุ่น คือ จำนวนเบาะผู้โดยสาร 16 ที่นั่งในรุ่นเกียร์ธรรมดา และจำนวนเบาะ 12 ที่นั่งในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ มีให้เลือก 5 สี คือ สีขาวไวท์โซลิด สีเงินบริลเลี่ยนท์ซิลเวอร์ สีเทาเบลดซิลเวอร์ สีดำแบล็คโซลิด และสีน้ำตาลไทเกอร์อายบราวน์ ราคาเริ่มต้น 1,251,000 บาท

          “นิสสัน จีที อคาเดมี” สานฝันเซียนเกม สู่นักขับระดับโลกกับทีมนิสโม (NISMO)
          นิสสัน ร่วมมือกับบริษัท โซนี่ไทย จำกัด เปิดตัวโครางการ “นิสสัน จีที อคาเดมี” ครั้งแรกในไทย เพื่อส่งเสริมให้คนไทยค้นหาศักยภาพที่แท้จริงของตน และคว้าโอกาสก้าวสู่การเป็นนักขับรถแข่งมืออาชีพบนเวทีโลกกับทีมนิสโม (NISMO) สัมผัสประสบการณ์มอเตอร์สปอร์ตระดับอินเตอร์ ตอกย้ำแนวคิดในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ตื่นเต้นเร้าใจให้กับทุกคน

          เวทีแข่งขันพิเศษ “นิสสัน จีที อคาเดมี” เปิดการแข่งขันสนามแรก ณ บูธนิสสัน ในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 35 เป็นเวลา 12 วัน ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม ถึง 6 เมษายน 2557 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ผู้เข้าแข่งขันจะได้สัมผัสประสบการณ์อันแปลกใหม่ในการแข่งขันด้วยเครื่อง “นิสสัน จีที6 ซิมูเลเตอร์” (Nissan GT6 Simulator) ให้บรรยากาศเสมือนนั่งอยู่ในค็อกพิทรถแข่ง ตะลุยความเร็วในสนามซิลเวอร์สโตนในโลกเสมือนจริงด้วยรถยนต์นิสสัน GT-R

          โครงการนิสสัน จีที อคาเดมี จะคัดเลือกเซียนความเร็วที่ทำเวลาได้ดีที่สุดการเล่นเกม Gran Turismo®6 (GT6TM) จากเวทีแข่งขันพิเศษ “นิสสัน จีที อคาเดมี” ที่จัดขึ้นทั่วไทย 14 คน และจากการแข่งขันผ่านระบบออนไลน์ของเพลย์สเตชั่น PlayStation® Network (PSNSM) อีก 14 คน รวมทั้งหมด 28 คน เพื่อเข้าแข่งขันรอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ และท้ายที่สุด ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกรอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ เพียง 6 คน เท่านั้น ที่จะเป็นตัวแทนจากประเทศไทย เดินทางไปร่วมกิจกรรม “อินเตอร์เนชั่นแนล เรซ แคมป์” (International Race Camp) ที่สนามแข่งรถซิลเวอร์สโตน ประเทศอังกฤษ

          เวทีแข่งขันพิเศษ “นิสสัน จีที อคาเดมี” มีกำหนดเดินสายจัดการแข่งขันทั่วประเทศ สู่จังหวัดขอนแก่น สุราษฎร์ธานี กรุงเทพมหานคร และเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 24 เมษายน จนถึง 15 มิถุนายน 2557 ดังนี้
          24 – 27 เมษายน 2557: ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น
          8 - 11 พฤษภาคม 2557: ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา สุราษฎร์ธานี
          5 - 8 มิถุนายน 2557: ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ
          12 - 15 มิถุนายน 2557: ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่

          ติดตามรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการนิสสัน จีที อคาเดมี ได้ที่ http://GTAcademy.nissan.co.th

MSN on March 26, 2014, 10:26:04 AM
เอ็มจี เผยโฉมสุดยอดยนตรกรรม MG6 รุ่นแรกบุกตลาดไทย ในงานมหกรรมยานยนต์มอเตอร์โชว์ 2014 -พร้อมเปิดจองภายในเดือนมิถุนายน ศกนี้



          บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ - ซีพี จำกัด และบริษัทเอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อเอ็มจีในประเทศไทย เผยโฉม MG6 รถยนต์รุ่นแรกที่จะทำตลาดในประเทศไทย ในงานมหกรรมยานยนต์ บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 35 ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนมิถุนายนปีนี้

          มร. หวู่ ฮวน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด เปิดเผยว่า “การเผยโฉมรถยนต์รุ่น MG6 สู่สาธารณชนครั้งแรกในประเทศไทยคราวนี้ ถือเป็นโอกาศสุดพิเศษที่ผู้บริโภคจะมีได้เห็นและสัมผัส MG6 อย่างใกล้ชิดก่อนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในตลาดรถยนต์ไทย ซึ่งรถยนต์ทั้ง 9 คันที่นำมาจัดแสดงในงานครั้งนี้เป็นรถยนต์ที่ผลิตจากโรงงานผลิตของเรา ที่จังหวัดระยอง โดยมี 2 คันที่ตกแต่งมาเป็นพิเศษเพื่อสะท้อนภาพลักษณ์และจิตวิญญาณแห่งรถแข่งสัญชาติอังกฤษ ซึ่งถือเป็นดีเอ็นเอของเรา และเป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักของแบรนด์เอ็มจีที่เรายืนหยัดมาตลอด ยิ่งไปกว่านั้น การเข้าร่วมงานมอเตอร์ โชว์ในครั้งนี้ ยังถือเป็นส่วนหนึ่งของการฉลองครบรอบ 90 ปีในปี 2014 นี้ของแบรนด์เอ็มจี อีกด้วย”

          ทั้งนี้ความสำเร็จและชื่อเสียงอันโด่งดังจากการเป็นรถแข่งมอเตอร์สปอร์ต ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน สะท้อนให้เห็นเด่นชัดผ่านรถยนต์ MG6 รุ่นใหม่ ด้วยการครองแชมป์ บริทิช ทัวร์ริ่ง คาร์ ในประเทศอังกฤษ (BTCC) มาแล้วหลายสนาม และยังตอกย้ำดีเอ็นเอความเป็นรถยนต์สไตล์อังกฤษของเอ็มจีที่มีมากว่า 90 ปีอย่างเต็มขั้นด้วย “บริท ไดนามิค”มาตรฐานยุโรป ซึ่งมีอยู่ในรถยนต์เอ็มจีเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ สมรรถนะ การควบคุมรถ และระบบความปลอดภัยที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างครบถ้วน เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า

          บริท ไดนามิคได้รับการคิดค้นและพัฒนาขึ้นโดยทีมผู้เชี่ยวชาญและวิศวะจากเอ็มจีเพื่อให้ได้มาตรฐานยุโรป (European Standard) โดยรวบรวม 4 คุณลักษณะอันโดดเด่นเหนือชั้นไว้ด้วยกัน อันได้แก่
          สมรรถนะ ที่ผู้ขับขี่สามารถเร่งความเร็วได้ตามต้องการ ขณะเดียวกันก็เพลิดเพลินในการขับขี่ตลอดเส้นทาง
          การควบคุมรถที่ออกแบบมาให้มีความสามารถในการยึดเกาะถนนได้อย่างยอดเยี่ยมดีไซน์ รูปลักษณ์การออกแบบรถยนต์ฟาสต์แบ็ก และสปอร์ต ซีดานอันทันสมัย สไตล์โมเดิร์นอังกฤษ ทั้งภายในและภายนอก
          ระบบนิรภัยSafety Fast อันเลื่องชื่อ ที่มีอยู่ในรถยนต์ เอ็มจี ทุกคัน
          รถยนต์รุ่น MG6 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุดที่ 161 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 215 นิวตันเมตร ผสานเข้ากับระบบเกียร์ 6 สปีด แบบดูอัล คลัช ทรานสมิทชั่น (Dual Clutch Transmission) ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเร่งความเร็วและขับสนุกสนานได้ดั่งใจ ซึ่งหาได้ยากในรถยนต์รุ่นเดียวกัน

          ขณะเดียวกัน นายหวู่ ฮวน กล่าวอีกว่า “การเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ของเราที่งานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 35 นี้ เราหวังว่าลูกค้าจะได้ทำความรู้จักกับรถยนต์ของเรา รวมทั้งได้สัมผัสความเป็นแบรนด์เอ็มจี ทั้งในแง่ของประวัติอันยาวนาน ความสำเร็จต่างๆ ของเรา และข้อมูลความคืบหน้าต่างๆ ของบริษัทฯ ผ่านการตกแต่งบูธและบรรยากาศที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่องานนี้โดยเฉพาะอย่างใกล้ชิด เนื่องจากแบรนด์เอ็มจีได้ห่างหายไปจากตลาดรถยนต์ประเทศไทยไประยะหนึ่ง การกลับมาครั้งนี้จึงถือเป็นการย้ำเตือนให้ลูกค้าได้รื้อฟื้นความทรงจำเกี่ยวกับประวัติศาสตร์อันยาวนานถึง 90 ปีของแบรนด์เอ็มจีของเรา”

          “สำหรับก้าวต่อไป เราจะทำการสรุปราคารถยนต์แต่ละรุ่นของเราให้แล้วเสร็จ เพื่อให้แน่ใจว่ารถยนต์ของเราจะสามารถตอบโจทย์ความต้องการและตอบสนองรสนิยมของลูกค้าชาวไทยได้เป็นอย่างดี โดยจะให้เป็นราคาที่เหมาะสมที่สุด และดึงดูดใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเราให้ได้มากที่สุด ซึ่งหนึ่งในนั้นก็จะเป็นกลุ่มลูกค้าที่ต้องการสร้างความแตกต่างให้กับตัวเอง ที่กำลังมองหารถยนต์ที่มาพร้อมจิตวิญญาณแห่งรถแข่งสัญชาติอังกฤษนั่นเอง”

          นอกจากการปรากฏโฉมที่งานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ บริษัทฯ ยังได้เตรียมความพร้อมด้านอื่นๆ ในการดำเนินธุรกิจไว้อย่างครบถ้วน เพื่อให้แน่ใจว่าเอ็มจี ประเทศไทยจะสามารถตอบสนองตลาดและตอบโจทย์ผู้บริโภคชาวไทยได้อย่างไร้ที่ติ ครอบคลุมในทุกด้าน ทั้งในเรื่อง เครือข่ายผู้จำหน่ายประมาณ 30 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งมีกำหนดเริ่มเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ การบริการหลังการขาย และความร่วมมือกับผู้ให้บริการทางการเงินต่างๆ จะมีการเปิดเผยรายละเอียดอย่างเป็นทางการให้ทราบในลำดับต่อไป

          “ทุกอย่างที่เรากำลังดำเนินการอยู่นี้ก็เพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าเอ็มจีทุกท่าน จะได้รับความพึงพอใจและมาตรฐานสูงสุดจากแบรนด์เอ็มจี นับตั้งแต่วันแรกที่ได้สัมผัสกับเอ็มจีเลยทีเดียว” มร. หวู่ ฮวน กล่าวย้ำ

          สัมผัสประสบการณ์ “Passion Drives” จาก เอ็มจี ได้ที่บูธ A15มหกรรมยานยนต์ บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 35ณ อาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ 2 เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 26มีนาคม ถึง 6เมษายน2557

MSN on March 26, 2014, 10:27:04 AM
MG6 makes its Thailand Premiere at Bangkok International Motor Show 2014. - Bookings scheduled to be in June



          SAIC Motor-CP Co., Ltd and MG Sales (Thailand) Co., Ltd previews MG6 at the 35th Bangkok International Motor Show ahead of full market launch in June.

          Mr. Wu Huan, president of SAIC Motor-CP Co., Ltd stated that; “The public debut of the MG6 here in Thailand is the opportunity for the Thai market to see the new MG6 before it arrives on Thai roads. All of the nine displayed units are locally built unit from the production facility inRayong province. Note that two of the nine display cars are dressed in a way that reflects British racing DNA, one of the brand elements, making MG world famous. Moreover, the presence of MG in this Bangkok International Motor show is a key part of MG’s celebration of its 90 years history in 2014”

          MG has a proud history of success in motorsport and the latest MG6 is no exception winning races in the British Touring Car Championship (BTCC). Therefore the cars displayed come with authentic British racing DNA and the winning spirit packed in every element of the car; from exterior dynamic design, interior design, and engineering features which we call “Brit Dynamic”

          Brit Dynamiccaptures the spirit from Britain where MG research teams work together with experts from different fields to develop a European standard car with outstanding features in four key areas:

          Performance delivering fast acceleration and braking with confidence.
          Handling that creates superb road-holding, enhancing the grip and stability.
          Design that redefines class inside and out with modern UK-Trend styling of both fastback and sports saloon
          Safety Fast, a high level of Safety Systems equipped in every MG car.

