“โฮมโปร”ผนึกกำลัง“กรมอนามัย-สพฐ.” สร้างภาคีเครือข่ายส้วมสะอาดสู่มาตรฐานสากล
“โฮมโปร – กรมอนามัย - สพฐ.” สร้างภาคีเครือข่ายส้วมโรงเรียนสู่มาตรฐาน HAS ผนึกกำลังผลักดัน “โครงการห้องน้ำของหนู” ปรับปรุงส้วมโรงเรียนสังกัดสพฐ. ประเดิมแล้วกับ 16 โรงเรียน ก่อนขยายเพิ่มเติม รวมถึงการนำ 14 สาขาโฮมโปรเข้าร่วมเป็นภาคีด้วย
นายคุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการกลุ่มการตลาด บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ด้วยสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม โฮมโปร ซึ่งเป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านครบวงจร จึงได้ริเริ่มกิจกรรมเพื่อสังคม คือ “โครงการห้องน้ำของหนู” เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าของเด็กไทย โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากพันธมิตรทางธุรกิจ อาทิ บริษัท สยามซานิทารี่แวร์อินดัสทรี จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสุขภัณฑ์ Cotto, บริษัท เซรามิคอุตสาหกรรมไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องเซรามิค Cotto, บริษัท บางกอกเดคเคอร์ พลาส จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายประตูพีวีซีดอร์เค่น, บริษัท นิปปอนเพนต์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสีนิปปอน
“โครงการห้องน้ำของหนู” ปรับปรุงห้องส้วมให้แก่โรงเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาทั่วประเทศ ตั้งแต่ปลายปี 2549 จนถึงปัจจุบัน มีการดำเนินโครงการแล้วใน 12 จังหวัด 49 โรงเรียน รวมห้องน้ำที่ได้รับการปรับปรุง 526 ห้อง ซึ่งนอกจากการปรับปรุงห้องส้วมให้ได้มาตรฐานส้วมสาธารณะแล้ว ยังมีการแนะนำการใช้ห้องส้วมอย่างถูกต้องและถูกวิธีแก่เยาวชน ถ่ายทอด อบรม การดูแลห้องส้วมให้มีความสะอาดอยู่เสมอ รวมถึงการพัฒนาด้านอนามัย ทั้งต่อร่างกาย และต่อสังคม ให้เยาวชนทุกคนร่วมกัน รับผิดชอบต่อสาธารณะสมบัติ ให้อยู่ในสภาพที่ดี และสะอาดอยู่เสมอ ผ่านสื่อการเรียนรู้การใช้ และการดูแลรักษาห้องน้ำอย่างถูกวิธีด้วย
นายคุณวุฒิ กล่าวว่า เพื่อให้ส้วมในโครงการห้องน้ำของหนู มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน บริษัทฯ ได้เข้าร่วมเป็นภาคีเครือข่ายร่วมกับกรมอนามัย และสำนักคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในการยกระดับส้วมโรงเรียนในโครงการให้ได้มาตรฐานส้วมสาธารณะระดับประเทศ โดยได้เริ่มเข้าไปปรับปรุงเพิ่มเติมให้แก่โรงเรียนที่ได้ดำเนินโครงการในเดือนเมษายนที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ มีห้องส้วมในโครงการได้รับป้าย
ประกาศเกียรติคุณส้วมสะอาดมาตรฐาน HAS แล้วรวม 16 โรงเรียน และบริษัทฯ พร้อมที่จะเดินหน้าให้ได้มาตรฐานทุกโรงเรียน รวมถึงโรงเรียนที่จะเข้าสู่โครงการห้องน้ำของหนูในอนาคตด้วย
“ควบคู่ไปกับการนำส้วมโรงเรียนโครงการห้องน้ำของหนูสู่มาตรฐาน HAS บริษัทฯ ยังนำส้วมสาขาทีเป็น Stand Alone เข้าเป็นภาคีเครือข่ายพร้อม ๆ กันไปด้วย ซึ่งในวันนี้ สาขาของเรา ได้รับป้ายประกาศเกียรติคุณส้วมสะอาดมาตรฐาน HAS จำนวน 14 สาขา” นายคุณวุฒิ กล่าวและว่า
