FB on October 29, 2013, 05:21:58 PM
“หม่ำ” มือขึ้น!! เปิดหนังเรื่องใหม่พลิกสไตล์ตบจูบ “ทาสรักอสูร” คว้าสาวหน้าคม “พิ้งกี้ สาวิกา” ประกบคู่ความฮาโหด




 
          หลังจากผลงานกำกับหนังเรื่องล่าสุด “แหยม ยโสธร 3” กวาดรายได้ไปอย่างถล่มทลาย งานนี้ตลกมากฝีมือ “หม่ำ จ๊กม๊ก” ก็ได้ไฟเขียวจากค่ายใบโพธิ์ “สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล” ให้เปิดหนังใหม่แนวโรแมนติกคอเมดี้โหดมันส์ฮาเรื่อง “ทาสรักอสูร” ต่อทันที ซึ่งล่าสุดเพิ่งทำพิธีบวงสรวงกันไปเมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา ณ บั้งไฟฟิล์ม

          โดยงานนี้ผู้กำกับหม่ำก็ได้เปิดตัวนางเอกที่ เซอร์ไพรส์สุดๆ อย่าง “พิ้งกี้-สาวิกา ไชยเดช” ที่มารับบทประกบคู่กับเขาเป็นครั้งแรก รวมไปถึงนักแสดงสาวมากฝีมือ “อ๋อม-สกาวใจ พูนสวัสดิ์” ที่มารับบทร้ายแนวถนัด ร่วมกับสาวสุดเซ็กซี่ “กระแต-ศุภักษร ไชยมงคล” ที่ติดงานไม่ได้มาร่วมพิธีในครั้งนี้

          ซึ่งหม่ำ จ๊กม๊กที่ควบหน้าที่ทั้งผู้กำกับและนักแสดงนำเช่นเคย ได้เผยถึงที่มาของหนังเรื่องใหม่นี้ว่ามาจากการที่เขาชอบละครหลังข่าวและ หนังในสไตล์ของ “อาเปี๊ยก พิศาล” เจ้าของ “ตำนานตบจูบ” ซึ่งตัวเขาจะทำหนังเรื่องนี้ออกมาใหม่ในสไตล์เฉพาะตัวที่รับรองว่าจะลืมฉาก ตบจูบที่คุณเคยเห็นไปเลย

          “ผมคิดไว้นานแล้วว่าอยากจะทำหนังรัก ซักเรื่อง เราเคยทำหนังรักๆ แบบคุณชายมาแล้วใน ‘วงษ์คำเหลา’ เราเคยทำหนังรักบ้านๆ ใน ‘แหยมฯ’ มาแล้ว ก็เลยคิดหาสไตล์ใหม่ ออกแนวล้อละครหลังข่าวหน่อยในแนวรักโหดๆ มีแอ็คชั่น มีเลิฟซีน มีดราม่า มีซึ้ง ต้องครบรส ก็เลยไปเปิดหนังเก่าๆ ดู ไปเจอหนังพี่เปี๊ยก พิศาลก็เลยปิ๊งไอเดียน่าเอามาทำมาก ก็เลยกลายเป็นเรื่อง ‘ทาสรักอสูร’ ขึ้นมา ตอนไปเสนอเสี่ยเจียง (สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ) เสี่ยบอกโอเคทำเลย เสี่ยชอบอยู่แล้วแบบนี้

          เสี่ยเห็นชื่อแล้วถามว่าเป็นหนัง ชีวิตหรือเปล่า ผมบอกไม่ๆ เป็นหนังตลก ดราม่า มีโรแมนติกด้วย เนื้อเรื่องอาจมีอิงจากในละครบ้าง แต่ผมจะเล่าใหม่ในทางของผม จงลืมตบจูบที่คุณเคยเห็น เพราะเรื่องนี้ไม่ธรรมดาแน่นอน แล้วในเรื่องนี้ก็ได้พิ้งกี้มาเป็นนางเอกให้ พอดีเขาเป็นเพื่อนกับลูกสาวผม ตอนคิดจะทำเรื่องนี้ก็คิดว่าจะไปหาใครมาดีนะ ลูกสาวก็มาบอกว่าพ่อลองคุยกับพิ้งกี้มั้ย เราก็บอกว่าต้องบอกไปนะว่าจะมาเล่นต้องเจอตบจูบ ต้องเล่นเป็นคนหยาบคาย หยาบกระด้าง เค้าจะยอมรึเปล่า แต่คุยไปคุยมาเค้าก็โอเคยอมมาเล่นสบายๆ แต่สุดท้ายกลายเป็นว่าผมคงต้องลำบากใจตอนฉากเลิฟซีนแน่ๆ เพราะผมเป็นคนขี้อาย เล่นเลิฟซีนแล้วมันยังไงไม่รู้ ยังไงก็ฝากด้วยครับ ‘ทาสรักอสูร’ เดี๋ยวจะลุยถ่ายกันเลย ปีหน้าได้ดูกันแน่ๆ ครับ”

          ใครเป็นแฟนหนังของ “หม่ำ จ๊กม๊ก” ต้องมาดูกันว่าผลงานเรื่องใหม่สไตล์ “ตบจูบ” ของเขาจะออกมาไม่ธรรมดาทั้ง “ฮา” และ “โหด” ปีหน้าได้พิสูจน์กันแน่นอน ขอขอบพระคุณอย่างสูง
« Last Edit: May 28, 2014, 10:48:18 AM by FB »

FB on October 31, 2013, 07:04:41 PM
“พิงกี้-สาวิกา” เตรียมโดน “หม่ำ จ๊กม๊ก” จัดหนัก ประกบคู่ “ตบจูบ” ในหนังรักโหดมันส์ฮา “ทาสรักอสูร”



          ถือเป็นเรื่องเซอไพรส์สุดๆ เมื่อ “ทาสรักอสูร” หนังรักโหดมันส์ฮาจากค่ายใบโพธิ์ “สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล” ผลงานการกำกับเรื่องใหม่ของตลกมากฝีมือ “หม่ำ จ๊กม๊ก” ที่คว้านักแสดงสาวฝีมือดีอย่าง “พิ้งกี้-สาวิกา ไชยเดช” มาร่วมงานกันเป็นครั้งแรก แถมยังต้องมาประกบเป็นคู่พระนางกันอีกด้วย

          งานนี้สาวพิ้งกี้ต้องเตรียมตัวเจอกับฉากตบจูบแบบไม่ธรรมดาที่ผู้กำกับหม่ำบอกว่าไม่เหมือนตบจูบที่เคยได้เห็นมา แถมยังมีฉากเลิฟซีนที่รับรองว่าถึงพริกถึงขิงไม่แพ้ละครหลังข่าวกันเลยทีเดียว นอกจากนี้สาวพิ้งกี้ยังปลื้มสุดๆ ที่ได้ร่วมงานกับตลกหน้าเหลี่ยม เพราะชื่นชอบผลงานมาตลอดและตกปากรับคำมาเล่นโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด แม้จะต้องสลัดลุคนางเอกมาเล่นเป็นสาวขี้วีนปากจัดในแบบที่ทุกคนต้องอึ้ง

          ซึ่งนักแสดงสาวหน้าคมพูดถึงการได้มาเล่นหนัง “ทาสรักอสูร” นี้ว่า “คือน้องเอมลูกสาวพี่หม่ำเป็นเพื่อนกับกี้ เขามาชวนว่ามาเล่นหนังของพ่อเรามั้ย ชื่อเรื่อง ‘ทาสรักอสูร’ ต้องเล่นคู่กับพี่หม่ำ เขาก็บอกเราว่าเป็นหนังรักฮาๆ อารมณ์ตบจูบๆ เหมือนละครอาเปี๊ยก พิศาล คือแค่ได้ยินชื่อเรื่องก็เห็นภาพแล้ว กี้ก็ตอบรับเล่นเลย ไม่คิดมาก รู้สึกดีใจค่ะ เคยร่วมงานกันตอนที่กี้ยังเด็ก เวลาผ่านไป ได้มาเล่นคู่กัน ก็ชอบหนังสไตล์พี่หม่ำอยู่แล้ว ก็ขอบคุณที่พี่หม่ำเลือกมาเล่นเรื่องนี้ ในเรื่องนี้กี้ก็พลิกคาแร็คเตอร์เลย อย่างนางเอกในละครจะพูดเรียบร้อยมาก แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ เราจะเป็นคนด่าเก่ง ปากจัด นึกอะไรมาด่าได้ด่าหมด ส่วนเรื่องเลิฟซีน เรื่องตบจูบ ตอนแรกที่พี่หม่ำบอกว่าต้องมีตบจูบ ต้องมีเลิฟซีนนะ ตอนแรกก็กลัวว่าจะเหมือนเลิฟซีนใน ‘จันดารา’ รึเปล่า แต่ไม่ใช่อย่างนั้น คือเวอร์ชั่นของพี่หม่ำ ลองคิดถึงฟีลนางเอกแบบสมัยก่อนที่โดนพระเอกฉุดกระชากลากถูไปอยู่ในเกาะ คือจะคล้ายๆ แบบในละคร แต่วิธีการเล่าจะแตกต่าง จะเป็นวิธีการแบบพี่หม่ำ รับรองว่าไม่เหมือนตบจูบเรื่องไหนๆ ต้องไปดูกันนะคะ ‘ทาสรักอสูร’ ค่ะ”

          ใครที่เป็นแฟนของนักแสดงสาวมากฝีมือ “พิงกี้-สาวิกา” ต้องมาดูกันว่าการได้มาร่วมงานกับ “หม่ำ จ๊กม๊ก” ในเรื่องนี้จะออกมาฮาขนาดไหน แล้วฉาก “เลิฟซีน-ตบจูบ” จะแซบขนาดไหนในหนังรักโหดมันส์ฮา “ทาสรักอสูร” ปีหน้าได้ดูกันแน่นอน
« Last Edit: May 28, 2014, 10:48:34 AM by FB »

FB on May 28, 2014, 10:47:50 AM
“ทาสรักอสูร” หนังรักหฤโหด โคตรมหาฮาผลงานกำกับเรื่องที่ 11 ของ “หม่ำ จ๊กม๊ก”ประกบสามสาว “พิ้งกี้-อุ้ม-อ๋อม”









           สาวกความฮาเตรียมตัวเตรียมใจ เพราะการกลับมาอีกครั้งของตลกมากฝีมือ “หม่ำ จ๊กม๊ก” แห่ง “บั้งไฟฟิล์ม” ที่แท็คทีมกับ “สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล” มาร่วมสร้างความโหดมันฮาครั้งใหม่ที่รับรองว่าคนดูต้องเซอร์ไพรส์จนท้องแข็งกับ “ทาสรักอสูร” ผลงานหนังเรื่องใหม่ลำดับที่ 11 ที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ “หนังรักหฤโหด โคตรมหาฮา” ที่เห็นชื่อแล้วให้นึกไปถึงละครหลังข่าวในสไตล์ของ “อาเปี๊ยก-พิศาล อัครเศรณี” เจ้าของตำนานรักโหดสุดคลาสสิค และนั่นคือแรงบันดาลใจของผู้กำกับหม่ำในการหยิบคอนเซ็ปต์นี้มาเล่าใหม่ในสไตล์ของเขาเอง ซึ่งรับรองว่าเขาจะเปิดตำนานรักครั้งใหม่นี้ได้ไม่เหมือนครั้งไหนๆ อย่างแน่นอน
จะเป็นยังไง เมื่อ “หม่ำ จ๊กม๊ก” ที่กำกับและสวมบทแสดงนำอีกเช่นเคย ต้องพลิกบทบาทเป็น “ชายเถื่อนไร้หัวใจ” ที่ทุกคนต้องอึ้งและฮา พร้อมประกบคู่กับนางเอกสาวหน้าคม “พิ้งกี้-สาวิกา ไชยเดช” กับบทบาทที่ทั้งวงการต้องเซอร์ไพรส์กับการรับบทเป็น “สาวสวยเมืองกรุงขี้วีนด่าเช็ดเม็ด” ที่บอกได้คำเดียวว่าน่าจับตาสุดๆ กับการประกบคู่แก้แค้นแบบทั้งรักทั้งเกลียดกันของ “พี่หม่ำ-น้องพิ้งกี้” ในครั้งนี้ ร่วมด้วยสองดาวร้ายขวัญใจแม่ค้าตัวท็อปของประเทศอย่าง “อ๋อม-สกาวใจ พูนสวัสดิ์” และ “อุ้ม ลักขณา วัธนวงส์ศิริ” ที่ขอมาเป็นเสี้ยนหนามในตำนานรักครั้งใหม่นี้

          ซึ่ง “หม่ำ จ๊กม๊ก” พูดถึงผลงานกำกับเรื่องล่าสุดนี้ว่า

          “มันมาจากการที่เราอยากเปลี่ยนสไตล์ อยากตลกแบบดราม่า ซีเรียสนิดๆ ด้วยความที่ผมเป็นคนชอบดูหนังไทยเก่าๆ ละครก็ดูบ้าง ก็เลยมาปิ๊งที่สไตล์หนังของพี่เปี๊ยกพิศาล ก็ถือเป็นแรงบันดาลใจของการทำหนังเรื่องนี้นะ ก็เลยคิดว่าเอามาทำเป็นแบบฮาๆ ดีมั้ย เราไม่ต้องใช้คำหรูๆ ใช้คำง่ายๆ ให้อารมณ์เป็นภาพยนตร์รักหฤโหด โคตรมหาฮา ซึ่งเราไม่ได้ตบจูบๆ เหมือนเขา แต่ของเราเป็นคิวแอ็คชั่นเวอร์ๆ สวยๆ แทน ถ้าถามว่าจะต่างจากละครหลังข่าวยังไง ผมว่าคนละอย่างกันเลย อันนี้มันก็จะทางของเรา ตอนไป

          เสนอเสี่ยเจียง (สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ) เสี่ยเห็นชื่อแล้วถามว่าเป็นหนังชีวิตหรือเปล่า ผมบอกไม่ๆ มันเป็นหนังตลก ดราม่า มีโรแมนติกด้วย เนื้อเรื่องอาจมีอิงจากในละครบ้าง แต่ผมจะเล่าใหม่ในทางของผม เราก็มานั่งไล่เรียงว่าจะทำยังไงดี ก็เลยมานั่งคุยกับทีมงานว่าบทมันน่าจะเป็นแบบนี้นะ เราอยากจะทำอะไรให้แตกต่าง คือถ้าเราจะทำให้มันเหมือนเป็นละคร มันก็ไม่ได้ เราต้องทำฟีลภาพยนตร์ที่มันต้องดูหนาๆ เข้มข้นกว่านั้น”