          The MG6 for the Thai market comes with a turbo 1.8 litre engine that can deliver maximum power output of 161Ps and maximum torque of 215 Nm. With an advancedsixspeed Dual Clutch Transmission, it is a combination that will not be easy to match.

          Mr. Wu Huan stated further that: “In this Bangkok International Motor Show, we expect the customer to have the first handshake with our products as well as our brand values through the display and the ambience of our stand. Since MG has been absent from the Thai market for some time, we need to remind the Thai customer about the strong credentials of our 90 year old brand.”

          “Our next steps includes finalizing product profiles to fit most to the taste of our Thai customers and the right pricing to appeal to our target groups, i.e., those who wish to differentiate themselves with the choice of car that stand for British racing tradition.”

          To support the MG preview at the Motor Show, MG sales Thailand are developing the key aspects of the business to ensure that the launch of MG in Thailand will be comprehensively impeccable in all and every aspect. The dealer network comprising of around 30 dealerships nationwide is close to completion and scheduled to start their operations within the 2nd quarter this year. The partnership with a financial services provider will soon be announced officially. “These actions will ensure that MG customers will be fully satisfied with every aspect of MG brand from day one of their interaction with MG.” Mr. Wu Huan confirmed.

          Visit MG booth to experience the real Passion Drives feelings every day at the 35th Bangkok International Motor Show BoothA15, Impact Challenger Hall 2, MuangthongThani from March 26 to April 6, 2014.

MSN on March 26, 2014, 10:28:52 AM
Q by ASTON MARTIN โปรเจ็คท์สุดร้อนแรงแห่งปีจากแอสตัน มาร์ติน แบงคอก



          - แอสตัน มาร์ติน แบงคอก เปิดตัวโปรเจ็คท์ Q อย่างยิ่งใหญ่เป็นครั้งแรกในไทย
          - พร้อมขนทัพยนตรกรรมเข้าร่วมงานมอเตอร์โชว์ 2014 หลังทุ่มทุนกว่า 300 ล้านบาทผุดโชว์รูมและศูนย์บริการระดับโลกบนถนนพระราม 3
          - ชูจุดเด่น “พลัง ความงาม และจิตวิญญาณแห่งความเป็นแอสตัน มาร์ติน” เพื่อสร้างความสำเร็จในตลาด ”ไฮลัคชัวรี่สปอร์ตคาร์” ของไทย

          แอสตัน มาร์ติน แบงคอก ภายใต้การบริหารงานโดยบริษัท เฮอริเทจ มอเตอร์ เซลส์ แอนด์ เซอร์วิสเซส (ไทยแลนด์) จำกัด ในเครือบริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (MGC Asia) จัดทัพยนตรกรรมหรูหราสุดคลาสสิคเข้าแสดงในงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนลมอเตอร์โชว์ 2014 ครั้งที่ 35 ที่อิมแพ็ค แชลเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี พร้อมเปิดตัว “Q by ASTON MARTIN” เพื่อการรังสรรค์ยนตรกรรมสปอร์ตแอสตัน มาร์ตินได้อย่างไร้ขีดจำกัด หนึ่งเดียวที่ตอบสนองต่อรสนิยมและเอกลักษณ์ของผู้ครอบครอง

          ยนตรกรรมสปอร์ตหรูหราเพียงหนึ่งเดียว ที่บ่งบอกเอกลักษณ์ของผู้ครอบครอง
          แอสตัน มาร์ติน แบงคอก นำยนตรกรรมสปอร์ตหรูหราสุดคลาสสิค “แอสตัน มาร์ติน” ที่ทั่วโลกต่างหลงใหล เข้าร่วมจัดแสดงเป็นครั้งแรกในประเทศไทยในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2014 ครั้งที่ 35 ภายใต้ คอนเซ็ปต์ "เส้นทางสู่ศตวรรษใหม่" ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 100 ปีนับตั้งแต่การก่อตั้งแอสตัน มาร์ตินในปีค.ศ.1913 และถือเป็นการเฉลิมฉลองการก้าวสู่ศตวรรษที่สองของแอสตัน มาร์ติน

          สุทธิพงษ์ วรรณวานิช ผู้จัดการทั่วไปแอสตัน มาร์ติน แบงคอก กล่าวว่า “แอสตัน มาร์ติน ในฐานะยนตรกรรมสปอร์ตสัญชาติอังกฤษที่เปี่ยมด้วยความหรูหราเป็นเอกลักษณ์ ได้เปิดตัว “Q by ASTON MARTIN” ในประเทศไทยเป็นครั้งแรกในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 35 เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าผู้ชื่นชอบสปอร์ตคาร์หรูหราในระดับบน (ไฮลักชัวรี่สปอร์ตคาร์เซ็กเม้นท์) โดย “Q by ASTON MARTIN” คือการให้บริการออกแบบตกแต่งยนตรกรรรมแอสตัน มาร์ติน ที่มีความหลากหลายแบบไร้ขีดจำกัด นับจากสีภายนอกคอลเล็คชั่นพิเศษ ไปจนถึงการตกแต่งภายในด้วยวัสดุชั้นเลิศที่คัดสรรอย่างดีที่สุดตามความต้องการเฉพาะของแต่ละบุคคล เพื่อให้ได้ยนตรกรรมที่มีความพิเศษและบ่งบอกถึงเอกลักษณ์เพียงหนึ่งเดียวของผู้ครอบครอง โดยในงานนี้ ดร. แมททิว เบนเน็ท หัวหน้าทีม Q จากแอสตัน มาร์ติน สำนักงานใหญ่ ผู้เชี่ยวชาญด้านการรังสรรค์ยนตรกรรมพิเศษสำหรับลูกค้าวีไอพี ได้ให้เกียรติร่วมงานเพื่อให้คำแนะนำแก่ลูกค้าชาวไทยโดยตรงอีกด้วย”

          และสำหร้บยนตรกรรมพิเศษภายใต้คอนเซ็ปท์ Q by ASTON MARTIN ที่มาเปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศไทยคือ แอสตัน มาร์ติน V12 แวนเทจ เอส (Aston Martin V12 Vantage S) ยนตรกรรมที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์การผลิตของแอสตัน มาร์ติน “นับเป็นความพิเศษสุดที่ แอสตัน มาร์ติน แบงคอก มอบให้แก่ผู้ชื่นชอบยนตรกรรมสปอร์ตระดับตำนานของโลก เพื่อให้ทุกท่านได้เข้าถึงจิตวิญญาณและความทุ่มเทของเราในการสร้างสรรค์และมอบสิ่งที่พิเศษสุดแก่ลูกค้าผ่านโปรเจ็คท์ Q by ASTON MARTIN” ดร. แมททิว เบนเน็ต หัวหน้าทีม Q ผู้เชี่ยวชาญด้านการรังสรรค์ยนตรกรรมพิเศษสำหรับลูกค้าวีไอพี กล่าว

          "ประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นศูนย์กลางของแอสตัน มาร์ตินในภูมิภาคนี้ ดังนั้นการเปิดตัว ยนตรกรรมภายใต้แนวคิด Q by ASTON MARTIN ในครั้งนี้ถือเป็นการประกาศยุทธศาสตร์ที่สำคัญของแอสตัน มาร์ติน เพื่อสร้างความแตกต่างที่เหนือกว่า ด้วยการรังสรรค์ยนตรกรรมแอสตัน มาร์ติน ตามจินตนาการและความต้องการพิเศษเฉพาะบุคคล ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นทุ่มเทของทีมนักออกแบบและทีมวิศวกรที่สำนักงานใหญ่ของเราในการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นเอกที่พิเศษสุดให้กับลูกค้าในประเทศไทย” สุทธิพงษ์ กล่าว

          โดย V12 Vantage S รุ่น Q นี้ ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษเป็นคันแรก และมีเพียงคันเดียวในประเทศไทย โดดเด่นด้วยสีขาว Artica White จากคอลเลคชั่นพิเศษ การตกแต่งภายในที่ผสานอย่างลงตัวระหว่างความหรูหราคลาสสิคและดีไซน์สปอร์ต ด้วยการใช้วัสดุหนังแท้เต็มผืนที่ผ่านการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน เบาะนั่งแบบสปอร์ตผลิตจาก Alcantara ตัดเย็บพิเศษให้ความเป็นสปอร์ตเต็มอารมณ์ พร้อมลวดลายสีสันที่สะกดทุกสายตาจากชุดแต่งคาร์บอนไฟเบอร์สีแดงพิเศษ เพื่อบ่งบอกถึงพลังอำนาจของผู้ครอบครอง

          ในด้านพละกำลัง V12 Vantage S รุ่น Q คือ ที่สุดของสปอร์ตคาร์ที่ให้พลังความแรงแบบสุดขั้วเต็มอารมณ์สปอร์ต ด้วยการผสมผสานอย่างสมบูรณ์แบบของรถสปอร์ตที่ให้ความคล่องตัวสูงกับระบบส่งกำลังที่ล้ำหน้าและทรงประสิทธิภาพ เป็นการจับคู่กันระหว่างเครื่องยนต์ที่ทรงพลังที่สุดของแอสตัน มาร์ติน AM-28 แบบ 12 สูบ ขนาด 6 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 573 แรงม้า แรงบิดสูงถึง 620 นิวตัน-เมตร สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 328 กม/ชม และทำความเร็วจาก 0-100 กม/ชม. ได้ในเวลาเพียง 3.9 วินาที ด้วยการส่งพลังอันมหาศาลผ่านชุดเกียร์ Sportshift™ III Seven-Speed AMT ที่ให้การตอบสนองดั่งใจสั่ง สามารถปรับรูปแบบการขับขี่ได้ถึง 3 รูปแบบ คือ โหมดปกติ (Normal) โหมดสปอร์ต (Sport) และโหมดแข่งขัน (Track) เพื่อรองรับความต้องการในการขับขี่ทุกรูปแบบ

          นอกจากยนตรกรรมพิเศษแอสตัน มาร์ติน รุ่น Q แล้ว แอสตัน มาร์ติน แบงคอกยังได้นำยนตรกรรมสปอร์ตหรูที่ได้รับความนิยมระดับโลกถึง 5 รุ่นมาร่วมแสดงในงานครั้งนี้ อันได้แก่ แวนควิช (Vanquish) แรพพิด เอส (Rapide S) ดีบี 9 (DB9) V8 แวนเทจ เอส (V8 Vantage S) และ V8 แวนเทจ โรดสเตอร์ (V8 Vantage Roadster) โดยคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 150 ล้านบาท

          “แอสตัน มาร์ติน แบงคอก เป็นผู้ถือสิทธิ์การนำเข้าและจำหน่ายยนตรกรรมแอสตัน มาร์ตินอย่างเป็นทางการเป็นรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย เราได้ลงทุนกว่า 300 ล้านบาทเพื่อสร้างโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการครบวงจรมาตรฐานโลกบนถนนพระรามสาม พร้อมเปิดโชว์รูมลักชัวรี่มอลล์แห่งแรกขึ้นที่ชั้น 2 สยามพารากอน โซนเซ้าธ์วิง เพื่อรองรับลูกค้าระดับไฮเอ็นด์ของเราในตลาดรถสปอร์ตหรูหราระดับบน (ไฮลักชัวรี่สปอร์ตคาร์เซ็กเม้นท์) เรามีความพร้อมในการให้บริการหลังการขายแบบเอ็กซคลูซีฟอาฟเตอร์เซลส์เซอร์วิส ด้วยเครื่องมือตรวจวิเคราะห์ AMDS (Aston Martin Diagnostic System) ที่ทันสมัยและมีเพียงแห่งเดียวในไทย ทีมช่างเทคนิคและฝ่ายบริการที่ผ่านการฝึกอบรมและได้รับการรับรองจากสำนักงานใหญ่แอสตัน มาร์ติน พร้อมการให้บริการอะไหล่แท้และการรับประกันผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อสร้างความมั่นใจ ความภาคภูมิใจและความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้าผู้ครอบครองแอสตัน มาร์ติน ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์สู่ความสำเร็จของแบรนด์แอสตัน มาร์ตินในภูมิภาคนี้” สุทธิพงษ์ วรรณวานิช กล่าวสรุป

