ไทยเป็นเจ้าภาพ 2 งานไอทีระดับโลก Connect Asia-Pacific SummitและITU Telecom World

ไทยเป็นเจ้าภาพ 2 งานไอทีระดับโลก Connect Asia-Pacific Summit และITU Telecom World 2013

-   การประชุมสุดยอดผู้นำเริ่ม 18 พ.ย. ร่วมกำหนดวิสัยทัศน์ “เอเชีย-แปซิฟิก 2020: สมาร์ทลี่ดิจิตอล”
-   งานนิทรรศการนวัตกรรมไอทีและการแลกเปลี่ยนความเห็นผู้นำ เริ่ม 19-22 พ.ย. 













กรุงเทพฯ 7 พฤศจิกายน 2556 – สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ หรือ ITU ยก 2 งานใหญ่ระดับโลกประจำปีมาจัดที่ประเทศไทยระหว่าง 18-22 พฤศจิกายน 2556  เปิดเวทีให้ผู้นำจากทั่วโลกทั้งในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) รัฐบาล และนักวิชาการ พบปะกันเพื่อร่วมกำหนดกลยุทธ์เพื่อขับเคลื่อนการใช้ไอซีทีอย่างเหมาะสม รวมทั้งแลกเปลี่ยนข้อมูล ความเห็น สร้างเครือข่ายและความร่วมมือระหว่างกัน ตลอดจนนำเสนอนวัตกรรมไอซีทีเพื่อประโยชน์ของประชาชนทั่วไป

ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดงานระดับโลกทั้ง 2 งาน ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี กรุงเทพฯ  โดยงาน Connect Asia-Pacific Summit จะจัดขึ้นในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2556 ซึ่งมีผู้นำรัฐบาล รัฐมนตรี หน่วยงานกำกับดูแล และผู้นำอุตสาหกรรมไอซีทีจากภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และประเทศต่างๆ มาร่วมกันแสดงวิสัยทัศน์ และความเห็นเกี่ยวกับความท้าทายของโลกดิจิตอล รวมถึงโอกาสที่จะเกิดขึ้นในภูมิภาคนี้  ตลอดจนกำหนดแนวทางด้านการลงทุนในโครงข่ายพื้นฐานด้านโทรคมนาคมและไอซีที แอพพลิเคชันและบริการที่สร้างสรรค์ รวมถึงการเปลี่ยนผ่านไปสู่วิสัยทัศน์  Asia-Pacific 2020: Smartly Digital หรือทิศทางในการพัฒนาอุตสาหรรมไอทีในอนาคตของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกในปี 2563 โดย นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานในพิธีเปิดงาน

ส่วนงาน ITU Telecom World 2013 ที่จัดขึ้นใน วันที่ 19-22 พฤศจิกายน 2556 ที่ ชาเลนเจอร์ฮอล์ 1-2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี  ซึ่งเป็นกิจกรรมสำคัญที่จะเปิดโอกาสให้คนในวงการไอทีจากทั่วโลกได้พบปะสร้างเครือข่ายพันธมิตร และแลกเปลี่ยนความรู้ ตลอดจนการอภิปรายในเรื่องต่างๆ  รวมทั้งเปิดโอกาสให้ทุกคนที่ร่วมงานทั้งภาครัฐและเอกชนได้พบปะกันและตกลงความร่วมมือทางธุรกิจ  ผู้ที่จะมาร่วมงานดังกล่าวจะมีทั้งผู้นำธุรกิจไอซีทีจากประเทศที่กำลังพัฒนาและพัฒนาแล้ว ผู้เชี่ยวชาญ ผู้กำหนดนโยบาย และผู้บริหารระดับสูงที่มีหน้าที่ตัดสินใจในเรื่องเกี่ยวกับไอซีที  กิจกรรมสำคัญนอกจากการอภิปราย สัมมนาเชิงวิชาการแล้ว ยังมีการแสดงนิทรรศการ และการพบปะกันทางธุรกิจอีกด้วย
 
สำหรับงานประชุมสุดยอดผู้นำด้านไอซีทีหรือ Connect Asia-Pacific Summit นั้น กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของไทยเป็นเจ้าภาพในการจัดร่วมกับสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ  ส่วนงาน ITU Telecom World 2013 นั้น เป็นการจัดงานโดยความร่วมมือระหว่าง 3 หน่วยงานได้แก่ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เป็นแกนหลัก 

ดร. สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะประธานกรรมการแห่งชาติเพื่อเตรียมการจัดการประชุมสุดยอดผู้นำเอเชียและแปซิฟิก กล่าวว่า “งาน Connect Asia-Pacific Summit  และงาน ITU Telecom World 2013 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นเป็นครั้งแรกนี้ ถือว่าเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของอุตสาหกรรมไอซีทีของไทย  และตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นที่ประชาคมโลกมีต่อประเทศไทย รวมถึงความมุ่งมั่นของไทยในการสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมไอซีทีของโลกในอนาคต”

ดร. อุนจู คิม ผู้อำนวยการ ภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิกค สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ หรือ ITU กล่าวว่า “เทคโนโลยีอันทันสมัยมีความสำคัญมากในการเชื่อมโยงโลกและประเทศต่างๆ เข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว  พร้อมกันนี้ก็จะมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการพัฒนาด้านสังคมและวัฒนธรรมอย่างยั่งยืนของคนทั่วโลก โดยไม่แบ่งแยกเพศ อายุ วัฒนธรรม หรือแม้กระทั่งผู้พิการ   โดยทั้งสองงานจะเปิดโอกาสให้ผู้นำในอุตสาหกรรมไอซีทีของโลก และด้านอื่นๆ ได้มาพบกันเพื่อเรียนรู้ พบปะพูดคุย แบ่งปันข้อมูล กระชับความสัมพันธ์ระหว่างกัน  รวมทั้งขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ Asia-Pacific 2020: Smartly Digital เพื่อกำหนดทิศทางการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และพร้อมที่จะสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ที่ได้ตกลงดำเนินการร่วมกัน ให้บรรลุวัตถุประสงค์อย่างแท้จริง”

นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยว่า “เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ไม่ว่าองค์กรใดหรือประเทศใด จำเป็นต้องใช้ไอซีทีทั้งสิ้น รวมทั้งเตรียมรับมือความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในโลกดิจิตอล  การที่ประเทศไทยได้ให้การสนับสนุนและเป็นเจ้าภาพงานใหญ่ระดับโลกด้านไอซีทีทั้งสองงานจะช่วยตอกย้ำจุดยืนและความมุ่งมั่นของประเทศที่จะก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางขอองธุรกิจไอซีทีในภูมิภาคนี้”

พลอากาศเอก ธเรศ ปุณศรี ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า “เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารกลายมาเป็นส่วนสำคัญที่ขาด

                                    
ไม่ได้ในชีวิตผู้คนยุคปัจจุบัน  เราหวังว่างานสำคัญทั้งสองงานที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพนี้จะ
สนับสนุนอุตสาหกรรมไอซีทีและช่วยกระตุ้นให้คนไทยได้หันมาสนใจและเข้าใจถึงความสำคัญและผลกระทบจากการพัฒนาไอซีทีต่อชีวิตเรา เพื่อที่จะสามารถใช้ประโยชน์สูงสุดจากเทคโนโลยีเหล่านี้