          ตำนานรักครั้งใหม่สุดเข้มข้นที่มีหัวใจเป็นเดิมพัน...กำลังเริ่มต้นขึ้นทั้งรัก ทั้งแค้น ทั้งมันส์ ทั้งฮา ด้วยลีลาแบบ 360 องศา ในแบบที่คุณต้องลืมนิยายรักหฤโหดที่เคยดูไปได้เลยกับ “ทาสรักอสูร” ภาพยนตร์รักหฤโหด โคตรมหาฮา เดี๋ยว “รัก” เดี๋ยว “โหด” 10 กรกฎาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์
« Last Edit: June 06, 2014, 08:59:42 AM by FB »

FB on June 10, 2014, 11:13:01 PM
หม่ำ จ๊กม๊ก” พลิกคาแร็คเตอร์เป็น “ชายเถื่อนไร้หัวใจ” มาดเข้ม เต็มความแค้น ใน “ทาสรักอสูร”




 
           หลายคนคงลุ้นว่าผลงานหนังเรื่องใหม่ “ทาสรักอสูร” ของค่ายใบโพธิ์ “สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล” และ “บั้งไฟฟิล์ม” ผลงานการกำกับและนำแสดงของตลกมากฝีมือ “หม่ำ จ๊กม๊ก” จะมาพร้อมลุคยังไง จะสวมบทบาทเป็นใคร และคาแร็คเตอร์แบบไหน เพราะแทบทุกบทบาทของเขานั้นเรียกเสียงฮาจากบรรดาแฟนๆ ได้ทุกครั้งไป และในหนังรักหฤโหด โคตรมหาฮา “ทาสรักอสูร” เขาต้องพลิกบทบาทเป็น “พิศาล” เอ้ย...ยยย “ชายเถื่อนไร้หัวใจ” ที่ชื่อว่า “นายหัวเพิ่ม” ซึ่งถือเป็นบทบาทที่มีบุคลิกใกล้เคียงตัวจริงของเขาอยู่ไม่น้อย กับมาดหัวหน้าใหญ่ที่ใครๆ ก็ต้องยำเกรง ประกบคู่กับนางเอกสาวตาคม “พิ้งกี้-สาวิกา ไชยเดช” แต่งานนี้เจ้าตัวถึงกับโอดว่าบทนายหัวเพิ่มนั่นไม่ง่ายเลย เพราะไหนจะต้องใส่วิก ติดหนวดเครา แถมในเรื่องนี้ยังแทบไม่ได้ยิ้มเลยอีกด้วย ถือเป็นบทบาทที่ทำเอาผู้กำกับหม่ำถึงกับเครียดไปเลยทีเดียว ซึ่งนายหัวหม่ำพูดถึงบทบาทที่ได้รับในหนังเรื่องใหม่ว่า

          “รับบทเป็น นายหัวเพิ่ม ครับ เป็นเจ้าของเกาะ เป็นคนที่จริงจังแต่ว่าก็มีความจริงใจนะ แต่ด้วยความที่มีอดีตฝังใจเรื่องการตายของพี่สาว ก็เลยทำให้เป็นคนเคร่งขรึม ก็ถือว่าเป็นบทที่เครียดเหมือนกันนะ ทั้งเรื่องไม่ได้ยิ้มเลย ลุคก็จะเข้มๆ อาร์ติสต์ ศิลปินหน่อยๆ ต้องมีการติดหนวดติดเครา ใส่วิกผมยาว บุคลิกออกแนวเถื่อนๆ แล้วหนังเรื่องนี้เกิดขึ้นที่ใต้ ก็เลยต้องมีพูดใต้กันบ้าง ปกติก็พูดใต้ได้ประมาณนึงอยู่แล้ว โชคดีที่เคยไปอยู่ใต้มาก่อน ไปอยู่กับแม่ที่พังงา ก็พอได้อยู่”

          เห็นลุค “นายหัวเพิ่ม” ของ “หม่ำ จ๊กม๊ก” แล้วงานนี้สาวๆ คงกลัว เอ้ย...คงกรี๊ดกันทั้งบ้านทั้งเมือง ต้องไปติดตามบทบาทใหม่ของเขาที่ทั้ง “โหด” ทั้ง “ฮา” ในหนังรักหฤโหด โคตรมหาฮา “ทาสรักอสูร” พร้อมฉาย 10 กรกฏาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์

FB on June 11, 2014, 03:31:02 PM
ตัวอย่าง “ทาสรักอสูร” เข้าฉาย 10 กรกฎาคม 57 ทุกโรงภาพยนตร์





ตัวอย่าง ทาสรักอสูร (Official Tr. HD)
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=ieyTHaivMLg" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=ieyTHaivMLg</a>
 
          จงลืมนิยายรักหฤโหดอันลือลั่นที่คุณเคยรู้­จัก เพราะว่าตลกหน้าเหลี่ยม "หม่ำ จ๊กม๊ก" จะเปิดตำนานรักครั้งใหม่ที่ไม่เหมือนครั้ง­ไหนๆ เมื่อเขาต้องรับบท "นายหัว ชายเถื่อนไร้หัวใจ" ที่จะมาปะทะกับ "สาวเมืองกรุงแสนสวยแต่ขี้วีน" พิงกี้ สาวิกา"

          ตำนานรักครั้งใหม่ของเจ้านายกับทาสผู้ถูก­ทำร้ายโดยไม่มีความผิด ที่มีหัวใจเป็นเดิมพัน..... กำลังจะถือกำเนิดขึ้น ทั้งรัก ทั้งแค้น ทั้งมันส์ ทั้งฮา ด้วยลีลาตบจูบแบบ 360 องศา ใน ทาสรักอสูร

          ยิ่งแค้น ยิ่งรัก ยิ่งหฤโหด ยิ่งโคตรหฤฮา  ทาสรักอสูร ภาพยนตร์รักตบจูบ โดย เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา 10 กรกฎาคม 57 ฮาปากแตกในโรงภาพยนตร์
« Last Edit: June 12, 2014, 03:32:06 PM by FB »

FB on June 12, 2014, 03:38:11 PM
“หม่ำ จ๊กม๊ก” นำทีม “พิ้งกี้-อ๋อม-อุ้ม” แถลงข่าวหนังรักหฤโหด โคตรหฤฮา “ทาสรักอสูร” งานกำกับเรื่องที่ 11 ในรอบ 10 ปี





          แถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วสำหรับหนังรักหฤโหด โคตรหฤฮา “ทาสรักอสูร” ของค่ายใบโพธิ์ “สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล” และ “บั้งไฟฟิล์ม” ผลงานการกำกับเรื่องที่ 11 ของผู้กำกับ “หม่ำ จ๊กม๊ก” ที่คราวนี้ก็ยังควบตำแหน่งกำกับ, เขียนบท และแสดงนำแบบจัดเต็มความสนุกอีกครั้ง เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา ณ ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยาม เซ็นเตอร์

          เปิดแกลเลอรี่เสพงานอาร์ตที่เป็นธีมงานนี้ด้วยการพูดคุยกับ “นายหัวเพิ่ม” (หม่ำ จ๊กม๊ก) เจ้าของเกาะผู้รักงานศิลปะเป็นชีวิตจิตใจ พร้อมด้วยสองสาวผู้ตามแย่งหัวใจของนายหัวสุดชีวิตอย่าง “ดอกอ้อ” (อ๋อม-สกาวใจ พูนสวัสดิ์) และ “เจ็ทสกี” (อุ้ม-ลักขณา วัธนวงส์ศิริ) ก่อนที่จะเปิดตัว “อู้อี้” (พิ้งกี้-สาวิกา ไชยเดช) สาวสวยผู้เป็นแรงบันดาลใจในงานศิลปะของนายหัวเพิ่มครั้งนี้ พร้อมเมาท์มอยเบื้องหลังรายละเอียดภาพยนตร์ท่ามกลางบรรยากาศคึกคักและเสียงหัวเราะร่วนของเหล่าสื่อมวลชนและแขกผู้มีเกียรติตลอดงาน

          หลังจากนั้น เป็นการเปิดตัวอย่างภาพยนตร์เรื่องนี้โชว์ครั้งแรกต่อหน้าสื่อมวลชนที่ดูพร้อมกับทีมนักแสดงอย่างครื้นเครง

          ส่งท้ายงานด้วยการเชิญ “พี่มด-เอ็นดู วงษ์คำเหลา” ภรรยาสุดที่รักของผู้กำกับหม่ำขึ้นเวทีพร้อมกรรไกรบิ๊กเบิ้มขึ้นมาตัด... ริบบิ้นเปิดงานศิลปะครั้งนี้ เล่นเอานายหัวหม่ำสะดุ้งโหยง เพราะดันหยอกล้อกับสามนางเอก-นางร้ายสาวสวยแบบเต็มๆ ตลอดทั้งงานไปก่อนหน้านี้

          จากนั้นจึงเป็นการถ่ายรูปรวมทีมผู้กำกับ-นักแสดง และทีมผู้บริหารเป็นการปิดงานนี้อย่างชื่นมื่น

FB on June 17, 2014, 04:04:36 PM
Movie: ทาสรักอสูร








 
ยิ่งแค้น ยิ่งรัก
ยิ่งหฤโหด ยิ่งโคตรหฤฮา
จงลืมนิยายรักหฤโหดอันแสนลือลั่นที่คุณเคยรู้จัก
เพราะว่าตลกหน้าเหลี่ยม “หม่ำ จ๊กม๊ก” จะเปิดตำนานรักครั้งใหม่ที่ไม่เหมือนครั้งไหนๆ
จะเป็นยังไง เมื่อเขาต้องพลิกบทบาทเป็น “พิศาล” เอ้ย...ยยย “ชายเถื่อนไร้หัวใจ” ที่ทุกคนต้องอึ้งและฮา
ปะทะ “สาวเมืองกรุงแสนสวยขี้วีน” ที่รับบทโดยนักแสดงสาวหน้าคม “พิ้งกี้-สาวิกา ไชยเดช”
ตำนานรักครั้งใหม่สุดเข้มข้นที่มีหัวใจเป็นเดิมพัน...กำลังเริ่มต้นขึ้น
ทั้งรัก ทั้งแค้น ทั้งมันส์ ทั้งฮา ด้วยลีลาแบบ 360 องศา
กับภาพยนตร์รักหฤโหด โคตรหฤฮา
10 กรกฎา ฮาปากแตก
ทุกโรงภาพยนตร์

กำหนดฉาย 10 กรกฎาคม 2557
แนวภาพยนตร์ รักหฤโหด โคตรหฤฮา
บริษัทผู้สร้าง-จัดจำหน่าย สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
บริษัทดำเนินงานสร้าง บั้งไฟ ฟิล์ม
อำนวยการสร้าง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ
ควบคุมงานสร้าง เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา, บุษราคัม วงษ์คำเหลา
กำกับภาพยนตร์ เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา
บทภาพยนตร์ เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา, พิพัฒน์ จอมเกาะ
กำกับภาพ จิระเดช สำเนียงเสนาะ
ออกแบบงานสร้าง บุญชัย อภินทนาพงศ์
กำกับศิลป์ ถนอม นันทวรพงษา
ลำดับภาพ บุญชัย อภินทนาพงศ์
ดนตรีประกอบ คณิศร พ่วงจีน
ออกแบบเครื่องแต่งกาย นิรชรา วรรณาลัย
แต่งหน้า ปริญญา ปานตั้น
ทำผม เชิดศักดิ์ ชมงาม
ฟิล์มแล็บ บริษัท สยามพัฒนาฟิล์ม จำกัด
บันทึกเสียง ห้องบันทึกเสียงรามอินทรา
ทีมนักแสดง เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา, สาวิกา ไชยเดช, ลักขณา วัธนวงส์ศิริ, สกาวใจ พูนสวัสดิ์, กัญญาณัท แสงสุข, บุญเจิด นวนสุวรรณ

เรื่องย่อ
          เรื่องราวรักสุดเข้มข้น เดี๋ยวก็ “ฮา” เดี๋ยวก็ “โหด” เริ่มต้นขึ้นหลังจากที่ “อู้อี้” (พิงกี้ สาวิกา) หญิงสาวเมืองกรุงสุดไฮโซ ฟื้นขึ้นมาบนเรือลำหนึ่งและพบกับความจริงว่า เธอกำลังถูกลักพาตัวมายังเกาะๆ หนึ่งโดยที่เธอก็ไม่รู้ว่าใครกันที่จับเธอมาและด้วยเหตุผลอะไรกัน “ทำไมถึงทำกับฉันด้าย...ยยยยยย”
          จนเมื่อเรือมาจอดที่เกาะ เธอก็พบว่าคนที่จับเธอมาคือ “นายหัวเพิ่ม” (หม่ำ จ๊กม๊ก) เจ้าของเกาะมาดเถื่อน ผู้ที่จมอยู่กับอดีต และความแค้นที่มีคนมาทำร้ายจิตใจพี่สาวของตนจนเต้องฆ่าตัวตายไป
          และนี่คือเหตุผลที่เขาจับตัวอู้อี้มา เพราะต้องการแก้แค้นพ่อของอู้อี้ที่เป็นคนทำร้ายพี่สาวของเขานั่นเอง
          อู้อี้ต้องถูกกดขี่ ถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจ และต้องตกเป็นทาสของนายหัวเพิ่ม ซึ่งนั่นยังไม่ทุกข์ทรมานพอ เพราะเธอยังต้องเจอภัยเสริมจาก “ดอกอ้อ” อดีตแฟนเก่าสุดเร่าร้อนของนายหัวเพิ่ม และ “เจ็ทสกี” หลานสาวสุดเซ็กซี่ของลูกน้องคนสนิท ที่ต่างพากันกลั่นแกล้งเพราะหึงหวงกลัวอู้อี้จะกลายมาเป็นเมียใหม่ของนายหัวเพิ่ม
          “กักขังฉันเถิดกักขังไป ขังตัว อย่าขังหัวใจดีกว่า”
          เมื่อใจสองใจใกล้กัน แม้จะมี “ด่า” มี “ตบ” มี “กระทืบ” กันบ้าง แต่นั่นก็ทำให้นายหัวเพิ่มกับอู้อี้ เริ่มผูกพันกันเกินกว่าคำว่า “เจ้านาย” กับ “ทาส” ติดแต่เพียงทิฐิที่ทั้งคู่ยังก้าวผ่านไม่ได้
          ความแค้น ความเกลียดชัง และความรักแบบซาดิสม์ “ตบแล้วจูบ…พูดแล้วรัก” สไตล์ละครหลังข่าว ผสมผสานความฮาของการล้อเลียน ตำนานรักของอสูรผู้นี้จะจบลงที่ทาสรักอย่างไร เธอและเขาจะตามหาหัวใจกันเจอมั้ย...
          10 กรกฎาคมนี้ กับ “ทาสรักอสูร...รรรรรร”