          สำหรับไฮไลต์ของยนตรกรรมแอสตัน มาร์ตินที่แสดงในงาน คือ แวนควิช (Vanquish) อัลติเมทสปอร์ตจีที ที่ดีที่สุดจากแอสตัน มาร์ติน มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ V12 AM11 Gen4 ขนาด 5935cc อันเป็นเครื่องยนต์ที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์การผลิตของแอสตัน มาร์ติน พลังสูงสุด 573 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 620 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม/ชม ในเวลาเพียง 4.1 วินาที สนนราคา 24.9 ล้านบาท (รุ่นคูเป้)

          ตามมาด้วยแรพพิด เอส (Rapide S) ยนตรกรรมสปอร์ต 4 ประตูที่สวยที่สุดในโลก ด้วยการออกแบบภายในอันหรูหราให้ความสะดวกสบายสูงสุด เพื่อสร้างบรรยากาศการเดินทางที่ประทับใจ เครื่องยนต์ V12 ขนาด 5935cc พลัง 558 แรงม้า แรงบิด 620 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม/ชม ในด้วยเวลาเพียง 4.9 วินาที โดดเด่นด้วยดีไซน์เพื่อการกระจายน้ำหนักที่สมบูรณ์แบบทั้งคันในอัตราส่วน 48:52 ในราคา 19.5 ล้านบาท

          พร้อมด้วย ดีบี 9 (DB9) อันเป็นที่สุดของรถสปอร์ตจีที ที่ทั่วโลกยอมรับในความสง่างามเหนือกาลเวลา สืบสานมาจากยนตรกรรมตระกูลดีบีอันเรืองนามมากว่า 50 ปี การออกแบบภายในที่หรูหราเหนือระดับ เครื่องยนต์ที่ล้ำหน้าและทรงพลัง AM11 V12 ขนาด 5935 cc 517 แรงม้า แรงบิด 620 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม/ชม. ด้วยเวลาเพียง4.6 วินาที ราคา 18.5 ล้านบาท (รุ่นคูเป้)

          และยนตรกรรมสปอร์ตแห่งความภูมิใจล่าสุดคือ แวนเทจ (Vantage) การผสานความล้ำหน้าทางวิศวกรรมยานยนต์กับการออกแบบอย่างมีศิลปะ เพื่อรังสรรค์ยนตกรรมสปอร์ตหรูเหนือระดับ ที่ให้พลังและอารมณ์สปอร์ตอย่างแท้จริง ฟังก์ชั่นการใช้งานสะดวกสบาย พลังแรงเร้าใจ ทำให้แวนเทจคือสุดยอดรถในฝันของผู้ขับขี่หัวใจสปอร์ตทั่วโลก มีให้เลือกทั้งในรุ่นเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4735 cc และเครื่องยนต์ V12 ขนาด 5935 cc โดยมีให้เลือกใน 3 รุ่น คือ V8 Vantage ราคา 13.5 ล้านบาท V8 Vantage S ราคา 14.5 ล้านบาท และ V12 Vantage S ในราคา 18.9 ล้านบาท (ราคาในรุ่นคูเป้สำหรับทั้ง 3 รุ่น)

          เกี่ยวกับแอสตัน มาร์ติน แบงคอก
          แอสตัน มาร์ติน แบงคอก เปิดดำเนินการในเดือนพฤศจิกายนปี 2013 ภายใต้การบริหารงานของบริษัท เฮอริเทจ มอเตอร์ เซลส์ แอนด์ เซอร์วิสเซส (ไทยแลนด์) จำกัด ในเครือบริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (MGC Asia) ในฐานะผู้ถือสิทธิ์การนำเข้าและจำหน่ายยนตรกรรมแอสตัน มาร์ติน อย่างเป็นทางการเป็นรายแรกและรายเดียวในประเทศไทยในประวัติศาสตร์การก่อตั้งครบ 100 ปีของแอสตัน มาร์ติน
          แอสตัน มาร์ติน แบงคอก สำนักงานใหญ่ เลขที่ 999 เขตบางคอแหลม ถนนพระราม 3 กรุงเทพฯ
          ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อแอสตัน มาร์ติน แบงคอก โทร. 02-610-9775 (สยามพารากอน) และ 02-670-6040 (ศูนย์บริการโชว์รูม พระรามสาม)
          E-mail: contact@astonmartin-bangkok.com or www.astonmartin.com

MSN on March 26, 2014, 10:30:51 AM
Showcase for Q by Aston Martin at 35th BIMS 2014







          - Bespoke personalisation service, Q by Aston Martin, makes Thailand debut
          - Aston Martin Bangkok celebrates first appearance at 35th BIMS 2014
          - THB 300-million Aston Martin Bangkok Rama III showroom supports customers

          Aston Martin Bangkok by Heritage Motor Sales and Services (Thailand) Co., Ltd arrives at the 35th Bangkok International Motor Show 2014 (BIMS) with a stunning selection of uniquely appealing luxury sports cars thanks to its bespoke personalisation service: Q by Aston Martin.

          Aston Martin Bangkok is giving the iconic British marque its long-awaited debut under the “Road to the Next Century” theme at the 35th BIMS 2014 event as Aston Martin builds its presence in Thailand following its introduction in 2013.

          Aston Martin Bangkok is showcasing the highly sought-after bespoke service Q by Aston Martin at Muang Thong Thani, venue of the BIMS.

          The highly-customised Q by Aston Martin V12 Vantage S making its Thailand premiere, is using the Aston Martin Bangkok stand to demonstrate how customers can visualize their Q by Aston Martin creations – while General Manager of VIP and Q sales, Dr Matthew Bennett, will be available to give customers guidance on personalization of their favorite Aston Martin model.

          Mr Suttipong Wannawanit, General Manager of Aston Martin Bangkok, a subsidiary of the Master Group Corporation (Asia) Co., Ltd explained: “This unique creation of highly-customized specifications for a new Aston Martin requires time, which our customers will most definitely find worthwhile.

          “What Q by Aston Martin delivers to the customer is unique freedom of imagination, allowing the Aston Martin buyer to go far beyond specification and option sheets.”

          He added: “In addition, it presents a challenge to our designers and engineers at our global headquarters in Gaydon to come up with a bespoke masterpiece.”

          At the BIMS, Aston Martin Bangkok is showing a six-car line-up worth a total of approximately 150 million baht: the Q by Aston Martin V12 Vantage S, Vanquish, Rapide S, DB9, and V8 Vantage S.

          The Q by Aston MartinV12 Vantage S is based on Aston Martin’s most powerful and fastest production model since the One-77 hypercar. The unique car on show in Thailand boasts a bold colour scheme comprising striking Artica White paint and Jet Black roof. Other technical highlights include specially-painted brake calipers, red tinted carbon fibre, and chrome and white enamel Q by Aston Martin badging.

          Mr Suttipong Wannawanit said: “We [Aston Martin Bangkok] are Thailand’s first and only official dealership of the Aston Martin brand which enables us, among many other things, to provide the reassurance of a certified aftersales service by our Gaydon-trained technicians and mechanics. Aston Martin Bangkok provides genuine Aston Martin spare parts, tools, the AMDS (Aston Martin Diagnostic System) and peace of mind with our three-year unlimited mileage warranty.”

          Aston Martin Bangkok’s commitment to the High Luxury Sports (HLS) segment in Thailand is represented by its 300-million THB 3S (Sales, Service and Spareparts) showroom at Rama III and the boutique showroom at Siam Paragon. Both showrooms have a combined floor space of approximately 500 square metres. The Rama III facility has a private customer lounge for bespoke and Q by Aston Martin creations.

          The Aston Martin lineup consists of the flagship Vanquish, the ultimate Grand Tourer. The Vanquish boasts the latest AM11 Gen4 V12 engine – the most powerful production engine in Aston Martin history. Power output is 573 PS and torque is 620 Nm. From a standstill, it reaches 100 kph in only 4.1 seconds.

          Next is the Rapide S – the world’s most beautiful four-door sports car. The Rapide S is agile, balanced and controlled. A near-perfect 48:52 front/rear weight distribution is complemented by 620 Nm of torque and a power output of 558 PS. It sprints from a standstill to 100kph in 4.9 seconds.

          DB9, meanwhile, is the world’s most timeless sports GT. More luxurious, more refined, more elegant – today’s DB9 redefines luxury for a timeless sports Grand Tourer. Peak power of 517 PS; effortless torque of up to 620 Nm; a sprint time of just 4.6 seconds thanks to its AM11 V12 engine – these elements combine to make the DB9 a worthy addition to the iconic DB bloodline.

          And finally the Vantage, which embodies the definition of a true sports car. The Vantage retains the renowned GT capability of the DB9 and Vanquish but with a lighter, more compact body shape. Two Vantage variants are offered: the lightweight 4.7-litre V8 or muscular 6.0-litre V12, apearing in the line-up as V8 Vantage, V8 Vantage S and V12 Vantage S.

MSN on March 26, 2014, 10:32:47 AM
ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) เปิดตัวรถใหม่มอบแคมเปญโดนใจ พร้อมธีม 2014 FIFA World Cup ในงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 35









          - The New Hyundai Grand Starex VIP และ Premium ไมเนอร์เชนจ์ โดดเด่นและมีรสนิยมกว่าเดิม
          - The New Hyundai Tucson 2.0D 4WD ไมเนอร์เชนจ์ เครื่องยนต์ใหม่ให้แรงม้าสูงสุดเพิ่มขึ้นกว่าเดิมเป็น 184 แรงม้า
          - The New Hyundai H-1 ซีรีย์ ราคาเริ่มต้นเพียง 1,449,000 บาท
          - รถยนต์ไฮไลท์ Hyundai i40 ตกแต่งพิเศษฉลองการแข่งขันฟุตบอลระดับโลก 2014 FIFA World Cup ในฐานะที่ฮุนไดเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ

          รถใหม่ในงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 35
          1. The New Hyundai Grand Starex VIP ไมเนอร์เชนจ์
          The New Hyundai Grand Starex VIP ไมเนอร์เชนจ์ รถยนต์ระดับ Super Luxury MPV แบบ 7 ที่นั่งแท้ๆ จากโรงงาน ที่เหนือกว่าในทุกการเดินทาง ด้วยระบบอำนวยความสะดวกเพิ่มความบันเทิงอย่างครบครัน ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร เทอร์โบดีเซล คอมมอลเรล รองรับมาตรฐานยูโร 4 เกียร์อัตโนมัติแบบ 5 สปีด พร้อมโหมดแมนนวลให้กำลังสูงสุดที่ 175 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 441 นิวตันเมตร
          The Grand Starex VIP ไมเนอร์เชนจ์ มาพร้อมกระจังหน้าใหม่ กันชนหน้าแบบลักชัวรี่ กึ่งสปอร์ต กันชนหลังดีไซน์ใหม่ และกาบข้างแบบสีโทนเดียวแบบสเกิร์ตในตัว ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วลายใหม่พร้อมยางขนาด 235/60/17 ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้างแบบ LED เบาะ Super VIP 1 คู่ ปรับเอนนอนและปรับที่พักขาด้วยไฟฟ้า เบาะหนังแท้ลายใหม่พร้อมหมอนรองศีรษะแบบ Butterfly ที่ ให้ความสบาย และรองรับศีรษะได้ดีกว่าเดิม
          โดดเด่นที่สุดในรุ่น VIP คือเคาน์เตอร์สไตล์ใหม่ที่ออกแบบมาให้ดูมีรสนิยมแบบ European Styling มากขึ้นด้วยการออกแบบใหม่หมดในทุกสัดส่วน เพิ่มความหรูหราด้วยการเลือกสรรวัสดุที่มีคุณภาพและความทนทานมากขึ้นจนรู้สึกได้ นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มสเป็คของอุปกรณ์ความบันเทิงที่ใช้ คือ จอ LCD เพิ่มขึ้นจากขนาด 19 นิ้วเป็น 22 นิ้ว แบบ Full-HD และเครื่องเสียงจาก Kenwood ที่เพิ่มคุณภาพเสียงให้เหนือระดับขึ้นไปกว่าเดิม
          2. The New Hyundai Grand Starex Premium ไมเนอร์เชนจ์
          The New Grand Starex Premium ไมเนอร์เชนจ์ มาพร้อมความลงตัวกับพื้นที่ใช้สอยและความสบายส่วนตัวในรูปแบบ 7 ที่นั่งซึ่งไร้เคาท์เตอร์กั้นกลางห้องโดยสาร แต่ทดแทนด้วยระบบความบันเทิงแนวใหม่ซึ่งประกอบไปด้วย จอ LCD แบบพับเก็บได้ด้วยไฟฟ้าติดเพดานขนาด 10.1 นิ้ว ต่อเชื่อมกับเครื่องเล่น DVD head unit ด้านหน้าซึ่งสิ่งที่ผู้ใช้ได้รับคือที่นั่งแถวหน้าด้านคนขับที่มีอิสระในการปรับตำแหน่ง และความสบายบนที่นั่ง Double Super VIP Seats ที่ปรับจังหวะล็อกเลือกตำแหน่งบนรางเลื่อนนิรภัยคู่ได้มากกว่าเดิม ทำให้ความสบายส่วนตัวของผู้โดยสารบนเบาะนั่ง Double Super VIP Seats เหนือกว่ารถยนต์ Luxury MPV ขนาด 7 ที่นั่งรุ่นอื่นอย่างสัมผัสได้
          อุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆที่พบใน The New Grand Starex VIP and Prumium ไมเนอร์เชนจ์ ได้แก่
          - เครื่องยนต์ 2500 ซีซี เทอร์โบดีเซลคอมมอน รองรับมาตรฐานยูโร 4 ให้กำลังสูงสุดที่ 175 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 441 นิวตันเมตร ที่ 2000 – 2250 รอบต่อนาที
          - เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด พร้อมโหมดแมนนวล สร้าง engine brake ในยามที่ต้องการ และเพิ่ม traction ยามเข้าโค้งในรูปแบบที่รถ Luxury MPV ขนาดใหญ่ต้องการ
          - เบาะนั่ง Double Super VIP Seats ให้ความสบายที่พิเศษกว่า ปรับเอนนอนและที่รองรับต้นขาด้วยไฟฟ้า และปรับเลื่อนตำแหน่งบนรางเลื่อนนิรภัยได้มากกว่าเดิม
          - พวงมาลัยแบบ Multi-function ปรับเครื่องเสียงให้ความสะดวกสูงสุด
          - กระจกมองข้างซ้ายขวาปรับ และพับด้วยไฟฟ้า
          - กล้องส่องหลังช่วยให้การจอดรถปลอดภัยไร้กังวล
          - พื้นที่เก็บสัมภาระตอนหลังสามารถปรับขยายให้รองรับการใช้งานได้เพียงการเลื่อนเบาะเท่านั้น สะดวกสบายเหนือความคาดหมาย
          - ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 17 นิ้ว และยางขนาด 235/60 R17
          - ระบบเบรค ABS
          - กุญแจรีโมท พร้อมระบบเซ็นทรัลล็อกและสัญญาณกันขโมย
          - ตกแต่งภายในด้วยลายไม้ใหม่ สวย มีระดับ
          - ไฟตัดหมอก เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง
          - ระบบนำทางเนวิเกเตอร์
          3. The New Hyundai Grand Starex Premium ไมเนอร์เชนจ์
          The New Hyundai Tucson 2.0D 4WD ไมเนอร์เชนจ์ คือผลงานการพัฒนารถยนต์ที่เป็นการ “เติมเต็ม” ในเรื่องของรูปลักษณ์ภายนอก อุปกรณ์ความสบายต่างๆ และสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ขยับขึ้นไปอีกระดับจาก 177 แรงม้า เป็น 184 แรงม้า ที่แรงบิดเท่าเดิมที่ 392 นิวตัน-เมตร จากเครื่องยนต์ขนาด 2,000 ซีซี เทอร์โบดีเซล คอมมอนเรล ไดเร็คอินเจ็คชั่น และเมื่อประกบกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด แท้ๆ พร้อม Sequential Shift Mode ก็ยิ่งให้อัตราเร่งที่ดีขึ้น ในขณะที่ประหยัดในแบบที่สัมผัสได้เมื่อเลือกขับขี่อย่างเหมาะสม ภายนอกโดดเด่นด้วยไฟหน้าใหม่แบบ Bi-Function HID Projector ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไฟท้ายล้ำสมัยด้วย LED ในรูปแบบ Combination lamp ที่ออกแบบการส่องสว่างได้อย่างแตกต่างและทันสมัย นอกจากนี้ยังมีการปรับขนาดล้ออัลลอยจาก 16 นิ้ว เป็น 17 นิ้ว ลายใหม่ พร้อมยาง 225/60/R17 เครื่องเล่น DVD พร้อมจอ LCD screen ที่เชื่อมต่อความบันเทิงผ่านช่องต่อ USB/AUX ระบบนำทาง GPS ที่แม่นยำ และให้ความสะดวกในทุกเส้นทาง
          อุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆที่พบใน The New Tucson ไมเนอร์เชนจ์ ได้แก่
          - ระบบ Smart Entry และปุ่มสตาร์ททันสมัย
          - ระบบไฟเลี้ยวแบบ On-Touch มีระดับ
          - เบาะหลังแบบพับได้ 60:40
          - ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
          - ระบบรักษาเสถียรภาพรถยนต์ ESP (Electronic Stability Program)
          - ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรค ABS (Anti-Lock Braking System)
          - ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ ROP (Roll-Over Protection)
          - ระบบช่วยชะลอความเร็วขณะลงทางลาดชัน DBC (Down-Hill Brake Control)
          - ระบบป้องกันรถไหลขณะขึ้นทางลาดชัน HAC (Hill-Start Assist Control)
          - พื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขวางพร้อมพื้นที่ห้องโดยสารที่โปร่งสบาย
          - ความสูงจากพื้นระดับ 170 มม. ที่ช่วยให้การขับขี่ผ่านอุปสรรคเป็นไปอย่างคล่องตัวทั้งบนทางเรียบ และเส้นทางที่นอกพื้นผิวถนน
          รถโชว์ในงาน
          Hyundai i40 “Stylish Sport Wagon”
          Hyundai i40 คือ 1 ในนวัตกรรมยานยนต์ในรูปแบบ Sport Wagon รุ่นล่าสุดจากฮุนได พัฒนาขึ้นมาเพื่อตลาดรถยนต์ในภูมิภาคยุโรปที่มุ่งเน้น “ความโดดเด่น” ในการออกแบบ และ “คุณภาพของรถยนต์” ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ 4 สูบแบบ DOHC 16V D-CVVT ขนาด 2,000 cc. เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Manual Mode ได้กำลังสูงสุดถึง 177 แรงม้าที่ 6,500 รอบ แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตรที่ 4700 รอบต่อนาที พร้อมให้คุณทะยานไปสู่มิติใหม่ได้อย่างง่ายดาย
          นอกจากนี้ Hyundai i40 ยังบ่งบอกความเป็น Stylish Sport Wagon ได้อย่างเหมาะสมผ่านดีไซน์จากภายนอกเริ่มต้นด้วยความโดดเด่นของไฟหน้าแบบ Projector HID ผสานกับระบบ Adaptive Front Lighting Systemพร้อมไฟ LED Day Time Running Lamp ล้อแม็กขนาด 18 นิ้ว หลังคากระจกไฟฟ้าแบบ Panoramic Roof และไฟท้ายแบบ LED รูปทรงโดดเด่นสวยงาม ฉีกความล้ำสมัยในฐานะตัวแทนรถยนต์ฮุนไดยุคใหม่ได้อย่างชัดเจน
          ภายในมุ่งเน้นความสะดวกสบายด้วยพื้นฐานที่ “ชัดเจน” ในความเป็นรถเอนกประสงค์ มาพร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระที่รถ Sedan ทั่วไปเทียบไม่ได้ และสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ พร้อมเบาะหลังแบบปรับระดับและพับได้แบบ 60:40 เพิ่มความจุสัมภาระได้สูงสุดขนาด 1,672 ลิตร เติมเต็มความทันสมัยและมีระดับในแบบ Modern Premium เข้าไปด้วยฝาท้ายที่เปิดปิดด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมปุ่มสัมผัส ระบบปัดน้ำฝนแบบ Rain Sensor ทำงานอัตโนมัติ และไฟหน้าเปิดปิดอัตโนมัติ
          เพียบพร้อมความปลอดภัยขั้นสูงสุดด้วย Airbag 8 จุด ประกอบด้วย ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ถุงลมนิรภัยด้านข้างทั้งผู้โดยสารตอนหน้าและตอนหลัง ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง และถุงลมบริเวณเข่าของผู้ขับขี่ ผสานด้วยระบบความปลอดภัยต่างๆ อย่างครบครัน ทั้ง ABS EBD BA ESP VSM และ HAC รวมถึงโครงสร้างตัวถังที่ผ่านการทดสอบการชน EuroNcap ระดับ 5 ดาว ทำให้มั่นใจไปกับการเดินทางกับ Hyundai i40

          รถยนต์ฮุนไดรุ่นยอดนิยม
          1. The New Hyundai H-1 Elite
          The new Hyundai H-1 Elite เป็นอีกทางเลือกใหม่ของผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์สไตล์ Luxury MPV ที่รวมเอาความโดดเด่นของอุปกรณ์และสเป็คมาตรฐานในรุ่น H-1 Deluxe ซึ่งเป็นรุ่นสูงสุดของรถยนต์ในไลน์ Hyundai H-1 Series มาผสมผสานเป็นความคุ้มค่าที่ลงตัว สามารถตอบสนองความต้องการของครอบครัวพรีเมี่ยมยุคใหม่ ที่เน้นความคุ้มค่าคุ้มราคา ความหรูหราในราคาที่โดนใจ และการใช้งานที่ดีเยี่ยมจากเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลคอมมอนเรล ขนาด 2.5 ลิตร 175 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ซึ่งเป็นเครื่องยนต์เดียวกับที่มีอยู่ใน H-1 Deluxe จึงมั่นใจได้ในสมรรถนะที่เหนือชั้น ความประหยัดน้ำมันและความคล่องตัวในการใช้งาน “H-1 Elite” เป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มาจากเซ็กเมนท์อื่นๆ ที่ต้องการยกระดับมาสู่ความสบาย และความปลอดภัยที่เหนือกว่าจาก MPV แบบ full-size ขนาดใหญ่ เพื่อประโยชน์ในการใช้งานที่มากยิ่งขึ้น พร้อมออปชั่นและราคาที่คุ้มค่ากว่าอย่างเห็นได้ชัด โดย “H-1 Elite” ประกอบขึ้นที่หนึ่งในโรงงานชั้นนำของฮุนไดในภูมิภาคอาเซียน ตั้งอยู่ที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นโรงงานเดียวที่ประกอบรถยนต์ฮุนไดรุ่นที่ขายดีเป็นอันดับสองในประเทศไทย คือ Grand Starex VIP และ Grand Starex Premium หรือรถยนต์ Super Luxury MPV 7 ที่นั่งแท้ๆจากโรงงาน ที่ให้ความสบายส่วนตัวที่มากกว่า
          อุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆที่พบใน The New Hyundai H-1 Elite ได้แก่
          - ประตูหลังแบบสไลด์สองข้าง เปิดปิดเบาแรง
          - เบาะโดยสารแบบ 12 ที่นั่ง ภายในขนาดใหญ่
          - รางเลื่อนนิรภัย 3 แถว ปรับตำแหน่งได้ละเอียดแม่นยำ
          - เบาะ VIP หมุนได้ 180 องศา 1 คู่ ปรับเปลี่ยนห้องโดยสารเป็น ห้องนั่งเล่น หรือสำนักงาน
          - เคลื่อนที่ภายในพริบตา
          - เบาะหุ้มหนังแท้ ยกระดับความหรูหรา
          - คอนโซลกลางตกแต่งลายไม้
          - ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย
          - ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว
         