โดย กสทช.ได้เข้าร่วมในงาน ITU Telecom World 2013 นำเสนอคอนเซ็ปต์ “Digital Thailand Digital Community ใน NBTC  Pavilion” ซึ่งในงานจะนำเสนอ 3 ส่วนแรกคือการแนะนำองค์กรและวิวัฒนาการความก้าวหน้าของการบริหารและจัดสรรคลื่นความถี่   ส่วนที่ 2 คือการกำกับดูแลงานทั้งด้านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม   และในส่วนที่ 3 คือการดำเนินงานด้านสังคม เช่นผลงานกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ การสนับสนุนการให้บริการอินเทอร์เน็ตไร้สายในพื้นที่ห่างไกลทั่วประเทศ”
ดร. นพรัตน์ เมธาวีกุลชัย  ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ เปิดเผยว่า “การดึงงานระดับโลกอย่าง ITU TELECOM WORLD 2013 มาจัดในประเทศไทย เป็นครั้งแรกนับว่าสำคัญยิ่ง และคาดว่าจะมีผู้แทนภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมไอซีทีของอาเซียนเข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง ทั้งนี้การจัดงาน Connect Asia-Pacific Summit และ ITU Telecom World 2013 จะมีส่วนขับเคลื่อนมูลค่าอุตสาหกรรมไมซ์ขของไทยได้เป็นอย่างดี  โดยคาดว่าจะมีกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลกประมาณ 20,000 คนเข้าร่วมงาน และสร้างเม็ดเงินจากการใช้จ่ายและการสร้างงานในประเทศเป็นมูลค่ารวมประมาณ 3,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ธุรกิจไมซ์หรือการประชุมและแสดงสินค้านานาชาติในประเทศไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง”
 
งาน Connect Asia-Pacific Summit จะเริ่มขึ้นในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2556 โดยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมร่วมกับ ดร. ฮามาดูน ทูเร เลขาธิการสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ  การประชุมสุดยอดในครั้งนี้ จะเริ่มด้วยการกล่าวของผู้นำรัฐบาลและประเทศต่างๆ  การรับรองวิสัยทัศน์ผู้นำเอเชีย-แปซิฟิก 2020 (Asia-Pacific 2020: Smartly DIGITAL)  ตลอดจนการประชุมของผู้นำระดับสูงในการกำหนดทิศทางอุตสาหกรรมไอซีทีในหัวข้อ Envisioning Asia-Pacific 2020 การประชุมฝ่ายต่างๆ และการประกาศการเป็นพันธมิตร (Multi-stakeholder Meetings and Partnership Announcement)  รวมถึงการประชุมโต๊ะกลมของรัฐมนตรีด้านไอซีที จากประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เกี่ยวกับการดำเนินการเพื่อให้วิสัยทัศน์ Asia-Pacific 2020: Smartly Digital เกิดเป็นรูปธรรมขึ้นมา  รวมถึงการอภิปรายและประชุมเชิงวิชาการเกี่ยวกับความท้าทายในโลกดิจิตอลที่ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกกำลังประสบ ตลอดจนการพัฒนาด้านไอซีทีเพื่อสร้างผลลัพธ์และกลยุทธ์สำคัญ การลงทุน เพื่อพัฒนาโครงข่ายพื้นฐานและแอพพลิเคชั่นด้านไอซีที

ภายในงาน ITU Telecom World 2013 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่าง 19-22 พฤศจิกายน 2556  จะมีทั้งการสัมมนา การอภิปรายเรื่องเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาและอนาคตของอุตสาหกรรมไอซีที รวมทั้งประเด็นสำคัญต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง  นิทรรศการแสดงนวัตกรรมล่าสุดของโลก การเปิดโอกาสให้ผู้ร่วมงานได้พบปะสังสรรค์กัน และการประกวดผลงานนักพัฒนานวัตกรรมรุ่นใหม่  หัวข้อของการสัมมนา/อภิปรายจะอยู่ในกรอบแนวคิดหลักของการจัดงานคือ “Embracing Changes in a Digital World” หรือการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในโลกยุคดิจิตอลอุตสาหกรรมไอซีทีที่มีผลต่อวิถีชีวิตของผู้คน โดยเน้น 5 หัวข้อหลัก อาทิ

•   Riding the data Wave ค้นหาวิธีการที่ดีที่สุดที่จะจัดการกับข้อมูลมหาศาลที่ท่วมท้นในโลกดิจิตอล
•   การประชุมโต๊ะกลมของผู้นำในภูมิภาค - ซึ่งมีผู้นำธุรกิจไอทีของโลก อาทิ เทเลนอร์ และ อูรีดู (Ooredoo)  ผู้ชนะการประมูลการให้บริการ 3G ในเมียนมาร์ การอภิปรายเรื่องความท้าทายและโอกาสในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในโลกดิจิตอล
•   Telcos & OTT – ความท้าทายของบริการ OTT
•   How can world citizens ensure their privacy in a Digital World? - บทบาทของรัฐบาล ธุรกิจ และองค์กรระหว่างประเทศ และสิทธิของประชาชน
•   Internet of Everything – วิธีการที่จะเกิดประโยชน์สูงสุดในการทำให้มั่นใจว่าการเชื่อมต่อในอนาคตจะมีประสิทธิภาพ
•   The Social Media App-friend or foe? - อุปสรรคของแอพพลิเคชั่นด้านมีเดียและโมบาย

ในงาน ITU Telecom World 2013 บริเวณการจัดนิทรรศการ จะเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานเข้าชมนวัตกรรมไอทีที่ทันสมัยในศาลาแสดงนิทรรศการของแต่ละประเทศ (country pavilion) ที่มีการนำเสนอโอกาสในการลงทุนจากประเทศต่างๆ รวมทั้งมุมพิเศษสำหรับการแสดง “นวัตกรรม”  ของผู้เข้าประกวด Young Innovators Competition 2013 ชิงรางวัลใหญ่ในบริเวณนี้ยังมี The Lab ที่นำเสนอแนวคิดที่น่าสนใจรวมถึงโซลูชั่นที่เปี่ยมความสร้างสรรค์ ซึ่งผู้ที่เข้ารอบสุดท้ายของ Young Innovators Competition ได้สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อศิลปะ เทคโนโลยีและสังคมแห่งอนาคต  รวมถึงจะมีการสาธิตเทคโนโลยีต่างๆ แบบสดๆ เช่น เทคโนโลยีหุ่นยนต์ การพิมพ์แบบ 3D แหล่งพลังงานใหม่ และเทคโนโลยีที่สวมใส่ได้

หนึ่งในไฮไลต์ของงานนี้ได้แก่ ไทยแลนด์พาวิลเลียน (Thailand Pavilion) ซึ่งจะจัดขึ้นในแนวคิด “บริบทประเทศไทยในยุคดิจิตอล”  เน้นการนำเสนอบริบทอัน “หลากหลาย” ที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย ที่ผสมกลมกลืนอย่างลงตัวออกมาเป็น “ความเป็นไทย” ในสายตาชาวโลก  รวมถึงสะท้อนการพัฒนาในภาคส่วนต่างๆ อย่างยั่งยืนและสมดุล โดยมีจุดเด่นที่ รอยัลพาวิลเลียน ซึ่งนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้านการพัฒนาประเทศและประชาชน เพื่อให้คนไทยอยู่อย่างพึ่งพาและเกื้อกูลกับธรรมชาติ รวมถึงเพื่อนร่วมสังคมบนแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมมาพัฒนาวิถีภูมิปัญญาเดิมเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันและพัฒนาอย่างยั่งยืน  โครงการในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  นอกจากนี้ ยังมีนิทรรศการจากหน่วยงานต่างๆ มากมายที่สื่อถึงการนำเทคโนโลยีสารสนเทศไปใช้ในการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ และการป้องกันภัยพิบัติ เป็นต้น