FB on June 17, 2014, 04:05:14 PM
          ผลงานความฮาลำดับที่ 11 ของ “นายหัวหม่ำ” จัดให้ทั้ง “โหด” ทั้ง “ฮา”
          ใครจะเชื่อว่าตลกหน้าเหลี่ยมมากฝีมือ “หม่ำ จ๊กม๊ก” กำลังจะมีผลงานกำกับภาพยนตร์เป็นเรื่องที่ 11 เข้าไปแล้ว หลังจากมีผลงานกำกับเรื่องแรก “บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม” ในปี พ.ศ.2547 ก่อนจะมีหนังหลากหลายสไตล์ความฮาให้ผู้ชมได้มีความสุขมาอย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่าเป็นผู้กำกับมากความสามารถที่มีผลงานออกมาสู่สายตาคอหนังมากที่สุดคนหนึ่งแห่งยุค
          และในปี 2557 นี้ เขากลับมาอีกครั้งกลับหนังที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “หนังรักหฤโหด โคตรหฤฮา” ที่มีชื่อว่า “ทาสรักอสูร” ซึ่งเขาได้พูดถึงจุดเริ่มต้นของหนังเรื่องนี้ว่า
          “มันมาจากการที่เราอยากเปลี่ยนสไตล์ อยากตลกแบบดราม่า ซีเรียสนิดๆ ด้วยความที่ผมเป็นคนชอบดูหนังไทยเก่าๆ ละครก็ดูบ้าง ก็เลยมาปิ๊งที่สไตล์หนังของพี่เปี๊ยกพิศาล ก็ถือเป็นแรงบันดาลใจของการทำหนังเรื่องนี้นะ ก็เลยคิดว่าเอามาทำเป็นแบบฮาๆ ดีมั้ย เราไม่ต้องใช้คำหรูๆ ใช้คำง่ายๆ ให้อารมณ์เป็นภาพยนตร์รักหฤโหด โคตรมหาฮา ซึ่งเราไม่ได้ตบจูบๆ เหมือนเขา แต่ของเราเป็นคิวแอ็คชั่นเวอร์ๆ สวยๆ แทน
          ถามว่าเราจะทำทาสรักอสูรล้อเลียนละครหรือเปล่า ก็ไม่นะ ผมว่าคนละอย่างกันเลย อันนี้มันก็จะทางของเรา ตอนไปเสนอเสี่ยเจียง (สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ) เสี่ยเห็นชื่อแล้วถามว่าเป็นหนังชีวิตหรือเปล่า ผมบอกไม่ๆ เป็นหนังตลก ดราม่า มีโรแมนติกด้วย เนื้อเรื่องอาจมีอิงจากในละครบ้าง แต่ผมจะเล่าใหม่ในทางของผม เราก็มานั่งไล่เรียงว่าจะทำยังไงดี ก็เลยมานั่งคุยกับทีมงานว่าบทมันน่าจะเป็นแบบนี้นะ เราอยากจะทำอะไรให้แตกต่าง คือถ้าเราจะทำให้มันเหมือนเป็นละคร มันก็ไม่ได้ เราต้องทำฟีลภาพยนตร์ที่มันต้องดูหนาๆ กว่านั้น”
          หลังจากสร้างตำนานรักรากหญ้า “แหยม ยโสธร” จนประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องมาแล้ว 3 ภาค รวมไปถึงตำนานรักไฮโซ “วงษ์คำเหลา” ที่ได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลามไม่แพ้กัน “หม่ำ จ๊กม๊ก” ก็เลยตั้งใจพิถีพิถันทำ “ทาสรักอสูร” ให้มีความพิเศษและแตกต่างจากทุกเรื่องที่เคยทำมา ซึ่งเจ้าตัวพูดถึงความโหดมันฮาที่อยู่ในหนังเรื่องนี้ว่า
          “ผมคิดไว้นานแล้วว่าอยากจะทำหนังรักสไตล์ใหม่ซักเรื่อง เราเคยทำหนังรักๆ แบบคุณชายมาแล้วใน วงษ์คำเหลา เราเคยทำหนังรักบ้านๆ ใน แหยมยโสธร มาแล้ว อันนี้ก็จะออกแนวรักโหดๆ ดูบ้าง คือมีความเป็นหนังรักสไตล์โหดแบบสมัยก่อนอยู่ แต่ก็ใส่ความตลก เพิ่มสีสันของคาแร็คเตอร์ตัวละครไป มีฉากแอ็คชั่น ฉากดีไซน์ ให้มันมีมิติ ด้วยเนื้อเรื่องแล้วผมว่าครบรสนะ โหด มัน ฮา”
          “มันเป็นเรื่องราวของนายหัวเพิ่ม ที่มีความแค้นอยู่ในใจ เพราะพี่สาวเขาฆ่าตัวตายไป เพราะโดนผู้ชายที่กรุงเทพฯ หลอก นายหัวเพิ่มก็เลยไปจับลูกสาวเขามาเป็นตัวประกัน ก็ใช้งานเป็นทาส สนองความแค้นกันไป แต่เรื่องนี้มันจะต่างจากในละครเลยนะ คาแร็คเตอร์อู้อี้ที่พิ้งกี้เล่นเนี่ย ไม่ใช่นางเอกในละครเลย แต่เป็นผู้หญิงขีวีน ชอบพูดหยาบคาย แต่พระเอกนี่จะขรึมๆ ไม่พูด ไม่ยิ้มเลย คือตัวละครสองตัวก็ห้ำหั่นกันไป จนเกิดเป็นความรักที่ไม่รู้ตัว แต่ก็มีสองตัวร้ายคือ คุณนายดอกอ้อ กับ เจ็ทสกี ที่หวังเคลมนายหัวเพิ่ม ก็เลยกลั่นแกล้งนางเอก คือนายหัวเพิ่มหล่อมากไง ก็ต้องแย่งกัน ก็สุดท้ายหนังจะลงเอยด้วยความแค้นหรือความรักต้องไปดูกัน”
          หลายคนคงอยากรู้ว่า ฉากรักหฤโหดจะถูกดีไซน์ออกมาแบบไหน ในทางของผู้กำกับหม่ำ ซึ่งบอกได้คำเดียวว่าคงต้องลืมนิยายรักฉบับเดิมๆ ไปได้เลย เพราะในเรื่องนี้เขาขอจัดให้แบบทั้งมันทั้งฮาด้วยลีลาแบบ 360 องศา เลยทีเดียว
          “ก็อยากให้นึกถึงหนัง พี่พันนาไว้เลย (พันนา ฤทธิไกร ปรมาจารย์นักบู๊อันดับหนึ่งของเมืองไทย) อารมณ์นั้นเลย พิ้งกี้มากองบางทียังงงเลย บอกนี่มันหนังแอ๊คชั่นรึเปล่าน้าหม่ำ แล้วพิ้งกี้นี่โดนสารพัดเลยนะ ผมก็โดนถีบทะลุหลังคาออกมาเลยก็มี แล้วก็มีฉากสามสาวรุมตบกัน (พิ้งกี้-อุ้ม-อ๋อม) ก็แอ็คชั่นเต็มๆ เลยนะฉากนี้มีสลิง มีการวางแผนกันนาน เราก็ดีไซน์ไม่ให้ออกมาเป็นฉากตบธรรมดา อารมณ์เหมือนหนังโจวชิงฉือนิดๆ มีขึ้นสลิง กระโดดตบเหมือนแข่งวอลเล่ย์บอลเลย ก็ทั้งพิ้งกี้, อุ้ม, อ๋อม เขาก็ต้องมีขึ้นสลิง แล้วแต่ละคนนี่ไม่เคยต้องมาแอ็คชั่นอะไรแบบนี้เลย แล้วถ่ายกันตั้งแต่เช้ายันเย็น ถ่ายยากนะฉากนี้ ลองดูในหนังกัน ส่วนผมกับพิ้งกี้ก็มีปะทะคารมกันตลอด ก็โดนเขาด่าต่างๆ นานา แต่ละคำนี่อื้อหือ แล้วเวลาทะเลาะกันอยากให้นึกถึงหนังพี่พันนาไว้ แบบนั้นเลย ลองไปดูกัน”