          2. The New Hyundai H-1 Deluxe
          The New Hyundai H-1 Deluxe มาพร้อมกระจังหน้าที่โดดเด่นและมีบุคลิกมากขึ้น กันชนหน้าดีไซน์ใหม่ และไฟตัดหมอกที่เติมเต็มอารมณ์สปอร์ต หรูหราอย่างมีระดับ กาบข้างและล้ออัลลอยด์ 16 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ ด้านหลังมาพร้อมกันชน และที่จับฝาท้ายใหม่แบบโครเมี่ยม อุปกรณ์ภายในมาพร้อมด้วยระบบเครื่องเสียงแบบใหม่และระบบนำทาง คอนโซลตกแต่งด้วยลายไม้บ่งบอกถึงรสนิยม และเพิ่มความหรูหราด้วยเบาะหุ้มหนังแท้ลายใหม่ ในราคา 1,599,000 บาท
          อุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆที่พบใน The New Hyundai H-1 Deluxe ได้แก่
          - เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรลเทอร์โบแบบใหม่ 2.5 ลิตร ด้วยระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จเจอร์แบบแปรผัน (VGT) พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ มาตรฐานการควบคุมมลพิษ EURO4 ให้กำลังสูงสุด 175 แรงม้า และแรงบิดมหาศาลถึง 441 นิวตัน-เมตร ถ่ายทอดลงถนนด้วยระบบขับเคลื่อนล้อหลัง
          - เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด พร้อม Sequential Mode
          - ระบบมัลติฟังค์ชั่นที่พวงมาลัย
          - เครื่องเล่น DVD และจอภาพ LCD ขนาด 10.1 นิ้ว
          - เบาะนั่งในห้องโดยสาร 12 ที่นั่ง บนรางเลื่อนนิรภัย และเบาะ VIP ที่หมุนได้ 180 องศา ที่เปิดกว้าง จินตนาการในการปรับเปลี่ยนตำแหน่งเบาะให้ลงตัวในทุกความต้องการ
          - กระจกประตูห้องโดยสารแบบเลื่อนได้
          - ดิสก์เบรค 4 ล้อ และระบบ ABS
          - ระบบช่วงล่างหน้า-หลัง: แมคเฟอร์สันสตรัท และ คอยล์สปริงพร้อมแขนยึด 5 จุด
          - ประตูห้องโดยสารเปิดสไลด์ 2 ข้าง
          - ถุงลมนิรภัยคู่หน้า

          รถสปอร์ต
          The New Hyundai Veloster and Veloster Sport Turbo
          Veloster
          ความโดดเด่นของ Hyundai Veloster มีดังนี้
          - สปอร์ตแฮทช์แบ็ก ดีไซน์ประตูแบบ 2 + 1 โดดเด่นด้วยประตูที่ 3 ทางด้านหลังซ้าย ประตูอัจฉริยะที่มาพร้อมมือจับประตูแบบ Integrated ที่ซ่อนอย่างกลมกลืน
          - เครื่องยนต์ให้กำลังสูงสุด 130 แรงม้า ที่ 6,300 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 157 นิวตัน-เมตร ที่ 4,850 รอบต่อนาที (มาตรฐานไอเสีย ยูโร 4) พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Sequential Shift
          - ความเร็วสูงสุด 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 11.5 วินาที
          - ระบบช่วงล่างหน้า – หลัง แบบ แมคเฟอร์สันสตรัท และ ทอร์ชั่นบีม CTBA
          - ระบบกุญแจอัจฉริยะ Smart Key และระบบ Button Start
          - พวงมาลัยเพาเวอร์ผ่อนแรงด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้า
          - ระบบเบรค ABS ระบบเพิ่มแรงเบรคในภาวะฉุกเฉิน BA และระบบกระจายแรงเบรค EBD
          - พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง และระบบควบคุมโทรศัพท์และเครื่องเสียง พร้อมกับ Paddle Shift เปลี่ยนเกียร์ด้านหลังพวงมาลัย
          - ล้ออัลลอยด์ 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/45 R 17
          - จอ LCD แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว
          - โครงสร้างนิรภัยแบบ High – Tensile Steel สำหรับเสากลางและจุดสำคัญต่างๆทั่วตัวรถ
ความโดดเด่นของ Hyundai Veloster Sport Turbo มีดังนี้
          - สปอร์ต แฮทช์แบ็ก ดีไซน์ประตูแบบ 2 + 1 โดดเด่นด้วยประตูที่ 3 ทางด้านหลังซ้าย ประตูอัจฉริยะที่มาพร้อมกับมือจับประตูแบบ Integrated ที่ซ่อนอย่างกลมกลืน
          - กำลังสูงสุด 186 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 265 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500 – 4,500 รอบต่อนาที
- ระบบเทอร์โบอัดอากาศแบบ Twin-Scroll Turbocharger (ประสิทธิภาพดีขึ้น 7 – 8% และประหยัดเชื้อเพลิงดีขึ้นกว่าธรรมดาถึง 5% )
          - ความเร็วสูงสุด 214 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 8.1 วินาที
          - ระบบช่วงล่างหน้า –หลัง แบบแมคเฟอร์สันสตรัท และ ทอร์ชั่นบีม CTBA
          - หลังคาแก้ว Panoramic Sunroof
          - ระบบล็อคความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
          - มาตรวัดเรืองแสง Super Vision
          - เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า พร้อมระบบดันหลัง Lumbar Support
          - ระบบกุญแจอัจฉริยะ Smart Key และระบบ Button Start
          - พวงมาลัยเพาเวอร์ผ่อนแรงด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้า
          - ระบบควบคุมเสถียรภาพ ESP ระบบเสริมสมรรถนะการควบคุมพวงมาลัย VSM ระบบแทรคชั่นคอนโทรล TCS และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC
          - ระบบเบรค ABS ระบบเพิ่มแรงเบรคในภาวะฉุกเฉิน BA และระบบกระจายแรงเบรค EBD
          - ล้ออัลลอยด์ 18 นิ้ว พร้อมยาง 215/40 R 18
          - ถุงลมนิรภัยคู่หน้า + ถุงลมนิรภัยด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย
          - โครงสร้างนิรภัยแบบ High – Tensile Steel สำหรับเสากลางและจุดสำคัญต่างๆทั่วตัวรถ
          แคมเปญพิเศษระหว่างงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 35
          1. Hyundai H-1 Elite and Deluxe
          · ราคาเริ่มต้นที่ 1,449,000 บาท
          · ฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
          · ข้อเสนอพิเศษในงานมอเตอร์โชว์
          2. Hyundai Grand Starex VIP and Premium Minor Change
          · ฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
          · ข้อเสนอพิเศษในงานมอเตอร์โชว์
          3. Hyundai Tucson 2.0D 4WD Minor Change
          · ฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
          · ข้อเสนอพิเศษในงานมอเตอร์โชว์
          4. Hyundai Veloster (Veloster and Veloster Sport Turbo)
          · ฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
          · ข้อเสนอพิเศษในงานมอเตอร์โชว์
          ไฮไลท์บู๊ธฮุนไดในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 35
          1. รถยนต์ไฮไลท์ตกแต่งด้วยธีมฟุตบอลโลก 2014 FIFA World Cup:
          · Hyundai i40 โชว์บนเวที
          · Hyundai Veloster โชว์บริเวณด้านหน้าของบู๊ธ
          · Hyundai Tucson 2.0D 4WD Minor Change โชว์บริเวณด้านหน้าของบู๊ธ
         
          2. กิจกรรมพิเศษสำหรับลูกค้าภายในบู๊ธ
          · แบ็คดร็อบถ่ายภาพ 2014 FIFA World Cup-Hyundai เพื่อต้อนรับผู้ที่ต้องการเก็บภาพเป็นที่ระลึก
          · กิจกรรม Hyundai LIKE&SHARE Motor Show Fever ซึ่งเป็นกิจกรรมในหน้า facebook ของ Hyundai Thailand เพื่อมอบของที่ระลึกสุด Exclusive จากฮุนได
          · Hyundai Accessories Corner
          · พริตตี้โชว์ 5-6 รอบในวันธรรมดา
          · การแสดงโชว์พิเศษสไตล์ Brazillian ในวันธรรมดาและวันหยุด

MSN on March 26, 2014, 10:34:00 AM
Hyundai Motor (Thailand) showcases new cars with exciting campaigns and 2014FIFA World Cup Theme at 35th Bangkok International Motor Show









     - The New Hyundai Grand Starex VIP and Premium Minor Change
          - The New Hyundai Tucson 2.0D 4WD Minor Change with new engine producing maximum output of 184 hp
          - The New Hyundai H-1 Series with starting price of 1,449,000 baht
          - Hyundai i40 as 2014FIFA World Cup highlighted show car to mark the world’s biggest sporting event

          New cars:
          A. The New Hyundai Grand Starex VIP Minor Change
          The New Hyundai Grand Starex VIP Minor Change is the Super Luxury 7-seater full-size MPV fitted with the new 2.5-liter turbo-diesel commonrail EURO 4 engine that delivers maximum output of 175 horsepower and maximum torque of 441 newton-meter. Power is transferred to the rear wheels via 5-speed automatic transmission with manual mode.
          The Grand Starex VIP Minor Change is outstanding with new chrome-highlighted front grille, new front bumper, new rear bumper, new side garnish, new 17-inch alloy wheels with 235/60/17 tires, LED repeaters on side-view mirrors, and electrically adjusted Double VIP seats, which now come with new leather seat pattern and Butterfly headrests.
          The newly designed and developed Entertainment Counter is the highlight of the VIP version. It comes with a European-styling design and high-end materials for more luxurious look and feel. The 19-inch LCD screen is now upgraded to 22-inch in Full-HD while the sound system is provided by Kenwood.
          B. The New Hyundai Grand Starex Premium Minor Change
          The New Grand Starex Premium Minor Change comes with more personal space for additional personal comfort. The Entertainment Counter is replaced for extra space the 10.1-inch roof-mounted LCD screen, DVD head unit. Other interior comfort features also include Double Super VIP Seats and driver’s seat that can be declined to suit the physical comfort of the driver. It also has an interior ambience that suits family users instead of the more business and corporate-look as appreciated in the Grand Starex VIP. The Super VIP Seats are mounted on the safety rails and can be adjusted to more positions than before for optimum space arrangement or practical comfort for you and your family.
          Other outstanding features that can be found in the New Grand Starex VUP and Premium Minor Change include:
          § 2.5-liter turbo diesel commonrail euro 4 engine delivering maximum output of 175 horse power and impressively high torque output of 441 newton meter at 2000 – 2250 rpm
          § 5-speed automatic transmission with manual mode for extra engine brake and more traction when required to enhance braking and road handling capabilities
          § Double Super VIP Seats with butterfly headrests and new leather covers provide unmatched comfort and relaxation with electrically adjusted recliner and thigh support
          § Multi-function steering wheel connects to the vehicle’s audio system
          § Electrically adjusted and folded side-view mirrors
          § Rear-view camera for safety and convenient parking
          § Flexible cargo compartment area with seats on all rows adjustable for suitable positions
          § Newly designed 17-inch alloy wheels and 235/60 R17 tires
          § ABS
          § Remote control key for central locking and anti-theft alarm
          § New front center fascia
          § Elegant wood trim
          § Fog lamps for additional safety
          § Navigator (GPS)
          C. The New Hyundai Tucson 2.0D 4WD Minor Change
          The New Hyundai Tucson 2.0D 4WD Minor Change is clearly an intelligent product improvement whose highlights include new CRDi engine producing 184 horsepower (torque of 392 newton-meter) instead of 177 in the previous version; new front HID projector headlight and rear LED combination lamps; new 17-inch alloy wheels; new sports dials and new reclining rear seats. The Tucson 2.0D 4WD Minor Change also comes with DVD head unit with LCD screen and navigator system.
          The Uniquely Sexy Tucson 2.0D 4WD is outstanding in terms of design, comfort & utility, road handling, engine performance and driving enjoyment.
          Other features of the Minor Change Sexy SUV include:
          - Metal top with roof rails
          - 6-speed automatic transmission with manual shift mode for acceleration and effective engine braking when cornering or going downhill
          - The advanced Electronic Stability Program (ESP) package which includes Electronic Stability Program (ESP), Downhill Brake Control (DBC), Hill-start Assist Control (HAC), ABS, EBD and BA
          - Multi-function steering wheel for easy sound-system command
          - New 17-inch alloy wheels
          - X-Shape interior and dash with European brown leather trim
          - Active headrests
          - ROP (roll-over prevention system)
          - Button Start System
          - The Smart Key system for most convenient entry without remote struggling
          - Advanced Start Button – new benchmark in today’s driving
          - AUX and USB plug-in with iPod hook up
          - Parking sensor & parking camera

          Show car:
          Hyundai i40 “Stylish Sport Wagon”
          2014FIFA World Cup Spirit
          Hyundai i40 is one of the most innovative Stylish Sport Wagons ever produced by Hyundai with specifications and tastes catered to the European markets. This perfect execution of Fluidic Sculpture Design and combination of Man & Machine gets the best of the 2,000 cc DOHC 16V D-CVVT engine that produces maximum output of 177 horse power at 6,500 rpm and maximum torque of 213 newton-meter at 4,700 rpm.
          The design is complemented by sporty exterior curves and lines with Projector HID headlamps combined with Adaptive Front Lighting System and LED Day Time Running Lamps to create a distinctive statement. The 18-inch alloy wheels, Panoramic Sunroof and rear LED lights are among the highlights of the Hyundai i40, which is decorated with 2014FIFA World Cup themed sticker wraps to celebrate another year of the world’s most exciting sporting event.
          Hyundai i40 is a new testimony of Hyundai’s technological advancement, attention to details and ability to rise to the status of global automaker.