ในการปรับปรุงห้องน้ำภายใต้โครงการทั้งหมด หากรวมเรื่องค่าแรงและวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ 25,000 บาทต่อห้อง งบประมาณส่วนหนึ่งได้รับการสนับสนุนด้านสุขภัณฑ์ กระเบื้อง สี ประตู จากแนวร่วมพันธมิตรทางธุรกิจ บางส่วนจากการร่วมสมทบทุนของลูกค้าโฮมโปร ดังนั้น สิ่งสำคัญในลำดับต่อไปก็คือ การทำให้งบประมาณที่ลงไปกับโครงการคุ้มค่าด้วยการสร้างการพัฒนาอย่างยั่งยืน
คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวเพิ่มเติมว่า เด็กนักเรียนในวัยประถม เป็นวัยที่ยังต้องการความดูแลและปลูกฝังอย่างใกล้ชิดในด้านความสะอาด และถูกสุขอนามัย โรงเรียนบางแห่งเด็กต้องอั้นปัสสาวะหรืออุจจาระนาน 2-3 ชั่วโมง เพื่อไปใช้ห้องส้วมที่บ้าน ทำให้มีผลเสียต่อสุขภาพและขาดสมาธิในการเรียน อีกทั้งห้องส้วมส่วนมากอยู่ในสภาพทรุดโทรม และต่ำกว่ามาตรฐานเป็นจำนวนมาก การที่ภาคเอกชนให้ความสำคัญและร่วมกันคิดโครงการดีๆ เพื่อสังคมเช่นนี้ จึงเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อสังคมที่เป็นรูปธรรม และยังเป็นตัวอย่างที่ดีที่สามารถขยายผลนำไปใช้กับห้องส้วมสาธารณะทั่วประเทศได้ต่อไป
นายแพทย์ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ผลจากการทำอนามัยโพล นักเรียนในกรุงเทพมหานคร เมื่อ ปี 2550 จำนวน 418 คน ร้อยละ 73 ของนักเรียน อยากให้โรงเรียนปรับปรุงมากที่สุด คือ เรื่องส้วม ปัญหาที่พบมากที่สุดคือ ไม่สะอาดและมีกลิ่นเหม็น ปัญหารองลงมา คือ จำนวนไม่เพียงพอ และคิดว่าส้วมไม่ปลอดภัย จากปัญหาดังกล่าวทำให้เด็กนักเรียน ร้อยละ 67 กลั้นปัสสาวะเพราะไม่อยากใช้ส้วมโรงเรียน ซึ่งเด็กที่มีการกลั้นปัสสาวะเป็นประจำทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอาการผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะ 1.6 เท่า ของเด็กที่ไม่มีประวัติกลั้นปัสสาวะเป็นประจำ โดยระบุว่าที่ไม่ใช้ส้วมโรงเรียนเป็นเพราะส้วมสกปรก กรมอนามัย จึงมีความยินดีอย่างยิ่งที่จะร่วมมือกับ บริษัทโฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ดำเนินงาน “โครงการห้องน้ำของหนู” เพื่อปรับปรุงห้องส้วมให้แก่โรงเรียนในระดับประถมศึกษาทั่วประเทศ ขณะนี้มีโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 49 โรงเรียน ใน 12 จังหวัด และกรมอนามัยได้ตรวจประเมินตามมาตรฐาน HAS สะอาด เพียงพอ และปลอดภัยแล้ว พบว่าผ่านเกณฑ์ฯ จำนวน 16 โรงเรียน นอกจากการปรับปรุงส้วมให้สะอาดได้มาตรฐานแล้วการปลูกฝังให้นักเรียนมีพฤติกรรมการใช้ส้วมที่ถูกต้องและทุกคนช่วยกันรักษาควาสะอาดส้วมไม่ให้เป็นแหล่งแพร่เชื้อเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อเป็นต้นแบบให้สังคมนำไปพัฒนาส้วมในความรับผิดชอบของตน โดยการสร้างการมีส่วนร่วมตั้งแต่ผู้ใช้ ผู้บริหารองค์กร และชุมชน ที่จะต้องร่วมให้การสนับสนุนรักษาส้วมให้ได้มาตรฐานตลอดไป