          ทีมรักหฤโหด โคตรหฤฮา
          นายหัวเพิ่ม (รับบทโดย เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา) - ชายผู้มีจิตใจอ่อนไหว สุภาพในคำพูด ก้าวร้าวในการกระทำ รักในศิลปะการวาดภาพจนถึงศิลปะการต่อสู้ เขาจมอยู่กับอดีตรักแสนขม และความแค้นที่มีคนมาทำร้ายจิตใจพี่สาวจนฆ่าตัวตาย จึงออกตามล่าหาคนๆ นั้น แต่กลับได้ อู้อี้ ลูกสาวเขากลับมาแทน
          หลายคนคงลุ้นว่าผลงานหนังเรื่องใหม่ของ “หม่ำ จ๊กม๊ก” จะสวมบทบาทเป็นใคร และคาแร็คเตอร์แบบไหน เพราะแทบทุกบทบาทของเขานั้นเรียกเสียงฮาจากบรรดาแฟนๆ ได้ทุกครั้งไป และใน “ทาสรักอสูร” เขาถึงกับต้องพลิกบทบาทเป็น “พิศาล” เอ้ย...ยยย “ชายเถื่อนไร้หัวใจ” ที่ชื่อว่า “นายหัวเพิ่ม” ซึ่งถือเป็นบทบาทที่มีบุคคลิกใกล้เคียงตัวจริงของเขาอยู่ไม่น้อย กับมาดหัวหน้าใหญ่ที่ใครก็ต้องยำเกรง แต่งานนี้เจ้าตัวถึงกับโอดว่าบทนี้มันไม่ง่ายเอาซะเลย
          “นายหัวเพิ่มเป็นเจ้าของเกาะ เป็นคนที่จริงจังแต่ว่าก็มีความจริงใจนะ แต่ด้วยความที่มีอดีตฝังใจเรื่องการตายของพี่สาว ก็เลยทำให้เป็นคนเคร่งขรึม ก็ถือว่าเป็นบทที่เครียดเหมือนกันนะ ทั้งเรื่องไม่ได้ยิ้มเลย ลุคก็จะเข้มๆ อาร์ติสต์ ศิลปินหน่อยๆ ต้องมีการติดหนวดติดเครา ใส่วิกผมยาว บุคลิกออกแนวเถื่อนๆ แล้วหนังเรื่องนี้เกิดขึ้นที่ใต้ ก็เลยต้องมีพูดใต้กันบ้าง ปกติก็พูดใต้ได้ประมาณนึงอยู่แล้ว โชคดีที่เคยไปอยู่ใต้มาก่อน ไปอยู่กับแม่ที่พังงา ก็พอได้อยู่”
          นอกจากงานนี้เราจะได้เห็นฉากรักหฤโหดในสไตล์ของนายหัวหม่ำแล้ว เรายังได้สัมผัสรสชาติความแค้นและความรักของสองพระนางที่รับรองว่าเข้มข้นกว่ารสชาติละครหลังข่าวที่คุณคุ้นเคย อย่างในฉากเลิฟซีนระหว่าง “หม่ำ-พิ้งกี้” ที่กว่าจะได้ฉากนี้ผู้กำกับหม่ำต้องตัดสินใจอยู่นาน ด้วยความที่เป็นคนขี้อายสุดๆ แถมยังเกรงใจภรรยาสุดที่รัก ไหนจะยังมี “น้องเอ็ม บุษราคัม” ลูกสาวสุดที่รัก ที่คุณแม่ส่งมาคุม เอ้ย..ไม่ใช่ มาสวมตำแหน่งเป็นโปรดิวเซอร์ให้คุณพ่อเต็มตัวครั้งแรกอีก บอกได้คำเดียวว่าฉากนี้ผู้กำกับทำใจลำบากเหลือเกิน
          “ต้องบอกเลยว่าเกร็งมาก เขินมากกับฉากนี้ ก็คุยกับทีมงานว่าไม่เอาได้มั้ย ทีมงานก็รู้ว่าถ้าถ่ายฉากนี้เนิ่นๆ ผมไม่เอาแน่ ก็เลยเอาไว้วันสุดท้ายเลย เราก็ไม่คอยอยาก เพราะเกรงใจพิ้งกี้ แต่ทีมงานบอกมันต้องมี ตัวพิ้งกี้เค้าเฉยๆ ไม่ได้อะไรอยู่แล้ว แต่เราไม่ชอบกอดชอบเล่นฉากเลิฟซีนอะไรแบบนี้กับนางเอกอยู่แล้ว คือพอมันกอดแล้วมันไม่มั่นใจในตัวเอง มันอาย พิ้งกี้ก็บอกว่าน้าหม่ำเต็มที่เลย แต่เราก็อ๊ายอายที่พิ้งกี้พูดแบบนี้ เราก็บอกน้าขอทีเดียว เทคเดียวเลย ให้พิ้งกี้ตั้งใจนะ แล้วก็เทคเดียวผ่านเลย”
          อู้อี้ (รับบทโดย สาวิกา ไชยเดช) - หญิงสาวชาวเมืองสุดไฮโซ สาวมั่นกล้าในทุกๆ เรื่อง ไม่เคยกลัวใคร เป็นคนตรงและปากจัด ถึงระดับปากหมาเลยทีเดียว ชอบพูดคำหยาบจนเป็นนิสัย นายหัวเพิ่มลักพาตัวอู้อี้มาเพื่อแก้แค้น โดยที่เธอก็ไม่รู้ว่าเธอไปทำอะไรไว้ ถึงมาทำได้กับเธอขนาดนี้
          ถือเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์สุดๆ เมื่อ “ทาสรักอสูร” ไปคว้านักแสดงสาวฝีมือคับแก้วอย่าง “พิ้งกี้-สาวิกา ไชยเดช” มาร่วมงานกันเป็นครั้งแรก ซึ่งงานนี้สาวพิ้งกี้ต้องมาพลิกบทบาทชนิดช็อกวงการแบบที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน กับบท “อู้อี้” หญิงสาวขี้วีนปากจัดที่ถูกจับมาชดใช้ความแค้นของนายหัวเพิ่ม เรียกว่าสลัดคราบนางเอกละครที่คุ้นตากันไปเลย
          “อู้อี้ก็จะเป็นเหมือนลูกคุณหนูเอาแต่ใจคนหนึ่ง อารมณ์นางเอกหนังไทยที่ต้องโดนจับเป็นตัวประกัน เพราะเกิดความเข้าใจผิด ที่กี้มีโอกาสได้มาร่วมงานกับพี่หม่ำ คือน้องเอ็มลูกสาวพี่หม่ำเป็นเพื่อนกับกี้ เขามาชวนว่ามาเล่นหนังของพ่อเรามั้ย ชื่อเรื่อง ‘ทาสรักอสูร’ ต้องเล่นคู่กับพี่หม่ำ เขาก็บอกเราว่าเป็นหนังรักฮาๆ อารมณ์ตบจูบๆ เหมือนละครอาเปี๊ยก พิศาล คือแค่ได้ยินชื่อเรื่องก็เห็นภาพแล้ว กี้ก็ตอบรับเล่นเลย ไม่คิดมาก รู้สึกดีใจค่ะ เคยร่วมงานกันตอนที่กี้ยังเด็ก เวลาผ่านไป ได้มาเล่นคู่กัน ก็ชอบหนังสไตล์พี่หม่ำอยู่แล้ว ก็ขอบคุณที่พี่หม่ำเลือกมาเล่นเรื่องนี้”
          งานนี้สาวพิ้งกี้ยังต้องเจอผู้กำกับหม่ำจัดหนักกับฉากรักหฤโหดในเรื่องที่รับรองทุกคนต้องทึ่งกับการทุ่มสุดตัวของเธอในหนังเรื่องนี้ แม้จะต้องสลัดลุคนางเอกมาเล่นเป็นสาวขี้วีนปากจัดในแบบที่ทุกคนต้องอึ้งทึ่งฮา
          “อู้อี้เป็นผู้หญิงที่ภายนอกดูสวยงาม แต่จริงๆ แล้วปากจัดมาก เรียกได้ว่าปากหมาเลย (หัวเราะ) คือพูดแบบขุดคำอะไรออกมาด่าไปเรื่อย คือปากจัดมาก ด่าเก่งมาก แล้วก็เป็นผู้หญิงที่มั่นใจในตัวเอง เพราะอยู่ในครอบครัวที่รวย ก็ถือว่าแตกต่างจากที่เคยเล่นมามากค่ะ แล้วก็เรื่องนี้ได้ทำอะไรที่ไม่เคยทำมาก่อน ได้ทำอะไรที่บ้าๆ บอๆ พี่หม่ำเค้าให้หนูทำอะไร ก็ทำหมด อย่างตอนที่โดนพี่หม่ำเตะ เดี๋ยวฝ่าเท้า ฝ่ามืออรหันต์ พอเสร็จก็เงยหน้ามาแล้วตาก็เหล่ แล้วก็ต้องคลานเป็นหมา แล้วก็มีฉากที่ต้องทำอะไรๆ ตลกเยอะเลย อันนั้นคือความแตกต่างที่กี้ไม่เคยเล่น ผู้ชมจะได้เห็นเราในมุมที่แบบเออ...ก็ทำไปได้นะ หรือคำด่าในหนังนี่ไม่เคยได้ยิน คือมันจะมีคำแปลกๆ พี่หม่ำก็จะมีคำหรือไอเดียที่โลดแล่นอยู่ตลอด ต้องยอมความอัจฉริยะของพี่หม่ำเลยค่ะ”
          ดอกอ้อ (รับบทโดย สกาวใจ พูนสวัสดิ์) - ม่ายสาวพราวเสน่ห์ แฟนเก่าที่เคยทิ้งนายหัวเพิ่มไปแต่งงานกับมหาเศรษฐี ซึ่งหวนกลับมาหาเพื่อจะพิชิตใจนายหัวเพิ่มให้ได้ แต่ติดตรงอุปสรรคใหญ่คือ หญิงสาวแสนสวยที่ถูกจับมาจากกรุงเทพฯ นั่นเอง
          ใน “ทาสรักอสูร” นอกจากเราจะได้เห็นการเชือดเฉือนอารมณ์แบบถึงพริกถึงขิงของสองพระนาง “หม่ำ-พิ้งกี้” แล้ว ผู้กำกับหม่ำยังดีไซน์สองตัวละครสำคัญ ที่เข้ามาสร้างสีสันให้ความหฤโหด โคตรมหาฮาเข้มข้นขึ้นไปอีก โดยไปคว้าเอาสองดาวร้ายขวัญใจแม่ค้าตัวท็อปของประเทศอย่าง “อ๋อม-สกาวใจ พูนสวัสดิ์” และ “อุ้ม-ลักขณา วัธนวงส์ศิริ” ที่มารับบทสองสาวมาเป็นเสี้ยนหนามในตำนานรักครั้งนี้
เริ่มจากสาว “อ๋อม สกาวใจ” การกลับมาอีกครั้งของดาวร้ายหน้าสวย ขวัญใจแม่ค้าทั่วไทยที่จะทั้งร้าย ทั้งฮา ทั้งสวย ในแบบที่คุณไม่เคยเห็นที่ไหน ซี่งผู้กำกับหม่ำพูดถึงตัวละครตัวนี้ว่า
          “ได้สองคนนี้มาเล่นถือว่าลงตัวเลย คือตัวละครของดอกอ้อกับเจ็ทสกีจะพยายามแย่งนายหัวเพิ่มกัน อย่าง อ๋อมรับบทเป็นดอกอ้อ เป็นแฟนเก่าที่กลับมาง้อขอคืนดี จะร้ายแบบจอมวางแผนหน่อย อ๋อมถึงจะมาจากสายละคร แต่พอมาเล่นหนังเขาก็ทำได้ดี คือร้ายออกตาออกหน้าเลย ในเรื่องดอกอ้อก็จะมีเอกลักษณ์ คือหัวเราะแบบแม่มด คือหัวเราะแบบลากยาว อ๋อมเขาเล่นเป็นธรรมชาตินะ คือดูแล้วคิดว่าเขาเป็นคุณนายดอกอ้อจริง”
          ทางด้านของดาวร้ายหน้าสวย “อ๋อม สกาวใจ” ก็พูดถึงสาเหตุที่ตัดสินใจโดดมาเล่นหนังเต็มๆ ครั้งแรกในชีวิต ว่าเป็นเพราะหลงเสน่ห์ เอ้ย...ชื่นชอบในผลงานของผู้กำกับหม่ำเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แถมคาแร็คเตอร์ดอกอ้อก็เป็นสไตล์ที่สาวอ๋อมถนันดอยู่แล้ว
          “ก็มีน้องทีมงานโทรมาหา บอกว่าพี่หม่ำจะทำหนังเรื่องใหม่แล้วอยากให้เรามาเล่น เราก็ตกใจเพราะว่าปกติเราไม่ได้มาทางสายหนัง เราก็จริงเหรอ พี่หม่ำชวนมาเล่น คือใจตกลงรับเล่นไปแล้ว เรามั่นใจในพี่หม่ำด้วย เพราะว่าเราก็ดูหนังพี่หม่ำทุกเรื่องเลย เราก็ถามพี่หม่ำว่าคาแร็คเตอร์ดอกอ้อเป็นยังไง พอพี่หม่ำเล่าคร่าวๆ ให้ฟังก็อยากเล่นเลย ก็ไม่รู้พี่หม่ำเห็นอะไรในตัวอ๋อมนะ อ๋อมอาจจะมีเอกลักษณ์ที่ดูตลกดี ก็ไม่ว่าจะทำอะไรก็หัวเราะตลอดเวลา หัวเราะแบบไร้สาเหตุ จริงๆ แล้วเราเป็นคนอารมณ์ดีแล้วก็ชอบหัวเราะอยู่แล้ว ในหนังเวลามีอะไรสมใจนึกก็หัวเราะไป ก็เหมือนคนบ้าดี”
          เจ็ทสกี (รับบทโดย ลักขณา วัธนวงส์ศิริ) - แม่บ้านสาวอีกคนของเกาะผู้เป็นหลานสาวของนายฟู (ลูกน้องคนสนิทของนายหัวเพิ่ม) เจ็ทสกีเป็นสาวสวยสุดซิ่งของเกาะ ผู้ปรารถนาจะครอบครองตำแหน่งคุณนายของเกาะ เฝ้าตามคอยเอาใจและปรนนิบัติมาตลอดหลายปี แต่ต้องมาเจอคู่แข่งที่น่ากลัวอย่างอู้อี้และคุณนายดอกอ้อ เจ็ทสกีเลยถือคติใครดีใครได้ ใครพลาดซ้ำให้ตาย เพราะเป้าหมายมีไว้ให้พุ่งชน
          สำหรับสาว “อุ้ม ลักขณา” คงไม่ต้องบรรยายถึงความเร่าร้อนเซ็กซี่ของเธอ เพราะเป็นถึงเซ็กซี่สตาร์ตัวแม่ของเมืองไทย งานนี้เลยไปเตะตาโดนใจผู้กำกับหม่ำเข้าอย่างจัง เพราะเหมาะมากรับบท “เจ็ทสกี” สาวสก๊อยประจำเกาะที่งัดไม้ตาย ทั้งออดทั้งอ้อน ทั้งยั่วทั้งยวนนายหัวเพิ่มแบบสุดตัว ซึ่ง “หม่ำ จ๊กม๊ก” พูดถึงอุ้มและบทบาทนี้ว่า
          “อุ้มในเรื่องชื่อเจ็ทสกี เป็นหลานคนใช้ในเกาะ เจ็ทสกีก็จะร้ายแบบน่ารักๆ ใช้เสน่ห์ยั่วยวนนายหัวเพิ่ม เพราะอยากเป็นเจ้าของเกาะ อุ้มเขาทุ่มสุดตัวจริงนะ ก็จะมีถึงเนื้อถึงตัว บางทีก็เอาหน้าอกมาถูหลังอย่างเนี่ย เราก็อุ้ยตายๆ ผมว่าเวลาอุ้มกับอ๋อมเข้าฉากกัน เวลาต่อปากต่อคำกันมันดูเข้าขากันดีนะ แล้วอุ้มเนี่ยเขาเป็นมืออาชีพสูงมาก ให้ใส่ชุดอะไร ให้ทำท่าทางอะไร จัดให้หมด ในเรื่องอุ้มมีต้องเต้นโพลแดนซ์ ลองไปดูกันเหมือนมืออาชีพเลยนะ ทั้งที่ไม่มีเวลาซ้อม เล่นเอาทีมงาน ทีมไฟ ตาสว่างกันเลย”
          ทางด้านสาวอุ้มก็ออกมายอมรับเลยว่า อยากร่วมงานกับผู้กำกับหม่ำมานานแล้ว และหลังจากที่ได้อ่านบท เจ้าตัวก็ตัดสินใจมาสวมบท “เจ็ทสกี” แบบทันที งานนี้หนุ่มๆ คงต้องอิจฉา “นายหัวหม่ำ” เอ้ย “นายหัวเพิ่ม” กันถ้วนหน้า
          “พอได้มาทำงานด้วยกันกับพี่หม่ำก็คนละอารมณ์กับที่เราเคยเจอแกข้างนอกเลย เวลาที่พี่หม่ำกำกับจะดูเครียดมาก คือแกมีสมาธิกับงานสูงมาก เวลาหน้างานเราก็ต้องมีสมาธิมากๆ เพราะพี่หม่ำจะเสริมมุกสดอยู่ตลอด เราก็ต้องฟังแล้วก็ถ่ายทอดตามที่พี่หม่ำต้องการ ซึ่งอุ้มเองก็มีพื้นฐานในการเล่นซิตคอมมาอยู่แล้ว ก็เลยเล่นตลกไม่ค่อยยากเท่าไหร่ แล้วอุ้มก็เป็นคนที่เต็มที่อยู่แล้วบ้าๆ บอๆ พอเราแสดงให้พี่หม่ำดู แกก็บอกอุ้มเล่นได้นะ เราก็ดีใจเลยหายเกร็ง ก็อย่างฉากแรกที่ต้องเล่นคู่กับพี่หม่ำ แล้วเราต้องไปลวนลามเขา กลายเป็นว่าพี่หม่ำเกร็งเรามากกว่าซะงั้น (หัวเราะ)”
          เชิญ “นายหัวหม่ำ” ลงทัณฑ์บัญชา ให้สมอุรา ให้สาแก่จายยยยยย
          อยู่ในวงการมาตั้งแต่เป็นเด็กหญิงตัวน้อย เล่นหนังเล่นละครมาก็ไม่รู้กี่เรื่องต่อกี่เรื่อง ยังไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่สาว “พิ้งกี้ สาวิกา” ต้องเจอกับบทบาทที่โหดแสนโหดเหมือนในหนัง “ทาสรักอสูร” เพราะในเรื่องนี้ต้องโดนผู้กำกับหม่ำจัดหนักแล้วจัดหนักอีก ตั้งแต่วันแรกของการถ่ายทำจนถึงวันสุดท้าย ทั้งโดนแต่งหน้าเละเป็นคนบ้า ร่างกายสะบักสะบอม แถมยังต้องตกเป็นทาสรักที่ถูกปู้ยี่ปู้ยำทั้งร่างกายและจิตใจ แต่งานนี้สาวพิ้งกี้ขอทุ่มสุดตัวยอมเป็นจำเลยให้แบบเต็มที่ จนนายหัวหม่ำและทีมงานยังต้องยกนิ้วให้
          “โอ้โห ต้องเรียกว่าโดนปู้ยี่ปู้ยำดีกว่า (หัวเราะ) ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มถ่าย ต้องอยู่บนเรือ แล้วมันเหนื่อยมาก คือมันเริ่มจากการแต่งหน้าสวย แต่ต้องทำเลอะ อายไลเนอร์ดำ ทุกอย่างเปื้อน สภาพไม่มีที่ติเลย แล้วผมนี่ยุ่งไปหมด เราก็รู้สึกชอบที่มันไม่ต้องสวย ดูเลอะๆ พอเสร็จจะเริ่มถ่าย เราก็อ่านบทมาเตรียมพร้อม พอมาถึงตัดทิ้งเลย เอาแบบสดๆ แล้วก็เอาคำพูดของพี่หม่ำทุกคำเลย แล้วคำพูดแต่ละคำเนี่ยสุดๆ คือเราไม่เคยด่าคนมาก่อน คือคำแต่ละคำเราไม่เคยได้ยินบนโลกนี้ จำได้ว่าถ่ายเสร็จเนี่ยลงไปนอนแผ่เลย การด่าคนนี่มันไม่ง่ายเลยนะคะ แถมฉากบู๊ก็โดนทั้งถีบทั้งต่อย ต้องแต่งหน้าเป็นคนบ้า ต้องสวมบทเป็นทาส ขัดรองเท้า กรีดยาง โอ้โหสารพัด เหนื่อยมาก แต่สนุกมากค่ะ”
          ความในใจของชมรมคนรัก “นายหัวเพิ่ม” (หม่ำ จ๊กม๊ก)
          “พี่เพิ่มของน้องอ้อ...อออ แค่เห็นเคราอ้อก็ละลายแล้ว อ้อยังไม่เคยลืมลีลา เอ้ย...ลืมกอดของพี่เพิ่มเลยนะคะที่รัก อ้อมันเลวเองที่ทิ้งพี่เพิ่มไป อ้อสำนึกผิดแล้ว ดีกันนะ เดี๋ยวจุ๊บแก้มทีนึง รักพี่เพิ่มมาก ไม่นอกจาย...ยยยด้วย”
          “พ่อยอดทูนหัวของเจ็ท เจ็ทน่ะช้อบชอบ เวลานายหัวมองเจ็ทด้วยสายตาหื่นๆ เหมือนจะกลืนกินเจ็ทเข้าไป เจ็ทยอมนายหัวเสมอนะคะ จะทำอะไรกับเจ็ทก็เชิญ เจ็ทยอม มาเป็นของเจ็ทนะคะนายหัว”
          “ฟูรักนายหัวจังฮู้ ที่มีชิวิตอยู่ได้ทุกวันนี้ก็เพราะนายหัวเพิ่มแท้หลาว เรียกว่าตายแทนได้เลยนะ เป็นห่วงนายหัวมาก กินเหล้าทุกวัน อยากให้นายหัวกลับมาเป็นคนเดิม”
          “ถึงแม้นายหัวของหนวกจะพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่หนวกก็ทำได้ทุกอย่างตามที่นายหัวสั่ง หนวกจำได้ว่าเคยทำผ้าถุงหลุดต่อหน้านายหัว หนวกอายมากเลย เพราะนอกจากผัวหนูก็ไม่เคยมีใครเห็นหนูแก้ผ้ามาก่อน”
          “ไอ้เพิ่ม ไอ้เลว มึงจับกูมาทำไม กูไม่รู้จักมึงเลย กูทำอะไรผิด ไอ้ๆๆ ไอ้หน้าสาหร่าย ไอ้ข้อศอกหมา ไอ้หน้าคางคก ไอ้ฝาชักโครก ไอ้มะเร็งระยะสุดท้าย ไอ้ก่องข้าวน้อยฆ่าแม่ ไอ้... ฯลฯ”