          Best-selling vehicles:
          A. The New Hyundai H-1 Elite
          The New Hyundai H-1 Elite is the entry model of the H-1 Series that enjoys the standard specifications of the top-of-the-line H-1 Deluxe, which is currently the best-selling H-1 version since its launch in 2009. The powerful and economical 2.5-liter turbo diesel CRDi engine that comes with 5-speed automatic transmission in a rear-wheel drive format – which is the same with that of the top version Deluxe – has proven to be the choice of luxury MPV users for its all-round impressive performance and practicality for harmonious ownership experience.
          “This new H-1 version certainly adds not only a new variety to the current H-1 Series but also create a new attraction to the luxury MPV segment, whose popularity is growing significantly and continuously due to the obvious advantages of the vehicles, which include space, safety, functionality and engine capabilities to outperform sedan-based vehicles,” said Mr. Hideki Yanagisawa, President of Hyundai Motor (Thailand).
          “The H-1 Elite is developed and decorated to suit the tastes of modern-premium Thai families who are expecting the basic strength of the H-1 Series but at a more attractive price positioning to help them migrate from sedan-based vehicles or even smaller MPVs for longer use and greater value for money,” he added.
          The featured highlights of the New Hyundai H-1 Elite are as follows:
          - Double sliding doors
          - 12-seater configuration
          - Safety rails on all 3 rows
          - Swivel VIP seats to make for living room and mobile office
          - Leather interior
          - Wood trim
          - Remote control on steering wheel
          - 16-inch classy alloy wheels
          B. The New Hyundai H-1 Deluxe
          The New Hyundai H-1 Deluxe has luxurious front grille, front bumper, rear bumper, rear garnish, side garnishes, center console fascia, wood trims, leather seats, complete entertainment equipment and 16-inch alloy wheels with a retail price of 1,599,000 baht.
          Other standard features of the new Hyundai H-1 Deluxe include:
          - New generation 2.5-liter turbo-diesel common rail EURO4 engine with VGT turbo charger & intercooler that delivers maximum power output of 175 horsepower and maximum torque of 441 newton-meter (rear-wheel drive system)
          - 5-speed automatic transmission with Sequential Mode
          - Multi-function steering wheel
          - DVD player and 10.1-inch LCD screen for optimum entertainment
          - Navigator system (GPS)
          - 12-seater configuration with swivel seats for enhanced comfort
          - Flush glass
          - All-wheel disc brake with ABS
          - McPherson Struts (front) and 5-link coil-spring (rear)
          - Double sliding doors
          - Safety rails for multiple seating adjustments to suit different needs
          - Front airbags (dual)
          - Leather interior
          - Elegant wood trim
          - Remote control on steering wheel
          - 16-inch classy alloy wheels
          - Parking camera
          Sports car:
          C. The New Hyundai Veloster and Veloster Sport Turbo
          (A) Veloster
          1. The 2 + 1 Sport Hatchback Design offers the look and feel as well as cruising performance of a true sports car while allowing the rear passengers to move in and out comfortably through the + 1 rear door on the left side.
          2. 130 horsepower/6,300 rpm and 157 newton meter torque at 4,850 rpm (EURO4)
          3. 6-speed automatic transmission (Torque converter with sequential shift)
          4. Top speed: 190 km/h and 0-100 km/h acceleration within 11.5 seconds (Hyundai factory information under certain conditions)
          5. Cd. value: 0.32
          6. Suspension: McPherson strut (front) and Coupled Torsion Beam Axle (CTBA) (rear)
          7. Button Start and Smart Key Systems
          8. Motor-driven power steering (MDPS)
          9. ABS, EBD and BA
          10. All-wheel disc brakes
          11. Reach and rake steering wheel with sound system controller and turn radius: 5.2 meters
          12. 17-inch alloy wheels and 215/45/R17 tires
          13. Sporty front grille design for pure dynamism
          14. Dual exhaust tips
          15. 60:40 foldable split rear seats
          16. Parking sensor
          17. 7-inch LCD touchscreen
          18. Aluminum sport pedals
          19. Dual front airbags
          20. Automatic headlights with escort lamps
          21. Fog lamps
          22. Bluetooth phone interface
          23. Immobilizer key
          24. High body strength: High-tensile steel structure at the B-pillar cross member

          (B) Veloster Sport Turbo
          1. The 2 + 1 Sport Hatchback Design offers the look and feel as well as cruising performance of a true sports car while allowing the rear passengers to move in and out comfortably through the + 1 rear door on the left side.
          2. Powerful engine 186 horsepower/5,500 rpm and 265 newton meter torque between 1,500-4,500 rpm (EURO5)
          3. Turbo charger system: twin-scroll turbo charger for 7-8% better efficiency and 5% more economical
          4. Specially designed front grille (large hexagonal grille), front bumper, front fog lamps, rear bumpers, rear dual exhaust tips and larger front disc brakes.
          5. Cd. value: 0.32
          6. 6-speed automatic transmission (Torque converter with sequential shift)
          7. Top speed: 214 km/h and 0-100 km/h acceleration within 8.1 seconds (Hyundai factory information under certain conditions)
          8. Suspension: McPherson strut (front) and Coupled Torsion Beam Axle (CTBA) (rear)
          9. Panoramic sunroof
          10. Cruise control
          11. Super vision cluster dials
          12. Sport leather power seat & lumbar support for driver
          13. Button Start and Smart Key Systems
          14. Motor-driven power steering (MDPS)
          15. ESP with VSM and TCS
          16. ABS, EBD and BA
          17. HAC (hill-start assist control)
          18. All-wheel disc brakes
          19. Reach and rake steering wheel with sound system controller and turn radius: 5.2 meters
          20. Paddle shifters at the steering wheel
          21. 18-inch alloy wheels with chrome inserts and 215/40/R18 tires
          22. 60:40 foldable split rear seats
          23. Parking sensor
          24. 7-inch LCD touchscreen
          25. Aluminum sport pedals
          26. Dual front airbags + side airbags + curtain airbags
          27. Automatic headlights with escort lamps
          28. Bluetooth phone interface
          29. Immobilizer key
          30. Rain sensor
          31. Heated side mirrors
          32. Front seat warmer
          33. High body strength: High-tensile steel structure at the B-pillar cross member

          Hyundai campaigns during 35th Bangkok International Motor Show
          1. Hyundai H-1 Elite and Deluxe
          § Starting price of 1,449,000 baht
          § Free 1st class insurance for 1 year
          § Special Motor Show offers

          2. Hyundai Grand Starex VIP and Premium Minor Change
          § Free 1st class insurance for 1 year
          § Special Motor Show offers
          3. Hyundai Tucson 2.0D 4WD Minor Change
          § Free 1st class insurance for 1 year
          § Special Motor Show offers
          4. Hyundai Veloster (Veloster and Veloster Sport Turbo)
          § Free 1st class insurance for 1 year
          § Special Motor Show offers

          Motor Show Booth Highlights
          1. 2014FIFA World Cup highlight car:
          a. Hyundai i40 (on stage)
          b. Hyundai Veloster (front area of booth)
          c. Hyundai Tucson 2.0D 4WD Minor Change (front area of booth)

          2. Visitor activities:
          a. 2014FIFA World Cup – Hyundai photo backdrop
          b. Hyundai LIKE & SHARE Motor Show Fever – facebook like and share for exclusive souvenirs
          c. Hyundai Accessories Corner
          d. Hyundai Angels Presentation Round – 5-6 times a day (weekdays)
          e. Hyundai Brazilian Show (weekends and holidays)

MSN on March 26, 2014, 10:36:49 AM
ซิตี้ ออโต้โมบิลเผยโฉม นิว เรนจ์โรเวอร์ อีโวค รุ่นปี 2014 ในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 35 พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษจากจากัวร์ แลนด์โรเวอร์





          พบกับ ดิ ออล-นิว เรนจ์โรเวอร์ สปอร์ต, นิว จากัวร์ เอฟ-ไทป์, จากัวร์ เอ็กซ์เจ เบนซิน 2.0 ลิตรใหม่, ชุดแต่งจากัวร์ เอ็กซ์เอฟ-อาร์เอส และแลนด์โรเวอร์ ดีเฟนเดอร์

          ซิตี้ ออโต้โมบิล ผู้แทนจัดจำหน่ายรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์อย่างเป็นทางการเพียงรายเดียวในประเทศไทย ยกขบวนรถหรูเอาใจผู้ที่ชื่นชอบยานยนต์ระดับพรีเมียมทั้งสองแบรนด์ดังจากประเทศอังกฤษ สัมผัสสุดยอดยนตกรรมสมรรถนะเหนือชั้น นิว เรนจ์โรเวอร์ อีโวค รุ่นปี 2014 ที่มาพร้อมกับโทนสีแซนซีบาร์ ให้ลุคสุดหรูใหม่ล่าสุด พร้อมด้วยยานยนต์เหนือสมรรถนะรุ่นอื่นๆ ได้แก่ ดิ ออล-นิว เรนจ์โรเวอร์ สปอร์ต, นิว จากัวร์ เอฟ-ไทป์ พร้อมด้วย จากัวร์ เอ็กซ์เจ (XJ) รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตรใหม่ พร้อมด้วย อุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์รุ่นพิเศษสำหรับ จากัวร์ เอ็กซ์เอฟ-อาร์เอส (XF-RS Look Accessories) และอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์รุ่นพิเศษสำหรับแลนด์โรเวอร์ ดีเฟนเดอร์ พร้อมทั้งข้อเสนอพิเศษอีกมากมายภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 ในวันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน 2557 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

          นิว เรนจ์โรเวอร์ อีโวค รุ่นปี 2014 สุดยอดยนตรกรรมขับเคลื่อนสี่ล้อดีไซน์โฉบเฉี่ยว ที่คว้ารางวัลทั้งประเภทยานยนต์และงานดีไซน์มาแล้วกว่า 100 รางวัลทั่วโลก พร้อมเปิดตัวในไทยเป็นครั้งแรกกับโทนสีแซนซีบาร์ สุดหรูใหม่ล่าสุด ยกระดับสมรรถนะด้วยระบบเกียรติอัตโนมัติ 9 สปีด การวัดค่าเวกเตอร์แรงบิดโดยใช้เฟืองท้ายระบบไฟฟ้าผสานกับระบบเบรก เพื่อมอบสมดุลแรงบิดของล้อทั้งสี่อย่างเที่ยงตรงขณะเข้าโค้ง จึงเสริมการยึดเกาะพื้นถนนและการเลี้ยว และเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าโค้งได้ดียิ่งขึ้น

          จากัวร์ เอ็กซ์เจ เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ใหม่ ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกภายในงาน สุดยอดยานยนต์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดจากจากัวร์ มอบมาตรฐานใหม่ทั้งการดีไซน์ที่เปี่ยมเสน่ห์และเทคโนโลยีระดับสูงเพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่หรูหราเหนือระดับ ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกของ Jaguar XJ คือการผสานอย่างลงตัวของความภูมิฐาน ความงดงามปราดเปรียวและพลังแห่งการพุ่งทะยานอย่างไร้ขีดจำกัด พร้อมการตกแต่งห้องโดยสารภายในที่มอบความสะดวกสบายสูงสุดแก่ผู้โดยสารทุกคน และด้วยเทคโนโลยีการตรวจจับสภาพถนนและยานพาหนะใกล้เคียงเพื่อเพิ่มเสถียรภาพการขับขี่อย่างดีเยี่ยม Jaguar XJ จึงพาท่านถึงที่หมายอย่างปลอดภัย มั่นคงและราบรื่นในทุกเส้นทาง

          อุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ จากัวร์ เอ็กซ์เอฟ-อาร์เอส (XF-RS Look Accessories) ประดับยนต์ที่ผลิตอย่างประณีตเพื่อการตกแต่งยานยนต์ให้สะท้อนความเป็นตัวตนของคุณสูงสุด ด้วยชิ้นส่วนขอบข้าง (RS Side Sill) แผงชายล่างหลังพร้อมครีบรีดอากาศ (XFR Diffuser) สปอยเลอร์แบบคาร์บอนไฟเบอร์ โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.jaguarthailand.com/accessories/xf/

          อุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ แลนด์โรเวอร์ ดีเฟนเดอร์ (Defender Accessorized) ชุดแต่งพิเศษเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งดุดัน ตามแบบฉบับอ๊อฟโรดสายพันธ์แท้ ด้วย แร็คหลังคา, ท่ออากาศ, กันชนท้าย, บันไดอลูมิเนียม และกรอบไฟหน้า มาพร้อมกับข้อเสนอพิเศษด้วยส่วนลด 15% ฟรีค่าติดตั้ง สำหรับชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่ติดตั้งเพิ่ม อุปกรณ์แต่งรถยนต์จากัวร์ทุกชิ้น ได้ผ่านการทดสอบคุณภาพตามมาตรฐานของจากัวร์เพื่อความคงทน และสอดคล้องกับระเบียบข้อกำหนดในปัจจุบัน

          ดิ ออล-นิว เรนจ์โรเวอร์ สปอร์ต (The All-New Range Rover Sport) หนึ่งในสุดยอดรถสปอร์ตเอนกประสงค์สุดหรูรุ่นล่าสุดจากแลนด์โรเวอร์ ด้วยเครื่องยนต์สมรรถนะเป็นเลิศทั้งในด้านความเร็วและอัตราเร่งแรงเต็มพิกัด พร้อมความปลอดภัยกับเสถียรภาพในการควบคุมที่เหนือล้ำ ด้วยระบบฟังก์ชั่นอัจฉริยะสำหรับการขับขี่ในทุกสภาพถนนและภูมิอากาศ ตอบสนองฉับไวในทุกสภาวะการขับขี่ด้วยสัญชาติแห่ง ‘สปอร์ตพันธุ์แท้’ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล SDV6 3.0 และ LR-V8 5.0 ซูเปอร์ชาร์จ

          นิว จากัวร์ F-Type (NEW Jaguar F-TYPE) ยานยนต์สองที่นั่งในกลุ่มรถสปอร์ตรุ่นท็อปของจากัวร์ ที่เป็นเลิศทั้งสมรรถนะของเครื่องยนต์ ด้วยรูปทรงที่ปราดเปรียว และตอบสนองอย่างฉับไวต่อการขับขี่ในทุกสภาวะ พร้อมขุมพลังเครื่องยนต์รุ่น V6 3.0 ลิตร และ V8 5.0 ลิตร ติดตั้งระบบอัดอากาศซูเปอร์ชาร์จแบบ ทวิน-วอร์เท็กซ์ ทุกรุ่น ด้วยกำลังสูงสุดถึง 495 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 625 นิวตันเมตร และเร่งความเร็วสูงสุดได้ในชั่วพริบตาจากศูนย์ถึง 100 กม./ชม. เพียง 4.3 วินาที ความเร็วสูงสุดที่ 300 กม./ชม.

          บริการหลังการชั้นเลิศจากจากัวร์ แลนด์โรเวอร์
          ซิตี้ ออโต้โมบิล มุ่งมั่นมอบบริการทั้งก่อนและหลังการขายด้วยมาตรฐานระดับโลก เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้าทุกท่าน ด้วยการรับประกันตัวรถฟรี 3 ปี พร้อมข้อเสนอพิเศษขยายเวลารับประกันตัวรถตามเงื่อนไขที่กำหนด และบริการซ่อมบำรุงฟรี รวมทั้งบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับลูกค้าจากัวร์และแลนด์โรเวอร์ในประเทศไทย

          ท่านสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับยานยนต์และข้อมูลเชิงเทคนิคได้ที่เว็บไซต์ www.landroverthailand.com และ www.jaguarthailand.com

MSN on March 26, 2014, 10:38:05 AM
City Automobiles unveils New Range Rover Evoque 2014 at the 35th Bangkok International Motor Show





          Meet the All-New Range Rover Sport, New Jaguar F-Type, New Jaguar XJ 2.0 Litre Benzine, Accessories for Jaguar XF-RS and Land Rover Defender with special promotion packages

          City Automobiles, Jaguar Land Rover’s authorised distributor and service provider in Thailand, is pleased to bring customers an extensive selection of vehicles including New Range Rover Evoque model year 2014 with Zanzibar colour, The All-New Range Rover Sport, New Jaguar F-Type, New Jaguar XJ 2.0 Litre Benzine, Jaguar XF-RS look accessories and Land Rover Defender accessorized. Appealing offers consisting of an extraordinary array of prices on a wide range of models with special promotion packages are offered exclusively at the 35th Bangkok International Motor Show 2014.
Showcased Models:

          New Range Rover Evoque model year 2014
          New Range Rover Evoque model year 2014 with the latest Zanzibar color will be officially unveiled and available for placing orders for the first time in Thailand at the 35th Bangkok International Motor Show 2014. The multi award-winning SUV car features a new 9-speed automatic gearbox, Torque vectoring uses the electronic differential and the vehicle brakes to constantly balance the distribution of engine torque between the four wheels during cornering, resulting in improved grip and steering, and a reduced level of under steer.

          Land Rover Defender Accessorized
          Land Rover Defender now comes with special accessories, enhancing its fierce and powerful capability as a true British off-road vehicle including roof rack, air intake, rear bumper aluminium step, and headlight frame

          The All-New Range Rover Sport
          The latest SUV from the Range Rover lineage which offers a luxurious and exhilarating sporty driving experience with state-of-the-art capability on-road and off, making it especially suited to the Thai market. Available for two engines which are SDV6 3.0 Diesels and LR-V8 5.0 Supercharged

          New Jaguar XJ 2.0 Litre Benzine
          The most well-appointed Jaguar ever, the XJ 2-litre petrol engine version sets new standards in design, performance and automotive luxury. Outside, XJ is a combination of streamlined beauty, luxury and sheer exhilarating power; it is passion in motion. Inside, the cabin is crafted to pamper each occupant in the utmost comfort. Superlative handling technology constantly senses road conditions and other vehicles, helping to keep your drive assured, stable and smooth.

          Jaguar XF-RS Look Accessories
          Jaguar XF-RS Look accessories provide customization, in addition to a high-profile “delimiting” of the sporty XF’s already-strong attributes of outstanding pace, superb handling and pure sports driving experience including RS Side Sill, Rear valance with XFR diffuser, Carbon Fiber Spoiler, etc. Accessories are offered with 15% discount, free installation fee. All Jaguar approved accessories are rigorously tested to the same exacting standards as those applied to our vehicles to help ensure that they are both durable and importantly, continue to comply with current legislation. For more technical information, please visit www.jaguarthailand.com/accessories/xf/

          NEW Jaguar F-TYPE
          A two-seater convertible that is poised to become the definitive sports car in the Jaguar line-up, focused on performance, agility, and driver involvement with a V6 or V8 engine coupled with a twin-vortex supercharger which is equipped on all models. The F-TYPE is fast, feels fast, looks fast and has enduring appeal.”

          Excellent Standard of Service:
          The 3-year warranty, along with a new extended warranty package, free maintenance, and 24 hours roadside assistance all provide comprehensive value to Jaguar Land Rover drivers and owners in Thailand - City Automobiles is committed to delivering superior customer satisfaction and aftersales service.

          Further product and technical information is available at www.landroverthailand.com and www.jaguarthailand.com

MSN on March 26, 2014, 10:59:38 AM
“เคทีเอ็ม” บุกตลาดต่อเนื่อง กับแคมเปญใหญ่แจกรถฟรี! อัดแคมเปญ “KTM RIDE ORANGE GET ORANGE” ชนมอเตอร์โชว์



          บริษัท คุณค่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ระดับพรีเมี่ยม เคทีเอ็ม (KTM) จากประเทศออสเตรีย อย่างเป็นทางการในประเทศไทยรุกตลาดบิ๊กไบค์อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดออกแคมเปญช๊อกลูกค้านักบิด “KTM RIDE ORANGE GET ORANGE” (เคทีเอ็ม ไรด์ ออเรนจ์ เก็ท ออเรนจ์) ลุ้นรับ KTM รุ่น “200 Duke” ฟรี และเลือกรับข้อเสนอสุดพิเศษมากมาย ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม- 6 เมษายน นี้ ที่โชว์รูม KTM ทุกแห่งทั่วประเทศ

          โดยนายพิสิทธิ์ คุณานันทกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คุณค่า คอร์ปอเรชั่นจำกัด กล่าวว่า... “เพื่อสอดรับตลาดรถบิ๊กไบค์ที่ปัจจุบันมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทคุณค่าฯ ได้จัดแคมเปญ KTM RIDE ORANGE GET ORANGE ให้กลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบความเร็ว บวกกับกำลังมองหารถที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องของดีไซน์ สมรรถนะและคุณภาพอย่างบิ๊กไบค์สัญชาติยุโรปแบรนด์ KTM ได้จับจองเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น ด้วยข้อเสนอพิเศษมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 3.9% ฟรีประกันภัยชั้น 1 ฟรีทะเบียนและพรบ. พร้อมรับ Gift Voucher มูลค่าสูงสุดถึง 150,000 บาท สำหรับผู้ที่จองรถ KTM 6 รุ่นยอดนิยม ได้แก่ 200 Duke, 390 Duke , 690 Models , 1190 Adventure, 1290 Super Duke R และ1190 RC8 R กับโชว์รูม KTM ทุกแห่งทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม ถึง 6 เมษายน 2557 และนอกจากนี้ ยังมีสิทธิ์ลุ้นรับรถ KTM 200 Duke ฟรี 1 คัน มูลค่า 229,000 บาท ซึ่งเป็นรถรุ่นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในกลุ่มรถประเภท Naked Bike ครับ” นายพิสิทธิ์ กล่าว

          สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถสัมผัสรถบิ๊กไบค์ยูโรเปี้ยนแบรนด์ KTM อย่างใกล้ชิด และจับจองเป็นเจ้าของในเงื่อนไขสุดพิเศษได้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม- 6 เมษายน นี้ที่โชว์รูม KTM ทุกแห่งทั่วประเทศ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่www.ktmthailand.co.th หรือ www.facebook.com/thailandktm

MSN on March 26, 2014, 03:18:32 PM
โตโยต้า เชิญสัมผัสยานยนต์ที่จะเพิ่มประสบการณ์ ความสุขของผู้ขับขี่ “Vibrant of Happiness” ในงาน บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนลมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 35


 
          นายวิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เป็นประธานในการแถลงข่าวเปิดบูธโตโยต้า ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 35 นำเสนอนวัตกรรมยานยนต์ล้ำสมัยแห่งอนาคต และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมยานยนต์ต้นแบบ รถยนต์รุ่นล่าสุด และรถยนต์รุ่นพิเศษหลากหลายรุ่นเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2557 ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ ศูนย์แสดงสินค้าและนิทรรศการนานาชาติอิมแพค เมืองทองธานี

          บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เข้าร่วมจัดแสดงรถยนต์อย่างยิ่งใหญ่บนพื้นที่เกือบ 2,000 ตารางเมตร ภายใต้แนวคิด “Vibrant of Happiness” ซึ่งจัดแสดงนวัตกรรมอันล้ำสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สื่อให้เห็นถึงแนวคิดของยานยนต์แห่งอนาคต ที่จะช่วยเพิ่มประสบการณ์ในการขับขี่ให้สนุกสนาน และตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น ซึ่งสะท้อนแนวทาง “ขับเคลื่อนความสุข” ของโตโยต้า ที่ตั้งใจให้ลูกค้าทุกท่านได้สัมผัสถึงความสุข พร้อมนำรถยนต์รุ่นล่าสุด และรุ่นพิเศษหลากหลายรุ่นมาจัดแสดงภายในงาน
 
          ยานยนต์ต้นแบบแห่งอนาคต
 
          FV2 รถยนต์แห่งอนาคต ที่สะท้อนหลักการของโตโยต้า “Fun to drive” หรือ “สนุกในการขับขี่” ได้เป็นอย่างดี โดย FV2 จะทำการเชื่อมโยงกับผู้ขับขี่ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ ช่วยเพิ่มประสบการณ์การขับขี่ ทำให้ยิ่งขับมากเท่าไหร่ก็ยิ่งสนุกมากเท่านั้น ในส่วนของการ

          เชื่อมโยงทางร่างกาย คือ ผู้ขับขี่เพียงแค่ขยับเขยื้อนร่างกายแทนการใช้พวงมาลัยในการขับเคลื่อน และการเชื่อมโยงด้านจิตใจ ซึ่งโตโยต้ามองเห็นความสัมพันธ์ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องระหว่างคนขับกับรถยนต์ ดังนั้นรถยนต์ต้นแบบนี้สามารถจดจำภาพและเสียงเพื่อประเมินอารมณ์ของผู้ขับขี่ได้ และรวบรวมข้อมูลประวัติการขับขี่เพื่อแนะนำจุดหมาย และข้อมูลทักษะการขับขี่เพื่อช่วยเหลือผู้ขับขี่
          เผยโฉมรถยนต์โตโยต้ารุ่นล่าสุด