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://world2013.itu.int/

เกี่ยวกับ ITU
ITU เป็นทบวงการชำนัญพิเศษภายใต้สหประชาชาติ ซึ่งมีหน้าที่พัฒนาเครือข่ายเทคโนโลยีข้อมูลและการสื่อสาร ด้วยประวัติการทำงานเกือบ 150 ปี ITU ได้ประสานความร่วมมือในการจัดสรรการใช้คลื่นวิทยุความถี่ของสังคมโลกส่งเสริมความร่วมมือของนานาชาติในการจัดสรรวงจรดาวเทียม ตลอดจนทำงานภายใต้วัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงระบบการสื่อสารโทรคมนาคมพื้นฐานในประเทศกำลังพัฒนา นอกจากนี้ ITU ยังมีบทบาทในการวางมาตรฐานโทรคมนาคมทั่วโลกเพื่อเชื่อมโยงระบบการสื่อสาร การคมนาคมรูปแบบต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ITU มุ่งมั่นเชื่อมโยงโลกทั้งใบผ่านระบบสื่อสารต่างๆ ตั้งแต่เครือข่ายบรอดแบนด์ เทคโนโลยีไร้สายยุคใหม่ ระบบนำร่องเพื่อการบินและการเดินทะเล ระบบดาราศาสตร์วิทยุ ระบบพยากรณ์อากาศผ่านดาวเทียม การประสานเทคโนโลยีไร้สายและใช้สายเข้าด้วยกันเพื่อให้สื่อสารได้ทุกที่ทุก เวลา ไปจนถึงเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตและระบบออกอากาศของโทรทัศน์จากอนาล๊อคสู่ดิจิตอล

การประชุมสุดยอดผู้นำเอเชียและแปซิฟิกของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (Connect Asia-Pacific Summit)

หลักการและเหตุผล

เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information and Communication Technology : ICT) เป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ผู้กำหนดนโยบายในแต่ละประเทศจะต้องวางแผนและกำหนดแนวทางในการดำเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาสหัสวรรษ และเป้าหมายการสร้างสังคมสารสนเทศ เพื่อให้ประชาชนทุกคนได้เข้าถึงและใช้ประโยชน์จาก ICT

สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (International Telecommunication Union หรือ ITU) ซึ่งเป็นทบวงชำนัญพิเศษภายใต้สหประชาชาติ และมีภารกิจหลักในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารจึงได้กำหนดให้มีการจัดการประชุมสุดยอดผู้นำ (Connect Summit) ขึ้น เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายการสร้างสังคมสารสนเทศภายในปี 2558 โดยที่ผ่านมา ITU ได้ริเริ่มให้มีการจัดประชุมสุดยอดผู้นำขึ้นในภูมิภาคต่างๆ แล้ว 4 ครั้ง ได้แก่ ปี 2550 จัดการประชุม Connect Africa Summit  ปี 2552 จัดการประชุม Connect CIS Summit ปี 2555 Connect Arab Summit และปี 2555 Connect Americas Summit                 

ในปี 2556 เป็นการจัดการประชุมสุดยอดผู้นำเอเชียและแปซิฟิก หรือ Connect Asia-Pacific Summit ซึ่งจะเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ผู้นำ รัฐมนตรีด้าน โทรคมนาคม/ICT หน่วยงานกำกับดูแล และผู้บริหารจากภาคอุตสาหกรรม ICT ได้หารือและกำหนดเป้าหมายในภูมิภาค ตลอดจนแผนการดำเนินงานภายใต้โครงการต่างๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการดำเนินงานในภูมิภาคร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้กำหนดจัดการประชุมสุดยอดผู้นำเอเชียและแปซิฟิก (Connect Asia-Pacific Summit) ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2556 ก่อนการจัดงาน ITU Telecom World 2013 ระหว่างวันที่ 19-22 พฤศจิกายน 2556     ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี
   
การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำเอเชียและแปซิฟิกในครั้งนี้ นอกจากเป็นการแสดงศักยภาพด้านโทรคมนาคมและ ICT ของประเทศไทยในเวทีโลก และการมีส่วนร่วมของประเทศไทยในเวทีระหว่างประเทศในฐานะประเทศสมาชิกของ ITU แล้ว ยังเป็นการเปิดโอกาสให้หน่วยงานของไทยที่เกี่ยวข้องกับโทรคมนาคมและ ICT ได้เข้าร่วมการประชุมระดับโลก รวมทั้งได้รับทราบความก้าวหน้าในการพัฒนานวัตกรรมด้านโทรคมนาคม/ICT การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้แทนจากประเทศต่างๆ ตลอดจนสามารถนำความรู้และผลการประชุมมาปรับใช้กับหน่วยงานเพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรม ICT ของไทย ในระดับภูมิภาคและระดับโลก เพื่อนำไปสู่เป้าหมายการสร้างสังคมสารสนเทศที่กำหนดไว้ต่อไป

วัตถุประสงค์
1. เพื่อตอบสนองนโยบายรัฐบาลด้านการต่างประเทศในการยกระดับและพัฒนาบทบาทของประเทศไทยในการมีส่วนร่วมในกิจกรรมขององค์การระหว่างประเทศในภารกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศและ   การสื่อสารและโทรคมนาคม และเพื่อให้ประเทศไทยได้รับการยอมรับจากประเทศสมาชิกของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ในฐานะประเทศสมาชิกที่มีบทบาทและสนับสนุนงานของสหภาพฯ
2. เพื่อเป็นเวทีสำคัญในระดับผู้นำจากภาครัฐบาลและภาคเอกชนของไทย ได้มีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การเงิน และทรัพยากรด้านเทคนิคอื่นๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่เป็นประโยชน์กับประเทศไทยในการประชุมหารือระดับนานาชาติ
3. เป็นเวทีสำหรับผู้นำจากภาครัฐบาลและภาคเอกชนของไทย มีโอกาสสร้างเครือข่ายกับผู้นำในภูมิภาครวมทั้งผู้นำจากองค์กรระหว่างประเทศในระดับโลกและภูมิภาค และเป็นการกระชับความสัมพันธ์และเสริมสร้างความเชื่อมั่น รวมทั้งขีดความสามารถให้เศรษฐกิจไทย
 
กลุ่มเป้าหมาย
ผู้นำจากประเทศสมาชิก ITU ในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก จำนวน 38 ประเทศ ผู้แทนระดับรัฐมนตรี หน่วยงานกำกับดูแล และผู้บริหารจากภาคอุตสาหกรรมโทรคมนาคมและ ICT จากประเทศสมาชิกของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ปัจจุบันมีสมาชิกจำนวน 193 ประเทศ) บุคคลสำคัญของไทย ผู้บริหารระดับสูงของภาครัฐและภาคเอกชนของไทย ผู้บริหาร ITU และองค์การระหว่างประเทศ สื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศ จำนวนประมาณ 800 คน

ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1. สามารถตอบสนองนโยบายรัฐบาลด้านการต่างประเทศในการยกระดับและพัฒนาบทบาทของประเทศไทยในการมีส่วนร่วมในกิจกรรมขององค์การระหว่างประเทศ ในภารกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและโทรคมนาคม
2. ผู้นำจากภาครัฐบาลและภาคเอกชนของไทย ได้มีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การเงิน และทรัพยากรด้านเทคนิคอื่นๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่เป็นประโยชน์กับประเทศไทยในการประชุมหารือระดับนานาชาติ
3. ผู้นำจากภาครัฐบาลและภาคเอกชนของไทย มีโอกาสสร้างเครือข่ายกับผู้นำในภูมิภาครวมทั้งผู้นำจากองค์กรระหว่างประเทศในระดับโลกและภูมิภาค และเป็นการกระชับความสัมพันธ์และเสริมสร้างความเชื่อมั่น รวมทั้งขีดความสามารถให้กับเศรษฐกิจไทย