          บันทึกผู้กำกับ (Director’s Note)
          เรื่องนี้ก็เป็นหนังเรื่องที่ 11 แล้ว เผลอแป๊บเดียว ตั้งแต่ทำ “บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม” (2547) ยังจำตอนที่ทำเรื่องแรกได้อยู่เลย เหมือนเราได้ทำในสิ่งที่เรารัก เหมือนเราได้ทำตามความตั้งใจ เพราะเล่นหนังมาก็เป็นหลายสิบเรื่อง ไปเล่นหนังให้เขาก็คันไม้คันมืออยากทำหนังเองบ้าง ก็ต้องขอบคุณเสี่ยเจียง (สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ) มากครับที่ให้โอกาส ให้ตลกอย่างผมได้ทำหนัง ก็จากเรื่องแรกมาถึงเรื่องล่าสุด “ทาสรักอสูร” (2557) นี่ก็สิบปีพอดีในการเป็นผู้กำกับหนังนะ ทำมาก็หลากแนวหลายรูปแบบ เรื่องนี้ก็เป็นแนว “หนังรักหฤโหด โคตรหฤฮา” ที่ผมก็ตั้งใจทำเต็มที่เพื่อให้ผู้ชมได้สนุกเฮฮากัน
          ก็ต้องขอบคุณพ่อแม่พี่น้องหลายๆ เด้อที่คอยไปดู ไปชม ไปเชียร์ และชอบหนังหลายๆ เรื่องของผมกัน ก็ยังจะมีเรื่องใหม่ๆ ให้ดูกันอีกแน่นอน หนังตลกสไตล์หม่ำคนนี้ แต่ต้องไปดูเรื่องนี้กันก่อนนะ แล้วเจอกันใหม่เรื่องหน้าเด้อ...

          เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา
          ผู้กำกับภาพยนตร์รักหฤโหด โคตรหฤฮา “ทาสรักอสูร”

          ผลงานกำกับภาพยนตร์ของ “หม่ำ จ๊กม๊ก”
          บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม (2547), แหยมยโสธร (2548), บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม 2 (2550), หม่ำเดียว หัวเหลี่ยมหัวแหลม (2551), วงษ์คำเหลา (2552), แหยมยโสธร 2 (2552), โป๊ะแตก (2553), จั๊กกะแหล๋น (2554), ใหม่กะหม่ำ โดนกะโดน (2554), แหยมยโสธร 3 (2556), ทาสรักอสูร (2557)

FB on June 23, 2014, 03:17:03 PM
“หม่ำ จ๊กม๊ก” เป็นปลื้ม “น้องเอ็ม” ลุยงานหนังช่วยพ่อเต็มตัว ประเดิมนั่งแท่นโปรดิวเซอร์ร่วมใน “ทาสรักอสูร”





          น่าดีใจแทนตลกมากฝีมือ “หม่ำ จ๊กม๊ก” ที่ลูกสาวสุดเลิฟ “เอ็ม-บุษราคัม วงษ์คำเหลา” มาช่วยงานแบ่งเบาภาระให้ชื่นใจ โดยมาประเดิมนั่งแท่นโปรดิวเซอร์ร่วมกับคุณพ่อหม่ำในหนังรักหฤโหด โคตรมหาฮา “ทาสรักอสูร” ของค่ายใบโพธิ์ “สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล” และ “บั้งไฟฟิล์ม”

          งานนี้คุณพ่อหม่ำก็มอบหมายหน้าที่ให้ลูกเอ็มมาคอยศึกษาระบบการทำงานของกองถ่ายอย่างจริงจัง ทั้งการเข้าประชุมกับทีมงาน การเตรียมงานก่อนถ่าย รวมไปถึงการเลือกบุคลากรแต่ละตำแหน่งในกองถ่าย และในเรื่องนี้น้องเอ็มก็มีส่วนสำคัญในการเลือกนางเอกสาวตาคม “พิ้งกี้-สาวิกา ไชยเดช” มาพลิกคาแร็คเตอร์แบบช็อกวงการประกบกับคุณพ่อในหนังเรื่องนี้ด้วย เรียกว่าน่าปลื้มใจแทนคุณพ่อหม่ำสุดๆ เพราะงานนี้นอกจากจะช่วยงานให้เหนื่อยน้อยลงแล้ว ยังได้ลูกสาวมาเป็นกำลังใจส่วนตัวที่คอยอยู่ข้างๆ อีกด้วย ซึ่งสาวเอ็มพูดถึงการได้มาช่วยคุณพ่อแบบเต็มตัวว่า

          “ใน ทาสรักอสูร เอ็มก็รับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์คู่กับคุณพ่อค่ะ ก็ได้มาช่วยคุณพ่อซะที ด้วยความที่เอ็มจบทางด้านหนังแล้วก็ธุรกิจบันเทิงมา คุณพ่อก็เลยให้ลองมาทำงานจริงเลย แต่ด้วยความที่เรายังใหม่กับหน้าที่นี้ คุณพ่อก็ให้เอ็มเรียนรู้การทำงานจากทีมงานมืออาชีพ เรียนรู้ทุกขั้นตอน กว่าที่จะออกกองไปถ่ายหนังเราต้องเตรียมพร้อมอะไรบ้าง ทั้งไปดูโลเกชั่น ดูงบประมาณถ่ายทำ ดีลกับทีมงานแต่ละตำแหน่ง อันไหนที่เอ็มไม่เข้าใจก็ถามคุณพ่อได้ตลอด เหมือนมีเขาอยู่ในกองด้วยก็ทำให้เราไม่เกร็ง ส่วนการได้พิ้งกี้มาเป็นนางเอกกับคุณพ่อในเรื่องนี้ จริงๆ เราก็มองไว้หลายคน แต่ด้วยคาแร็คเตอร์ของตัวละครตัวนี้ คิดว่าถ้าได้พิ้งกี้มาเล่นคงเป็นอะไรที่น่าสนใจดี แล้วพิ้งกี้เองก็เป็นเพื่อนกับเอ็มด้วย ก็เลยคิดว่าน่าจะทำงานกันง่ายขึ้น ส่วนที่มีคนแซวว่าคุณแม่ส่งเรามาคุมคุณพ่อหรือเปล่า ก็มีส่วนบ้างนะ (หัวเราะ) คุณแม่ยังแซวเลยว่าดูพ่อแกทำตัวเป็นพระเอกฮอลลีวู้ดเลย เลือกสาวมาแสดงแต่ละคนเซ็กซี่ๆ ทั้งนั้น ส่วนอนาคตเอ็มก็อยากเป็นผู้กำกับเหมือนคุณพ่อค่ะ แต่คงไม่ได้ทำหนังตลก คงเป็นแนวทางของเราไปเลย”   
       
          งานนี้คุณพ่อหม่ำคงหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง ที่ลูกสาวสุดเลิฟมาช่วยงานแบบเต็มตัว ส่วนใครที่อยากเห็นผลงานการร่วมมือกันของสองพ่อลูก คู่นี้ ต้องไปติดตามในหนังรักหฤโหด โคตรหฤฮา “ทาสรักอสูร” 10 กรกฏา ฮาปากแตกทุกโรงภาพยนตร์
« Last Edit: June 24, 2014, 02:57:28 PM by FB »

FB on June 24, 2014, 02:58:14 PM
“พิ้งกี้” น้ำตาร่วง เข้าฉากวันแรกเจอ “นายหัวหม่ำ” จัดหนัก สุดสะบักสะบอมใน “ทาสรักอสูร”









'นายหัวเพิ่ม' สุภาพบุรุษหน้าเหลี่ยมเหี้ยมจนสาวๆหลง? ใน ทาสรักอสูร
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=rb-Xd6JzAuw" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=rb-Xd6JzAuw</a>

ทาสรักอสูร เพลงประกอบภาพยนตร์ ทาสรักอสูร (Official Ost.)
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=kKtACpmDxmA" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=kKtACpmDxmA</a>

ได้ยินไหม รักเธอ เพลงประกอบภาพยนตร์ ทาสรักอสูร (Official Ost.)
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=IIs_shEO2DM" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=IIs_shEO2DM</a>

           พอตบปากรับคำมาเป็นนางเอกหนังให้ “หม่ำ จ๊กม๊ก” ปุ๊บ นางเอกสาวตาคม “พิ้งกี้-สาวิกา ไชยเดช” ก็โดนจัดหนักซะตั้งแต่วันแรกของการถ่ายทำหนังรักหฤโหด โคตรหฤฮา “ทาสรักอสูร” ของค่ายใบโพธิ์ “สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล” และ “บั้งไฟฟิล์ม” ซึ่งผู้กำกับหม่ำก็จัดฉากโหดนี้ประเดิมเป็นคิวแรกของการถ่ายทำ ซึ่งเป็นฉากสำคัญที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นของหนังเรื่องนี้ โดยเป็นฉากที่ “นายหัวเพิ่ม” (หม่ำ จ๊กม๊ก) จับสาวไฮโซเมืองกรุง “อู้อี้” (พิ้งกี้ สาวิกา) ขึ้นเรือเพื่อมาขังไว้ที่เกาะเพื่อแก้แค้น

          ซึ่งฉากนี้ทีมงานก็ยกพลกันไปถ่ายทำที่อุทยานเขาแหลมหญ้า จ.ระยอง โดยงานนี้สาวพิงกี้ต้องโดนผูกติดไว้กับเรือท่ามกลางแดดอันร้อนระอุ แถมยังต้องแสดงฉากปะทะคารมกับนายหัวเพิ่ม แต่เท่านี้ยังไม่สาแก่ใจผู้กำกับหม่ำ เพราะสาวพิงกี้ยังต้องโดนติดสลิงเหวี่ยงไปมาอยู่ร่วมครึ่งวัน เรียกว่าสะบักสะบอมประเดิมการมาเป็นนางเอกให้ผู้กำกับหม่ำเป็นครั้งแรกซึ่ง “พิ้งกี้ สาวิกา” พูดถึงการโดนจัดหนักตั้งแต่วันแรกของการถ่ายทำว่า

          “โอ้โห ต้องเรียกว่าโดนปู้ยี่ปู้ยำเลยดีกว่า (หัวเราะ) ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มถ่าย ต้องอยู่บนเรือ แล้วมันเหนื่อยมาก คือมันเริ่มจากการแต่งหน้าสวย แต่ต้องทำเลอะ อายไลเนอร์ดำ ทุกอย่างเปื้อน สภาพไม่มีที่ติเลย แล้วผมนี่ก็ยุ่งไปหมด แต่เราก็รู้สึกชอบที่มันไม่ต้องสวย ดูเลอะๆ พอเสร็จจะเริ่มถ่าย เราก็อ่านบทมาเตรียมพร้อม พอมาถึงตัดทิ้งเลย เอาแบบสดๆ แล้วก็เอาคำพูดของพี่หม่ำทุกคำเลย แล้วคำพูดแต่ละคำเนี่ยสุดๆ คือเราไม่เคยด่าคนมาก่อน คือคำแต่ละคำเราไม่เคยได้ยินบนโลกนี้ จำได้ว่าถ่ายเสร็จเนี่ยลงไปนอนแผ่เลย การด่าคนนี่มันไม่ง่ายเลยนะคะ แถมฉากบู๊ก็โดนทั้งถีบทั้งต่อย ต้องแต่งหน้าเป็นคนบ้า ต้องสวมบทเป็นทาส ขัดรองเท้า กรีดยาง โอ้โหสารพัด เหนื่อยมาก แต่สนุกมากค่ะ”

          ทางด้านผู้กำกับ “หม่ำ จ๊กม๊ก” ก็พูดถึงการจัดหนักนางเอกของตัวเองตั้งแต่วันแรก สมกับคาแร็คเตอร์ โหด ดิบ เถื่อนของนายหัวผู้ไร้หัวใจยังไงยังงั้น

          “ฉากนี้ก็ถือเป็นจุดเริ่มเรื่องเลย เราก็ไปจับเขามาจะล้างแค้น ก็ประเดิมพิ้งกี้ฉากนี้ เจอจับแต่งหน้าเละ ผมเผ้ารุงรัง คือสภาพเละเลย ตัวเขาชอบนะ พิ้งกี้มีความเป็นมืออาชีพสูงมาก ให้ทำอะไรก็ทำ อย่างฉากนี้เขาต้องด่าเราเป็นชุดเลย ตอนแรกก็ยังไม่ค่อยลื่นนะ แต่พอเริ่มถ่ายนานเริ่มด่าลื่นแล้ว สงสัยแค้นจริง (หัวเราะ) ผมว่าคนดูจะฮาพิ้งกี้ตรงที่เขาไม่เคยแสดงอะไรแบบนี้ เขาเองก็ไม่รู้ตัวนะว่าเขาฮา ต้องลองดูกัน”

          นี่เป็นแค่ออเดิร์ฟความโหดที่สาวพิ้งกี้ต้องเจอเท่านั้น แต่จะมีโหดกว่านี้แค่ไหนต้องไปติดตามในหนังรักหฤโหด โคตรหฤฮา “ทาสรักอสูร” กันได้ 10 กรกฏา ฮาปากแตก ทุกโรงภาพยนตร์
« Last Edit: July 07, 2014, 03:28:16 PM by FB »

FB on June 26, 2014, 02:20:33 PM
นักแสดงตลกแถวหน้าของเมืองไทย “เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา” กับผลงานกำกับลำดับที่ 11 ในภาพยนตร์รักหฤโหด โคตรมหาฮา “ทาสรักอสูร”