          โตโยต้า อินโนวา รุ่น 2.0V รุ่นปรับปรุงโฉมใหม่ โดดเด่น เหนือระดับ ตอบสนองชีวิตครอบครัวในทุกไลฟ์สไตล์ เพิ่มความสุขของทุกคนด้วยห้องโดยสารกว้างขวาง ครบครันด้วยอุปกรณ์ล้ำสมัย เต็มอิ่มกับความบันเทิงในทุกการเดินทางและที่เก็บสัมภาระด้านหลังขนาดใหญ่ มาพร้อมดีไซน์ที่ลงตัวและสมบูรณ์แบบ
ภายนอก
          ชุดแต่งสไตล์สปอร์ตรอบคัน :
          - สเกิร์ตหน้าพร้อม Daytime Running Lights ให้ความรู้สึกโฉบเฉี่ยว และเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่เวลากลางวัน
          - สเกิร์ตหลัง สเกิร์ตข้าง และ สปอยเลอร์หลัง...เอกลักษณ์ความสปอร์ตเฉพาะตัว
          - สติ๊กเกอร์ ข้างประตูลาย เคฟลาร์...เติมเต็มความสปอร์ต
          ราคา (รวมเครื่องปรับอากาศและภาษีมูลค่าเพิ่ม)
          รุ่น 2.0V (Aeropart) 1,119,000 บาท

          สัมผัสรถยนต์รุ่นพิเศษหลากหลายรุ่น

          โตโยต้า วีออส ทีอาร์ดี สปอร์ติโว รถยนต์นั่งขนาดเล็กที่ได้รับความนิยมสูงสุด ที่มาพร้อมกับชุดอุปกรณ์ตกแต่งสไตล์สปอร์ตรอบคันทั้งภายนอกและภายใน มี 2 สี สีเทาและสีขาว
          ภายนอก
          - ชุดแต่งสไตล์สปอร์ตรอบคัน สเกิร์ตกันชนหน้า-หลัง สเกิร์ตข้าง สปอยเลอร์หลัง พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 และท่อไอเสียแบบสปอร์ต...ให้อารมณ์สปอร์ตในทุกมุมมอง
          - ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว...ให้ความมั่นใจทุกการเข้าโค้ง
          - สติกเกอร์ข้างดีไซน์ใหม่ – เสริมเอกลักษณ์ให้โดดเด่น
          - ไฟตัดหมอกหน้า…เพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่
          ภายใน
          - เบาะหนังสีดำ...เพิ่มความเข้ม เต็มความสปอร์ต
          - พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนัง...ดูหรูหรา ดุดัน
          - เครื่องเล่น DVD หน้าจอสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบบลูทูธ ระบบนำทางที่รองรับ Smart G-Book ช่องเสียบ AUX และ ลำโพง 4 ตัวรอบคัน...ให้ความเพลิดเพลินตลอดการเดินทาง
          - พรมปูพื้น...เอกลักษณ์เฉพาะตัวในสไตล์สปอร์ต
          - แผงคอนโซลกลาง แผงประตู ที่วางแขน และฐานควบคุมสวิตช์สีเมทัลลิก...ให้ความลงตัวในทุกรายละเอียด
          ราคา (รวมเครื่องปรับอากาศและภาษีมูลค่าเพิ่ม)
          - วีออส ทีอาร์ดี สปอร์ติโว 669,000 บาท
          โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ ทีอาร์ดี สปอร์ติโว 2 สุดยอดรถกระบะยอดนิยม ที่มาพร้อมอุปกรณ์ตกแต่งสไตล์สปอร์ตรอบคัน
          ภายนอก
          - สเกิร์ตหน้า และกระจังหน้าสไตล์สปอร์ต พร้อมสัญลักษณ์ TRD ด้านหน้า…ให้ความรู้สึก โฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว
          - ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว พร้อมยางขนาด 215/65/R16C* และ ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยางขนาด
265/65/R17**...เพิ่มความโดดเด่น และขับเคลื่อนได้อย่างมั่นใจ
          - ไฟส่องสว่างในเวลากลางวันแบบ LED (Daytime Running Lights (DRL)…เพิ่มความปลอดภัยในขณะขับขี่เวลากลางวัน
          - สเกิร์ตข้าง และสเกิร์ตหลัง*…เพิ่มความโดดเด่นรอบคัน
          - ไฟตัดหมอก*...เพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่
          - บันไดข้างสีดำ**...สะดวกสบาย ในการเข้าสู่ห้องโดยสาร
          - สปอร์ตบาร์ และพื้นปูกระบะ***…สร้างมิติให้ดูสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
          - กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ....ให้ความรู้สึกที่กลมกลืน
          - สติ๊กเกอร์ TRD Sportivo ด้านข้างท้ายกระบะ...บ่งบอกความเป็นรุ่นพิเศษ
          - กันชนหลัง...เพิ่มความโดดเด่นแบบสปอร์ต
          ภายใน
          - ภายในสีดำ ลาย คาร์บอน เคฟลาร์ ตกแต่งด้วยสีแดง…ดูสปอร์ตดุดัน
          - เบาะหนังสีดำ ลาย คาร์บอน เคฟลาร์ เดินด้ายสีแดง พร้อมโลโก้ TRD…บ่งบอกถึงความเป็นสปอร์ตพันธ์แท้
          - กล่องเก็บของคอนโซลกลาง พร้อมเดินด้ายสีแดง...ให้ความนุ่มสบาย
          - แผงประตูและกระจกไฟฟ้า ลาย คาร์บอน เคฟลาร์...เพิ่มความสปอร์ตเร้าใจ
          - เครื่องเล่น DVD หน้าจอสัมผัส ขนาด 6.1 นิ้ว พร้อมระบบบลูทูธ และระบบนำทางที่รองรับ Smart G-Book**...สะดวกสบายในทุกการเดินทาง
          - กล้องมองหลัง**...ปลอดภัยทุกครั้งในการเข้าจอด
          - แผงคอนโซลหน้า ลาย Carbon Kevlar พร้อมแถบสีแดง…กลมกลืนในทุกสัดส่วน
          - พวงมาลัยหุ้มหนังสีดำ หัวเกียร์ยูรีเทนสีดำ* และหัวเกียร์หนังสีดำ เดินด้ายสีแดง พร้อมฐานเกียร์ลาย คาร์บอน เคฟลาร์**…เพิ่มความเร้าใจ ในการขับขี่
          ราคา (รวมเครื่องปรับอากาศและภาษีมูลค่าเพิ่ม)
          - รุ่นสมาร์ทแค็บ
                    - 2.5E พรีรันเนอร์ A/T ทีอาร์ดี สปอร์ติโว II สีเมทัลลิก 829,000 บาท
                    - 2.5E พรีรันเนอร์ A/T ทีอาร์ดี สปอร์ติโว II 822,000 บาท
                    - 2.5E พรีรันเนอร์ M/T ทีอาร์ดี สปอร์ติโว II สีเมทัลลิก 784,000 บาท
                    - 2.5E พรีรันเนอร์ M/T ทีอาร์ดี สปอร์ติโว II 777,000 บาท
                    - 2.5E M/T ทีอาร์ดี สปอร์ติโว II สีเมทัลลิก 719,000 บาท
                    - 2.5E M/T ทีอาร์ดี สปอร์ติโว II 712,000 บาท
          - รุ่นดับเบิ้ลแค็บ
                    - 2.5E พรีรันเนอร์ A/T ทีอาร์ดี สปอร์ติโว II สีเมทัลลิก 944,000 บาท
                    - 2.5E พรีรันเนอร์ A/T ทีอาร์ดี สปอร์ติโว II 937,000 บาท
                    - 2.5E พรีรันเนอร์ M/T ทีอาร์ดี สปอร์ติโว II สีเมทัลลิก 899,000 บาท
                    - 2.5E พรีรันเนอร์ M/T ทีอาร์ดี สปอร์ติโว II 892,000 บาท
          โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ทีอาร์ดี สปอร์ติโว 5 รถยนต์อเนกประสงค์ ที่ตกแต่งในสไตล์สปอร์ต หรูหรา เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความบันเทิงครบครัน
          ภายนอก
          - ชุดแต่งรอบคัน สเกิร์ตหน้า-หลัง สปอยเลอร์หลัง กระจังหน้าสไตล์สปอร์ต และปลายท่อ ไอเสียสแตนเลส พร้อมสัญลักษณ์ TRD…บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ความสปอร์ต เฉพาะตัว ได้เป็นอย่างดี
          - กระจกมองมุม...เพิ่มมุมมองในการเข้าจอดให้ง่ายขึ้น
          - โลโก้ TRD Sportivo ที่ประตูท้ายและด้านข้าง...บ่งบอกความเป็นรุ่นพิเศษ
          - บันไดข้าง พร้อมโลโก้ TRD Sportivo...เพิ่มความสปอร์ตสวยงาม

          ภายใน
          - ภายในสีดำ ตกแต่งด้วยสีแดง พร้อมลาย คาร์บอน เคฟลาร์…เพิ่มความสปอร์ต หรูหรา
          - พวงมาลัย และหัวเกียร์หุ้มหนังเดินด้ายสีแดง พร้อมฐานเกียร์ลาย คาร์บอน เคฟลาร์…เพิ่มความเร้าใจ ในการขับขี่
          - แผงคอนโซลกลาง แผงควบคุมกระจกไฟฟ้า แผงประตูหุ้มหนังลาย คาร์บอน เคฟลาร์…โดดเด่น ไม่เหมือนใคร
          - เบาะนั่งหนัง ลาย คาร์บอน เคฟลาร์ ตกแต่งด้วยการเดินด้ายสีแดงพร้อมโลโก้ TRD…บ่งบอกถึงสปอร์ตพันธ์แท้
          - ที่เท้าแขนคอนโซลกลางหุ้มหนัง พร้อมเดินด้ายสีแดง...เสริมความนุ่มสบาย
          - เครื่องเล่น DVD หน้าจอสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบเชื่อมต่อ บลูทูธ AUX, USB และระบบนำทางที่รองรับ Smart G-Book...เพลิดเพลินในทุกการเดินทาง
          - จอ LED ขนาด 10.2 นิ้วสำหรับผู้โดยสาร และรีโมทควบคุมเครื่องเสียง...เติมเต็มระบบความบันเทิงให้สมบูรณ์แบบ
          สมรรถนะในการขับขี่
          - ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 265/60/R18...เพิ่มความโดดเด่น และขับเคลื่อนได้อย่างมั่นใจ
          - ระบบกันสะเทือนหน้าและหลัง แบบ TRD Sportivo…เพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่
          ราคา (รวมเครื่องปรับอากาศและภาษีมูลค่าเพิ่ม)
          - รุ่น 3.0V Navi A/T ทีอาร์ดี สปอร์ติโว V (สีขาวมุก) 1,561,000 บาท
          - รุ่น 3.0V Navi A/T ทีอาร์ดี สปอร์ติโว V 1,549,000 บาท
          พบข้อเสนอสุดพิเศษ ในการเป็นเจ้าของรถยนต์ โตโยต้า
          รถยนต์นั่ง
          - วีออส ทุกรุ่น ทุกแบบ รับฟรี Samsung Galaxy Note3 และ Smart set
          พร้อมรับ Toyota Smart G-Book ใช้งานนาน 1 ปี

          รถยนต์เพื่อการพาณิชย์
          - ไฮลักซ์ วีโก้ ทุกรุ่น ทุกแบบ รับฟรี Samsung Galaxy Note3 และSmart set
          พร้อมรับ Toyota Smart G-Book ใช้งานนาน 1 ปี
          และสิทธิ์ร่วมลุ้นรางวัลใหญ่ในแคมเปญ “วีโก้ แชมป์ ตะลุย บราซิล”

          พบกับยานยนต์ล้ำสมัยแห่งอนาคต
          ที่จะช่วยเพิ่มประสบการณ์ในการขับขี่ให้สนุกสนาน
          ภายใต้แนวคิด “Vibrant of happiness”
          ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 35
          ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน นี้
          ที่ ศูนย์แสดงสินค้าและนิทรรศการนานาชาติ อิมแพ็ค เมืองทองธานี