ข้อมูลการประชุมสุดยอดผู้นำเอเชียและแปซิฟิกของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (Connect Asia-Pacific Summit)

1)   วัตถุประสงค์ของการจัดการประชุมสุดยอดผู้นำฯ
   เป็นเวทีสำหรับผู้นำประเทศหรือผู้นำรัฐบาล รัฐมนตรี ผู้บริหารระดับสูงจากภาคเอกชนในระดับโลกและระดับภูมิภาค ในการประชุมหารือและกำหนดแนวทางร่วมกันเพื่อระดมความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องกับความต้องการและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การเงิน และทรัพยากรด้านเทคนิคอื่นๆ ที่มีความจำเป็นในภูมิภาคเพื่อหาแนวทางในการลดช่องว่างการพัฒนาด้าน ICT ของภูมิภาค

2)             กลุ่มเป้าหมาย
   คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมการประชุมจากประเทศสมาชิก ITU ในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก จำนวน 38 ประเทศ ทั้งในระดับผู้นำ ระดับรัฐมนตรี ผู้บริหารระดับสูงจากภาคอุตสาหกรรมโทรคมนาคม/ICT และองค์การระหว่างประเทศ จำนวนไม่น้อยกว่า 800 คน

3)   key message ที่ต้องการสื่อสารออกไปสู่สาธารณชน
   ประเทศไทยให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกไปสู่การเป็นภูมิภาคที่ให้ความสำคัญกับประชาชนทุกกลุ่มอย่าง

ทั่วถึง ยึดการพัฒนาเป็นศูนย์กลาง และมีความสร้างสรรค์ หรือ ‘Smartly DIGITAL’ (Digital Inclusive Green Innovative Transformative Affordable Living) โดยจะพยายามให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวภายในปี ค.ศ. 2020 ตามวิสัยทัศน์นี้ ประชาชนจะสามารถเข้าถึง ใช้งาน สร้าง และแบ่งปันข้อมูลสารสนเทศและความรู้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้กับประชาชนทั่วไป ชุมชน ภาคอุตสาหกรรม และประเทศเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนและครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่ม ซึ่งวิสัยทัศน์ดังกล่าวมีความสอดคล้องกับจุดมุ่งหมายและหลักการของกฏบัตรสหประชาชาติ และปฏิญญาและแผนปฏิบัติการของที่ประชุมสุดยอดระดับโลกว่าด้วยสังคมสารสนเทศ (World Summit on the Information Society: WSIS)

4)   หัวข้อการประชุม ที่จะเป็นประโยชน์กับประเทศไทย และทั่วโลก
   ในการประชุมสุดยอดผู้นำ ครั้งนี้ มีหัวข้อหลักคือ “Asia-Pacific 2020: Smartly DIGITAL” โดยคำว่า DIGITAL ย่อมาจาก Digital Inclusive Green Innovative Transformative Affordable Living เอกสารสำคัญที่จะมีการรับรองในการประชุมครั้งนี้ คือ ร่างเอกสารวิสัยทัศน์ผู้นำ (Leaders’ Vision) และร่างแถลงการณ์ที่ประชุมสุดยอดผู้นำ (Summit Communiqué)
   
เอกสารวิสัยทัศน์ผู้นำ (Leader Vision) จะระบุถึงการรับรู้สภาพปัจจุบันและแนวโน้มในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ซึ่งมีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว โดยมีเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

(ICT) เป็นเครื่องมือสำคัญในการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความแตกต่างและช่องว่างระหว่างประเทศที่มีรายได้สูงและประเทศที่มีความก้าวหน้าสูงของภูมิภาคในด้านหนึ่ง และประเทศพัฒนาน้อยที่สุด (LDCs) ประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล (LLDCs) และประเทศกำลังพัฒนาที่เป็นเกาะขนาดเล็ก (SIDSs) ในอีกด้านหนึ่ง จึงเป็นความท้าทายซึ่งไม่เพียงแต่กระตุ้นการเติบโตของภาค ICT ที่มีพลังและมีพลวัตของภูมิภาค แต่ยังรวมไปถึงการทำงานร่วมกันกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดเพื่อขยายประโยชน์ของ ICT ไปอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประชาชนนับล้านคนในภูมิภาคที่มีความเป็นอยู่ที่ยากจนและมีความต้องการพิเศษ นอกจากนี้ เอกสารวิสัยทัศน์   ยังระบุถึงการตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการใช้ประโยชน์จากโอกาสอันมากมายสำหรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการประยุกต์ใช้ที่สร้างสรรค์ เพื่อเปลี่ยนชีวิตของประชาชนไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งจะเกิดควบคู่ไปกับการมุ่งหน้าสู่ความสำเร็จตามวิสัยทัศน์ “Smartly DIGITAL” ภายในปี ค.ศ. 2020 ทั้งนี้ ผู้นำที่เข้าร่วมการประชุมจะให้การรับรองโดยไม่มีการลงนาม
   
   ในส่วนของร่างแถลงการณ์ที่ประชุมสุดยอดผู้นำฯ จะเน้นย้ำประเด็นสำคัญของวิสัยทัศน์ผู้นำ และการกำหนดประเด็นเร่งด่วนที่ประเทศในภูมิภาคฯ ต้องเร่งดำเนินการเพื่อให้วิสัยทัศน์ผู้นำสัมฤทธิ์ผล ได้แก่
   (1) การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
   (2) การกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรมและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์
   (3) การสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือที่ชาญฉลาดระหว่างภาครัฐและเอกชน
   (4) การพัฒนาที่ยั่งยืนโดยอาศัยเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
   (5) การผนวกรวมประชาชนทุกกลุ่มเข้าไว้ในสังคมดิจิทัล
   (6) การบรรลุเป้าหมายแห่งการรู้สารสนเทศดิจิทัลและการสร้างความสามารถของมนุษย์และองค์กร
ทั้งนี้ รัฐมนตรีที่เข้าร่วมการประชุมจะให้การรับรองแถลงการณ์ดังกล่าว

5)   กลุ่มเป้าหมายที่ตอบรับการเข้าร่วมการประชุม ณ วันที่ 25 ตุลาคม 2556
นายกรัฐมนตรีได้มีหนังสือเชิญไปยังผู้นำของประเทศสมาชิก ITU ในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก จำนวน 38 ประเทศตามที่ได้แจ้ง ขณะนี้ มีผู้นำประเทศที่ตอบรับเข้าร่วมอย่างเป็นทางการแล้ว จำนวน 4 ประเทศ ได้แก่ ประธานาธิบดีไมโครนีเซีย นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ นายกรัฐมนตรีปากีสถาน และนายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกินี และอีก 2 ประเทศ ที่ตอบรับอย่างไม่เป็นทางการ ได้แก่ นายกรัฐมนตรีตองกา และหมู่เกาะโซโลมอน นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายประเทศที่ส่งผู้แทนผู้นำเข้าร่วมการประชุม ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรัฐมนตรี ICT เช่น ญี่ปุ่น เนปาล ติมอร์เลสเต ฟิลิปปินส์ ซามัว เป็นต้น ทั้งนี้ คาดว่าจะมีประเทศต่างๆ ตอบรับเพิ่มขึ้นเมื่อใกล้ถึงวันประชุมฯ