บทบาท-คาแร็คเตอร์
          สวัสดีครับ ผม “เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา” มีหนังใหม่มาอีกแล้วครับ เป็นหนังรักหฤโหด โคตรมหาฮา “ทาสรักอสูร” กำกับด้วย แสดงเองด้วย เหมือนเคยครับ
          เรื่องนี้รับบทเป็น “นายหัวเพิ่ม” ครับ เป็นเจ้าของเกาะ รักศิลปะ เป็นอาร์ติสท์ เป็นคนที่จริงจังแต่ว่าก็มีความจริงใจนะ แต่ด้วยความที่มีอดีตฝังใจเรื่องการตายของพี่สาว ก็เลยทำให้เป็นคนเคร่งขรึม ก็ถือว่าเป็นบทที่เครียดเหมือนกันนะ ทั้งเรื่องไม่ได้ยิ้มเลย

ในเรื่องนี้ต้องมีการปรับลุคหรือเตรียมตัวอะไรบ้าง
          ลุคก็จะเข้มๆ เป็นอาร์ติสท์ ศิลปินหน่อยๆ ต้องใส่หนวดใส่เครา ใส่วิกผมยาว เป็นคนเกาะ ออกแนวเถื่อนๆ อารมณ์เจ้าของเกาะ ต้องเป็นคนขรึมนอกนุ่มใน ต้องดูน่าเชื่อถือ เพราะว่าเป็นนายหัวเพิ่ม แล้วหนังเรื่องนี้เกิดขึ้นที่ใต้ ก็เลยต้องมีพูดใต้กันบ้าง ปกติก็พูดใต้ได้ประมาณนึงอยู่แล้ว โชคดีที่เคยไปอยู่ใต้มาก่อน ไปอยู่กับแม่ที่พังงา ก็พอได้อยู่

จุดเริ่มต้นของ “ทาสรักอสูร”
          มันมาจากการที่เราอยากเปลี่ยนสไตล์ อยากตลกแบบดราม่า ซีเรียสนิดๆ ด้วยความที่ผมเป็นคนชอบดูหนังไทยเก่าๆ ละครก็ดูบ้าง ก็เลยมาปิ๊งที่สไตล์หนังของพี่เปี๊ยกพิศาล ก็ถือเป็นแรงบันดาลใจของการทำหนังเรื่องนี้นะ ก็เลยคิดว่าเอามาทำเป็นแบบฮาๆ ดีมั้ย เราไม่ต้องใช้คำหรูๆ ใช้คำง่ายๆ ให้อารมณ์เป็นภาพยนตร์รักหฤโหด โคตรมหาฮา ซึ่งเราไม่ได้ตบจูบๆ เหมือนเขา แต่ของเราเป็นคิวแอ็คชั่นเวอร์ๆ สวยๆ แทน

ฟังจากชื่อ “ทาสรักอสูร” หลายคนคิดว่าคงเป็นการเอาละครหลังข่าวมาล้อเลียนหรือเปล่า
          ไม่นะ ผมว่าคนละอย่างกันเลย อันนี้มันก็จะทางของเรา ตอนไปเสนอเสี่ยเจียง (สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ) เสี่ยเห็นชื่อแล้วถามว่าเป็นหนังชีวิตหรือเปล่า ผมบอกไม่ๆ เป็นหนังตลก ดราม่า มีโรแมนติกด้วย เนื้อเรื่องอาจมีอิงจากในละครบ้าง แต่ผมจะเล่าใหม่ในทางของผม เราก็มานั่งไล่เรียงว่าจะทำยังไงดี ก็เลยมานั่งคุยกับทีมงานว่าบทมันน่าจะเป็นแบบนี้นะ เราอยากจะทำอะไรให้แตกต่าง คือถ้าเราจะทำให้มันเหมือนเป็นละคร มันก็ไม่ได้ เราต้องทำฟีลภาพยนตร์ที่มันต้องดูหนาๆ กว่านั้น

เรื่องราวใน “ทาสรักอสูร”
          มันเป็นเรื่องราวของนายหัวเพิ่ม ที่มีความแค้นอยู่ในใจ เพราะพี่สาวเขาฆ่าตัวตายไป เพราะโดนผู้ชายที่กรุงเทพฯ หลอก นายหัวเพิ่มก็เลยไปจับลูกสาวเขามาเป็นตัวประกัน ก็ใช้งานเป็นทาส สนองความแค้นกันไป แต่เรื่องนี้มันจะต่างจากในละครเลยนะ คาแร็คเตอร์อู้อี้ที่พิ้งกี้เล่นเนี่ย ไม่ใช่นางเอกในละครเลย เป็นผู้หญิงขี้วีน ชอบพูดหยาบคาย แต่พระเอกนี่จะขรึมๆ ไม่พูด ไม่ยิ้มเลย คือตัวละครสองตัวก็ห้ำหั่นกันไป จนเกิดเป็นความรักที่ไม่รู้ตัว แต่ก็มีสองตัวร้ายคือ คุณนายดอกอ้อ กับ เจ็ทสกี ที่หวังเคลมนายหัวเพิ่ม ก็เลยกลั่นแกล้งนางเอก คือนายหัวเพิ่มหล่อมากไง ก็ต้องแย่งกัน ก็สุดท้ายหนังจะลงเอยด้วยความแค้นหรือความรักต้องไปดูกัน

เป็นไงมาไงถึงได้ “พิงกี้-สาวิกา ไชยเดช” มาเป็นพลิกคาแร็คเตอร์แบบคนดูต้องเซอร์ไพรส์
          พอดีเขาเป็นเพื่อนกับน้องเอ็มลูกสาวผม (โปรดิวเซอร์เรื่องนี้) ตอนคิดจะทำเรื่องนี้ก็คิดว่าจะไปหาใครมาดีนะ ลูกสาวก็มาบอกว่าพ่อลองคุยกับพิ้งกี้มั้ย เราก็บอกว่าต้องบอกไปนะว่าจะมาเล่นต้องเจอจัดหนัก ต้องเล่นเป็นคนหยาบคาย หยาบกระด้าง เขาจะยอมรึเปล่า แต่คุยไปคุยมาพิ้งกี้ก็โอเค ยอมมาเล่น ผมยังเคยถ่ายเอ็มวีกับพิ้งกี้เลยนะ ตั้งแต่เขายังเด็กๆ อยู่เลย แล้วพอมาทำงานด้วยกันเรื่องนี้ พิ้งกี้มีความเป็นมืออาชีพสูงมาก ให้ทำอะไรก็ทำ ให้เป็นอะไรก็เป็น ทั้งเรื่องเขาไม่ได้สวยเลยนะ มีแต่งเป็นขอทานด้วย มาสวยตอนเกือบจะจบแล้ว คนดูจะต้องตกใจกับพิ้งกี้เรื่องนี้กับบทอู้อี้แน่ๆ

ในเรื่องต้องมีการเข้าฉากเลิฟซีนกันด้วย เบื้องหลังการทำงานเป็นไงบ้าง
          ต้องบอกว่าเกร็ง เขินมากฉากนี้ ก็คุยกับทีมงานว่าไม่เอาได้มั้ย ทีมงานก็รู้ว่าถ้าถ่ายฉากนี้เนิ่นๆ ผมไม่เอาแน่ ก็เลยเอาไว้วันสุดท้ายเลย เราก็ไม่คอยอยาก เพราะเกรงใจพิ้งกี้ แต่ทีมงานบอกมันต้องมี ตัวพิ้งกี้เค้าเฉยๆ ไม่ได้อะไรอยู่แล้ว แต่เราไม่ชอบกอดชอบเล่นฉากอะไรแบบนี้กับนางเอกอยู่แล้ว คือพอมันกอดแล้วมันไม่มั่นใจในตัวเอง มันอาย พิ้งกี้ก็บอกว่าน้าหม่ำเต็มที่เลย เราอ๊ายอายที่พิ้งกี้พูดแบบนี้ เราก็บอกน้าขอทีเดียว เทคเดียวเลย ให้พิ้งกี้ตั้งใจนะ ก็เทคเดียวผ่านเลย

สองดาวร้ายขวัญใจแม่ค้า “อ๋อม สกาวใจ - อุ้ม ลักขณา” ที่สวมบทขวากหนามหัวใจของพระนางในเรื่องนี้
          ได้สองคนนี้มาเล่นถือว่าลงตัวเลย คือตัวละครของ “ดอกอ้อ” กับ “เจ็ทสกี” จะพยายามแย่งนายหัวเพิ่มกัน อย่าง อ๋อม-สกาวใจ รับบทเป็นดอกอ้อ เป็นแฟนเก่าที่กลับมาง้อขอคืนดี จะร้ายแบบจอมวางแผนหน่อย อ๋อมถึงจะมาจากสายละคร แต่พอมาเล่นหนังเขาก็ทำได้ดี คือร้ายออกตาออกหน้าเลย ส่วนอุ้มในเรื่องชื่อเจ็ทสกี เป็นหลานคนใช้ในเกาะ เจ็ทสกีก็จะร้ายแบบน่ารักๆ ใช้เสน่ห์ยั่วยวนนายหัวเพิ่ม เพราะอยากเป็นเจ้าของเกาะ แต่อุ้มเขาทุ่มสุดตัวจิงนะ ก็จะมีถึงเนื้อถึงตัว บางทีก็เอาหน้าอกมาถูหลังอย่างเนี่ย เราก็อุ้ยตายๆ ผมว่าเวลาอุ้มกับอ๋อมเข้าฉากกัน เวลาต่อปากต่อคำกันมันดูเข้าขากันดีนะ

ใน “ทาสรักอสูร” ยังมีเหล่านักแสดงมาสร้างเซอร์ไพรส์อีกคับคั่ง
          มีเพียบเลย อย่าง “น้ำฝน สรวงสุดา” ก็เล่นเป็นแม่ของอู้อี้ คือคาแร็คเตอร์จะเหมือนนางเอกเลย เหมือนกันเด๊ะ เป็นคนกระด้างหยาบคาย เขาแสดงไปขำไป คือเขาไม่เคยแสดงอะไรแบบนี้มาก่อน “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” เล่นเป็นพ่อนางเอก ก็สุภาพนิ่มนวลแตกต่างจากภรรยาเลย แล้วก็ยังมี “พัน พลุแตก” เล่นเป็นคู่หมั้นนางเอก โผล่มาฮาแน่นอน ยังมีอีกหลายคนนะ แต่ไว้ไปดูในหนังกันดีกว่า

โดดเด่นด้วยฉากหฤโหดลีลา 360 องศา นี่เป็นยังไง
          ยกตัวอย่างซักฉากละกัน มันเป็นฉากที่ดอกอ้อกับเจ็ทสกีจะมารุมตบอู้อี้ เราก็ดีไซน์ไม่ให้ออกมาเป็นฉากตบธรรมดา อารมณ์เหมือนหนังโจวชิงฉือนิดๆ มีขึ้นสลิง กระโดดตบเหมือนแข่งวอลเล่ย์บอลเลย ก็ทั้งพิ้งกี้, อุ้ม, อ๋อม เขาก็ต้องมีขึ้นสลิง แล้วแต่ละคนนี่ไม่เคยต้องมาแอ็คชั่นอะไรแบบนี้เลย แล้วถ่ายกันตั้งแต่เช้ายันเย็น ถ่ายยากนะฉากนี้ ลองดูในหนังกัน ส่วนผมกับพิ้งกี้ก็มีปะทะคารมกันตลอด ก็โดนเขาด่าต่างๆ นานา แต่ละคำนี่ อื้อหือ แล้วเวลาทะเลาะกันอยากให้นึกถึงหนังพี่พันนาไว้ แบบนั้นเลย ลองไปดูกัน

“ทาสรักอสูร” ผลงานกำกับลำดับที่ 11 ในชีวิต หนังเรื่องนี้จะมีรสชาติออกมาแบบไหน
          ผมคิดไว้นานแล้วว่าอยากจะทำหนังรักสไตล์ใหม่ซักเรื่อง เราเคยทำหนังรักๆ แบบคุณชายมาแล้วใน “วงษ์คำเหลา” เราเคยทำหนังรักบ้านๆ ใน “แหยมยโสธร” มาแล้ว อันนี้ก็จะออกแนวรักโหดๆ ดูบ้าง คือมีความเป็นหนังรักสไตล์โหดแบบสมัยก่อนอยู่ แต่ก็ใส่ความตลก เพิ่มสีสันของคาแร็คเตอร์ตัวละครไป มีฉากแอ็คชั่น ฉากดีไซน์ให้มันมีมิติ ด้วยเนื้อเรื่องแล้วผมว่าครบรสนะ โหด มันส์ ฮากันเลย
ก็อยากฝากหนังเรื่องนี้ให้เข้าไปฮาน้ำตาเล็ดกันครับพี่ๆ น้องๆ ภาพยนตร์รักหฤโหด โคตรมหาฮา “ทาสรักอสูร” 10 กรกฏาคมนี้ โหด มันส์ ฮา ทุกโรงภาพยนตร์ครับ

FB on June 27, 2014, 03:31:51 PM
“หม่ำ จ๊กม๊ก” เปิดบ้านเลี้ยงปิดกล้อง “ทาสรักอสูร” พร้อมจัดปาร์ตี้ฉลองวันเกิดอายุครบรอบ 50 ปี “พิ้งกี้”-“อุ้ม ลักขณา” และ เพื่อนพ้องในวงการร่วมอวยพรคับคั่ง





          ถือโอกาสดีเนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 50 ปี ของ หม่ำ จ๊กม๊ก (เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา) ตลกแถวหน้า และผู้กำกับอารมณ์ดี เปิดบ้านจัดปาร์ตี้งานวันเกิดแบบเป็นกันเอง ชักชวนเพื่อนพ้องร่วมวงการมาร่วมสังสรรค์ พร้อมจัดงานเลี้ยงปิดกล้องภาพยนตร์เรื่องใหม่ล่าสุด “ทาสรักอสูร” ไปเมื่อวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยมี พิงกี้ สาวิกา ไชยเดช, อุ้ม ลักขณา วัธนวงส์ศิริ นักแสดงนำจากภาพยนตร์, บุษราคัม วงษ์คำเหลา โปรดิวเซอร์ของภาพยนตร์ รวมถึงทีมงานทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลัง และ คุณอวิกา เตชะรัตนประเสริฐ รองประธานฝ่ายการตลาด บ.สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จก. มาร่วมงานฉลองปิดกล้องในครั้งนี้ด้วย

          ภายในงานยังเต็มไปด้วยเพื่อนพ้องในวงการบันเทิง แขกผู้ใหญ่ รวมทั้งครอบครัว ญาติสนิท ที่มาร่วมงานฉลองวันคล้ายวันเกิดกับคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็น เป็ด เชิญยิ้ม, ครอบครัวโน๊ต เชิญยิ้ม, ครอบครัวสายัณห์ สัญญา,เท่ง เถิดเทิง, โหน่ง ชะชะช่า, ส้มเช้ง สามช่า, ตุ๊กกี้ ชิงร้อย, เจี๊ยบ เชิญยิ้ม, เอกชัย ศรีวิชัย, สามารถ พยัคฆ์อรุณ ฯลฯ ที่สลับสับเปลี่ยนกันขึ้นไปอวยพร ร้องเพลง และสร้างเสียงหัวเราะบนเวทีกันอย่างสนุกสนาน พร้อมกับการเปิดตัวอย่างภาพยนตร์ สร้างความตื่นเต้นให้ผู้ที่มาร่วมงานซึ่งต่างรอชมภาพยนตร์เรื่องใหม่ของ หม่ำ จ๊กม๊ก ที่จะเข้าฉายจริงในวันที่ 10 กรกฎาคม นี้ กันเป็นอย่างมาก ปิดท้ายที่เซอร์ไพรส์พิเศษจากครอบครัววงษ์คำเหลา นำโดย เอ็นดู วงษ์คำเหลา ภรรยาแสนสวย, เอ็ม-บุษราคัม วงษ์คำเหลา และ มิกซ์-เพทาย วงษ์คำเหลา ลูกสาวและลูกชายของคุณหม่ำ จ๊กม๊ก ที่ยกเค้กก้อนโตมาพร้อมกับร่วมอวยพรกันแบบสุดซึ้ง สร้างความประทับใจให้ผู้กำกับคนเก่งและคนที่มาร่วมงานเป็นอย่างยิ่ง

FB on June 30, 2014, 10:10:21 PM
บทสัมภาษณ์นักแสดงสาวมากฝีมือ “พิ้งกี้-สาวิกา ไชยเดช” กับบทบาทใหม่ที่ทุกคนต้องอึ้ง และการโดนจัดหนักที่สุดในชีวิตโดยผู้กำกับ “หม่ำ จ๊กม๊ก”









บทบาท-คาแร็คเตอร์
          ในเรื่อง “ทาสรักอสูร” นี้ พิ้งกี้รับบทเป็น “อู้อี้” ค่ะ อู้อี้ก็จะเป็นเหมือนลูกคุณหนูเอาแต่ใจคนหนึ่ง อารมณ์นางเอกหนังไทยที่ต้องโดนจับเป็นตัวประกัน เพราะเกิดความเข้าใจผิด อู้อี้เป็นผู้หญิงที่ภายนอกดูสวยงาม แต่จริงๆ แล้วปากจัดมาก เรียกได้ว่าปากหมาเลย (หัวเราะ) คือพูดแบบขุดคำอะไรออกมาด่าไปเรื่อย คือปากจัดมาก ด่าเก่งมาก แล้วก็เป็นผู้หญิงที่มั่นใจในตัวเอง เพราะอยู่ในครอบครัวที่รวย

คาแร็คเตอร์ในเรื่องนี้แตกต่างจากทุกเรื่องยังไง
          แตกต่างมากค่ะ คืออู้อี้เนี่ยก็คือชุดแบบนี้ใส่ทั้งเรื่อง สองก็คือหน้าไม่แต่ง คือลุคนี้จะไม่ได้เห็นตามทีวี ที่เห็นเราในทีวีก็จะมีอายไลเนอร์ มีขนตา คือเรื่องนี้จะไม่เห็นเราโบ๊ะหน้า จะเห็นเราเพียวๆ แล้วก็หน้าธรรมชาติ แล้วก็เรื่องนี้ได้ทำอะไรที่ไม่เคยทำมาก่อน ได้ทำอะไรที่บ้าๆ บอๆ พี่หม่ำเค้าให้หนูทำอะไร ก็ทำหมด อย่างตอนที่โดนพี่หม่ำเตะ เดี๋ยวฝ่าเท้า ฝ่ามืออรหันต์ พอเสร็จก็เงยหน้ามาแล้วตาก็เหล่ แล้วก็ต้องคลานเป็นหมา แล้วก็มีฉากที่ต้องทำอะไรๆ ตลกเยอะเลย อันนั้นคือความแตกต่างของกี้ที่กี้ไม่เคยเล่น ผู้ชมจะได้เห็นเราในมุมที่แบบเออ...ก็ทำไปได้นะ หรือคำด่าในหนังนี้มันไม่เคยได้ยิน คือมันจะมีคำแปลกๆ พี่หม่ำก็จะมีคำหรือไอเดียที่โลดแล่นอยู่ตลอด ต้องยอมความอัจฉริยะของพี่หม่ำค่ะ

ได้มาร่วมงานกับพี่หม่ำ รู้สึกยังไงบ้าง
          คือต้องเท้าความไปถึงน้องเอ็ม (บุษราคัม วงษ์คำเหลา) ลูกสาวพี่หม่ำติดต่อมา คือพิ้งกี้กับเอ็มเป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว เขาบอกว่าปรึกษากับพ่อ คิดไปคิดมาว่าลองชวนพิ้งกี้เล่นหนังเรื่องนี้สิ แล้วพอเราได้รับการติดต่อ ได้รู้ว่าบทเป็นประมาณนี้ เขาก็บอกว่าในเรื่องนี้พิ้งกี้ต้องมีเล่นบทบู๊ มีตบตีเหมือนหนังแอ็คชั่นเลย เราก็คิดภาพไม่ออกว่ามันจะเป็นยังไง แต่พอได้มาเล่นจริงๆ คือภาพที่เราคิดไว้ มันไม่ใช่เลย มันสนุกมาก
พูดเลยว่า ได้ร่วมงานกับพี่หม่ำแล้วเหมือนความฝันเป็นจริง เพราะจำได้ว่าตอนนั้นดูซิตคอมวงษ์คำเหลา แล้วเรารู้สึกตลกแล้วก็ชอบ คือดูทุกตอน เราเคยฝากแม่ตุ๊ก (เดือนเต็ม สาลิตุล) ว่าอยากเล่นมากเลย ไปรับเชิญซักตอนได้มั้ย จนได้รับการติดต่อมาให้เล่นหนังพี่หม่ำในเรื่องนี้ ก็เลยรู้สึกว่าฝันเป็นจริงค่ะ

เรื่องราวใน “ทาสรักอสูร”
          ก็เป็นเรื่องราวความรักที่เกิดจากความเคียดแค้น โดยที่พี่หม่ำเป็น “นายหัวเพิ่ม” จับเราเป็นตัวประกันเพราะความแค้น เพราะเขาคิดว่าเราไปทำให้พี่สาวเขาฆ่าตัวตาย แล้วเราเลยกลายเป็นเหยื่อ กลายเป็นตัวประกันถูกจับมาจองจำอยู่ในกระท่อม ก็เลยต้องโดนใช้งานสารพัด แต่กลับกันแทนที่เราจะเป็นผู้หญิงเรียบร้อย โดนกระทำอย่างเดียว แต่ไม่ ตัวพระเอกจะนิ่งเงียบไม่ค่อยพูดอะไร จะครับอย่างเดียว แต่เรานี่ด่าเป็นชุดเลย คือมันจะกลับกันเลย ตอนที่เราไปอยู่ที่เกาะก็ต้องเจอกลั่นแกล้งจาก “เจ็ทสกี” กับ “ดอกอ้อ” ก็คือ พี่อุ้มกับพี่อ๋อม ซึ่งสองคนนี้จะชอบนายหัวเพิ่มเลยหาทางกลั่นแกล้งเรา คาแร็คเตอร์สองคนนี้เด่นชัดมากคือฉันร้าย ก็จะมีร้ายแบบมีมาด กับร้ายแบบชัดเจน เค้าก็จะคอยยุแยงตะแคงรั่ว คอยอิจฉาเรา คนดูก็ต้องลุ้นค่ะว่าสุดท้ายเรื่องราวจะลงเอยอย่างไร

เรื่องนี้ต้องเจอจัดหนักจากผู้กำกับ “หม่ำ จ๊กม๊ก” เป็นยังไงบ้าง
          โอ้โห ต้องเรียกว่าโดนปู้ยี่ปู้ยำดีกว่า (หัวเราะ) ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มถ่าย ต้องอยู่บนเรือ แล้วมันเหนื่อยมาก คือมันเริ่มจากการแต่งหน้าสวย แต่ต้องทำเลอะ อายไลเนอร์ดำ ทุกอย่างเปื้อน สภาพไม่มีที่ติเลย แล้วผมนี่ยุ่งไปหมด เราก็รู้สึกชอบที่มันไม่ต้องสวย ดูเลอะๆ พอเสร็จจะเริ่มถ่าย เราก็อ่านบทมาเตรียมพร้อม พอมาถึงตัดทิ้งเลย เอาแบบสดๆ แล้วก็เอาคำพูดของพี่หม่ำทุกคำเลย แล้วคำพูดแต่ละคำเนี่ยสุดๆ คือเราไม่เคยด่าคนมาก่อน คือคำแต่ละคำเราไม่เคยได้ยินบนโลกนี้ จำได้ว่าถ่ายเสร็จเนี่ยลงไปนอนแผ่เลย การด่าคนนี่มันไม่ง่ายเลยนะคะ แถมฉากบู๊ก็โดนทั้งถีบทั้งต่อย ต้องแต่งหน้าเป็นคนบ้า ต้องสวมบทเป็นทาส ขัดรองเท้า กรีดยาง โอ้โหสารพัด เหนื่อยมาก แต่สนุกมากค่ะ

มีติดคาแร็คเตอร์ของอู้อี้ไปนอกจอบ้างมั้ย
          ก็ไม่ถึงขนาดนั้น แต่ใครได้ดูเรื่องนี้อย่าเพิ่งกลัวกี้นะ คือการด่ามันต้องมีจังหวะ เหมือนการเล่นตลก ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ มาเล่นแล้วมันจะตลก คือมันตลกแน่นอน พอเราไม่เคย พี่หม่ำก็จะคอยมาสอนจังหวะ พอพี่หม่ำส่งมา เราก็ต้องมีจังหวะ คือมันมาจากสัญชาตญาณของการเล่น แล้วก็จังหวะโต้ตอบ แล้วเวลาที่เราไปเล่นหนัง หรือละครเรื่องอื่น กลายเป็นคนต่อปากต่อคำ มันก็ทำให้จังหวะชีวิตเราเร็วขึ้น

ฉากรักมหาโหดโคตรมหาฮาในเรื่องนี้
          ฉากตบจูบในเรื่องนี้เหมือนเรากำลังดูหนังกำลังภายใน คือตบแล้วกระเด็นไปไกลเลย มันไม่ใช่ตบจูบธรรมดาแล้วก็มีมุกต่อท้าย แต่มันจะอารมณ์เหมือนหนังพี่พันนาเลย มีใช้สลิง โดนเตะทะลุประตูบ้าน คือดูแล้วคนละอารมณ์กับในละครเลย

เข้าฉากเลิฟซีนกับพี่หม่ำเป็นยังไงบ้าง
          อยากให้ไปติดตามดูฉากนี้เพราะว่าฮากันมากๆ ส่วนพี่หม่ำเขาก็จะเป็นคนเขินอยู่ตลอดแล้ว แทบทุกฉาก คือมันไม่ได้เป็นฉากเลิฟซีนอะไรขนาดนั้น คือดูแล้วไม่ได้รู้สึกว่าอีโรติกอะไรขนาดนั้น ต้องบอกเลยว่าสาวิกาไม่เคยเล่นอะไรแบบนี้มาก่อน ต้องดูเบื้องหลังที่พี่หม่ำมาช่วย ต้องดูว่าช่วยยังไง อย่างฉากที่ต้องเลิฟซีน ก็เป็นเลิฟซีนแบบที่รุนแรงแต่ก็ตลก แล้วคำพูดในฉากเลิฟซีนไม่ใช่หวานแหววเหมือนทั่วไปนะ พี่หม่ำก็ช่วยดีไซน์คำพูดให้ ต้องลองดูกัน

การทำงานร่วมกับพี่หม่ำ
          พอได้มาร่วมงานกับพี่หม่ำจริงๆ ก็รู้สึกว่า เขาเป็นผู้กำกับที่ทำหนังให้ออกมากลมกล่อม คือมีทุกรสชาติ คือการที่เราจะทำหนังตลกกี้ว่ามันยากนะ จะทำไงให้คนดูขำกับเราไปตลอด แต่ตอนที่เล่นเรื่องนี้เราขำจริง คือแบบคิดได้ยังไง แล้วพี่หม่ำเป็นคนหัวไวมาก ในการแต่งเติมมุก แล้วมันดูธรรมชาติ ไม่ได้ดูเหมือนกำลังเล่นตลกให้ดู คือเราเล่นกันเป็นธรรมชาติจริงๆ แล้วพี่หม่ำจะสอนเราตลอดเวลาที่เราจะเล่น คือจะมาพูดๆ กรอกหูเราจนเข้าไปในหัวแล้วก็เล่นแบบที่ไม่ต้องคิด เวลาที่เราเล่นมันก็จะไหลลื่นไปเลย

สองดาวร้ายขวัญใจแม่ค้า “อ๋อม สกาวใจ” กับ “อุ้ม ลักขณา” ร่วมงานกันเป็นยังไงบ้าง
          ก็น่ารักทั้งคู่เลย ถ้าพูดถึงพี่อ๋อม ความสวยงามนี่ต้องยกให้เลย เรื่องนี้เขาจะแต่งตัวสวยเลย ชอบฉากที่พี่อ๋อมเป็นแบบให้นายเพิ่มวาดรูป นายเพิ่มก็วาดแล้วมีเจ็ทสกีอยู่ที่พื้น ชอบตอนสุดท้ายที่พี่อ๋อมมาดูรูป ต้องดูว่าเป็นยังไง แล้วก็หัวเราะคือแบบตลกมาก เพราะเราทำแบบนั้นไม่ได้ หัวเราะแบบมีอินเนอร์ พี่เขาเป็นคนน่ารัก เวลาพักกองก็ถ่ายรูปเล่นกัน ส่วนพี่อุ้มก็สนิทกันเพราะเล่นละครด้วยกันตอนนี้ ซึ่งอย่างพี่อุ้มเวลาที่พี่หม่ำให้เล่นอะไรเล่นหมด ถือว่าเป็นนักแสดงที่ดีมากๆ ในเรื่องเขาก็จะเป็นเซ็กซี่แบบน่ารัก กี้ว่าไม่มีใครเหมาะเท่าเขาแล้วสำหรับบทนี้