6)   อื่นๆ ที่สำคัญ
ในการประชุมสุยอดผู้นำฯ จะมีช่วงการประกาศพันธมิตรและโครงการต่างๆ ในการพัฒนาด้าน ICT (Multi-stakeholder Meeting

and Partnerships Announcements) ซึ่งปัจจุบันมีประมาณ 75 โครงการ จากหน่วยงานต่างๆ ทั่วทั้งภูมิภาค ทั้งภาครัฐ เอกชน องค์การระหว่างประเทศ และสถาบันการเงิน จึงเป็นโอกาสดีที่หน่วยงานของไทยจะได้เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ เพื่อระดมความคิดเห็น และขยายความร่วมมือในภูมิภาค

เกี่ยวกับ ITU

สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (International Telecommunication Union หรือ ไอทียู) เป็นทบวงการชำนัญพิเศษภายใต้สหประชาชาติ ซึ่งมีหน้าที่พัฒนาเครือข่ายเทคโนโลยีข้อมูลและการสื่อสาร ด้วยประวัติการทำงานเกือบ 150 ปี ITU ได้ประสานความร่วมมือในการจัดสรรการใช้คลื่นวิทยุความถี่และส่งเสริมความร่วมมือของนานาชาติในการจัดสรรวงจรดาวเทียม ตลอดจนทำงานภายใต้วัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงระบบการสื่อสารโทรคมนาคมพื้นฐานในประเทศกำลังพัฒนา นอกจากนี้ ITU ยังมีบทบาทในการวางมาตรฐานโทรคมนาคมทั่วโลกเพื่อเชื่อมโยงระบบการสื่อสาร รูปแบบต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ โดย ITU มุ่งมั่นเชื่อมโยงโลกทั้งใบผ่านระบบสื่อสารต่างๆ ตั้งแต่เครือข่ายบรอดแบนด์ เทคโนโลยีไร้สายยุคใหม่ ระบบนำร่องเพื่อการบินและการเดินทะเล ระบบดาราศาสตร์วิทยุ ระบบพยากรณ์อากาศผ่านดาวเทียม การประสานเทคโนโลยีไร้สายและใช้สายเข้าด้วยกันเพื่อให้สื่อสารได้ทุกที่ทุก เวลา ไปจนถึงเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตและระบบออกอากาศของโทรทัศน์จากแอนาลอคสู่ระบบดิจิทัล

ไอทียูมุ่งมั่นที่จะเชื่อมโยงคนทั่วโลก ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนและใช้เครื่องมือสื่อสารชนิดใด  รวมทั้งปกป้องและสนับสนุนให้ทุกคนได้รับสิทธิพื้นฐานในการสื่อสารอย่างทั่วถึง

ทุกวันนี้ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เข้ามามีส่วนสำคัญในชีวิตของคนเรา ทั้งในการช่วยบริหารจัดการและควบคุมเหตุฉุกเฉินต่างๆ น้ำประปา ไฟฟ้า การกระจายสินค้าอุปโภคบริโภค การบริการด้านสุขอนามัย การศึกษา บริการของภาครัฐ ตลาดเงิน บริการด้านการเดินทางขนส่ง หรือแม้กระทั่งการจัดการสิ่งแวดล้อม  นอกจากนี้ยังทำให้ผู้คนได้สื่อสารกับเพื่อนฝูง คนใกล้ชิด ตลอดจนคนในครอบครัวได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนและในเวลาใด

ไอทียู ทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับประเทศสมาชิก เพื่อให้สามารถนำเทคโนโลยีการสื่อสารยุคใหม่มาสร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่ประชาชนทั่วไป ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย สะดวก และมีราคาที่สมเหตุผล

ไอทียูมีสมาชิกรวม 193 ประเทศและสมาชิกที่เป็นหน่วยงานกำกับดูแลงานด้านไอซีทีของประเทศต่างๆ สถาบันการศึกษาและบริษัทเอกชนอีกกว่า 700 แห่งทั่วโลก

เกาหลีขนเทคโนโลยีไอซีที “ขั้นเทพ” มาโชว์ในงานไอทีระดับโลกที่จัดในประเทศไทย ITU Telecom World 2013 และเชิญบริษัทไอซีทีไทยร่วมเจรจาธุรกิจเพื่อเป็นพันธมิตรกันในระยะยาว



จากการที่ประเทศไทยได้มีโอกาสเป็นเจ้าภาพจัดงานใหญ่ระดับโลกITU Telecom World 2013 ระหว่างวันที่ 19-22 พฤศจิกายน 2556 ที่จะถึงนี้ ที่ ชาเลนเจอร์ฮอล์1-2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี นอกจากไฮไลต์ของงานนี้ได้แก่ ไทยแลนด์พาวิลเลียน (Thailand Pavilion) แล้วยังมีพาวิลเลียนที่น่าสนใจจากประเทศผู้นำด้านไอซีทีแถวหน้าของเอเชียอย่างเกาหลี ซี่งได้มาเปิดโกเรียพาวิลเลียน(Korea Pavilion) ให้เราได้ตื่นตาตื่นใจกับเทคโนโลยี “ขั้นเทพ” ที่เลือกสรรมาอย่างดีเพื่อนำมาแสดงศักยภาพในงานนี้โดยเฉพาะ

ซึ่งในพาวิลเลียนจะมีผลงานของบริษัทและสถาบันวิจัยชั้นนำของเกาหลีมานำเสนอ ทั้งยังจะมีการจัดกิจกรรม Korea-ThailandICTBusiness Matching เพื่อจับคู่เจรจาธุรกิจระหว่างบริษัทหรือหน่วยงานวิจัยด้านไอซีทีของไทย และเกาหลี ซึ่งหน่วยงานที่นำทัพของเกาหลีมาคือ KAIT (Korea Association of ICT Promotion) โดยร่วมมือกันสมาคมอีเลิร์นนิงแห่งประเทศไทย (e-LAT) จัดกิจกรรมในครั้งนี้

โดยมีเป้าหมายคือการสร้างความร่วมมือในระยะยาวในการเป็นพันธมิตรธุรกิจ รวมทั้งการวิจัยและพัฒนาเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับตลาดในประเทศไทยและอาเซียนในอนาคต ตัวอย่างบริษัทเกาหลีที่มีผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ เช่น  KoIAN Inc. เป็นผู้ผลิตสื่อผสมดิจิตอลมีเดีย สมัยใหม่ โดยผสมผสานศิลปะเข้ากับเทคโนโลยี เช่น หุ่นยนต์, จอมัลติทัชสกรีน, กระดาน filp-dot และอื่นๆ เพื่อใช้ในการนำเสนอตามงานนิทรรศการ, งานเอ็กซโป, งานอีเว้นท์ต่างๆ และในงานนี้จะมีการนำหุ่นยนต์มาแสดงโชว์ด้วย

          eZEX Corporation Ltd. ผู้นำเทคโนโลยีและโซลูชั่นด้าน “ระบบอัจฉริยะ” ทั้งหลาย เช่น ระบบบริหารบ้านและอาคารแบบอัจฉริยะ,ระบบบริหารพลังงานแบบอัจฉริยะ, ระบบบริหารแสงสว่างแบบอัจฉริยะ, ระบบอุปกรณ์การนำทางแบบอัจฉริยะ โดยร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ทั่วโลก เช่น Honeywell และ Samsung เป็นต้น

          NeoLAB convergence Inc. เจ้าของเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์เพื่อการศึกษาเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร ตัวที่เด่น คือ 1.ปากกาอัจฉริยะ Touch & Play ซึ่งใช้เทคโนโลยี dot code ที่จะทำให้บูรณาการการเขียนแบบธรรมชาติเข้ากับอุปกรณ์สมัยใหม่, 2. อุปกรณ์ Media Player ที่จะเชื่อมโยงสื่อต่างๆ เข้าด้วยกัน, 3. เครื่องฉายภาพขนาดเล็ก Pico Projector