ต้องมีฉากตบกันกับสองตัวร้ายด้วย
          ก็เป็นฉากที่อู้อี้กำลังซักผ้าอยู่ แล้วสองคนนี้ก็เดินเข้ามาตบเรา เราก็โดนสาดน้ำเลย สาดดังฟุ่ม ทีนี้สองคนก็ไม่ไหวก็ตบกันเลย แต่การดีไซน์ท่าตบมันไม่ธรรมดา เป็นการตบที่เริ่มตั้งแต่หกโมงเช้าถึงหกโมงเย็น คืออารมณ์เหมือนหนังจีนกำลังภายใน ผมปลิว ลอยบนอากาศ แล้วก็มีผิดคิวเล็กน้อย เป็นจังหวะที่เราต้องลอยไปแล้วพี่อุ้มต้องรับ แต่รับไปรับมาข้อมือพี่อุ้มซ้นเลย เพราะว่ามันล้มแรงมาก แล้วมีอยู่ฉากนึงที่พี่อ๋อมต้องเตะท้องกี้ เสร็จแล้วมันก็ต้องหงายเงิบกันไปทั้งหมด แล้วพอพี่อุ้มล้ม ขาเหมือนเทกระจาดคือล้มกันไปหมดเลย ดูในมอนิเตอร์แล้วภาพสวยและฮามากๆ ต้องลองดูกัน

เสน่ห์ของทาสรักอสูร
          กี้ว่าอารมณ์หนังเรื่องนี้เข้าถึงง่ายกับคนดู มันเป็นอะไรที่หนังไทยชัดๆ เลยแบบนี้ เป็นเรื่องราวที่คนไทยเคยดู อย่างที่เราเคยดูจะเป็นพระเอกโหดดึงนางเอกใสซื่อมาขังไว้ แต่ในหนังจะกลับกัน ให้คนดูได้เห็นอะไรที่มันฮา คือพยายามหยิบอะไรที่คนเข้าใจและเอามาทำให้มีสีสันมากขึ้น คือด้วยไดอะล็อกต่างๆ กี้ว่ามันน่าสนใจ คือมันเป็นสไตล์ของพี่หม่ำจริงๆ แล้วมันดูน่าสนใจ
          ก็ขอฝากภาพยนตร์เรื่อง “ทาสรักอสูร” รับรองว่าเรื่องนี้ทั้งโหดทั้งฮา ครบรส ทั้งพี่หม่ำและตัวกี้ เรื่องนี้สุดๆ ไปเลย แล้วก็มีทั้งพี่อุ้มและพี่อ๋อม ก็ฝากไว้ด้วยค่ะ อย่าลืมไปดูกันนะคะ
« Last Edit: July 07, 2014, 03:31:28 PM by FB »

FB on July 14, 2014, 09:41:19 PM
การกลับมาอีกครั้งของดาวร้ายหน้าสวย ขวัญใจแม่ค้าทั่วไทย “อ๋อม-สกาวใจ พูนสวัสดิ์” ในภาพยนตร์รักหฤโหด โคตรมหาฮา “ทาสรักอสูร”




 
          บทบาท-คาแร็คเตอร์
          เรื่องนี้ก็จะรับบทเป็น “ดอกอ้อ” ก็จะเป็นผู้หญิงสวยเปริ้ยว จอมบงการ วางแผน ร้ายลึก ตัวดอกอ้อเนี่ย ก็เป็นแฟนเก่าของนายหัวเพิ่มที่เลิกรากันไป แล้วนายหัวเพิ่มก็หล่อมากเลย (หัวเราะ) เราก็พยายามช่วงชิงให้ได้เขากลับมาเหมือนเดิม ก็พยายามทำทุกอย่าง ทั้งออกกลอุบายกำจัดอู้อี้นางเอกแบบสารพัด จะร้ายยังไงต้องไปดูกัน

          สำหรับ “ทาสรักอสูร” ถือเป็นการกลับมามีผลงานทางจอเงินอีกครั้งในรอบยี่สิบปี
พูดได้ว่าเรื่องนี้เป็นการแสดงหนังแบบเต็มๆ ครั้งแรกมากกว่า หลังจากที่เคยโผล่นิดๆ ตอนช่วงเข้าวงการ ตั้งแต่ปี 37 โน่นเลย หลังจากนั้นเราก็มีงานทางสายละครมาตลอด ก็รู้สึกตื่นเต้นเหมือนเพิ่งเข้าวงการเลย (หัวเราะ)
          ตอนที่ได้ยินชื่อหนัง “ทาสรักอสูร” รู้สึกอย่างไรกับชื่อนี้
ตอนที่ได้ยินชื่อหนังครั้งแรก คิดว่าต้องเป็นแนวละครอาเปี๊ยกพิศาลหรือเปล่า แต่อ่านบทเสร็จ ขอบอกเลยว่าคนละอารมณ์กันเลยค่ะ ของพี่หม่ำเค้าจะมีครบรสทั้งดราม่า คอเมดี้ แต่ที่เซอร์ไพรส์ คือฉากแอ็คชั่นหรือฉากรุมตบนางเอก เราต้องมีขึ้นสลิง มีคิวบู๊ ก็อึ้งไปเลย แต่รับรองว่าภาพสวย คนดูได้เซอไพรส์แน่นอน
          ตัวละคร “ดอกอ้อ” ในเรื่องนี้ จะเป็นตัวร้ายแบบไหน
ตัวดอกอ้อก็จะลุคคุณนายๆ ดูมีภาษีเหนือกว่า เจ็ทสกี ตัวร้ายในเรื่องอีกตัว ซึ่งรับบทโดยน้องอุ้ม ลักขณา เพราะว่าดอกอ้อขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนเก่า ก็ต้องดูดีกว่าเป็นธรรมดา ดอกอ้อก็คอยวางแผน ไม่ให้อู้อี้มายุ่งกับนายหัวเพิ่ม แหมก็พระเอกของเราก็มีเสน่ห์เย้ายวนใจมาก เสน่ห์แรงสุดๆ เราก็พยายามยั่วยวนให้นายหัวเพิ่มมาสนใจ
          เห็นพี่หม่ำบอกว่ามีการดีไซน์เอกลักษณ์ให้ตัวละครนี้ด้วย
ก็ไม่รู้พี่หม่ำเห็นอะไรในตัวอ๋อมนะ อ๋อมอาจจะมีเอกลักษณ์ที่ดูตลกดี ก็ไม่ว่าจะทำอะไรก็หัวเราะตลอดเวลา หัวเราะแบบไร้สาเหตุ จริงๆ แล้วเราเป็นคนอารมณ์ดีแล้วก็ชอบหัวเราะอยู่แล้ว ในหนังเวลามีอะไรสมใจนึกก็หัวเราะไป ก็เหมือนคนบ้าดีค่ะ
          พูดถึงการทำงานร่วมกับ “หม่ำ จ๊กม๊ก”
แรกเริ่มมีน้องทีมงานติดต่อมา บอกว่าพี่หม่ำจะทำหนังเรื่องใหม่แล้วอยากให้เรามาเล่น เราก็ตกใจเพราะว่าปกติเราไม่ได้มาทางสายหนัง เราก็จริงหรอพี่หม่ำชวนมาเล่น คือใจตกลงรับเล่นไปแล้ว เราก็ยิ่งมั่นใจในพี่หม่ำด้วย เพราะว่าเราก็ดูหนังพี่หม่ำทุกเรื่องเลย เราก็ถามพี่หม่ำว่าคาแร็คเตอร์ดอกอ้อเป็นยังไง พอพี่หม่ำเล่าคร่าวๆ ให้ฟังก็อยากเล่นเลย
อ๋อมก็ชื่นชอบผลงานของพี่หม่ำอยู่แล้ว คือเราติดตามดูหนังทุกเรื่องที่พี่หม่ำทำ ดูการแสดง ดูมุกตลก ของพี่หม่ำมาตลอด ก็เคยได้เจอพี่หม่ำบ่อยแต่ก็ยังไม่เคยร่วมงานกันเลย พอได้มาร่วมงานก็รู้สึกประทับใจ พี่หม่ำเป็นคนเก่ง พี่หม่ำก็จะคอยแนะนำเวลาที่เราต้องเข้าฉาก ทั้งเรื่องจังหวะ มุกตลกตลอด สนุกดีค่ะที่ได้ร่วมงานกัน
          สาวสุดเซ็กซี่ “อุ้ม ลักขณา” ที่มาแท็คทีมกันร้ายกับเราในเรื่องนี้
ก็ถือเป็นครั้งแรกกับการได้มาร่วมงานกับอุ้ม ก็รู้สึกว่าน้องเขาเล่นเก่ง แล้วก็มีสปิริตสูงมาก ในเรื่องต้องเข้าฉากกันเราต้องเล่นเป็นคนไม่ถูกกัน เจ็ทสกีก็ไม่ชอบดอกอ้อ เพราะว่าเคยเป็นแฟนนายหัวเพิ่ม ดอกอ้อก็ไม่ชอบเจ็ทสกี เพราะกลัวมาแย่งนายหัวเพิ่ม ในเรื่องก็เป็นคู่กัดที่ต้องร่วมกันกำจัดอู้อี้ไปให้พ้นทาง อ๋อมว่าอุ้มดูร้ายแบบน่ารักๆ นะเรื่องนี้
          การทำงานร่วมกับ “พิ้งกี้ สาวิกา”
สำหรับพิ้งกี้ อ๋อมก็ไม่เคยร่วมงานกันมาก่อน ในเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องแรกที่ได้เล่นด้วยกัน แต่ก็รู้จักกันอยู่แล้ว การแสดงของน้องถือว่าสุดยอด แต่เรื่องนี้แอบสงสารน้องเพราะว่าต้องถูกกระทำ โดนทารุณ ทุกอย่าง ทั้งจากดอกอ้อ แล้วก็เจ็ทสกี แล้วก็จากพระเอกของเราด้วย ถือว่าพิ้งกี้โดนทารุณหนักมาก คือหมดสภาพนางเอก บางทีก็ต้องแต่งเป็นคนบ้า เราเห็นแล้วยกนิ้วให้เลยทุ่มเทให้กับบทนี้ทุกรูปแบบ
          ในเรื่อง “ทาสรักอสูร” มีชอบฉากไหนเป็นพิเศษ
จริงๆ ก็ชอบแทบทุกฉาก แต่ถ้าชอบก็คงจะเป็นฉากนี้เลย ฉากดอกอ้อกับเจ็ทสกีไปรุมตบอู้อี้ ที่ชอบเพราะว่าเป็น ฉากที่ต้องบู๊ เราเองก็ไม่เคยเล่น มีทั้งโหนสลิง มีทั้งโดนตบ คืออย่างร้ายเราก็เคยเล่นมาแล้ว ตลกก็พอได้บ้าง แต่บู๊เนี่ยไม่เคยเลยจริงๆ แล้วถ่ายกันทั้งวันถือว่าทรหดกันทุกฝ่าย แต่ภาพที่ออกมาคนดูต้องชอบแน่นอน
          คนดูจะได้เห็นอะไรใน “ทาสรักอสูร” หนังรักหฤโหด โคตรมหาฮา เรื่องนี้ของหม่ำ จ๊กม๊ก
ที่แน่ๆ เลยคือได้ความสนุก ความฮา ความตลก ในสไตล์ของพี่หม่ำ การันตีความสนุกอยู่แล้วค่ะ เห็นครบทุกรสแน่นอน และมีวิวสวยๆ ด้วย เวลาที่เราเล่นเสร็จแล้วไปเห็นภาพในมอนิเตอร์ โอ้โห คือพี่หม่ำใส่ใจทุกองค์ประกอบ คือไม่ปล่อยให้หลุดเลย อ๋อมว่าเนื้อเรื่องแบบนี้ถูกใจคนไทยแน่นอน เพิ่มความเป็นพี่หม่ำเข้าไปก็น่าดูมากๆ แล้ว ก็ขอฝากผลงานเรื่อง “ทาสรักอสูร” ด้วยนะคะ รับรองว่าสนุก ตลกครบรสแน่นอน ใครที่ชอบดูอ๋อมเล่นบทร้าย รับรองว่าถูกใจทุกท่านเหมือนเช่นเคย ฝากด้วยค่ะ

FB on July 14, 2014, 09:43:15 PM
“หม่ำ-พิ้งกี้” นำทีมเปิดตำนานรักหฤโหด โคตรหฤฮา พาคนดูฮาปากแตกรอบปฐมฤกษ์ “ทาสรักอสูร”






   
           ถึงเวลา “ฮาปากแตก” กันทั่วประเทศ สำหรับภาพยนตร์รักหฤโหด โคตรหฤฮา “ทาสรักอสูร” ของค่ายใบโพธิ์ “สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล” และ “บั้งไฟฟิล์ม” ผลงานการกำกับและนำแสดงโดย “หม่ำ จ๊กม๊ก-เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา” ซึ่งได้จัดรอบปฐมฤกษ์ให้ได้พิสูจน์ตำนานรักตบจูบครั้งใหม่ไปเป็นที่เรียบร้อย เมื่อวันที่ 8 กรกฏาคม ณ โรงภาพยนตร์ SF World ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ท่ามกลางสักขีพยานนับร้อยที่ร่วมกันเปิดตำนานยิ่งรักยิ่งแค้นในครั้งนี้

          ซึ่งงานเริ่มต้นด้วยมินิคอนเสิร์ตของ “ติ๊ก บั้งไฟ” และ “บูม บั้งไฟ” ที่ออกมาขับกล่อมบทเพลงประกอบภาพยนตร์ “ได้ยินไหม รักเธอ” และ “ทาสรักอสูร” ก่อนจะถึงเวลาเปิดตัวอสูรผู้ไร้หัวใจ “หม่ำ จ๊กม๊ก-เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา” และทาสรัก “พิ้งกี้-สาวิกา ไชยเดช” ที่ควงคู่กันมาเปิดงานอย่างโรแมนติกสุดๆ เรียกเสียงกรี๊ดจากสื่อมวลชนและแฟนๆ ไปตามระเบียบ ก่อนที่ถึงจะเวลาของสองตัวร้ายสุดเซ็กซี่อย่าง “อุ้ม-ลักขณา วัธนวงส์ศิริ” และ “อ๋อม-สกาวใจ พูนสวัสดิ์” ที่ออกมาโชว์ลีลายั่วยวน “นายหัวหม่ำ” ชนิดที่งัดไม้เด็ดออกมาแบบไม่มีใครยอมใคร พร้อมพูดคุยถึงเรื่องราวความสนุกของหนังเป็นการอุ่นเครื่อง ก่อนที่ทุกคนจะได้ไปสัมผัสความหฤโหดโคตรหฤฮากันในหนัง ปิดท้ายด้วยการถ่ายรูปรวมของผู้กำกับ, นักแสดงในเรื่อง และผู้บริหารที่มาร่วมเป็นเกียตริในครั้งนี้ นำโดย คุณเตือนใจ เตชะรัตนประเสริฐ รองประธานกรรมการบริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, คุณอัครพล เตชะรัตนประเสริฐ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท แฮปปี้โฮม เอนเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด และ คุณสุพัฒน์ งามวงศ์ไพบูลย์ Marketing Director บริษัท เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด

          “ทาสรักอสูร” จะเข้าฉายให้ได้ฮาปากแตก 10 กรกฏาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์