          CobaltRay Co., Ltd. ผู้ผลิต Tablet PC คุณภาพสูงที่ปรับเปลี่ยนสเปค(customized) ได้ตามความต้องการเช่น ระบบตรวจสอบผู้ใช้โดยการสแกนลายนิ้วมือ เป็นต้น โดยมีราคาที่เหมาะสมซึ่งผลิตเป็นพิเศษให้กับหน่วยงานรัฐบาลในหลายประเทศแล้ว

ETRI เป็นสถาบันวิจัยด้านอิเล็กทรอนิกส์และเทเลคอมมูนิเคชั่น ชั้นแนวหน้าของเกาหลีซึ่ง ได้วิจัยคิดค้นเทคโนโลยีหลากหลาย ทั้งเรื่อง chip, ระบบ e-Learning, 3D Game, Telecom และอื่นๆ แล้วส่งต่อให้ผู้ผลิตจนได้เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่รวมทั้งแสวงหาความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาการต่างประเทศ

นี่เป็นส่วนหนึ่งบริษัทและหน่วยงานด้านไอซีทีของเกาหลีที่มาแสดงใน Korea Pavilion และร่วมกิจกรรม Korea-Thailand ICT Business Matching ในครั้งนี้ บริษัทด้านไอซีทีของไทยไม่ควรพลาดโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญในครั้งนี้ เพราะไม่ต้องเดินทางไปถึงเกาหลี แต่ทางเกาหลียกของมาหาเราถึงที่ ถ้าท่านสนใจเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้เข้าไปดูรายละเอียดและสมัครร่วมกิจกรรมได้ที่เว็บไซต์www.mindclick.co.th/itu/ หรือ ติดต่อผู้ประสานงานฝ่ายไทยได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 089-8240062 ซึ่งนอกจากจะทำให้ท่านได้เปิดโอกาสธุรกิจให้ก้าวไกลแล้ว ท่านยังไม่ต้องเสียค่าบัตรเข้าชมงานซึ่งมีราคาแพงมากอีกด้วย

ITU Telecom World 2013 เปิดฟอรั่ม
 

 
          ITU Telecom World 2013 เปิดฟอรั่ม ถกแนวทาง “เตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในโลกยุคดิจิตอล”

          วงการไอซีทีโลกร่วมเปิดเวทีอภิปรายแนวทาง “เตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในโลกยุคดิจิตอล” ในงาน ITU Telecom World 2013 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น พร้อมเปิดโอกาสคนในวงการร่วมพบปะและแลกเปลี่ยนความเห็นด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของโลก

          ดร. ฮามาดูน ทูเร เลขาธิการสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ พร้อมด้วย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ผู้แทนประเทศไทยซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดงานในครั้งนี้ และ มร. วาลีด อัลซายแอด ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ออรีดู ในฐานะตัวแทนอุตสาหกรรมไอซีทีและประเทศกาตาร์ ซึ่งจะเป็นเจ้าภาพจัดงาน ITU Telecom World ในเดือนธันวาคมปีหน้า

          งาน ITU Telecom World 2013 จะจัดขึ้นระหว่าง 19-22 พฤศจิกายน 2556 โดยมีผู้แทนจากภาครัฐและเอกชนทั่วโลกเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง ไม่ว่าจะรัฐมนตรี หน่วยงานกำกับดูแล ผู้นำองค์กรในธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับไอซีที ไปจนถึงผู้นำทางความคิด ที่ปรึกษา นักวิชาการ และนักพัฒนานวัตกรรมดิจิตอล
          การจัดงานในปีนี้ ได้เลือกกรุงเทพฯ ให้เป็นที่จัดงาน เนื่องจากเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และถือได้ว่าเป็นประตูสู่ภูมิภาคที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วมาก จึงเหมาะที่จะเป็นศูนย์กลางของการที่คนในวงการไอซีทีทั่วโลกจะมาร่วมระดมความคิดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมไอซีที และในชีวิตของประชาชนทั่วไป

          สำหรับในปีนี้ งาน ITU Telecom World 2013 จัดขึ้นในกรอบแนวคิด “เตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในโลกยุคดิจิตอล” ซึ่งจะเน้นในกรอบ 5 หัวข้อหลักได้แก่ ความเปลี่ยนแปลงในวิธีการสื่อสารของผู้คน ความจำเป็นของโมเดลธุรกิจในยุคข้อมูลเป็นใหญ่ พลวัตความเปลี่ยนแปลงของภาคอุตสาหกรรม การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และระเบียบและกระบวนการวางมาตรฐาน

          ในงานดังกล่าวจะมีการอภิปรายซึ่งจะจัดขึ้นในหลายหัวข้อ พื้นที่นิทรรศการ (Showfloor) ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี รวมถึงโอกาสด้านการลงทุนจากทั่วโลก รวมทั้งกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้คนได้พบปะและพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน โดยในบริเวณนิทรรศการ จะมีโซน InnovationSpace ซึ่งผู้เข้ารอบสุดท้ายของการประกวด ITU Young Innovators’ Competition จะนำผลงานที่ได้รับรางวัลมาแสดง และพื้นที่ The Lab ซึ่งจำลองภาพการใช้ชีวิตแห่งอนาคตด้วยเทคโนโลยีหลากหลายไม่ว่าจะเป็นหุ่นยนต์หรือเทคโนโลยีที่สวมใส่ได้ ตลอดจนการพิมพ์แบบ 3D”

          “งาน ITU Telecom World 2013 เป็นงานที่เปิดให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องได้มารวมพลังพูดคุยในเรื่องที่สำคัญเกี่ยวกับอุตสาหกรรมไอซีที ที่เป็นเช่นนั้นเพราะงาน ITU Telecom World สามารถดึงคนจากอุตสาหกรรมและภาครัฐในส่วนที่เกี่ยวข้องจริง มาร่วมกันอภิปรายหัวข้อที่จะกำหนดทิศทางแห่งอนาคตของอุตสาหกรรมไอซีทีและโลกของเรา ช่วยให้เราใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อประโยชน์สำหรับทุกคนไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม” ดร. ทูเร กล่าวสรุป

          ผู้ที่สนใจสามารถดูข้อมูลกิจกรรมในงาน ITU Telecom World 2013 ได้ที่ http://world2013.itu.int/event/programme/
สำหรับวีดิโอและภาพนิ่ง สามารถดาวน์โหลดได้ที่ www.flickr.com/photos/itupictures/sets/72157637751840735/

ไทยคม ผู้นำธุรกิจดาวเทียมแห่งเอเชีย พร้อมแสดงนวัตกรรมโทรคมนาคม ในงาน ITU Telecom World 2013

          บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจดาวเทียมแห่งเอเชีย เตรียมแสดงนวัตกรรมทางการสื่อสารโทรคมนาคมผ่านดาวเทียมสุดล้ำ ในงาน ไอทียู เทเลคอม เวิลด์ 2013 (ITU Telecom World 2013) ระหว่างวันที่ 19-22 พฤศจิกายน 2556 ณ บูธเลขที่ J 1.2 อาคารชาเลนเจอร์ 1-2 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี

          ไทยคม พร้อมแสดงนวัตกรรมทางเทคโนโลยี ทั้งในด้านบรอดคาสต์ และบรอดแบนด์ ภายใต้แนวคิด “Drive to New Frontier” สู่ศักยภาพการสื่อสารที่ไร้ขอบเขต ด้วยเทคโนโลยีแห่งอนาคตและสัญญาณดาวเทียมที่มีศักยภาพสูง ครอบคลุมทั่วทั้งภูมิภาค โดยในด้านบรอดคาสต์ ไทยคมเตรียมตอกย้ำความเป็นผู้นำการให้บริการสัญญาณดาวเทียมที่ครอบคลุมเป็น อันดับ 1 ในเอเชีย ด้วยการพัฒนานวัตกรรมการให้บริการโอนถ่ายข้อมูลภาพยนตร์ ในรูปแบบ UHD หรือ Ultra High Definition ที่สุดของความคมชัดของภาพและเสียง ผ่านเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำที่สุดแห่งยุค รวมถึงแสดงศักยภาพของดาวเทียมไทยคม 6 ที่มีช่องสัญญาณมากที่สุดในเอเชีย พร้อมรองรับการเผยแพร่ภาพที่มีความคมชัดสูง (HD) ตอกย้ำความเป็น Hot Bird ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ส่วนในด้านบรอดแบนด์ ไทยคมต่อยอดการพัฒนาเทคโนโลยีที่ตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า ในรูปแบบ Mobility Service ที่ครอบคลุมการใช้งานทั้งภาคพื้นดิน พื้นน้ำ และผืนฟ้า เพื่อให้ทุกการสื่อสารเชื่อมต่อถึงกันได้อย่างต่อเนื่อง

          นอก จากนี้ ภายในงานยังจะได้พบกับผู้นำเทคโนโลยีการสื่อสารในกลุ่มอินทัช ได้แก่ อินทัช และเอไอเอส ที่จะแสดงศักยภาพและนำทุกท่าน ก้าวสู่โลกแห่งเทคโนโลยีการสื่อสารที่ไร้ขีดจำกัด ภายใต้แนวคิด “Technology The Authenticity” ที่จะช่วยตอบสนองทุกความต้องการของชีวิตในโลกยุคดิจิตอล ผ่านการจัดแสดงเทคโนโลยีในโซนต่างๆ อาทิ อินทัช Drive to Metropolis นวัตกรรมการสร้างสรรค์และแนวคิดเพื่อพัฒนาอนาคต และ เอไอเอส Drive to Your World ด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารไร้สาย ที่จะย่อโลกมาอยู่เพียงปลายนิ้วสัมผัส เป็นต้น

ภาพข่าว: เปิดสุดยอดนิทรรศการไอซีทีโลกครั้งแรกในไทย
 
          ผู้นำวงการเทคโนโลยีสารสนเทศระดับโลกร่วมชมนิทรรศการสุดยอดนวัตกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของโลก พร้อมถกแนวทางการพัฒนาไอซีทีของโลกในอนาคต บนเวที ITU Telecom World 2013 ที่จัดขึ้นระหว่าง 19-22 พฤศจิกายนนี้ และไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพครั้งแรกที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมีผู้นำระดับโลกให้เกียรติร่วมงานมากมาย


ในภาพ แถวหน้าจากซ้าย:
1. เชค ซาอุด บิน นาซา อัลทานี ประธานกรรมการ บริษัท ออรีดู จำกัด
2. นายสุรชัย ศรีสารคาม ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
3. น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
4. นายซีอาเลอาตาโอโง ตูอีวากาโน นายกรัฐมนตรีตองกา
5. ดร. ฮามาดูน ทูเร เลขาธิการสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ

แถวหลังจากซ้าย
1. พลอากาศเอก ธเรศ ปุณศรี ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
2. มร. ฟรองซัวส์ แรนซี ผู้อำนวยการสำนักวิทยุสื่อสาร สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ
3. มร. มัลคอล์ม จอห์นสัน ผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานโทรคมนาคม สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ
4. ดร. นพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)
5. นางเพเทียนซ์ โจนาธาน ภริยาผู้นำประเทศไนจีเรีย
6. มร. ฮูลิน เจา รองเลขาธิการสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ
7. มร. ชอน เคียท รองนายกรัฐมนตรี กัมพูชา
8. มร. บราฮิมา ซานู ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาโทรคมนาคม สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ

กสทช. ก.ไอซีที และ สสปน. ร่วมเชิญชวนประชาชนเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในบูธ Royal Pavilion และโชว์ผลงานวิสัยทัศน์ที่บูธ NBTC Pavilion
 

 
          กสทช. ร่วมกับ ก.ไอซีที และ สสปน. เป็นเจ้าภาพจัดงาน ITU Telecom World 2013 ระหว่างวันที่ 19 – 22 พ.ย. 2556 พร้อมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ใน Royal Pavilion และโชว์ผลงานวิสัยทัศน์ที่ NBTC Pavilion รวมถึงจัดระดมความคิดเห็น แลกเปลี่ยนข้อมูลในระดับนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการปกป้องผู้บริโภคจากภัยรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกไซเบอร์ปัจจุบันในงานสัมมนาวิชาการ “ความท้าทายความปลอดภัยในโลกไร้สายของประชาคมอาเซียน-การปกป้องผู้บริโภค” หรือ Mobile Security Challenges and Policy in the ASEAN Community : Consumer Protection Perspectives

          พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (ประธาน กสทช.) เปิดเผยว่า ประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดงาน ITU Telecom World 2013 ด้วยความร่วมมือของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ก.ไอซีที) ในนามของรัฐบาลไทย คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. เป็นเจ้าภาพจัดงาน ระหว่างวันที่ 19 – 22 พ.ย. 2556 ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี กรุงเทพฯ

          กสทช. ร่วมสนับสนุนจากจัดงานครั้งนี้ โดยมีส่วนร่วมพร้อมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการจัด Royal Pavilion และโชว์ผลงานวิสัยทัศน์ใน NBTC Pavilion ในส่วนของ Royal Pavilion กสทช. ได้ร่วมนำเสนอนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การสื่อสารของประเทศไทยตั้งแต่อดีต (สมัยรัชกาลที่ 3) จนถึงปัจจุบัน โดยมีการนำเสนอรายละเอียดเกี่ยวกับพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทยที่ทรงมีส่วนในการวางรากฐานการสื่อสารให้กับประเทศไทย และนำเอาการสื่อสารมาพัฒนาประเทศ นอกจากนี้ กสทช. ยังได้นำอุปกรณ์สื่อสาร วิทยุคมนาคม ที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมอุปกรณ์สื่อสารสมัยโบราณที่หาชมได้ยากมาจัดแสดง ณ Royal Pavilion นี้ด้วย

          พล.อ.อ.ธเรศ กล่าวว่า ในส่วนของ NBTC Pavilion มีการจัดแสดงนิทรรศการล้ำยุครูปแบบ Interactive& Theater Dome ภายใต้แนวคิด “Digital Thailand Digital Community” จัดพื้นที่ออกเป็น 3 Dome ได้แก่ Dome 1 : NBTC Regulate Communications for Thai เป็นการแนะนำองค์กรและวิวัฒนาการความก้าวหน้าของการบริหารและจัดสรรคลื่นความถี่ รวมถึงการดำเนินกิจกรรมและโครงการพัฒนาด้านการสื่อสารโทรคมนาคม และการกระจายเสียง เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนพื้นที่ชนบท ทั้งในด้านของการศึกษา สาธารณสุข สังคม และความมั่นคงปลอดภัย Dome 2 : Go Digital Thailand เป็นการแสดงการเปลี่ยนผ่านระบบการรับส่งสัญญาณโทรทัศน์เป็นระบบดิจิทัล และ Dome 3 : Telecommunication for Thai เป็นการนำเสนอมุมมองสำคัญในด้านโทรคมนาคมของประเทศไทย

          นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอความก้าวหน้าของ แผนแม่บท USO Zoning Concept ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญคือ การลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงโทรคมนาคมและสารสนเทศอย่างทั่วถึง ครอบคลุมบริการโทรคมนาคม ทางเสียงและข้อมูล ในมิติเชิงพื้นที่และเชิงสังคม รวมถึงการยกระดับคุณภาพการให้บริการของหน่วยงานภาครัฐต่อประชาชนผ่านเครือข่ายโทรคมนาคมความเร็วสูงได้อย่างครบวงจรมากขึ้น โดยในแต่ละวัน NBTC Pavilion ยังมีจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อสื่อสารไปยังภาคประชาชนที่สนใจเข้าร่วมชมงาน อาทิ การแสดงวัฒนธรรมไทยที่ผสมผสานกับความเป็นเทคโนโลยีอย่างลงตัว โดย วงโจงกระเบน และ Apple Girl และการแสดงศิลปะแบบร่วมสมัย เป็นต้น

          ประธาน กสทช. กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันพรุ่งนี้ (20 พ.ย. 56) เวลา 16.15-17.45 น. กสทช. กำหนดจัดสัมมนาวิชาการในหัวข้อ “ความท้าทายความปลอดภัยในโลกไร้สายของประชาคมอาเซียน-การปกป้องผู้บริโภค” หรือ Mobile Security Challenges and Policy in the ASEAN Community : Consumer Protection Perspectives ณ บริเวณ Openspace WS1 อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ เพื่อให้หน่วยงานกำกับดูแล ผู้นำด้านสื่อสาร โทรคมนาคม และผู้ทรงคุณวุฒิจากหลายประเทศในภูมิภาคอาเซียนและระดับโลก มาร่วมกันระดมความคิดเห็น แลกเปลี่ยนข้อมูลในระดับนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการปกป้องผู้บริโภคจากภัยรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกไซเบอร์ปัจจุบัน โดยมีวิทยากรที่เข้าร่วมสัมมนา อาทิ Dr. Hamadoun I. Toure เลขาธิการสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ Mr. Mohd Noor Amin ประธานกลุ่มความร่วมมือพหุภาคีระหว่างประเทศเพื่อต่อต้านภัยไซเบอร์ Mr. John Young ผู้อำนวยการ อินโฟคอม ซีเคียวริตี้ แอนด์ แอสชัวรันส์ ประเทศสิงคโปร์ พร้อมได้รับเกียรติจากนาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) และ พลอากาศเอกธเรศ ปุณศรี ประธาน กสทช. ให้เกียรติเป็นวิทยากรพิเศษ ร่วมด้วยผู้เชี่ยวชาญจากประเทศไทย คุณสุรางคนา วายุภาพ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และ ศ.ดร.จิรยุทธ์ มหัทธนกุล รองอธิการบดี และคณบดีบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร

ภาพข่าว: กสทช. ร่วมงานระดับโลก ITU Telecom World 2013



          นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (คนแรกจากซ้าย) ร่วมด้วย นายฮามาดูน ทูเร เลขาธิการสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ที่ 2 จากซ้าย) เยี่ยมชม NBTC Pavilion ภายใต้แนวคิด Digital Thailand Digital Community ในงาน ITU Telecom World 2013 ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี โดยมี พลอากาศเอกธเรศ ปุณศรี ประธาน กสทช. (ที่ 3 จากซ้าย) และนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. (ที่ 4 จากซ้าย) ให้การต้อนรับเมื่อวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา

ภาพข่าว: ประชุม-นิทรรศการไอซีทีโลก

           น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และ ดร. ฮามาดูน ทูเร เลขาธิการสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ พร้อมด้วยผู้นำวงการเทคโนโลยีสารสนเทศระดับโลก ร่วมแถลงข่าวการประชุมประจำปี Connect Asia-Pacific Summit และงานนิทรรศการ ITU Telecom World 2013 ที่จัดขึ้นระหว่าง 19-22 พฤศจิกายนนี้ และไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพครั้งแรกที่
อิมแพ็ค เมืองทองธานี


          ในภาพ ผู้นำที่ร่วมงานแถลงข่าว Connect Asia-Pacific และ ITU Telecom World จากซ้ายได้แก่ มร. บราฮิมา ซานู ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาโทรคมนาคม สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ เชค ซาอุด บิน นาซา อัลทานี ประธานกรรมการ บริษัท ออรีดู จำกัด ดร. นพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ดร. ฮามาดูน ทูเร เลขาธิการสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ มร. วาลีด อัลซายแอด ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ออรีดู จำกัด และ มร. เบลส จุดจ้า ซาโท ผู้บริหาร ไอทียู เทเลคอม

ภาพข่าว: ทรู ร่วมสนับสนุนงานระดับโลก ITU Bangkok 2013 โชว์ศักยภาพ True Cloud Pavilion
 


          นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ (ที่ 4 จากขวา)รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร พร้อมด้วย พลอากาศเอกธเรศ ปุณศรี (ที่ 3 จากซ้าย) ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ และดร.ฮามาดัล ทอเร่ (ที่ 4 จากซ้าย) เลขาธิการสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (International Telecommunication Union; ITU) ซึ่งเป็นองค์กรด้านการกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคมของโลก เยี่ยมชม True Cloud Pavilion ของกลุ่มทรู โดยมี นายธิติฏฐ์ นันทพัฒน์-สิริ (ที่ 5 จากขวา) ผู้อำนวยการบริหารด้านรัฐกิจสัมพันธ์ และนายธาดา เศวตศิลา (ที่ 2 จากขวา) ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจสถาบันการศึกษา บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น พร้อมคณะผู้บริหารให้การต้อนรับ ในงาน ITU Bangkok 2013 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-2 อิมแพค เมืองทองธานี

          True Cloud Pavilion ในงาน ITU Bangkok 2013 จัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ True Work Style on the Cloud ผ่านบริการ True Cloud Service ซึ่งป็นการให้บริการเซิร์ฟเวอร์ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการและสามารถเลือกใช้บริการต่างๆ ได้ตามความเหมาะสมกับธุรกิจ โดยมีโซนต่างๆ ที่สอดคล้องกับชีวิตการทำงานและตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างลงตัว

          - Work Style Zone การจำลองออฟฟิศในอนาคตผสมผสานทั้งดีไซน์และรูปแบบการทำงานอย่างลงตัว ที่ได้จัดแบ่งออกเป็นห้องต่างๆ เพื่อรองรับลูกค้าจากทุกหน่วยงาน พร้อมการสาธิตบริการ iService และให้ข้อมูลเกี่ยวกับ Internet Solution ที่จะมาช่วยให้การทำงานง่ายขึ้น
          - Urban Cloud Zone พื้นที่สวนสีเขียวที่เชื่อมโยงระหว่างเทคโนโลยี Cloud Interactive กับธรรมชาติได้อย่างลงตัว
          - Lifestyle Zone พื้นที่ผ่อนคลายที่จะได้สนุกและเรียนรู้ไปกับทรูวิชั่นส์ ทั้งยังไม่พลาดกับทุกการติดต่อกับบริการ International Service ทั้ง 006, NetTalk และ International Roaming
          - True Coffee Cloud Zone มุมสำหรับพูดคุยธุรกิจที่เสิร์ฟพร้อมเครื่องดื่มจาก True Coffee

          พบกับ True Cloud Pavilion และมอบประสบการณ์พิเศษ Cloud Data Service ให้ได้ทดลองใช้ฟรีเป็นเวลา 15 วัน สำหรับทุกท่านที่เข้ามาปรึกษาธุรกิจ ภายในงาน ITU Bangkok 2013 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-2 อิมแพค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันนี้ - 22 พฤศจิกายน 2556